Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๓. ญาณวตฺถุสุตฺตํ

    3. Ñāṇavatthusuttaṃ

    ๓๓. สาวตฺถิยํ…เป.… ‘‘จตุจตฺตารีสํ โว, ภิกฺขเว, ญาณวตฺถูนิ เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

    33. Sāvatthiyaṃ…pe… ‘‘catucattārīsaṃ vo, bhikkhave, ñāṇavatthūni desessāmi, taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –

    ‘‘กตมานิ 1, ภิกฺขเว, จตุจตฺตารีสํ ญาณวตฺถูนิ? ชรามรเณ ญาณํ, ชรามรณสมุทเย ญาณํ, ชรามรณนิโรเธ ญาณํ, ชรามรณนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; ชาติยา ญาณํ, ชาติสมุทเย ญาณํ, ชาตินิโรเธ ญาณํ, ชาตินิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; ภเว ญาณํ, ภวสมุทเย ญาณํ, ภวนิโรเธ ญาณํ, ภวนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; อุปาทาเน ญาณํ, อุปาทานสมุทเย ญาณํ, อุปาทานนิโรเธ ญาณํ, อุปาทานนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; ตณฺหาย ญาณํ, ตณฺหาสมุทเย ญาณํ, ตณฺหานิโรเธ ญาณํ, ตณฺหานิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; เวทนาย ญาณํ, เวทนาสมุทเย ญาณํ, เวทนานิโรเธ ญาณํ, เวทนานิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํ; ผเสฺส ญาณํ…เป.… สฬายตเน ญาณํ… นามรูเป ญาณํ… วิญฺญาเณ ญาณํ… สงฺขาเรสุ ญาณํ, สงฺขารสมุทเย ญาณํ, สงฺขารนิโรเธ ญาณํ, สงฺขารนิโรธคามินิยา ปฎิปทาย ญาณํฯ อิมานิ วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, จตุจตฺตารีสํ ญาณวตฺถูนิฯ

    ‘‘Katamāni 2, bhikkhave, catucattārīsaṃ ñāṇavatthūni? Jarāmaraṇe ñāṇaṃ, jarāmaraṇasamudaye ñāṇaṃ, jarāmaraṇanirodhe ñāṇaṃ, jarāmaraṇanirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; jātiyā ñāṇaṃ, jātisamudaye ñāṇaṃ, jātinirodhe ñāṇaṃ, jātinirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; bhave ñāṇaṃ, bhavasamudaye ñāṇaṃ, bhavanirodhe ñāṇaṃ, bhavanirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; upādāne ñāṇaṃ, upādānasamudaye ñāṇaṃ, upādānanirodhe ñāṇaṃ, upādānanirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; taṇhāya ñāṇaṃ, taṇhāsamudaye ñāṇaṃ, taṇhānirodhe ñāṇaṃ, taṇhānirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; vedanāya ñāṇaṃ, vedanāsamudaye ñāṇaṃ, vedanānirodhe ñāṇaṃ, vedanānirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ; phasse ñāṇaṃ…pe… saḷāyatane ñāṇaṃ… nāmarūpe ñāṇaṃ… viññāṇe ñāṇaṃ… saṅkhāresu ñāṇaṃ, saṅkhārasamudaye ñāṇaṃ, saṅkhāranirodhe ñāṇaṃ, saṅkhāranirodhagāminiyā paṭipadāya ñāṇaṃ. Imāni vuccanti, bhikkhave, catucattārīsaṃ ñāṇavatthūni.

    ‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, ชรามรณํ? ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย ชรา ชีรณตา ขณฺฑิจฺจํ ปาลิจฺจํ วลิตฺตจตา อายุโน สํหานิ อินฺทฺริยานํ ปริปาโก, อยํ วุจฺจติ ชราฯ ยา เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตมฺหา ตมฺหา สตฺตนิกายา จุติ จวนตา เภโท อนฺตรธานํ มจฺจุ มรณํ กาลกิริยา ขนฺธานํ เภโท กเฬวรสฺส นิเกฺขโปฯ อิทํ วุจฺจติ มรณํฯ อิติ อยญฺจ ชรา, อิทญฺจ มรณํ; อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ชรามรณํฯ

    ‘‘Katamañca, bhikkhave, jarāmaraṇaṃ? Yā tesaṃ tesaṃ sattānaṃ tamhi tamhi sattanikāye jarā jīraṇatā khaṇḍiccaṃ pāliccaṃ valittacatā āyuno saṃhāni indriyānaṃ paripāko, ayaṃ vuccati jarā. Yā tesaṃ tesaṃ sattānaṃ tamhā tamhā sattanikāyā cuti cavanatā bhedo antaradhānaṃ maccu maraṇaṃ kālakiriyā khandhānaṃ bhedo kaḷevarassa nikkhepo. Idaṃ vuccati maraṇaṃ. Iti ayañca jarā, idañca maraṇaṃ; idaṃ vuccati, bhikkhave, jarāmaraṇaṃ.

    ‘‘ชาติสมุทยา ชรามรณสมุทโย; ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ; อยเมว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ชรามรณนิโรธคามินี ปฎิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ

    ‘‘Jātisamudayā jarāmaraṇasamudayo; jātinirodhā jarāmaraṇanirodho; ayameva ariyo aṭṭhaṅgiko maggo jarāmaraṇanirodhagāminī paṭipadā, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi…pe… sammāsamādhi.

    ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ ชรามรณํ ปชานาติ, เอวํ ชรามรณสมุทยํ ปชานาติ, เอวํ ชรามรณนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ ชรามรณนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ ปชานาติ, อิทมสฺส ธเมฺม ญาณํ ฯ โส อิมินา ธเมฺมน ทิเฎฺฐน วิทิเตน อกาลิเกน ปเตฺตน ปริโยคาเฬฺหน อตีตานาคเตน ยํ เนติฯ

    ‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvako evaṃ jarāmaraṇaṃ pajānāti, evaṃ jarāmaraṇasamudayaṃ pajānāti, evaṃ jarāmaraṇanirodhaṃ pajānāti, evaṃ jarāmaraṇanirodhagāminiṃ paṭipadaṃ pajānāti, idamassa dhamme ñāṇaṃ . So iminā dhammena diṭṭhena viditena akālikena pattena pariyogāḷhena atītānāgatena yaṃ neti.

    ‘‘เย โข เกจิ อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ชรามรณํ อพฺภญฺญํสุ, ชรามรณสมุทยํ อพฺภญฺญํสุ, ชรามรณนิโรธํ อพฺภญฺญํสุ, ชรามรณนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ อพฺภญฺญํสุ, สเพฺพ เต เอวเมว อพฺภญฺญํสุ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิฯ

    ‘‘Ye kho keci atītamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā jarāmaraṇaṃ abbhaññaṃsu, jarāmaraṇasamudayaṃ abbhaññaṃsu, jarāmaraṇanirodhaṃ abbhaññaṃsu, jarāmaraṇanirodhagāminiṃ paṭipadaṃ abbhaññaṃsu, sabbe te evameva abbhaññaṃsu, seyyathāpāhaṃ etarahi.

    ‘‘เยปิ หิ เกจิ อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ชรามรณํ อภิชานิสฺสนฺติ, ชรามรณสมุทยํ อภิชานิสฺสนฺติ, ชรามรณนิโรธํ อภิชานิสฺสนฺติ, ชรามรณนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ อภิชานิสฺสนฺติ, สเพฺพ เต เอวเมว อภิชานิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหีติฯ อิทมสฺส อนฺวเย ญาณํฯ

    ‘‘Yepi hi keci anāgatamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā jarāmaraṇaṃ abhijānissanti, jarāmaraṇasamudayaṃ abhijānissanti, jarāmaraṇanirodhaṃ abhijānissanti, jarāmaraṇanirodhagāminiṃ paṭipadaṃ abhijānissanti, sabbe te evameva abhijānissanti, seyyathāpāhaṃ etarahīti. Idamassa anvaye ñāṇaṃ.

    ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อิมานิ เทฺว ญาณานิ ปริสุทฺธานิ โหนฺติ ปริโยทาตานิ – ธเมฺม ญาณญฺจ อนฺวเย ญาณญฺจฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน อิติปิ, ทสฺสนสมฺปโนฺน อิติปิ, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ อิติปิ, ปสฺสติ อิมํ สทฺธมฺมํ อิติปิ, เสเกฺขน ญาเณน สมนฺนาคโต อิติปิ, เสกฺขาย วิชฺชาย สมนฺนาคโต อิติปิ, ธมฺมโสตํ สมาปโนฺน อิติปิ, อริโย นิเพฺพธิกปโญฺญ อิติปิ, อมตทฺวารํ อาหจฺจ ติฎฺฐติ อิติปีติฯ

    ‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvakassa imāni dve ñāṇāni parisuddhāni honti pariyodātāni – dhamme ñāṇañca anvaye ñāṇañca. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyasāvako diṭṭhisampanno itipi, dassanasampanno itipi, āgato imaṃ saddhammaṃ itipi, passati imaṃ saddhammaṃ itipi, sekkhena ñāṇena samannāgato itipi, sekkhāya vijjāya samannāgato itipi, dhammasotaṃ samāpanno itipi, ariyo nibbedhikapañño itipi, amatadvāraṃ āhacca tiṭṭhati itipīti.

    ‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, ชาติ…เป.… กตโม จ, ภิกฺขเว, ภโว… กตมญฺจ, ภิกฺขเว, อุปาทานํ… กตมา จ, ภิกฺขเว ตณฺหา… กตมา จ, ภิกฺขเว, เวทนา… กตโม จ, ภิกฺขเว, ผโสฺส… กตมญฺจ, ภิกฺขเว , สฬายตนํ… กตมญฺจ, ภิกฺขเว, นามรูปํ … กตมญฺจ, ภิกฺขเว, วิญฺญาณํ… กตเม จ, ภิกฺขเว, สงฺขารา? ตโยเม, ภิกฺขเว , สงฺขารา – กายสงฺขาโร, วจีสงฺขาโร, จิตฺตสงฺขาโรติฯ อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, สงฺขาราฯ

    ‘‘Katamā ca, bhikkhave, jāti…pe… katamo ca, bhikkhave, bhavo… katamañca, bhikkhave, upādānaṃ… katamā ca, bhikkhave taṇhā… katamā ca, bhikkhave, vedanā… katamo ca, bhikkhave, phasso… katamañca, bhikkhave , saḷāyatanaṃ… katamañca, bhikkhave, nāmarūpaṃ … katamañca, bhikkhave, viññāṇaṃ… katame ca, bhikkhave, saṅkhārā? Tayome, bhikkhave , saṅkhārā – kāyasaṅkhāro, vacīsaṅkhāro, cittasaṅkhāroti. Ime vuccanti, bhikkhave, saṅkhārā.

    ‘‘อวิชฺชาสมุทยา สงฺขารสมุทโย; อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ; อยเมว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค สงฺขารนิโรธคามินี ปฎิปทา, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ

    ‘‘Avijjāsamudayā saṅkhārasamudayo; avijjānirodhā saṅkhāranirodho; ayameva ariyo aṭṭhaṅgiko maggo saṅkhāranirodhagāminī paṭipadā, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi…pe… sammāsamādhi.

    ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ สงฺขาเร ปชานาติ, เอวํ สงฺขารสมุทยํ ปชานาติ , เอวํ สงฺขารนิโรธํ ปชานาติ, เอวํ สงฺขารนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ ปชานาติ, อิทมสฺส ธเมฺม ญาณํฯ โส อิมินา ธเมฺมน ทิเฎฺฐน วิทิเตน อกาลิเกน ปเตฺตน ปริโยคาเฬฺหน อตีตานาคเตน ยํ เนติฯ

    ‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvako evaṃ saṅkhāre pajānāti, evaṃ saṅkhārasamudayaṃ pajānāti , evaṃ saṅkhāranirodhaṃ pajānāti, evaṃ saṅkhāranirodhagāminiṃ paṭipadaṃ pajānāti, idamassa dhamme ñāṇaṃ. So iminā dhammena diṭṭhena viditena akālikena pattena pariyogāḷhena atītānāgatena yaṃ neti.

    ‘‘เย โข เกจิ อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สงฺขาเร อพฺภญฺญํสุ, สงฺขารสมุทยํ อพฺภญฺญํสุ, สงฺขารนิโรธํ อพฺภญฺญํสุ, สงฺขารนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ อพฺภญฺญํสุ, สเพฺพ เต เอวเมว อพฺภญฺญํสุ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิฯ

    ‘‘Ye kho keci atītamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā saṅkhāre abbhaññaṃsu, saṅkhārasamudayaṃ abbhaññaṃsu, saṅkhāranirodhaṃ abbhaññaṃsu, saṅkhāranirodhagāminiṃ paṭipadaṃ abbhaññaṃsu, sabbe te evameva abbhaññaṃsu, seyyathāpāhaṃ etarahi.

    ‘‘เยปิ หิ เกจิ อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา สงฺขาเร อภิชานิสฺสนฺติ, สงฺขารสมุทยํ อภิชานิสฺสนฺติ, สงฺขารนิโรธํ อภิชานิสฺสนฺติ, สงฺขารนิโรธคามินิํ ปฎิปทํ อภิชานิสฺสนฺติ, สเพฺพ เต เอวเมว อภิชานิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปาหํ เอตรหิฯ อิทมสฺส อนฺวเย ญาณํฯ

    ‘‘Yepi hi keci anāgatamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā saṅkhāre abhijānissanti, saṅkhārasamudayaṃ abhijānissanti, saṅkhāranirodhaṃ abhijānissanti, saṅkhāranirodhagāminiṃ paṭipadaṃ abhijānissanti, sabbe te evameva abhijānissanti, seyyathāpāhaṃ etarahi. Idamassa anvaye ñāṇaṃ.

    ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อิมานิ เทฺว ญาณานิ ปริสุทฺธานิ โหนฺติ ปริโยทาตานิ – ธเมฺม ญาณญฺจ อนฺวเย ญาณญฺจฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ทิฎฺฐิสมฺปโนฺน อิติปิ, ทสฺสนสมฺปโนฺน อิติปิ, อาคโต อิมํ สทฺธมฺมํ อิติปิ, ปสฺสติ อิมํ สทฺธมฺมํ อิติปิ, เสเกฺขน ญาเณน สมนฺนาคโต อิติปิ, เสกฺขาย วิชฺชาย สมนฺนาคโต อิติปิ, ธมฺมโสตํ สมาปโนฺน อิติปิ, อริโย นิเพฺพธิกปโญฺญ อิติปิ, อมตทฺวารํ อาหจฺจ ติฎฺฐติ อิติปี’’ติฯ ตติยํฯ

    ‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvakassa imāni dve ñāṇāni parisuddhāni honti pariyodātāni – dhamme ñāṇañca anvaye ñāṇañca. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyasāvako diṭṭhisampanno itipi, dassanasampanno itipi, āgato imaṃ saddhammaṃ itipi, passati imaṃ saddhammaṃ itipi, sekkhena ñāṇena samannāgato itipi, sekkhāya vijjāya samannāgato itipi, dhammasotaṃ samāpanno itipi, ariyo nibbedhikapañño itipi, amatadvāraṃ āhacca tiṭṭhati itipī’’ti. Tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. กตมานิ จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    2. katamāni ca (syā. kaṃ. pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ญาณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 3. Ñāṇavatthusuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. ญาณวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 3. Ñāṇavatthusuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact