Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    ฯนโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    วินยปิฎเก

    Vinayapiṭake

    ปาจิตฺติย-อฎฺฐกถา

    Pācittiya-aṭṭhakathā

    ๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ

    5. Pācittiyakaṇḍaṃ

    ๑. มุสาวาทวโคฺค

    1. Musāvādavaggo

    ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

    1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    เยสํ นวหิ วเคฺคหิ, สงฺคโห สุปฺปติฎฺฐิโต;

    Yesaṃ navahi vaggehi, saṅgaho suppatiṭṭhito;

    ขุทฺทกานํ อยํ ทานิ, เตสํ ภวติ วณฺณนาฯ

    Khuddakānaṃ ayaṃ dāni, tesaṃ bhavati vaṇṇanā.

    . ตตฺถ มุสาวาทวคฺคสฺส ตาว ปฐมสิกฺขาปเท หตฺถโกติ ตสฺส เถรสฺส นามํฯ สกฺยานํ ปุโตฺตติ สกฺยปุโตฺตฯ พุทฺธกาเล กิร สกฺยกุลโต อสีติ ปุริสสหสฺสานิ ปพฺพชิํสุ, เตสํ โส อญฺญตโรติฯ วาทกฺขิโตฺตติ ‘‘วาทํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ ปริวิตกฺกิเตน วาเทน ปรวาทิสนฺติกํ ขิโตฺต ปกฺขิโตฺต ปหิโต เปสิโตติ อโตฺถฯ วาทมฺหิ วา สเกน จิเตฺตน ขิโตฺตฯ ยตฺร ยตฺร วาโท ตตฺร ตเตฺรว สนฺทิสฺสตีติปิ วาทกฺขิโตฺตฯ อวชานิตฺวา อวชานาตีติ อตฺตโน วาเท กญฺจิ โทสํ สลฺลเกฺขโนฺต ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานิตฺวา ปุน กเถโนฺต กเถโนฺต นิโทฺทสตํ สลฺลเกฺขตฺวา ‘‘มเมว อยํ วาโท’’ติ ปฎิชานาติฯ ปฎิชานิตฺวา อวชานาตีติ กิสฺมิญฺจิเทว วจเน อานิสํสํ สลฺลเกฺขโนฺต ‘‘อยํ มม วาโท’’ติ ปฎิชานิตฺวา ปุน กเถโนฺต กเถโนฺต ตตฺถ โทสํ สลฺลเกฺขตฺวา ‘‘นายํ มม วาโท’’ติ อวชานาติฯ อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรตีติ อเญฺญน การเณน อญฺญํ การณํ ปฎิจรติ ปฎิจฺฉาเทติ อโชฺฌตฺถรติ, ‘‘รูปํ อนิจฺจํ ชานิตพฺพโต’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ชาติธมฺมโต’’ติอาทีนิ วทติฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เอตสฺส ปฎิจฺฉาทนเหตุํ อญฺญํ พหุํ กเถตี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยํ ตํ ปฎิชานนญฺจ อวชานนญฺจ, ตสฺส ปฎิจฺฉาทนตฺถํ ‘‘โก อาห , กิํ อาห, กิสฺมิํ อาหา’’ติ เอวมาทิ พหุํ ภาสตีติฯ ปุน มหาอฎฺฐกถายํ ‘‘อวชานิตฺวา ปฎิชานโนฺต ปฎิชานิตฺวา อวชานโนฺต เอว จ อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรตี’’ติ วุตฺตํฯ สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานโนฺต มุสา ภาสติฯ สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทตีติ ปุเรภตฺตาทีสุ ‘‘อสุกสฺมิํ นาม กาเล อสุกสฺมิํ นาม ปเทเส วาโท โหตู’’ติ สเงฺกตํ กตฺวา สเงฺกตโต ปุเร วา ปจฺฉา วา คนฺตฺวา ‘‘ปสฺสถ โภ, ติตฺถิยา น อาคตา ปราชิตา’’ติ ปกฺกมติฯ

    1. Tattha musāvādavaggassa tāva paṭhamasikkhāpade hatthakoti tassa therassa nāmaṃ. Sakyānaṃ puttoti sakyaputto. Buddhakāle kira sakyakulato asīti purisasahassāni pabbajiṃsu, tesaṃ so aññataroti. Vādakkhittoti ‘‘vādaṃ karissāmī’’ti evaṃ parivitakkitena vādena paravādisantikaṃ khitto pakkhitto pahito pesitoti attho. Vādamhi vā sakena cittena khitto. Yatra yatra vādo tatra tatreva sandissatītipi vādakkhitto. Avajānitvā avajānātīti attano vāde kañci dosaṃ sallakkhento ‘‘nāyaṃ mama vādo’’ti avajānitvā puna kathento kathento niddosataṃ sallakkhetvā ‘‘mameva ayaṃ vādo’’ti paṭijānāti. Paṭijānitvā avajānātīti kismiñcideva vacane ānisaṃsaṃ sallakkhento ‘‘ayaṃ mama vādo’’ti paṭijānitvā puna kathento kathento tattha dosaṃ sallakkhetvā ‘‘nāyaṃ mama vādo’’ti avajānāti. Aññenaññaṃ paṭicaratīti aññena kāraṇena aññaṃ kāraṇaṃ paṭicarati paṭicchādeti ajjhottharati, ‘‘rūpaṃ aniccaṃ jānitabbato’’ti vatvā puna ‘‘jātidhammato’’tiādīni vadati. Kurundiyaṃ pana ‘‘etassa paṭicchādanahetuṃ aññaṃ bahuṃ kathetī’’ti vuttaṃ. Tatrāyaṃ adhippāyo – yaṃ taṃ paṭijānanañca avajānanañca, tassa paṭicchādanatthaṃ ‘‘ko āha , kiṃ āha, kismiṃ āhā’’ti evamādi bahuṃ bhāsatīti. Puna mahāaṭṭhakathāyaṃ ‘‘avajānitvā paṭijānanto paṭijānitvā avajānanto eva ca aññenaññaṃ paṭicaratī’’ti vuttaṃ. Sampajānamusā bhāsatīti jānanto musā bhāsati. Saṅketaṃ katvā visaṃvādetīti purebhattādīsu ‘‘asukasmiṃ nāma kāle asukasmiṃ nāma padese vādo hotū’’ti saṅketaṃ katvā saṅketato pure vā pacchā vā gantvā ‘‘passatha bho, titthiyā na āgatā parājitā’’ti pakkamati.

    . สมฺปชานมุสาวาเทติ ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสา ภณเนฯ

    2.Sampajānamusāvādeti jānitvā jānantassa ca musā bhaṇane.

    . วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺสาติ วิสํวาทนจิตฺตํ ปุรโต กตฺวา วทนฺตสฺสฯ วาจาติ มิจฺฉาวาจาปริยาปนฺนวจนสมุฎฺฐาปิกา เจตนาฯ คิราติ ตาย เจตนาย สมุฎฺฐาปิตสทฺทํ ทเสฺสติฯ พฺยปฺปโถติ วจนปโถ; วาจาเยว หิ อเญฺญสมฺปิ ทิฎฺฐานุคติมาปชฺชนฺตานํ ปถภูตโต พฺยปฺปโถติ วุจฺจติฯ วจีเภโทติ วจีสญฺญิตาย วาจาย เภโท; ปเภทคตา วาจา เอว เอวํ วุจฺจติฯ วาจสิกา วิญฺญตฺตีติ วจีวิญฺญตฺติฯ เอวํ ปฐมปเทน สุทฺธเจตนา, มเชฺฌ ตีหิ ตํสมุฎฺฐาปิตสทฺทสหิตา เจตนา, อเนฺต เอเกน วิญฺญตฺติสหิตา เจตนา ‘‘กถิตา’’ติ เวทิตพฺพาฯ อนริยโวหาราติ อนริยานํ พาลปุถุชฺชนานํ โวหาราฯ

    3.Visaṃvādanapurekkhārassāti visaṃvādanacittaṃ purato katvā vadantassa. Vācāti micchāvācāpariyāpannavacanasamuṭṭhāpikā cetanā. Girāti tāya cetanāya samuṭṭhāpitasaddaṃ dasseti. Byappathoti vacanapatho; vācāyeva hi aññesampi diṭṭhānugatimāpajjantānaṃ pathabhūtato byappathoti vuccati. Vacībhedoti vacīsaññitāya vācāya bhedo; pabhedagatā vācā eva evaṃ vuccati. Vācasikā viññattīti vacīviññatti. Evaṃ paṭhamapadena suddhacetanā, majjhe tīhi taṃsamuṭṭhāpitasaddasahitā cetanā, ante ekena viññattisahitā cetanā ‘‘kathitā’’ti veditabbā. Anariyavohārāti anariyānaṃ bālaputhujjanānaṃ vohārā.

    เอวํ สมฺปชานมุสาวาทํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อเนฺต วุตฺตานํ สมฺปชานมุสาวาทสงฺขาตานํ อนริยโวหารานํ ลกฺขณํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เมติ เอวํ วทโต วจนํ ตํสมุฎฺฐาปิกา วา เจตนา เอโก อนริยโวหาโรติ อิมินา นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อปิเจตฺถ จกฺขุวเสน อคฺคหิตารมฺมณํ อทิฎฺฐํ, โสตวเสน อคฺคหิตํ อสุตํ, ฆานาทิวเสน มุนิตฺวา ตีหิ อินฺทฺริเยหิ เอกาพทฺธํ วิย กตฺวา ปตฺวา อคฺคหิตํ อมุตํ, อญฺญตฺร ปญฺจหิ อินฺทฺริเยหิ สุเทฺธน วิญฺญาเณเนว อคฺคหิตํ อวิญฺญาตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปาฬิยํ ปน ‘‘อทิฎฺฐํ นาม น จกฺขุนา ทิฎฺฐ’’นฺติ เอวํ โอฬาริเกเนว นเยน เทสนา กตาติฯ ทิฎฺฐาทีสุ จ อตฺตนาปิ ปเรนปิ ทิฎฺฐํ ทิฎฺฐเมวฯ เอวํ สุตมุตวิญฺญาตานีติ อยเมโก ปริยาโยฯ อปโร นโย ยํ อตฺตนา ทิฎฺฐํ ทิฎฺฐเมว ตํฯ เอส นโย สุตาทีสุฯ ยํ ปน ปเรน ทิฎฺฐํ, ตํ อตฺตนา สุตฎฺฐาเน ติฎฺฐติฯ เอวํ มุตาทีนิปิฯ

    Evaṃ sampajānamusāvādaṃ dassetvā idāni ante vuttānaṃ sampajānamusāvādasaṅkhātānaṃ anariyavohārānaṃ lakkhaṇaṃ dassento ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’tiādimāha. Tattha adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ meti evaṃ vadato vacanaṃ taṃsamuṭṭhāpikā vā cetanā eko anariyavohāroti iminā nayena attho veditabbo. Apicettha cakkhuvasena aggahitārammaṇaṃ adiṭṭhaṃ, sotavasena aggahitaṃ asutaṃ, ghānādivasena munitvā tīhi indriyehi ekābaddhaṃ viya katvā patvā aggahitaṃ amutaṃ, aññatra pañcahi indriyehi suddhena viññāṇeneva aggahitaṃ aviññātanti veditabbaṃ. Pāḷiyaṃ pana ‘‘adiṭṭhaṃ nāma na cakkhunā diṭṭha’’nti evaṃ oḷārikeneva nayena desanā katāti. Diṭṭhādīsu ca attanāpi parenapi diṭṭhaṃ diṭṭhameva. Evaṃ sutamutaviññātānīti ayameko pariyāyo. Aparo nayo yaṃ attanā diṭṭhaṃ diṭṭhameva taṃ. Esa nayo sutādīsu. Yaṃ pana parena diṭṭhaṃ, taṃ attanā sutaṭṭhāne tiṭṭhati. Evaṃ mutādīnipi.

    . อิทานิ เตสํ อนริยโวหารานํ วเสน อาปตฺติํ อาโรเปตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ ‘‘ตีหิ อากาเรหิ ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชินฺติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ เอวมาทิจตุตฺถปาราชิกปาฬิวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ เกวลญฺหิ ตตฺถ ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ อิธ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ, ตตฺถ จ ‘‘อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ ‘‘อิธ อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’’ติ เอวํ วตฺถุมเตฺต อาปตฺติมเตฺต จ วิเสโส, เสสํ เอกลกฺขณเมวาติฯ

    4. Idāni tesaṃ anariyavohārānaṃ vasena āpattiṃ āropetvā dassento ‘‘tīhākārehī’’tiādimāha. Tassattho ‘‘tīhi ākārehi paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajjinti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pārājikassā’’ti evamādicatutthapārājikapāḷivaṇṇanāyaṃ vuttanayeneva veditabbo. Kevalañhi tattha ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti idha ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti, tattha ca ‘‘āpatti pārājikassā’’ti ‘‘idha āpatti pācittiyassā’’ti evaṃ vatthumatte āpattimatte ca viseso, sesaṃ ekalakkhaṇamevāti.

    . ตีหากาเรหิ ทิเฎฺฐ เวมติโกติอาทีนมฺปิ อโตฺถ ‘‘ทิฎฺฐสฺส โหติ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชโนฺต ทิเฎฺฐ เวมติโก’’ติ เอวมาทิทุฎฺฐโทสปาฬิวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ ปาฬิมตฺตเมว หิ เอตฺถ วิเสโส, อเตฺถ ปน สเถรวาเท กิญฺจิ นานากรณํ นตฺถิฯ

    9.Tīhākārehi diṭṭhe vematikotiādīnampi attho ‘‘diṭṭhassa hoti pārājikaṃ dhammaṃ ajjhāpajjanto diṭṭhe vematiko’’ti evamādiduṭṭhadosapāḷivaṇṇanāyaṃ vuttanayeneva veditabbo. Pāḷimattameva hi ettha viseso, atthe pana satheravāde kiñci nānākaraṇaṃ natthi.

    ๑๑. สหสา ภณตีติ อวีมํสิตฺวา อนุปธาเรตฺวา วา เวเคน ทิฎฺฐมฺปิ ‘‘อทิฎฺฐํ เม’’ติ ภณติฯ อญฺญํ ภณิสฺสามีติ อญฺญํ ภณตีติ มนฺทตฺตา ชฬตฺตา ปกฺขลโนฺต ‘‘จีวร’’นฺติ วตฺตเพฺพ ‘‘จีร’’นฺติ อาทิํ ภณติฯ โย ปน สามเณเรน ‘‘อปิ ภเนฺต มยฺหํ อุปชฺฌายํ ปสฺสิตฺถา’’ติ วุโตฺต เกฬิํ กุรุมาโน ‘‘ตว อุปชฺฌาโย ทารุสกฎํ โยเชตฺวา คโต ภวิสฺสตี’’ติ วา สิงฺคาลสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กสฺสายํ ภเนฺต สโทฺท’’ติ วุโตฺต ‘‘มาตุยา เต ยาเนน คจฺฉนฺติยา กทฺทเม ลคฺคจกฺกํ อุทฺธรนฺตานํ อยํ สโทฺท’’ติ วา เอวํ เนว ทวา น รวา อญฺญํ ภณติ, โส อาปตฺติํ อาปชฺชติเยวฯ อญฺญา ปูรณกถา นาม โหติ, เอโก คาเม โถกํ เตลํ ลภิตฺวา วิหารํ อาคโต สามเณรํ ภณติ – ‘‘ตฺวํ อชฺช กุหิํ คโต, คาโม เอกเตโล อโหสี’’ติ วา ปจฺฉิกาย ฐปิตํ ปูวขณฺฑํ ลภิตฺวา ‘‘อชฺช คาเม ปจฺฉิกาหิ ปูเว จาเรสุ’’นฺติ วา, อยํ มุสาวาโทว โหติฯ เสสํ อุตฺตานเมวาติฯ

    11.Sahasā bhaṇatīti avīmaṃsitvā anupadhāretvā vā vegena diṭṭhampi ‘‘adiṭṭhaṃ me’’ti bhaṇati. Aññaṃ bhaṇissāmīti aññaṃ bhaṇatīti mandattā jaḷattā pakkhalanto ‘‘cīvara’’nti vattabbe ‘‘cīra’’nti ādiṃ bhaṇati. Yo pana sāmaṇerena ‘‘api bhante mayhaṃ upajjhāyaṃ passitthā’’ti vutto keḷiṃ kurumāno ‘‘tava upajjhāyo dārusakaṭaṃ yojetvā gato bhavissatī’’ti vā siṅgālasaddaṃ sutvā ‘‘kassāyaṃ bhante saddo’’ti vutto ‘‘mātuyā te yānena gacchantiyā kaddame laggacakkaṃ uddharantānaṃ ayaṃ saddo’’ti vā evaṃ neva davā na ravā aññaṃ bhaṇati, so āpattiṃ āpajjatiyeva. Aññā pūraṇakathā nāma hoti, eko gāme thokaṃ telaṃ labhitvā vihāraṃ āgato sāmaṇeraṃ bhaṇati – ‘‘tvaṃ ajja kuhiṃ gato, gāmo ekatelo ahosī’’ti vā pacchikāya ṭhapitaṃ pūvakhaṇḍaṃ labhitvā ‘‘ajja gāme pacchikāhi pūve cāresu’’nti vā, ayaṃ musāvādova hoti. Sesaṃ uttānamevāti.

    ติสมุฎฺฐานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฎฺฐาติ, กิริยํ, สญฺญาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

    Tisamuṭṭhānaṃ – kāyacittato vācācittato kāyavācācittato ca samuṭṭhāti, kiriyaṃ, saññāvimokkhaṃ, sacittakaṃ, lokavajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, akusalacittaṃ, tivedananti.

    มุสาวาทสิกฺขาปทํ ปฐมํฯ

    Musāvādasikkhāpadaṃ paṭhamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Musāvādasikkhāpada-atthayojanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact