Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๘. นครวิเนฺทยฺยสุตฺตํ
8. Nagaravindeyyasuttaṃ
๔๓๔. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ เยน นครวินฺทํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณานํ คาโม ตทวสริฯ อโสฺสสุํ โข นครวิเนฺทยฺยกา 1 พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ นครวินฺทํ อนุปฺปโตฺตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ
434. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā kosalesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ yena nagaravindaṃ nāma kosalānaṃ brāhmaṇānaṃ gāmo tadavasari. Assosuṃ kho nagaravindeyyakā 2 brāhmaṇagahapatikā – ‘‘samaṇo khalu, bho, gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito kosalesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ nagaravindaṃ anuppatto. Taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. So imaṃ lokaṃ sadevakaṃ samārakaṃ sabrahmakaṃ sassamaṇabrāhmaṇiṃ pajaṃ sadevamanussaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedeti. So dhammaṃ deseti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ, kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāseti. Sādhu kho pana tathārūpānaṃ arahataṃ dassanaṃ hotī’’ti.
อถ โข นครวิเนฺทยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อเปฺปกเจฺจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อเปฺปกเจฺจ ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิํสุ; สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อเปฺปกเจฺจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อเปฺปกเจฺจ ภควโต สนฺติเก นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ อเปฺปกเจฺจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิเนฺน โข นครวิเนฺทยฺยเก พฺราหฺมณคหปติเก ภควา เอตทโวจ –
Atha kho nagaravindeyyakā brāhmaṇagahapatikā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā appekacce bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Appekacce bhagavatā saddhiṃ sammodiṃsu; sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Appekacce yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Appekacce bhagavato santike nāmagottaṃ sāvetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Appekacce tuṇhībhūtā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinne kho nagaravindeyyake brāhmaṇagahapatike bhagavā etadavoca –
๔๓๕. ‘‘สเจ โว, คหปตโย, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุเจฺฉยฺยุํ – ‘กถํภูตา, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา’ติ? เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘เย เต สมณพฺราหฺมณา จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ อปสฺสตํฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพาฯ เย เต สมณพฺราหฺมณา โสตวิเญฺญเยฺยสุ สเทฺทสุ… ฆานวิเญฺญเยฺยสุ คเนฺธสุ… ชิวฺหาวิเญฺญเยฺยสุ รเสสุ… กายวิเญฺญเยฺยสุ โผฎฺฐเพฺพสุ… มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา , อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ อปสฺสตํฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา น สกฺกาตพฺพา น ครุกาตพฺพา น มาเนตพฺพา น ปูเชตพฺพา’ติฯ เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถฯ
435. ‘‘Sace vo, gahapatayo, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ puccheyyuṃ – ‘kathaṃbhūtā, gahapatayo, samaṇabrāhmaṇā na sakkātabbā na garukātabbā na mānetabbā na pūjetabbā’ti? Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha – ‘ye te samaṇabrāhmaṇā cakkhuviññeyyesu rūpesu avītarāgā avītadosā avītamohā, ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ caranti kāyena vācāya manasā, evarūpā samaṇabrāhmaṇā na sakkātabbā na garukātabbā na mānetabbā na pūjetabbā. Taṃ kissa hetu? Mayampi hi cakkhuviññeyyesu rūpesu avītarāgā avītadosā avītamohā, ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ carāma kāyena vācāya manasā, tesaṃ no samacariyampi hetaṃ uttari apassataṃ. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā na sakkātabbā na garukātabbā na mānetabbā na pūjetabbā. Ye te samaṇabrāhmaṇā sotaviññeyyesu saddesu… ghānaviññeyyesu gandhesu… jivhāviññeyyesu rasesu… kāyaviññeyyesu phoṭṭhabbesu… manoviññeyyesu dhammesu avītarāgā avītadosā avītamohā, ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ caranti kāyena vācāya manasā, evarūpā samaṇabrāhmaṇā na sakkātabbā na garukātabbā na mānetabbā na pūjetabbā. Taṃ kissa hetu? Mayampi hi manoviññeyyesu dhammesu avītarāgā avītadosā avītamohā , ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ carāma kāyena vācāya manasā, tesaṃ no samacariyampi hetaṃ uttari apassataṃ. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā na sakkātabbā na garukātabbā na mānetabbā na pūjetabbā’ti. Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha.
๔๓๖. ‘‘สเจ ปน โว, คหปตโย, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุเจฺฉยฺยุํ – ‘กถํภูตา, คหปตโย, สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา’ติ? เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘เย เต สมณพฺราหฺมณา จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ วีตราคา วีตโทสา วีตโมหา, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา, สมจริยํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ 3 จกฺขุวิเญฺญเยฺยสุ รูเปสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา, อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ ปสฺสตํฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพาฯ เย เต สมณพฺราหฺมณา โสตวิเญฺญเยฺยสุ สเทฺทสุ… ฆานวิเญฺญเยฺยสุ คเนฺธสุ… ชิวฺหาวิเญฺญเยฺยสุ รเสสุ… กายวิเญฺญเยฺยสุ โผฎฺฐเพฺพสุ… มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุ วีตราคา วีตโทสา วีตโมหา, อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺตา, สมจริยํ จรนฺติ กาเยน วาจาย มนสา, เอวรูปา สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? มยมฺปิ หิ มโนวิเญฺญเยฺยสุ ธเมฺมสุ อวีตราคา อวีตโทสา อวีตโมหา อชฺฌตฺตํ อวูปสนฺตจิตฺตา, สมวิสมํ จราม กาเยน วาจาย มนสา, เตสํ โน สมจริยมฺปิ เหตํ อุตฺตริ ปสฺสตํฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา’ติ ฯ เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถฯ
436. ‘‘Sace pana vo, gahapatayo, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ puccheyyuṃ – ‘kathaṃbhūtā, gahapatayo, samaṇabrāhmaṇā sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā’ti? Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha – ‘ye te samaṇabrāhmaṇā cakkhuviññeyyesu rūpesu vītarāgā vītadosā vītamohā, ajjhattaṃ vūpasantacittā, samacariyaṃ caranti kāyena vācāya manasā, evarūpā samaṇabrāhmaṇā sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā. Taṃ kissa hetu? Mayampi hi 4 cakkhuviññeyyesu rūpesu avītarāgā avītadosā avītamohā, ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ carāma kāyena vācāya manasā, tesaṃ no samacariyampi hetaṃ uttari passataṃ. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā. Ye te samaṇabrāhmaṇā sotaviññeyyesu saddesu… ghānaviññeyyesu gandhesu… jivhāviññeyyesu rasesu… kāyaviññeyyesu phoṭṭhabbesu… manoviññeyyesu dhammesu vītarāgā vītadosā vītamohā, ajjhattaṃ vūpasantacittā, samacariyaṃ caranti kāyena vācāya manasā, evarūpā samaṇabrāhmaṇā sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā. Taṃ kissa hetu? Mayampi hi manoviññeyyesu dhammesu avītarāgā avītadosā avītamohā ajjhattaṃ avūpasantacittā, samavisamaṃ carāma kāyena vācāya manasā, tesaṃ no samacariyampi hetaṃ uttari passataṃ. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā’ti . Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha.
๔๓๗. ‘‘สเจ ปน โว 5, คหปตโย, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุเจฺฉยฺยุํ – ‘เก ปนายสฺมนฺตานํ อาการา, เก อนฺวยา, เยน ตุเมฺห อายสฺมโนฺต เอวํ วเทถ? อทฺธา เต อายสฺมโนฺต วีตราคา วา ราควินยาย วา ปฎิปนฺนา, วีตโทสา วา โทสวินยาย วา ปฎิปนฺนา, วีตโมหา วา โมหวินยาย วา ปฎิปนฺนา’ติ? เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – ‘ตถา หิ เต อายสฺมโนฺต อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฎิเสวนฺติฯ นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา เย ทิสฺวา ทิสฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา เย สุตฺวา สุตฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา เย ฆายิตฺวา ฆายิตฺวา อภิรเมยฺยุํ , นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา เย สายิตฺวา สายิตฺวา อภิรเมยฺยุํ, นตฺถิ โข ปน ตตฺถ ตถารูปา กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา เย ผุสิตฺวา ผุสิตฺวา อภิรเมยฺยุํฯ อิเม โข โน, อาวุโส, อาการา, อิเม อนฺวยา, เยน มยํ 6 เอวํ วเทม – อทฺธา เต อายสฺมโนฺต วีตราคา วา ราควินยาย วา ปฎิปนฺนา, วีตโทสา วา โทสวินยาย วา ปฎิปนฺนา, วีตโมหา วา โมหวินยาย วา ปฎิปนฺนา’ติฯ เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, คหปตโย, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถา’’ติฯ
437. ‘‘Sace pana vo 7, gahapatayo, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ puccheyyuṃ – ‘ke panāyasmantānaṃ ākārā, ke anvayā, yena tumhe āyasmanto evaṃ vadetha? Addhā te āyasmanto vītarāgā vā rāgavinayāya vā paṭipannā, vītadosā vā dosavinayāya vā paṭipannā, vītamohā vā mohavinayāya vā paṭipannā’ti? Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha – ‘tathā hi te āyasmanto araññavanapatthāni pantāni senāsanāni paṭisevanti. Natthi kho pana tattha tathārūpā cakkhuviññeyyā rūpā ye disvā disvā abhirameyyuṃ, natthi kho pana tattha tathārūpā sotaviññeyyā saddā ye sutvā sutvā abhirameyyuṃ, natthi kho pana tattha tathārūpā ghānaviññeyyā gandhā ye ghāyitvā ghāyitvā abhirameyyuṃ , natthi kho pana tattha tathārūpā jivhāviññeyyā rasā ye sāyitvā sāyitvā abhirameyyuṃ, natthi kho pana tattha tathārūpā kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā ye phusitvā phusitvā abhirameyyuṃ. Ime kho no, āvuso, ākārā, ime anvayā, yena mayaṃ 8 evaṃ vadema – addhā te āyasmanto vītarāgā vā rāgavinayāya vā paṭipannā, vītadosā vā dosavinayāya vā paṭipannā, vītamohā vā mohavinayāya vā paṭipannā’ti. Evaṃ puṭṭhā tumhe, gahapatayo, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyāthā’’ti.
เอวํ วุเตฺต, นครวิเนฺทยฺยกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ
Evaṃ vutte, nagaravindeyyakā brāhmaṇagahapatikā bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama! Seyyathāpi, bho gotama, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya – ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti; evamevaṃ bhotā gotamena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Ete mayaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāma dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsake no bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupete saraṇaṃ gate’’ti.
นครวิเนฺทยฺยสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ อฎฺฐมํฯ
Nagaravindeyyasuttaṃ niṭṭhitaṃ aṭṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. นครวิเนฺทยฺยสุตฺตวณฺณนา • 8. Nagaravindeyyasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๘. นครวิเนฺทยฺยสุตฺตวณฺณนา • 8. Nagaravindeyyasuttavaṇṇanā