Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
วินยปิฎเก
Vinayapiṭake
ปาจิตฺยาทิโยชนา
Pācityādiyojanā
ปาจิตฺติยโยชนา
Pācittiyayojanā
มหาการุณิกํ นาถํ, อภินตฺวา สมาสโต;
Mahākāruṇikaṃ nāthaṃ, abhinatvā samāsato;
ปาจิตฺยาทิวณฺณนาย, กริสฺสามตฺถโยชนํฯ
Pācityādivaṇṇanāya, karissāmatthayojanaṃ.
๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ
5. Pācittiyakaṇḍaṃ
๑. มุสาวาทสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา
1. Musāvādasikkhāpada-atthayojanā
ขุทฺทกานนฺติ สุขุมาปตฺติปกาสกตฺตา อปฺปกานํ, คณนโต วา ปจุรตฺตา พหุกานํฯ เยสํ สิกฺขาปทานนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘เยส’’นฺติ ปทํ ‘‘สงฺคโห’’ติ ปเท สามฺยตฺถฉฎฺฐีฯ สงฺคหียเต สงฺคโห ฯ ‘‘นวหิ วเคฺคหี’’ติปทํ ‘‘สงฺคโห, สุปฺปติฎฺฐิโต’’ติ ปททฺวเย กรณํฯ ทานีติ กาลวาจโก สตฺตมฺยนฺตนิปาโต อิทานิ-ปริยาโย, อิมสฺมิํ กาเลติ อโตฺถฯ เตสนฺติ ขุทฺทกานํ, อยํ วณฺณนาติ สมฺพโนฺธฯ ภวตีติ เอตฺถ ติ-สโทฺท เอกํสเตฺถ อนาคตกาลิโก โหติ ‘‘นิรยํ นูน คจฺฉามิ, เอตฺถ เม นตฺถิ สํสโย’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๓๓๑) วิยฯ กิญฺจาเปตฺถ หิ ยถา เอกํสวาจโก นูนสโทฺท อตฺถิ, น เอวํ ‘‘ภวตี’’ติ ปเท, อตฺถโต ปน อยํ วณฺณนา นูน ภวิสฺสตีติ อโตฺถ คเหตโพฺพฯ อถ วา อวสฺสมฺภาวิยเตฺถ อนาคตกาลวาจโก โหติ ‘‘ธุวํ พุโทฺธ ภวามห’’นฺติอาทีสุ (พุ. วํ. ๒.๑๐๙-๑๑๔) วิยฯ กามเญฺหตฺถ ยถา อวสฺสมฺภาวิยตฺถวาจโก ธุวสโทฺท อตฺถิ, น เอวํ ‘‘ภวตี’’ติ ปเท, อตฺถโต ปน ธุวํ ภวิสฺสติ อยํ วณฺณนาติ อโตฺถ คเหตโพฺพติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Khuddakānanti sukhumāpattipakāsakattā appakānaṃ, gaṇanato vā pacurattā bahukānaṃ. Yesaṃ sikkhāpadānanti sambandho. ‘‘Yesa’’nti padaṃ ‘‘saṅgaho’’ti pade sāmyatthachaṭṭhī. Saṅgahīyate saṅgaho. ‘‘Navahi vaggehī’’tipadaṃ ‘‘saṅgaho, suppatiṭṭhito’’ti padadvaye karaṇaṃ. Dānīti kālavācako sattamyantanipāto idāni-pariyāyo, imasmiṃ kāleti attho. Tesanti khuddakānaṃ, ayaṃ vaṇṇanāti sambandho. Bhavatīti ettha ti-saddo ekaṃsatthe anāgatakāliko hoti ‘‘nirayaṃ nūna gacchāmi, ettha me natthi saṃsayo’’tiādīsu (jā. 2.22.331) viya. Kiñcāpettha hi yathā ekaṃsavācako nūnasaddo atthi, na evaṃ ‘‘bhavatī’’ti pade, atthato pana ayaṃ vaṇṇanā nūna bhavissatīti attho gahetabbo. Atha vā avassambhāviyatthe anāgatakālavācako hoti ‘‘dhuvaṃ buddho bhavāmaha’’ntiādīsu (bu. vaṃ. 2.109-114) viya. Kāmañhettha yathā avassambhāviyatthavācako dhuvasaddo atthi, na evaṃ ‘‘bhavatī’’ti pade, atthato pana dhuvaṃ bhavissati ayaṃ vaṇṇanāti attho gahetabboti daṭṭhabbaṃ.
๑. ‘‘ตตฺถา’’ติ ปทํ ‘‘มุสาวาทวคฺคสฺสา’’ติ ปเท นิทฺธารณสมุทาโย, เตสุ นวสุ วเคฺคสูติ อโตฺถฯ ปฐมสิกฺขาปเทติ วา, เตสุ ขุทฺทเกสุ สิกฺขาปเทสูติ อโตฺถฯ สกฺยานํ ปุโตฺตติ ภคินีหิ สํวาสกรณโต โลกมริยาทํ ฉินฺทิตุํ, ชาติสเมฺภทโต วา รกฺขิตุํ สกฺกุณนฺตีติ สกฺยาฯ สากวนสเณฺฑ นครํ มาเปนฺตีติ วา สกฺยา, ปุพฺพราชาโนฯ เตสํ วํเส ภูตตฺตา เอตรหิปิ ราชาโน สกฺยา นาม, เตสํ ปุโตฺตติ อโตฺถฯ ‘‘พุทฺธกาเล’’ติ ปทํ ‘‘ปพฺพชิํสู’’ติ ปเท อาธาโรฯ สกฺยกุลโต นิกฺขมิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘วาทกฺขิโตฺต’’ตฺยาทินา วาเทน ขิโตฺต, วาทมฺหิ วาติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ ยตฺร ยตฺราติ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิฎฺฐิยํ ปวตฺตตีติ สมฺพโนฺธฯ อวชานิตฺวาติ ปฎิสฺสเวน วิโยคํ กตฺวาฯ อวสโทฺท หิ วิโยคตฺถวาจโกฯ ‘‘อปชานิตฺวา’’ติปิ ปาโฐ, ปฎิญฺญาตํ อปนีตํ กตฺวาติ อโตฺถฯ โทสนฺติ อยุตฺติโทสํ, สลฺลเกฺขโนฺต หุตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ กเถโนฺต กเถโนฺตติ อนฺตสโทฺท มานสทฺทการิโยฯ กถิยมาโน กถิยมาโนติ หิ อโตฺถฯ ปฎิชานิตฺวาติ ปฎิญฺญาตํ กตฺวาฯ อานิสํสนฺติ นิโทฺทสํ คุณํฯ ปฎิปุโพฺพ จรสโทฺท ปฎิจฺฉาทนโตฺถติ อาห ‘‘ปฎิจรติ ปฎิจฺฉาเทตี’’ติฯ ‘‘กิํ ปน รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ วุเตฺต ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วทติฯ กสฺมาติ วุเตฺต ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ วทติฯ ยทิ เอวํ นิพฺพานมฺปิ ชานิตพฺพตฺตา อนิจฺจํ นาม สิยาติ วุเตฺต อตฺตโน เหตุมฺหิ โทสํ ทิสฺวา อหํ ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ เหตุํ น วทามิ, ‘‘ชาติธมฺมโต’’ติ ปน วทามิฯ ตยา ปน ทุสฺสุตตฺตา เอวํ วุตฺตนฺติ วตฺวา อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติฯ ‘‘กุรุนฺทิย’’นฺติ ปทํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปเท อาธาโรฯ เอตสฺสาติ ‘‘รูปํ อนิจฺจํ ชานิตพฺพโต’’ติ วจนสฺสฯ ตตฺราติ กุรุนฺทิยํฯ ตสฺสาติ ปฎิชานนาวชานนสฺสฯ ‘‘ปฎิจฺฉาทนตฺถ’’นฺติ ปทํ ‘‘ภาสตี’’ติปเท สมฺปทานํฯ ‘‘มหาอฎฺฐกถาย’’นฺติปทํ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปเท อาธาโรฯ ‘‘ทิวาฎฺฐานาทีสู’’ติ ปทํ อุปเนตพฺพํฯ อิทํ ‘‘อสุกสฺมิํ นามปเทเส’’ติ ปเท นิทฺธารณสมุทาโยฯ
1.‘‘Tatthā’’ti padaṃ ‘‘musāvādavaggassā’’ti pade niddhāraṇasamudāyo, tesu navasu vaggesūti attho. Paṭhamasikkhāpadeti vā, tesu khuddakesu sikkhāpadesūti attho. Sakyānaṃ puttoti bhaginīhi saṃvāsakaraṇato lokamariyādaṃ chindituṃ, jātisambhedato vā rakkhituṃ sakkuṇantīti sakyā. Sākavanasaṇḍe nagaraṃ māpentīti vā sakyā, pubbarājāno. Tesaṃ vaṃse bhūtattā etarahipi rājāno sakyā nāma, tesaṃ puttoti attho. ‘‘Buddhakāle’’ti padaṃ ‘‘pabbajiṃsū’’ti pade ādhāro. Sakyakulato nikkhamitvāti sambandho. ‘‘Vādakkhitto’’tyādinā vādena khitto, vādamhi vāti atthaṃ dasseti. Yatra yatrāti yassaṃ yassaṃ diṭṭhiyaṃ pavattatīti sambandho. Avajānitvāti paṭissavena viyogaṃ katvā. Avasaddo hi viyogatthavācako. ‘‘Apajānitvā’’tipi pāṭho, paṭiññātaṃ apanītaṃ katvāti attho. Dosanti ayuttidosaṃ, sallakkhento hutvāti sambandho. Kathento kathentoti antasaddo mānasaddakāriyo. Kathiyamāno kathiyamānoti hi attho. Paṭijānitvāti paṭiññātaṃ katvā. Ānisaṃsanti niddosaṃ guṇaṃ. Paṭipubbo carasaddo paṭicchādanatthoti āha ‘‘paṭicarati paṭicchādetī’’ti. ‘‘Kiṃ pana rūpaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti vutte ‘‘anicca’’nti vadati. Kasmāti vutte ‘‘jānitabbato’’ti vadati. Yadi evaṃ nibbānampi jānitabbattā aniccaṃ nāma siyāti vutte attano hetumhi dosaṃ disvā ahaṃ ‘‘jānitabbato’’ti hetuṃ na vadāmi, ‘‘jātidhammato’’ti pana vadāmi. Tayā pana dussutattā evaṃ vuttanti vatvā aññenaññaṃ paṭicarati. ‘‘Kurundiya’’nti padaṃ ‘‘vutta’’nti pade ādhāro. Etassāti ‘‘rūpaṃ aniccaṃ jānitabbato’’ti vacanassa. Tatrāti kurundiyaṃ. Tassāti paṭijānanāvajānanassa. ‘‘Paṭicchādanattha’’nti padaṃ ‘‘bhāsatī’’tipade sampadānaṃ. ‘‘Mahāaṭṭhakathāya’’ntipadaṃ ‘‘vutta’’nti pade ādhāro. ‘‘Divāṭṭhānādīsū’’ti padaṃ upanetabbaṃ. Idaṃ ‘‘asukasmiṃ nāmapadese’’ti pade niddhāraṇasamudāyo.
๓. สมฺมา วทติ อเนนาติ สํวาทนํ, อุชุชาติกจิตฺตํ, น สํวาทนํ วิสํวาทนํ, วญฺจนาธิปฺปายวสปฺปวตฺตํ จิตฺตนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘วิสํวาทนจิตฺต’’นฺติฯ ‘‘วาจา’’ตฺยาทินา วจติ เอตายาติ วาจาติ อตฺถํ ทเสฺสติ ฯ หีติ ทฬฺหีกรณโชตกํ, ตทมินา สจฺจนฺติ อโตฺถฯ ‘‘วาจาเยวา’’ติ ปทํ ‘‘พฺยปฺปโถ’’ติ ปเท ตุลฺยตฺถํ, ‘‘วุจฺจตี’’ติ ปเท กมฺมํฯ ปถสทฺทปรตฺตา วาจาสทฺทสฺส พฺยาเทโส กโตฯ สุทฺธเจตนา กถิตาติ สมฺพโนฺธฯ ตํสมุฎฺฐิตสทฺทสหิตาติ ตาย เจตนาย สมุฎฺฐิเตน สเทฺทน สห ปวตฺตา เจตนา กถิตาติ โยชนาฯ
3. Sammā vadati anenāti saṃvādanaṃ, ujujātikacittaṃ, na saṃvādanaṃ visaṃvādanaṃ, vañcanādhippāyavasappavattaṃ cittanti dassento āha ‘‘visaṃvādanacitta’’nti. ‘‘Vācā’’tyādinā vacati etāyāti vācāti atthaṃ dasseti . Hīti daḷhīkaraṇajotakaṃ, tadaminā saccanti attho. ‘‘Vācāyevā’’ti padaṃ ‘‘byappatho’’ti pade tulyatthaṃ, ‘‘vuccatī’’ti pade kammaṃ. Pathasaddaparattā vācāsaddassa byādeso kato. Suddhacetanā kathitāti sambandho. Taṃsamuṭṭhitasaddasahitāti tāya cetanāya samuṭṭhitena saddena saha pavattā cetanā kathitāti yojanā.
‘‘เอว’’นฺติ ปทํ ‘‘ทเสฺสตฺวา’’ติ ปเท นิทสฺสนํ, กรณํ วาฯ ‘‘ทเสฺสตฺวา’’ติ ปทํ ‘‘ทเสฺสโนฺต อาหา’’ติ ปททฺวเย ปุพฺพกาลกิริยาฯ อเนฺตติ ‘‘วาจา’’ติอาทีนํ ปญฺจนฺนํ ปทานํ อวสาเนฯ ‘‘อาหา’’ติ เอตฺถ วตฺตมาน-ติวจนสฺส อกาโร ปจฺจุปฺปนฺนกาลวาจเกน ‘‘อิทานี’’ติ ปเทน โยชิตตฺตาฯ ‘‘ตตฺถา’’ติ ปทํ ‘‘อโตฺถ เวทิตโพฺพ’’ติ ปเท อาธาโรฯ เอตฺถาติ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติอาทีสุฯ ‘‘ปาฬิย’’นฺติ ปทํ ‘‘เทสนา กตา’’ติ ปเท อาธาโรฯ นิสฺสิตวิญฺญาณวเสน อวตฺวา นิสฺสยปสาทวเสน ‘‘จกฺขุนา ทิฎฺฐ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘โอฬาริเกเนวา’’ติฯ
‘‘Eva’’nti padaṃ ‘‘dassetvā’’ti pade nidassanaṃ, karaṇaṃ vā. ‘‘Dassetvā’’ti padaṃ ‘‘dassento āhā’’ti padadvaye pubbakālakiriyā. Anteti ‘‘vācā’’tiādīnaṃ pañcannaṃ padānaṃ avasāne. ‘‘Āhā’’ti ettha vattamāna-tivacanassa akāro paccuppannakālavācakena ‘‘idānī’’ti padena yojitattā. ‘‘Tatthā’’ti padaṃ ‘‘attho veditabbo’’ti pade ādhāro. Etthāti ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’tiādīsu. ‘‘Pāḷiya’’nti padaṃ ‘‘desanā katā’’ti pade ādhāro. Nissitaviññāṇavasena avatvā nissayapasādavasena ‘‘cakkhunā diṭṭha’’nti vuttanti āha ‘‘oḷārikenevā’’ti.
๔. ตสฺสาติ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิวจนสฺสฯ ‘‘อโตฺถ’’ติ ปทํ ‘‘เวทิตโพฺพ’’ติ ปเท กมฺมํฯ หีติ วิเสสโชตกํ, วิเสสํ กถยิสฺสามีติ อโตฺถฯ ตตฺถาติ จตุตฺถปาราชิเกฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเทฯ
4.Tassāti ‘‘tīhākārehī’’tiādivacanassa. ‘‘Attho’’ti padaṃ ‘‘veditabbo’’ti pade kammaṃ. Hīti visesajotakaṃ, visesaṃ kathayissāmīti attho. Tatthāti catutthapārājike. Idhāti imasmiṃ sikkhāpade.
๙. อาทีนมฺปีติ ปิสโทฺท สมฺปิณฺฑนโตฺถฯ
9.Ādīnampīti pisaddo sampiṇḍanattho.
๑๑. มนฺทสโทฺท ชฬตฺถวาจโกติ อาห ‘‘มนฺทตฺตา ชฬตฺตา’’ติฯ โย ปน อญฺญํ ภณตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘สามเณเรนา’’ติ ปทํ ‘‘วุโตฺต’’ติ ปเท กตฺตาฯ อปิสโทฺท ปุจฺฉาวาจโก, ‘‘ปสฺสิตฺถา’’ติ ปเทน โยเชตโพฺพ, อปิ ปสฺสิตฺถาติ อโตฺถฯ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติอาทิวจนโต อญฺญา ปูรณกถาปิ ตาว อตฺถีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อญฺญา ปูรณกถา นาม โหตี’’ติฯ อปฺปตาย อูนสฺส อตฺถสฺส ปูรณวเสน ปวตฺตา กถา ปูรณกถาฯ เอสา ปูรณกถา นาม กาติ อาห ‘‘เอโก’’ติอาทิฯ เอสา หิ คาเม อปฺปกมฺปิ เตลํ วา ปูวขณฺฑํ วา ปสฺสิตฺวา วา ลภิตฺวา วา พหุกํ กตฺวา ปูรณวเสน กถิตตฺตา ปูรณกถา นามฯ พหุกานิ เตลานิ วา ปูเว วา ปสฺสโนฺตปิ ลภโนฺตปิ อปฺปกํ กตฺวา อูนวเสน กถิตตฺตา อูนกถาปิ อตฺถีติ สกฺกา วตฺตุํฯ อฎฺฐกถาสุ ปน อวุตฺตตฺตา วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํฯ พหุกาย ปูรณสฺส อตฺถสฺส อูนวเสน ปวตฺตา กถา อูนกถาติ วิคฺคโห กาตโพฺพติฯ ปฐมํฯ
11. Mandasaddo jaḷatthavācakoti āha ‘‘mandattā jaḷattā’’ti. Yo pana aññaṃ bhaṇatīti sambandho. ‘‘Sāmaṇerenā’’ti padaṃ ‘‘vutto’’ti pade kattā. Apisaddo pucchāvācako, ‘‘passitthā’’ti padena yojetabbo, api passitthāti attho. ‘‘Adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’tiādivacanato aññā pūraṇakathāpi tāva atthīti dassento āha ‘‘aññā pūraṇakathā nāma hotī’’ti. Appatāya ūnassa atthassa pūraṇavasena pavattā kathā pūraṇakathā. Esā pūraṇakathā nāma kāti āha ‘‘eko’’tiādi. Esā hi gāme appakampi telaṃ vā pūvakhaṇḍaṃ vā passitvā vā labhitvā vā bahukaṃ katvā pūraṇavasena kathitattā pūraṇakathā nāma. Bahukāni telāni vā pūve vā passantopi labhantopi appakaṃ katvā ūnavasena kathitattā ūnakathāpi atthīti sakkā vattuṃ. Aṭṭhakathāsu pana avuttattā vīmaṃsitvā gahetabbaṃ. Bahukāya pūraṇassa atthassa ūnavasena pavattā kathā ūnakathāti viggaho kātabboti. Paṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā