Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    วินยปิฎเก

    Vinayapiṭake

    สารตฺถทีปนี-ฎีกา (ตติโย ภาโค)

    Sāratthadīpanī-ṭīkā (tatiyo bhāgo)

    ๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ

    5. Pācittiyakaṇḍaṃ

    ๑. มุสาวาทวโคฺค

    1. Musāvādavaggo

    ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา

    1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    . มุสาวาทวคฺคสฺส ปฐมสิกฺขาปเท ขุทฺทกานนฺติ เอตฺถ ‘‘ขุทฺทก-สโทฺท พหุ-สทฺทปริยาโย ฯ พหุภาวโต อิมานิ ขุทฺทกานิ นาม ชาตานี’’ติ วทนฺติฯ ตตฺถาติ เตสุ นวสุ วเคฺคสุ, เตสุ วา ขุทฺทเกสุฯ การเณน การณนฺตรปฎิจฺฉาทนเมว วิภาเวตุํ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทิมาหฯ รูปํ อนิจฺจนฺติ ปฎิชานิตฺวา ตตฺถ การณํ วทโนฺต ‘‘ชานิตพฺพโต’’ติ อาหฯ ‘‘ยทิ เอวํ นิพฺพานสฺสปิ อนิจฺจตา อาปชฺชตี’’ติ ปเรน วุโตฺต ตํ การณํ ปฎิจฺฉาเทตุํ ปุน ‘‘ชาติธมฺมโต’’ติ อญฺญํ การณํ วทติฯ

    1. Musāvādavaggassa paṭhamasikkhāpade khuddakānanti ettha ‘‘khuddaka-saddo bahu-saddapariyāyo . Bahubhāvato imāni khuddakāni nāma jātānī’’ti vadanti. Tatthāti tesu navasu vaggesu, tesu vā khuddakesu. Kāraṇena kāraṇantarapaṭicchādanameva vibhāvetuṃ ‘‘rūpaṃ anicca’’ntiādimāha. Rūpaṃ aniccanti paṭijānitvā tattha kāraṇaṃ vadanto ‘‘jānitabbato’’ti āha. ‘‘Yadi evaṃ nibbānassapi aniccatā āpajjatī’’ti parena vutto taṃ kāraṇaṃ paṭicchādetuṃ puna ‘‘jātidhammato’’ti aññaṃ kāraṇaṃ vadati.

    ‘‘สมฺปชานํ มุสา ภาสตี’’ติ วตฺตเพฺพ สมฺปชาน มุสา ภาสตีติ อนุนาสิกโลเปน นิเทฺทโสติ อาห ‘‘ชานโนฺต มุสา ภาสตี’’ติฯ

    ‘‘Sampajānaṃ musā bhāsatī’’ti vattabbe sampajāna musā bhāsatīti anunāsikalopena niddesoti āha ‘‘jānanto musā bhāsatī’’ti.

    . ชานิตฺวา ชานนฺตสฺส จ มุสา ภณเนติ ปุพฺพภาเคปิ ชานิตฺวา วจนกฺขเณปิ ชานนฺตสฺส มุสา ภณเนฯ ภณนญฺจ นาม อิธ อภูตสฺส วา ภูตตํ ภูตสฺส วา อภูตตํ กตฺวา กาเยน วา วาจาย วา วิญฺญาปนปโยโคฯ สมฺปชานมุสาวาเทติ จ นิมิตฺตเตฺถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺมา โย สมฺปชาน มุสา วทติ, ตสฺส ตํนิมิตฺตํ ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ โหตีติ เอวเมตฺถ อเญฺญสุ จ อีทิเสสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    2.Jānitvā jānantassa ca musā bhaṇaneti pubbabhāgepi jānitvā vacanakkhaṇepi jānantassa musā bhaṇane. Bhaṇanañca nāma idha abhūtassa vā bhūtataṃ bhūtassa vā abhūtataṃ katvā kāyena vā vācāya vā viññāpanapayogo. Sampajānamusāvādeti ca nimittatthe bhummavacanaṃ, tasmā yo sampajāna musā vadati, tassa taṃnimittaṃ taṃhetu tappaccayā pācittiyaṃ hotīti evamettha aññesu ca īdisesu attho veditabbo.

    . วิสํวาเทนฺติ เอเตนาติ วิสํวาทนํ, วญฺจนาธิปฺปายวสปฺปวตฺตํ จิตฺตํฯ เตนาห ‘‘วิสํวาทนจิตฺตํ ปุรโต กตฺวา วทนฺตสฺสา’’ติฯ วทติ เอตายาติ วาจา, วจนสมุฎฺฐาปิกา เจตนาฯ เตนาห ‘‘มิจฺฉาวาจา…เป.… เจตนา’’ติฯ ปเภทคตา วาจาติ อเนกเภทภินฺนาฯ เอวํ ปฐมปเทน สุทฺธเจตนา…เป.… กถิตาติ เวทิตพฺพาติ อิมินา อิมํ ทีเปติ – สุทฺธเจตนา วา สุทฺธสโทฺท วา สุทฺธวิญฺญตฺติ วา มุสาวาโท นาม น โหติ, วิญฺญตฺติยา สเทฺทน จ สหิตา ตํสมุฎฺฐาปิกา เจตนา มุสาวาโทติฯ จกฺขุวเสน อคฺคหิตารมฺมณนฺติ จกฺขุสนฺนิสฺสิเตน วิญฺญาเณน อคฺคหิตมารมฺมณํฯ ฆานาทีนํ ติณฺณํ อินฺทฺริยานํ สมฺปตฺตวิสยคฺคาหกตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตีหิ อินฺทฺริเยหิ เอกาพทฺธํ วิย กตฺวา’’ติฯ ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘จกฺขุนา ทิฎฺฐ’’นฺติ อยํ โวหาโร โลเก ปากโฎติ อาห ‘‘โอฬาริเกเนว นเยนา’’ติฯ

    3. Visaṃvādenti etenāti visaṃvādanaṃ, vañcanādhippāyavasappavattaṃ cittaṃ. Tenāha ‘‘visaṃvādanacittaṃ purato katvā vadantassā’’ti. Vadati etāyāti vācā, vacanasamuṭṭhāpikā cetanā. Tenāha ‘‘micchāvācā…pe… cetanā’’ti. Pabhedagatā vācāti anekabhedabhinnā. Evaṃ paṭhamapadena suddhacetanā…pe… kathitāti veditabbāti iminā imaṃ dīpeti – suddhacetanā vā suddhasaddo vā suddhaviññatti vā musāvādo nāma na hoti, viññattiyā saddena ca sahitā taṃsamuṭṭhāpikā cetanā musāvādoti. Cakkhuvasena aggahitārammaṇanti cakkhusannissitena viññāṇena aggahitamārammaṇaṃ. Ghānādīnaṃ tiṇṇaṃ indriyānaṃ sampattavisayaggāhakattā vuttaṃ ‘‘tīhi indriyehi ekābaddhaṃ viya katvā’’ti. ‘‘Dhanunā vijjhatī’’tiādīsu viya ‘‘cakkhunā diṭṭha’’nti ayaṃ vohāro loke pākaṭoti āha ‘‘oḷārikeneva nayenā’’ti.

    ๑๑. อวีมํสิตฺวาติ อนุปปริกฺขิตฺวาฯ อนุปธาเรตฺวาติ อวินิจฺฉินิตฺวาฯ ชฬตฺตาติ อญฺญาณตายฯ ทารุสกฎํ โยเชตฺวา คโตติ ทารุสกฎํ โยเชตฺวา ตตฺถ นิสีทิตฺวา คโตติ อธิปฺปาโยฯ คโต ภวิสฺสตีติ ตเถว สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา วุตฺตตฺตา มุสาวาโท ชาโตฯ เกจิ ปน ‘‘เกฬิํ กุรุมาโนติ วุตฺตตฺตา เอวํ วทโนฺต ทุพฺภาสิตํ อาปชฺชตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ฯ ชาติอาทีหิเยว หิ ทสหิ อโกฺกสวตฺถูหิ ทวกมฺยตาย วทนฺตสฺส ทุพฺภาสิตํ วุตฺตํฯ วุตฺตเญฺหตํ –

    11.Avīmaṃsitvāti anupaparikkhitvā. Anupadhāretvāti avinicchinitvā. Jaḷattāti aññāṇatāya. Dārusakaṭaṃ yojetvā gatoti dārusakaṭaṃ yojetvā tattha nisīditvā gatoti adhippāyo. Gato bhavissatīti tatheva sanniṭṭhānaṃ katvā vuttattā musāvādo jāto. Keci pana ‘‘keḷiṃ kurumānoti vuttattā evaṃ vadanto dubbhāsitaṃ āpajjatī’’ti vadanti, taṃ na gahetabbaṃ . Jātiādīhiyeva hi dasahi akkosavatthūhi davakamyatāya vadantassa dubbhāsitaṃ vuttaṃ. Vuttañhetaṃ –

    ‘‘หีนุกฺกเฎฺฐหิ อุกฺกฎฺฐํ, หีนํ วา ชาติอาทิหิ;

    ‘‘Hīnukkaṭṭhehi ukkaṭṭhaṃ, hīnaṃ vā jātiādihi;

    อุชุํ วาญฺญาปเทเสน, วเท ทุพฺภาสิตํ ทวา’’ติฯ

    Ujuṃ vāññāpadesena, vade dubbhāsitaṃ davā’’ti.

    จิเตฺตน โถกตรภาวํเยว อคฺคเหตฺวา พหุภาวํเยว คเหตฺวา วุตฺตตฺตา ‘‘คาโม เอกเตโล’’ติอาทินาปิ มุสาวาโท ชาโตฯ จาเรสุนฺติ อุปเนสุํฯ วิสํวาทนปุเรกฺขารตา, วิสํวาทนจิเตฺตน ยมตฺถํ วตฺตุกาโม, ตสฺส ปุคฺคลสฺส วิญฺญาปนปโยโค จาติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิ ฯ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ มุสา ภณนฺตสฺส ปาราชิกํ, อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํสนตฺถํ สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสนตฺถํ ปาจิตฺติยํ, อาจารวิปตฺติยา ทุกฺกฎํ, ‘‘โย เต วิหาเร วสตี’’ติอาทิปริยาเยน อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนตฺถํ ปฎิวิชานนฺตสฺส มุสา ภณิเต ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฎิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฎํ, เกวลํ มุสา ภณนฺตสฺส อิธ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํฯ

    Cittena thokatarabhāvaṃyeva aggahetvā bahubhāvaṃyeva gahetvā vuttattā ‘‘gāmo ekatelo’’tiādināpi musāvādo jāto. Cāresunti upanesuṃ. Visaṃvādanapurekkhāratā, visaṃvādanacittena yamatthaṃ vattukāmo, tassa puggalassa viññāpanapayogo cāti imānettha dve aṅgāni . Uttarimanussadhammārocanatthaṃ musā bhaṇantassa pārājikaṃ, amūlakena pārājikena anuddhaṃsanatthaṃ saṅghādiseso, saṅghādisesena anuddhaṃsanatthaṃ pācittiyaṃ, ācāravipattiyā dukkaṭaṃ, ‘‘yo te vihāre vasatī’’tiādipariyāyena uttarimanussadhammārocanatthaṃ paṭivijānantassa musā bhaṇite thullaccayaṃ, appaṭivijānantassa dukkaṭaṃ, kevalaṃ musā bhaṇantassa idha pācittiyaṃ vuttaṃ.

    มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. มุสาวาทวโคฺค • 1. Musāvādavaggo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทวณฺณนา • 1. Musāvādasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. มุสาวาทสิกฺขาปท-อตฺถโยชนา • 1. Musāvādasikkhāpada-atthayojanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact