Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๓. นคโรปมสุตฺตํ
3. Nagaropamasuttaṃ
๖๗. ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ 1 โหติ, จตุนฺนญฺจ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อกรณียํ พาหิเรหิ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิเตฺตหิฯ
67. ‘‘Yato kho, bhikkhave, rañño paccantimaṃ nagaraṃ sattahi nagaraparikkhārehi suparikkhataṃ 2 hoti, catunnañca āhārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī. Idaṃ vuccati, bhikkhave, rañño paccantimaṃ nagaraṃ akaraṇīyaṃ bāhirehi paccatthikehi paccāmittehi.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร ปริขา โหติ คมฺภีรา เจว วิตฺถตา จฯ อิมินา ทุติเยน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare parikhā hoti gambhīrā ceva vitthatā ca. Iminā dutiyena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร อนุปริยายปโถ โหติ อุโจฺจ เจว วิตฺถโต จฯ อิมินา ตติเยน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare anupariyāyapatho hoti ucco ceva vitthato ca. Iminā tatiyena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ อาวุธํ สนฺนิจิตํ โหติ สลากเญฺจว เชวนิกญฺจ 7ฯ อิมินา จตุเตฺถน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ āvudhaṃ sannicitaṃ hoti salākañceva jevanikañca 8. Iminā catutthena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุพลกาโย ปฎิวสติ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสกปุตฺตาฯ อิมินา ปญฺจเมน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahubalakāyo paṭivasati, seyyathidaṃ – hatthārohā assārohā rathikā dhanuggahā celakā calakā piṇḍadāyakā uggā rājaputtā pakkhandino mahānāgā sūrā cammayodhino dāsakaputtā. Iminā pañcamena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร โทวาริโก โหติ ปณฺฑิโต พฺยโตฺต เมธาวี อญฺญาตานํ นิวาเรตา ญาตานํ ปเวเสตาฯ อิมินา ฉเฎฺฐน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare dovāriko hoti paṇḍito byatto medhāvī aññātānaṃ nivāretā ñātānaṃ pavesetā. Iminā chaṭṭhena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร ปากาโร โหติ อุโจฺจ เจว วิตฺถโต จ วาสนเลปนสมฺปโนฺน จฯ อิมินา สตฺตเมน นครปริกฺขาเรน สุปริกฺขตํ โหติ รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ อิเมหิ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหติฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare pākāro hoti ucco ceva vitthato ca vāsanalepanasampanno ca. Iminā sattamena nagaraparikkhārena suparikkhataṃ hoti rañño paccantimaṃ nagaraṃ abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Imehi sattahi nagaraparikkhārehi suparikkhataṃ hoti.
‘‘กตเมสํ จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี? อิธ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติณกโฎฺฐทกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Katamesaṃ catunnaṃ āhārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī? Idha, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ tiṇakaṭṭhodakaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ สาลิยวกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ sāliyavakaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติลมุคฺคมาสาปรณฺณํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ tilamuggamāsāparaṇṇaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ เภสชฺชํ สนฺนิจิตํ โหติ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ อิเมสํ โข, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ bhesajjaṃ sannicitaṃ hoti, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ loṇaṃ abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya. Imesaṃ kho, bhikkhave, catunnaṃ āhārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อิเมหิ สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหติ, อิเมสญฺจ จตุนฺนํ อาหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ อกรณียํ พาหิเรหิ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิเตฺตหิฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยโต อริยสาวโก สตฺตหิ สทฺธเมฺมหิ สมนฺนาคโต โหติ, จตุนฺนญฺจ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกรณีโย มารสฺส อกรณีโย ปาปิมโตฯ กตเมหิ สตฺตหิ สทฺธเมฺมหิ สมนฺนาคโต โหติ?
‘‘Yato kho, bhikkhave, rañño paccantimaṃ nagaraṃ imehi sattahi nagaraparikkhārehi suparikkhataṃ hoti, imesañca catunnaṃ āhārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī. Idaṃ vuccati, bhikkhave, rañño paccantimaṃ nagaraṃ akaraṇīyaṃ bāhirehi paccatthikehi paccāmittehi. Evamevaṃ kho, bhikkhave, yato ariyasāvako sattahi saddhammehi samannāgato hoti, catunnañca jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyasāvako akaraṇīyo mārassa akaraṇīyo pāpimato. Katamehi sattahi saddhammehi samannāgato hoti?
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร เอสิกา โหติ คมฺภีรเนมา สุนิขาตา อจลา อสมฺปเวธี อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สโทฺธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ ‘อิติปิ โส…เป.… พุโทฺธ ภควา’ติฯ สเทฺธสิโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา ปฐเมน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare esikā hoti gambhīranemā sunikhātā acalā asampavedhī abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako saddho hoti, saddahati tathāgatassa bodhiṃ ‘itipi so…pe… buddho bhagavā’ti. Saddhesiko, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā paṭhamena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร ปริกฺขา โหติ คมฺภีรา เจว วิตฺถตา จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก หิรีมา โหติ, หิรียติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, หิรียติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาฯ หิรีปริโกฺข โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา ทุติเยน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare parikkhā hoti gambhīrā ceva vitthatā ca abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako hirīmā hoti, hirīyati kāyaduccaritena vacīduccaritena manoduccaritena, hirīyati pāpakānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ samāpattiyā. Hirīparikkho kho, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā dutiyena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร อนุปริยายปโถ โหติ อุโจฺจ เจว วิตฺถโต จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โอตฺตปฺปี โหติ, โอตฺตปฺปติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน, โอตฺตปฺปติ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาฯ โอตฺตปฺปปริยายปโถ , ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา ตติเยน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare anupariyāyapatho hoti ucco ceva vitthato ca abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako ottappī hoti, ottappati kāyaduccaritena vacīduccaritena manoduccaritena, ottappati pāpakānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ samāpattiyā. Ottappapariyāyapatho , bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti ; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā tatiyena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ อาวุธํ สนฺนิจิตํ โหติ สลากเญฺจว เชวนิกญฺจ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฎฺฐิยา สุปฺปฎิวิทฺธาฯ สุตาวุโธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา จตุเตฺถน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ āvudhaṃ sannicitaṃ hoti salākañceva jevanikañca abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako bahussuto hoti…pe… diṭṭhiyā suppaṭividdhā. Sutāvudho, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā catutthena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุพลกาโย ปฎิวสติ, เสยฺยถิทํ – หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ธนุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา จมฺมโยธิโน ทาสกปุตฺตา อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ วีริยพลกาโย, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา ปญฺจเมน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahubalakāyo paṭivasati, seyyathidaṃ – hatthārohā assārohā rathikā dhanuggahā celakā calakā piṇḍadāyakā uggā rājaputtā pakkhandino mahānāgā sūrā cammayodhino dāsakaputtā abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako āraddhavīriyo viharati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Vīriyabalakāyo, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā pañcamena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร โทวาริโก โหติ ปณฺฑิโต พฺยโตฺต เมธาวี อญฺญาตานํ นิวาเรตา ญาตานํ ปเวเสตา อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตาย ฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สติมา โหติ ปรเมน สติเนปเกฺกน สมนฺนาคโต จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตาฯ สติโทวาริโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา ฉเฎฺฐน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare dovāriko hoti paṇḍito byatto medhāvī aññātānaṃ nivāretā ñātānaṃ pavesetā abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya . Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako satimā hoti paramena satinepakkena samannāgato cirakatampi cirabhāsitampi saritā anussaritā. Satidovāriko, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā chaṭṭhena saddhammena samannāgato hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร ปากาโร โหติ อุโจฺจ เจว วิตฺถโต จ วาสนเลปนสมฺปโนฺน จ อพฺภนฺตรานํ คุตฺติยา พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปญฺญวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ ปญฺญาวาสนเลปนสมฺปโนฺน, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ; สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ; สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรติฯ อิมินา สตฺตเมน สทฺธเมฺมน สมนฺนาคโต โหติฯ อิเมหิ สตฺตหิ สทฺธเมฺมหิ สมนฺนาคโต โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare pākāro hoti ucco ceva vitthato ca vāsanalepanasampanno ca abbhantarānaṃ guttiyā bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako paññavā hoti udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammā dukkhakkhayagāminiyā. Paññāvāsanalepanasampanno, bhikkhave, ariyasāvako akusalaṃ pajahati, kusalaṃ bhāveti; sāvajjaṃ pajahati, anavajjaṃ bhāveti; suddhaṃ attānaṃ pariharati. Iminā sattamena saddhammena samannāgato hoti. Imehi sattahi saddhammehi samannāgato hoti.
‘‘กตเมสํ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติณกโฎฺฐทกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺสฯ
‘‘Katamesaṃ catunnaṃ jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī? Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ tiṇakaṭṭhodakaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati attano ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya okkamanāya nibbānassa.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ สาลิยวกํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺสฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ sāliyavakaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati attano ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya okkamanāya nibbānassa.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ ติลมุคฺคมาสาปรณฺณํ สนฺนิจิตํ โหติ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺสฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ tilamuggamāsāparaṇṇaṃ sannicitaṃ hoti abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho, bhikkhave, ariyasāvako pītiyā ca virāgā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati attano ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya okkamanāya nibbānassa.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รโญฺญ ปจฺจนฺติเม นคเร พหุํ เภสชฺชํ สนฺนิจิตํ โหติ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ โลณํ อพฺภนฺตรานํ รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย พาหิรานํ ปฎิฆาตายฯ เอวเมวํ โข ภิกฺขเว, อริยสาวโก สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อตฺตโน รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺสฯ อิเมสํ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ
‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, rañño paccantime nagare bahuṃ bhesajjaṃ sannicitaṃ hoti, seyyathidaṃ – sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitaṃ loṇaṃ abbhantarānaṃ ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya bāhirānaṃ paṭighātāya. Evamevaṃ kho bhikkhave, ariyasāvako sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati attano ratiyā aparitassāya phāsuvihārāya okkamanāya nibbānassa. Imesaṃ catunnaṃ jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิเมหิ สตฺตหิ สทฺธเมฺมหิ สมนฺนาคโต โหติ, อิเมสญฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกรณีโย มารสฺส อกรณีโย ปาปิมโต’’ติฯ ตติยํฯ
‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvako imehi sattahi saddhammehi samannāgato hoti, imesañca catunnaṃ jhānānaṃ ābhicetasikānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārānaṃ nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyasāvako akaraṇīyo mārassa akaraṇīyo pāpimato’’ti. Tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. นคโรปมสุตฺตวณฺณนา • 3. Nagaropamasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. นคโรปมสุตฺตวณฺณนา • 3. Nagaropamasuttavaṇṇanā