Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa
สํยุตฺตนิกาโย
Saṃyuttanikāyo
ขนฺธวโคฺค
Khandhavaggo
๑. ขนฺธสํยุตฺตํ
1. Khandhasaṃyuttaṃ
๑. นกุลปิตุวโคฺค
1. Nakulapituvaggo
๑. นกุลปิตุสุตฺตํ
1. Nakulapitusuttaṃ
๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร 1 เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ อถ โข นกุลปิตา คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข นกุลปิตา คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
1. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā bhaggesu viharati susumāragire 2 bhesakaḷāvane migadāye. Atha kho nakulapitā gahapati yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho nakulapitā gahapati bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘อหมสฺมิ , ภเนฺต, ชิโณฺณ วุโฑฺฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปโตฺต อาตุรกาโย อภิกฺขณาตโงฺกฯ อนิจฺจทสฺสาวี โข ปนาหํ, ภเนฺต, ภควโต มโนภาวนียานญฺจ ภิกฺขูนํฯ โอวทตุ มํ, ภเนฺต, ภควา; อนุสาสตุ มํ, ภเนฺต, ภควา; ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ
‘‘Ahamasmi , bhante, jiṇṇo vuḍḍho mahallako addhagato vayoanuppatto āturakāyo abhikkhaṇātaṅko. Aniccadassāvī kho panāhaṃ, bhante, bhagavato manobhāvanīyānañca bhikkhūnaṃ. Ovadatu maṃ, bhante, bhagavā; anusāsatu maṃ, bhante, bhagavā; yaṃ mamassa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti.
‘‘เอวเมตํ, คหปติ, เอวเมตํ, คหปติ! อาตุโร หายํ, คหปติ, กาโย อณฺฑภูโต ปริโยนโทฺธฯ โย หิ, คหปติ, อิมํ กายํ ปริหรโนฺต มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฎิชาเนยฺย, กิมญฺญตฺร พาลฺยา? ตสฺมาติห เต, คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘อาตุรกายสฺส เม สโต จิตฺตํ อนาตุรํ ภวิสฺสตี’ติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ
‘‘Evametaṃ, gahapati, evametaṃ, gahapati! Āturo hāyaṃ, gahapati, kāyo aṇḍabhūto pariyonaddho. Yo hi, gahapati, imaṃ kāyaṃ pariharanto muhuttampi ārogyaṃ paṭijāneyya, kimaññatra bālyā? Tasmātiha te, gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – ‘āturakāyassa me sato cittaṃ anāturaṃ bhavissatī’ti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabba’’nti.
อถ โข นกุลปิตา คหปติ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลปิตรํ คหปติํ อายสฺมา สาริปุโตฺต เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, คหปติ, อินฺทฺริยานิ; ปริสุโทฺธ มุขวโณฺณ ปริโยทาโตฯ อลตฺถ โน อชฺช ภควโต สมฺมุขา ธมฺมิํ กถํ สวนายา’’ติ?
Atha kho nakulapitā gahapati bhagavato bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho nakulapitaraṃ gahapatiṃ āyasmā sāriputto etadavoca – ‘‘vippasannāni kho te, gahapati, indriyāni; parisuddho mukhavaṇṇo pariyodāto. Alattha no ajja bhagavato sammukhā dhammiṃ kathaṃ savanāyā’’ti?
‘‘กถญฺหิ โน สิยา, ภเนฺต! อิทานาหํ, ภเนฺต, ภควตา ธมฺมิยา กถาย อมเตน อภิสิโตฺต’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, คหปติ, ภควตา ธมฺมิยา กถาย อมเตน อภิสิโตฺต’’ติ? ‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน ขฺวาหํ, ภเนฺต, ภควนฺตํ เอตทโวจํ – ‘อหมสฺมิ, ภเนฺต, ชิโณฺณ วุโฑฺฒ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปโตฺต อาตุรกาโย อภิกฺขณาตโงฺกฯ อนิจฺจทสฺสาวี โข ปนาหํ, ภเนฺต, ภควโต มโนภาวนียานญฺจ ภิกฺขูนํฯ โอวทตุ มํ, ภเนฺต, ภควา; อนุสาสตุ มํ, ภเนฺต, ภควา; ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’’ติฯ
‘‘Kathañhi no siyā, bhante! Idānāhaṃ, bhante, bhagavatā dhammiyā kathāya amatena abhisitto’’ti. ‘‘Yathā kathaṃ pana tvaṃ, gahapati, bhagavatā dhammiyā kathāya amatena abhisitto’’ti? ‘‘Idhāhaṃ, bhante, yena bhagavā tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃ. Ekamantaṃ nisinno khvāhaṃ, bhante, bhagavantaṃ etadavocaṃ – ‘ahamasmi, bhante, jiṇṇo vuḍḍho mahallako addhagato vayoanuppatto āturakāyo abhikkhaṇātaṅko. Aniccadassāvī kho panāhaṃ, bhante, bhagavato manobhāvanīyānañca bhikkhūnaṃ. Ovadatu maṃ, bhante, bhagavā; anusāsatu maṃ, bhante, bhagavā; yaṃ mamassa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’’ti.
‘‘เอวํ วุเตฺต , มํ, ภเนฺต, ภควา เอตทโวจ – ‘เอวเมตํ, คหปติ, เอวเมตํ, คหปติ! อาตุโร หายํ, คหปติ, กาโย อณฺฑภูโต ปริโยนโทฺธฯ โย หิ, คหปติ, อิมํ กายํ ปริหรโนฺต มุหุตฺตมฺปิ อาโรคฺยํ ปฎิชาเนยฺย, กิมญฺญตฺร พาลฺยา? ตสฺมาติห เต คหปติ, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – อาตุรกายสฺส เม สโต จิตฺตํ อนาตุรํ ภวิสฺสตีติฯ เอวญฺหิ เต, คหปติ, สิกฺขิตพฺพ’นฺติฯ เอวํ ขฺวาหํ, ภเนฺต, ภควตา ธมฺมิยา กถาย อมเตน อภิสิโตฺต’’ติฯ
‘‘Evaṃ vutte , maṃ, bhante, bhagavā etadavoca – ‘evametaṃ, gahapati, evametaṃ, gahapati! Āturo hāyaṃ, gahapati, kāyo aṇḍabhūto pariyonaddho. Yo hi, gahapati, imaṃ kāyaṃ pariharanto muhuttampi ārogyaṃ paṭijāneyya, kimaññatra bālyā? Tasmātiha te gahapati, evaṃ sikkhitabbaṃ – āturakāyassa me sato cittaṃ anāturaṃ bhavissatīti. Evañhi te, gahapati, sikkhitabba’nti. Evaṃ khvāhaṃ, bhante, bhagavatā dhammiyā kathāya amatena abhisitto’’ti.
‘‘น หิ ปน ตํ, คหปติ, ปฎิภาสิ ภควนฺตํ 3 อุตฺตริํ ปฎิปุจฺฉิตุํ – ‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภเนฺต, อาตุรกาโย เจว โหติ อาตุรจิโตฺต จ, กิตฺตาวตา จ ปน อาตุรกาโย หิ โข โหติ โน จ อาตุรจิโตฺต’’’ติ ? ‘‘ทูรโตปิ โข มยํ, ภเนฺต, อาคเจฺฉยฺยาม อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สนฺติเก เอตสฺส ภาสิตสฺส อตฺถมญฺญาตุํฯ สาธุ วตายสฺมนฺตํเยว สาริปุตฺตํ ปฎิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ’’ติฯ
‘‘Na hi pana taṃ, gahapati, paṭibhāsi bhagavantaṃ 4 uttariṃ paṭipucchituṃ – ‘kittāvatā nu kho, bhante, āturakāyo ceva hoti āturacitto ca, kittāvatā ca pana āturakāyo hi kho hoti no ca āturacitto’’’ti ? ‘‘Dūratopi kho mayaṃ, bhante, āgaccheyyāma āyasmato sāriputtassa santike etassa bhāsitassa atthamaññātuṃ. Sādhu vatāyasmantaṃyeva sāriputtaṃ paṭibhātu etassa bhāsitassa attho’’ti.
‘‘เตน หิ, คหปติ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข นกุลปิตา คหปติ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อายสฺมา สาริปุโตฺต เอตทโวจ –
‘‘Tena hi, gahapati, suṇāhi, sādhukaṃ manasi karohi; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho nakulapitā gahapati āyasmato sāriputtassa paccassosi. Āyasmā sāriputto etadavoca –
‘‘กถญฺจ, คหปติ, อาตุรกาโย เจว โหติ, อาตุรจิโตฺต จ? อิธ, คหปติ, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน อริยานํ อทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส อโกวิโท อริยธเมฺม อวินีโต สปฺปุริสานํ อทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส อโกวิโท สปฺปุริสธเมฺม อวินีโต รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ; อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมิํ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ รูปํ, มม รูป’นฺติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ รูปํ, มม รูป’นฺติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน ตํ รูปํ วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส รูปวิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Kathañca, gahapati, āturakāyo ceva hoti, āturacitto ca? Idha, gahapati, assutavā puthujjano ariyānaṃ adassāvī ariyadhammassa akovido ariyadhamme avinīto sappurisānaṃ adassāvī sappurisadhammassa akovido sappurisadhamme avinīto rūpaṃ attato samanupassati, rūpavantaṃ vā attānaṃ; attani vā rūpaṃ, rūpasmiṃ vā attānaṃ. ‘Ahaṃ rūpaṃ, mama rūpa’nti pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ rūpaṃ, mama rūpa’nti pariyuṭṭhaṭṭhāyino taṃ rūpaṃ vipariṇamati aññathā hoti. Tassa rūpavipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ; อตฺตนิ วา เวทนํ, เวทนาย วา อตฺตานํฯ ‘อหํ เวทนา, มม เวทนา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ เวทนา, มม เวทนา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, สา เวทนา วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส เวทนาวิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Vedanaṃ attato samanupassati, vedanāvantaṃ vā attānaṃ; attani vā vedanaṃ, vedanāya vā attānaṃ. ‘Ahaṃ vedanā, mama vedanā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ vedanā, mama vedanā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyino, sā vedanā vipariṇamati aññathā hoti. Tassa vedanāvipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘สญฺญํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สญฺญาวนฺตํ วา อตฺตานํ; อตฺตนิ วา สญฺญํ, สญฺญาย วา อตฺตานํฯ ‘อหํ สญฺญา, มม สญฺญา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ สญฺญา, มม สญฺญา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, สา สญฺญา วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส สญฺญาวิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Saññaṃ attato samanupassati, saññāvantaṃ vā attānaṃ; attani vā saññaṃ, saññāya vā attānaṃ. ‘Ahaṃ saññā, mama saññā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ saññā, mama saññā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyino, sā saññā vipariṇamati aññathā hoti. Tassa saññāvipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ, สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ; อตฺตนิ วา สงฺขาเร, สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ สงฺขารา, มม สงฺขารา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ สงฺขารา, มม สงฺขารา’ติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, เต สงฺขารา วิปริณมนฺติ อญฺญถา โหนฺติฯ ตสฺส สงฺขารวิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Saṅkhāre attato samanupassati, saṅkhāravantaṃ vā attānaṃ; attani vā saṅkhāre, saṅkhāresu vā attānaṃ. ‘Ahaṃ saṅkhārā, mama saṅkhārā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ saṅkhārā, mama saṅkhārā’ti pariyuṭṭhaṭṭhāyino, te saṅkhārā vipariṇamanti aññathā honti. Tassa saṅkhāravipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ; อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ วิญฺญาณํ, มม วิญฺญาณ’นฺติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ วิญฺญาณํ, มม วิญฺญาณ’นฺติ ปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, ตํ วิญฺญาณํ วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส วิญฺญาณวิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ เอวํ โข, คหปติ, อาตุรกาโย เจว โหติ อาตุรจิโตฺต จฯ
‘‘Viññāṇaṃ attato samanupassati, viññāṇavantaṃ vā attānaṃ; attani vā viññāṇaṃ, viññāṇasmiṃ vā attānaṃ. ‘Ahaṃ viññāṇaṃ, mama viññāṇa’nti pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ viññāṇaṃ, mama viññāṇa’nti pariyuṭṭhaṭṭhāyino, taṃ viññāṇaṃ vipariṇamati aññathā hoti. Tassa viññāṇavipariṇāmaññathābhāvā uppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā. Evaṃ kho, gahapati, āturakāyo ceva hoti āturacitto ca.
‘‘กถญฺจ, คหปติ, อาตุรกาโย หิ โข โหติ โน จ อาตุรจิโตฺต? อิธ, คหปติ, สุตวา อริยสาวโก อริยานํ ทสฺสาวี อริยธมฺมสฺส โกวิโท อริยธเมฺม สุวินีโต สปฺปุริสานํ ทสฺสาวี สปฺปุริสธมฺมสฺส โกวิโท สปฺปุริสธเมฺม สุวินีโต น รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ; น อตฺตนิ วา รูปํ, น รูปสฺมิํ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ รูปํ, มม รูป’นฺติ น ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ รูปํ, มม รูป’นฺติ อปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, ตํ รูปํ วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส รูปวิปริณามญฺญถาภาวา นุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Kathañca, gahapati, āturakāyo hi kho hoti no ca āturacitto? Idha, gahapati, sutavā ariyasāvako ariyānaṃ dassāvī ariyadhammassa kovido ariyadhamme suvinīto sappurisānaṃ dassāvī sappurisadhammassa kovido sappurisadhamme suvinīto na rūpaṃ attato samanupassati, na rūpavantaṃ vā attānaṃ; na attani vā rūpaṃ, na rūpasmiṃ vā attānaṃ. ‘Ahaṃ rūpaṃ, mama rūpa’nti na pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ rūpaṃ, mama rūpa’nti apariyuṭṭhaṭṭhāyino, taṃ rūpaṃ vipariṇamati aññathā hoti. Tassa rūpavipariṇāmaññathābhāvā nuppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘น เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น เวทนาวนฺตํ วา อตฺตานํ; น อตฺตนิ วา เวทนํ, น เวทนาย วา อตฺตานํ ฯ ‘อหํ เวทนา, มม เวทนา’ติ น ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ เวทนา, มม เวทนา’ติ อปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, สา เวทนา วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส เวทนาวิปริณามญฺญถาภาวา นุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Na vedanaṃ attato samanupassati, na vedanāvantaṃ vā attānaṃ; na attani vā vedanaṃ, na vedanāya vā attānaṃ . ‘Ahaṃ vedanā, mama vedanā’ti na pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ vedanā, mama vedanā’ti apariyuṭṭhaṭṭhāyino, sā vedanā vipariṇamati aññathā hoti. Tassa vedanāvipariṇāmaññathābhāvā nuppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘น สญฺญํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น สญฺญาวนฺตํ วา อตฺตานํ; น อตฺตนิ วา สญฺญํ, น สญฺญาย วา อตฺตานํฯ ‘อหํ สญฺญา, มม สญฺญา’ติ น ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ สญฺญา, มม สญฺญา’ติ อปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, สา สญฺญา วิปริณมติ อญฺญถา โหติฯ ตสฺส สญฺญาวิปริณามญฺญถาภาวา นุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
‘‘Na saññaṃ attato samanupassati, na saññāvantaṃ vā attānaṃ; na attani vā saññaṃ, na saññāya vā attānaṃ. ‘Ahaṃ saññā, mama saññā’ti na pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ saññā, mama saññā’ti apariyuṭṭhaṭṭhāyino, sā saññā vipariṇamati aññathā hoti. Tassa saññāvipariṇāmaññathābhāvā nuppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
``น สงฺขาเร อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น สงฺขารวนฺตํ วา อตฺตานํ; น อตฺตนิ วา สงฺขาเร, น สงฺขาเรสุ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ สงฺขารา, มม สงฺขารา’ติ น ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ สงฺขารา, มม สงฺขารา’ติ อปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, เต สงฺขารา วิปริณมนฺติ อญฺญถา โหนฺติฯ ตสฺส สงฺขารวิปริณามญฺญถาภาวา นุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ
``Na saṅkhāre attato samanupassati, na saṅkhāravantaṃ vā attānaṃ; na attani vā saṅkhāre, na saṅkhāresu vā attānaṃ. ‘Ahaṃ saṅkhārā, mama saṅkhārā’ti na pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ saṅkhārā, mama saṅkhārā’ti apariyuṭṭhaṭṭhāyino, te saṅkhārā vipariṇamanti aññathā honti. Tassa saṅkhāravipariṇāmaññathābhāvā nuppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā.
‘‘น วิญฺญาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, น วิญฺญาณวนฺตํ วา อตฺตานํ; น อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, น วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํฯ ‘อหํ วิญฺญาณํ, มม วิญฺญาณ’นฺติ น ปริยุฎฺฐฎฺฐายี โหติฯ ตสฺส ‘อหํ วิญฺญาณํ, มม วิญฺญาณ’นฺติ อปริยุฎฺฐฎฺฐายิโน, ตํ วิญฺญาณํ วิปริณมติ อญฺญถา โหติ ฯ ตสฺส วิญฺญาณวิปริณามญฺญถาภาวา นุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาฯ เอวํ โข, คหปติ, อาตุรกาโย โหติ โน จ อาตุรจิโตฺต’’ติฯ
‘‘Na viññāṇaṃ attato samanupassati, na viññāṇavantaṃ vā attānaṃ; na attani vā viññāṇaṃ, na viññāṇasmiṃ vā attānaṃ. ‘Ahaṃ viññāṇaṃ, mama viññāṇa’nti na pariyuṭṭhaṭṭhāyī hoti. Tassa ‘ahaṃ viññāṇaṃ, mama viññāṇa’nti apariyuṭṭhaṭṭhāyino, taṃ viññāṇaṃ vipariṇamati aññathā hoti . Tassa viññāṇavipariṇāmaññathābhāvā nuppajjanti sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā. Evaṃ kho, gahapati, āturakāyo hoti no ca āturacitto’’ti.
อิทมโวจ อายสฺมา สาริปุโตฺตฯ อตฺตมโน นกุลปิตา คหปติ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ ปฐมํฯ
Idamavoca āyasmā sāriputto. Attamano nakulapitā gahapati āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ abhinandīti. Paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา • 1. Nakulapitusuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา • 1. Nakulapitusuttavaṇṇanā