Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๘. นกุลมาตาสุตฺตํ

    8. Nakulamātāsuttaṃ

    ๔๘. เอกํ สมยํ ภควา ภเคฺคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร 1 เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ อถ โข นกุลมาตา คหปตานี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา…เป.…ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลมาตรํ คหปตานิํ ภควา เอตทโวจ –

    48. Ekaṃ samayaṃ bhagavā bhaggesu viharati suṃsumāragire 2 bhesakaḷāvane migadāye. Atha kho nakulamātā gahapatānī yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā…pe…. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho nakulamātaraṃ gahapatāniṃ bhagavā etadavoca –

    ‘‘อฎฺฐหิ โข, นกุลมาเต, ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ กตเมหิ อฎฺฐหิ? อิธ, นกุลมาเต, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฎฺฐายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฎิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินีฯ

    ‘‘Aṭṭhahi kho, nakulamāte, dhammehi samannāgato mātugāmo kāyassa bhedā paraṃ maraṇā manāpakāyikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjati. Katamehi aṭṭhahi? Idha, nakulamāte, mātugāmo yassa mātāpitaro bhattuno denti atthakāmā hitesino anukampakā anukampaṃ upādāya tassa hoti pubbuṭṭhāyinī pacchānipātinī kiṅkārapaṭissāvinī manāpacārinī piyavādinī.

    ‘‘เย เต ภตฺตุ ครุโน โหนฺติ – มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา – เต สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ, อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฎิปูเชติฯ

    ‘‘Ye te bhattu garuno honti – mātāti vā pitāti vā samaṇabrāhmaṇāti vā – te sakkaroti garuṃ karoti māneti pūjeti, abbhāgate ca āsanodakena paṭipūjeti.

    ‘‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํฯ

    ‘‘Ye te bhattu abbhantarā kammantā – uṇṇāti vā kappāsāti vā – tattha dakkhā hoti analasā tatrupāyāya vīmaṃsāya samannāgatā alaṃ kātuṃ alaṃ saṃvidhātuṃ.

    ‘‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อโนฺตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตญฺจ กตโต ชานาติ อกตญฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานญฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียญฺจสฺส ปจฺจํเสน สํวิภชติฯ

    ‘‘Yo so bhattu abbhantaro antojano – dāsāti vā pessāti vā kammakarāti vā – tesaṃ katañca katato jānāti akatañca akatato jānāti, gilānakānañca balābalaṃ jānāti khādanīyaṃ bhojanīyañcassa paccaṃsena saṃvibhajati.

    ‘‘ยํ ภตฺตา อาหรติ ธนํ วา ธญฺญํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารเกฺขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกาฯ

    ‘‘Yaṃ bhattā āharati dhanaṃ vā dhaññaṃ vā rajataṃ vā jātarūpaṃ vā taṃ ārakkhena guttiyā sampādeti, tattha ca hoti adhuttī athenī asoṇḍī avināsikā.

    ‘‘อุปาสิกา โข ปน โหติ พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตาฯ

    ‘‘Upāsikā kho pana hoti buddhaṃ saraṇaṃ gatā dhammaṃ saraṇaṃ gatā saṅghaṃ saraṇaṃ gatā.

    ‘‘สีลวตี โข ปน โหติ – ปาณาติปาตา ปฎิวิรตา…เป.… สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรตา…เป.…ฯ

    ‘‘Sīlavatī kho pana hoti – pāṇātipātā paṭiviratā…pe… surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭiviratā…pe….

    ‘‘จาควตี โข ปน โหติ วิคตมลมเจฺฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตาฯ

    ‘‘Cāgavatī kho pana hoti vigatamalamaccherena cetasā agāraṃ ajjhāvasati muttacāgā payatapāṇinī vossaggaratā yācayogā dānasaṃvibhāgaratā.

    ‘‘อิเมหิ โข, นกุลมาเต, อฎฺฐหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติฯ

    ‘‘Imehi kho, nakulamāte, aṭṭhahi dhammehi samannāgato mātugāmo kāyassa bhedā paraṃ maraṇā manāpakāyikānaṃ devānaṃ sahabyataṃ upapajjatī’’ti.

    ‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

    ‘‘Yo naṃ bharati sabbadā, niccaṃ ātāpi ussuko;

    ตํ สพฺพกามทํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมญฺญติฯ

    Taṃ sabbakāmadaṃ posaṃ, bhattāraṃ nātimaññati.

    ‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

    ‘‘Na cāpi sotthi bhattāraṃ, issāvādena rosaye;

    ภตฺตุ จ ครุโน สเพฺพ, ปฎิปูเชติ ปณฺฑิตาฯ

    Bhattu ca garuno sabbe, paṭipūjeti paṇḍitā.

    ‘‘อุฎฺฐาหิกา อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

    ‘‘Uṭṭhāhikā analasā, saṅgahitaparijjanā;

    ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติฯ

    Bhattu manāpaṃ carati, sambhataṃ anurakkhati.

    ‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

    ‘‘Yā evaṃ vattati nārī, bhattu chandavasānugā;

    มนาปา นาม เต 3 เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติฯ อฎฺฐมํ;

    Manāpā nāma te 4 devā, yattha sā upapajjatī’’ti. aṭṭhamaṃ;







    Footnotes:
    1. สุํสุมารคิเร (สี. สฺยา. ปี.)
    2. suṃsumāragire (sī. syā. pī.)
    3. มนาปกายิกา (สี.)
    4. manāpakāyikā (sī.)



    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๘. สํขิตฺตูโปสถสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-8. Saṃkhittūposathasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact