Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๕. ธมฺมิกวโคฺค
5. Dhammikavaggo
๑. นาคสุตฺตํ
1. Nāgasuttaṃ
๔๓. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘อายามานนฺท , เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท เตนุปสงฺกมิสฺสาม ทิวาวิหารายา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ
43. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya sāvatthiyaṃ piṇḍāya pāvisi. Sāvatthiyaṃ piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘āyāmānanda , yena pubbārāmo migāramātupāsādo tenupasaṅkamissāma divāvihārāyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paccassosi.
อถ โข ภควา อายสฺมตา อานเนฺทน สทฺธิํ เยน ปุพฺพาราโม มิคารมาตุปาสาโท เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘อายามานนฺท, เยน ปุพฺพโกฎฺฐโก เตนุปสงฺกมิสฺสาม คตฺตานิ ปริสิญฺจิตุ’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข ภควา อายสฺมตา อานเนฺทน สทฺธิํ เยน ปุพฺพโกฎฺฐโก เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิญฺจิตุํฯ ปุพฺพโกฎฺฐเก คตฺตานิ ปริสิญฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฎฺฐาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโนฯ
Atha kho bhagavā āyasmatā ānandena saddhiṃ yena pubbārāmo migāramātupāsādo tenupasaṅkami. Atha kho bhagavā sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘āyāmānanda, yena pubbakoṭṭhako tenupasaṅkamissāma gattāni parisiñcitu’’nti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paccassosi. Atha kho bhagavā āyasmatā ānandena saddhiṃ yena pubbakoṭṭhako tenupasaṅkami gattāni parisiñcituṃ. Pubbakoṭṭhake gattāni parisiñcitvā paccuttaritvā ekacīvaro aṭṭhāsi gattāni pubbāpayamāno.
เตน โข ปน สมเยน รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส เสโต นาม นาโค มหาตูริย 1 ตาฬิตวาทิเตน ปุพฺพโกฎฺฐกา ปจฺจุตฺตรติฯ อปิสฺสุ ตํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘‘อภิรูโป วต, โภ, รโญฺญ นาโค; ทสฺสนีโย วต, โภ, รโญฺญ นาโค; ปาสาทิโก วต, โภ, รโญฺญ นาโค; กายุปปโนฺน วต, โภ, รโญฺญ นาโค’’ติ! เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อุทายี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘หตฺถิเมว นุ โข, ภเนฺต, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ 2 กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ, อุทาหุ อญฺญมฺปิ กญฺจิ 3 มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’’’ติ? ‘‘หตฺถิมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป.… โคณมฺปิ โข, อุทายิ , มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป.… อุรคมฺปิ 4 โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป.… รุกฺขมฺปิ โข, อุทายิ , มหนฺตํ พฺรหนฺตํ…เป.… มนุสฺสมฺปิ โข, อุทายิ, มหนฺตํ พฺรหนฺตํ กายุปปนฺนํ ชโน ทิสฺวา เอวมาห – ‘นาโค วต, โภ, นาโค’ติ! อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติฯ
Tena kho pana samayena rañño pasenadissa kosalassa seto nāma nāgo mahātūriya 5 tāḷitavāditena pubbakoṭṭhakā paccuttarati. Apissu taṃ jano disvā evamāha – ‘‘abhirūpo vata, bho, rañño nāgo; dassanīyo vata, bho, rañño nāgo; pāsādiko vata, bho, rañño nāgo; kāyupapanno vata, bho, rañño nāgo’’ti! Evaṃ vutte āyasmā udāyī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘hatthimeva nu kho, bhante, mahantaṃ brahantaṃ 6 kāyupapannaṃ jano disvā evamāha – ‘nāgo vata, bho, nāgo’ti, udāhu aññampi kañci 7 mahantaṃ brahantaṃ kāyupapannaṃ jano disvā evamāha – ‘nāgo vata, bho, nāgo’’’ti? ‘‘Hatthimpi kho, udāyi, mahantaṃ brahantaṃ kāyupapannaṃ jano disvā evamāha – ‘nāgo vata, bho, nāgo’ti! Assampi kho, udāyi, mahantaṃ brahantaṃ…pe… goṇampi kho, udāyi , mahantaṃ brahantaṃ…pe… uragampi 8 kho, udāyi, mahantaṃ brahantaṃ…pe… rukkhampi kho, udāyi , mahantaṃ brahantaṃ…pe… manussampi kho, udāyi, mahantaṃ brahantaṃ kāyupapannaṃ jano disvā evamāha – ‘nāgo vata, bho, nāgo’ti! Api ca, udāyi, yo sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya āguṃ na karoti kāyena vācāya manasā, tamahaṃ ‘nāgo’ti brūmī’’ti.
‘‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต, อพฺภุตํ, ภเนฺต! ยาว สุภาสิตํ จิทํ, ภเนฺต, ภควตา – อปิ จ, อุทายิ, โย สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อาคุํ น กโรติ กาเยน วาจาย มนสา, ตมหํ ‘นาโค’ติ พฺรูมี’’ติฯ อิทญฺจ ปนาหํ, ภเนฺต, ภควตา สุภาสิตํ อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทามิ –
‘‘Acchariyaṃ, bhante, abbhutaṃ, bhante! Yāva subhāsitaṃ cidaṃ, bhante, bhagavatā – api ca, udāyi, yo sadevake loke samārake sabrahmake sassamaṇabrāhmaṇiyā pajāya sadevamanussāya āguṃ na karoti kāyena vācāya manasā, tamahaṃ ‘nāgo’ti brūmī’’ti. Idañca panāhaṃ, bhante, bhagavatā subhāsitaṃ imāhi gāthāhi anumodāmi –
‘‘มนุสฺสภูตํ สมฺพุทฺธํ, อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ;
‘‘Manussabhūtaṃ sambuddhaṃ, attadantaṃ samāhitaṃ;
อิริยมานํ พฺรหฺมปเถ, จิตฺตสฺสูปสเม รตํฯ
Iriyamānaṃ brahmapathe, cittassūpasame rataṃ.
‘‘ยํ มนุสฺสา นมสฺสนฺติ, สพฺพธมฺมาน ปารคุํ;
‘‘Yaṃ manussā namassanti, sabbadhammāna pāraguṃ;
‘‘สเพฺพ อจฺจรุจี นาโค, หิมวาเญฺญ สิลุจฺจเย;
‘‘Sabbe accarucī nāgo, himavāññe siluccaye;
สเพฺพสํ นาคนามานํ, สจฺจนาโม อนุตฺตโรฯ
Sabbesaṃ nāganāmānaṃ, saccanāmo anuttaro.
โสรจฺจํ อวิหิํสา จ, ปาทา นาคสฺส เต ทุเวฯ
Soraccaṃ avihiṃsā ca, pādā nāgassa te duve.
‘‘ตโป จ พฺรหฺมจริยํ, จรณา นาคสฺส ตฺยาปเร;
‘‘Tapo ca brahmacariyaṃ, caraṇā nāgassa tyāpare;
สทฺธาหโตฺถ มหานาโค, อุเปกฺขาเสตทนฺตวาฯ
Saddhāhattho mahānāgo, upekkhāsetadantavā.
‘‘สติ คีวา สิโร ปญฺญา, วีมํสา ธมฺมจินฺตนา;
‘‘Sati gīvā siro paññā, vīmaṃsā dhammacintanā;
ธมฺมกุจฺฉิสมาตโป, วิเวโก ตสฺส วาลธิฯ
Dhammakucchisamātapo, viveko tassa vāladhi.
คจฺฉํ สมาหิโต นาโค, ฐิโต นาโค สมาหิโตฯ
Gacchaṃ samāhito nāgo, ṭhito nāgo samāhito.
‘‘เสยฺยํ สมาหิโต นาโค, นิสิโนฺนปิ สมาหิโต;
‘‘Seyyaṃ samāhito nāgo, nisinnopi samāhito;
สพฺพตฺถ สํวุโต นาโค, เอสา นาคสฺส สมฺปทาฯ
Sabbattha saṃvuto nāgo, esā nāgassa sampadā.
‘‘ภุญฺชติ อนวชฺชานิ, สาวชฺชานิ น ภุญฺชติ;
‘‘Bhuñjati anavajjāni, sāvajjāni na bhuñjati;
ฆาสมจฺฉาทนํ ลทฺธา, สนฺนิธิํ ปริวชฺชยํฯ
Ghāsamacchādanaṃ laddhā, sannidhiṃ parivajjayaṃ.
‘‘สํโยชนํ อณุํ ถูลํ, สพฺพํ เฉตฺวาน พนฺธนํ;
‘‘Saṃyojanaṃ aṇuṃ thūlaṃ, sabbaṃ chetvāna bandhanaṃ;
เยน เยเนว คจฺฉติ, อนเปโกฺขว คจฺฉติฯ
Yena yeneva gacchati, anapekkhova gacchati.
‘‘ยถาปิ อุทเก ชาตํ, ปุณฺฑรีกํ ปวฑฺฒติ;
‘‘Yathāpi udake jātaṃ, puṇḍarīkaṃ pavaḍḍhati;
‘‘ตเถว โลเก สุชาโต, พุโทฺธ โลเก วิหรติ;
‘‘Tatheva loke sujāto, buddho loke viharati;
นุปลิปฺปติ โลเกน, โตเยน ปทุมํ ยถาฯ
Nupalippati lokena, toyena padumaṃ yathā.
‘‘อตฺถสฺสายํ วิญฺญาปนี, อุปมา วิญฺญูหิ เทสิตา;
‘‘Atthassāyaṃ viññāpanī, upamā viññūhi desitā;
‘‘วีตราโค วีตโทโส, วีตโมโห อนาสโว;
‘‘Vītarāgo vītadoso, vītamoho anāsavo;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. นาคสุตฺตวณฺณนา • 1. Nāgasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑. นาคสุตฺตวณฺณนา • 1. Nāgasuttavaṇṇanā