Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๖. นกุลปิตุสุตฺตํ
6. Nakulapitusuttaṃ
๑๖. เอกํ สมยํ ภควา ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร 1 เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน นกุลปิตา คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข นกุลมาตา คหปตานี นกุลปิตรํ คหปติํ เอตทโวจ –
16. Ekaṃ samayaṃ bhagavā bhaggesu viharati susumāragire 2 bhesakaḷāvane migadāye. Tena kho pana samayena nakulapitā gahapati ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho nakulamātā gahapatānī nakulapitaraṃ gahapatiṃ etadavoca –
‘‘มา โข ตฺวํ, คหปติ, สาเปโกฺข 3 กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน สกฺขิสฺสติ 4 ทารเก โปเสตุํ, ฆราวาสํ สนฺธริตุ’นฺติ 5ฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ กุสลาหํ, คหปติ, กปฺปาสํ กนฺติตุํ เวณิํ โอลิขิตุํฯ สโกฺกมหํ, คหปติ, ตวจฺจเยน ทารเก โปเสตุํ, ฆราวาสํ สนฺธริตุํฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ
‘‘Mā kho tvaṃ, gahapati, sāpekkho 6 kālamakāsi. Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā. Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘na nakulamātā gahapatānī mamaccayena sakkhissati 7 dārake posetuṃ, gharāvāsaṃ sandharitu’nti 8. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Kusalāhaṃ, gahapati, kappāsaṃ kantituṃ veṇiṃ olikhituṃ. Sakkomahaṃ, gahapati, tavaccayena dārake posetuṃ, gharāvāsaṃ sandharituṃ. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi. Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā.
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน อญฺญํ ฆรํ 9 คมิสฺสตี’ติฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตฺวเญฺจว โข, คหปติ, ชานาสิ อหญฺจ, ยํ โน 10 โสฬสวสฺสานิ คหฎฺฐกํ พฺรหฺมจริยํ สมาจิณฺณํ 11ฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ
‘‘Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘nakulamātā gahapatānī mamaccayena aññaṃ gharaṃ 12 gamissatī’ti. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Tvañceva kho, gahapati, jānāsi ahañca, yaṃ no 13 soḷasavassāni gahaṭṭhakaṃ brahmacariyaṃ samāciṇṇaṃ 14. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi. Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā.
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน น ทสฺสนกามา ภวิสฺสติ ภควโต น ทสฺสนกามา ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’ติฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ อหญฺหิ, คหปติ, ตวจฺจเยน ทสฺสนกามตรา เจว ภวิสฺสามิ ภควโต, ทสฺสนกามตรา จ ภิกฺขุสงฺฆสฺสฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ
‘‘Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘nakulamātā gahapatānī mamaccayena na dassanakāmā bhavissati bhagavato na dassanakāmā bhikkhusaṅghassā’ti. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Ahañhi, gahapati, tavaccayena dassanakāmatarā ceva bhavissāmi bhagavato, dassanakāmatarā ca bhikkhusaṅghassa. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi. Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā.
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน สีเลสุ 15 ปริปูรการินี’ติฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา สีเลสุ ปริปูรการินิโย, อหํ ตาสํ อญฺญตราฯ ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิ ฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ
‘‘Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘na nakulamātā gahapatānī mamaccayena sīlesu 16 paripūrakārinī’ti. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Yāvatā kho, gahapati, tassa bhagavato sāvikā gihī odātavasanā sīlesu paripūrakāriniyo, ahaṃ tāsaṃ aññatarā. Yassa kho panassa kaṅkhā vā vimati vā – ayaṃ so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho bhaggesu viharati susumāragire bhesakaḷāvane migadāye – taṃ bhagavantaṃ upasaṅkamitvā pucchatu. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi . Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā.
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี ลาภินี 17 อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสา’ติฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา ลาภินิโย อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, อหํ ตาสํ อญฺญตราฯ ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ
‘‘Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘na nakulamātā gahapatānī lābhinī 18 ajjhattaṃ cetosamathassā’ti. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Yāvatā kho, gahapati, tassa bhagavato sāvikā gihī odātavasanā lābhiniyo ajjhattaṃ cetosamathassa, ahaṃ tāsaṃ aññatarā. Yassa kho panassa kaṅkhā vā vimati vā – ayaṃ so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho bhaggesu viharati susumāragire bhesakaḷāvane migadāye – taṃ bhagavantaṃ upasaṅkamitvā pucchatu. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi. Dukkhā, gahapati, sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā.
‘‘สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรตี’ติฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ยาวตา โข, คหปติ, ตสฺส ภควโต สาวิกา คิหี โอทาตวสนา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺติ, อหํ ตาสํ อญฺญตราฯ ยสฺส โข ปนสฺส กงฺขา วา วิมติ วา – อยํ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย – ตํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉตุฯ ตสฺมาติห ตฺวํ, คหปติ, มา สาเปโกฺข กาลมกาสิฯ ทุกฺขา คหปติ สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา’’ติฯ
‘‘Siyā kho pana te, gahapati, evamassa – ‘na nakulamātā gahapatānī imasmiṃ dhammavinaye ogādhappattā patigādhappattā assāsappattā tiṇṇavicikicchā vigatakathaṃkathā vesārajjappattā aparappaccayā satthusāsane viharatī’ti. Na kho panetaṃ, gahapati, evaṃ daṭṭhabbaṃ. Yāvatā kho, gahapati, tassa bhagavato sāvikā gihī odātavasanā imasmiṃ dhammavinaye ogādhappattā patigādhappattā assāsappattā tiṇṇavicikicchā vigatakathaṃkathā vesārajjappattā aparappaccayā satthusāsane viharanti, ahaṃ tāsaṃ aññatarā. Yassa kho panassa kaṅkhā vā vimati vā – ayaṃ so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho bhaggesu viharati susumāragire bhesakaḷāvane migadāye – taṃ bhagavantaṃ upasaṅkamitvā pucchatu. Tasmātiha tvaṃ, gahapati, mā sāpekkho kālamakāsi. Dukkhā gahapati sāpekkhassa kālakiriyā; garahitā ca bhagavatā sāpekkhassa kālakiriyā’’ti.
อถ โข นกุลปิตุโน คหปติสฺส นกุลมาตรา 19 คหปตานิยา อิมินา โอวาเทน โอวทิยมานสฺส โส อาพาโธ ฐานโส ปฎิปฺปสฺสมฺภิฯ วุฎฺฐหิ 20 จ นกุลปิตา คหปติ ตมฺหา อาพาธา; ตถา ปหีโน จ ปน นกุลปิตุโน คหปติสฺส โส อาพาโธ อโหสิฯ อถ โข นกุลปิตา คหปติ คิลานา วุฎฺฐิโต 21 อจิรวุฎฺฐิโต เคลญฺญา ทณฺฑโมลุพฺภ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลปิตรํ คหปติํ ภควา เอตทโวจ –
Atha kho nakulapituno gahapatissa nakulamātarā 22 gahapatāniyā iminā ovādena ovadiyamānassa so ābādho ṭhānaso paṭippassambhi. Vuṭṭhahi 23 ca nakulapitā gahapati tamhā ābādhā; tathā pahīno ca pana nakulapituno gahapatissa so ābādho ahosi. Atha kho nakulapitā gahapati gilānā vuṭṭhito 24 aciravuṭṭhito gelaññā daṇḍamolubbha yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho nakulapitaraṃ gahapatiṃ bhagavā etadavoca –
‘‘ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต นกุลมาตา คหปตานี อนุกมฺปิกา อตฺถกามา โอวาทิกา อนุสาสิกาฯ ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา สีเลสุ ปริปูรการินิโย, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อญฺญตราฯ ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา ลาภินิโย อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อญฺญตราฯ ยาวตา โข, คหปติ, มม สาวิกา คิหี โอทาตวสนา อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย โอคาธปฺปตฺตา ปติคาธปฺปตฺตา อสฺสาสปฺปตฺตา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน วิหรนฺติ, นกุลมาตา คหปตานี ตาสํ อญฺญตราฯ ลาภา เต, คหปติ, สุลทฺธํ เต, คหปติ! ยสฺส เต นกุลมาตา คหปตานี อนุกมฺปิกา อตฺถกามา โอวาทิกา อนุสาสิกา’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ
‘‘Lābhā te, gahapati, suladdhaṃ te, gahapati! Yassa te nakulamātā gahapatānī anukampikā atthakāmā ovādikā anusāsikā. Yāvatā kho, gahapati, mama sāvikā gihī odātavasanā sīlesu paripūrakāriniyo, nakulamātā gahapatānī tāsaṃ aññatarā. Yāvatā kho, gahapati, mama sāvikā gihī odātavasanā lābhiniyo ajjhattaṃ cetosamathassa, nakulamātā gahapatānī tāsaṃ aññatarā. Yāvatā kho, gahapati, mama sāvikā gihī odātavasanā imasmiṃ dhammavinaye ogādhappattā patigādhappattā assāsappattā tiṇṇavicikicchā vigatakathaṃkathā vesārajjappattā aparappaccayā satthusāsane viharanti, nakulamātā gahapatānī tāsaṃ aññatarā. Lābhā te, gahapati, suladdhaṃ te, gahapati! Yassa te nakulamātā gahapatānī anukampikā atthakāmā ovādikā anusāsikā’’ti. Chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๖. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา • 6. Nakulapitusuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๖. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา • 6. Nakulapitusuttavaṇṇanā