Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๕. นครสุตฺตวณฺณนา

    5. Nagarasuttavaṇṇanā

    ๖๕. ปญฺจมสุเตฺต ‘‘ปุเพฺพว เม, ภิกฺขเว, สโมฺพธา’’ติอาทิ เหฎฺฐา สํวณฺณิตเมวาติ อวุตฺตเมว สํวเณฺณตุํ ‘‘นามรูเป โข สตี’’ติ อารโทฺธ ฯ ตตฺถ ทฺวาทสปทิเก ปฎิจฺจสมุปฺปาเท อิมสฺมิํ สุเตฺต ยานิ เทฺว ปทานิ อคฺคหิตานิ, เนสํ อคฺคหเณ การณํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสเชฺชตุกาโม เตสํ คเหตพฺพการณํ ตาว ทเสฺสโนฺต ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิมาหฯ ปจฺจกฺขภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ภวํ ปฐมํ คเหตฺวา ตทนนฺตรํ อนาคตสฺส ‘‘ทุติย’’นฺติ คหเณ อตีโต ตติโย โหตีติ อาห ‘‘อวิชฺชาสงฺขารา หิ ตติโย ภโว’’ติฯ นนุ เจตฺถ อนาคตสฺส ภวสฺส คหณํ น สมฺภวติ ปจฺจุปฺปนฺนภววเสน อภินิเวสสฺส โชติตตฺตาติ? สจฺจเมตํ, การเณ ปน คหิเต ผลํ คหิตเมว โหตีติ ตถา วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ อปิเจตฺถ อนาคโต อทฺธา อตฺถโต สงฺคหิโต เอว ยโต ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทินา อนาคตทฺธสํคาหิตา เทสนา ปวตฺตา, จตุโวการวเสน วิญฺญาณปจฺจยา นามนฺติ วิเสโส อตฺถิฯ ตสฺมา ‘‘ปญฺจโวการวเสนา’’ติ วุตฺตํฯ เตหีติ อวิชฺชาสงฺขาเรหิ อารมฺมณภูเตหิฯ อยํ วิปสฺสนาติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสน อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส ปวตฺตวิปสฺสนาฯ น ฆฎียตีติ น สมิชฺฌติฯ มหา…เป.… อภินิวิโฎฺฐติ น ฆฎเน การณมาห, เหฎฺฐา คหิตตฺตา ปาฎิเยกฺกํ สมฺมสนียํ น โหตีติ อธิปฺปาโยฯ

    65. Pañcamasutte ‘‘pubbeva me, bhikkhave, sambodhā’’tiādi heṭṭhā saṃvaṇṇitamevāti avuttameva saṃvaṇṇetuṃ ‘‘nāmarūpe kho satī’’ti āraddho . Tattha dvādasapadike paṭiccasamuppāde imasmiṃ sutte yāni dve padāni aggahitāni, nesaṃ aggahaṇe kāraṇaṃ pucchitvā vissajjetukāmo tesaṃ gahetabbakāraṇaṃ tāva dassento ‘‘etthā’’tiādimāha. Paccakkhabhūtaṃ paccuppannaṃ bhavaṃ paṭhamaṃ gahetvā tadanantaraṃ anāgatassa ‘‘dutiya’’nti gahaṇe atīto tatiyo hotīti āha ‘‘avijjāsaṅkhārā hi tatiyo bhavo’’ti. Nanu cettha anāgatassa bhavassa gahaṇaṃ na sambhavati paccuppannabhavavasena abhinivesassa jotitattāti? Saccametaṃ, kāraṇe pana gahite phalaṃ gahitameva hotīti tathā vuttanti daṭṭhabbaṃ. Apicettha anāgato addhā atthato saṅgahito eva yato ‘‘nāmarūpapaccayā saḷāyatana’’ntiādinā anāgataddhasaṃgāhitā desanā pavattā, catuvokāravasena viññāṇapaccayā nāmanti viseso atthi. Tasmā ‘‘pañcavokāravasenā’’ti vuttaṃ. Tehīti avijjāsaṅkhārehi ārammaṇabhūtehi. Ayaṃ vipassanāti addhāpaccuppannavasena udayabbayaṃ passantassa pavattavipassanā. Na ghaṭīyatīti na samijjhati. Mahā…pe… abhiniviṭṭhoti na ghaṭane kāraṇamāha, heṭṭhā gahitattā pāṭiyekkaṃ sammasanīyaṃ na hotīti adhippāyo.

    อทิเฎฺฐสูติ อนวพุเทฺธสุฯ จตุสจฺจสฺส อนุโพเธน น ภวิตพฺพนฺติ อาห ‘‘น สกฺกา พุเทฺธน ภวิตุ’’นฺติฯ อิมินาติ มหาสเตฺตนฯ เตติ อวิชฺชาสงฺขาราฯ ภวอุปาทานตณฺหาวเสนาติ ภวอุปาทานตณฺหาทสฺสนวเสนฯ ทิฎฺฐาว ‘‘ตํสหคตา’’ติ สมานโยคกฺขมตฺตาฯ น ปรภาคํ ขเนยฺย อตฺตนา อิจฺฉิตสฺส คหิตตฺตา ปรภาเค อญฺญสฺส อภาวโต จฯ เตนาห ‘‘กสฺสจิ นตฺถิตายา’’ติฯ ปฎินิวเตฺตสีติ ปฎิสํหริฯ ปฎินิวตฺตเน ปน การณํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตเทต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อภินฺนฎฺฐานนฺติ อขณิตฎฺฐานํฯ

    Adiṭṭhesūti anavabuddhesu. Catusaccassa anubodhena na bhavitabbanti āha ‘‘na sakkā buddhena bhavitu’’nti. Imināti mahāsattena. Teti avijjāsaṅkhārā. Bhavaupādānataṇhāvasenāti bhavaupādānataṇhādassanavasena. Diṭṭhāva ‘‘taṃsahagatā’’ti samānayogakkhamattā. Na parabhāgaṃ khaneyya attanā icchitassa gahitattā parabhāge aññassa abhāvato ca. Tenāha ‘‘kassaci natthitāyā’’ti. Paṭinivattesīti paṭisaṃhari. Paṭinivattane pana kāraṇaṃ dassetuṃ ‘‘tadeta’’ntiādi vuttaṃ. Abhinnaṭṭhānanti akhaṇitaṭṭhānaṃ.

    ปจฺจยโตติ เหตุโต, สงฺขารโตติ อโตฺถฯ ‘‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหตี’’ติอาทินา เหตุปรมฺปรวเสน ผลปรมฺปราย กิตฺตมานาย, กิมฺหิ นุ โข สติ วิญฺญาณํ โหตีติ จ วิจารณาย สงฺขาเร โข สติ วิญฺญาณสฺส วิเสสโต การณภูโต สงฺขาโร อคฺคหิโต, ตโต วิญฺญาณํ ปฎินิวตฺตติ นาม, น สพฺพปจฺจยโตฯ เตเนวาห ‘‘นามรูเป โข สติ วิญฺญาณํ โหตี’’ติฯ กิํ นาม เหตฺถ สหชาตาทิวเสเนว ปจฺจยภูตํ อธิเปฺปตํ, น กมฺมูปนิสฺสยวเสน ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อภินิเวสสฺส โชติตตฺตาฯ อารมฺมณโตติ อวิชฺชาสงฺขารสงฺขาตอารมฺมณโต, อตีตภวสงฺขาตอารมฺมณโตฯ อตีตทฺธปริยาปนฺนา หิ อวิชฺชาสงฺขาราฯ ตโต ปฎินิวตฺตมานํ วิญฺญาณํ อตีตภโวปิ ปฎินิวตฺตติ นามฯ อุภยมฺปีติ ปฎิสนฺธิวิญฺญาณํ วิปสฺสนาวิญฺญาณมฺปิฯ นามรูปํ น อติกฺกมตีติ ปจฺจยภูตํ อารมฺมณภูตญฺจ นามรูปํ น อติกฺกมติ เตน วินา อวตฺตนโตฯ เตนาห ‘‘นามรูปโต ปรํ น คจฺฉตี’’ติฯ วิญฺญาเณ นามรูปสฺส ปจฺจเย โหเนฺตติ ปฎิสนฺธิวิญฺญาเณ นามรูปสฺส ปจฺจเย โหเนฺตฯ นามรูเป วิญฺญาณสฺส ปจฺจเย โหเนฺตติ นามรูเป ปฎิสนฺธิวิญฺญาณสฺส ปจฺจเย โหเนฺตฯ จตุโวการปญฺจโวการภววเสน ยถารหํ โยชนา เวทิตพฺพาฯ ทฺวีสุปิ อญฺญมญฺญํ ปจฺจเยสุ โหเนฺตสูติ ปน ปญฺจโวการภววเสนฯ เอตฺตเกนาติ เอวํ วิญฺญาณนามรูปานํ อญฺญมญฺญํ อุปตฺถมฺภวเสน ปวตฺติยาฯ ชาเยถ วา อุปปเชฺชถ วาติ ‘‘สโตฺต ชายติ อุปปชฺชตี’’ติ สมญฺญา โหติ วิญฺญาณนามรูปวินิมุตฺตสฺส สตฺตปญฺญตฺติยา อุปาทานภูตสฺส ธมฺมสฺส อภาวโตฯ เตนาห ‘‘อิโต หี’’ติอาทิฯ เอตเทวาติ ‘‘วิญฺญาณํ นามรูป’’นฺติ เอตํ ทฺวยเมวฯ

    Paccayatoti hetuto, saṅkhāratoti attho. ‘‘Kimhi nu kho sati jarāmaraṇaṃ hotī’’tiādinā hetuparamparavasena phalaparamparāya kittamānāya, kimhi nu kho sati viññāṇaṃ hotīti ca vicāraṇāya saṅkhāre kho sati viññāṇassa visesato kāraṇabhūto saṅkhāro aggahito, tato viññāṇaṃ paṭinivattati nāma, na sabbapaccayato. Tenevāha ‘‘nāmarūpe kho sati viññāṇaṃ hotī’’ti. Kiṃ nāma hettha sahajātādivaseneva paccayabhūtaṃ adhippetaṃ, na kammūpanissayavasena paccuppannavasena abhinivesassa jotitattā. Ārammaṇatoti avijjāsaṅkhārasaṅkhātaārammaṇato, atītabhavasaṅkhātaārammaṇato. Atītaddhapariyāpannā hi avijjāsaṅkhārā. Tato paṭinivattamānaṃ viññāṇaṃ atītabhavopi paṭinivattati nāma. Ubhayampīti paṭisandhiviññāṇaṃ vipassanāviññāṇampi. Nāmarūpaṃ na atikkamatīti paccayabhūtaṃ ārammaṇabhūtañca nāmarūpaṃ na atikkamati tena vinā avattanato. Tenāha ‘‘nāmarūpato paraṃ na gacchatī’’ti. Viññāṇe nāmarūpassa paccaye honteti paṭisandhiviññāṇe nāmarūpassa paccaye honte. Nāmarūpe viññāṇassa paccaye honteti nāmarūpe paṭisandhiviññāṇassa paccaye honte. Catuvokārapañcavokārabhavavasena yathārahaṃ yojanā veditabbā. Dvīsupi aññamaññaṃ paccayesu hontesūti pana pañcavokārabhavavasena. Ettakenāti evaṃ viññāṇanāmarūpānaṃ aññamaññaṃ upatthambhavasena pavattiyā. Jāyetha vā upapajjetha vāti ‘‘satto jāyati upapajjatī’’ti samaññā hoti viññāṇanāmarūpavinimuttassa sattapaññattiyā upādānabhūtassa dhammassa abhāvato. Tenāha ‘‘ito hī’’tiādi. Etadevāti ‘‘viññāṇaṃ nāmarūpa’’nti etaṃ dvayameva.

    อปราปรจุติปฎิสนฺธีหีติ อปราปรจุติปฎิสนฺธิทีปเกหิ ‘‘จวติ, อุปปชฺชตี’’ติ ทฺวีหิ ปเทหิฯ ปญฺจ ปทานีติ ‘‘ชาเยถ วา’’ติอาทีนิ ปญฺจ ปทานิฯ นนุ ตตฺถ ปฐมตติเยหิ จตุตฺถปญฺจมานิ อตฺถโต อภินฺนานีติ? สจฺจํ, วิญฺญาณนามรูปานํ อปราปรุปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ เอวํ วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘อปราปรจุติปฎิสนฺธีหี’’ติฯ เอตฺตาวตาติ วุตฺตเมวตฺถนฺติ โย ‘‘เอตฺตาวตา’’ติ ปเทน ปุเพฺพ วุโตฺต, ตเมว ยถาวุตฺตมตฺถํ ‘‘ยทิท’’นฺติอาทินา นิยฺยาเตโนฺต ปุน วตฺวาฯ อนุโลมปจฺจยาการวเสนาติ ปจฺจยธมฺมทสฺสนปุพฺพกปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมทสฺสนวเสนฯ ปจฺจยธมฺมานญฺหิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปจฺจยภาโว อิทปฺปจฺจยตา ปจฺจยากาโร, โส จ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา วุโตฺต สงฺขารุปฺปตฺติยา อนุโลมนโต อนุโลมปจฺจยากาโร, ตสฺส วเสนฯ

    Aparāparacutipaṭisandhīhīti aparāparacutipaṭisandhidīpakehi ‘‘cavati, upapajjatī’’ti dvīhi padehi. Pañca padānīti ‘‘jāyetha vā’’tiādīni pañca padāni. Nanu tattha paṭhamatatiyehi catutthapañcamāni atthato abhinnānīti? Saccaṃ, viññāṇanāmarūpānaṃ aparāparuppattidassanatthaṃ evaṃ vuttaṃ. Tenāha ‘‘aparāparacutipaṭisandhīhī’’ti. Ettāvatāti vuttamevatthanti yo ‘‘ettāvatā’’ti padena pubbe vutto, tameva yathāvuttamatthaṃ ‘‘yadida’’ntiādinā niyyātento puna vatvā. Anulomapaccayākāravasenāti paccayadhammadassanapubbakapaccayuppannadhammadassanavasena. Paccayadhammānañhi attano paccayuppannassa paccayabhāvo idappaccayatā paccayākāro, so ca ‘‘avijjāpaccayā saṅkhārā’’tiādinā vutto saṅkhāruppattiyā anulomanato anulomapaccayākāro, tassa vasena.

    อาปโตติ ปริขาคตอุทกโตฯ ทฺวารสมฺปตฺติยา ตตฺถ วสนฺตานํ ปเวสนนิคฺคมนผาสุตาย อุปโภคปริโภควตฺถุสมฺปตฺติยา สรีรจิตฺตสุขตาย นครสฺส มนุญฺญตาติ วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา …เป.… รมณีย’’นฺติฯ ปุเพฺพ สุญฺญภาเวน อรญฺญสทิสํ หุตฺวา ฐิตํ ชนวาสํ กโรเนฺต นครสฺส ลกฺขณปฺปตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ อปเรน สมเยน อิทฺธเญฺจว อสฺส ผีตญฺจา’’ติฯ

    Āpatoti parikhāgataudakato. Dvārasampattiyā tattha vasantānaṃ pavesananiggamanaphāsutāya upabhogaparibhogavatthusampattiyā sarīracittasukhatāya nagarassa manuññatāti vuttaṃ ‘‘samantā …pe… ramaṇīya’’nti. Pubbe suññabhāvena araññasadisaṃ hutvā ṭhitaṃ janavāsaṃ karonte nagarassa lakkhaṇappattaṃ hotīti vuttaṃ ‘‘taṃ aparena samayena iddhañceva assa phītañcā’’ti.

    ‘‘ปุเพฺพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว จ สุปริสุโทฺธ’’ติ วจนโต ตีหิ วิรตีหิ สทฺธิํ ปุพฺพภาคมโคฺคปิ อฎฺฐงฺคิกโวหารํ ลทฺธุํ อรหตีติ วุตฺตํ ‘‘อฎฺฐงฺคิกสฺส วิปสฺสนามคฺคสฺสา’’ติฯ วิปสฺสนาย จิณฺณเนฺตติ วิปสฺสนาย สญฺจริตตาย ตตฺถ ตตฺถ ตาย วิปสฺสนาย ตีริเต ปริเยสิเตฯ โลกุตฺตรมคฺคทสฺสนนฺติ อนุมานาทิวเสน โลกุตฺตรมคฺคสฺส ทสฺสนํฯ ตถา หิ นิพฺพานนครสฺส ทสฺสนํ ทฎฺฐพฺพํฯ ทิฎฺฐกาโลติ อธิคมวเสน ทิฎฺฐกาโลฯ มคฺคผลวเสน อุปฺปนฺนา ปโรปณฺณาส อนวชฺชธมฺมา, ปจฺจเวกฺขณญาณํ ปน เตสํ ววตฺถาปกํฯ ยาเปตฺวาติ จราเปตฺวา

    ‘‘Pubbeva kho panassa kāyakammaṃ vacīkammaṃ ājīvo ca suparisuddho’’ti vacanato tīhi viratīhi saddhiṃ pubbabhāgamaggopi aṭṭhaṅgikavohāraṃ laddhuṃ arahatīti vuttaṃ ‘‘aṭṭhaṅgikassa vipassanāmaggassā’’ti. Vipassanāya ciṇṇanteti vipassanāya sañcaritatāya tattha tattha tāya vipassanāya tīrite pariyesite. Lokuttaramaggadassananti anumānādivasena lokuttaramaggassa dassanaṃ. Tathā hi nibbānanagarassa dassanaṃ daṭṭhabbaṃ. Diṭṭhakāloti adhigamavasena diṭṭhakālo. Maggaphalavasena uppannā paropaṇṇāsa anavajjadhammā, paccavekkhaṇañāṇaṃ pana tesaṃ vavatthāpakaṃ. Yāpetvāti carāpetvā.

    อวตฺตมานกเฎฺฐนาติ พุทฺธสุเญฺญ โลเก กสฺสจิ สนฺตาเน อปฺปวตฺตนโตว อุปฺปาทาทิวเสน วตฺตมานวเสนฯ ตถา หิ ภควา ‘‘อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส สญฺชเนตา’’ติอาทิเกหิ โถมิโตฯ ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ ปฎิปโนฺน หิ อริยมโคฺค อิตเรหิ อนฺตรา เกหิจิ อวฬญฺชิโตติ วุตฺตํ ‘‘อวฬญฺชนเฎฺฐน ปุราณมโคฺค’’ติฯ ฌานสฺสาเทนาติ ฌานสุเขน ฌานปีติยาฯ สุภิกฺขํ ปณีตธมฺมามตตาย ติตฺติอาวหํฯ ปุปฺผิตํ อุปโสภิตํฯ ยาว ทสสหสฺสจกฺกวาเฬติ วุตฺตํ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ ปริจฺฉินฺนพุทฺธเขตฺตตฺตาฯ ตสฺส อตฺถิตาย หิ ปริเจฺฉโท อตฺถิฯ เอตสฺมิํ อนฺตเรติ เอตสฺมิํ โอกาเสฯ

    Avattamānakaṭṭhenāti buddhasuññe loke kassaci santāne appavattanatova uppādādivasena vattamānavasena. Tathā hi bhagavā ‘‘anuppannassa maggassa uppādetā, asañjātassa sañjanetā’’tiādikehi thomito. Pubbakehi mahesīhi paṭipanno hi ariyamaggo itarehi antarā kehici avaḷañjitoti vuttaṃ ‘‘avaḷañjanaṭṭhena purāṇamaggo’’ti. Jhānassādenāti jhānasukhena jhānapītiyā. Subhikkhaṃ paṇītadhammāmatatāya tittiāvahaṃ. Pupphitaṃ upasobhitaṃ. Yāva dasasahassacakkavāḷeti vuttaṃ ‘‘ekissā lokadhātuyā’’ti paricchinnabuddhakhettattā. Tassa atthitāya hi paricchedo atthi. Etasmiṃ antareti etasmiṃ okāse.

    นครสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nagarasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. นครสุตฺตํ • 5. Nagarasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. นครสุตฺตวณฺณนา • 5. Nagarasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact