Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
๙. มูลายอวิสุทฺธินวกํ
9. Mūlāyaavisuddhinavakaṃ
๑๘๒. ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
182. ‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyo appaṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; adhammena mānattaṃ deti, adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyo paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; adhammena mānattaṃ deti, adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ, อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyo paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti, adhammena mānattaṃ deti, adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ อปริมาณาโย อปฺปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโย…เป.… อปริมาณาโย ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิ …เป.… ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโย ฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติ ฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati aparimāṇāyo appaṭicchannāyo…pe… aparimāṇāyo paṭicchannāyo…pe… aparimāṇāyo paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi …pe… parimāṇāyopi aparimāṇāyopi appaṭicchannāyo . So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati . Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; adhammena mānattaṃ deti, adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน, ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ, อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyo. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena, dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; adhammena mānattaṃ deti, adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณมฺปิ อปริมาณมฺปิ, เอกนามมฺปิ นานานามมฺปิ, สภาคมฺปิ วิสภาคมฺปิ, ววตฺถิตมฺปิ สมฺภินฺนมฺปิฯ โส สงฺฆํ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ ยาจติฯ ตสฺส สโงฺฆ ตาสํ อาปตฺตีนํ สโมธานปริวาสํ เทติฯ โส ปริวสโนฺต อนฺตรา สมฺพหุลา สงฺฆาทิเสสา อาปตฺติโย อาปชฺชติ ปริมาณาโยปิ อปริมาณาโยปิ ปฎิจฺฉนฺนาโยปิ อปฺปฎิจฺฉนฺนาโยปิฯ โส สงฺฆํ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลายปฎิกสฺสนํ ยาจติฯ ตํ สโงฺฆ อนฺตราอาปตฺตีนํ มูลาย ปฎิกสฺสติ ธมฺมิเกน กเมฺมน อกุเปฺปน ฐานารเหน; ธเมฺมน สโมธานปริวาสํ เทติ; อธเมฺมน มานตฺตํ เทติ; อธเมฺมน อเพฺภติฯ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อวิสุโทฺธ ตาหิ อาปตฺตีหิฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇampi aparimāṇampi, ekanāmampi nānānāmampi, sabhāgampi visabhāgampi, vavatthitampi sambhinnampi. So saṅghaṃ tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ yācati. Tassa saṅgho tāsaṃ āpattīnaṃ samodhānaparivāsaṃ deti. So parivasanto antarā sambahulā saṅghādisesā āpattiyo āpajjati parimāṇāyopi aparimāṇāyopi paṭicchannāyopi appaṭicchannāyopi. So saṅghaṃ antarāāpattīnaṃ mūlāyapaṭikassanaṃ yācati. Taṃ saṅgho antarāāpattīnaṃ mūlāya paṭikassati dhammikena kammena akuppena ṭhānārahena; dhammena samodhānaparivāsaṃ deti; adhammena mānattaṃ deti; adhammena abbheti. So, bhikkhave, bhikkhu avisuddho tāhi āpattīhi.
Footnotes:
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / เทฺวภิกฺขุวารเอกาทสกาทิกถาวณฺณนา • Dvebhikkhuvāraekādasakādikathāvaṇṇanā