Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๒. นาลนฺทสุตฺตํ

    2. Nālandasuttaṃ

    ๓๗๘. เอกํ สมยํ ภควา นาลนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเนฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอวํปสโนฺน อหํ, ภเนฺต, ภควติ! น จาหุ, น จ ภวิสฺสติ, น เจตรหิ วิชฺชติ อโญฺญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิโยฺยภิญฺญตโร, ยทิทํ – สโมฺพธิย’’นฺติฯ ‘‘อุฬารา โข ตฺยายํ, สาริปุตฺต, อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสโนฺน อหํ, ภเนฺต, ภควติ! น จาหุ, น จ ภวิสฺสติ น เจตรหิ วิชฺชติ อโญฺญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา ภิโยฺยภิญฺญตโร, ยทิทํ – สโมฺพธิย’’’นฺติฯ

    378. Ekaṃ samayaṃ bhagavā nālandāyaṃ viharati pāvārikambavane. Atha kho āyasmā sāriputto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘evaṃpasanno ahaṃ, bhante, bhagavati! Na cāhu, na ca bhavissati, na cetarahi vijjati añño samaṇo vā brāhmaṇo vā bhagavatā bhiyyobhiññataro, yadidaṃ – sambodhiya’’nti. ‘‘Uḷārā kho tyāyaṃ, sāriputta, āsabhī vācā bhāsitā, ekaṃso gahito, sīhanādo nadito – ‘evaṃpasanno ahaṃ, bhante, bhagavati! Na cāhu, na ca bhavissati na cetarahi vijjati añño samaṇo vā brāhmaṇo vā bhagavatā bhiyyobhiññataro, yadidaṃ – sambodhiya’’’nti.

    ‘‘กิํ นุ เต, สาริปุตฺต, เย เต อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สเพฺพ เต ภควโนฺต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควโนฺต อเหสุํ’ อิติ วา, ‘เอวํธมฺมา เต ภควโนฺต อเหสุํ’ อิติ วา, ‘เอวํปญฺญา เต ภควโนฺต อเหสุํ’ อิติ วา, ‘เอวํวิหาริโน เต ภควโนฺต อเหสุํ’ อิติ วา, ‘เอวํวิมุตฺตา เต ภควโนฺต อเหสุํ’ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’!

    ‘‘Kiṃ nu te, sāriputta, ye te ahesuṃ atītamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, sabbe te bhagavanto cetasā ceto paricca viditā – ‘evaṃsīlā te bhagavanto ahesuṃ’ iti vā, ‘evaṃdhammā te bhagavanto ahesuṃ’ iti vā, ‘evaṃpaññā te bhagavanto ahesuṃ’ iti vā, ‘evaṃvihārino te bhagavanto ahesuṃ’ iti vā, ‘evaṃvimuttā te bhagavanto ahesuṃ’ iti vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’!

    ‘‘กิํ ปน เต, สาริปุตฺต, เย เต ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สเพฺพ เต ภควโนฺต เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิตา – ‘เอวํสีลา เต ภควโนฺต ภวิสฺสนฺติ’ อิติ วา, ‘เอวํธมฺมา เต ภควโนฺต ภวิสฺสนฺติ’ อิติ วา, ‘เอวํปญฺญา เต ภควโนฺต ภวิสฺสนฺติ’ อิติ วา, ‘เอวํวิหาริโน เต ภควโนฺต ภวิสฺสนฺติ’ อิติ วา, ‘เอวํวิมุตฺตา เต ภควโนฺต ภวิสฺสนฺติ’ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Kiṃ pana te, sāriputta, ye te bhavissanti anāgatamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, sabbe te bhagavanto cetasā ceto paricca viditā – ‘evaṃsīlā te bhagavanto bhavissanti’ iti vā, ‘evaṃdhammā te bhagavanto bhavissanti’ iti vā, ‘evaṃpaññā te bhagavanto bhavissanti’ iti vā, ‘evaṃvihārino te bhagavanto bhavissanti’ iti vā, ‘evaṃvimuttā te bhagavanto bhavissanti’ iti vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘กิํ ปน ตฺยาหํ 1, สาริปุตฺต, เอตรหิ, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ เจตสา เจโต ปริจฺจ วิทิโต – ‘เอวํสีโล ภควา’ อิติ วา, ‘เอวํธโมฺม ภควา’ อิติ วา, ‘เอวํปโญฺญ ภควา’ อิติ วา, ‘เอวํวิหารี ภควา’ อิติ วา, ‘เอวํวิมุโตฺต ภควา’ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Kiṃ pana tyāhaṃ 2, sāriputta, etarahi, arahaṃ sammāsambuddho cetasā ceto paricca vidito – ‘evaṃsīlo bhagavā’ iti vā, ‘evaṃdhammo bhagavā’ iti vā, ‘evaṃpañño bhagavā’ iti vā, ‘evaṃvihārī bhagavā’ iti vā, ‘evaṃvimutto bhagavā’ iti vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เอตฺถ จ เต, สาริปุตฺต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺนสุ อรหเนฺตสุ สมฺมาสมฺพุเทฺธสุ เจโตปริยญาณํ 3 นตฺถิฯ อถ กิญฺจรหิ ตฺยายํ, สาริปุตฺต, อุฬารา อาสภี วาจา ภาสิตา, เอกํโส คหิโต, สีหนาโท นทิโต – ‘เอวํปสโนฺน อหํ, ภเนฺต, ภควติ! น จาหุ, น จ ภวิสฺสติ, น เจตรหิ วิชฺชติ อโญฺญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควตา’ ภิโยฺยภิญฺญตโร, ยทิทํ – สโมฺพธิย’’นฺติ?

    ‘‘Ettha ca te, sāriputta, atītānāgatapaccuppannesu arahantesu sammāsambuddhesu cetopariyañāṇaṃ 4 natthi. Atha kiñcarahi tyāyaṃ, sāriputta, uḷārā āsabhī vācā bhāsitā, ekaṃso gahito, sīhanādo nadito – ‘evaṃpasanno ahaṃ, bhante, bhagavati! Na cāhu, na ca bhavissati, na cetarahi vijjati añño samaṇo vā brāhmaṇo vā bhagavatā’ bhiyyobhiññataro, yadidaṃ – sambodhiya’’nti?

    ‘‘น โข เม 5, ภเนฺต, อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺนสุ อรหเนฺตสุ สมฺมาสมฺพุเทฺธสุ เจโตปริยญาณํ อตฺถิ, อปิ จ เม ธมฺมนฺวโย วิทิโตฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ 6 ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํฯ ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต พฺยโตฺต เมธาวี อญฺญาตานํ นิวาเรตา ญาตานํ ปเวเสตาฯ โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ อนุกฺกมมาโน น ปเสฺสยฺย ปาการสนฺธิํ วา ปาการวิวรํ วา, อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สเพฺพ เต อิมินาว ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติฯ เอวเมว โข เม, ภเนฺต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต – ‘เยปิ เต, ภเนฺต, อเหสุํ อตีตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สเพฺพ เต ภควโนฺต ปญฺจ นีวรเณ ปหาย, เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิตฺตา, สตฺต โพชฺฌเงฺค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา, อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิํสุฯ เยปิ เต, ภเนฺต, ภวิสฺสนฺติ อนาคตมทฺธานํ อรหโนฺต สมฺมาสมฺพุทฺธา, สเพฺพ เต ภควโนฺต ปญฺจ นีวรเณ ปหาย, เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิตฺตา, สตฺต โพชฺฌเงฺค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา, อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุชฺฌิสฺสนฺติฯ ภควาปิ, ภเนฺต, เอตรหิ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ปญฺจ นีวรเณ ปหาย, เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ สุปฺปติฎฺฐิตจิโตฺต, สตฺต โพชฺฌเงฺค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา, อนุตฺตรํ สมฺมาสโมฺพธิํ อภิสมฺพุโทฺธ’’’ติฯ

    ‘‘Na kho me 7, bhante, atītānāgatapaccuppannesu arahantesu sammāsambuddhesu cetopariyañāṇaṃ atthi, api ca me dhammanvayo vidito. Seyyathāpi, bhante, rañño paccantimaṃ nagaraṃ daḷhuddhāpaṃ 8 daḷhapākāratoraṇaṃ ekadvāraṃ. Tatrassa dovāriko paṇḍito byatto medhāvī aññātānaṃ nivāretā ñātānaṃ pavesetā. So tassa nagarassa samantā anupariyāyapathaṃ anukkamamāno na passeyya pākārasandhiṃ vā pākāravivaraṃ vā, antamaso biḷāranikkhamanamattampi. Tassa evamassa – ‘ye kho keci oḷārikā pāṇā imaṃ nagaraṃ pavisanti vā nikkhamanti vā, sabbe te imināva dvārena pavisanti vā nikkhamanti vā’ti. Evameva kho me, bhante, dhammanvayo vidito – ‘yepi te, bhante, ahesuṃ atītamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, sabbe te bhagavanto pañca nīvaraṇe pahāya, cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe, catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacittā, satta bojjhaṅge yathābhūtaṃ bhāvetvā, anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhiṃsu. Yepi te, bhante, bhavissanti anāgatamaddhānaṃ arahanto sammāsambuddhā, sabbe te bhagavanto pañca nīvaraṇe pahāya, cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe, catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacittā, satta bojjhaṅge yathābhūtaṃ bhāvetvā, anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambujjhissanti. Bhagavāpi, bhante, etarahi arahaṃ sammāsambuddho pañca nīvaraṇe pahāya, cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe, catūsu satipaṭṭhānesu suppatiṭṭhitacitto, satta bojjhaṅge yathābhūtaṃ bhāvetvā, anuttaraṃ sammāsambodhiṃ abhisambuddho’’’ti.

    ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ตสฺมาติห ตฺวํ, สาริปุตฺต, อิมํ ธมฺมปริยายํ อภิกฺขณํ ภาเสยฺยาสิ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํฯ เยสมฺปิ หิ, สาริปุตฺต, โมฆปุริสานํ ภวิสฺสติ ตถาคเต กงฺขา วา วิมติ วา, เตสมฺปิมํ ธมฺมปริยายํ สุตฺวา ยา ตถาคเต กงฺขา วา วิมติ วา สา ปหียิสฺสตี’’ติฯ ทุติยํฯ

    ‘‘Sādhu sādhu, sāriputta! Tasmātiha tvaṃ, sāriputta, imaṃ dhammapariyāyaṃ abhikkhaṇaṃ bhāseyyāsi bhikkhūnaṃ bhikkhunīnaṃ upāsakānaṃ upāsikānaṃ. Yesampi hi, sāriputta, moghapurisānaṃ bhavissati tathāgate kaṅkhā vā vimati vā, tesampimaṃ dhammapariyāyaṃ sutvā yā tathāgate kaṅkhā vā vimati vā sā pahīyissatī’’ti. Dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. กิํ ปน เต (สี.)
    2. kiṃ pana te (sī.)
    3. เจโตปริยายญาณํ (พหูสุ)
    4. cetopariyāyañāṇaṃ (bahūsu)
    5. น โข เม ตํ (สฺยา. กํ. ก.)
    6. ทฬฺหุทฺทาปํ (สี. ปี. ก.), ทฬฺหทฺธาปํ (สฺยา. กํ.)
    7. na kho me taṃ (syā. kaṃ. ka.)
    8. daḷhuddāpaṃ (sī. pī. ka.), daḷhaddhāpaṃ (syā. kaṃ.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. นาลนฺทสุตฺตวณฺณนา • 2. Nālandasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. นาลนฺทสุตฺตวณฺณนา • 2. Nālandasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact