Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
มชฺฌิมนิกาโย
Majjhimanikāyo
มูลปณฺณาสปาฬิ
Mūlapaṇṇāsapāḷi
๑. มูลปริยายวโคฺค
1. Mūlapariyāyavaggo
๑. มูลปริยายสุตฺตํ
1. Mūlapariyāyasuttaṃ
๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อุกฺกฎฺฐายํ วิหรติ สุภควเน สาลราชมูเลฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สพฺพธมฺมมูลปริยายํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
1. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā ukkaṭṭhāyaṃ viharati subhagavane sālarājamūle. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘sabbadhammamūlapariyāyaṃ vo, bhikkhave, desessāmi. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha, bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
๒. ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธเมฺม อวินีโต, สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธเมฺม อวินีโต – ปถวิํ 1 ปถวิโต สญฺชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต สญฺญตฺวา ปถวิํ มญฺญติ, ปถวิยา มญฺญติ, ปถวิโต มญฺญติ, ปถวิํ เมติ มญฺญติ , ปถวิํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
2. ‘‘Idha, bhikkhave, assutavā puthujjano ariyānaṃ adassāvī ariyadhammassa akovido ariyadhamme avinīto, sappurisānaṃ adassāvī sappurisadhammassa akovido sappurisadhamme avinīto – pathaviṃ 2 pathavito sañjānāti; pathaviṃ pathavito saññatvā pathaviṃ maññati, pathaviyā maññati, pathavito maññati, pathaviṃ meti maññati , pathaviṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อาปํ อาปโต สญฺชานาติ; อาปํ อาปโต สญฺญตฺวา อาปํ มญฺญติ, อาปสฺมิํ มญฺญติ, อาปโต มญฺญติ, อาปํ เมติ มญฺญติ, อาปํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Āpaṃ āpato sañjānāti; āpaṃ āpato saññatvā āpaṃ maññati, āpasmiṃ maññati, āpato maññati, āpaṃ meti maññati, āpaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘เตชํ เตชโต สญฺชานาติ; เตชํ เตชโต สญฺญตฺวา เตชํ มญฺญติ, เตชสฺมิํ มญฺญติ, เตชโต มญฺญติ, เตชํ เมติ มญฺญติ, เตชํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Tejaṃ tejato sañjānāti; tejaṃ tejato saññatvā tejaṃ maññati, tejasmiṃ maññati, tejato maññati, tejaṃ meti maññati, tejaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘วายํ วายโต สญฺชานาติ; วายํ วายโต สญฺญตฺวา วายํ มญฺญติ, วายสฺมิํ มญฺญติ, วายโต มญฺญติ, วายํ เมติ มญฺญติ, วายํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Vāyaṃ vāyato sañjānāti; vāyaṃ vāyato saññatvā vāyaṃ maññati, vāyasmiṃ maññati, vāyato maññati, vāyaṃ meti maññati, vāyaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
๓. ‘‘ภูเต ภูตโต สญฺชานาติ; ภูเต ภูตโต สญฺญตฺวา ภูเต มญฺญติ, ภูเตสุ มญฺญติ, ภูตโต มญฺญติ, ภูเต เมติ มญฺญติ, ภูเต อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
3. ‘‘Bhūte bhūtato sañjānāti; bhūte bhūtato saññatvā bhūte maññati, bhūtesu maññati, bhūtato maññati, bhūte meti maññati, bhūte abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘เทเว เทวโต สญฺชานาติ; เทเว เทวโต สญฺญตฺวา เทเว มญฺญติ, เทเวสุ มญฺญติ, เทวโต มญฺญติ, เทเว เมติ มญฺญติ, เทเว อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Deve devato sañjānāti; deve devato saññatvā deve maññati, devesu maññati, devato maññati, deve meti maññati, deve abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘ปชาปติํ ปชาปติโต สญฺชานาติ; ปชาปติํ ปชาปติโต สญฺญตฺวา ปชาปติํ มญฺญติ, ปชาปติสฺมิํ มญฺญติ, ปชาปติโต มญฺญติ, ปชาปติํ เมติ มญฺญติ, ปชาปติํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Pajāpatiṃ pajāpatito sañjānāti; pajāpatiṃ pajāpatito saññatvā pajāpatiṃ maññati, pajāpatismiṃ maññati, pajāpatito maññati, pajāpatiṃ meti maññati, pajāpatiṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘พฺรหฺมํ พฺรหฺมโต สญฺชานาติ; พฺรหฺมํ พฺรหฺมโต สญฺญตฺวา พฺรหฺมํ มญฺญติ , พฺรหฺมสฺมิํ มญฺญติ, พฺรหฺมโต มญฺญติ, พฺรหฺมํ เมติ มญฺญติ, พฺรหฺมํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Brahmaṃ brahmato sañjānāti; brahmaṃ brahmato saññatvā brahmaṃ maññati , brahmasmiṃ maññati, brahmato maññati, brahmaṃ meti maññati, brahmaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อาภสฺสเร อาภสฺสรโต สญฺชานาติ; อาภสฺสเร อาภสฺสรโต สญฺญตฺวา อาภสฺสเร มญฺญติ, อาภสฺสเรสุ มญฺญติ, อาภสฺสรโต มญฺญติ, อาภสฺสเร เมติ มญฺญติ, อาภสฺสเร อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Ābhassare ābhassarato sañjānāti; ābhassare ābhassarato saññatvā ābhassare maññati, ābhassaresu maññati, ābhassarato maññati, ābhassare meti maññati, ābhassare abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘สุภกิเณฺห สุภกิณฺหโต สญฺชานาติ; สุภกิเณฺห สุภกิณฺหโต สญฺญตฺวา สุภกิเณฺห มญฺญติ, สุภกิเณฺหสุ มญฺญติ, สุภกิณฺหโต มญฺญติ, สุภกิเณฺห เมติ มญฺญติ, สุภกิเณฺห อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Subhakiṇhe subhakiṇhato sañjānāti; subhakiṇhe subhakiṇhato saññatvā subhakiṇhe maññati, subhakiṇhesu maññati, subhakiṇhato maññati, subhakiṇhe meti maññati, subhakiṇhe abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘เวหปฺผเล เวหปฺผลโต สญฺชานาติ; เวหปฺผเล เวหปฺผลโต สญฺญตฺวา เวหปฺผเล มญฺญติ, เวหปฺผเลสุ มญฺญติ, เวหปฺผลโต มญฺญติ, เวหปฺผเล เมติ มญฺญติ, เวหปฺผเล อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Vehapphale vehapphalato sañjānāti; vehapphale vehapphalato saññatvā vehapphale maññati, vehapphalesu maññati, vehapphalato maññati, vehapphale meti maññati, vehapphale abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อภิภุํ อภิภูโต สญฺชานาติ; อภิภุํ อภิภูโต สญฺญตฺวา อภิภุํ มญฺญติ, อภิภุสฺมิํ มญฺญติ, อภิภูโต มญฺญติ, อภิภุํ เมติ มญฺญติ, อภิภุํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Abhibhuṃ abhibhūto sañjānāti; abhibhuṃ abhibhūto saññatvā abhibhuṃ maññati, abhibhusmiṃ maññati, abhibhūto maññati, abhibhuṃ meti maññati, abhibhuṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
๔. ‘‘อากาสานญฺจายตนํ อากาสานญฺจายตนโต สญฺชานาติ; อากาสานญฺจายตนํ อากาสานญฺจายตนโต สญฺญตฺวา อากาสานญฺจายตนํ มญฺญติ, อากาสานญฺจายตนสฺมิํ มญฺญติ, อากาสานญฺจายตนโต มญฺญติ, อากาสานญฺจายตนํ เมติ มญฺญติ, อากาสานญฺจายตนํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
4. ‘‘Ākāsānañcāyatanaṃ ākāsānañcāyatanato sañjānāti; ākāsānañcāyatanaṃ ākāsānañcāyatanato saññatvā ākāsānañcāyatanaṃ maññati, ākāsānañcāyatanasmiṃ maññati, ākāsānañcāyatanato maññati, ākāsānañcāyatanaṃ meti maññati, ākāsānañcāyatanaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘วิญฺญาณญฺจายตนํ วิญฺญาณญฺจายตนโต สญฺชานาติ; วิญฺญาณญฺจายตนํ วิญฺญาณญฺจายตนโต สญฺญตฺวา วิญฺญาณญฺจายตนํ มญฺญติ, วิญฺญาณญฺจายตนสฺมิํ มญฺญติ, วิญฺญาณญฺจายตนโต มญฺญติ, วิญฺญาณญฺจายตนํ เมติ มญฺญติ, วิญฺญาณญฺจายตนํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Viññāṇañcāyatanaṃ viññāṇañcāyatanato sañjānāti; viññāṇañcāyatanaṃ viññāṇañcāyatanato saññatvā viññāṇañcāyatanaṃ maññati, viññāṇañcāyatanasmiṃ maññati, viññāṇañcāyatanato maññati, viññāṇañcāyatanaṃ meti maññati, viññāṇañcāyatanaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อากิญฺจญฺญายตนํ อากิญฺจญฺญายตนโต สญฺชานาติ; อากิญฺจญฺญายตนํ อากิญฺจญฺญายตนโต สญฺญตฺวา อากิญฺจญฺญายตนํ มญฺญติ, อากิญฺจญฺญายตนสฺมิํ มญฺญติ, อากิญฺจญฺญายตนโต มญฺญติ, อากิญฺจญฺญายตนํ เมติ มญฺญติ, อากิญฺจญฺญายตนํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Ākiñcaññāyatanaṃ ākiñcaññāyatanato sañjānāti; ākiñcaññāyatanaṃ ākiñcaññāyatanato saññatvā ākiñcaññāyatanaṃ maññati, ākiñcaññāyatanasmiṃ maññati, ākiñcaññāyatanato maññati, ākiñcaññāyatanaṃ meti maññati, ākiñcaññāyatanaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ เนวสญฺญานาสญฺญายตนโต สญฺชานาติ; เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ เนวสญฺญานาสญฺญายตนโต สญฺญตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ มญฺญติ, เนวสญฺญานาสญฺญายตนสฺมิํ มญฺญติ, เนวสญฺญานาสญฺญายตนโต มญฺญติ, เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ เมติ มญฺญติ, เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Nevasaññānāsaññāyatanaṃ nevasaññānāsaññāyatanato sañjānāti; nevasaññānāsaññāyatanaṃ nevasaññānāsaññāyatanato saññatvā nevasaññānāsaññāyatanaṃ maññati, nevasaññānāsaññāyatanasmiṃ maññati, nevasaññānāsaññāyatanato maññati, nevasaññānāsaññāyatanaṃ meti maññati, nevasaññānāsaññāyatanaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
๕. ‘‘ทิฎฺฐํ ทิฎฺฐโต สญฺชานาติ; ทิฎฺฐํ ทิฎฺฐโต สญฺญตฺวา ทิฎฺฐํ มญฺญติ, ทิฎฺฐสฺมิํ มญฺญติ, ทิฎฺฐโต มญฺญติ, ทิฎฺฐํ เมติ มญฺญติ, ทิฎฺฐํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
5. ‘‘Diṭṭhaṃ diṭṭhato sañjānāti; diṭṭhaṃ diṭṭhato saññatvā diṭṭhaṃ maññati, diṭṭhasmiṃ maññati, diṭṭhato maññati, diṭṭhaṃ meti maññati, diṭṭhaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘สุตํ สุตโต สญฺชานาติ; สุตํ สุตโต สญฺญตฺวา สุตํ มญฺญติ, สุตสฺมิํ มญฺญติ, สุตโต มญฺญติ, สุตํ เมติ มญฺญติ, สุตํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Sutaṃ sutato sañjānāti; sutaṃ sutato saññatvā sutaṃ maññati, sutasmiṃ maññati, sutato maññati, sutaṃ meti maññati, sutaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘มุตํ มุตโต สญฺชานาติ; มุตํ มุตโต สญฺญตฺวา มุตํ มญฺญติ, มุตสฺมิํ มญฺญติ, มุตโต มญฺญติ, มุตํ เมติ มญฺญติ, มุตํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Mutaṃ mutato sañjānāti; mutaṃ mutato saññatvā mutaṃ maññati, mutasmiṃ maññati, mutato maññati, mutaṃ meti maññati, mutaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘วิญฺญาตํ วิญฺญาตโต สญฺชานาติ; วิญฺญาตํ วิญฺญาตโต สญฺญตฺวา วิญฺญาตํ มญฺญติ, วิญฺญาตสฺมิํ มญฺญติ, วิญฺญาตโต มญฺญติ, วิญฺญาตํ เมติ มญฺญติ, วิญฺญาตํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Viññātaṃ viññātato sañjānāti; viññātaṃ viññātato saññatvā viññātaṃ maññati, viññātasmiṃ maññati, viññātato maññati, viññātaṃ meti maññati, viññātaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
๖. ‘‘เอกตฺตํ เอกตฺตโต สญฺชานาติ; เอกตฺตํ เอกตฺตโต สญฺญตฺวา เอกตฺตํ มญฺญติ, เอกตฺตสฺมิํ มญฺญติ, เอกตฺตโต มญฺญติ, เอกตฺตํ เมติ มญฺญติ, เอกตฺตํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
6. ‘‘Ekattaṃ ekattato sañjānāti; ekattaṃ ekattato saññatvā ekattaṃ maññati, ekattasmiṃ maññati, ekattato maññati, ekattaṃ meti maññati, ekattaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘นานตฺตํ นานตฺตโต สญฺชานาติ; นานตฺตํ นานตฺตโต สญฺญตฺวา นานตฺตํ มญฺญติ, นานตฺตสฺมิํ มญฺญติ, นานตฺตโต มญฺญติ, นานตฺตํ เมติ มญฺญติ, นานตฺตํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Nānattaṃ nānattato sañjānāti; nānattaṃ nānattato saññatvā nānattaṃ maññati, nānattasmiṃ maññati, nānattato maññati, nānattaṃ meti maññati, nānattaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘สพฺพํ สพฺพโต สญฺชานาติ; สพฺพํ สพฺพโต สญฺญตฺวา สพฺพํ มญฺญติ, สพฺพสฺมิํ มญฺญติ, สพฺพโต มญฺญติ, สพฺพํ เมติ มญฺญติ, สพฺพํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Sabbaṃ sabbato sañjānāti; sabbaṃ sabbato saññatvā sabbaṃ maññati, sabbasmiṃ maññati, sabbato maññati, sabbaṃ meti maññati, sabbaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานโต สญฺชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต สญฺญตฺวา นิพฺพานํ มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ มญฺญติ , นิพฺพานโต มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ มญฺญติ, นิพฺพานํ อภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘อปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Nibbānaṃ nibbānato sañjānāti; nibbānaṃ nibbānato saññatvā nibbānaṃ maññati, nibbānasmiṃ maññati , nibbānato maññati, nibbānaṃ meti maññati, nibbānaṃ abhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Apariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
ปุถุชฺชนวเสน ปฐมนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Puthujjanavasena paṭhamanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๗. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เสโกฺข 3 อปฺปตฺตมานโส อนุตฺตรํ โยคเกฺขมํ ปตฺถยมาโน วิหรติ, โสปิ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย 4 ปถวิํ มา มญฺญิ 5, ปถวิยา มา มญฺญิ, ปถวิโต มา มญฺญิ, ปถวิํ เมติ มา มญฺญิ, ปถวิํ มาภินนฺทิ 6ฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริเญฺญยฺยํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
7. ‘‘Yopi so, bhikkhave, bhikkhu sekkho 7 appattamānaso anuttaraṃ yogakkhemaṃ patthayamāno viharati, sopi pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya 8 pathaviṃ mā maññi 9, pathaviyā mā maññi, pathavito mā maññi, pathaviṃ meti mā maññi, pathaviṃ mābhinandi 10. Taṃ kissa hetu? ‘Pariññeyyaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ… เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ มา มญฺญิ, นิพฺพานสฺมิํ มา มญฺญิ, นิพฺพานโต มา มญฺญิ, นิพฺพานํ เมติ มา มญฺญิ, นิพฺพานํ มาภินนฺทิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริเญฺญยฺยํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ… nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ mā maññi, nibbānasmiṃ mā maññi, nibbānato mā maññi, nibbānaṃ meti mā maññi, nibbānaṃ mābhinandi. Taṃ kissa hetu? ‘Pariññeyyaṃ tassā’ti vadāmi.
๘. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, โสปิ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
8. ‘‘Yopi so, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto, sopi pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Pariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ… เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริญฺญาตํ ตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ… nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Pariññātaṃ tassā’ti vadāmi.
ขีณาสววเสน ตติยนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Khīṇāsavavasena tatiyanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๙. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, โสปิ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา ราคสฺส, วีตราคตฺตาฯ
9. ‘‘Yopi so, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto, sopi pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā rāgassa, vītarāgattā.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ … เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ … ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา ราคสฺส, วีตราคตฺตาฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ … nevasaññānāsaññāyatanaṃ … diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā rāgassa, vītarāgattā.
ขีณาสววเสน จตุตฺถนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Khīṇāsavavasena catutthanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๑๐. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, โสปิ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โทสสฺส, วีตโทสตฺตาฯ
10. ‘‘Yopi so, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto, sopi pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā dosassa, vītadosattā.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ… เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โทสสฺส, วีตโทสตฺตาฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ… nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā dosassa, vītadosattā.
ขีณาสววเสน ปญฺจมนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Khīṇāsavavasena pañcamanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๑๑. ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺต, โสปิ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โมหสฺส, วีตโมหตฺตาฯ
11. ‘‘Yopi so, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto, sopi pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā mohassa, vītamohattā.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ … เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ขยา โมหสฺส, วีตโมหตฺตาฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ … nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? Khayā mohassa, vītamohattā.
ขีณาสววเสน ฉฎฺฐนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Khīṇāsavavasena chaṭṭhanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๑๒. ‘‘ตถาคโตปิ, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติ ฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริญฺญาตนฺตํ ตถาคตสฺสา’ติ วทามิฯ
12. ‘‘Tathāgatopi, bhikkhave, arahaṃ sammāsambuddho pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati . Taṃ kissa hetu? ‘Pariññātantaṃ tathāgatassā’ti vadāmi.
‘‘อาปํ…เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ … อากิญฺจญฺญายตนํ… เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘ปริญฺญาตนฺตํ ตถาคตสฺสา’ติ วทามิฯ
‘‘Āpaṃ…pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ … ākiñcaññāyatanaṃ… nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Pariññātantaṃ tathāgatassā’ti vadāmi.
ตถาคตวเสน สตฺตมนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Tathāgatavasena sattamanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
๑๓. ‘‘ตถาคโตปิ , ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ปถวิํ ปถวิโต อภิชานาติ; ปถวิํ ปถวิโต อภิญฺญาย ปถวิํ น มญฺญติ, ปถวิยา น มญฺญติ, ปถวิโต น มญฺญติ, ปถวิํ เมติ น มญฺญติ, ปถวิํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘นนฺที 13 ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ‘ภวา ชาติ ภูตสฺส ชรามรณ’นฺติฯ ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘ตถาคโต สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฎินิสฺสคฺคา อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ วทามิฯ
13. ‘‘Tathāgatopi , bhikkhave, arahaṃ sammāsambuddho pathaviṃ pathavito abhijānāti; pathaviṃ pathavito abhiññāya pathaviṃ na maññati, pathaviyā na maññati, pathavito na maññati, pathaviṃ meti na maññati, pathaviṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Nandī 14 dukkhassa mūla’nti – iti viditvā ‘bhavā jāti bhūtassa jarāmaraṇa’nti. Tasmātiha, bhikkhave, ‘tathāgato sabbaso taṇhānaṃ khayā virāgā nirodhā cāgā paṭinissaggā anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti vadāmi.
‘‘อาปํ …เป.… เตชํ… วายํ… ภูเต… เทเว… ปชาปติํ… พฺรหฺมํ… อาภสฺสเร… สุภกิเณฺห… เวหปฺผเล… อภิภุํ… อากาสานญฺจายตนํ… วิญฺญาณญฺจายตนํ… อากิญฺจญฺญายตนํ… เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ… ทิฎฺฐํ… สุตํ… มุตํ… วิญฺญาตํ… เอกตฺตํ… นานตฺตํ… สพฺพํ… นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิชานาติ; นิพฺพานํ นิพฺพานโต อภิญฺญาย นิพฺพานํ น มญฺญติ, นิพฺพานสฺมิํ น มญฺญติ, นิพฺพานโต น มญฺญติ, นิพฺพานํ เมติ น มญฺญติ, นิพฺพานํ นาภินนฺทติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’นฺติ – อิติ วิทิตฺวา ‘ภวา ชาติ ภูตสฺส ชรามรณ’นฺติฯ ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘ตถาคโต สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา วิราคา นิโรธา จาคา ปฎินิสฺสคฺคา อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’ติ วทามี’’ติฯ
‘‘Āpaṃ …pe… tejaṃ… vāyaṃ… bhūte… deve… pajāpatiṃ… brahmaṃ… ābhassare… subhakiṇhe… vehapphale… abhibhuṃ… ākāsānañcāyatanaṃ… viññāṇañcāyatanaṃ… ākiñcaññāyatanaṃ… nevasaññānāsaññāyatanaṃ… diṭṭhaṃ… sutaṃ… mutaṃ… viññātaṃ… ekattaṃ… nānattaṃ… sabbaṃ… nibbānaṃ nibbānato abhijānāti; nibbānaṃ nibbānato abhiññāya nibbānaṃ na maññati, nibbānasmiṃ na maññati, nibbānato na maññati, nibbānaṃ meti na maññati, nibbānaṃ nābhinandati. Taṃ kissa hetu? ‘Nandī dukkhassa mūla’nti – iti viditvā ‘bhavā jāti bhūtassa jarāmaraṇa’nti. Tasmātiha, bhikkhave, ‘tathāgato sabbaso taṇhānaṃ khayā virāgā nirodhā cāgā paṭinissaggā anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’ti vadāmī’’ti.
ตถาคตวเสน อฎฺฐมนยภูมิปริเจฺฉโท นิฎฺฐิโตฯ
Tathāgatavasena aṭṭhamanayabhūmiparicchedo niṭṭhito.
อิทมโวจ ภควาฯ น เต ภิกฺขู 15 ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
Idamavoca bhagavā. Na te bhikkhū 16 bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.
มูลปริยายสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Mūlapariyāyasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา • 1. Mūlapariyāyasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา • 1. Mūlapariyāyasuttavaṇṇanā