Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๑๐. นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Naccagītasikkhāpadavaṇṇanā
นจฺจนฺติ นฎาทโย วา นจฺจนฺตุ, โสณฺฑา วา อนฺตมโส โมรสุวมกฺกฎาทโยปิ, สพฺพเมตํ นจฺจเมวฯ เตนาห ‘‘นจฺจนฺติ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปี’’ติ ฯ คีตนฺติ นฎาทีนํ วา คีตํ โหตุ, อริยานํ ปรินิพฺพานกาเล รตนตฺตยคุณูปสํหิตํ สาธุกีฬิตคีตํ วา, อนฺตมโส ‘‘ทนฺตคีตมฺปิ คายิสฺสามา’’ติ ปุพฺพภาเค โอกูชนฺตา กโรนฺติ, สพฺพเมตํ คีตเมวฯ เตนาห ‘‘คีตนฺติ อนฺตมโส ธมฺมภาณกคีตมฺปี’’ติฯ ตตฺถ ธมฺมภาณกคีตํ นาม อสญฺญตภิกฺขูนํ ตํ ตํ วตฺตํ ภินฺทิตฺวา อติทีฆํ กตฺวา คีตสฺสเรน ธมฺมภณนํ, ตมฺปิ เนว ภิกฺขุโน, น ภิกฺขุนีนํ วฎฺฎติฯ ตถา หิ วุตฺตํ ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกฎฺฐกถาย (ขุ. ปา. อฎฺฐ. ๒.ปจฺฉิมปญฺจสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ธมฺมูปสํหิตํ คีตํ วฎฺฎติ, คีตูปสํหิโต ปน ธโมฺม น วฎฺฎตี’’ติฯ ตสฺมา ธมฺมํ ภณเนฺตน ชาตกวตฺตาทิํ ตํ ตํ วตฺตํ อวินาเสตฺวา จตุรเสฺสน (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๔๙) วเตฺตน ปริมณฺฑลานิ ปทพฺยญฺชนานิ ทเสฺสตพฺพานิฯ วาทิตนฺติ ตนฺติพทฺธาทิวาทนียภณฺฑวาทิตํ วา โหตุ, กุฎเภริวาทิตํ วา อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิ, สพฺพเมเวตํ วาทิตเมวฯ เตนาห ‘‘วาทิตนฺติ อนฺตมโส อุทกเภริวาทิต’’นฺติฯ ยํ ปน นิฎฺฐุภนฺตี วา สาสเงฺก วา ฐิตา อจฺฉริกํ วา โผเฎติ, ปาณิํ วา ปหรติ, ตตฺถ อนาปตฺติฯ ทสฺสเนน เจตฺถ สวนมฺปิ สงฺคหิตํ วิรูเปกเสสนเยนฯ อาโลจนสภาวตาย วา ปญฺจนฺนํ วิญฺญาณานํ สวนกิริยายปิ ทสฺสนสเงฺขปสพฺภาวโต ‘‘ทสฺสนาย’’อิเจฺจว วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตสุ ยํ กิญฺจิ ทสฺสนาย คจฺฉนฺติยา’’ติฯ ยตฺถ ฐิตาติ เอวํ คนฺตฺวา ยสฺมิํ ปเทเส ฐิตาฯ
Naccanti naṭādayo vā naccantu, soṇḍā vā antamaso morasuvamakkaṭādayopi, sabbametaṃ naccameva. Tenāha ‘‘naccanti antamaso moranaccampī’’ti . Gītanti naṭādīnaṃ vā gītaṃ hotu, ariyānaṃ parinibbānakāle ratanattayaguṇūpasaṃhitaṃ sādhukīḷitagītaṃ vā, antamaso ‘‘dantagītampi gāyissāmā’’ti pubbabhāge okūjantā karonti, sabbametaṃ gītameva. Tenāha ‘‘gītanti antamaso dhammabhāṇakagītampī’’ti. Tattha dhammabhāṇakagītaṃ nāma asaññatabhikkhūnaṃ taṃ taṃ vattaṃ bhinditvā atidīghaṃ katvā gītassarena dhammabhaṇanaṃ, tampi neva bhikkhuno, na bhikkhunīnaṃ vaṭṭati. Tathā hi vuttaṃ paramatthajotikāya khuddakaṭṭhakathāya (khu. pā. aṭṭha. 2.pacchimapañcasikkhāpadavaṇṇanā) ‘‘dhammūpasaṃhitaṃ gītaṃ vaṭṭati, gītūpasaṃhito pana dhammo na vaṭṭatī’’ti. Tasmā dhammaṃ bhaṇantena jātakavattādiṃ taṃ taṃ vattaṃ avināsetvā caturassena (cūḷava. aṭṭha. 249) vattena parimaṇḍalāni padabyañjanāni dassetabbāni. Vāditanti tantibaddhādivādanīyabhaṇḍavāditaṃ vā hotu, kuṭabherivāditaṃ vā antamaso udakabherivāditampi, sabbamevetaṃ vāditameva. Tenāha ‘‘vāditanti antamaso udakabherivādita’’nti. Yaṃ pana niṭṭhubhantī vā sāsaṅke vā ṭhitā accharikaṃ vā phoṭeti, pāṇiṃ vā paharati, tattha anāpatti. Dassanena cettha savanampi saṅgahitaṃ virūpekasesanayena. Ālocanasabhāvatāya vā pañcannaṃ viññāṇānaṃ savanakiriyāyapi dassanasaṅkhepasabbhāvato ‘‘dassanāya’’icceva vuttanti āha ‘‘etesu yaṃ kiñci dassanāya gacchantiyā’’ti. Yattha ṭhitāti evaṃ gantvā yasmiṃ padese ṭhitā.
นนุ จ สยํนจฺจนาทีสุ ปาจิตฺติยํ ปาฬิยํ น วุตฺตํ, อถ กถํ คเหตพฺพนฺติ อาห ‘‘สพฺพอฎฺฐกถาสุ วุตฺต’’นฺติ, อิมินา ปาฬิยํ อวุเตฺตปิ อฎฺฐกถาปมาเณน คเหตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติ ปน มาติกาคตปาจิตฺติยเสฺสว วเสน วุตฺตํ, สเพฺพสํ วเสน ปน ฉสมุฎฺฐานนฺติ คเหตพฺพํฯ ‘‘อาราเม ฐตฺวา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ เสสอิริยาปเถหิ ยุตฺตาย ปสฺสนฺติยา อนาปตฺติยา อิจฺฉิตพฺพตฺตาฯ อิตรถา หิ นิสินฺนาปิ ปสฺสิตุํ น ลเภยฺยฯ ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ วิหารโต วิหารํ คจฺฉนฺติยา อาปตฺติเยวฯ อาสนสาลาย นิสินฺนา ปสฺสติ, อนาปตฺติ, ‘‘ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุฎฺฐหิตฺวา คจฺฉนฺติยา อาปตฺติฯ วีถิยํ ฐตฺวา คีวํ ปริวเตฺตตฺวา ปสฺสนฺติยาปิ อาปตฺติเยวฯ ภิกฺขุสฺสาปิ เอเสว นโย, อาปตฺติเภโทว นานํฯ
Nanu ca sayaṃnaccanādīsu pācittiyaṃ pāḷiyaṃ na vuttaṃ, atha kathaṃ gahetabbanti āha ‘‘sabbaaṭṭhakathāsu vutta’’nti, iminā pāḷiyaṃ avuttepi aṭṭhakathāpamāṇena gahetabbanti dasseti. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti pana mātikāgatapācittiyasseva vasena vuttaṃ, sabbesaṃ vasena pana chasamuṭṭhānanti gahetabbaṃ. ‘‘Ārāme ṭhatvā’’ti idaṃ nidassanamattaṃ sesairiyāpathehi yuttāya passantiyā anāpattiyā icchitabbattā. Itarathā hi nisinnāpi passituṃ na labheyya. ‘‘Passissāmī’’ti vihārato vihāraṃ gacchantiyā āpattiyeva. Āsanasālāya nisinnā passati, anāpatti, ‘‘passissāmī’’ti uṭṭhahitvā gacchantiyā āpatti. Vīthiyaṃ ṭhatvā gīvaṃ parivattetvā passantiyāpi āpattiyeva. Bhikkhussāpi eseva nayo, āpattibhedova nānaṃ.
นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Naccagītasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
ลสุณวโคฺค ปฐโมฯ
Lasuṇavaggo paṭhamo.