Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    อภิธมฺมปิฎเก

    Abhidhammapiṭake

    ยมกปฺปกรณ-อฎฺฐกถา

    Yamakappakaraṇa-aṭṭhakathā

    สเงฺขเปเนว เทวานํ, เทวเทโว สุราลเย;

    Saṅkhepeneva devānaṃ, devadevo surālaye;

    กถาวตฺถุปฺปกรณํ, เทสยิตฺวา รณญฺชโหฯ

    Kathāvatthuppakaraṇaṃ, desayitvā raṇañjaho.

    ยมสฺส วิสยาตีโต, นานายมกมณฺฑิตํ;

    Yamassa visayātīto, nānāyamakamaṇḍitaṃ;

    อภิธมฺมปฺปกรณํ, ฉฎฺฐํ ฉฎฺฐาน เทสโกฯ

    Abhidhammappakaraṇaṃ, chaṭṭhaṃ chaṭṭhāna desako.

    ยมกํ อยมาวตฺต-นีลามลตนูรุโห;

    Yamakaṃ ayamāvatta-nīlāmalatanūruho;

    ยํ เทสยิ อนุปฺปโตฺต, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;

    Yaṃ desayi anuppatto, tassa saṃvaṇṇanākkamo;

    อิทานิ ยสฺมา ตสฺมาสฺส, โหติ สํวณฺณนา อยนฺติฯ

    Idāni yasmā tasmāssa, hoti saṃvaṇṇanā ayanti.

    ๑. มูลยมกํ

    1. Mūlayamakaṃ

    อุเทฺทสวารวณฺณนา

    Uddesavāravaṇṇanā

    . มูลยมกํ , ขนฺธยมกํ, อายตนยมกํ, ธาตุยมกํ, สจฺจยมกํ, สงฺขารยมกํ, อนุสยยมกํ, จิตฺตยมกํ, ธมฺมยมกํ, อินฺทฺริยยมกนฺติ อิเมสํ ทสนฺนํ ยมกานํ วเสน อิทํ ปกรณํ ทสวิเธน วิภตฺตนฺติ หิ วุตฺตํฯ ตตฺถ เยสํ ทสนฺนํ ยมกานํ วเสน อิทํ ปกรณํ ทสวิเธน วิภตฺตํ, เตสเญฺจว อิมสฺส จ ปกรณสฺส นามโตฺถ ตาว เอวํ เวทิตโพฺพ – เกนเฎฺฐน ยมกนฺติ? ยุคฬเฎฺฐนฯ ยุคฬญฺหิ ยมกนฺติ วุจฺจติ – ‘ยมกปาฎิหาริยํ, ยมกสาลา’ติอาทีสุ วิยฯ อิติ ยุคฬสงฺขาตานํ ยมกานํ วเสน เทสิตตฺตา อิเมสุ ทสสุ เอเกกํ ยมกํ นามฯ อิเมสํ ปน ยมกานํ สมูหภาวโต สพฺพเมฺปตํ ปกรณํ ยมกนฺติ เวทิตพฺพํฯ

    1. Mūlayamakaṃ , khandhayamakaṃ, āyatanayamakaṃ, dhātuyamakaṃ, saccayamakaṃ, saṅkhārayamakaṃ, anusayayamakaṃ, cittayamakaṃ, dhammayamakaṃ, indriyayamakanti imesaṃ dasannaṃ yamakānaṃ vasena idaṃ pakaraṇaṃ dasavidhena vibhattanti hi vuttaṃ. Tattha yesaṃ dasannaṃ yamakānaṃ vasena idaṃ pakaraṇaṃ dasavidhena vibhattaṃ, tesañceva imassa ca pakaraṇassa nāmattho tāva evaṃ veditabbo – kenaṭṭhena yamakanti? Yugaḷaṭṭhena. Yugaḷañhi yamakanti vuccati – ‘yamakapāṭihāriyaṃ, yamakasālā’tiādīsu viya. Iti yugaḷasaṅkhātānaṃ yamakānaṃ vasena desitattā imesu dasasu ekekaṃ yamakaṃ nāma. Imesaṃ pana yamakānaṃ samūhabhāvato sabbampetaṃ pakaraṇaṃ yamakanti veditabbaṃ.

    ตตฺถ มูลวเสน ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กตฺวา เทสิตตฺตา ทสนฺนํ ตาว สพฺพปฐมํ มูลยมกนฺติ วุตฺตํฯ ตสฺส อุเทฺทสวาโร, นิเทฺทสวาโรติ เทฺว วารา โหนฺติ ฯ เตสุ อุทฺทิฎฺฐานุกฺกเมน นิทฺทิสิตพฺพตฺตา อุเทฺทสวาโร ปฐโมฯ ตสฺส เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต กุสลมูลา; เย วา ปน กุสลมูลา, สเพฺพ เต ธมฺมา กุสลาติ อิทํ ยมกํ อาทิ ฯ ตสฺส กุสลากุสลมูลสงฺขาตานํ ทฺวินฺนํ อตฺถานํ วเสน อตฺถยมกนฺติ วา, เตสเญฺญว อตฺถานํ วเสน อนุโลมปฎิโลมโต ปวตฺตปาฬิธมฺมวเสน ธมฺมยมกนฺติ วา, อนุโลมปฎิโลมโต ปวตฺตปุจฺฉาวเสน ปุจฺฉายมกนฺติ วา ติธา ยมกภาโว เวทิตโพฺพฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ

    Tattha mūlavasena pucchāvissajjanaṃ katvā desitattā dasannaṃ tāva sabbapaṭhamaṃ mūlayamakanti vuttaṃ. Tassa uddesavāro, niddesavāroti dve vārā honti . Tesu uddiṭṭhānukkamena niddisitabbattā uddesavāro paṭhamo. Tassa ye keci kusalā dhammā, sabbe te kusalamūlā; ye vā pana kusalamūlā, sabbe te dhammā kusalāti idaṃ yamakaṃ ādi . Tassa kusalākusalamūlasaṅkhātānaṃ dvinnaṃ atthānaṃ vasena atthayamakanti vā, tesaññeva atthānaṃ vasena anulomapaṭilomato pavattapāḷidhammavasena dhammayamakanti vā, anulomapaṭilomato pavattapucchāvasena pucchāyamakanti vā tidhā yamakabhāvo veditabbo. Sesesupi eseva nayo.

    อิทานิ อิเมสํ ยมกานํ วเสน เทสิเต อิมสฺมิํ มูลยมเก อุเทฺทสวารสฺส ตาว นยยมกปุจฺฉาอตฺถวารปฺปเภทวเสน ปาฬิววตฺถานเมว เอวํ เวทิตพฺพํ – กุสลตฺติกมาติกาย หิ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ อิทํ อาทิปทํ นิสฺสาย มูลนโย, มูลมูลนโย, มูลกนโย, มูลมูลกนโยติ อิเม จตฺตาโร นยา โหนฺติฯ เตสํ เอเกกสฺมิํ นเย มูลยมกํ, เอกมูลยมกํ, อญฺญมญฺญมูลยมกนฺติ ตีณิ ตีณิ ยมกานิฯ เอวํ จตูสุ นเยสุ ทฺวาทส ยมกานิ, เอเกกสฺมิํ ยมเก อนุโลมปฎิโลมวเสน เทฺว เทฺว ปุจฺฉาติ จตุวีสติ ปุจฺฉา, เอเกกาย ปุจฺฉาย สนฺนิฎฺฐานสํสยวเสน เทฺว เทฺว อตฺถาติ อฎฺฐจตฺตาลีส อตฺถาติฯ

    Idāni imesaṃ yamakānaṃ vasena desite imasmiṃ mūlayamake uddesavārassa tāva nayayamakapucchāatthavārappabhedavasena pāḷivavatthānameva evaṃ veditabbaṃ – kusalattikamātikāya hi ‘kusalā dhammā’ti idaṃ ādipadaṃ nissāya mūlanayo, mūlamūlanayo, mūlakanayo, mūlamūlakanayoti ime cattāro nayā honti. Tesaṃ ekekasmiṃ naye mūlayamakaṃ, ekamūlayamakaṃ, aññamaññamūlayamakanti tīṇi tīṇi yamakāni. Evaṃ catūsu nayesu dvādasa yamakāni, ekekasmiṃ yamake anulomapaṭilomavasena dve dve pucchāti catuvīsati pucchā, ekekāya pucchāya sanniṭṭhānasaṃsayavasena dve dve atthāti aṭṭhacattālīsa atthāti.

    ตตฺถ เย เกจิ กุสลา ธมฺมาติ กุสเลสุ ‘‘กุสลา นุ โข, น กุสลา นุ โข’’ติ สเนฺทหาภาวโต อิมสฺมิํ ปเท สนฺนิฎฺฐานโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สเพฺพ เต กุสลมูลาติ ‘‘สเพฺพ เต กุสลา ธมฺมา กุสลมูลา นุ โข, นนุ โข’’ติ เอวํ วิมติวเสน ปุจฺฉิตตฺตา อิมสฺมิํ ปเท สํสยโตฺถ เวทิตโพฺพฯ โส จ โข เวเนยฺยานํ สํสยฎฺฐาเน สํสยทีปนตฺถํ วุโตฺต, ตถาคตสฺส ปน สํสโย นาม นตฺถิฯ อิโต ปเรสุปิ ปุจฺฉาปเทสุ เอเสว นโยฯ

    Tattha ye keci kusalā dhammāti kusalesu ‘‘kusalā nu kho, na kusalā nu kho’’ti sandehābhāvato imasmiṃ pade sanniṭṭhānattho veditabbo. Sabbe te kusalamūlāti ‘‘sabbe te kusalā dhammā kusalamūlā nu kho, nanu kho’’ti evaṃ vimativasena pucchitattā imasmiṃ pade saṃsayattho veditabbo. So ca kho veneyyānaṃ saṃsayaṭṭhāne saṃsayadīpanatthaṃ vutto, tathāgatassa pana saṃsayo nāma natthi. Ito paresupi pucchāpadesu eseva nayo.

    ยถา จ กุสลปทํ นิสฺสาย อิเม จตฺตาโร นยา, เอเกกสฺมิํ นเย ติณฺณํ ติณฺณํ ยมกานํ วเสน ทฺวาทส ยมกานิ, เอเกกสฺมิํ ยมเก ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วเสน จตุวีสติ ปุจฺฉา; เอเกกาย ปุจฺฉาย ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ อตฺถานํ วเสน อฎฺฐจตฺตาลีส อตฺถา จ โหนฺติฯ อกุสลปทํ นิสฺสายปิ ตเถวฯ อพฺยากตปทํ นิสฺสายปิ ตเถวฯ ตีณิปิ ปทานิ เอกโต กตฺวา นิทฺทิฎฺฐํ นามปทํ นิสฺสายปิ ตเถวาติ กุสลตฺติกมาติกาย จตูสุ ปเทสุ สเพฺพปิ โสฬส นยา, อฎฺฐจตฺตาลีส ยมกานิ , ฉนฺนวุติ ปุจฺฉา, เทฺวนวุติสตํ อตฺถา จ อุเทฺทสวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ เอตฺตาวตา มูลวาโร นาม ปฐมํ อุทฺทิโฎฺฐ โหติฯ

    Yathā ca kusalapadaṃ nissāya ime cattāro nayā, ekekasmiṃ naye tiṇṇaṃ tiṇṇaṃ yamakānaṃ vasena dvādasa yamakāni, ekekasmiṃ yamake dvinnaṃ dvinnaṃ pucchānaṃ vasena catuvīsati pucchā; ekekāya pucchāya dvinnaṃ dvinnaṃ atthānaṃ vasena aṭṭhacattālīsa atthā ca honti. Akusalapadaṃ nissāyapi tatheva. Abyākatapadaṃ nissāyapi tatheva. Tīṇipi padāni ekato katvā niddiṭṭhaṃ nāmapadaṃ nissāyapi tathevāti kusalattikamātikāya catūsu padesu sabbepi soḷasa nayā, aṭṭhacattālīsa yamakāni , channavuti pucchā, dvenavutisataṃ atthā ca uddesavasena vuttāti veditabbā. Ettāvatā mūlavāro nāma paṭhamaṃ uddiṭṭho hoti.

    ตโต ปรํ เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สเพฺพ เต กุสลเหตูติอาทโย ตเสฺสว มูลวารสฺส เววจนวเสน นว วารา อุทฺทิฎฺฐาฯ อิติ มูลวาโร, เหตุวาโร, นิทานวาโร, สมฺภววาโร, ปภววาโร, สมุฎฺฐานวาโร, อาหารวาโร, อารมฺมณวาโร, ปจฺจยวาโร, สมุทยวาโรติ สเพฺพปิ ทส วารา โหนฺติฯ ตตฺถ มูลวาเร อาคตปริเจฺฉเทเนว เสเสสุปิ นยาทโย เวทิตพฺพาติ สเพฺพสุปิ ทสสุ วาเรสุ สฎฺฐิสตนยา, อสีติอธิกานิ จตฺตาริ ยมกสตานิ, สฎฺฐิอธิกานิ นวปุจฺฉาสตานิ, วีสาธิกานิ เอกูนวีสติ อตฺถสตานิ จ อุทฺทิฎฺฐานีติ เวทิตพฺพานิฯ เอวํ ตาว อุเทฺทสวาเร นยยมกปุจฺฉาอตฺถวารปฺปเภทวเสน ปาฬิววตฺถานเมว เวทิตพฺพํฯ

    Tato paraṃ ye keci kusalā dhammā, sabbe te kusalahetūtiādayo tasseva mūlavārassa vevacanavasena nava vārā uddiṭṭhā. Iti mūlavāro, hetuvāro, nidānavāro, sambhavavāro, pabhavavāro, samuṭṭhānavāro, āhāravāro, ārammaṇavāro, paccayavāro, samudayavāroti sabbepi dasa vārā honti. Tattha mūlavāre āgataparicchedeneva sesesupi nayādayo veditabbāti sabbesupi dasasu vāresu saṭṭhisatanayā, asītiadhikāni cattāri yamakasatāni, saṭṭhiadhikāni navapucchāsatāni, vīsādhikāni ekūnavīsati atthasatāni ca uddiṭṭhānīti veditabbāni. Evaṃ tāva uddesavāre nayayamakapucchāatthavārappabhedavasena pāḷivavatthānameva veditabbaṃ.

    มูลํ เหตุ นิทานญฺจาติ คาถา ทสนฺนมฺปิ วารานํ อุทฺทานคาถา นามฯ ตตฺถ มูลาทีนิ สพฺพานิปิ การณเววจนาเนวฯ การณญฺหิ ปติฎฺฐานเฎฺฐน มูลํฯ อตฺตโน ผลนิปฺผาทนตฺถํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุฯ ‘หนฺท, นํ คณฺหาถา’ติ ทเสฺสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํฯ เอตสฺมา ผลํ สโมฺภตีติ สมฺภโวฯ ปภวตีติ ปภโวฯ สมุฎฺฐาติ เอตฺถ ผลํ, เอเตน วา สมุฎฺฐาตีติ สมุฎฺฐานํฯ อตฺตโน ผลํ อาหรตีติ อาหาโรฯ อปฺปฎิกฺขิปิตเพฺพน อตฺตโน ผเลน อาลมฺพิยตีติ อาลมฺพณํฯ เอตํ ปฎิจฺจ อปฺปฎิกฺขิปิตฺวา ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโยฯ เอตสฺมา ผลํ สมุเทตีติ สมุทโยฯ เอวเมเตสํ ปทานํ วจนโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    Mūlaṃ hetu nidānañcāti gāthā dasannampi vārānaṃ uddānagāthā nāma. Tattha mūlādīni sabbānipi kāraṇavevacanāneva. Kāraṇañhi patiṭṭhānaṭṭhena mūlaṃ. Attano phalanipphādanatthaṃ hinoti pavattatīti hetu. ‘Handa, naṃ gaṇhāthā’ti dassentaṃ viya attano phalaṃ nidetīti nidānaṃ. Etasmā phalaṃ sambhotīti sambhavo. Pabhavatīti pabhavo. Samuṭṭhāti ettha phalaṃ, etena vā samuṭṭhātīti samuṭṭhānaṃ. Attano phalaṃ āharatīti āhāro. Appaṭikkhipitabbena attano phalena ālambiyatīti ālambaṇaṃ. Etaṃ paṭicca appaṭikkhipitvā phalaṃ eti pavattatīti paccayo. Etasmā phalaṃ samudetīti samudayo. Evametesaṃ padānaṃ vacanattho veditabbo.

    อุเทฺทสวารวณฺณนาฯ

    Uddesavāravaṇṇanā.

    นิเทฺทสวารวณฺณนา

    Niddesavāravaṇṇanā

    ๕๐. อิทานิ เยเกจิ กุสลา ธมฺมาติอาทินา นเยน นิเทฺทสวาโร อารโทฺธฯ ตตฺถ เย เกจีติ อนวเสสวจนํฯ กุสลา ธมฺมาติ กุสลตฺติกสฺส ปทภาชเน วุตฺตลกฺขณา อนวชฺชสุขวิปากา กุสลสภาวาฯ สเพฺพ เต กุสลมูลาติ กิํ เต สเพฺพเยว กุสลมูลาติ ปุจฺฉติฯ ตีเณว กุสลมูลานีติ น เต สเพฺพ กุสลมูลานิ, อโลภาทีนิ ปน ตีณิ เอว กุสลมูลานีติ อโตฺถฯ อวเสสา กุสลา ธมฺมา น กุสลมูลาติ อวเสสา ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมา กุสลมูลานิ นาม น โหนฺติฯ อถ วา อวเสสา ผสฺสาทโย กุสลา ธมฺมาเยว นาม, น กุสลมูลานีติปิ อโตฺถฯ เย วา ปน กุสลมูลาติ เย วา ปน ปฐมปุจฺฉาย ทุติยปเทน กุสลมูลาติ ตโย อโลภาทโย คหิตาฯ สเพฺพ เต ธมฺมา กุสลาติ กิํ เต สเพฺพ ตโยปิ ธมฺมา กุสลาติ ปุจฺฉติฯ อามนฺตาติ สเพฺพสมฺปิ กุสลมูลานํ กุสลภาวํ สมฺปฎิจฺฉโนฺต อาหฯ อยํ ตาว มูลนเย มูลยมกสฺส อโตฺถฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ วิสฺสชฺชนนโย เวทิตโพฺพฯ ยํ ปน ยตฺถ วิเสสมตฺตํ อตฺถิ, ตเทว วณฺณยิสฺสามฯ

    50. Idāni yekeci kusalā dhammātiādinā nayena niddesavāro āraddho. Tattha ye kecīti anavasesavacanaṃ. Kusalā dhammāti kusalattikassa padabhājane vuttalakkhaṇā anavajjasukhavipākā kusalasabhāvā. Sabbe te kusalamūlāti kiṃ te sabbeyeva kusalamūlāti pucchati. Tīṇevakusalamūlānīti na te sabbe kusalamūlāni, alobhādīni pana tīṇi eva kusalamūlānīti attho. Avasesā kusalā dhammā na kusalamūlāti avasesā phassādayo kusalā dhammā kusalamūlāni nāma na honti. Atha vā avasesā phassādayo kusalā dhammāyeva nāma, na kusalamūlānītipi attho. Ye vā pana kusalamūlāti ye vā pana paṭhamapucchāya dutiyapadena kusalamūlāti tayo alobhādayo gahitā. Sabbe te dhammā kusalāti kiṃ te sabbe tayopi dhammā kusalāti pucchati. Āmantāti sabbesampi kusalamūlānaṃ kusalabhāvaṃ sampaṭicchanto āha. Ayaṃ tāva mūlanaye mūlayamakassa attho. Iminā upāyena sabbapucchāsu vissajjananayo veditabbo. Yaṃ pana yattha visesamattaṃ atthi, tadeva vaṇṇayissāma.

    ๕๑. เอกมูลยมเก ตาว สเพฺพ เต กุสลมูเลน เอกมูลาติ คณนเฎฺฐน เอกมูลกํ อคฺคเหตฺวา สมานเฎฺฐน คเหตพฺพาฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – สเพฺพ เต กุสลมูเลน สมานมูลาฯ ยํ ผสฺสสฺส มูลํ, ตเทว เวทนาทีนนฺติฯ อถ เนสํ ตถาภาวํ สมฺปฎิจฺฉโนฺต อามนฺตาติ อาหฯ กุสลสมุฎฺฐานนฺติ กุสลจิตฺตสมุฎฺฐานรูปํ ทสฺสิตํฯ เอกมูลนฺติ อโลภาทินา กุสลมูเลน สมานมูลํ ฯ ยเถว หิ ผสฺสาทีนํ อโลภาทโย เหตุปจฺจยตฺตา มูลํ, ตถา ตํ สมุฎฺฐานรูปสฺสาปิ, กุสลลกฺขณาภาเวน ปน ตํ น กุสลํฯ

    51. Ekamūlayamake tāva sabbe te kusalamūlena ekamūlāti gaṇanaṭṭhena ekamūlakaṃ aggahetvā samānaṭṭhena gahetabbā. Ayañhettha attho – sabbe te kusalamūlena samānamūlā. Yaṃ phassassa mūlaṃ, tadeva vedanādīnanti. Atha nesaṃ tathābhāvaṃ sampaṭicchanto āmantāti āha. Kusalasamuṭṭhānanti kusalacittasamuṭṭhānarūpaṃ dassitaṃ. Ekamūlanti alobhādinā kusalamūlena samānamūlaṃ . Yatheva hi phassādīnaṃ alobhādayo hetupaccayattā mūlaṃ, tathā taṃ samuṭṭhānarūpassāpi, kusalalakkhaṇābhāvena pana taṃ na kusalaṃ.

    ๕๒. อญฺญมญฺญยมเก ‘เยเกจิ กุสลา’ติ อปุจฺฉิตฺวา เยเกจิ กุสลมูเลน เอกมูลาติ ปุจฺฉา กตาฯ กสฺมา? อิมินาปิ พฺยญฺชเนน ตเสฺสวตฺถสฺส สมฺภวโตฯ กุสลมูลานีติ อิทํ ปุริมสฺส วิเสสนํฯ ‘มูลานิ ยานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’ติ หิ วุตฺตํ, ตานิ ปน กุสลมูลานิปิ โหนฺติ อกุสลอพฺยากตมูลานิปิ, อิธ กุสลมูลานีติ วิเสสทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตํฯ อญฺญมญฺญมูลานิ จาติ อญฺญมญฺญํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺตีติ อโตฺถฯ ตเสฺสว ปฎิโลมปุจฺฉาย ‘สเพฺพ เต ธมฺมา กุสลมูเลน เอกมูลา’ติ อวตฺวา สเพฺพ เต ธมฺมา กุสลาติ วุตฺตํฯ กสฺมา? อตฺถวิเสสาภาวโตฯ กุสลมูเลน เอกมูลาติ หิ ปุจฺฉาย กตาย ‘มูลานิ ยานิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตี’ติ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว วิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ ภเวยฺย, เอวญฺจ สติ อตฺถวิเสสาภาโว โหติฯ ตสฺมา ตถา อกตฺวา เอวํ ปุจฺฉา กตาฯ อิมินา อุปาเยน มูลมูลนยาทีสุปิ อญฺญมญฺญมูลยมเก ปุจฺฉาวิเสโส เวทิตโพฺพฯ

    52. Aññamaññayamake ‘yekeci kusalā’ti apucchitvā yekeci kusalamūlena ekamūlāti pucchā katā. Kasmā? Imināpi byañjanena tassevatthassa sambhavato. Kusalamūlānīti idaṃ purimassa visesanaṃ. ‘Mūlāni yāni ekato uppajjantī’ti hi vuttaṃ, tāni pana kusalamūlānipi honti akusalaabyākatamūlānipi, idha kusalamūlānīti visesadassanatthamidaṃ vuttaṃ. Aññamaññamūlāni cāti aññamaññaṃ hetupaccayena paccayā hontīti attho. Tasseva paṭilomapucchāya ‘sabbe te dhammā kusalamūlena ekamūlā’ti avatvā sabbe te dhammā kusalāti vuttaṃ. Kasmā? Atthavisesābhāvato. Kusalamūlena ekamūlāti hi pucchāya katāya ‘mūlāni yāni ekato uppajjantī’ti heṭṭhā vuttanayeneva vissajjanaṃ kātabbaṃ bhaveyya, evañca sati atthavisesābhāvo hoti. Tasmā tathā akatvā evaṃ pucchā katā. Iminā upāyena mūlamūlanayādīsupi aññamaññamūlayamake pucchāviseso veditabbo.

    ๕๓-๕๕. มูลมูลนเย สเพฺพ เต กุสลมูลมูลาติ สเพฺพ เต กุสลมูลสงฺขาตา มูลาติ ปุจฺฉติฯ เอกมูลมูลาติ สมานเฎฺฐน เอกเมว มูลมูลํ เอเตสนฺติ เอกมูลมูลาฯ อญฺญมญฺญมูลมูลาติ อญฺญมญฺญสฺส มูลํ อญฺญมญฺญมูลํ, อญฺญมญฺญมูลํ เหตุปจฺจยเฎฺฐน มูลํ เอเตสนฺติ อญฺญมญฺญมูลมูลาฯ

    53-55. Mūlamūlanaye sabbe te kusalamūlamūlāti sabbe te kusalamūlasaṅkhātā mūlāti pucchati. Ekamūlamūlāti samānaṭṭhena ekameva mūlamūlaṃ etesanti ekamūlamūlā. Aññamaññamūlamūlāti aññamaññassa mūlaṃ aññamaññamūlaṃ, aññamaññamūlaṃ hetupaccayaṭṭhena mūlaṃ etesanti aññamaññamūlamūlā.

    ๕๖. มูลกนเย กุสลมูลกาติ เหตุปจฺจยเฎฺฐน กุสลํ มูลํ เอเตสนฺติ กุสลมูลกาฯ

    56. Mūlakanaye kusalamūlakāti hetupaccayaṭṭhena kusalaṃ mūlaṃ etesanti kusalamūlakā.

    ๕๗-๖๑. มูลมูลกนเย กุสลมูลมูลกาติ กุสลานํ มูลํ กุสลมูลํฯ เหตุปจฺจยเฎฺฐเนว กุสลมูลํ มูลํ เอเตสนฺติ กุสลมูลมูลกาติฯ อยํ ตาว กุสลปทํ นิสฺสาย นยยมกปุจฺฉาสุ วิเสสโตฺถฯ

    57-61. Mūlamūlakanaye kusalamūlamūlakāti kusalānaṃ mūlaṃ kusalamūlaṃ. Hetupaccayaṭṭheneva kusalamūlaṃ mūlaṃ etesanti kusalamūlamūlakāti. Ayaṃ tāva kusalapadaṃ nissāya nayayamakapucchāsu visesattho.

    ๖๒-๗๓. อกุสลปทาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อยํ ปน วิเสโส, อเหตุกํ อกุสลนฺติ วิจิกิจฺฉาย เจว อุทฺธเจฺจน จ สมฺปยุตฺตํ โมหํ สนฺธาย วุตฺตํฯ

    62-73. Akusalapadādīsupi eseva nayo. Ayaṃ pana viseso, ahetukaṃ akusalanti vicikicchāya ceva uddhaccena ca sampayuttaṃ mohaṃ sandhāya vuttaṃ.

    ๗๔-๘๕. อเหตุกํ อพฺยากตนฺติ อฎฺฐารส จิตฺตุปฺปาทา รูปํ, นิพฺพานญฺจฯ อพฺยากตมูเลน น เอกมูลนฺติ อิธ ปน ฐเปตฺวา สเหตุกอพฺยากตสมุฎฺฐานํ รูปํ, เสสํ ลพฺภติฯ สเหตุกอพฺยากตสมุฎฺฐานํ รูปํ อพฺยากตมูเลน เอกมูลํ โหติ, ตํ อโพฺพหาริกํ กตฺวา เอกโต ลพฺภมานกวเสเนว เจตํ วิสฺสชฺชนํ กตํฯ

    74-85. Ahetukaṃabyākatanti aṭṭhārasa cittuppādā rūpaṃ, nibbānañca. Abyākatamūlena na ekamūlanti idha pana ṭhapetvā sahetukaabyākatasamuṭṭhānaṃ rūpaṃ, sesaṃ labbhati. Sahetukaabyākatasamuṭṭhānaṃ rūpaṃ abyākatamūlena ekamūlaṃ hoti, taṃ abbohārikaṃ katvā ekato labbhamānakavaseneva cetaṃ vissajjanaṃ kataṃ.

    ๘๖-๙๗. นามา ธมฺมาติ นามสงฺขาตา ธมฺมาฯ เต อตฺถโต จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, นิพฺพานญฺจฯ นเวว นามมูลานีติ กุสลากุสลอพฺยากตมูลวเสน นว มูลานิฯ อเหตุกํ นามํ นามมูเลน น เอกมูลนฺติ อเหตุกํ สพฺพมฺปิ อฎฺฐารส จิตฺตุปฺปาทวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตโมหนิพฺพานสงฺขาตํ นามํ นามมูเลน น เอกมูลํ ฯ น หิ ตํ เตน สทฺธิํ อุปฺปชฺชติฯ สเหตุกํ นามํ นามมูเลนาติ ปเทปิ สเหตุกํ นามํ นามมูเลนาติ อโตฺถฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

    86-97. Nāmā dhammāti nāmasaṅkhātā dhammā. Te atthato cattāro arūpino khandhā, nibbānañca. Naveva nāmamūlānīti kusalākusalaabyākatamūlavasena nava mūlāni. Ahetukaṃ nāmaṃ nāmamūlena na ekamūlanti ahetukaṃ sabbampi aṭṭhārasa cittuppādavicikicchuddhaccasampayuttamohanibbānasaṅkhātaṃ nāmaṃ nāmamūlena na ekamūlaṃ . Na hi taṃ tena saddhiṃ uppajjati. Sahetukaṃnāmaṃ nāmamūlenāti padepi sahetukaṃ nāmaṃ nāmamūlenāti attho. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.

    มูลวารวณฺณนาฯ

    Mūlavāravaṇṇanā.

    ๙๘-๙๙. เหตุวาราทีสุปิ อิมินาวุปาเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ มูลํ เหตุ นิทานญฺจาติคาถา ยถานิทฺทิฎฺฐานํ ทสนฺนมฺปิ วารานํ ปุน อุทฺทานวเสเนว วุตฺตาติฯ

    98-99. Hetuvārādīsupi imināvupāyena attho veditabbo. Mūlaṃ hetu nidānañcātigāthā yathāniddiṭṭhānaṃ dasannampi vārānaṃ puna uddānavaseneva vuttāti.

    มูลยมกวณฺณนาฯ

    Mūlayamakavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ยมกปาฬิ • Yamakapāḷi / ๑. มูลยมกํ • 1. Mūlayamakaṃ

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. มูลยมกํ • 1. Mūlayamakaṃ

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๑. มูลยมกํ • 1. Mūlayamakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact