A World of Knowledge
    Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    วินยปิฎเก

    Vinayapiṭake

    ปาจิตฺติยปาฬิ

    Pācittiyapāḷi

    ๕. ปาจิตฺติยกณฺฑํ

    5. Pācittiyakaṇḍaṃ

    ๑. มุสาวาทวโคฺค

    1. Musāvādavaggo

    ๑. มุสาวาทสิกฺขาปทํ

    1. Musāvādasikkhāpadaṃ

    อิเม โข ปนายสฺมโนฺต เทฺวนวุติ ปาจิตฺติยา

    Ime kho panāyasmanto dvenavuti pācittiyā

    ธมฺมา อุเทฺทสํ อาคจฺฉนฺติฯ

    Dhammā uddesaṃ āgacchanti.

    . เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน หตฺถโก สกฺยปุโตฺต วาทกฺขิโตฺต โหติฯ โส ติตฺถิเยหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานาติ, ปฎิชานิตฺวา อวชานาติ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ, สมฺปชานมุสา ภาสติ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทติฯ ติตฺถิยา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม หตฺถโก สกฺยปุโตฺต อเมฺหหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานิสฺสติ, ปฎิชานิตฺวา อวชานิสฺสติ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจริสฺสติ, สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสติ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทสฺสตี’’ติ!

    1. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena hatthako sakyaputto vādakkhitto hoti. So titthiyehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānāti, paṭijānitvā avajānāti, aññenaññaṃ paṭicarati, sampajānamusā bhāsati, saṅketaṃ katvā visaṃvādeti. Titthiyā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma hatthako sakyaputto amhehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānissati, paṭijānitvā avajānissati, aññenaññaṃ paṭicarissati, sampajānamusā bhāsissati, saṅketaṃ katvā visaṃvādessatī’’ti!

    อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ ติตฺถิยานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู เยน หตฺถโก สกฺยปุโตฺต เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา หตฺถกํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อาวุโส หตฺถก, ติตฺถิเยหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานาสิ, ปฎิชานิตฺวา อวชานาสิ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรสิ, สมฺปชานมุสา ภาสสิ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทสี’’ติ? ‘‘เอเต โข, อาวุโส, ติตฺถิยา นาม เยน เกนจิ เชตพฺพา; เนว เตสํ ชโย ทาตโพฺพ’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม หตฺถโก สกฺยปุโตฺต ติตฺถิเยหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานิสฺสติ, ปฎิชานิตฺวา อวชานิสฺสติ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจริสฺสติ, สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสติ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทสฺสตี’’ติ!

    Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ titthiyānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū yena hatthako sakyaputto tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā hatthakaṃ sakyaputtaṃ etadavocuṃ – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, āvuso hatthaka, titthiyehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānāsi, paṭijānitvā avajānāsi, aññenaññaṃ paṭicarasi, sampajānamusā bhāsasi, saṅketaṃ katvā visaṃvādesī’’ti? ‘‘Ete kho, āvuso, titthiyā nāma yena kenaci jetabbā; neva tesaṃ jayo dātabbo’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma hatthako sakyaputto titthiyehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānissati, paṭijānitvā avajānissati, aññenaññaṃ paṭicarissati, sampajānamusā bhāsissati, saṅketaṃ katvā visaṃvādessatī’’ti!

    อถ โข เต ภิกฺขู หตฺถกํ สกฺยปุตฺตํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา หตฺถกํ สกฺยปุตฺตํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, หตฺถก, ติตฺถิเยหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานาสิ, ปฎิชานิตฺวา อวชานาสิ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรสิ, สมฺปชานมุสา ภาสสิ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ติตฺถิเยหิ สทฺธิํ สลฺลปโนฺต อวชานิตฺวา ปฎิชานิสฺสสิ, ปฎิชานิตฺวา อวชานิสฺสสิ, อเญฺญนญฺญํ ปฎิจริสฺสสิ, สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสสิ, สเงฺกตํ กตฺวา วิสํวาเทสฺสสิ! เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho te bhikkhū hatthakaṃ sakyaputtaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā hatthakaṃ sakyaputtaṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, hatthaka, titthiyehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānāsi, paṭijānitvā avajānāsi, aññenaññaṃ paṭicarasi, sampajānamusā bhāsasi, saṅketaṃ katvā visaṃvādesī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, titthiyehi saddhiṃ sallapanto avajānitvā paṭijānissasi, paṭijānitvā avajānissasi, aññenaññaṃ paṭicarissasi, sampajānamusā bhāsissasi, saṅketaṃ katvā visaṃvādessasi! Netaṃ, moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    . ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    2.‘‘Sampajānamusāvāde pācittiya’’nti.

    . สมฺปชานมุสาวาโท นาม วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส วาจา, คิรา, พฺยปฺปโถ, วจีเภโท, วาจสิกา วิญฺญตฺติ, อฎฺฐ อนริยโวหารา – อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เมติ, อสฺสุตํ สุตํ เมติ, อมุตํ มุตํ เมติ, อวิญฺญาตํ วิญฺญาตํ เมติ, ทิฎฺฐํ อทิฎฺฐํ เมติ, สุตํ อสฺสุตํ เมติ , มุตํ อมุตํ เมติ, วิญฺญาตํ อวิญฺญาตํ เมติฯ

    3.Sampajānamusāvādo nāma visaṃvādanapurekkhārassa vācā, girā, byappatho, vacībhedo, vācasikā viññatti, aṭṭha anariyavohārā – adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ meti, assutaṃ sutaṃ meti, amutaṃ mutaṃ meti, aviññātaṃ viññātaṃ meti, diṭṭhaṃ adiṭṭhaṃ meti, sutaṃ assutaṃ meti , mutaṃ amutaṃ meti, viññātaṃ aviññātaṃ meti.

    อทิฎฺฐํ นาม น จกฺขุนา ทิฎฺฐํฯ อสฺสุตํ นาม น โสเตน สุตํฯ อมุตํ นาม น ฆาเนน ฆายิตํ, น ชิวฺหาย สายิตํ, น กาเยน ผุฎฺฐํฯ อวิญฺญาตํ นาม น มนสา วิญฺญาตํฯ ทิฎฺฐํ นาม จกฺขุนา ทิฎฺฐํฯ สุตํ นาม โสเตน สุตํฯ มุตํ นาม ฆาเนน ฆายิตํ, ชิวฺหาย สายิตํ, กาเยน ผุฎฺฐํฯ วิญฺญาตํ นาม มนสา วิญฺญาตํฯ

    Adiṭṭhaṃ nāma na cakkhunā diṭṭhaṃ. Assutaṃ nāma na sotena sutaṃ. Amutaṃ nāma na ghānena ghāyitaṃ, na jivhāya sāyitaṃ, na kāyena phuṭṭhaṃ. Aviññātaṃ nāma na manasā viññātaṃ. Diṭṭhaṃ nāma cakkhunā diṭṭhaṃ. Sutaṃ nāma sotena sutaṃ. Mutaṃ nāma ghānena ghāyitaṃ, jivhāya sāyitaṃ, kāyena phuṭṭhaṃ. Viññātaṃ nāma manasā viññātaṃ.

    . ตีหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติฯ

    4. Tīhākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti.

    จตูหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, วินิธาย ทิฎฺฐิํฯ

    Catūhākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti, vinidhāya diṭṭhiṃ.

    ปญฺจหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, วินิธาย ทิฎฺฐิํ, วินิธาย ขนฺติํฯ

    Pañcahākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti, vinidhāya diṭṭhiṃ, vinidhāya khantiṃ.

    ฉหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ , วินิธาย ทิฎฺฐิํ, วินิธาย ขนฺติํ, วินิธาย รุจิํฯ

    Chahākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti , vinidhāya diṭṭhiṃ, vinidhāya khantiṃ, vinidhāya ruciṃ.

    สตฺตหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส’’ – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, วินิธาย ทิฎฺฐิํ, วินิธาย ขนฺติํ, วินิธาย รุจิํ, วินิธาย ภาวํฯ

    Sattahākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa’’ – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti, vinidhāya diṭṭhiṃ, vinidhāya khantiṃ, vinidhāya ruciṃ, vinidhāya bhāvaṃ.

    . ตีหากาเรหิ ‘‘อสฺสุตํ สุตํ เม’’ติ…เป.… อมุตํ มุตํ เมติ…เป.… อวิญฺญาตํ วิญฺญาตํ เมติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติฯ

    5. Tīhākārehi ‘‘assutaṃ sutaṃ me’’ti…pe… amutaṃ mutaṃ meti…pe… aviññātaṃ viññātaṃ meti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti.

    จตูหากาเรหิ…เป.… ปญฺจหากาเรหิ…เป.… ฉหากาเรหิ…เป.… สตฺตหากาเรหิ ‘‘อวิญฺญาตํ วิญฺญาตํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิตนฺติ, วินิธาย ทิฎฺฐิํ, วินิธาย ขนฺติํ, วินิธาย รุจิํ, วินิธาย ภาวํฯ

    Catūhākārehi…pe… pañcahākārehi…pe… chahākārehi…pe… sattahākārehi ‘‘aviññātaṃ viññātaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇitanti, vinidhāya diṭṭhiṃ, vinidhāya khantiṃ, vinidhāya ruciṃ, vinidhāya bhāvaṃ.

    . ตีหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐญฺจ เม มุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ ‘‘อทิฎฺฐํ ทิฎฺฐญฺจ เม วิญฺญาตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส …เป.… ตีหากาเรหิ อทิฎฺฐํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจ มุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อทิฎฺฐํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจ วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อทิฎฺฐํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจ มุตญฺจ วิญฺญาตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    6. Tīhākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhañca me sutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhañca me mutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi ‘‘adiṭṭhaṃ diṭṭhañca me viññātañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa …pe… tīhākārehi adiṭṭhaṃ ‘‘diṭṭhañca me sutañca mutañcā’’ti…pe… tīhākārehi adiṭṭhaṃ ‘‘diṭṭhañca me sutañca viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi adiṭṭhaṃ ‘‘diṭṭhañca me sutañca mutañca viññātañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจ วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจ ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อสฺสุตํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจ วิญฺญาตญฺจ ทิฎฺฐญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me mutañcā’’ti…pe… tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me diṭṭhañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me mutañca viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me mutañca diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi assutaṃ ‘‘sutañca me mutañca viññātañca diṭṭhañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม สุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจ ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจ สุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อมุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจ ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me sutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me viññātañca diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me viññātañca sutañcā’’ti…pe… tīhākārehi amutaṃ ‘‘mutañca me viññātañca diṭṭhañca sutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม สุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม มุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ มุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ อวิญฺญาตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจ มุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me sutañcā’’ti…pe… tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me mutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañca sutañcā’’ti…pe… tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañca mutañcā’’ti…pe… tīhākārehi aviññātaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañca sutañca mutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    . ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘อทิฎฺฐํ เม’’ติ…เป.… สุตํ ‘‘อสฺสุตํ เม’’ติ…เป.… มุตํ ‘‘อมุตํ เม’’ติ…เป.… วิญฺญาตํ ‘‘อวิญฺญาตํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    7. Tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘adiṭṭhaṃ me’’ti…pe… sutaṃ ‘‘assutaṃ me’’ti…pe… mutaṃ ‘‘amutaṃ me’’ti…pe… viññātaṃ ‘‘aviññātaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    . ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘สุตํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘มุตํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘วิญฺญาตํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘สุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ ทิฎฺฐํ ‘‘สุตญฺจ เม มุตญฺจ วิญฺญาตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    8. Tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘sutaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘mutaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘viññātaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘sutañca me mutañcā’’ti…pe… tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘sutañca me viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi diṭṭhaṃ ‘‘sutañca me mutañca viññātañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘มุตํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘วิญฺญาตํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘ทิฎฺฐํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘มุตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ สุตํ ‘‘มุตญฺจ เม วิญฺญาตญฺจ ทิฎฺฐญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi sutaṃ ‘‘mutaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi sutaṃ ‘‘viññātaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi sutaṃ ‘‘diṭṭhaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi sutaṃ ‘‘mutañca me viññātañcā’’ti…pe… tīhākārehi sutaṃ ‘‘mutañca me diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi sutaṃ ‘‘mutañca me viññātañca diṭṭhañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘วิญฺญาตํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘ทิฎฺฐํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘สุตํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม สุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ มุตํ ‘‘วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi mutaṃ ‘‘viññātaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi mutaṃ ‘‘diṭṭhaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi mutaṃ ‘‘sutaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi mutaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañcā’’ti…pe… tīhākārehi mutaṃ ‘‘viññātañca me sutañcā’’ti…pe… tīhākārehi mutaṃ ‘‘viññātañca me diṭṭhañca sutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘ทิฎฺฐํ เม’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘สุตํ เม’’ติ …เป.… ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘มุตํ เม’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.… ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม มุตญฺจา’’ติ…เป.… ตีหากาเรหิ วิญฺญาตํ ‘‘ทิฎฺฐญฺจ เม สุตญฺจ มุตญฺจา’’ติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Tīhākārehi viññātaṃ ‘‘diṭṭhaṃ me’’ti…pe… tīhākārehi viññātaṃ ‘‘sutaṃ me’’ti …pe… tīhākārehi viññātaṃ ‘‘mutaṃ me’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe… tīhākārehi viññātaṃ ‘‘diṭṭhañca me sutañcā’’ti…pe… tīhākārehi viññātaṃ ‘‘diṭṭhañca me mutañcā’’ti…pe… tīhākārehi viññātaṃ ‘‘diṭṭhañca me sutañca mutañcā’’ti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    . ตีหากาเรหิ ทิเฎฺฐ เวมติโก ทิฎฺฐํ โนกเปฺปติ, ทิฎฺฐํ นสฺสรติ , ทิฎฺฐํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… สุเต เวมติโก สุตํ โนกเปฺปติ, สุตํ นสฺสรติ, สุตํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… มุเต เวมติโก มุตํ โนกเปฺปติ, มุตํ นสฺสรติ, มุตํ ปมุโฎฺฐ โหติ…เป.… วิญฺญาเต เวมติโก วิญฺญาตํ โนกเปฺปติ, วิญฺญาตํ นสฺสรติ, วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ… วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจาติ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ วิญฺญาตญฺจ เม สุตญฺจาติ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ; วิญฺญาตญฺจ เม มุตญฺจาติ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ; วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจาติ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ; วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ มุตญฺจาติ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ; วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจ มุตญฺจาติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    9. Tīhākārehi diṭṭhe vematiko diṭṭhaṃ nokappeti, diṭṭhaṃ nassarati , diṭṭhaṃ pamuṭṭho hoti…pe… sute vematiko sutaṃ nokappeti, sutaṃ nassarati, sutaṃ pamuṭṭho hoti…pe… mute vematiko mutaṃ nokappeti, mutaṃ nassarati, mutaṃ pamuṭṭho hoti…pe… viññāte vematiko viññātaṃ nokappeti, viññātaṃ nassarati, viññātaṃ pamuṭṭho hoti… viññātañca me diṭṭhañcāti…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti viññātañca me sutañcāti…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti; viññātañca me mutañcāti…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti; viññātañca me diṭṭhañca sutañcāti…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti; viññātañca me diṭṭhañca mutañcāti…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti; viññātañca me diṭṭhañca sutañca mutañcāti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    ๑๐. จตูหากาเรหิ…เป.… ปญฺจหากาเรหิ…เป.… ฉหากาเรหิ…เป.… สตฺตหากาเรหิ…เป.… วิญฺญาตํ ปมุโฎฺฐ โหติ, วิญฺญาตญฺจ เม ทิฎฺฐญฺจ สุตญฺจ มุตญฺจาติ สมฺปชานมุสา ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส – ปุเพฺพวสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ, ภณนฺตสฺส โหติ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ, ภณิตสฺส โหติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, วินิธาย ทิฎฺฐิํ, วินิธาย ขนฺติํ, วินิธาย รุจิํ, วินิธาย ภาวํฯ

    10. Catūhākārehi…pe… pañcahākārehi…pe… chahākārehi…pe… sattahākārehi…pe… viññātaṃ pamuṭṭho hoti, viññātañca me diṭṭhañca sutañca mutañcāti sampajānamusā bhaṇantassa āpatti pācittiyassa – pubbevassa hoti ‘‘musā bhaṇissa’’nti, bhaṇantassa hoti ‘‘musā bhaṇāmī’’ti, bhaṇitassa hoti ‘‘musā mayā bhaṇita’’nti, vinidhāya diṭṭhiṃ, vinidhāya khantiṃ, vinidhāya ruciṃ, vinidhāya bhāvaṃ.

    ๑๑. อนาปตฺติ ทวา ภณติ, รวา ภณติ 1‘‘ทวา ภณติ นาม สหสา ภณติฯ รวา ภณติ นาม ‘อญฺญํ ภณิสฺสามี’ติ อญฺญํ ภณติ’’ฯ อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    11. Anāpatti davā bhaṇati, ravā bhaṇati 2. ‘‘Davā bhaṇati nāma sahasā bhaṇati. Ravā bhaṇati nāma ‘aññaṃ bhaṇissāmī’ti aññaṃ bhaṇati’’. Ummattakassa, ādikammikassāti.

    มุสาวาทสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Musāvādasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.

    ๒. โอมสวาทสิกฺขาปทํ

    2. Omasavādasikkhāpadaṃ

    ๑๒. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม ฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เปสเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ภณฺฑนฺตา 3 เปสเล ภิกฺขู โอมสนฺติ – ชาติยาปิ, นาเมนปิ, โคเตฺตนปิ, กเมฺมนปิ, สิเปฺปนปิ, อาพาเธนปิ, ลิเงฺคนปิ, กิเลเสนปิ, อาปตฺติยาปิ; หีเนนปิ อโกฺกเสน ขุํเสนฺติ วเมฺภนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เปสเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ภณฺฑนฺตา เปสเล ภิกฺขู โอมสิสฺสนฺติ – ชาติยาปิ, นาเมนปิ, โคเตฺตนปิ, กเมฺมนปิ, สิเปฺปนปิ, อาพาเธนปิ, ลิเงฺคนปิ, กิเลเสนปิ, อาปตฺติยาปิ; หีเนนปิ อโกฺกเสน ขุํเสสฺสนฺติ วเมฺภสฺสนฺตี’’ติ!

    12. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme . Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū pesalehi bhikkhūhi saddhiṃ bhaṇḍantā 4 pesale bhikkhū omasanti – jātiyāpi, nāmenapi, gottenapi, kammenapi, sippenapi, ābādhenapi, liṅgenapi, kilesenapi, āpattiyāpi; hīnenapi akkosena khuṃsenti vambhenti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū pesalehi bhikkhūhi saddhiṃ bhaṇḍantā pesale bhikkhū omasissanti – jātiyāpi, nāmenapi, gottenapi, kammenapi, sippenapi, ābādhenapi, liṅgenapi, kilesenapi, āpattiyāpi; hīnenapi akkosena khuṃsessanti vambhessantī’’ti!

    อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, เปสเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ภณฺฑนฺตา เปสเล ภิกฺขู โอมสถ – ชาติยาปิ…เป.… หีเนนปิ อโกฺกเสน ขุํเสถ วเมฺภถาติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, เปสเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ภณฺฑนฺตา เปสเล ภิกฺขู โอมสิสฺสถ – ชาติยาปิ…เป.… หีเนนปิ อโกฺกเสน ขุํเสสฺสถ วเมฺภสฺสถ ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ –

    Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, pesalehi bhikkhūhi saddhiṃ bhaṇḍantā pesale bhikkhū omasatha – jātiyāpi…pe… hīnenapi akkosena khuṃsetha vambhethāti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, pesalehi bhikkhūhi saddhiṃ bhaṇḍantā pesale bhikkhū omasissatha – jātiyāpi…pe… hīnenapi akkosena khuṃsessatha vambhessatha ! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi –

    ๑๓. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, ตกฺกสิลายํ 5 อญฺญตรสฺส พฺราหฺมณสฺส นนฺทิวิสาโล นาม พลีพโทฺท 6 อโหสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิวิสาโล พลีพโทฺท ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เสฎฺฐินา สทฺธิํ สหเสฺสน อพฺภุตํ กโรหิ – มยฺหํ พลีพโทฺท สกฎสตํ อติพทฺธํ ปวเฎฺฎสฺสตี’’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, โส พฺราหฺมโณ เสฎฺฐินา สทฺธิํ สหเสฺสน อพฺภุตํ อกาสิ – มยฺหํ พลีพโทฺท สกฎสตํ อติพทฺธํ ปวเฎฺฎสฺสตีติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, โส พฺราหฺมโณ สกฎสตํ อติพนฺธิตฺวา นนฺทิวิสาลํ พลีพทฺทํ ยุญฺชิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘คจฺฉ, กูฎ 7, วหสฺสุ, กูฎา’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิวิสาโล พลีพโทฺท ตเตฺถว อฎฺฐาสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, โส พฺราหฺมโณ สหเสฺสน ปราชิโต ปชฺฌายิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิวิสาโล พลีพโทฺท ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ปชฺฌายสี’’ติ? ‘ตถา หิ ปนาหํ, โภ, ตยา สหเสฺสน ปราชิโต’’ติฯ ‘กิสฺส ปน มํ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อกูฎํ กูฎวาเทน ปาเปสิ? คจฺฉ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, เสฎฺฐินา สทฺธิํ ทฺวีหิ สหเสฺสหิ อพฺภุตํ กโรหิ – ‘‘มยฺหํ พลีพโทฺท สกฎสตํ อติพทฺธํ ปวเฎฺฎสฺสตี’’ติฯ ‘‘มา จ มํ อกูฎํ กูฎวาเทน ปาเปสี’’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, โส พฺราหฺมโณ เสฎฺฐินา สทฺธิํ ทฺวีหิ สหเสฺสหิ อพฺภุตํ อกาสิ – ‘‘มยฺหํ พลีพโทฺท สกฎสตํ อติพทฺธํ ปวเฎฺฎสฺสตี’’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, โส พฺราหฺมโณ สกฎสตํ อติพนฺธิตฺวา นนฺทิวิสาลํ พลีพทฺทํ ยุญฺชิตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉ, ภทฺร, วหสฺสุ, ภทฺรา’’ติฯ อถ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิวิสาโล พลีพโทฺท สกฎสตํ อติพทฺธํ ปวเฎฺฎสิฯ

    13. ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, takkasilāyaṃ 8 aññatarassa brāhmaṇassa nandivisālo nāma balībaddo 9 ahosi. Atha kho, bhikkhave, nandivisālo balībaddo taṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘gaccha tvaṃ, brāhmaṇa, seṭṭhinā saddhiṃ sahassena abbhutaṃ karohi – mayhaṃ balībaddo sakaṭasataṃ atibaddhaṃ pavaṭṭessatī’’ti. Atha kho, bhikkhave, so brāhmaṇo seṭṭhinā saddhiṃ sahassena abbhutaṃ akāsi – mayhaṃ balībaddo sakaṭasataṃ atibaddhaṃ pavaṭṭessatīti. Atha kho, bhikkhave, so brāhmaṇo sakaṭasataṃ atibandhitvā nandivisālaṃ balībaddaṃ yuñjitvā etadavoca – ‘‘gaccha, kūṭa 10, vahassu, kūṭā’ti. Atha kho, bhikkhave, nandivisālo balībaddo tattheva aṭṭhāsi. Atha kho, bhikkhave, so brāhmaṇo sahassena parājito pajjhāyi. Atha kho, bhikkhave, nandivisālo balībaddo taṃ brāhmaṇaṃ etadavoca – ‘‘kissa tvaṃ, brāhmaṇa, pajjhāyasī’’ti? ‘Tathā hi panāhaṃ, bho, tayā sahassena parājito’’ti. ‘Kissa pana maṃ tvaṃ, brāhmaṇa, akūṭaṃ kūṭavādena pāpesi? Gaccha tvaṃ, brāhmaṇa, seṭṭhinā saddhiṃ dvīhi sahassehi abbhutaṃ karohi – ‘‘mayhaṃ balībaddo sakaṭasataṃ atibaddhaṃ pavaṭṭessatī’’ti. ‘‘Mā ca maṃ akūṭaṃ kūṭavādena pāpesī’’ti. Atha kho, bhikkhave, so brāhmaṇo seṭṭhinā saddhiṃ dvīhi sahassehi abbhutaṃ akāsi – ‘‘mayhaṃ balībaddo sakaṭasataṃ atibaddhaṃ pavaṭṭessatī’’ti. Atha kho, bhikkhave, so brāhmaṇo sakaṭasataṃ atibandhitvā nandivisālaṃ balībaddaṃ yuñjitvā etadavoca – ‘‘accha, bhadra, vahassu, bhadrā’’ti. Atha kho, bhikkhave, nandivisālo balībaddo sakaṭasataṃ atibaddhaṃ pavaṭṭesi.

    11 ‘‘มนาปเมว ภาเสยฺย, นา, มนาปํ กุทาจนํ;

    12 ‘‘Manāpameva bhāseyya, nā, manāpaṃ kudācanaṃ;

    มนาปํ ภาสมานสฺส, ครุํ ภารํ อุทพฺพหิ;

    Manāpaṃ bhāsamānassa, garuṃ bhāraṃ udabbahi;

    ธนญฺจ นํ อลาเภสิ, เตน จ, ตฺตมโน อหูติฯ

    Dhanañca naṃ alābhesi, tena ca, ttamano ahūti.

    ‘‘ตทาปิ เม, ภิกฺขเว, อมนาปา ขุํสนา วมฺภนาฯ กิมงฺคํ ปน เอตรหิ มนาปา ภวิสฺสติ ขุํสนา วมฺภนา? เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.…ฯ ‘‘เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    ‘‘Tadāpi me, bhikkhave, amanāpā khuṃsanā vambhanā. Kimaṅgaṃ pana etarahi manāpā bhavissati khuṃsanā vambhanā? Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe…. ‘‘Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๑๔. ‘‘โอมสวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    14.‘‘Omasavāde pācittiya’’nti.

    ๑๕. โอมสวาโท นาม ทสหิ อากาเรหิ โอมสติ – ชาติยาปิ, นาเมนปิ, โคเตฺตนปิ, กเมฺมนปิ, สิเปฺปนปิ, อาพาเธนปิ, ลิเงฺคนปิ, กิเลเสนปิ, อาปตฺติยาปิ, อโกฺกเสนปิฯ

    15.Omasavādo nāma dasahi ākārehi omasati – jātiyāpi, nāmenapi, gottenapi, kammenapi, sippenapi, ābādhenapi, liṅgenapi, kilesenapi, āpattiyāpi, akkosenapi.

    ชาติ นาม เทฺว ชาติโย – หีนา จ ชาติ อุกฺกฎฺฐา จ ชาติฯ หีนา นาม ชาติ – จณฺฑาลชาติ, เวนชาติ, เนสาทชาติ, รถการชาติ, ปุกฺกุสชาติฯ เอสา หีนา นาม ชาติฯ อุกฺกฎฺฐา นาม ชาติ – ขตฺติยชาติ, พฺราหฺมณชาติฯ เอสา อุกฺกฎฺฐา นาม ชาติฯ

    Jāti nāma dve jātiyo – hīnā ca jāti ukkaṭṭhā ca jāti. Hīnā nāma jāti – caṇḍālajāti, venajāti, nesādajāti, rathakārajāti, pukkusajāti. Esā hīnā nāma jāti. Ukkaṭṭhā nāma jāti – khattiyajāti, brāhmaṇajāti. Esā ukkaṭṭhā nāma jāti.

    นามํ นาม เทฺว นามานิ – หีนญฺจ นามํ อุกฺกฎฺฐญฺจ นามํ ฯ หีนํ นาม นามํ – อวกณฺณกํ, ชวกณฺณกํ, ธนิฎฺฐกํ, สวิฎฺฐกํ, กุลวฑฺฒกํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ โอญฺญาตํ อวญฺญาตํ หีฬิตํ ปริภูตํ อจิตฺตีกตํ, เอตํ หีนํ นาม นามํฯ อุกฺกฎฺฐํ นาม นามํ – พุทฺธปฺปฎิสํยุตฺตํ, ธมฺมปฺปฎิสํยุตฺตํ, สงฺฆปฺปฎิสํยุตฺตํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ อโนญฺญาตํ อนวญฺญาตํ อหีฬิตํ อปริภูตํ จิตฺตีกตํ, เอตํ อุกฺกฎฺฐํ นาม นามํฯ

    Nāmaṃ nāma dve nāmāni – hīnañca nāmaṃ ukkaṭṭhañca nāmaṃ . Hīnaṃ nāma nāmaṃ – avakaṇṇakaṃ, javakaṇṇakaṃ, dhaniṭṭhakaṃ, saviṭṭhakaṃ, kulavaḍḍhakaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu oññātaṃ avaññātaṃ hīḷitaṃ paribhūtaṃ acittīkataṃ, etaṃ hīnaṃ nāma nāmaṃ. Ukkaṭṭhaṃ nāma nāmaṃ – buddhappaṭisaṃyuttaṃ, dhammappaṭisaṃyuttaṃ, saṅghappaṭisaṃyuttaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu anoññātaṃ anavaññātaṃ ahīḷitaṃ aparibhūtaṃ cittīkataṃ, etaṃ ukkaṭṭhaṃ nāma nāmaṃ.

    โคตฺตํ นาม เทฺว โคตฺตานิ – หีนญฺจ โคตฺตํ อุกฺกฎฺฐญฺจ โคตฺตํฯ หีนํ นาม โคตฺตํ – โกสิยโคตฺตํ, ภารทฺวาชโคตฺตํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ โอญฺญาตํ อวญฺญาตํ หีฬิตํ ปริภูตํ อจิตฺตีกตํ, เอตํ หีนํ นาม โคตฺตํฯ อุกฺกฎฺฐํ นาม โคตฺตํ – โคตมโคตฺตํ, โมคฺคลฺลานโคตฺตํ, กจฺจานโคตฺตํ, วาสิฎฺฐโคตฺตํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ อโนญฺญาตํ อนวญฺญาตํ อหีฬิตํ อปริภูตํ จิตฺตีกตํ, เอตํ อุกฺกฎฺฐํ นาม โคตฺตํฯ

    Gottaṃ nāma dve gottāni – hīnañca gottaṃ ukkaṭṭhañca gottaṃ. Hīnaṃ nāma gottaṃ – kosiyagottaṃ, bhāradvājagottaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu oññātaṃ avaññātaṃ hīḷitaṃ paribhūtaṃ acittīkataṃ, etaṃ hīnaṃ nāma gottaṃ. Ukkaṭṭhaṃ nāma gottaṃ – gotamagottaṃ, moggallānagottaṃ, kaccānagottaṃ, vāsiṭṭhagottaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu anoññātaṃ anavaññātaṃ ahīḷitaṃ aparibhūtaṃ cittīkataṃ, etaṃ ukkaṭṭhaṃ nāma gottaṃ.

    กมฺมํ นาม เทฺว กมฺมานิ – หีนญฺจ กมฺมํ อุกฺกฎฺฐญฺจ กมฺมํฯ หีนํ นาม กมฺมํ – โกฎฺฐกกมฺมํ, ปุปฺผฉฑฺฑกกมฺมํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ โอญฺญาตํ อวญฺญาตํ หีฬิตํ ปริภูตํ อจิตฺตีกตํ, เอตํ หีนํ นาม กมฺมํฯ อุกฺกฎฺฐํ นาม กมฺมํ – กสิ, วณิชฺชา, โครกฺขา, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ อโนญฺญาตํ อนวญฺญาตํ อหีฬิตํ อปริภูตํ จิตฺตีกตํฯ เอตํ อุกฺกฎฺฐํ นาม กมฺมํฯ

    Kammaṃ nāma dve kammāni – hīnañca kammaṃ ukkaṭṭhañca kammaṃ. Hīnaṃ nāma kammaṃ – koṭṭhakakammaṃ, pupphachaḍḍakakammaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu oññātaṃ avaññātaṃ hīḷitaṃ paribhūtaṃ acittīkataṃ, etaṃ hīnaṃ nāma kammaṃ. Ukkaṭṭhaṃ nāma kammaṃ – kasi, vaṇijjā, gorakkhā, tesu tesu vā pana janapadesu anoññātaṃ anavaññātaṃ ahīḷitaṃ aparibhūtaṃ cittīkataṃ. Etaṃ ukkaṭṭhaṃ nāma kammaṃ.

    สิปฺปํ นาม เทฺว สิปฺปานิ – หีนญฺจ สิปฺปํ อุกฺกฎฺฐญฺจ สิปฺปํ ฯ หีนํ นาม สิปฺปํ – นฬการสิปฺปํ, กุมฺภการสิปฺปํ, เปสการสิปฺปํ, จมฺมการสิปฺปํ, นหาปิตสิปฺปํ, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ โอญฺญาตํ อวญฺญาตํ หีฬิตํ ปริภูตํ อจิตฺตีกตํฯ เอตํ หีนํ นาม สิปฺปํฯ อุกฺกฎฺฐํ นาม สิปฺปํ – มุทฺทา, คณนา, เลขา, เตสุ เตสุ วา ปน ชนปเทสุ อโนญฺญาตํ อนวญฺญาตํ อหีฬิตํ อปริภูตํ จิตฺตีกตํ, เอตํ อุกฺกฎฺฐํ นาม สิปฺปํฯ

    Sippaṃ nāma dve sippāni – hīnañca sippaṃ ukkaṭṭhañca sippaṃ . Hīnaṃ nāma sippaṃ – naḷakārasippaṃ, kumbhakārasippaṃ, pesakārasippaṃ, cammakārasippaṃ, nahāpitasippaṃ, tesu tesu vā pana janapadesu oññātaṃ avaññātaṃ hīḷitaṃ paribhūtaṃ acittīkataṃ. Etaṃ hīnaṃ nāma sippaṃ. Ukkaṭṭhaṃ nāma sippaṃ – muddā, gaṇanā, lekhā, tesu tesu vā pana janapadesu anoññātaṃ anavaññātaṃ ahīḷitaṃ aparibhūtaṃ cittīkataṃ, etaṃ ukkaṭṭhaṃ nāma sippaṃ.

    สเพฺพปิ อาพาธา หีนา, อปิจ มธุเมโห อาพาโธ อุกฺกโฎฺฐฯ

    Sabbepi ābādhā hīnā, apica madhumeho ābādho ukkaṭṭho.

    ลิงฺคํ นาม เทฺว ลิงฺคานิ – หีนญฺจ ลิงฺคํ อุกฺกฎฺฐญฺจ ลิงฺคํฯ หีนํ นาม ลิงฺคํ – อติทีฆํ, อติรสฺสํ, อติกณฺหํ, อโจฺจทาตํ, เอตํ หีนํ นาม ลิงฺคํฯ อุกฺกฎฺฐํ นาม ลิงฺคํ – นาติทีฆํ, นาติรสฺสํ, นาติกณฺหํ, นาโจฺจทาตํฯ เอตํ อุกฺกฎฺฐํ นาม ลิงฺคํฯ

    Liṅgaṃ nāma dve liṅgāni – hīnañca liṅgaṃ ukkaṭṭhañca liṅgaṃ. Hīnaṃ nāma liṅgaṃ – atidīghaṃ, atirassaṃ, atikaṇhaṃ, accodātaṃ, etaṃ hīnaṃ nāma liṅgaṃ. Ukkaṭṭhaṃ nāma liṅgaṃ – nātidīghaṃ, nātirassaṃ, nātikaṇhaṃ, nāccodātaṃ. Etaṃ ukkaṭṭhaṃ nāma liṅgaṃ.

    สเพฺพปิ กิเลสา หีนาฯ

    Sabbepi kilesā hīnā.

    สพฺพาปิ อาปตฺติโย หีนาฯ อปิจ, โสตาปตฺติสมาปตฺติ อุกฺกฎฺฐาฯ

    Sabbāpi āpattiyo hīnā. Apica, sotāpattisamāpatti ukkaṭṭhā.

    อโกฺกโส นาม เทฺว อโกฺกสา – หีโน จ อโกฺกโส อุกฺกโฎฺฐ จ อโกฺกโสฯ หีโน นาม อโกฺกโส – โอโฎฺฐสิ, เมโณฺฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสิ; นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขาติ, ยกาเรน วา ภกาเรน วา, กาฎโกฎจิกาย วา, เอโส หีโน นาม อโกฺกโสฯ อุกฺกโฎฺฐ นาม อโกฺกโส – ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ , เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ, สุคติเยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขาติ, เอโส อุกฺกโฎฺฐ นาม อโกฺกโสฯ

    Akkoso nāma dve akkosā – hīno ca akkoso ukkaṭṭho ca akkoso. Hīno nāma akkoso – oṭṭhosi, meṇḍosi, goṇosi, gadrabhosi, tiracchānagatosi, nerayikosi; natthi tuyhaṃ sugati, duggati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhāti, yakārena vā bhakārena vā, kāṭakoṭacikāya vā, eso hīno nāma akkoso. Ukkaṭṭho nāma akkoso – paṇḍitosi, byattosi , medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati, sugatiyeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhāti, eso ukkaṭṭho nāma akkoso.

    ๑๖. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, จณฺฑาลํ เวนํ เนสาทํ รถการํ ปุกฺกุสํ – ‘‘จณฺฑาโลสิ, เวโนสิ, เนสาโทสิ, รถกาโรสิ, ปุกฺกุโสสี’’ติ ภณติ 13, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    16. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, caṇḍālaṃ venaṃ nesādaṃ rathakāraṃ pukkusaṃ – ‘‘caṇḍālosi, venosi, nesādosi, rathakārosi, pukkusosī’’ti bhaṇati 14, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ขตฺติยํ พฺราหฺมณํ – ‘‘จณฺฑาโลสิ, เวโนสิ, เนสาโทสิ, รถกาโรสิ, ปุกฺกุโสสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, khattiyaṃ brāhmaṇaṃ – ‘‘caṇḍālosi, venosi, nesādosi, rathakārosi, pukkusosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, จณฺฑาลํ เวนํ เนสาทํ รถการํ ปุกฺกุสํ – ‘‘ขตฺติโยสิ, พฺราหฺมโณสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, caṇḍālaṃ venaṃ nesādaṃ rathakāraṃ pukkusaṃ – ‘‘khattiyosi, brāhmaṇosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ขตฺติยํ พฺราหฺมณํ – ‘‘ขตฺติโยสิ, พฺราหฺมโณสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, khattiyaṃ brāhmaṇaṃ – ‘‘khattiyosi, brāhmaṇosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๑๗. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, อวกณฺณกํ ชวกณฺณกํ ธนิฎฺฐกํ สวิฎฺฐกํ กุลวฑฺฒกํ – ‘‘อวกณฺณโกสิ, ชวกณฺณโกสิ, ธนิฎฺฐโกสิ, สวิฎฺฐโกสิ, กุลวฑฺฒโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    17. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, avakaṇṇakaṃ javakaṇṇakaṃ dhaniṭṭhakaṃ saviṭṭhakaṃ kulavaḍḍhakaṃ – ‘‘avakaṇṇakosi, javakaṇṇakosi, dhaniṭṭhakosi, saviṭṭhakosi, kulavaḍḍhakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, พุทฺธรกฺขิตํ ธมฺมรกฺขิตํ สงฺฆรกฺขิตํ – ‘‘อวกณฺณโกสิ, ชวกณฺณโกสิ, ธนิฎฺฐโกสิ, สวิฎฺฐโกสิ, กุลวฑฺฒโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, buddharakkhitaṃ dhammarakkhitaṃ saṅgharakkhitaṃ – ‘‘avakaṇṇakosi, javakaṇṇakosi, dhaniṭṭhakosi, saviṭṭhakosi, kulavaḍḍhakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, อวกณฺณกํ ชวกณฺณกํ ธนิฎฺฐกํ สวิฎฺฐกํ กุลวฑฺฒกํ – ‘‘พุทฺธรกฺขิโตสิ, ธมฺมรกฺขิโตสิ, สงฺฆรกฺขิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, avakaṇṇakaṃ javakaṇṇakaṃ dhaniṭṭhakaṃ saviṭṭhakaṃ kulavaḍḍhakaṃ – ‘‘buddharakkhitosi, dhammarakkhitosi, saṅgharakkhitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฎฺฐํ วเทติ, พุทฺธรกฺขิตํ ธมฺมรกฺขิตํ สงฺฆรกฺขิตํ – ‘‘พุทฺธรกฺขิโตสิ, ธมฺมรกฺขิโตสิ, สงฺฆรกฺขิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukaṭṭhaṃ vadeti, buddharakkhitaṃ dhammarakkhitaṃ saṅgharakkhitaṃ – ‘‘buddharakkhitosi, dhammarakkhitosi, saṅgharakkhitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๑๘. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, โกสิยํ ภารทฺวาชํ – ‘‘โกสิโยสิ, ภารทฺวาโชสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    18. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, kosiyaṃ bhāradvājaṃ – ‘‘kosiyosi, bhāradvājosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, โคตมํ โมคฺคลฺลานํ กจฺจานํ วาสิฎฺฐํ – ‘‘โกสิโยสิ, ภารทฺวาโชสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, gotamaṃ moggallānaṃ kaccānaṃ vāsiṭṭhaṃ – ‘‘kosiyosi, bhāradvājosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, โกสิยํ ภารทฺวาชํ – ‘‘โคตโมสิ, โมคฺคลฺลาโนสิ, กจฺจาโนสิ, วาสิโฎฺฐสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, kosiyaṃ bhāradvājaṃ – ‘‘gotamosi, moggallānosi, kaccānosi, vāsiṭṭhosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, โคตมํ โมคฺคลฺลานํ กจฺจานํ วาสิฎฺฐํ – ‘‘โคตโมสิ, โมคฺคลฺลาโนสิ, กจฺจาโนสิ, วาสิโฎฺฐสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, gotamaṃ moggallānaṃ kaccānaṃ vāsiṭṭhaṃ – ‘‘gotamosi, moggallānosi, kaccānosi, vāsiṭṭhosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๑๙. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, โกฎฺฐกํ ปุปฺผฉฑฺฑกํ – ‘‘โกฎฺฐโกสิ, ปุปฺผฉฑฺฑโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    19. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, koṭṭhakaṃ pupphachaḍḍakaṃ – ‘‘koṭṭhakosi, pupphachaḍḍakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, กสฺสกํ วาณิชํ โครกฺขํ – ‘‘โกฎฺฐโกสิ, ปุปฺผฉฑฺฑโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, kassakaṃ vāṇijaṃ gorakkhaṃ – ‘‘koṭṭhakosi, pupphachaḍḍakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, โกฎฺฐกํ ปุปฺผฉฑฺฑกํ – ‘‘กสฺสโกสิ, วาณิโชสิ, โครโกฺขสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, koṭṭhakaṃ pupphachaḍḍakaṃ – ‘‘kassakosi, vāṇijosi, gorakkhosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, กสฺสกํ วาณิชํ โครกฺขํ – ‘‘กสฺสโกสิ, วาณิโชสิ, โครโกฺขสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, kassakaṃ vāṇijaṃ gorakkhaṃ – ‘‘kassakosi, vāṇijosi, gorakkhosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๐. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, นฬการํ กุมฺภการํ เปสการํ จมฺมการํ นหาปิตํ – ‘‘นฬกาโรสิ, กุมฺภกาโรสิ, เปสกาโรสิ, จมฺมกาโรสิ, นหาปิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    20. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, naḷakāraṃ kumbhakāraṃ pesakāraṃ cammakāraṃ nahāpitaṃ – ‘‘naḷakārosi, kumbhakārosi, pesakārosi, cammakārosi, nahāpitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, มุทฺทิกํ คณกํ เลขกํ – ‘‘นฬกาโรสิ, กุมฺภกาโรสิ, เปสกาโรสิ, จมฺมกาโรสิ, นหาปิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, muddikaṃ gaṇakaṃ lekhakaṃ – ‘‘naḷakārosi, kumbhakārosi, pesakārosi, cammakārosi, nahāpitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, นฬการํ กุมฺภการํ เปสการํ จมฺมการํ นหาปิตํ – ‘‘มุทฺทิโกสิ, คณโกสิ, เลขโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, naḷakāraṃ kumbhakāraṃ pesakāraṃ cammakāraṃ nahāpitaṃ – ‘‘muddikosi, gaṇakosi, lekhakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, มุทฺทิกํ คณกํ เลขกํ – ‘‘มุทฺทิโกสิ, คณโกสิ, เลขโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, muddikaṃ gaṇakaṃ lekhakaṃ – ‘‘muddikosi, gaṇakosi, lekhakosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๑. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, กุฎฺฐิกํ คณฺฑิกํ กิลาสิกํ โสสิกํ อปมาริกํ – ‘‘กุฎฺฐิโกสิ, คณฺฑิโกสิ, กิลาสิโกสิ, โสสิโกสิ, อปมาริโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    21. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, kuṭṭhikaṃ gaṇḍikaṃ kilāsikaṃ sosikaṃ apamārikaṃ – ‘‘kuṭṭhikosi, gaṇḍikosi, kilāsikosi, sosikosi, apamārikosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, มธุเมหิกํ – ‘‘กุฎฺฐิโกสิ, คณฺฑิโกสิ, กิลาสิโกสิ, โสสิโกสิ, อปมาริโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, madhumehikaṃ – ‘‘kuṭṭhikosi, gaṇḍikosi, kilāsikosi, sosikosi, apamārikosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, กุฎฺฐิกํ คณฺฑิกํ กิลาสิกํ โสสิกํ อปมาริกํ – ‘‘มธุเมหิโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, kuṭṭhikaṃ gaṇḍikaṃ kilāsikaṃ sosikaṃ apamārikaṃ – ‘‘madhumehikosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, มธุเมหิกํ – ‘‘มธุเมหิโกสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, madhumehikaṃ – ‘‘madhumehikosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๒. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, อติทีฆํ อติรสฺสํ อติกณฺหํ อโจฺจทาตํ – ‘‘อติทีโฆสิ, อติรโสฺสสิ, อติกโณฺหสิ, อโจฺจทาโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    22. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, atidīghaṃ atirassaṃ atikaṇhaṃ accodātaṃ – ‘‘atidīghosi, atirassosi, atikaṇhosi, accodātosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, นาติทีฆํ นาติรสฺสํ นาติกณฺหํ นาโจฺจทาตํ – ‘‘อติทีโฆสิ, อติรโสฺสสิ, อติกโณฺหสิ, อโจฺจทาโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, nātidīghaṃ nātirassaṃ nātikaṇhaṃ nāccodātaṃ – ‘‘atidīghosi, atirassosi, atikaṇhosi, accodātosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, อติทีฆํ อติรสฺสํ อติกณฺหํ อโจฺจทาตํ – ‘‘นาติทีโฆสิ, นาติรโสฺสสิ, นาติกโณฺหสิ, นาโจฺจทาโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, atidīghaṃ atirassaṃ atikaṇhaṃ accodātaṃ – ‘‘nātidīghosi, nātirassosi, nātikaṇhosi, nāccodātosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, นาติทีฆํ นาติรสฺสํ นาติกณฺหํ นาโจฺจทาตํ – ‘‘นาติทีโฆสิ, นาติรโสฺสสิ, นาติกโณฺหสิ, นาโจฺจทาโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, nātidīghaṃ nātirassaṃ nātikaṇhaṃ nāccodātaṃ – ‘‘nātidīghosi, nātirassosi, nātikaṇhosi, nāccodātosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๓. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, ราคปริยุฎฺฐิตํ โทสปริยุฎฺฐิตํ โมหปริยุฎฺฐิตํ – ‘‘ราคปริยุฎฺฐิโตสิ, โทสปริยุฎฺฐิโตสิ, โมหปริยุฎฺฐิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    23. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, rāgapariyuṭṭhitaṃ dosapariyuṭṭhitaṃ mohapariyuṭṭhitaṃ – ‘‘rāgapariyuṭṭhitosi, dosapariyuṭṭhitosi, mohapariyuṭṭhitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, วีตราคํ วีตโทสํ วีตโมหํ – ‘‘ราคปริยุฎฺฐิโตสิ , โทสปริยุฎฺฐิโตสิ, โมหปริยุฎฺฐิโตสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, vītarāgaṃ vītadosaṃ vītamohaṃ – ‘‘rāgapariyuṭṭhitosi , dosapariyuṭṭhitosi, mohapariyuṭṭhitosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, ราคปริยุฎฺฐิตํ โทสปริยุฎฺฐิตํ โมหปริยุฎฺฐิตํ – ‘‘วีตราโคสิ, วีตโทโสสิ, วีตโมโหสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, rāgapariyuṭṭhitaṃ dosapariyuṭṭhitaṃ mohapariyuṭṭhitaṃ – ‘‘vītarāgosi, vītadososi, vītamohosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, วีตราคํ วีตโทสํ วีตโมหํ – ‘‘วีตราโคสิ, วีตโทโสสิ, วีตโมโหสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, vītarāgaṃ vītadosaṃ vītamohaṃ – ‘‘vītarāgosi, vītadososi, vītamohosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๔. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺนํ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปนฺนํ ถุลฺลจฺจยํ อชฺฌาปนฺนํ ปาจิตฺติยํ อชฺฌาปนฺนํ ปาฎิเทสนียํ อชฺฌาปนฺนํ ทุกฺกฎํ อชฺฌาปนฺนํ ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺนํ – ‘‘ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺนสิ, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปโนฺนสิ, ถุลฺลจฺจยํ อชฺฌาปโนฺนสิ, ปาจิตฺติยํ อชฺฌาปโนฺนสิ, ปาฎิเทสนียํ อชฺฌาปโนฺนสิ, ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺนสิ, ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปโนฺนสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    24. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, pārājikaṃ ajjhāpannaṃ saṅghādisesaṃ ajjhāpannaṃ thullaccayaṃ ajjhāpannaṃ pācittiyaṃ ajjhāpannaṃ pāṭidesanīyaṃ ajjhāpannaṃ dukkaṭaṃ ajjhāpannaṃ dubbhāsitaṃ ajjhāpannaṃ – ‘‘pārājikaṃ ajjhāpannosi, saṅghādisesaṃ ajjhāpannosi, thullaccayaṃ ajjhāpannosi, pācittiyaṃ ajjhāpannosi, pāṭidesanīyaṃ ajjhāpannosi, dukkaṭaṃ ajjhāpannosi, dubbhāsitaṃ ajjhāpannosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, โสตาปนฺนํ – ‘‘ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺนสิ…เป.… ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปโนฺนสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, sotāpannaṃ – ‘‘pārājikaṃ ajjhāpannosi…pe… dubbhāsitaṃ ajjhāpannosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺนํ…เป.… ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺนํ – ‘‘โสตาปโนฺนสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, pārājikaṃ ajjhāpannaṃ…pe… dubbhāsitaṃ ajjhāpannaṃ – ‘‘sotāpannosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, โสตาปนฺนํ – ‘‘โสตาปโนฺนสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, sotāpannaṃ – ‘‘sotāpannosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๕. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ, โอฎฺฐํ เมณฺฑํ โคณํ คทฺรภํ ติรจฺฉานคตํ เนรยิกํ – ‘‘โอโฎฺฐสิ, เมโณฺฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    25. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti, oṭṭhaṃ meṇḍaṃ goṇaṃ gadrabhaṃ tiracchānagataṃ nerayikaṃ – ‘‘oṭṭhosi, meṇḍosi, goṇosi, gadrabhosi, tiracchānagatosi, nerayikosi, natthi tuyhaṃ sugati, duggati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ปณฺฑิตํ พฺยตฺตํ เมธาวิ พหุสฺสุตํ ธมฺมกถิกํ – ‘‘โอโฎฺฐสิ, เมโณฺฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสิ; นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ, ทุคฺคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, paṇḍitaṃ byattaṃ medhāvi bahussutaṃ dhammakathikaṃ – ‘‘oṭṭhosi, meṇḍosi, goṇosi, gadrabhosi, tiracchānagatosi, nerayikosi; natthi tuyhaṃ sugati, duggati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, โอฎฺฐํ เมณฺฑํ โคณํ คทฺรภํ ติรจฺฉานคตํ เนรยิกํ – ‘‘ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, oṭṭhaṃ meṇḍaṃ goṇaṃ gadrabhaṃ tiracchānagataṃ nerayikaṃ – ‘‘paṇḍitosi, byattosi, medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati, sugati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ปณฺฑิตํ พฺยตฺตํ เมธาวิํ พหุสฺสุตํ ธมฺมกถิกํ – ‘‘ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, paṇḍitaṃ byattaṃ medhāviṃ bahussutaṃ dhammakathikaṃ – ‘‘paṇḍitosi, byattosi, medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati, sugati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๒๖. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    26. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ขตฺติยา, พฺราหฺมณา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce khattiyā, brāhmaṇā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๒๗. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ อวกณฺณกา ชวกณฺณกา ธนิฎฺฐกา สวิฎฺฐกา กุลวฑฺฒกา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ พุทฺธรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สงฺฆรกฺขิตา’’ติ ภณติ …เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ โกสิยา ภารทฺวาชา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ โคตมา โมคฺคลฺลานา กจฺจานา วาสิฎฺฐา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ โกฎฺฐกา ปุปฺผฉฑฺฑกา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ กสฺสกา วาณิชา โครกฺขา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ นฬการา กุมฺภการา เปสการา จมฺมการา นหาปิตา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ มุทฺทิกา คณกา เลขกา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ กุฎฺฐิกา คณฺฑิกา กิลาสิกา โสสิกา อปมาริกา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ มธุเมหิกา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ อติทีฆา อติรสฺสา อติกณฺหา อโจฺจทาตา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ นาติทีฆา นาติรสฺสา นาติกณฺหา นาโจฺจทาตา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ราคปริยุฎฺฐิตา โทสปริยุฎฺฐิตา โมหปริยุฎฺฐิตา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ วีตราคา วีตโทสา วีตโมหา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺนา…เป.… ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปนฺนา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ โสตาปนฺนา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ โอฎฺฐา เมณฺฑา โคณา คทฺรภา ติรจฺฉานคตา เนรยิกา, นตฺถิ เตสํ สุคติ, ทุคฺคติเยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    27. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce avakaṇṇakā javakaṇṇakā dhaniṭṭhakā saviṭṭhakā kulavaḍḍhakā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce buddharakkhitā dhammarakkhitā saṅgharakkhitā’’ti bhaṇati …pe…. ‘‘Santi idhekacce kosiyā bhāradvājā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce gotamā moggallānā kaccānā vāsiṭṭhā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce koṭṭhakā pupphachaḍḍakā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce kassakā vāṇijā gorakkhā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce naḷakārā kumbhakārā pesakārā cammakārā nahāpitā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce muddikā gaṇakā lekhakā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce kuṭṭhikā gaṇḍikā kilāsikā sosikā apamārikā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce madhumehikā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce atidīghā atirassā atikaṇhā accodātā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce nātidīghā nātirassā nātikaṇhā nāccodātā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce rāgapariyuṭṭhitā dosapariyuṭṭhitā mohapariyuṭṭhitā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce vītarāgā vītadosā vītamohā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce pārājikaṃ ajjhāpannā…pe… dubbhāsitaṃ ajjhāpannā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce sotāpannā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce oṭṭhā meṇḍā goṇā gadrabhā tiracchānagatā nerayikā, natthi tesaṃ sugati, duggatiyeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๒๘. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา, เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถิ เตสํ ทุคฺคติ, สุคติเยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    28. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce paṇḍitā byattā, medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthi tesaṃ duggati, sugatiyeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๒๙. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘เย นูน จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    29. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘ye nūna caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa…pe….

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘เย นูน ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘ye nūna paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๓๐. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘น มยํ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘น มยํ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถมฺหากํ ทุคฺคติ, สุคติเยว อมฺหากํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    30. Upasampanno upasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘na mayaṃ caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Na mayaṃ paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthamhākaṃ duggati, sugatiyeva amhākaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๓๑. อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม หีเนน หีนํ วเทติ,…เป.… หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ปณฺฑิตํ พฺยตฺตํ เมธาวิํ พหุสฺสุตํ ธมฺมกถิกํ – ‘‘ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ, สุคติเยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    31. Upasampanno anupasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo hīnena hīnaṃ vadeti,…pe… hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, paṇḍitaṃ byattaṃ medhāviṃ bahussutaṃ dhammakathikaṃ – ‘‘paṇḍitosi, byattosi, medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati, sugatiyeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถิ เตสํ ทุคฺคติ, สุคติเยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthi tesaṃ duggati, sugatiyeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘เย นูน จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘เย นูน ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘ye nūna caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Ye nūna paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ ขุํเสตุกาโม วเมฺภตุกาโม มงฺกุกตฺตุกาโม เอวํ วเทติ, ‘‘น มยํ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘น มยํ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถมฺหากํ ทุคฺคติ, สุคติเยว อมฺหากํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ khuṃsetukāmo vambhetukāmo maṅkukattukāmo evaṃ vadeti, ‘‘na mayaṃ caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Na mayaṃ paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthamhākaṃ duggati, sugatiyeva amhākaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๓๒. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา หีเนน หีนํ วเทติ, จณฺฑาลํ เวนํ เนสาทํ รถการํ ปุกฺกุสํ – ‘‘จณฺฑาโลสิ, เวโนสิ, เนสาโทสิ, รถกาโรสิ , ปุกฺกุโสสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    32. Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā hīnena hīnaṃ vadeti, caṇḍālaṃ venaṃ nesādaṃ rathakāraṃ pukkusaṃ – ‘‘caṇḍālosi, venosi, nesādosi, rathakārosi , pukkusosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ขตฺติยํ พฺราหฺมณํ – ‘‘จณฺฑาโลสิ, เวโนสิ, เนสาโทสิ, รถกาโรสิ, ปุกฺกุโสสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti, khattiyaṃ brāhmaṇaṃ – ‘‘caṇḍālosi, venosi, nesādosi, rathakārosi, pukkusosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ, จณฺฑาลํ เวนํ เนสาทํ รถการํ ปุกฺกุสํ – ‘‘ขตฺติโยสิ, พฺราหฺมโณสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti, caṇḍālaṃ venaṃ nesādaṃ rathakāraṃ pukkusaṃ – ‘‘khattiyosi, brāhmaṇosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ขตฺติยํ พฺราหฺมณํ – ‘‘ขตฺติโยสิ, พฺราหฺมโณสี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, khattiyaṃ brāhmaṇaṃ – ‘‘khattiyosi, brāhmaṇosī’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา หีเนน หีนํ วเทติ…เป.… หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ปณฺฑิตํ พฺยตฺตํ เมธาวิํ พหุสฺสุตํ ธมฺมกถิกํ – ‘‘ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā hīnena hīnaṃ vadeti…pe… hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, paṇḍitaṃ byattaṃ medhāviṃ bahussutaṃ dhammakathikaṃ – ‘‘paṇḍitosi, byattosi, medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati, sugati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    ๓๓. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถิ เตสํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    33. Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthi tesaṃ duggati, sugati yeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘เย นูน จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘เย นูน ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘ye nūna caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Ye nūna paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘น มยํ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘น มยํ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถมฺหากํ ทุคฺคติ, สุคติเยว อมฺหากํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno upasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘na mayaṃ caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Na mayaṃ paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthamhākaṃ duggati, sugatiyeva amhākaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati. Āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    ๓๔. อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา หีเนน หีนํ วเทติ…เป.… หีเนน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน หีนํ วเทติ…เป.… อุกฺกเฎฺฐน อุกฺกฎฺฐํ วเทติ, ปณฺฑิตํ พฺยตฺตํ เมธาวิํ พหุสฺสุตํ ธมฺมกถิกํ – ‘‘ปณฺฑิโตสิ , พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ ธมฺมกถิโกสิ, นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ; สุคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    34. Upasampanno anupasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā hīnena hīnaṃ vadeti…pe… hīnena ukkaṭṭhaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena hīnaṃ vadeti…pe… ukkaṭṭhena ukkaṭṭhaṃ vadeti, paṇḍitaṃ byattaṃ medhāviṃ bahussutaṃ dhammakathikaṃ – ‘‘paṇḍitosi , byattosi, medhāvīsi, bahussutosi dhammakathikosi, natthi tuyhaṃ duggati; sugati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถิ เตสํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘santi idhekacce caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Santi idhekacce paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthi tesaṃ duggati, sugati yeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘เย นูน จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘เย นูน ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘ye nūna caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Ye nūna paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนํ น ขุํเสตุกาโม น วเมฺภตุกาโม น มงฺกุกตฺตุกาโม, ทวกมฺยตา เอวํ วเทติ, ‘‘น มยํ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’’ติ ภณติ…เป.…ฯ ‘‘น มยํ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถมฺหากํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว อมฺหากํ ปาฎิกงฺขา’’ติ ภณติ, อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุพฺภาสิตสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannaṃ na khuṃsetukāmo na vambhetukāmo na maṅkukattukāmo, davakamyatā evaṃ vadeti, ‘‘na mayaṃ caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’’ti bhaṇati…pe…. ‘‘Na mayaṃ paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthamhākaṃ duggati, sugati yeva amhākaṃ pāṭikaṅkhā’’ti bhaṇati, āpatti vācāya, vācāya dubbhāsitassa.

    ๓๕. อนาปตฺติ อตฺถปุเรกฺขารสฺส, ธมฺมปุเรกฺขารสฺส, อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, ขิตฺตจิตฺตสฺส, เวทนาฎฺฎสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    35. Anāpatti atthapurekkhārassa, dhammapurekkhārassa, anusāsanipurekkhārassa, ummattakassa, khittacittassa, vedanāṭṭassa, ādikammikassāti.

    โอมสวาทสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ

    Omasavādasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.

    ๓. เปสุญฺญสิกฺขาปทํ

    3. Pesuññasikkhāpadaṃ

    ๓๖. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ เปสุญฺญํ อุปสํหรนฺติ; อิมสฺส สุตฺวา อมุสฺส อกฺขายนฺติ, อิมสฺส เภทาย; อมุสฺส สุตฺวา อิมสฺส อกฺขายนฺติ, อมุสฺส เภทายฯ เตน อนุปฺปนฺนานิ เจว ภณฺฑนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนานิ จ ภณฺฑนานิ ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ เปสุญฺญํ อุปสํหริสฺสนฺติ, อิมสฺส สุตฺวา อมุสฺส อกฺขายิสฺสนฺติ, อิมสฺส เภทาย; อมุสฺส สุตฺวา อิมสฺส อกฺขายิสฺสนฺติ, อมุสฺส เภทาย! เตน อนุปฺปนฺนานิ เจว ภณฺฑนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนานิ จ ภณฺฑนานิ ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ เปสุญฺญํ อุปสํหรถ, อิมสฺส สุตฺวา อมุสฺส อกฺขายถ, อิมสฺส เภทาย, อมุสฺส สุตฺวา อิมสฺส อกฺขายถ, อมุสฺส เภทาย? เตน อนุปฺปนฺนานิ เจว ภณฺฑนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนานิ จ ภณฺฑนานิ ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ , ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขูนํ ภณฺฑนชาตานํ กลหชาตานํ วิวาทาปนฺนานํ เปสุญฺญํ อุปสํหริสฺสถ! อิมสฺส สุตฺวา อมุสฺส อกฺขายิสฺสถ, อิมสฺส เภทาย! อมุสฺส สุตฺวา อิมสฺส อกฺขายิสฺสถ, อมุสฺส เภทาย! เตน อนุปฺปนฺนานิ เจว ภณฺฑนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนานิ จ ภณฺฑนานิ ภิโยฺยภาวาย เวปุลฺลาย สํวตฺตนฺติฯ เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทายฯ ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    36. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bhikkhūnaṃ bhaṇḍanajātānaṃ kalahajātānaṃ vivādāpannānaṃ pesuññaṃ upasaṃharanti; imassa sutvā amussa akkhāyanti, imassa bhedāya; amussa sutvā imassa akkhāyanti, amussa bhedāya. Tena anuppannāni ceva bhaṇḍanāni uppajjanti, uppannāni ca bhaṇḍanāni bhiyyobhāvāya vepullāya saṃvattanti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhūnaṃ bhaṇḍanajātānaṃ kalahajātānaṃ vivādāpannānaṃ pesuññaṃ upasaṃharissanti, imassa sutvā amussa akkhāyissanti, imassa bhedāya; amussa sutvā imassa akkhāyissanti, amussa bhedāya! Tena anuppannāni ceva bhaṇḍanāni uppajjanti, uppannāni ca bhaṇḍanāni bhiyyobhāvāya vepullāya saṃvattantī’’ti. Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhūnaṃ bhaṇḍanajātānaṃ kalahajātānaṃ vivādāpannānaṃ pesuññaṃ upasaṃharatha, imassa sutvā amussa akkhāyatha, imassa bhedāya, amussa sutvā imassa akkhāyatha, amussa bhedāya? Tena anuppannāni ceva bhaṇḍanāni uppajjanti, uppannāni ca bhaṇḍanāni bhiyyobhāvāya vepullāya saṃvattantī’’ti? ‘‘Saccaṃ , bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhūnaṃ bhaṇḍanajātānaṃ kalahajātānaṃ vivādāpannānaṃ pesuññaṃ upasaṃharissatha! Imassa sutvā amussa akkhāyissatha, imassa bhedāya! Amussa sutvā imassa akkhāyissatha, amussa bhedāya! Tena anuppannāni ceva bhaṇḍanāni uppajjanti, uppannāni ca bhaṇḍanāni bhiyyobhāvāya vepullāya saṃvattanti. Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya. Pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๓๗. ‘‘ภิกฺขุเปสุเญฺญ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    37.‘‘Bhikkhupesuññe pācittiya’’nti.

    ๓๘. เปสุญฺญํ นาม ทฺวีหากาเรหิ เปสุญฺญํ โหติ – ปิยกมฺยสฺส วา เภทาธิปฺปายสฺส วาฯ ทสหากาเรหิ เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ชาติโตปิ, นามโตปิ, โคตฺตโตปิ, กมฺมโตปิ, สิปฺปโตปิ, อาพาธโตปิ, ลิงฺคโตปิ, กิเลสโตปิ, อาปตฺติโตปิ, อโกฺกสโตปิฯ

    38.Pesuññaṃ nāma dvīhākārehi pesuññaṃ hoti – piyakamyassa vā bhedādhippāyassa vā. Dasahākārehi pesuññaṃ upasaṃharati – jātitopi, nāmatopi, gottatopi, kammatopi, sippatopi, ābādhatopi, liṅgatopi, kilesatopi, āpattitopi, akkosatopi.

    ชาติ นาม เทฺว ชาติโย – หีนา จ ชาติ อุกฺกฎฺฐา จ ชาติฯ หีนา นาม ชาติ – จณฺฑาลชาติ เวนชาติ เนสาทชาติ รถการชาติ ปุกฺกุสชาติ ฯ เอสา หีนา นาม ชาติฯ อุกฺกฎฺฐา นาม ชาติ – ขตฺติยชาติ พฺราหฺมณชาติฯ เอสา อุกฺกฎฺฐา นาม ชาติ…เป.…ฯ

    Jāti nāma dve jātiyo – hīnā ca jāti ukkaṭṭhā ca jāti. Hīnā nāma jāti – caṇḍālajāti venajāti nesādajāti rathakārajāti pukkusajāti . Esā hīnā nāma jāti. Ukkaṭṭhā nāma jāti – khattiyajāti brāhmaṇajāti. Esā ukkaṭṭhā nāma jāti…pe….

    อโกฺกโส นาม เทฺว อโกฺกสา – หีโน จ อโกฺกโส อุกฺกโฎฺฐ จ อโกฺกโสฯ หีโน นาม อโกฺกโส – โอโฎฺฐสิ, เมโณฺฑสิ, โคโณสิ, คทฺรโภสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, เนรยิโกสิ; นตฺถิ ตุยฺหํ สุคติ; ทุคฺคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขาติ, ยกาเรน วา ภกาเรน วา กาฎโกฎจิกาย วาฯ เอโส หีโน นาม อโกฺกโสฯ อุกฺกโฎฺฐ นาม อโกฺกโส – ปณฺฑิโตสิ, พฺยโตฺตสิ, เมธาวีสิ, พหุสฺสุโตสิ, ธมฺมกถิโกสิ; นตฺถิ ตุยฺหํ ทุคฺคติ; สุคติ เยว ตุยฺหํ ปาฎิกงฺขาติฯ เอโส อุกฺกโฎฺฐ นาม อโกฺกโสฯ

    Akkoso nāma dve akkosā – hīno ca akkoso ukkaṭṭho ca akkoso. Hīno nāma akkoso – oṭṭhosi, meṇḍosi, goṇosi, gadrabhosi, tiracchānagatosi, nerayikosi; natthi tuyhaṃ sugati; duggati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhāti, yakārena vā bhakārena vā kāṭakoṭacikāya vā. Eso hīno nāma akkoso. Ukkaṭṭho nāma akkoso – paṇḍitosi, byattosi, medhāvīsi, bahussutosi, dhammakathikosi; natthi tuyhaṃ duggati; sugati yeva tuyhaṃ pāṭikaṅkhāti. Eso ukkaṭṭho nāma akkoso.

    ๓๙. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘จณฺฑาโล เวโน เนสาโท รถกาโร ปุกฺกุโส’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    39. Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘caṇḍālo veno nesādo rathakāro pukkuso’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘ขตฺติโย พฺราหฺมโณ’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘khattiyo brāhmaṇo’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘อวกณฺณโก ชวกณฺณโก ธนิฎฺฐโก สวิฎฺฐโก กุลวฑฺฒโก’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘avakaṇṇako javakaṇṇako dhaniṭṭhako saviṭṭhako kulavaḍḍhako’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิโต สงฺฆรกฺขิโต’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘buddharakkhito dhammarakkhito saṅgharakkhito’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘โกสิโย ภารทฺวาโช’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘kosiyo bhāradvājo’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘โคตโม โมคฺคลฺลาโน กจฺจาโน วาสิโฎฺฐ’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘gotamo moggallāno kaccāno vāsiṭṭho’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘โกฎฺฐโก ปุปฺผฉฑฺฑโก’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘koṭṭhako pupphachaḍḍako’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘กสฺสโก วาณิโช โครโกฺข’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘kassako vāṇijo gorakkho’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘นฬกาโร กุมฺภกาโร เปสกาโร จมฺมกาโร นหาปิโต’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘naḷakāro kumbhakāro pesakāro cammakāro nahāpito’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘มุทฺทิโก คณโก เลขโก’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘muddiko gaṇako lekhako’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๔๐. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘กุฎฺฐิโก คณฺฑิโก กิลาสิโก โสสิโก อปมาริโก’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    40. Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘kuṭṭhiko gaṇḍiko kilāsiko sosiko apamāriko’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘มธุเมหิโก’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘madhumehiko’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘อติทีโฆ อติรโสฺส อติกโณฺห อโจฺจทาโต’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘atidīgho atirasso atikaṇho accodāto’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘นาติทีโฆ นาติรโสฺส นาติกโณฺห นาโจฺจทาโต’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘nātidīgho nātirasso nātikaṇho nāccodāto’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘ราคปริยุฎฺฐิโต โทสปริยุฎฺฐิโต โมหปริยุฎฺฐิโต’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘rāgapariyuṭṭhito dosapariyuṭṭhito mohapariyuṭṭhito’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘วีตราโค วีตโทโส วีตโมโห’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘vītarāgo vītadoso vītamoho’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘ปาราชิกํ อชฺฌาปโนฺน, สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปโนฺน, ถุลฺลจฺจยํ อชฺฌาปโนฺน, ปาจิตฺติยํ อชฺฌาปโนฺน , ปาฎิเทสนียํ อชฺฌาปโนฺน, ทุกฺกฎํ อชฺฌาปโนฺน, ทุพฺภาสิตํ อชฺฌาปโนฺน’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘pārājikaṃ ajjhāpanno, saṅghādisesaṃ ajjhāpanno, thullaccayaṃ ajjhāpanno, pācittiyaṃ ajjhāpanno , pāṭidesanīyaṃ ajjhāpanno, dukkaṭaṃ ajjhāpanno, dubbhāsitaṃ ajjhāpanno’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘โสตาปโนฺน’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘sotāpanno’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘โอโฎฺฐ เมโณฺฑ โคโณ คทฺรโภ ติรจฺฉานคโต เนรยิโก, นตฺถิ ตสฺส สุคติ, ทุคฺคติเยว ตสฺส ปาฎิกงฺขา’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘oṭṭho meṇḍo goṇo gadrabho tiracchānagato nerayiko, natthi tassa sugati, duggatiyeva tassa pāṭikaṅkhā’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ตํ ‘ปณฺฑิโต พฺยโตฺต เมธาวี พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก, นตฺถิ ตสฺส ทุคฺคติ, สุคติ เยว ตสฺส ปาฎิกงฺขา’ติ ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo taṃ ‘paṇḍito byatto medhāvī bahussuto dhammakathiko, natthi tassa duggati, sugati yeva tassa pāṭikaṅkhā’ti bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    ๔๑. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘สนฺติ อิเธกเจฺจ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา, ปุกฺกุสา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    41. Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘santi idhekacce caṇḍālā venā nesādā rathakārā, pukkusā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ขตฺติยา พฺราหฺมณา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘santi idhekacce khattiyā brāhmaṇā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa…pe….

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘สนฺติ อิเธกเจฺจ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถิ เตสํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว เตสํ ปาฎิกงฺขา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘santi idhekacce paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthi tesaṃ duggati, sugati yeva tesaṃ pāṭikaṅkhā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘เย นูน จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘ye nūna caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘เย นูน ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘ye nūna paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘น มยํ จณฺฑาลา เวนา เนสาทา รถการา ปุกฺกุสา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘na mayaṃ caṇḍālā venā nesādā rathakārā pukkusā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ – ‘‘อิตฺถนฺนาโม ‘น มยํ ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เมธาวี พหุสฺสุตา ธมฺมกถิกา, นตฺถมฺหากํ ทุคฺคติ, สุคติ เยว อมฺหากํ ปาฎิกงฺขา’ติ ภณติ, น โส อญฺญํ ภณติ, ตเญฺญว ภณตี’’ติฯ อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati – ‘‘itthannāmo ‘na mayaṃ paṇḍitā byattā medhāvī bahussutā dhammakathikā, natthamhākaṃ duggati, sugati yeva amhākaṃ pāṭikaṅkhā’ti bhaṇati, na so aññaṃ bhaṇati, taññeva bhaṇatī’’ti. Āpatti vācāya, vācāya dukkaṭassa.

    ๔๒. อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ; อาปตฺติ วาจาย, วาจาย ปาจิตฺติยสฺสฯ

    42. Upasampanno upasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati; āpatti vācāya, vācāya pācittiyassa.

    อุปสมฺปโนฺน อุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno upasampannassa sutvā anupasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati, āpatti dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannassa sutvā upasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati, āpatti dukkaṭassa.

    อุปสมฺปโนฺน อนุปสมฺปนฺนสฺส สุตฺวา อนุปสมฺปนฺนสฺส เปสุญฺญํ อุปสํหรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Upasampanno anupasampannassa sutvā anupasampannassa pesuññaṃ upasaṃharati, āpatti dukkaṭassa.

    ๔๓. อนาปตฺติ นปิยกมฺยสฺส, นเภทาธิปฺปายสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    43. Anāpatti napiyakamyassa, nabhedādhippāyassa, ummattakassa, ādikammikassāti.

    เปสุญฺญสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ

    Pesuññasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.

    ๔. ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ

    4. Padasodhammasikkhāpadaṃ

    ๔๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุปาสเก ปทโส ธมฺมํ วาเจนฺติฯ อุปาสกา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุปาสเก ปทโส ธมฺมํ วาเจสฺสนฺติ! อุปาสกา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺตี’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุปาสเก ปทโส ธมฺมํ วาเจถ; อุปาสกา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อุปาสเก ปทโส ธมฺมํ วาเจสฺสถ! อุปาสกา ภิกฺขูสุ อคารวา อปฺปติสฺสา อสภาควุตฺติกา วิหรนฺติ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    44. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū upāsake padaso dhammaṃ vācenti. Upāsakā bhikkhūsu agāravā appatissā asabhāgavuttikā viharanti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū upāsake padaso dhammaṃ vācessanti! Upāsakā bhikkhūsu agāravā appatissā asabhāgavuttikā viharantī’’ti. Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, upāsake padaso dhammaṃ vācetha; upāsakā bhikkhūsu agāravā appatissā asabhāgavuttikā viharantī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, upāsake padaso dhammaṃ vācessatha! Upāsakā bhikkhūsu agāravā appatissā asabhāgavuttikā viharanti! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๔๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺนํ ปทโส ธมฺมํ วาเจยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    45.‘‘Yo pana bhikkhu anupasampannaṃ padaso dhammaṃ vāceyya pācittiya’’nti.

    ๔๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    46.Yopanāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อนุปสมฺปโนฺน นาม ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ ฐเปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปโนฺน นามฯ

    Anupasampanno nāma bhikkhuñca bhikkhuniñca ṭhapetvā avaseso anupasampanno nāma.

    ปทโส นาม ปทํ, อนุปทํ, อนฺวกฺขรํ, อนุพฺยญฺชนํฯ

    Padaso nāma padaṃ, anupadaṃ, anvakkharaṃ, anubyañjanaṃ.

    ปทํ นาม เอกโต ปฎฺฐเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺติฯ อนุปทํ นาม ปาเฎกฺกํ ปฎฺฐเปตฺวา เอกโต โอสาเปนฺติฯ อนฺวกฺขรํ นาม ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาโน, ‘‘รุ’’นฺติ โอปาเตติฯ อนุพฺยญฺชนํ นาม ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจมาโน, ‘‘เวทนา อนิจฺจา’’ติ สทฺทํ นิจฺฉาเรติฯ

    Padaṃ nāma ekato paṭṭhapetvā ekato osāpenti. Anupadaṃ nāma pāṭekkaṃ paṭṭhapetvā ekato osāpenti. Anvakkharaṃ nāma ‘‘rūpaṃ anicca’’nti vuccamāno, ‘‘ru’’nti opāteti. Anubyañjanaṃ nāma ‘‘rūpaṃ anicca’’nti vuccamāno, ‘‘vedanā aniccā’’ti saddaṃ nicchāreti.

    ยญฺจ ปทํ, ยญฺจ อนุปทํ, ยญฺจ อนฺวกฺขรํ, ยญฺจ อนุพฺยญฺชนํ – สพฺพเมตํ ปทโส 15 นามฯ

    Yañca padaṃ, yañca anupadaṃ, yañca anvakkharaṃ, yañca anubyañjanaṃ – sabbametaṃ padaso 16 nāma.

    ธโมฺม นาม พุทฺธภาสิโต, สาวกภาสิโต, อิสิภาสิโต, เทวตาภาสิโต, อตฺถูปสญฺหิโต, ธมฺมูปสญฺหิโตฯ

    Dhammo nāma buddhabhāsito, sāvakabhāsito, isibhāsito, devatābhāsito, atthūpasañhito, dhammūpasañhito.

    วาเจยฺยาติ ปเทน วาเจติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อกฺขราย วาเจติ, อกฺขรกฺขราย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Vāceyyāti padena vāceti, pade pade āpatti pācittiyassa. Akkharāya vāceti, akkharakkharāya āpatti pācittiyassa.

    ๔๗. อนุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี ปทโส ธมฺมํ วาเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน เวมติโก ปทโส ธมฺมํ วาเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี ปทโส ธมฺมํ วาเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    47. Anupasampanne anupasampannasaññī padaso dhammaṃ vāceti, āpatti pācittiyassa. Anupasampanne vematiko padaso dhammaṃ vāceti, āpatti pācittiyassa. Anupasampanne upasampannasaññī padaso dhammaṃ vāceti, āpatti pācittiyassa.

    อุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Upasampanne anupasampannasaññī, āpatti dukkaṭassa. Upasampanne vematiko, āpatti dukkaṭassa. Upasampanne upasampannasaññī, anāpatti.

    ๔๘. อนาปตฺติ เอกโต อุทฺทิสาเปโนฺต, เอกโต สชฺฌายํ กโรโนฺต , เยภุเยฺยน ปคุณํ คนฺถํ ภณนฺตํ โอปาเตติ, โอสาเรนฺตํ โอปาเตติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    48. Anāpatti ekato uddisāpento, ekato sajjhāyaṃ karonto , yebhuyyena paguṇaṃ ganthaṃ bhaṇantaṃ opāteti, osārentaṃ opāteti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปทโสธมฺมสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

    Padasodhammasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.

    ๕. สหเสยฺยสิกฺขาปทํ

    5. Sahaseyyasikkhāpadaṃ

    ๔๙. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเยฯ เตน โข ปน สมเยน อุปาสกา อารามํ อาคจฺฉนฺติ ธมฺมสฺสวนายฯ ธเมฺม ภาสิเต เถรา ภิกฺขู ยถาวิหารํ คจฺฉนฺติฯ นวกา ภิกฺขู ตเตฺถว อุปฎฺฐานสาลายํ อุปาสเกหิ สทฺธิํ มุฎฺฐสฺสตี, อสมฺปชานา, นคฺคา, วิกูชมานา, กากจฺฉมานา เสยฺยํ กเปฺปนฺติฯ อุปาสกา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา นคฺคา วิกูชมานา กากจฺฉมานา เสยฺยํ กเปฺปสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ อุปาสกานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขู อนุปสมฺปเนฺนน สหเสยฺยํ กเปฺปสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู เต นวเก ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนุปสมฺปเนฺนน สหเสยฺยํ กเปฺปนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา อนุปสมฺปเนฺนน สหเสยฺยํ กเปฺปสฺสนฺติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    49. Tena samayena buddho bhagavā āḷaviyaṃ viharati aggāḷave cetiye. Tena kho pana samayena upāsakā ārāmaṃ āgacchanti dhammassavanāya. Dhamme bhāsite therā bhikkhū yathāvihāraṃ gacchanti. Navakā bhikkhū tattheva upaṭṭhānasālāyaṃ upāsakehi saddhiṃ muṭṭhassatī, asampajānā, naggā, vikūjamānā, kākacchamānā seyyaṃ kappenti. Upāsakā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā muṭṭhassatī asampajānā naggā vikūjamānā kākacchamānā seyyaṃ kappessantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ upāsakānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhū anupasampannena sahaseyyaṃ kappessantī’’ti! Atha kho te bhikkhū te navake bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū anupasampannena sahaseyyaṃ kappentī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā anupasampannena sahaseyyaṃ kappessanti! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปเนฺนน สหเสยฺยํ กเปฺปยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu anupasampannena sahaseyyaṃ kappeyya pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๕๐. อถ โข ภควา อาฬวิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน โกสมฺพี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน โกสมฺพี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ พทริการาเมฯ ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ราหุลํ เอตทโวจุํ – ‘‘ภควตา, อาวุโส ราหุล, สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ – ‘น อนุปสมฺปเนฺนน สหเสยฺยา กเปฺปตพฺพา’ติฯ เสยฺยํ, อาวุโส ราหุล, ชานาหี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ราหุโล เสยฺยํ อลภมาโน วจฺจกุฎิยา เสยฺยํ กเปฺปสิฯ อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฎฺฐาย เยน วจฺจกุฎิ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺกาสิฯ อายสฺมาปิ ราหุโล อุกฺกาสิฯ ‘‘โก เอตฺถา’’ติ? ‘‘อหํ, ภควา, ราหุโล’’ติฯ ‘‘กิสฺส ตฺวํ, ราหุล, อิธ นิสิโนฺนสี’’ติ? อถ โข อายสฺมา ราหุโล ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปเนฺนน ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กเปฺปตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    50. Atha kho bhagavā āḷaviyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena kosambī tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena kosambī tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā kosambiyaṃ viharati badarikārāme. Bhikkhū āyasmantaṃ rāhulaṃ etadavocuṃ – ‘‘bhagavatā, āvuso rāhula, sikkhāpadaṃ paññattaṃ – ‘na anupasampannena sahaseyyā kappetabbā’ti. Seyyaṃ, āvuso rāhula, jānāhī’’ti. Atha kho āyasmā rāhulo seyyaṃ alabhamāno vaccakuṭiyā seyyaṃ kappesi. Atha kho bhagavā rattiyā paccūsasamayaṃ paccuṭṭhāya yena vaccakuṭi tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā ukkāsi. Āyasmāpi rāhulo ukkāsi. ‘‘Ko etthā’’ti? ‘‘Ahaṃ, bhagavā, rāhulo’’ti. ‘‘Kissa tvaṃ, rāhula, idha nisinnosī’’ti? Atha kho āyasmā rāhulo bhagavato etamatthaṃ ārocesi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, anupasampannena dirattatirattaṃ sahaseyyaṃ kappetuṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๑. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปเนฺนน อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กเปฺปยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    51.‘‘Yo pana bhikkhu anupasampannena uttaridirattatirattaṃ sahaseyyaṃ kappeyya, pācittiya’’nti.

    ๕๒. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    52.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อนุปสมฺปโนฺน นาม ภิกฺขุํ ฐเปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปโนฺน นามฯ

    Anupasampanno nāma bhikkhuṃ ṭhapetvā avaseso anupasampanno nāma.

    อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตนฺติ อติเรกทิรตฺตติรตฺตํฯ

    Uttaridirattatirattanti atirekadirattatirattaṃ.

    สหาติ เอกโตฯ

    Sahāti ekato.

    เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา, สพฺพปริจฺฉนฺนา, เยภุเยฺยนจฺฉนฺนา, เยภุเยฺยน ปริจฺฉนฺนาฯ

    Seyyā nāma sabbacchannā, sabbaparicchannā, yebhuyyenacchannā, yebhuyyena paricchannā.

    เสยฺยํ กเปฺปยฺยาติ จตุเตฺถ ทิวเส อตฺถงฺคเต สูริเย, อนุปสมฺปเนฺน นิปเนฺน, ภิกฺขุ นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ภิกฺขุ นิปเนฺน, อนุปสมฺปโนฺน นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา นิปชฺชนฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุฎฺฐหิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิปชฺชนฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Seyyaṃ kappeyyāti catutthe divase atthaṅgate sūriye, anupasampanne nipanne, bhikkhu nipajjati, āpatti pācittiyassa. Bhikkhu nipanne, anupasampanno nipajjati, āpatti pācittiyassa. Ubho vā nipajjanti, āpatti pācittiyassa. Uṭṭhahitvā punappunaṃ nipajjanti, āpatti pācittiyassa.

    ๕๓. อนุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน เวมติโก อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อนุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี อุตฺตริทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    53. Anupasampanne anupasampannasaññī uttaridirattatirattaṃ sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Anupasampanne vematiko uttaridirattatirattaṃ sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Anupasampanne upasampannasaññī uttaridirattatirattaṃ sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.

    อุปฑฺฒจฺฉเนฺน อุปฑฺฒปริจฺฉเนฺน, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน อนุปสมฺปนฺนสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Upaḍḍhacchanne upaḍḍhaparicchanne, āpatti dukkaṭassa. Upasampanne anupasampannasaññī, āpatti dukkaṭassa. Upasampanne vematiko, āpatti dukkaṭassa. Upasampanne upasampannasaññī, anāpatti.

    ๕๔. อนาปตฺติ เทฺวติโสฺส รตฺติโย วสติ, อูนกเทฺวติโสฺส รตฺติโย วสติ, เทฺว รตฺติโย วสิตฺวา ตติยาย รตฺติยา ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา ปุน วสติ, สพฺพจฺฉเนฺน, สพฺพอปริจฺฉเนฺน, สพฺพปริจฺฉเนฺน สพฺพอจฺฉเนฺน 17, เยภุเยฺยน อจฺฉเนฺน, เยภุเยฺยน อปริจฺฉเนฺน, อนุปสมฺปเนฺน นิปเนฺน ภิกฺขุ นิสีทติ, ภิกฺขุ นิปเนฺน อนุปสมฺปโนฺน นิสีทติ, อุโภ วา นิสีทนฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    54. Anāpatti dvetisso rattiyo vasati, ūnakadvetisso rattiyo vasati, dve rattiyo vasitvā tatiyāya rattiyā purāruṇā nikkhamitvā puna vasati, sabbacchanne, sabbaaparicchanne, sabbaparicchanne sabbaacchanne 18, yebhuyyena acchanne, yebhuyyena aparicchanne, anupasampanne nipanne bhikkhu nisīdati, bhikkhu nipanne anupasampanno nisīdati, ubho vā nisīdanti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    สหเสยฺยสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ

    Sahaseyyasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.

    ๖. ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทํ

    6. Dutiyasahaseyyasikkhāpadaṃ

    ๕๕. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุรุโทฺธ โกสเลสุ ชนปเท 19 สาวตฺถิํ คจฺฉโนฺต สายํ อญฺญตรํ คามํ อุปคจฺฉิฯ เตน โข ปน สมเยน ตสฺมิํ คาเม อญฺญตริสฺสา อิตฺถิยา อาวสถาคารํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ เยน สา อิตฺถี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อิตฺถิํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, ภคินิ, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อาวสถาคาเร’’ติฯ ‘‘วเสยฺยาถ, ภเนฺต’’ติฯ อเญฺญปิ อทฺธิกา เยน สา อิตฺถี เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อิตฺถิํ เอตทโวจุํ – ‘‘สเจ เต, อเยฺย, อครุ วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อาวสถาคาเร’’ติ ฯ ‘‘เอโส โข อโยฺย สมโณ ปฐมํ อุปคโต; สเจ โส อนุชานาติ, วเสยฺยาถา’’ติฯ อถ โข เต อทฺธิกา เยนายสฺมา อนุรุโทฺธ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘สเจ เต, ภเนฺต, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อาวสถาคาเร’’ติฯ ‘‘วเสยฺยาถ, อาวุโส’’ติฯ อถ โข สา อิตฺถี อายสฺมเนฺต อนุรุเทฺธ สห ทสฺสเนน ปฎิพทฺธจิตฺตา อโหสิฯ อถ โข สา อิตฺถี เยนายสฺมา อนุรุโทฺธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘อโยฺย, ภเนฺต, อิเมหิ มนุเสฺสหิ อากิโณฺณ น ผาสุ วิหริสฺสติฯ สาธาหํ, ภเนฺต, อยฺยสฺส มญฺจกํ อพฺภนฺตรํ ปญฺญเปยฺย’’นฺติฯ อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข สา อิตฺถี อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส มญฺจกํ อพฺภนฺตรํ ปญฺญเปตฺวา อลงฺกตปฺปฎิยตฺตา คนฺธคนฺธินี เยนายสฺมา อนุรุโทฺธ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘อโยฺย, ภเนฺต, อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, อหํ จมฺหิ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ สาธาหํ, ภเนฺต, อยฺยสฺส ปชาปติ ภเวยฺย’’นฺติฯ เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อนุรุโทฺธ ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข สา อิตฺถี อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘อโยฺย, ภเนฺต, อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก, อหญฺจมฺหิ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกาฯ สาธุ, ภเนฺต, อโยฺย มเญฺจว ปฎิจฺฉตุ 20 สพฺพญฺจ สาปเตยฺย’’นฺติฯ ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ ตุณฺหี อโหสิฯ อถ โข สา อิตฺถี สาฎกํ นิกฺขิปิตฺวา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปุรโต จงฺกมติปิ ติฎฺฐติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กเปฺปติฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิตฺวา ตํ อิตฺถิํ เนว โอโลเกสิ นปิ อาลปิฯ อถ โข สา อิตฺถี – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! พหู เม มนุสฺสา สเตนปิ สหเสฺสนปิ ปหิณนฺติฯ อยํ ปน สมโณ – มยา สามํ ยาจิยมาโน – น อิจฺฉติ มเญฺจว ปฎิจฺฉิตุํ สพฺพญฺจ สาปเตยฺย’’นฺติ สาฎกํ นิวาเสตฺวา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภเนฺต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ ยาหํ เอวมกาสิํฯ ตสฺสา เม, ภเนฺต, อโยฺย อจฺจยํ อจฺจยโต ปฎิคฺคณฺหาตุ อายติํ สํวรายา’’ติฯ ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, ภคินิ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ ยา ตฺวํ เอวมกาสิฯ ยโต จ โข ตฺวํ, ภคินิ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฎิคฺคณฺหามฯ วุทฺธิ เหสา, ภคินิ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรติ อายติญฺจ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติฯ

    55. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā anuruddho kosalesu janapade 21 sāvatthiṃ gacchanto sāyaṃ aññataraṃ gāmaṃ upagacchi. Tena kho pana samayena tasmiṃ gāme aññatarissā itthiyā āvasathāgāraṃ paññattaṃ hoti. Atha kho āyasmā anuruddho yena sā itthī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ itthiṃ etadavoca – ‘‘sace te, bhagini, agaru, vaseyyāma ekarattaṃ āvasathāgāre’’ti. ‘‘Vaseyyātha, bhante’’ti. Aññepi addhikā yena sā itthī tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā taṃ itthiṃ etadavocuṃ – ‘‘sace te, ayye, agaru vaseyyāma ekarattaṃ āvasathāgāre’’ti . ‘‘Eso kho ayyo samaṇo paṭhamaṃ upagato; sace so anujānāti, vaseyyāthā’’ti. Atha kho te addhikā yenāyasmā anuruddho tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavocuṃ – ‘‘sace te, bhante, agaru, vaseyyāma ekarattaṃ āvasathāgāre’’ti. ‘‘Vaseyyātha, āvuso’’ti. Atha kho sā itthī āyasmante anuruddhe saha dassanena paṭibaddhacittā ahosi. Atha kho sā itthī yenāyasmā anuruddho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavoca – ‘‘ayyo, bhante, imehi manussehi ākiṇṇo na phāsu viharissati. Sādhāhaṃ, bhante, ayyassa mañcakaṃ abbhantaraṃ paññapeyya’’nti. Adhivāsesi kho āyasmā anuruddho tuṇhībhāvena. Atha kho sā itthī āyasmato anuruddhassa mañcakaṃ abbhantaraṃ paññapetvā alaṅkatappaṭiyattā gandhagandhinī yenāyasmā anuruddho tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavoca – ‘‘ayyo, bhante, abhirūpo dassanīyo pāsādiko, ahaṃ camhi abhirūpā dassanīyā pāsādikā. Sādhāhaṃ, bhante, ayyassa pajāpati bhaveyya’’nti. Evaṃ vutte āyasmā anuruddho tuṇhī ahosi. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho sā itthī āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavoca – ‘‘ayyo, bhante, abhirūpo dassanīyo pāsādiko, ahañcamhi abhirūpā dassanīyā pāsādikā. Sādhu, bhante, ayyo mañceva paṭicchatu 22 sabbañca sāpateyya’’nti. Tatiyampi kho āyasmā anuruddho tuṇhī ahosi. Atha kho sā itthī sāṭakaṃ nikkhipitvā āyasmato anuruddhassa purato caṅkamatipi tiṭṭhatipi nisīdatipi seyyampi kappeti. Atha kho āyasmā anuruddho indriyāni okkhipitvā taṃ itthiṃ neva olokesi napi ālapi. Atha kho sā itthī – ‘‘acchariyaṃ vata bho, abbhutaṃ vata bho! Bahū me manussā satenapi sahassenapi pahiṇanti. Ayaṃ pana samaṇo – mayā sāmaṃ yāciyamāno – na icchati mañceva paṭicchituṃ sabbañca sāpateyya’’nti sāṭakaṃ nivāsetvā āyasmato anuruddhassa pādesu sirasā nipatitvā āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavoca – ‘‘accayo maṃ, bhante, accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ yāhaṃ evamakāsiṃ. Tassā me, bhante, ayyo accayaṃ accayato paṭiggaṇhātu āyatiṃ saṃvarāyā’’ti. ‘‘Taggha tvaṃ, bhagini, accayo accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ yā tvaṃ evamakāsi. Yato ca kho tvaṃ, bhagini, accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikarosi, taṃ te mayaṃ paṭiggaṇhāma. Vuddhi hesā, bhagini, ariyassa vinaye yo accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikaroti āyatiñca saṃvaraṃ āpajjatī’’ti.

    อถ โข สา อิตฺถี ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา, อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ อิตฺถิํ อายสฺมา อนุรุโทฺธ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข สา อิตฺถี – อายสฺมตา อนุรุเทฺธน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา – อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต, อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต! เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ, เอวเมวํ อเยฺยน อนุรุเทฺธน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภเนฺต, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสิกํ มํ อโยฺย ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

    Atha kho sā itthī tassā rattiyā accayena āyasmantaṃ anuruddhaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappetvā sampavāretvā, āyasmantaṃ anuruddhaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho taṃ itthiṃ āyasmā anuruddho dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho sā itthī – āyasmatā anuruddhena dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā – āyasmantaṃ anuruddhaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante, abhikkantaṃ, bhante! Seyyathāpi, bhante, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – cakkhumanto rūpāni dakkhantīti, evamevaṃ ayyena anuruddhena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ, bhante, taṃ bhagavantaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsikaṃ maṃ ayyo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti.

    อถ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ สาวตฺถิยํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อนุรุโทฺธ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กเปฺปสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อนุรุทฺธ, มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กเปฺปสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติ ฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, อนุรุทฺธ, มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กเปฺปสฺสสิ! เนตํ, อนุรุทฺธ, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho āyasmā anuruddho sāvatthiyaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā anuruddho mātugāmena sahaseyyaṃ kappessatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ anuruddhaṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, anuruddha, mātugāmena sahaseyyaṃ kappesī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti . Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, anuruddha, mātugāmena sahaseyyaṃ kappessasi! Netaṃ, anuruddha, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๖. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคาเมน สหเสยฺยํ กเปฺปยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    56.‘‘Yo pana bhikkhu mātugāmena sahaseyyaṃ kappeyya pācittiya’’nti.

    ๕๗. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    57.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี, น ยกฺขี 23, น เปตี, น ติรจฺฉานคตา; อนฺตมโส ตทหุชาตาปิ ทาริกา, ปเคว มหตฺตรีฯ

    Mātugāmo nāma manussitthī, na yakkhī 24, na petī, na tiracchānagatā; antamaso tadahujātāpi dārikā, pageva mahattarī.

    สหาติ เอกโตฯ

    Sahāti ekato.

    เสยฺยา นาม สพฺพจฺฉนฺนา, สพฺพปริจฺฉนฺนา, เยภุเยฺยนจฺฉนฺนา, เยภุเยฺยน ปริจฺฉนฺนาฯ

    Seyyā nāma sabbacchannā, sabbaparicchannā, yebhuyyenacchannā, yebhuyyena paricchannā.

    เสยฺยํ กเปฺปยฺยาติ อตฺถงฺคเต สูริเย, มาตุคาเม นิปเนฺน ภิกฺขุ นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ ภิกฺขุ นิปเนฺน มาตุคาโม นิปชฺชติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุโภ วา นิปชฺชนฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อุฎฺฐหิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิปชฺชนฺติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Seyyaṃ kappeyyāti atthaṅgate sūriye, mātugāme nipanne bhikkhu nipajjati, āpatti pācittiyassa. Bhikkhu nipanne mātugāmo nipajjati, āpatti pācittiyassa. Ubho vā nipajjanti, āpatti pācittiyassa. Uṭṭhahitvā punappunaṃ nipajjanti, āpatti pācittiyassa.

    ๕๘. มาตุคาเม มาตุคามสญฺญี สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม เวมติโก สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    58. Mātugāme mātugāmasaññī sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme vematiko sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa. Mātugāme amātugāmasaññī sahaseyyaṃ kappeti, āpatti pācittiyassa.

    อุปฑฺฒจฺฉเนฺน อุปฑฺฒปริจฺฉเนฺน, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ยกฺขิยา วา เปติยา วา ปณฺฑเกน วา ติรจฺฉานคติตฺถิยา วา สหเสยฺยํ กเปฺปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม มาตุคามสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Upaḍḍhacchanne upaḍḍhaparicchanne, āpatti dukkaṭassa. Yakkhiyā vā petiyā vā paṇḍakena vā tiracchānagatitthiyā vā sahaseyyaṃ kappeti, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme mātugāmasaññī, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme amātugāmasaññī, anāpatti.

    ๕๙. อนาปตฺติ สพฺพจฺฉเนฺน สพฺพอปริจฺฉเนฺน, สพฺพปริจฺฉเนฺน สพฺพอจฺฉเนฺน 25, เยภุเยฺยน อจฺฉเนฺน, เยภุเยฺยน อปริจฺฉเนฺน, มาตุคาเม นิปเนฺน ภิกฺขุ นิสีทติ , ภิกฺขุ นิปเนฺน มาตุคาโม นิสีทติ, อุโภ วา นิสีทนฺติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    59. Anāpatti sabbacchanne sabbaaparicchanne, sabbaparicchanne sabbaacchanne 26, yebhuyyena acchanne, yebhuyyena aparicchanne, mātugāme nipanne bhikkhu nisīdati , bhikkhu nipanne mātugāmo nisīdati, ubho vā nisīdanti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ทุติยสหเสยฺยสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ

    Dutiyasahaseyyasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.

    ๗. ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทํ

    7. Dhammadesanāsikkhāpadaṃ

    ๖๐. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุทายี สาวตฺถิยํ กุลูปโก โหติ, พหุกานิ กุลานิ อุปสงฺกมติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อญฺญตรํ กุลํ เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน ฆรณี นิเวสนทฺวาเร นิสินฺนา โหติ, ฆรสุณฺหา อาวสถทฺวาเร นิสินฺนา โหติฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี เยน ฆรณี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆรณิยา อุปกณฺณเก ธมฺมํ เทเสสิฯ อถ โข ฆรสุณฺหาย เอตทโหสิ – ‘‘กิ นุ โข โส สมโณ สสฺสุยา ชาโร อุทาหุ โอภาสตี’’ติ?

    60. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā udāyī sāvatthiyaṃ kulūpako hoti, bahukāni kulāni upasaṅkamati. Atha kho āyasmā udāyī pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena aññataraṃ kulaṃ tenupasaṅkami. Tena kho pana samayena gharaṇī nivesanadvāre nisinnā hoti, gharasuṇhā āvasathadvāre nisinnā hoti. Atha kho āyasmā udāyī yena gharaṇī tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā gharaṇiyā upakaṇṇake dhammaṃ desesi. Atha kho gharasuṇhāya etadahosi – ‘‘ki nu kho so samaṇo sassuyā jāro udāhu obhāsatī’’ti?

    อถ โข อายสฺมา อุทายี ฆรณิยา อุปกณฺณเก ธมฺมํ เทเสตฺวา เยน ฆรสุณฺหา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ฆรสุณฺหาย อุปกณฺณเก ธมฺมํ เทเสสิฯ อถ โข ฆรณิยา เอตทโหสิ – ‘‘กิํ นุ โข โส สมโณ ฆรสุณฺหาย ชาโร อุทาหุ โอภาสตี’’ติ ? อถ โข อายสฺมา อุทายี ฆรสุณฺหาย อุปกณฺณเก ธมฺมํ เทเสตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ฆรณี ฆรสุณฺหํ เอตทโวจ – ‘‘เห เช, กิํ เต เอโส สมโณ อโวจา’’ติ? ‘‘ธมฺมํ เม, อเยฺย, เทเสสิ’’ฯ ‘‘อยฺยาย ปน กิํ อโวจา’’ติ? ‘‘มยฺหมฺปิ ธมฺมํ เทเสสี’’ติฯ ตา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อโยฺย อุทายี มาตุคามสฺส อุปกณฺณเก ธมฺมํ เทเสสฺสติ! นนุ นาม วิสฺสเฎฺฐน วิวเฎน ธโมฺม เทเสตโพฺพ’’ติ?

    Atha kho āyasmā udāyī gharaṇiyā upakaṇṇake dhammaṃ desetvā yena gharasuṇhā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā gharasuṇhāya upakaṇṇake dhammaṃ desesi. Atha kho gharaṇiyā etadahosi – ‘‘kiṃ nu kho so samaṇo gharasuṇhāya jāro udāhu obhāsatī’’ti ? Atha kho āyasmā udāyī gharasuṇhāya upakaṇṇake dhammaṃ desetvā pakkāmi. Atha kho gharaṇī gharasuṇhaṃ etadavoca – ‘‘he je, kiṃ te eso samaṇo avocā’’ti? ‘‘Dhammaṃ me, ayye, desesi’’. ‘‘Ayyāya pana kiṃ avocā’’ti? ‘‘Mayhampi dhammaṃ desesī’’ti. Tā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyo udāyī mātugāmassa upakaṇṇake dhammaṃ desessati! Nanu nāma vissaṭṭhena vivaṭena dhammo desetabbo’’ti?

    อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตาสํ อิตฺถีนํ อุชฺฌายนฺตีนํ ขิยฺยนฺตีนํ วิปาเจนฺตีนํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุทายี มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุทายิ, มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสสฺสสิฯ เนตํ โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Assosuṃ kho bhikkhū tāsaṃ itthīnaṃ ujjhāyantīnaṃ khiyyantīnaṃ vipācentīnaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āyasmā udāyī mātugāmassa dhammaṃ desessatī’’ti! Atha kho te bhikkhū āyasmantaṃ udāyiṃ anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, udāyi, mātugāmassa dhammaṃ desesī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, mātugāmassa dhammaṃ desessasi. Netaṃ moghapurisa, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสยฺย ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhu mātugāmassa dhammaṃ deseyya pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๖๑. เตน โข ปน สมเยน อุปาสิกา ภิกฺขู ปสฺสิตฺวา เอตทโวจุํ – ‘‘อิงฺฆายฺยา ธมฺมํ เทเสถา’’ติฯ ‘‘น, ภคินี, กปฺปติ มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติฯ ‘‘อิงฺฆายฺยา ฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสถ, สกฺกา เอตฺตเกนปิ ธโมฺม อญฺญาตุ’’นฺติฯ ‘‘น, ภคินี, กปฺปติ มาตุคามสฺส ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติฯ กุกฺกุจฺจายนฺตา น เทเสสุํฯ อุปาสิกา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา อเมฺหหิ ยาจิยมานา ธมฺมํ น เทเสสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตาสํ อุปาสิกานํ อุชฺฌายนฺตีนํ ขิยฺยนฺตีนํ วิปาเจนฺตีนํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    61. Tena kho pana samayena upāsikā bhikkhū passitvā etadavocuṃ – ‘‘iṅghāyyā dhammaṃ desethā’’ti. ‘‘Na, bhaginī, kappati mātugāmassa dhammaṃ desetu’’nti. ‘‘Iṅghāyyā chappañcavācāhi dhammaṃ desetha, sakkā ettakenapi dhammo aññātu’’nti. ‘‘Na, bhaginī, kappati mātugāmassa dhammaṃ desetu’’nti. Kukkuccāyantā na desesuṃ. Upāsikā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma ayyā amhehi yāciyamānā dhammaṃ na desessantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tāsaṃ upāsikānaṃ ujjhāyantīnaṃ khiyyantīnaṃ vipācentīnaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, mātugāmassa chappañcavācāhi dhammaṃ desetuṃ. Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ‘‘โย ปน ภิกฺขู มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสยฺย, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    ‘‘Yo pana bhikkhū mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseyya, pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๖๒. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู – ‘‘ภควตา อนุญฺญาตํ มาตุคามสฺส ฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสตุ’’นฺติ เต อวิญฺญุํ ปุริสวิคฺคหํ อุปนิสีทาเปตฺวา มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อวิญฺญุํ ปุริสวิคฺคหํ อุปนิสีทาเปตฺวา มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’’ติ!

    62. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū – ‘‘bhagavatā anuññātaṃ mātugāmassa chappañcavācāhi dhammaṃ desetu’’nti te aviññuṃ purisaviggahaṃ upanisīdāpetvā mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ desenti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū aviññuṃ purisaviggahaṃ upanisīdāpetvā mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ desessantī’’ti!

    อถ โข เต ภิกฺขู ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อวิญฺญุํ ปุริสวิคฺคหํ อุปนิสีทาเปตฺวา มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, อวิญฺญุํ ปุริสวิคฺคหํ อุปนิสีทาเปตฺวา มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho te bhikkhū chabbaggiye bhikkhū anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, aviññuṃ purisaviggahaṃ upanisīdāpetvā mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ desethā’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, aviññuṃ purisaviggahaṃ upanisīdāpetvā mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ desessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๖๓. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ มาตุคามสฺส อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสยฺย, อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    63.‘‘Yo pana bhikkhu mātugāmassa uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseyya, aññatra viññunā purisaviggahena, pācittiya’’nti.

    ๖๔. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    64.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี; น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตา; วิญฺญู, ปฎิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาชานิตุํฯ

    Mātugāmo nāma manussitthī; na yakkhī na petī na tiracchānagatā; viññū, paṭibalā subhāsitadubbhāsitaṃ duṭṭhullāduṭṭhullaṃ ājānituṃ.

    อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหีติ อติเรกฉปฺปญฺจวาจาหิฯ

    Uttarichappañcavācāhīti atirekachappañcavācāhi.

    ธโมฺม นาม พุทฺธภาสิโต, สาวกภาสิโต, อิสิภาสิโต, เทวตาภาสิโต, อตฺถูปสญฺหิโต, ธมฺมูปสญฺหิโตฯ

    Dhammo nāma buddhabhāsito, sāvakabhāsito, isibhāsito, devatābhāsito, atthūpasañhito, dhammūpasañhito.

    เทเสยฺยาติ ปเทน เทเสติ, ปเท ปเท อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ อกฺขราย เทเสติ, อกฺขรกฺขราย อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Deseyyāti padena deseti, pade pade āpatti pācittiyassa. Akkharāya deseti, akkharakkharāya āpatti pācittiyassa.

    อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหนาติ ฐเปตฺวา วิญฺญุํ ปุริสวิคฺคหํฯ วิญฺญู นาม ปุริสวิคฺคโห, ปฎิพโล โหติ สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฎฺฐุลฺลาทุฎฺฐุลฺลํ อาชานิตุํฯ

    Aññatra viññunā purisaviggahenāti ṭhapetvā viññuṃ purisaviggahaṃ. Viññū nāma purisaviggaho, paṭibalo hoti subhāsitadubbhāsitaṃ duṭṭhullāduṭṭhullaṃ ājānituṃ.

    ๖๕. มาตุคาเม มาตุคามสญฺญี อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม เวมติโก อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ มาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    65. Mātugāme mātugāmasaññī uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseti, aññatra viññunā purisaviggahena, āpatti pācittiyassa. Mātugāme vematiko uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseti, aññatra viññunā purisaviggahena, āpatti pācittiyassa. Mātugāme amātugāmasaññī uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseti, aññatra viññunā purisaviggahena, āpatti pācittiyassa.

    ยกฺขิยา วา เปติยา วา ปณฺฑกสฺส วา ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหิตฺถิยา วา อุตฺตริฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตฺร วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม มาตุคามสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อมาตุคาเม อมาตุคามสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Yakkhiyā vā petiyā vā paṇḍakassa vā tiracchānagatamanussaviggahitthiyā vā uttarichappañcavācāhi dhammaṃ deseti, aññatra viññunā purisaviggahena, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme mātugāmasaññī, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme vematiko, āpatti dukkaṭassa. Amātugāme amātugāmasaññī, anāpatti.

    ๖๖. อนาปตฺติ วิญฺญุนา ปุริสวิคฺคเหน, ฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อูนกฉปฺปญฺจวาจาหิ ธมฺมํ เทเสติ, อุฎฺฐหิตฺวา ปุน นิสีทิตฺวา เทเสติ, มาตุคาโม อุฎฺฐหิตฺวา ปุน นิสีทติ ตสฺมิํ เทเสติ, อญฺญสฺส มาตุคามสฺส เทเสติ, ปญฺหํ ปุจฺฉติ, ปญฺหํ ปุโฎฺฐ กเถติ, อญฺญสฺสตฺถาย ภณนฺตํ มาตุคาโม สุณาติ, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    66. Anāpatti viññunā purisaviggahena, chappañcavācāhi dhammaṃ deseti, ūnakachappañcavācāhi dhammaṃ deseti, uṭṭhahitvā puna nisīditvā deseti, mātugāmo uṭṭhahitvā puna nisīdati tasmiṃ deseti, aññassa mātugāmassa deseti, pañhaṃ pucchati, pañhaṃ puṭṭho katheti, aññassatthāya bhaṇantaṃ mātugāmo suṇāti, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ธมฺมเทสนาสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ

    Dhammadesanāsikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.

    ๘. ภูตาโรจนสิกฺขาปทํ

    8. Bhūtārocanasikkhāpadaṃ

    ๖๗. 27 เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา สนฺทิฎฺฐา สมฺภตฺตา ภิกฺขู วคฺคุมุทาย นทิยา ตีเร วสฺสํ อุปคจฺฉิํสุฯ เตน โข ปน สมเยน วชฺชี ทุพฺภิกฺขา โหติ – ทฺวีหิติกา เสตฎฺฐิกา สลากาวุตฺตา, น สุกรา อุเญฺฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข วชฺชี ทุพฺภิกฺขา – ทฺวีหิติกา เสตฎฺฐิกา สลากาวุตฺตา, น สุกรา อุเญฺฉน ปคฺคเหน ยาเปตุํฯ เกน นุ โข มยํ อุปาเยน สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วเสยฺยาม, น จ ปิณฺฑเกน กิลเมยฺยามา’’ติ? เอกเจฺจ เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิเฎฺฐมฯ เอวํ เต อมฺหากํ ทาตุํ มญฺญิสฺสนฺติฯ เอวํ มยํ สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิสฺสาม, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิสฺสามา’’ติฯ เอกเจฺจ เอวมาหํสุ – ‘‘อลํ, อาวุโส, กิํ คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐิเตน? หนฺท มยํ, อาวุโส, คิหีนํ ทูเตยฺยํ หรามฯ เอวํ เต อมฺหากํ ทาตุํ มญฺญิสฺสนฺติฯ เอวํ มยํ สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิสฺสาม, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิสฺสามา’’ติฯ เอกเจฺจ เอวมาหํสุ – ‘‘อลํ, อาวุโส; กิํ คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิฎฺฐิเตน! กิํ คิหีนํ ทูเตยฺยํ หเฎน! หนฺท มยํ, อาวุโส, คิหีนํ อญฺญมญฺญสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิสฺสาม – ‘อสุโก ภิกฺขุ ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี, อสุโก ภิกฺขุ ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภี, อสุโก ภิกฺขุ ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภี, อสุโก ภิกฺขุ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, อสุโก ภิกฺขุ โสตาปโนฺน, อสุโก ภิกฺขุ สกทาคามี, อสุโก ภิกฺขุ อนาคามี, อสุโก ภิกฺขุ อรหา, อสุโก ภิกฺขุ เตวิโชฺช, อสุโก ภิกฺขุ ฉฬภิโญฺญติฯ เอวํ เต อมฺหากํ ทาตุํ มญฺญิสฺสนฺติฯ เอวํ มยํ สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิสฺสาม, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิสฺสามา’’ติฯ เอโส เยว โข, อาวุโส, เสโยฺย, โย อมฺหากํ คิหีนํ อญฺญมญฺญสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วโณฺณ ภาสิโต’’ติฯ

    67.28 Tena samayena buddho bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Tena kho pana samayena sambahulā sandiṭṭhā sambhattā bhikkhū vaggumudāya nadiyā tīre vassaṃ upagacchiṃsu. Tena kho pana samayena vajjī dubbhikkhā hoti – dvīhitikā setaṭṭhikā salākāvuttā, na sukarā uñchena paggahena yāpetuṃ. Atha kho tesaṃ bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘etarahi kho vajjī dubbhikkhā – dvīhitikā setaṭṭhikā salākāvuttā, na sukarā uñchena paggahena yāpetuṃ. Kena nu kho mayaṃ upāyena samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vaseyyāma, na ca piṇḍakena kilameyyāmā’’ti? Ekacce evamāhaṃsu – ‘‘handa mayaṃ, āvuso, gihīnaṃ kammantaṃ adhiṭṭhema. Evaṃ te amhākaṃ dātuṃ maññissanti. Evaṃ mayaṃ samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasissāma, na ca piṇḍakena kilamissāmā’’ti. Ekacce evamāhaṃsu – ‘‘alaṃ, āvuso, kiṃ gihīnaṃ kammantaṃ adhiṭṭhitena? Handa mayaṃ, āvuso, gihīnaṃ dūteyyaṃ harāma. Evaṃ te amhākaṃ dātuṃ maññissanti. Evaṃ mayaṃ samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasissāma, na ca piṇḍakena kilamissāmā’’ti. Ekacce evamāhaṃsu – ‘‘alaṃ, āvuso; kiṃ gihīnaṃ kammantaṃ adhiṭṭhitena! Kiṃ gihīnaṃ dūteyyaṃ haṭena! Handa mayaṃ, āvuso, gihīnaṃ aññamaññassa uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsissāma – ‘asuko bhikkhu paṭhamassa jhānassa lābhī, asuko bhikkhu dutiyassa jhānassa lābhī, asuko bhikkhu tatiyassa jhānassa lābhī, asuko bhikkhu catutthassa jhānassa lābhī, asuko bhikkhu sotāpanno, asuko bhikkhu sakadāgāmī, asuko bhikkhu anāgāmī, asuko bhikkhu arahā, asuko bhikkhu tevijjo, asuko bhikkhu chaḷabhiññoti. Evaṃ te amhākaṃ dātuṃ maññissanti. Evaṃ mayaṃ samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasissāma, na ca piṇḍakena kilamissāmā’’ti. Eso yeva kho, āvuso, seyyo, yo amhākaṃ gihīnaṃ aññamaññassa uttarimanussadhammassa vaṇṇo bhāsito’’ti.

    อถ โข เต ภิกฺขู คิหีนํ อญฺญมญฺญสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิํสุ – ‘‘อสุโก ภิกฺขุ ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี…เป.… อสุโก ภิกฺขุ ฉฬภิโญฺญ’’ติฯ อถ โข เต มนุสฺสา – ‘‘ลาภา วต โน, สุลทฺธํ วต โน, เยสํ โน เอวรูปา ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, น วต โน อิโต ปุเพฺพ เอวรูปา ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, ยถยิเม ภิกฺขู สีลวโนฺต กลฺยาณธมฺมา’’ติฯ เต น ตาทิสานิ โภชนานิ อตฺตนา ภุญฺชนฺติ, มาตาปิตูนํ เทนฺติ ปุตฺตทารสฺส เทนฺติ ทาสกมฺมกรโปริสสฺส เทนฺติ มิตฺตามจฺจานํ เทนฺติ ญาติสาโลหิตานํ เทนฺติ ยาทิสานิ ภิกฺขูนํ เทนฺติฯ น ตาทิสานิ ขาทนียานิ สายนียานิ ปานานิ อตฺตนา ขาทนฺติ สายนฺติ ปิวนฺติ 29 มาตาปิตูนํ เทนฺติ ปุตฺตทารสฺส เทนฺติ ทาสกมฺมกรโปริสสฺส เทนฺติ มิตฺตามจฺจานํ เทนฺติ ญาติสาโลหิตานํ เทนฺติ , ยาทิสานิ ภิกฺขูนํ เทนฺติฯ อถ โข เต ภิกฺขู วณฺณวา อเหสุํ ปีณินฺทฺริยา ปสนฺนมุขวณฺณา วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาฯ

    Atha kho te bhikkhū gihīnaṃ aññamaññassa uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsiṃsu – ‘‘asuko bhikkhu paṭhamassa jhānassa lābhī…pe… asuko bhikkhu chaḷabhiñño’’ti. Atha kho te manussā – ‘‘lābhā vata no, suladdhaṃ vata no, yesaṃ no evarūpā bhikkhū vassaṃ upagatā, na vata no ito pubbe evarūpā bhikkhū vassaṃ upagatā, yathayime bhikkhū sīlavanto kalyāṇadhammā’’ti. Te na tādisāni bhojanāni attanā bhuñjanti, mātāpitūnaṃ denti puttadārassa denti dāsakammakaraporisassa denti mittāmaccānaṃ denti ñātisālohitānaṃ denti yādisāni bhikkhūnaṃ denti. Na tādisāni khādanīyāni sāyanīyāni pānāni attanā khādanti sāyanti pivanti 30 mātāpitūnaṃ denti puttadārassa denti dāsakammakaraporisassa denti mittāmaccānaṃ denti ñātisālohitānaṃ denti , yādisāni bhikkhūnaṃ denti. Atha kho te bhikkhū vaṇṇavā ahesuṃ pīṇindriyā pasannamukhavaṇṇā vippasannachavivaṇṇā.

    ๖๘. อาจิณฺณํ โข ปเนตํ วสฺสํวุฎฺฐานํ ภิกฺขูนํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ อถ โข เต ภิกฺขู วสฺสํวุฎฺฐา เตมาสจฺจเยน เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เวสาลี เตน ปกฺกมิํสุฯ อนุปุเพฺพน เยน เวสาลี มหาวนํ กูฎาคารสาลา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เตน โข ปน สมเยน ทิสาสุ วสฺสํวุฎฺฐา ภิกฺขู กิสา โหนฺติ ลูขา ทุพฺพณฺณา อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา ธมนิสนฺถตคตฺตาฯ วคฺคุมุทาตีริยา ปน ภิกฺขู วณฺณวา โหนฺติ ปีณินฺทฺริยา ปสนฺนมุขวณฺณา วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาฯ อาจิณฺณํ โข ปเนตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฎิสโมฺมทิตุํฯ อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิตฺถ, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิตฺถา’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควาฯ สมคฺคา จ มยํ, ภเนฺต, สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิมฺหา, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิมฺหา’’ติฯ ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, ชานนฺตาปิ น ปุจฺฉนฺติฯ กาลํ วิทิตฺวา ปุจฺฉนฺติ , กาลํ วิทิตฺวา น ปุจฺฉนฺติฯ อตฺถสญฺหิตํ ตถาคตา ปุจฺฉนฺติ, โน อนตฺถสญฺหิตํฯ อนตฺถสญฺหิเต เสตุฆาโต ตถาคตานํฯ ทฺวีหากาเรหิ พุทฺธา ภควโนฺต ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉนฺติ – ธมฺมํ วา เทเสสฺสาม, สาวกานํ วา สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามาติฯ

    68. Āciṇṇaṃ kho panetaṃ vassaṃvuṭṭhānaṃ bhikkhūnaṃ bhagavantaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Atha kho te bhikkhū vassaṃvuṭṭhā temāsaccayena senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya yena vesālī tena pakkamiṃsu. Anupubbena yena vesālī mahāvanaṃ kūṭāgārasālā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Tena kho pana samayena disāsu vassaṃvuṭṭhā bhikkhū kisā honti lūkhā dubbaṇṇā uppaṇḍuppaṇḍukajātā dhamanisanthatagattā. Vaggumudātīriyā pana bhikkhū vaṇṇavā honti pīṇindriyā pasannamukhavaṇṇā vippasannachavivaṇṇā. Āciṇṇaṃ kho panetaṃ buddhānaṃ bhagavantānaṃ āgantukehi bhikkhūhi saddhiṃ paṭisammodituṃ. Atha kho bhagavā vaggumudātīriye bhikkhū etadavoca – ‘‘kacci, bhikkhave, khamanīyaṃ, kacci yāpanīyaṃ, kacci samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasittha, na ca piṇḍakena kilamitthā’’ti? ‘‘Khamanīyaṃ bhagavā, yāpanīyaṃ bhagavā. Samaggā ca mayaṃ, bhante, sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasimhā, na ca piṇḍakena kilamimhā’’ti. Jānantāpi tathāgatā pucchanti, jānantāpi na pucchanti. Kālaṃ viditvā pucchanti , kālaṃ viditvā na pucchanti. Atthasañhitaṃ tathāgatā pucchanti, no anatthasañhitaṃ. Anatthasañhite setughāto tathāgatānaṃ. Dvīhākārehi buddhā bhagavanto bhikkhū paṭipucchanti – dhammaṃ vā desessāma, sāvakānaṃ vā sikkhāpadaṃ paññapessāmāti.

    อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ยถา กถํ ปน ตุเมฺห, ภิกฺขเว, สมคฺคา สโมฺมทมานา อวิวทมานา ผาสุกํ วสฺสํ วสิตฺถ, น จ ปิณฺฑเกน กิลมิตฺถา’’ติ? อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘กจฺจิ ปน โว, ภิกฺขเว, ภูต’’นฺติ? ‘‘ภูตํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อุทรสฺส การณา คิหีนํ อญฺญมญฺญสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสิสฺสถ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Atha kho bhagavā vaggumudātīriye bhikkhū etadavoca – ‘‘yathā kathaṃ pana tumhe, bhikkhave, samaggā sammodamānā avivadamānā phāsukaṃ vassaṃ vasittha, na ca piṇḍakena kilamitthā’’ti? Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Kacci pana vo, bhikkhave, bhūta’’nti? ‘‘Bhūtaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, bhikkhave, udarassa kāraṇā gihīnaṃ aññamaññassa uttarimanussadhammassa vaṇṇaṃ bhāsissatha! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๖๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนุปสมฺปนฺนสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อาโรเจยฺย ภูตสฺมิํ, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    69.‘‘Yo pana bhikkhu anupasampannassa uttarimanussadhammaṃ āroceyya bhūtasmiṃ, pācittiya’’nti.

    ๗๐. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    70.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    อนุปสมฺปโนฺน นาม ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ ฐเปตฺวา, อวเสโส อนุปสมฺปโนฺน นามฯ

    Anupasampanno nāma bhikkhuñca bhikkhuniñca ṭhapetvā, avaseso anupasampanno nāma.

    31 อุตฺตริมนุสฺสธโมฺม นาม ฌานํ, วิโมโกฺข, สมาธิ, สมาปตฺติ, ญาณทสฺสนํ, มคฺคภาวนา, ผลสจฺฉิกิริยา, กิเลสปฺปหานํ, วินีวรณตา จิตฺตสฺส, สุญฺญาคาเร อภิรติฯ

    32Uttarimanussadhammo nāma jhānaṃ, vimokkho, samādhi, samāpatti, ñāṇadassanaṃ, maggabhāvanā, phalasacchikiriyā, kilesappahānaṃ, vinīvaraṇatā cittassa, suññāgāre abhirati.

    33 ฌานนฺติ ปฐมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํฯ

    34Jhānanti paṭhamaṃ jhānaṃ, dutiyaṃ jhānaṃ, tatiyaṃ jhānaṃ, catutthaṃ jhānaṃ.

    35 วิโมโกฺขติ สุญฺญโต วิโมโกฺข, อนิมิโตฺต วิโมโกฺข, อปฺปณิหิโต วิโมโกฺขฯ

    36Vimokkhoti suññato vimokkho, animitto vimokkho, appaṇihito vimokkho.

    37 สมาธีติ สุญฺญโต สมาธิ, อนิมิโตฺต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิฯ

    38Samādhīti suññato samādhi, animitto samādhi, appaṇihito samādhi.

    39 สมาปตฺตีติ สุญฺญตา สมาปตฺติ, อนิมิตฺตา สมาปตฺติ, อปฺปณิหิตา สมาปตฺติฯ

    40Samāpattīti suññatā samāpatti, animittā samāpatti, appaṇihitā samāpatti.

    41 ญาณทสฺสนนฺติ ติโสฺส วิชฺชาฯ

    42Ñāṇadassananti tisso vijjā.

    43 มคฺคภาวนาติ จตฺตาโร สติปฎฺฐานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปญฺจินฺทฺริยานิ, ปญฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺคฯ

    44Maggabhāvanāti cattāro satipaṭṭhānā, cattāro sammappadhānā, cattāro iddhipādā, pañcindriyāni, pañca balāni, satta bojjhaṅgā, ariyo aṭṭhaṅgiko maggo.

    45 ผลสจฺฉิกิริยาติ โสตาปตฺติผลสฺส สจฺฉิกิริยา, สกทาคามิผลสฺส สจฺฉิกิริยา, อนาคามิผลสฺส สจฺฉิกิริยา, อรหตฺตสฺส 46 สจฺฉิกิริยาฯ

    47Phalasacchikiriyāti sotāpattiphalassa sacchikiriyā, sakadāgāmiphalassa sacchikiriyā, anāgāmiphalassa sacchikiriyā, arahattassa 48 sacchikiriyā.

    49 กิเลสปฺปหานนฺติ ราคสฺส ปหานํ, โทสสฺส ปหานํ, โมหสฺส ปหานํฯ

    50Kilesappahānanti rāgassa pahānaṃ, dosassa pahānaṃ, mohassa pahānaṃ.

    51 วินีวรณตา จิตฺตสฺสาติ ราคา จิตฺตํ วินีวรณตา, โทสา จิตฺตํ วินีวรณตา, โมหา จิตฺตํ วินีวรณตาฯ

    52Vinīvaraṇatā cittassāti rāgā cittaṃ vinīvaraṇatā, dosā cittaṃ vinīvaraṇatā, mohā cittaṃ vinīvaraṇatā.

    53 สุญฺญาคาเร อภิรตีติ ปฐเมน ฌาเนน สุญฺญาคาเร อภิรติ, ทุติเยน ฌาเนน สุญฺญาคาเร อภิรติ, ตติเยน ฌาเนน สุญฺญาคาเร อภิรติ, จตุเตฺถน ฌาเนน สุญฺญาคาเร อภิรติฯ

    54Suññāgāre abhiratīti paṭhamena jhānena suññāgāre abhirati, dutiyena jhānena suññāgāre abhirati, tatiyena jhānena suññāgāre abhirati, catutthena jhānena suññāgāre abhirati.

    ๗๑. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    71.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajjāmī’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปโนฺน’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpanno’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภิมฺหี’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamassa jhānassa lābhimhī’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมสฺส ฌานสฺส วสิมฺหี’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamassa jhānassa vasimhī’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyaṃ jhānaṃ… tatiyaṃ jhānaṃ… catutthaṃ jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; catutthassa jhānassa lābhimhi, vasimhi; catutthaṃ jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘สุญฺญตํ วิโมกฺขํ… อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ… อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ… สุญฺญตํ สมาธิํ… อนิมิตฺตํ สมาธิํ… อปฺปณิหิตํ สมาธิํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; อปฺปณิหิตสฺส สมาธิสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; อปฺปณิหิโต สมาธิ สจฺฉิกโต มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘suññataṃ vimokkhaṃ… animittaṃ vimokkhaṃ… appaṇihitaṃ vimokkhaṃ… suññataṃ samādhiṃ… animittaṃ samādhiṃ… appaṇihitaṃ samādhiṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; appaṇihitassa samādhissa lābhimhi, vasimhi; appaṇihito samādhi sacchikato mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘สุญฺญตํ สมาปตฺติํ… อนิมิตฺตํ สมาปตฺติํ… อปฺปณิหิตํ สมาปตฺติํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; อปฺปณิหิตาย สมาปตฺติยา ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; อปฺปณิหิตา สมาปตฺติ สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘suññataṃ samāpattiṃ… animittaṃ samāpattiṃ… appaṇihitaṃ samāpattiṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; appaṇihitāya samāpattiyā lābhimhi, vasimhi; appaṇihitā samāpatti sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ติโสฺส วิชฺชา สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ติโสฺส วิชฺชา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘tisso vijjā samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; tissannaṃ vijjānaṃ lābhimhi, vasimhi; tisso vijjā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน… จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน… จตฺตาโร อิทฺธิปาเท สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; จตฺตาโร อิทฺธิปาทา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘cattāro satipaṭṭhāne… cattāro sammappadhāne… cattāro iddhipāde samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; catunnaṃ iddhipādānaṃ lābhimhi, vasimhi; cattāro iddhipādā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปญฺจินฺทฺริยานิ… ปญฺจ พลานิ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ , สมาปโนฺน; ปญฺจนฺนํ พลานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปญฺจ พลานิ สจฺฉิกตานิ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘pañcindriyāni… pañca balāni samāpajjiṃ, samāpajjāmi , samāpanno; pañcannaṃ balānaṃ lābhimhi, vasimhi; pañca balāni sacchikatāni mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘สตฺต โพชฺฌเงฺค สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; สตฺต โพชฺฌงฺคา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘satta bojjhaṅge samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; sattannaṃ bojjhaṅgānaṃ lābhimhi, vasimhi; satta bojjhaṅgā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; อริยสฺส อฎฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค สจฺฉิกโต มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; ariyassa aṭṭhaṅgikassa maggassa lābhimhi, vasimhi; ariyo aṭṭhaṅgiko maggo sacchikato mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โสตาปตฺติผลํ… สกทาคามิผลํ… อนาคามิผลํ… อรหตฺตํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; อรหตฺตสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; อรหตฺตํ 55 สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘sotāpattiphalaṃ… sakadāgāmiphalaṃ… anāgāmiphalaṃ… arahattaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; arahattassa lābhimhi, vasimhi; arahattaṃ 56 sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ราโค เม จโตฺต… โทโส เม จโตฺต… โมโห เม จโตฺต, วโนฺต, มุโตฺต, ปหีโน, ปฎินิสฺสโฎฺฐ, อุเกฺขฎิโต , สมุเกฺขฎิโต’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘rāgo me catto… doso me catto… moho me catto, vanto, mutto, pahīno, paṭinissaṭṭho, ukkheṭito , samukkheṭito’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ราคา เม จิตฺตํ วินีวรณํ… โทสา เม จิตฺต วินีวรณํ… โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘rāgā me cittaṃ vinīvaraṇaṃ… dosā me citta vinīvaraṇaṃ… mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘สุญฺญาคาเร ปฐมํ ฌานํ… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; สุญฺญาคาเร จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘suññāgāre paṭhamaṃ jhānaṃ… dutiyaṃ jhānaṃ… tatiyaṃ jhānaṃ… catutthaṃ jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; suññāgāre catutthassa jhānassa lābhimhi, vasimhi; suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    ๗๒. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ ทุติยญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส ทุติยสฺส จ ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ ทุติยญฺจ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    72.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ dutiyañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa dutiyassa ca jhānassa lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ dutiyañca jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ ฌานํ… ปฐมญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส จตุตฺถสฺส จ ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ tatiyañca jhānaṃ… paṭhamañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa catutthassa ca jhānassa lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ สุญฺญตญฺจ วิโมกฺขํ… อนิมิตฺตญฺจ วิโมกฺขํ… อปฺปณิหิตญฺจ วิโมกฺขํ… สุญฺญตญฺจ สมาธิํ… อนิมิตฺตญฺจ สมาธิํ… อปฺปณิหิตญฺจ สมาธิํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส อปฺปณิหิตสฺส จ สมาธิสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ อปฺปณิหิโต จ สมาธิ สจฺฉิกโต มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ suññatañca vimokkhaṃ… animittañca vimokkhaṃ… appaṇihitañca vimokkhaṃ… suññatañca samādhiṃ… animittañca samādhiṃ… appaṇihitañca samādhiṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa appaṇihitassa ca samādhissa lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ appaṇihito ca samādhi sacchikato mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ สุญฺญตญฺจ สมาปตฺติํ… อนิมิตฺตญฺจ สมาปตฺติํ… อปฺปณิหิตญฺจ สมาปตฺติํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส อปฺปณิหิตาย จ สมาปตฺติยา ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ อปฺปณิหิตา จ สมาปตฺติ สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ suññatañca samāpattiṃ… animittañca samāpattiṃ… appaṇihitañca samāpattiṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa appaṇihitāya ca samāpattiyā lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ appaṇihitā ca samāpatti sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ ติโสฺส จ วิชฺชา สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส ติสฺสนฺนญฺจ วิชฺชานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ ติโสฺส จ วิชฺชา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ tisso ca vijjā samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa tissannañca vijjānaṃ lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ tisso ca vijjā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ จตฺตาโร จ สติปฎฺฐาเน…เป.… จตฺตาโร จ สมฺมปฺปธาเน… จตฺตาโร จ อิทฺธิปาเท สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส จตุนฺนญฺจ อิทฺธิปาทานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ จตฺตาโร จ อิทฺธิปาทา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ cattāro ca satipaṭṭhāne…pe… cattāro ca sammappadhāne… cattāro ca iddhipāde samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa catunnañca iddhipādānaṃ lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ cattāro ca iddhipādā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ, ปญฺจ จ อินฺทฺริยานิ… ปญฺจ จ พลานิ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส ปญฺจนฺนญฺจ พลานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ ปญฺจ จ พลานิ สจฺฉิกตานิ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ, pañca ca indriyāni… pañca ca balāni samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa pañcannañca balānaṃ lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ pañca ca balāni sacchikatāni mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ สตฺต จ โพชฺฌเงฺค สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส สตฺตนฺนญฺจ โพชฺฌงฺคานํ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ สตฺต จ โพชฺฌงฺคา สจฺฉิกตา มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ satta ca bojjhaṅge samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa sattannañca bojjhaṅgānaṃ lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ satta ca bojjhaṅgā sacchikatā mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ อริยญฺจ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส อริยสฺส จ อฎฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ อริโย จ อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค สจฺฉิกโต มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ ariyañca aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa ariyassa ca aṭṭhaṅgikassa maggassa lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ ariyo ca aṭṭhaṅgiko maggo sacchikato mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ โสตาปตฺติผลญฺจ… สกทาคามิผลญฺจ… อนาคามิผลญฺจ… อรหตฺตญฺจ 57 สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ปฐมสฺส จ ฌานสฺส อรหตฺตสฺส 58 จ ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ปฐมญฺจ ฌานํ อรหตฺตญฺจ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ sotāpattiphalañca… sakadāgāmiphalañca… anāgāmiphalañca… arahattañca 59 samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; paṭhamassa ca jhānassa arahattassa 60 ca lābhimhi, vasimhi; paṭhamañca jhānaṃ arahattañca sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน… ราโค จ เม จโตฺต… โทโส จ เม จโตฺต… โมโห จ เม จโตฺต, วโนฺต, มุโตฺต, ปหีโน, ปฎินิสฺสโฎฺฐ, อุเกฺขฎิโต, สมุเกฺขฎิโต’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno… rāgo ca me catto… doso ca me catto… moho ca me catto, vanto, mutto, pahīno, paṭinissaṭṭho, ukkheṭito, samukkheṭito’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน… ราคา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ… โทสา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ… โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno… rāgā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ… dosā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ… mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    ๗๓. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ ฌานํ… ทุติยญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ทุติยสฺส จ ฌานสฺส จตุตฺถสฺส จ ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ทุติยญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    73.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyañca jhānaṃ tatiyañca jhānaṃ… dutiyañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; dutiyassa ca jhānassa catutthassa ca jhānassa lābhimhi, vasimhi; dutiyañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยญฺจ ฌานํ สุญฺญตญฺจ วิโมกฺขํ…เป.… โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyañca jhānaṃ suññatañca vimokkhaṃ…pe… mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยญฺจ ฌานํ ปฐมญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; ทุติยสฺส จ ฌานสฺส ปฐมสฺส จ ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; ทุติยญฺจ ฌานํ ปฐมญฺจ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyañca jhānaṃ paṭhamañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; dutiyassa ca jhānassa paṭhamassa ca jhānassa lābhimhi, vasimhi; dutiyañca jhānaṃ paṭhamañca jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    มูลํ สํขิตฺตํฯ

    Mūlaṃ saṃkhittaṃ.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, ปฐมญฺจ ฌานํ สมาปชฺชิํ, สมาปชฺชามิ, สมาปโนฺน; โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, ปฐมสฺส จ ฌานสฺส ลาภิมฺหิ, วสิมฺหิ; โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, ปฐมญฺจ ฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, paṭhamañca jhānaṃ samāpajjiṃ, samāpajjāmi, samāpanno; mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, paṭhamassa ca jhānassa lābhimhi, vasimhi; mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, paṭhamañca jhānaṃ sacchikataṃ mayā’’ti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, โทสา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, dosā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa…pe….

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ ทุติยญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ สุญฺญตญฺจ วิโมกฺขํ อนิมิตฺตญฺจ วิโมกฺขํ อปฺปณิหิตญฺจ วิโมกฺขํ สุญฺญตญฺจ สมาธิํ อนิมิตฺตญฺจ สมาธิํ อปฺปณิหิตญฺจ สมาธิํ สุญฺญตญฺจ สมาปตฺติํ อนิมิตฺตญฺจ สมาปตฺติํ อปฺปณิหิตญฺจ สมาปตฺติํ ติโสฺส จ วิชฺชา จตฺตาโร จ สติปฎฺฐาเน จตฺตาโร จ สมฺมปฺปธาเน จตฺตาโร จ อิทฺธิปาเท ปญฺจ จ อินฺทฺริยานิ ปญฺจ จ พลานิ สตฺต จ โพชฺฌเงฺค อริยญฺจ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ โสตาปตฺติผลญฺจ สกทาคามิผลญฺจ อนาคามิผลญฺจ อรหตฺตญฺจ 61 สมาปชฺชิํ…เป.… ราโค จ เม จโตฺต, โทโส จ เม จโตฺต, โมโห จ เม จโตฺต, วโนฺต, มุโตฺต, ปหีโน, ปฎินิสฺสโฎฺฐ, อุเกฺขฎิโต สมุเกฺขฎิโต, ราคา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, โทสา จ เม จิตฺตํ วินีวรณํ, โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ dutiyañca jhānaṃ tatiyañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ suññatañca vimokkhaṃ animittañca vimokkhaṃ appaṇihitañca vimokkhaṃ suññatañca samādhiṃ animittañca samādhiṃ appaṇihitañca samādhiṃ suññatañca samāpattiṃ animittañca samāpattiṃ appaṇihitañca samāpattiṃ tisso ca vijjā cattāro ca satipaṭṭhāne cattāro ca sammappadhāne cattāro ca iddhipāde pañca ca indriyāni pañca ca balāni satta ca bojjhaṅge ariyañca aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ sotāpattiphalañca sakadāgāmiphalañca anāgāmiphalañca arahattañca 62 samāpajjiṃ…pe… rāgo ca me catto, doso ca me catto, moho ca me catto, vanto, mutto, pahīno, paṭinissaṭṭho, ukkheṭito samukkheṭito, rāgā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, dosā ca me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti pācittiyassa.

    ๗๔. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ วตฺตุกาโม ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    74.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti vattukāmo ‘‘dutiyaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ วตฺตุกาโม ‘‘ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ, สุญฺญตํ วิโมกฺขํ, อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ, อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ, สุญฺญตํ สมาธิํ, อนิมิตฺตํ สมาธิํ, อปฺปณิหิตํ สมาธิํ, สุญฺญตํ สมาปตฺติํ, อนิมิตฺตํ สมาปตฺติํ, อปฺปณิหิตํ สมาปตฺติํ, ติโสฺส วิชฺชา, จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปญฺจินฺทฺริยานิ, ปญฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌเงฺค, อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตํ 63 สมาปชฺชิํ…เป.… ราโค เม จโตฺต, โทโส เม จโตฺต, โมโห เม จโตฺต, วโนฺต, มุโตฺต, ปหีโน; ปฎินิสฺสโฎฺฐ, อุเกฺขฎิโต, สมุเกฺขฎิโต; ราคา เม จิตฺตํ วินีวรณํ, โทสา เม จิตฺตํ วินีวรณํ, โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti vattukāmo ‘‘tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ, suññataṃ vimokkhaṃ, animittaṃ vimokkhaṃ, appaṇihitaṃ vimokkhaṃ, suññataṃ samādhiṃ, animittaṃ samādhiṃ, appaṇihitaṃ samādhiṃ, suññataṃ samāpattiṃ, animittaṃ samāpattiṃ, appaṇihitaṃ samāpattiṃ, tisso vijjā, cattāro satipaṭṭhāne, cattāro sammappadhāne, cattāro iddhipāde, pañcindriyāni, pañca balāni, satta bojjhaṅge, ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ, sotāpattiphalaṃ, sakadāgāmiphalaṃ, anāgāmiphalaṃ, arahattaṃ 64 samāpajjiṃ…pe… rāgo me catto, doso me catto, moho me catto, vanto, mutto, pahīno; paṭinissaṭṭho, ukkheṭito, samukkheṭito; rāgā me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, dosā me cittaṃ vinīvaraṇaṃ, mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ วตฺตุกาโม…เป.… ‘‘โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti vattukāmo…pe… ‘‘mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa…pe….

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ วตฺตุกาโม – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti vattukāmo – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa…pe….

    มูลํ สํขิตฺตํฯ

    Mūlaṃ saṃkhittaṃ.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ วตฺตุกาโม – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti vattukāmo – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa…pe….

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ วตฺตุกาโม – ‘‘โทสา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti vattukāmo – ‘‘dosā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa…pe….

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ปฐมญฺจ ฌานํ ทุติยญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ …เป.… โทสา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ วตฺตุกาโม – ‘‘โมหา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘paṭhamañca jhānaṃ dutiyañca jhānaṃ tatiyañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ …pe… dosā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti vattukāmo – ‘‘mohā me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ทุติยญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ ฌานํ…เป.… โมหา จ เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ วตฺตุกาโม – ‘‘ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺตสฺส ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺส, น ปฎิวิชานนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส…เป.…ฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘dutiyañca jhānaṃ tatiyañca jhānaṃ catutthañca jhānaṃ…pe… mohā ca me cittaṃ vinīvaraṇa’’nti vattukāmo – ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji’’nti bhaṇantassa paṭivijānantassa āpatti pācittiyassa, na paṭivijānantassa āpatti dukkaṭassa…pe….

    ๗๕. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ ปฐมํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ ปฐมสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา ปฐมํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    75.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu paṭhamaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu paṭhamassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā paṭhamaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ catutthaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu catutthassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā catutthaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ สุญฺญตํ วิโมกฺขํ…เป.… อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ สุญฺญตํ สมาธิํ อนิมิตฺตํ สมาธิํ อปฺปณิหิตํ สมาธิํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ อปฺปณิหิตสฺส สมาธิสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา อปฺปณิหิโต สมาธิ สจฺฉิกโต’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu suññataṃ vimokkhaṃ…pe… animittaṃ vimokkhaṃ appaṇihitaṃ vimokkhaṃ suññataṃ samādhiṃ animittaṃ samādhiṃ appaṇihitaṃ samādhiṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu appaṇihitassa samādhissa lābhī, vasī; tena bhikkhunā appaṇihito samādhi sacchikato’’ti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ สุญฺญตํ สมาปตฺติํ…เป.… อนิมิตฺตํ สมาปตฺติํ อปฺปณิหิตํ สมาปตฺติํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; อปฺปณิหิตาย สมาปตฺติยา ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา อปฺปณิหิตา สมาปตฺติ สจฺฉิกตา’’ติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu suññataṃ samāpattiṃ…pe… animittaṃ samāpattiṃ appaṇihitaṃ samāpattiṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; appaṇihitāya samāpattiyā lābhī, vasī; tena bhikkhunā appaṇihitā samāpatti sacchikatā’’ti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ ติโสฺส วิชฺชา …เป.… จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปญฺจินฺทฺริยานิ, ปญฺจ พลานิ, สตฺต โพฌเงฺค, อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, โสตาปตฺติผลํ, สกทาคามิผลํ, อนาคามิผลํ, อรหตฺตํ 65 สมาปชฺชิ…เป.… สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน…เป.… ตสฺส ภิกฺขุโน ราโค จโตฺต, โทโส จโตฺต, โมโห จโตฺต, วโนฺต, มุโตฺต, ปหีโน, ปฎินิสฺสโฎฺฐ, อุเกฺขฎิโต, สมุเกฺขฎิโต; ตสฺส ภิกฺขุโน ราคา จิตฺตํ วินีวรณํ, โทสา จิตฺตํ วินีวรณํ, โมหา จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu tisso vijjā …pe… cattāro satipaṭṭhāne, cattāro sammappadhāne, cattāro iddhipāde, pañcindriyāni, pañca balāni, satta bojhaṅge, ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ, sotāpattiphalaṃ, sakadāgāmiphalaṃ, anāgāmiphalaṃ, arahattaṃ 66 samāpajji…pe… samāpajjati, samāpanno…pe… tassa bhikkhuno rāgo catto, doso catto, moho catto, vanto, mutto, pahīno, paṭinissaṭṭho, ukkheṭito, samukkheṭito; tassa bhikkhuno rāgā cittaṃ vinīvaraṇaṃ, dosā cittaṃ vinīvaraṇaṃ, mohā cittaṃ vinīvaraṇa’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต วิหาเร วสิ โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร ปฐมํ ฌานํ…เป.… ทุติยํ ฌานํ ตติยํ ฌานํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te vihāre vasi so bhikkhu suññāgāre paṭhamaṃ jhānaṃ…pe… dutiyaṃ jhānaṃ tatiyaṃ jhānaṃ catutthaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu suññāgāre catutthassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘โย เต จีวรํ ปริภุญฺชิ, โย เต ปิณฺฑปาตํ ปริภุญฺชิ, โย เต เสนาสนํ ปริภุญฺชิ, โย เต คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชิ โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yo te cīvaraṃ paribhuñji, yo te piṇḍapātaṃ paribhuñji, yo te senāsanaṃ paribhuñji, yo te gilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ paribhuñji so bhikkhu suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu suññāgāre catutthassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    ๗๖. อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘เยน เต วิหาโร ปริภุโตฺต…เป.… เยน เต จีวรํ ปริภุตฺตํ, เยน เต ปิณฺฑปาโต ปริภุโตฺต, เยน เต เสนาสนํ ปริภุตฺตํ, เยน เต คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร ปริภุโตฺต โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    76.Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yena te vihāro paribhutto…pe… yena te cīvaraṃ paribhuttaṃ, yena te piṇḍapāto paribhutto, yena te senāsanaṃ paribhuttaṃ, yena te gilānappaccayabhesajjaparikkhāro paribhutto so bhikkhu suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu suññāgāre catutthassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    อาโรเจยฺยาติ อนุปสมฺปนฺนสฺส – ‘‘ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหารํ อทาสิ…เป.… จีวรํ อทาสิ, ปิณฺฑปาตํ อทาสิ, เสนาสนํ อทาสิ, คิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ อทาสิ โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชิ, สมาปชฺชติ, สมาปโนฺน; โส ภิกฺขุ สุญฺญาคาเร จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภี, วสี; เตน ภิกฺขุนา สุญฺญาคาเร จตุตฺถํ ฌานํ สจฺฉิกต’’นฺติ ภณนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Āroceyyāti anupasampannassa – ‘‘yaṃ tvaṃ āgamma vihāraṃ adāsi…pe… cīvaraṃ adāsi, piṇḍapātaṃ adāsi, senāsanaṃ adāsi, gilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ adāsi so bhikkhu suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ samāpajji, samāpajjati, samāpanno; so bhikkhu suññāgāre catutthassa jhānassa lābhī, vasī; tena bhikkhunā suññāgāre catutthaṃ jhānaṃ sacchikata’’nti bhaṇantassa āpatti dukkaṭassa.

    ๗๗. อนาปตฺติ อุปสมฺปนฺนสฺส, ภูตํ อาโรเจติ, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    77. Anāpatti upasampannassa, bhūtaṃ āroceti, ādikammikassāti.

    ภูตาโรจนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ

    Bhūtārocanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.

    ๙. ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทํ

    9. Duṭṭhullārocanasikkhāpadaṃ

    ๗๘. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ฉพฺพคฺคิเยหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ภณฺฑนกโต โหติฯ โส สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อาปตฺติํ อาปชฺชิตฺวา สงฺฆํ ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ ยาจิฯ ตสฺส สโงฺฆ ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ อทาสิฯ เตน โข ปน สมเยน สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส ปูคสฺส สงฺฆภตฺตํ โหติฯ โส ปริวสโนฺต ภตฺตเคฺค อาสนปริยเนฺต นิสีทิฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เต อุปาสเก เอตทโวจุํ – ‘‘เอโส, อาวุโส, อายสฺมา อุปนโนฺท สกฺยปุโตฺต ตุมฺหากํ สมฺภาวิโต กุลูปโก; เยเนว หเตฺถน สทฺธาเทยฺยํ ภุญฺชติ เตเนว หเตฺถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจิํ โมเจสิฯ โส สเญฺจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฎฺฐิํ อาปตฺติํ อาปชฺชิตฺวา สงฺฆํ ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ ยาจิฯ ตสฺส สโงฺฆ ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ อทาสิ ฯ โส ปริวสโนฺต อาสนปริยเนฺต นิสิโนฺน’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภิกฺขุสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจสฺสนฺตี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจถา’’ติ? ‘‘สจฺจํ , ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ภิกฺขุสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจสฺสถ! เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    78. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā upanando sakyaputto chabbaggiyehi bhikkhūhi saddhiṃ bhaṇḍanakato hoti. So sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ āpattiṃ āpajjitvā saṅghaṃ tassā āpattiyā parivāsaṃ yāci. Tassa saṅgho tassā āpattiyā parivāsaṃ adāsi. Tena kho pana samayena sāvatthiyaṃ aññatarassa pūgassa saṅghabhattaṃ hoti. So parivasanto bhattagge āsanapariyante nisīdi. Chabbaggiyā bhikkhū te upāsake etadavocuṃ – ‘‘eso, āvuso, āyasmā upanando sakyaputto tumhākaṃ sambhāvito kulūpako; yeneva hatthena saddhādeyyaṃ bhuñjati teneva hatthena upakkamitvā asuciṃ mocesi. So sañcetanikaṃ sukkavissaṭṭhiṃ āpattiṃ āpajjitvā saṅghaṃ tassā āpattiyā parivāsaṃ yāci. Tassa saṅgho tassā āpattiyā parivāsaṃ adāsi . So parivasanto āsanapariyante nisinno’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū bhikkhussa duṭṭhullaṃ āpattiṃ anupasampannassa ārocessantī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, bhikkhussa duṭṭhullaṃ āpattiṃ anupasampannassa ārocethā’’ti? ‘‘Saccaṃ , bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, bhikkhussa duṭṭhullaṃ āpattiṃ anupasampannassa ārocessatha! Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๗๙. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจยฺย, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา 67, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    79.‘‘Yo pana bhikkhu bhikkhussa duṭṭhullaṃ āpattiṃ anupasampannassa āroceyya, aññatra bhikkhusammutiyā 68, pācittiya’’nti.

    ๘๐. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    80.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ภิกฺขุสฺสาติ อญฺญสฺส ภิกฺขุสฺสฯ

    Bhikkhussāti aññassa bhikkhussa.

    ทุฎฺฐุลฺลา นาม อาปตฺติ – จตฺตาริ จ ปาราชิกานิ, เตรส จ สงฺฆาทิเสสาฯ

    Duṭṭhullā nāma āpatti – cattāri ca pārājikāni, terasa ca saṅghādisesā.

    อนุปสมฺปโนฺน นาม ภิกฺขุญฺจ ภิกฺขุนิญฺจ ฐเปตฺวา อวเสโส อนุปสมฺปโนฺน นามฯ

    Anupasampanno nāma bhikkhuñca bhikkhuniñca ṭhapetvā avaseso anupasampanno nāma.

    อาโรเจยฺยาติ อาโรเจยฺย อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา คหฎฺฐสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาฯ

    Āroceyyāti āroceyya itthiyā vā purisassa vā gahaṭṭhassa vā pabbajitassa vā.

    อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ฐเปตฺวา ภิกฺขุสมฺมุติํฯ

    Aññatra bhikkhusammutiyāti ṭhapetvā bhikkhusammutiṃ.

    อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตา, น กุลปริยนฺตาฯ อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ กุลปริยนฺตา, น อาปตฺติปริยนฺตา, อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ อาปตฺติปริยนฺตา จ กุลปริยนฺตา จ, อตฺถิ ภิกฺขุสมฺมุติ เนว อาปตฺติปริยนฺตา น กุลปริยนฺตาฯ

    Atthi bhikkhusammuti āpattipariyantā, na kulapariyantā. Atthi bhikkhusammuti kulapariyantā, na āpattipariyantā, atthi bhikkhusammuti āpattipariyantā ca kulapariyantā ca, atthi bhikkhusammuti neva āpattipariyantā na kulapariyantā.

    อาปตฺติปริยนฺตา นาม อาปตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ – ‘‘เอตฺตกาหิ อาปตฺตีหิ อาโรเจตโพฺพ’’ติฯ

    Āpattipariyantā nāma āpattiyo pariggahitāyo honti – ‘‘ettakāhi āpattīhi ārocetabbo’’ti.

    กุลปริยนฺตา นาม กุลานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ – ‘‘เอตฺตเกสุ กุเลสุ อาโรเจตโพฺพ’’ติฯ อาปตฺติปริยนฺตา จ กุลปริยนฺตา จ นาม อาปตฺติโย จ ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ, กุลานิ จ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ – ‘‘เอตฺตกาหิ อาปตฺตีหิ เอตฺตเกสุ กุเลสุ อาโรเจตโพฺพ’’ติฯ เนว อาปตฺติปริยนฺตา น กุลปริยนฺตา นาม อาปตฺติโย จ อปริคฺคหิตาโย โหนฺติ, กุลานิ จ อปริคฺคหิตานิ โหนฺติ – ‘‘เอตฺตกาหิ อาปตฺตีหิ เอตฺตเกสุ กุเลสุ อาโรเจตโพฺพ’’ติฯ

    Kulapariyantā nāma kulāni pariggahitāni honti – ‘‘ettakesu kulesu ārocetabbo’’ti. Āpattipariyantā ca kulapariyantā ca nāma āpattiyo ca pariggahitāyo honti, kulāni ca pariggahitāni honti – ‘‘ettakāhi āpattīhi ettakesu kulesu ārocetabbo’’ti. Neva āpattipariyantā na kulapariyantā nāma āpattiyo ca apariggahitāyo honti, kulāni ca apariggahitāni honti – ‘‘ettakāhi āpattīhi ettakesu kulesu ārocetabbo’’ti.

    ๘๑. อาปตฺติปริยเนฺต ยา อาปตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ, ตา อาปตฺติโย ฐเปตฺวา อญฺญาหิ อาปตฺตีหิ อาโรเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    81. Āpattipariyante yā āpattiyo pariggahitāyo honti, tā āpattiyo ṭhapetvā aññāhi āpattīhi āroceti, āpatti pācittiyassa.

    กุลปริยเนฺต ยานิ กุลานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ, ตานิ กุลานิ ฐเปตฺวา อเญฺญสุ กุเลสุ อาโรเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Kulapariyante yāni kulāni pariggahitāni honti, tāni kulāni ṭhapetvā aññesu kulesu āroceti, āpatti pācittiyassa.

    อาปตฺติปริยเนฺต จ กุลปริยเนฺต จ ยา อาปตฺติโย ปริคฺคหิตาโย โหนฺติ, ตา อาปตฺติโย ฐเปตฺวา ยานิ กุลานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ, ตานิ กุลานิ ฐเปตฺวา อญฺญาหิ อาปตฺตีหิ อเญฺญสุ กุเลสุ อาโรเจติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Āpattipariyante ca kulapariyante ca yā āpattiyo pariggahitāyo honti, tā āpattiyo ṭhapetvā yāni kulāni pariggahitāni honti, tāni kulāni ṭhapetvā aññāhi āpattīhi aññesu kulesu āroceti, āpatti pācittiyassa.

    เนว อาปตฺติปริยเนฺต น กุลปริยเนฺต, อนาปตฺติฯ

    Neva āpattipariyante na kulapariyante, anāpatti.

    ๘๒. ทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติสญฺญี อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจติ, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    82. Duṭṭhullāya āpattiyā duṭṭhullāpattisaññī anupasampannassa āroceti, aññatra bhikkhusammutiyā, āpatti pācittiyassa.

    ทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา เวมติโก อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจติ, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Duṭṭhullāya āpattiyā vematiko anupasampannassa āroceti, aññatra bhikkhusammutiyā, āpatti pācittiyassa.

    ทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา อทุฎฺฐุลฺลาปตฺติสญฺญี อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจติ, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Duṭṭhullāya āpattiyā aduṭṭhullāpattisaññī anupasampannassa āroceti, aññatra bhikkhusammutiyā, āpatti pācittiyassa.

    อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อาโรเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Aduṭṭhullaṃ āpattiṃ āroceti, āpatti dukkaṭassa.

    อนุปสมฺปนฺนสฺส ทุฎฺฐุลฺลํ วา อทุฎฺฐุลฺลํ วา อชฺฌาจารํ อาโรเจติ, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Anupasampannassa duṭṭhullaṃ vā aduṭṭhullaṃ vā ajjhācāraṃ āroceti, āpatti dukkaṭassa.

    อทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Aduṭṭhullāya āpattiyā duṭṭhullāpattisaññī, āpatti dukkaṭassa.

    อทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Aduṭṭhullāya āpattiyā vematiko, āpatti dukkaṭassa.

    อทุฎฺฐุลฺลาย อาปตฺติยา อทุฎฺฐุลฺลาปตฺติสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Aduṭṭhullāya āpattiyā aduṭṭhullāpattisaññī, āpatti dukkaṭassa.

    ๘๓. อนาปตฺติ วตฺถุํ อาโรเจติ โน อาปตฺติํ, อาปตฺติํ อาโรเจติ โน วตฺถุํ, ภิกฺขุสมฺมุติยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    83. Anāpatti vatthuṃ āroceti no āpattiṃ, āpattiṃ āroceti no vatthuṃ, bhikkhusammutiyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ทุฎฺฐุลฺลาโรจนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ

    Duṭṭhullārocanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.

    ๑๐. ปถวีขณนสิกฺขาปทํ

    10. Pathavīkhaṇanasikkhāpadaṃ

    ๘๔. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเยฯ เตน โข ปน สมเยน อาฬวกา 69 ภิกฺขู นวกมฺมํ กโรนฺตา ปถวิํ ขณนฺติปิ ขณาเปนฺติปิฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ปถวิํ ขณิสฺสนฺติปิ ขณาเปสฺสนฺติปิ! เอกินฺทฺริยํ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชีวํ วิเหเฐนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อาฬวกา ภิกฺขู ปถวิํ ขณิสฺสนฺติปิ ขณาเปสฺสนฺติปี’’ติ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, ปถวิํ ขณถปิ ขณาเปถปี’’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, ปถวิํ ขณิสฺสถปิ ขณาเปสฺสถปิ! ชีวสญฺญิโน หิ, โมฆปุริสา, มนุสฺสา ปถวิยาฯ เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    84. Tena samayena buddho bhagavā āḷaviyaṃ viharati aggāḷave cetiye. Tena kho pana samayena āḷavakā 70 bhikkhū navakammaṃ karontā pathaviṃ khaṇantipi khaṇāpentipi. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā pathaviṃ khaṇissantipi khaṇāpessantipi! Ekindriyaṃ samaṇā sakyaputtiyā jīvaṃ viheṭhentī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma āḷavakā bhikkhū pathaviṃ khaṇissantipi khaṇāpessantipī’’ti…pe… ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, pathaviṃ khaṇathapi khaṇāpethapī’’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, pathaviṃ khaṇissathapi khaṇāpessathapi! Jīvasaññino hi, moghapurisā, manussā pathaviyā. Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๘๕. ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ปถวิํ ขเณยฺย วา ขณาเปยฺย วา, ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    85.‘‘Yo pana bhikkhu pathaviṃ khaṇeyya vā khaṇāpeyya vā, pācittiya’’nti.

    ๘๖. โย ปนาติ โย ยาทิโส…เป.… ภิกฺขูติ…เป.… อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติฯ

    86.Yo panāti yo yādiso…pe… bhikkhūti…pe… ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti.

    ปถวี นาม เทฺว ปถวิโย – ชาตา จ ปถวี อชาตา จ ปถวีฯ

    Pathavī nāma dve pathaviyo – jātā ca pathavī ajātā ca pathavī.

    ชาตา นาม ปถวี – สุทฺธปํสุ สุทฺธมตฺติกา อปฺปปาสาณา อปฺปสกฺขรา อปฺปกฐลา อปฺปมรุมฺพา อปฺปวาลิกา, เยภุเยฺยนปํสุกา, เยภุเยฺยนมตฺติกาฯ อทฑฺฒาปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวีฯ โยปิ ปํสุปุโญฺช วา มตฺติกาปุโญฺช วา อติเรกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ, อยมฺปิ วุจฺจติ ชาตา ปถวีฯ

    Jātā nāma pathavī – suddhapaṃsu suddhamattikā appapāsāṇā appasakkharā appakaṭhalā appamarumbā appavālikā, yebhuyyenapaṃsukā, yebhuyyenamattikā. Adaḍḍhāpi vuccati jātā pathavī. Yopi paṃsupuñjo vā mattikāpuñjo vā atirekacātumāsaṃ ovaṭṭho, ayampi vuccati jātā pathavī.

    อชาตา นาม ปถวี – สุทฺธปาสาณา สุทฺธสกฺขรา สุทฺธกฐลา สุทฺธมรุมฺพา สุทฺธวาลิกา อปฺปปํสุกา อปฺปมตฺติกา, เยภุเยฺยนปาสาณา, เยภุเยฺยนสกฺขรา, เยภุเยฺยนกฐลา, เยภุเยฺยนมรุมฺพา, เยภุเยฺยนวาลิกาฯ ทฑฺฒาปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวีฯ โยปิ ปํสุปุโญฺช วา มตฺติกาปุโญฺช วา โอมกจาตุมาสํ โอวโฎฺฐ, อยมฺปิ วุจฺจติ อชาตา ปถวีฯ

    Ajātā nāma pathavī – suddhapāsāṇā suddhasakkharā suddhakaṭhalā suddhamarumbā suddhavālikā appapaṃsukā appamattikā, yebhuyyenapāsāṇā, yebhuyyenasakkharā, yebhuyyenakaṭhalā, yebhuyyenamarumbā, yebhuyyenavālikā. Daḍḍhāpi vuccati ajātā pathavī. Yopi paṃsupuñjo vā mattikāpuñjo vā omakacātumāsaṃ ovaṭṭho, ayampi vuccati ajātā pathavī.

    ขเณยฺยาติ สยํ ขณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Khaṇeyyāti sayaṃ khaṇati, āpatti pācittiyassa.

    ขณาเปยฺยาติ อญฺญํ อาณาเปติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ สกิํ อาณโตฺต พหุกมฺปิ ขณติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    Khaṇāpeyyāti aññaṃ āṇāpeti, āpatti pācittiyassa. Sakiṃ āṇatto bahukampi khaṇati, āpatti pācittiyassa.

    ๘๗. ปถวิยา ปถวิสญฺญี ขณติ วา ขณาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ทหติ วา ทหาเปติ วา, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสฯ

    87. Pathaviyā pathavisaññī khaṇati vā khaṇāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, dahati vā dahāpeti vā, āpatti pācittiyassa.

    ปถวิยา เวมติโก ขณติ วา ขณาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ทหติ วา ทหาเปติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ

    Pathaviyā vematiko khaṇati vā khaṇāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, dahati vā dahāpeti vā, āpatti dukkaṭassa.

    ปถวิยา อปถวิสญฺญี ขณติ วา ขณาเปติ วา, ภินฺทติ วา เภทาเปติ วา, ทหติ วา ทหาเปติ วา, อนาปตฺติฯ

    Pathaviyā apathavisaññī khaṇati vā khaṇāpeti vā, bhindati vā bhedāpeti vā, dahati vā dahāpeti vā, anāpatti.

    อปถวิยา ปถวิสญฺญี, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปถวิยา เวมติโก, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อปถวิยา อปถวิสญฺญี, อนาปตฺติฯ

    Apathaviyā pathavisaññī, āpatti dukkaṭassa. Apathaviyā vematiko, āpatti dukkaṭassa. Apathaviyā apathavisaññī, anāpatti.

    ๘๘. อนาปตฺติ – ‘‘อิมํ ชาน, อิมํ เทหิ, อิมํ อาหร, อิมินา อโตฺถ, อิมํ กปฺปิยํ กโรหี’’ติ ภณติ, อสญฺจิจฺจ, อสติยา, อชานนฺตสฺส, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    88. Anāpatti – ‘‘imaṃ jāna, imaṃ dehi, imaṃ āhara, iminā attho, imaṃ kappiyaṃ karohī’’ti bhaṇati, asañcicca, asatiyā, ajānantassa, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ปถวีขณนสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ

    Pathavīkhaṇanasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.

    มุสาวาทวโคฺค ปฐโมฯ

    Musāvādavaggo paṭhamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    มุสา โอมสเปสุญฺญํ, ปทเสยฺยาย เว ทุเว;

    Musā omasapesuññaṃ, padaseyyāya ve duve;

    อญฺญตฺร วิญฺญุนา ภูตา, ทุฎฺฐุลฺลาปตฺติ ขณนาติฯ

    Aññatra viññunā bhūtā, duṭṭhullāpatti khaṇanāti.







    Footnotes:
    1. ทวาย ภณติ, รวาย ภณติ (สฺยา.)
    2. davāya bhaṇati, ravāya bhaṇati (syā.)
    3. ภเณฺฑนฺตา (อิติปิ)
    4. bhaṇḍentā (itipi)
    5. ตกฺกสีลายํ (ก.)
    6. พลิวโทฺท (สี.), พลิพโทฺท (สฺยา.)
    7. อญฺฉ กูฎ (สี. สฺยา.)
    8. takkasīlāyaṃ (ka.)
    9. balivaddo (sī.), balibaddo (syā.)
    10. añcha kūṭa (sī. syā.)
    11. ชา. ๑.๑.๒๘ นนฺทิวิสาลชาตเกปิ, ตตฺถ ปน มนุญฺญสโทฺท ทิสฺสติ
    12. jā. 1.1.28 nandivisālajātakepi, tattha pana manuññasaddo dissati
    13. วเทตีติ อุเทฺทโสฯ ภณตีติ วิตฺถาโร (วชิรพุทฺธิ)
    14. vadetīti uddeso. bhaṇatīti vitthāro (vajirabuddhi)
    15. ปทโส ธโมฺม (อิติปิ)
    16. padaso dhammo (itipi)
    17. วสติ, สพฺพอจฺฉเนฺน สพฺพอปริจฺฉเนฺน, (สี.)
    18. vasati, sabbaacchanne sabbaaparicchanne, (sī.)
    19. เอตฺถ อมฺพฎฺฐสุตฺตาทิฎีกา โอโลเกตพฺพา
    20. สมฺปฎิจฺฉตุ (สฺยา.)
    21. ettha ambaṭṭhasuttādiṭīkā oloketabbā
    22. sampaṭicchatu (syā.)
    23. ยกฺขินี (ก.)
    24. yakkhinī (ka.)
    25. อนาปตฺติ สพฺพอจฺฉเนฺน สพฺพอปริจฺฉเนฺน, (สี.)
    26. anāpatti sabbaacchanne sabbaaparicchanne, (sī.)
    27. ปารา. ๑๙๓
    28. pārā. 193
    29. อตฺตนา ปิวนฺติ (สฺยา. ก.)
    30. attanā pivanti (syā. ka.)
    31. ปารา. ๑๙๘
    32. pārā. 198
    33. ปารา. ๑๙๙
    34. pārā. 199
    35. ปารา. ๑๙๙
    36. pārā. 199
    37. ปารา. ๑๙๙
    38. pārā. 199
    39. ปารา. ๑๙๙
    40. pārā. 199
    41. ปารา. ๑๙๙
    42. pārā. 199
    43. ปารา. ๑๙๙
    44. pārā. 199
    45. ปารา. ๑๙๙
    46. อรหตฺตผลสฺส (สฺยา.)
    47. pārā. 199
    48. arahattaphalassa (syā.)
    49. ปารา. ๑๙๙
    50. pārā. 199
    51. ปารา. ๑๙๙
    52. pārā. 199
    53. ปารา. ๑๙๙
    54. pārā. 199
    55. อรหตฺตผลํ (สฺยา.)
    56. arahattaphalaṃ (syā.)
    57. อรหตฺตผลญฺจ (สฺยา.)
    58. อรหตฺตผลสฺส (สฺยา.)
    59. arahattaphalañca (syā.)
    60. arahattaphalassa (syā.)
    61. อรหตฺตผลญฺจ (สฺยา.)
    62. arahattaphalañca (syā.)
    63. อรหตฺตผลํ (สฺยา.)
    64. arahattaphalaṃ (syā.)
    65. อรหตฺตผลํ (สฺยา.)
    66. arahattaphalaṃ (syā.)
    67. ภิกฺขุสมฺมติยา (สฺยา.)
    68. bhikkhusammatiyā (syā.)
    69. อาฬวิกา (สฺยา.)
    70. āḷavikā (syā.)



    Related texts:




    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact