Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā)

    ๘. นฬกปานสุตฺตวณฺณนา

    8. Naḷakapānasuttavaṇṇanā

    ๑๖๖. ยตฺถ โพธิสตฺตปมุโข วานโร นฬเกน ปานียํ ปิวิ, สา โปกฺขรณี, ตสฺสามโนฺต ภูมิปฺปเทโส, ตตฺถ นิวิฎฺฐคาโม จ ‘‘นฬกปาน’’เนฺตว ปญฺญายิตฺถ, อิธ ปน คาโม อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘นฬกปาเนติ เอวํนามเก คาเม’’ติฯ อิทานิ ตมตฺถํ อาคมนโต ปฎฺฐาย ทเสฺสตุํ ‘‘ปุเพฺพ กิรา’’ติ อารทฺธํฯ ปญฺญวาติ อิติกตฺตพฺพตาย ปญฺญาย ปญฺญวาฯ

    166. Yattha bodhisattapamukho vānaro naḷakena pānīyaṃ pivi, sā pokkharaṇī, tassāmanto bhūmippadeso, tattha niviṭṭhagāmo ca ‘‘naḷakapāna’’nteva paññāyittha, idha pana gāmo adhippetoti āha ‘‘naḷakapāneti evaṃnāmake gāme’’ti. Idāni tamatthaṃ āgamanato paṭṭhāya dassetuṃ ‘‘pubbe kirā’’ti āraddhaṃ. Paññavāti itikattabbatāya paññāya paññavā.

    ถูลทีฆพหุลภาเวน มหตีหิ ทาฐิกาหิ สมนฺนาคตตฺตา มหาทาฐิโกฯ ‘‘อุทกรกฺขโส อห’’นฺติ วตฺวา วานรานํ กญฺจิ อมุญฺจิตฺวา ‘‘สเพฺพ ตุเมฺห มม หตฺถคตา’’ติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตุเมฺห ปน สเพฺพ ขาทิสฺสามี’’ติ อาหฯ ธมิ…เป.… ปิวิํสูติ โพธิสเตฺตน คหิตนโฬ อนวเสโส อพฺภนฺตเร สพฺพสนฺธีนํ นิพฺพาเธน เอกจฺฉิโทฺท อโหสิฯ เนว มํ ตฺวํ วธิสฺสสีติ อุทกรกฺขส ตฺวํ วธิตุกาโมปิ มม ปุริสถาเมน น วธิสฺสสิฯ

    Thūladīghabahulabhāvena mahatīhi dāṭhikāhi samannāgatattā mahādāṭhiko. ‘‘Udakarakkhaso aha’’nti vatvā vānarānaṃ kañci amuñcitvā ‘‘sabbe tumhe mama hatthagatā’’ti dassento ‘‘tumhe pana sabbe khādissāmī’’ti āha. Dhami…pe… piviṃsūti bodhisattena gahitanaḷo anavaseso abbhantare sabbasandhīnaṃ nibbādhena ekacchiddo ahosi. Neva maṃ tvaṃ vadhissasīti udakarakkhasa tvaṃ vadhitukāmopi mama purisathāmena na vadhissasi.

    เอวํ ปน วตฺวา มหาสโตฺต ‘‘อยํ ปาโป เอตฺถ ปานียํ ปิวเนฺต อเญฺญปิ สเตฺต มา พาธยิตฺถา’’ติ กรุณายมาโน ‘‘เอตฺถ ชายนฺตา นฬา สเพฺพ อปพฺพพนฺธา เอกจฺฉิทฺทาว โหนฺตู’’ติ อธิฎฺฐาย คโตฯ เตนาห ‘‘ตโต ปฎฺฐายา’’ติอาทิฯ

    Evaṃ pana vatvā mahāsatto ‘‘ayaṃ pāpo ettha pānīyaṃ pivante aññepi satte mā bādhayitthā’’ti karuṇāyamāno ‘‘ettha jāyantā naḷā sabbe apabbabandhā ekacchiddāva hontū’’ti adhiṭṭhāya gato. Tenāha ‘‘tato paṭṭhāyā’’tiādi.

    ๑๖๗. อนุรุทฺธปฺปมุขา ภิกฺขู ภควตา ‘‘กจฺจิ ตุเมฺห อนุรุทฺธา’’ติ ปุจฺฉิตาติ เถโร ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภเนฺต’’ติ อาหฯ

    167. Anuruddhappamukhā bhikkhū bhagavatā ‘‘kacci tumhe anuruddhā’’ti pucchitāti thero ‘‘taggha mayaṃ, bhante’’ti āha.

    สเจ ปพฺพชติ, ชีวิตํ ลภิสฺสติ, โน อญฺญถาติ รญฺญา ปพฺพชฺชาย อภินีตาติ ราชาภินีตาฯ โจราภินีตาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ โจรานํ มูลํ ฉินฺทโนฺต ‘‘กณฺฎกโสธนํ กริสฺสามี’’ติฯ อาชีวิกายาติ อาชีเวน ชีวิตวุตฺติยาฯ อิเมสุ ปน อนุรุทฺธเตฺถราทีสุฯ

    Sace pabbajati, jīvitaṃ labhissati, no aññathāti raññā pabbajjāya abhinītāti rājābhinītā. Corābhinītāti etthāpi eseva nayo. Corānaṃ mūlaṃ chindanto ‘‘kaṇṭakasodhanaṃ karissāmī’’ti. Ājīvikāyāti ājīvena jīvitavuttiyā. Imesu pana anuruddhattherādīsu.

    วิเวกนฺติ ปุพฺพกาลิกกิริยปฺปธานํ ‘‘อพฺยาปชฺชํ อุเปต’’นฺติอาทีสุ วิยาติ อาห – ‘‘วิวิจฺจา’’ติ, วิวิจฺจิตฺวา วิวิโตฺต หุตฺวา วินา หุตฺวาติ อโตฺถฯ ปพฺพชิตกิจฺจนฺติ ปพฺพชิตสฺส สารุปฺปกิจฺจํฯ สมณกิจฺจนฺติ สมณภาวกรณกิจฺจํฯ ยทเคฺคน หิ ปพฺพชิตกิจฺจํ กาตุํ น สโกฺกติ ตทเคฺคน สมณภาวกรมฺปิ กิจฺจํ กาตุํ น สโกฺกติฯ เตนาห ‘‘โส เยวา’’ติอาทิฯ

    Vivekanti pubbakālikakiriyappadhānaṃ ‘‘abyāpajjaṃ upeta’’ntiādīsu viyāti āha – ‘‘viviccā’’ti, viviccitvā vivitto hutvā vinā hutvāti attho. Pabbajitakiccanti pabbajitassa sāruppakiccaṃ. Samaṇakiccanti samaṇabhāvakaraṇakiccaṃ. Yadaggena hi pabbajitakiccaṃ kātuṃ na sakkoti tadaggena samaṇabhāvakarampi kiccaṃ kātuṃ na sakkoti. Tenāha ‘‘so yevā’’tiādi.

    ๑๖๘. อปฺปฎิสนฺธิเก ตาว พฺยากโรโนฺต ปวตฺตีสุ ฐานํ อตีโตติ กตฺวา อุปปตฺตีสุ พฺยากโรติ นาม ตตฺถ ปฎิสนฺธิยา อภาวกิตฺตนโตฯ มหนฺตตุฎฺฐิโนติ วิปุลปโมทาฯ

    168.Appaṭisandhike tāva byākaronto pavattīsu ṭhānaṃ atītoti katvā upapattīsu byākaroti nāma tattha paṭisandhiyā abhāvakittanato. Mahantatuṭṭhinoti vipulapamodā.

    ๑๖๙. อิมสฺสาติ ‘‘อสฺสา’’ติ ปทสฺส อตฺถวจนํฯ อิมสฺส ฐิตสฺส อายสฺมโต สามํ ทิโฎฺฐ วา โหติ อนุสฺสวสุโต วาติ โยชนาฯ สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา ธมฺมาติ อธิเปฺปตา, สมาธิ ปน เอวํวิหารีติ เอตฺถ วิหารสเทฺทน คหิโตฯ เอวํวิมุตฺตาติ เอตฺถ ปน วิมุตฺติสเทฺทน ผลวิมุตฺติ คหิตาฯ จรโตปีติ สมถวิปสฺสนาจาเรน จรโตปิ วิหรนฺตสฺสปิฯ อุปาสกอุปาสิกาฐาเนสุ ลพฺภมานมฺปิ อรหตฺตํ อปฺปกภาวโต ปาฬิยํ อนุทฺธฎนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    169.Imassāti ‘‘assā’’ti padassa atthavacanaṃ. Imassa ṭhitassa āyasmato sāmaṃ diṭṭho vā hoti anussavasuto vāti yojanā. Samādhipakkhikā dhammā dhammāti adhippetā, samādhi pana evaṃvihārīti ettha vihārasaddena gahito. Evaṃvimuttāti ettha pana vimuttisaddena phalavimutti gahitā. Caratopīti samathavipassanācārena caratopi viharantassapi. Upāsakaupāsikāṭhānesu labbhamānampi arahattaṃ appakabhāvato pāḷiyaṃ anuddhaṭanti daṭṭhabbaṃ. Sesaṃ suviññeyyameva.

    นฬกปานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

    Naḷakapānasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๘. นฬกปานสุตฺตํ • 8. Naḷakapānasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. นฬกปานสุตฺตวณฺณนา • 8. Naḷakapānasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact