Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi

    ๗. มุสาวาทวโคฺค

    7. Musāvādavaggo

    ๔๔๔. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, มุสาวาทา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, มุสาวาทาฯ กตเม ปญฺจ? อตฺถิ มุสาวาโท ปาราชิกคามี, อตฺถิ มุสาวาโท สงฺฆาทิเสสคามี, อตฺถิ มุสาวาโท ถุลฺลจฺจยคามี, อตฺถิ มุสาวาโท ปาจิตฺติยคามี, อตฺถิ มุสาวาโท ทุกฺกฎคามี – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ มุสาวาทา’’ติฯ

    444. ‘‘Kati nu kho, bhante, musāvādā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, musāvādā. Katame pañca? Atthi musāvādo pārājikagāmī, atthi musāvādo saṅghādisesagāmī, atthi musāvādo thullaccayagāmī, atthi musāvādo pācittiyagāmī, atthi musāvādo dukkaṭagāmī – ime kho, upāli, pañca musāvādā’’ti.

    ๔๔๕. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆมเชฺฌ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ฐเปนฺตสฺส – ‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’นฺติ โอมทฺทิตฺวา สเงฺฆน อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตพฺพา’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆมเชฺฌ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ฐเปนฺตสฺส – ‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’นฺติ โอมทฺทิตฺวา สเงฺฆน อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตพฺพาฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตโตฺต จ, จาวนาธิปฺปาโย วตฺตา โหติ, โน วุฎฺฐานาธิปฺปาโย – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆมเชฺฌ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ฐเปนฺตสฺส – ‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’นฺติ โอมทฺทิตฺวา สเงฺฆน อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตพฺพาฯ

    445. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno saṅghamajjhe uposathaṃ vā pavāraṇaṃ vā ṭhapentassa – ‘alaṃ, bhikkhu, mā bhaṇḍanaṃ, mā kalahaṃ, mā viggahaṃ, mā vivāda’nti omadditvā saṅghena uposatho vā pavāraṇā vā kātabbā’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno saṅghamajjhe uposathaṃ vā pavāraṇaṃ vā ṭhapentassa – ‘alaṃ, bhikkhu, mā bhaṇḍanaṃ, mā kalahaṃ, mā viggahaṃ, mā vivāda’nti omadditvā saṅghena uposatho vā pavāraṇā vā kātabbā. Katamehi pañcahi? Alajjī ca hoti, bālo ca, apakatatto ca, cāvanādhippāyo vattā hoti, no vuṭṭhānādhippāyo – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno saṅghamajjhe uposathaṃ vā pavāraṇaṃ vā ṭhapentassa – ‘alaṃ, bhikkhu, mā bhaṇḍanaṃ, mā kalahaṃ, mā viggahaṃ, mā vivāda’nti omadditvā saṅghena uposatho vā pavāraṇā vā kātabbā.

    ‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆมเชฺฌ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ฐเปนฺตสฺส – ‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’นฺติ โอมทฺทิตฺวา สเงฺฆน อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตพฺพาฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, อปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, อปริสุทฺธาชีโว โหติ, พาโล โหติ อพฺยโตฺต, ภณฺฑนการโก โหติ กลหการโก – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน สงฺฆมเชฺฌ อุโปสถํ วา ปวารณํ วา ฐเปนฺตสฺส – ‘อลํ, ภิกฺขุ, มา ภณฺฑนํ, มา กลหํ, มา วิคฺคหํ, มา วิวาท’นฺติ โอมทฺทิตฺวา สเงฺฆน อุโปสโถ วา ปวารณา วา กาตพฺพา’’ติฯ

    ‘‘Aparehipi, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno saṅghamajjhe uposathaṃ vā pavāraṇaṃ vā ṭhapentassa – ‘alaṃ, bhikkhu, mā bhaṇḍanaṃ, mā kalahaṃ, mā viggahaṃ, mā vivāda’nti omadditvā saṅghena uposatho vā pavāraṇā vā kātabbā. Katamehi pañcahi? Aparisuddhakāyasamācāro hoti, aparisuddhavacīsamācāro hoti, aparisuddhājīvo hoti, bālo hoti abyatto, bhaṇḍanakārako hoti kalahakārako – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno saṅghamajjhe uposathaṃ vā pavāraṇaṃ vā ṭhapentassa – ‘alaṃ, bhikkhu, mā bhaṇḍanaṃ, mā kalahaṃ, mā viggahaṃ, mā vivāda’nti omadditvā saṅghena uposatho vā pavāraṇā vā kātabbā’’ti.

    ๔๔๖. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อนุโยโค น ทาตโพฺพ’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อนุโยโค น ทาตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺตานาปตฺติํ น ชานาติ, ลหุกครุกํ อาปตฺติํ น ชานาติ, สาวเสสานวเสสํ อาปตฺติํ น ชานาติ, ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ น ชานาติ, สปฺปฎิกมฺมาปฎิกมฺมํ อาปตฺติํ น ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อนุโยโค น ทาตโพฺพฯ

    446. ‘‘Katihi nu kho, bhante, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno anuyogo na dātabbo’’ti? ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno anuyogo na dātabbo. Katamehi pañcahi? Āpattānāpattiṃ na jānāti, lahukagarukaṃ āpattiṃ na jānāti, sāvasesānavasesaṃ āpattiṃ na jānāti, duṭṭhullāduṭṭhullaṃ āpattiṃ na jānāti, sappaṭikammāpaṭikammaṃ āpattiṃ na jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno anuyogo na dātabbo.

    ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อนุโยโค ทาตโพฺพฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺตานาปตฺติํ ชานาติ, ลหุกครุกํ อาปตฺติํ ชานาติ, สาวเสสานวเสสํ อาปตฺติํ ชานาติ, ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ชานาติ, สปฺปฎิกมฺมาปฎิกมฺมํ อาปตฺติํ ชานาติ – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อนุโยโค ทาตโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Pañcahupāli, aṅgehi samannāgatassa bhikkhuno anuyogo dātabbo. Katamehi pañcahi? Āpattānāpattiṃ jānāti, lahukagarukaṃ āpattiṃ jānāti, sāvasesānavasesaṃ āpattiṃ jānāti, duṭṭhullāduṭṭhullaṃ āpattiṃ jānāti, sappaṭikammāpaṭikammaṃ āpattiṃ jānāti – imehi kho, upāli, pañcahaṅgehi samannāgatassa bhikkhuno anuyogo dātabbo’’ti.

    ๔๔๗. ‘‘กติหิ นุ โข, ภเนฺต, อากาเรหิ ภิกฺขุ อาปตฺติํ อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อากาเรหิ ภิกฺขุ อาปตฺติํ อาปชฺชติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชิตา, อญฺญาณตา, กุกฺกุจฺจปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญิตา – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหากาเรหิ ภิกฺขุ อาปตฺติํ อาปชฺชติฯ

    447. ‘‘Katihi nu kho, bhante, ākārehi bhikkhu āpattiṃ āpajjatī’’ti? ‘‘Pañcahupāli, ākārehi bhikkhu āpattiṃ āpajjati. Katamehi pañcahi? Alajjitā, aññāṇatā, kukkuccapakatatā, akappiye kappiyasaññitā, kappiye akappiyasaññitā – imehi kho, upāli, pañcahākārehi bhikkhu āpattiṃ āpajjati.

    ‘‘อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหากาเรหิ ภิกฺขุ อาปตฺติํ อาปชฺชติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ ? อทสฺสเนน, อสฺสวเนน, ปสุตฺตกตา, ตถาสญฺญี, สติสโมฺมสา – อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหากาเรหิ ภิกฺขุ อาปตฺติํ อาปชฺชตี’’ติฯ

    ‘‘Aparehipi, upāli, pañcahākārehi bhikkhu āpattiṃ āpajjati. Katamehi pañcahi ? Adassanena, assavanena, pasuttakatā, tathāsaññī, satisammosā – imehi kho, upāli, pañcahākārehi bhikkhu āpattiṃ āpajjatī’’ti.

    ๔๔๘. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, เวรา’’ติ? ‘‘ปญฺจิเม, อุปาลิ, เวราฯ กตเม ปญฺจ? ปาณาติปาโต , อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฎฺฐานํ – อิเม โข, อุปาลิ, ปญฺจ เวรา’’ติฯ

    448. ‘‘Kati nu kho, bhante, verā’’ti? ‘‘Pañcime, upāli, verā. Katame pañca? Pāṇātipāto , adinnādānaṃ, kāmesumicchācāro, musāvādo, surāmerayamajjappamādaṭṭhānaṃ – ime kho, upāli, pañca verā’’ti.

    ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, เวรมณิโย’’ติ? ‘‘ปญฺจิมา, อุปาลิ, เวรมณิโยฯ กตมา ปญฺจ? ปาณาติปาตา เวรมณี 1, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, สุราเมรยมชฺชปฺปมาทฎฺฐานา เวรมณี – อิมา โข, อุปาลิ, ปญฺจ เวรมณิโย’’ติฯ

    ‘‘Kati nu kho, bhante, veramaṇiyo’’ti? ‘‘Pañcimā, upāli, veramaṇiyo. Katamā pañca? Pāṇātipātā veramaṇī 2, adinnādānā veramaṇī, kāmesumicchācārā veramaṇī, musāvādā veramaṇī, surāmerayamajjappamādaṭṭhānā veramaṇī – imā kho, upāli, pañca veramaṇiyo’’ti.

    ๔๔๙. ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, พฺยสนานี’’ติ? ‘‘ปญฺจิมานิ, อุปาลิ, พฺยสนานิฯ 3 กตมานิ ปญฺจ? ญาติพฺยสนํ, โภคพฺยสนํ, โรคพฺยสนํ, สีลพฺยสนํ, ทิฎฺฐิพฺยสนํ – อิมานิ โข, อุปาลิ, ปญฺจ พฺยสนานี’’ติฯ

    449. ‘‘Kati nu kho, bhante, byasanānī’’ti? ‘‘Pañcimāni, upāli, byasanāni. 4 Katamāni pañca? Ñātibyasanaṃ, bhogabyasanaṃ, rogabyasanaṃ, sīlabyasanaṃ, diṭṭhibyasanaṃ – imāni kho, upāli, pañca byasanānī’’ti.

    ‘‘กติ นุ โข, ภเนฺต, สมฺปทา’’ติ? ‘‘ปญฺจิมา, อุปาลิ, สมฺปทาฯ 5 กตมา ปญฺจ? ญาติสมฺปทา, โภคสมฺปทา, อาโรคฺยสมฺปทา, สีลสมฺปทา, ทิฎฺฐิสมฺปทา – อิมา โข, อุปาลิ, ปญฺจ สมฺปทา’’ติฯ

    ‘‘Kati nu kho, bhante, sampadā’’ti? ‘‘Pañcimā, upāli, sampadā. 6 Katamā pañca? Ñātisampadā, bhogasampadā, ārogyasampadā, sīlasampadā, diṭṭhisampadā – imā kho, upāli, pañca sampadā’’ti.

    มุสาวาทวโคฺค นิฎฺฐิโต สตฺตโมฯ

    Musāvādavaggo niṭṭhito sattamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    มุสาวาโท จ โอมทฺทิ, อปเรหิ อนุโยโค;

    Musāvādo ca omaddi, aparehi anuyogo;

    อาปตฺติญฺจ อปเรหิ, เวรา เวรมณีปิ จ;

    Āpattiñca aparehi, verā veramaṇīpi ca;

    พฺยสนํ สมฺปทา เจว, สตฺตโม วคฺคสงฺคโหติฯ

    Byasanaṃ sampadā ceva, sattamo vaggasaṅgahoti.







    Footnotes:
    1. เวรมณิ (ก.)
    2. veramaṇi (ka.)
    3. ปริ. ๓๒๕; อ. นิ. ๕.๑๓๐
    4. pari. 325; a. ni. 5.130
    5. ปริ. ๓๒๕; อ. นิ. ๕.๑๓๐
    6. pari. 325; a. ni. 5.130



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / มุสาวาทวคฺควณฺณนา • Musāvādavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / มุสาวาทวคฺควณฺณนา • Musāvādavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / มุสาวาทวคฺควณฺณนา • Musāvādavaggavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โวหารวคฺคาทิวณฺณนา • Vohāravaggādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / มุสาวาทวคฺควณฺณนา • Musāvādavaggavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact