Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
ขุทฺทกนิกาเย
Khuddakanikāye
เถรคาถา-อฎฺฐกถา
Theragāthā-aṭṭhakathā
(ทุติโย ภาโค)
(Dutiyo bhāgo)
๔. จตุกฺกนิปาโต
4. Catukkanipāto
๑. นาคสมาลเตฺถรคาถาวณฺณนา
1. Nāgasamālattheragāthāvaṇṇanā
อลงฺกตาติอาทิกา อายสฺมโต นาคสมาลเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต คิมฺหสมเย สูริยาตปสนฺตตฺตาย ภูมิยา คจฺฉนฺตํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ฉตฺตํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติตฺวา นาคสมาโลติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต ญาติสมาคเม ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา กิญฺจิ กาลํ ภควโต อุปฎฺฐาโก อโหสิฯ โส เอกทิวสํ นครํ ปิณฺฑาย ปวิโฎฺฐ อลงฺกตปฎิยตฺตํ อญฺญตรํ นจฺจกิํ มหาปเถ ตูริเยสุ วชฺชเนฺตสุ นจฺจนฺติํ ทิสฺวา, ‘‘อยํ จิตฺตกิริยวาโยธาตุวิปฺผารวเสน กรชกายสฺส ตถา ตถา ปริวตฺติ, อโห อนิจฺจา สงฺขารา’’ติ ขยวยํ ปฎฺฐเปตฺวา วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๓๗-๔๘) –
Alaṅkatātiādikā āyasmato nāgasamālattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi padumuttarassa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto gimhasamaye sūriyātapasantattāya bhūmiyā gacchantaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso chattaṃ adāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sakyarājakule nibbattitvā nāgasamāloti laddhanāmo vayappatto ñātisamāgame paṭiladdhasaddho pabbajitvā kiñci kālaṃ bhagavato upaṭṭhāko ahosi. So ekadivasaṃ nagaraṃ piṇḍāya paviṭṭho alaṅkatapaṭiyattaṃ aññataraṃ naccakiṃ mahāpathe tūriyesu vajjantesu naccantiṃ disvā, ‘‘ayaṃ cittakiriyavāyodhātuvipphāravasena karajakāyassa tathā tathā parivatti, aho aniccā saṅkhārā’’ti khayavayaṃ paṭṭhapetvā vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.46.37-48) –
‘‘องฺคารชาตา ปถวี, กุกฺกุฬานุคตา มหี;
‘‘Aṅgārajātā pathavī, kukkuḷānugatā mahī;
ปทุมุตฺตโร ภควา, อโพฺภกาสมฺหิ จงฺกมิฯ
Padumuttaro bhagavā, abbhokāsamhi caṅkami.
‘‘ปณฺฑรํ ฉตฺตมาทาย, อทฺธานํ ปฎิปชฺชหํ;
‘‘Paṇḍaraṃ chattamādāya, addhānaṃ paṭipajjahaṃ;
ตตฺถ ทิสฺวาน สมฺพุทฺธํ, วิตฺติ เม อุปปชฺชถฯ
Tattha disvāna sambuddhaṃ, vitti me upapajjatha.
‘‘มรีจิโยตฺถฎา ภูมิ, องฺคาราว มหี อยํ;
‘‘Marīciyotthaṭā bhūmi, aṅgārāva mahī ayaṃ;
อุปหนฺติ มหาวาตา, สรีรสฺสาสุเขปนาฯ
Upahanti mahāvātā, sarīrassāsukhepanā.
‘‘สีตํ อุณฺหํ วิหนนฺตํ, วาตาตปนิวารณํ;
‘‘Sītaṃ uṇhaṃ vihanantaṃ, vātātapanivāraṇaṃ;
ปฎิคฺคณฺห อิมํ ฉตฺตํ, ผสฺสยิสฺสามิ นิพฺพุติํฯ
Paṭiggaṇha imaṃ chattaṃ, phassayissāmi nibbutiṃ.
‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, ปทุมุตฺตโร มหายโส;
‘‘Anukampako kāruṇiko, padumuttaro mahāyaso;
มม สงฺกปฺปมญฺญาย, ปฎิคฺคณฺหิ ตทา ชิโนฯ
Mama saṅkappamaññāya, paṭiggaṇhi tadā jino.
‘‘ติํสกปฺปานิ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมการยิํ;
‘‘Tiṃsakappāni devindo, devarajjamakārayiṃ;
สตานํ ปญฺจกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํฯ
Satānaṃ pañcakkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ.
‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;
‘‘Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ;
อนุโภมิ สกํ กมฺมํ, ปุเพฺพ สุกตมตฺตโนฯ
Anubhomi sakaṃ kammaṃ, pubbe sukatamattano.
‘‘อยํ เม ปจฺฉิมา ชาติ, จริโม วตฺตเต ภโว;
‘‘Ayaṃ me pacchimā jāti, carimo vattate bhavo;
อชฺชาปิ เสตจฺฉตฺตํ เม, สพฺพกาลํ ธรียติฯ
Ajjāpi setacchattaṃ me, sabbakālaṃ dharīyati.
‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, ยํ ฉตฺตมททิํ ตทา;
‘‘Satasahassito kappe, yaṃ chattamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ฉตฺตทานสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, chattadānassidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา –
Arahattaṃ pana patvā –
๒๖๗.
267.
‘‘อลงฺกตา สุวสนา, มาลินี จนฺทนุสฺสทา;
‘‘Alaṅkatā suvasanā, mālinī candanussadā;
มเชฺฌ มหาปเถ นารี, ตูริเย นจฺจติ นฎฺฎกีฯ
Majjhe mahāpathe nārī, tūriye naccati naṭṭakī.
๒๖๘.
268.
‘‘ปิณฺฑิกาย ปวิโฎฺฐหํ, คจฺฉโนฺต นํ อุทิกฺขิสํ;
‘‘Piṇḍikāya paviṭṭhohaṃ, gacchanto naṃ udikkhisaṃ;
อลงฺกตํ สุวสนํ, มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตํฯ
Alaṅkataṃ suvasanaṃ, maccupāsaṃva oḍḍitaṃ.
๒๖๙.
269.
‘‘ตโต เม มนสีกาโร, โยนิโส อุทปชฺชถ;
‘‘Tato me manasīkāro, yoniso udapajjatha;
อาทีนโว ปาตุรหุ, นิพฺพิทา สมติฎฺฐถฯ
Ādīnavo pāturahu, nibbidā samatiṭṭhatha.
๒๗๐.
270.
‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, ปสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ;
‘‘Tato cittaṃ vimucci me, passa dhammasudhammataṃ;
ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ –
Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsana’’nti. –
จตูหิ คาถาหิ อตฺตโน ปฎิปตฺติกิตฺตนมุเขน อญฺญํ พฺยากาสิฯ
Catūhi gāthāhi attano paṭipattikittanamukhena aññaṃ byākāsi.
ตตฺถ อลงฺกตาติ หตฺถูปคาทิอาภรเณหิ อลงฺกตคตฺตาฯ สุวสนาติ สุนฺทรวสนา โสภนวตฺถนิวตฺถาฯ มาลินีติ มาลาธารินี ปิฬนฺธิตปุปฺผมาลาฯ จนฺทนุสฺสทาติ จนฺทนานุเลปลิตฺตสรีราฯ มเชฺฌ มหาปเถ นารี, ตูริเย นจฺจติ นฎฺฎกีติ ยถาวุตฺตฎฺฐาเน เอกา นารี นฎฺฎกี นาฎกิตฺถี นครวีถิยา มเชฺฌ ปญฺจงฺคิเก ตูริเย วชฺชเนฺต นจฺจติ, ยถาปฎฺฐปิตํ นจฺจํ กโรติฯ
Tattha alaṅkatāti hatthūpagādiābharaṇehi alaṅkatagattā. Suvasanāti sundaravasanā sobhanavatthanivatthā. Mālinīti mālādhārinī piḷandhitapupphamālā. Candanussadāti candanānulepalittasarīrā. Majjhe mahāpathe nārī, tūriye naccati naṭṭakīti yathāvuttaṭṭhāne ekā nārī naṭṭakī nāṭakitthī nagaravīthiyā majjhe pañcaṅgike tūriye vajjante naccati, yathāpaṭṭhapitaṃ naccaṃ karoti.
ปิณฺฑิกายาติ ภิกฺขายฯ ปวิโฎฺฐหนฺติ นครํ ปวิโฎฺฐ อหํฯ คจฺฉโนฺต นํ อุทิกฺขิสนฺติ นครวีถิยํ คจฺฉโนฺต ปริสฺสยปริหรณตฺถํ วีถิํ โอโลเกโนฺต ตํ นฎฺฎกิํ โอโลเกสิํฯ กิํ วิย? มจฺจุปาสํว โอฑฺฑิตนฺติ ยถา มจฺจุสฺส มจฺจุราชสฺส ปาสภูโต รูปาทิโก โอฑฺฑิโต โลเก อนุวิจริตฺวา ฐิโต เอกํเสน สตฺตานํ อนตฺถาวโห, เอวํ สาปิ อปฺปฎิสงฺขาเน ฐิตานํ อนฺธปุถุชฺชนานํ เอกํสโต อนตฺถาวหาติ มจฺจุปาสสทิสี วุตฺตาฯ
Piṇḍikāyāti bhikkhāya. Paviṭṭhohanti nagaraṃ paviṭṭho ahaṃ. Gacchanto naṃ udikkhisanti nagaravīthiyaṃ gacchanto parissayapariharaṇatthaṃ vīthiṃ olokento taṃ naṭṭakiṃ olokesiṃ. Kiṃ viya? Maccupāsaṃva oḍḍitanti yathā maccussa maccurājassa pāsabhūto rūpādiko oḍḍito loke anuvicaritvā ṭhito ekaṃsena sattānaṃ anatthāvaho, evaṃ sāpi appaṭisaṅkhāne ṭhitānaṃ andhaputhujjanānaṃ ekaṃsato anatthāvahāti maccupāsasadisī vuttā.
ตโตติ ตสฺมา มจฺจุปาสสทิสตฺตาฯ เมติ มยฺหํฯ มนสีกาโร โยนิโส อุทปชฺชถาติ ‘‘อยํ อฎฺฐิสงฺฆาโต นฺหารุสมฺพโนฺธ มํเสน อนุปลิโตฺต ฉวิยา ปฎิจฺฉโนฺน อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฎิกฺกูโล อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธโมฺม อีทิเส วิกาเร ทเสฺสตี’’ติ เอวํ โยนิโส มนสิกาโร อุปฺปชฺชิฯ อาทีนโว ปาตุรหูติ เอวํ กายสฺส สภาวูปธารณมุเขน ตสฺส จ ตํนิสฺสิตานญฺจ จิตฺตเจตสิกานํ อุทยพฺพยํ สรสปภงฺคุตญฺจ มนสิ กโรโต เตสุ จ ยกฺขรกฺขสาทีสุ วิย ภยโต อุปฎฺฐหเนฺตสุ ตตฺถ เม อเนกาการอาทีนโว โทโส ปาตุรโหสิฯ ตปฺปฎิปกฺขโต จ นิพฺพาเน อานิสํโสฯ นิพฺพิทา สมติฎฺฐถาติ นิพฺพินฺทนํ อาทีนวานุปสฺสนานุภาวสิทฺธํ นิพฺพิทาญาณํ มม หทเย สณฺฐาสิ, มุหุตฺตมฺปิ เตสํ รูปารูปธมฺมานํ คหเณ จิตฺตํ นาโหสิ, อญฺญทตฺถุ มุญฺจิตุกามตาทิวเสน ตตฺถ อุทาสีนเมว ชาตนฺติ อโตฺถฯ
Tatoti tasmā maccupāsasadisattā. Meti mayhaṃ. Manasīkāro yoniso udapajjathāti ‘‘ayaṃ aṭṭhisaṅghāto nhārusambandho maṃsena anupalitto chaviyā paṭicchanno asuciduggandhajegucchapaṭikkūlo aniccucchādanaparimaddanabhedanaviddhaṃsanadhammo īdise vikāre dassetī’’ti evaṃ yoniso manasikāro uppajji. Ādīnavo pāturahūti evaṃ kāyassa sabhāvūpadhāraṇamukhena tassa ca taṃnissitānañca cittacetasikānaṃ udayabbayaṃ sarasapabhaṅgutañca manasi karoto tesu ca yakkharakkhasādīsu viya bhayato upaṭṭhahantesu tattha me anekākāraādīnavo doso pāturahosi. Tappaṭipakkhato ca nibbāne ānisaṃso. Nibbidā samatiṭṭhathāti nibbindanaṃ ādīnavānupassanānubhāvasiddhaṃ nibbidāñāṇaṃ mama hadaye saṇṭhāsi, muhuttampi tesaṃ rūpārūpadhammānaṃ gahaṇe cittaṃ nāhosi, aññadatthu muñcitukāmatādivasena tattha udāsīnameva jātanti attho.
ตโตติ วิปสฺสนาญาณโต ปรํฯ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เมติ โลกุตฺตรภาวนาย วตฺตมานาย มคฺคปฎิปาฎิยา สพฺพกิเลเสหิ มม จิตฺตํ วิมุตฺตํ อโหสิฯ เอเตน ผลุปฺปตฺติํ ทเสฺสติฯ มคฺคกฺขเณ หิ กิเลสา วิมุจฺจนฺติ นาม, ผลกฺขเณ วิมุตฺตาติฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Tatoti vipassanāñāṇato paraṃ. Cittaṃ vimucci meti lokuttarabhāvanāya vattamānāya maggapaṭipāṭiyā sabbakilesehi mama cittaṃ vimuttaṃ ahosi. Etena phaluppattiṃ dasseti. Maggakkhaṇe hi kilesā vimuccanti nāma, phalakkhaṇe vimuttāti. Sesaṃ vuttanayameva.
นาคสมาลเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nāgasamālattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. นาคสมาลเตฺถรคาถา • 1. Nāgasamālattheragāthā