Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๙] ๙. นนฺทชาตกวณฺณนา
[39] 9. Nandajātakavaṇṇanā
มเญฺญ โสวณฺณโย ราสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต สาริปุตฺตเตฺถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร ภิกฺขุ สุพฺพโจ อโหสิ วจนกฺขโม, เถรสฺส มหเนฺตนุสฺสาเหน อุปการํ กโรติฯ อเถกํ สมยํ เถโร สตฺถารํ อาปุจฺฉิตฺวา จาริกํ จรโนฺต ทกฺขิณาคิริชนปทํ อคมาสิฯ โส ภิกฺขุ ตตฺถ คตกาเล มานตฺถโทฺธ หุตฺวา เถรสฺส วจนํ น กโรติ ‘‘อาวุโส, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วุเตฺต ปน เถรสฺส ปฎิปโกฺข โหติฯ เถโร ตสฺส อาสยํ น ชานาติฯ โส ตตฺถ จาริกํ จริตฺวา ปุน เชตวนํ อาคโตฯ โส ภิกฺขุ เถรสฺส เชตวนวิหารํ อาคตกาลโต ปฎฺฐาย ปุน ตาทิโสว ชาโตฯ เถโร ตถาคตสฺส อาโรเจสิ ‘‘ภเนฺต, มยฺหํ เอโก สทฺธิวิหาริโก เอกสฺมิํ ฐาเน สเตน กีตทาโส วิย โหติ, เอกสฺมิํ ฐาเน มานตฺถโทฺธ หุตฺวา ‘อิทํ นาม กโรหี’ติ วุเตฺต ปฎิปโกฺข โหตี’’ติฯ สตฺถา ‘‘นายํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อิทาเนว เอวํสีโล, ปุเพฺพเปส เอกํ ฐานํ คโต สเตน กีตทาโส วิย โหติฯ เอกํ ฐานํ คโต ปฎิปโกฺข ปฎิสตฺตุ โหตี’’ติ วตฺวา เถเรน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Maññesovaṇṇayo rāsīti idaṃ satthā jetavane viharanto sāriputtattherassa saddhivihārikaṃ ārabbha kathesi. So kira bhikkhu subbaco ahosi vacanakkhamo, therassa mahantenussāhena upakāraṃ karoti. Athekaṃ samayaṃ thero satthāraṃ āpucchitvā cārikaṃ caranto dakkhiṇāgirijanapadaṃ agamāsi. So bhikkhu tattha gatakāle mānatthaddho hutvā therassa vacanaṃ na karoti ‘‘āvuso, idaṃ nāma karohī’’ti vutte pana therassa paṭipakkho hoti. Thero tassa āsayaṃ na jānāti. So tattha cārikaṃ caritvā puna jetavanaṃ āgato. So bhikkhu therassa jetavanavihāraṃ āgatakālato paṭṭhāya puna tādisova jāto. Thero tathāgatassa ārocesi ‘‘bhante, mayhaṃ eko saddhivihāriko ekasmiṃ ṭhāne satena kītadāso viya hoti, ekasmiṃ ṭhāne mānatthaddho hutvā ‘idaṃ nāma karohī’ti vutte paṭipakkho hotī’’ti. Satthā ‘‘nāyaṃ, sāriputta, bhikkhu idāneva evaṃsīlo, pubbepesa ekaṃ ṭhānaṃ gato satena kītadāso viya hoti. Ekaṃ ṭhānaṃ gato paṭipakkho paṭisattu hotī’’ti vatvā therena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต เอกสฺมิํ กุฎุมฺพิยกุเล ปฎิสนฺธิํ คณฺหิฯ ตเสฺสโก สหายโก กุฎุมฺพิโก สยํ มหลฺลโก, ภริยา ปนสฺส ตรุณีฯ สา ตํ นิสฺสาย ปุตฺตํ ปฎิลภิฯ โส จิเนฺตสิ ‘‘อยํ อิตฺถี ตรุณตฺตา มมจฺจเยน กญฺจิเทว ปุริสํ คเหตฺวา อิมํ ธนํ วินาเสยฺย, ปุตฺตสฺส เม น ทเทยฺย, ยํนูนาหํ อิมํ ธนํ ปถวิคตํ กเรยฺย’’นฺติ ฆเร นนฺทํ นาม ทาสํ คเหตฺวา อรญฺญํ คนฺตฺวา เอกสฺมิํ ฐาเน ตํ ธนํ นิทหิตฺวา ตสฺส อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ตาต, นนฺท, อิมํ ธนํ มมจฺจเยน มยฺหํ ปุตฺตสฺส อาจิเกฺขยฺยาสิ, มา จ นํ ปริจฺจชสี’’ติ โอวทิตฺวา กาลมกาสิฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto ekasmiṃ kuṭumbiyakule paṭisandhiṃ gaṇhi. Tasseko sahāyako kuṭumbiko sayaṃ mahallako, bhariyā panassa taruṇī. Sā taṃ nissāya puttaṃ paṭilabhi. So cintesi ‘‘ayaṃ itthī taruṇattā mamaccayena kañcideva purisaṃ gahetvā imaṃ dhanaṃ vināseyya, puttassa me na dadeyya, yaṃnūnāhaṃ imaṃ dhanaṃ pathavigataṃ kareyya’’nti ghare nandaṃ nāma dāsaṃ gahetvā araññaṃ gantvā ekasmiṃ ṭhāne taṃ dhanaṃ nidahitvā tassa ācikkhitvā ‘‘tāta, nanda, imaṃ dhanaṃ mamaccayena mayhaṃ puttassa ācikkheyyāsi, mā ca naṃ pariccajasī’’ti ovaditvā kālamakāsi.
ปุโตฺตปิสฺส อนุกฺกเมน วยปฺปโตฺต ชาโตฯ อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ตาต, ตว ปิตา นนฺทํ ทาสํ คเหตฺวา ธนํ นิเธสิ, ตํ อาหราเปตฺวา กุฎุมฺพํ สณฺฐเปหี’’ติฯ โส เอกทิวสํ นนฺทํ อาห – ‘‘มาตุล, อตฺถิ กิญฺจิ มยฺหํ ปิตรา ธนํ นิทหิต’’นฺติฯ ‘‘อาม, สามี’’ติฯ ‘‘กุหิํ ตํ นิทหิต’’นฺติฯ ‘‘อรเญฺญ, สามี’’ติฯ ‘‘เตน หิ คจฺฉามา’’ติ กุทฺทาลปิฎกํ อาทาย นิธิฎฺฐานํ คนฺตฺวา ‘‘กหํ มาตุล, ธน’’นฺติ อาหฯ นโนฺท อารุยฺห ธนมตฺถเก ฐตฺวา ธนํ นิสฺสาย มานํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อเร ทาสิปุตฺต เจฎก, กุโต เต อิมสฺมิํ ฐาเน ธน’’นฺติ กุมารํ อโกฺกสติฯ กุมาโร ตสฺส ผรุสวจนํ สุตฺวา อสุณโนฺต วิย ‘‘เตน หิ คจฺฉามา’’ติ ตํ คเหตฺวา ปฎินิวตฺติตฺวา ปุน เทฺว ตโย ทิวเส อติกฺกมิตฺวา อคมาสิ, นโนฺท ตเถว อโกฺกสติฯ กุมาโร เตน สทฺธิํ ผรุสวจนํ อวตฺวาว นิวตฺติตฺวา ‘‘อยํ ทาโส อิโต ปฎฺฐาย ‘ธนํ อาจิกฺขิสฺสามี’ติ คจฺฉติ, คนฺตฺวา ปน มํ อโกฺกสติ, ตตฺถ การณํ น ชานามิ, อตฺถิ โข ปน เม ปิตุ สหาโย กุฎุมฺพิโก, ตํ ปฎิปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา สพฺพํ ตํ ปวตฺติํ อาโรเจตฺวา ‘‘กิํ นุ โข, ตาต, การณ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ
Puttopissa anukkamena vayappatto jāto. Atha naṃ mātā āha – ‘‘tāta, tava pitā nandaṃ dāsaṃ gahetvā dhanaṃ nidhesi, taṃ āharāpetvā kuṭumbaṃ saṇṭhapehī’’ti. So ekadivasaṃ nandaṃ āha – ‘‘mātula, atthi kiñci mayhaṃ pitarā dhanaṃ nidahita’’nti. ‘‘Āma, sāmī’’ti. ‘‘Kuhiṃ taṃ nidahita’’nti. ‘‘Araññe, sāmī’’ti. ‘‘Tena hi gacchāmā’’ti kuddālapiṭakaṃ ādāya nidhiṭṭhānaṃ gantvā ‘‘kahaṃ mātula, dhana’’nti āha. Nando āruyha dhanamatthake ṭhatvā dhanaṃ nissāya mānaṃ uppādetvā ‘‘are dāsiputta ceṭaka, kuto te imasmiṃ ṭhāne dhana’’nti kumāraṃ akkosati. Kumāro tassa pharusavacanaṃ sutvā asuṇanto viya ‘‘tena hi gacchāmā’’ti taṃ gahetvā paṭinivattitvā puna dve tayo divase atikkamitvā agamāsi, nando tatheva akkosati. Kumāro tena saddhiṃ pharusavacanaṃ avatvāva nivattitvā ‘‘ayaṃ dāso ito paṭṭhāya ‘dhanaṃ ācikkhissāmī’ti gacchati, gantvā pana maṃ akkosati, tattha kāraṇaṃ na jānāmi, atthi kho pana me pitu sahāyo kuṭumbiko, taṃ paṭipucchitvā jānissāmī’’ti bodhisattassa santikaṃ gantvā sabbaṃ taṃ pavattiṃ ārocetvā ‘‘kiṃ nu kho, tāta, kāraṇa’’nti pucchi.
โพธิสโตฺต ‘‘ยสฺมิํ เต, ตาต, ฐาเน ฐิโต นโนฺท อโกฺกสติ, ตเตฺถว เต ปิตุ สนฺตกํ ธนํ, ตสฺมา ยทา เต นโนฺท อโกฺกสติ, ตทา นํ ‘เอหิ เร ทาส, กิํ อโกฺกสสี’ติ อากฑฺฒิตฺวา ตํ ฐานํ ภินฺทิตฺวา กุลสนฺตกํ ธนํ นีหริตฺวา ทาสํ อุกฺขิปาเปตฺวา ธนํ อาหรา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Bodhisatto ‘‘yasmiṃ te, tāta, ṭhāne ṭhito nando akkosati, tattheva te pitu santakaṃ dhanaṃ, tasmā yadā te nando akkosati, tadā naṃ ‘ehi re dāsa, kiṃ akkosasī’ti ākaḍḍhitvā taṃ ṭhānaṃ bhinditvā kulasantakaṃ dhanaṃ nīharitvā dāsaṃ ukkhipāpetvā dhanaṃ āharā’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๓๙.
39.
‘‘มเญฺญ โสวณฺณโย ราสิ, โสวณฺณมาลา จ นนฺทโก;
‘‘Maññe sovaṇṇayo rāsi, sovaṇṇamālā ca nandako;
ยตฺถ ทาโส อามชาโต, ฐิโต ถุลฺลานิ คชฺชตี’’ติฯ
Yattha dāso āmajāto, ṭhito thullāni gajjatī’’ti.
ตตฺถ มเญฺญติ เอวํ อหํ ชานามิฯ โสวณฺณโยติ สุนฺทโร วโณฺณ เอเตสนฺติ โสวณฺณานิฯ กานิ ตานิ? รชตมณิกญฺจนปวาฬาทีนิ รตนานิฯ อิมสฺมิญฺหิ ฐาเน สพฺพาเนตานิ ‘‘สุวณฺณานี’’ติ อธิเปฺปตานิ, เตสํ ราสิ โสวณฺณโย ราสิฯ โสวณฺณมาลา จาติ ตุยฺหํ ปิตุสนฺตกา สุวณฺณมาลา จ เอเตฺถวาติ มญฺญามิฯ นนฺทโก ยตฺถ ทาโสติ ยสฺมิํ ฐาเน ฐิโต นนฺทโก ทาโสฯ อามชาโตติ ‘‘อาม, อหํ โว ทาสี’’ติ เอวํ ทาสพฺยํ อุปคตาย อามทาสิสงฺขาตาย ทาสิยา ปุโตฺตฯ ฐิโต ถุลฺลานิ คชฺชตีติ ‘‘โส ยสฺมิํ ฐาเน ฐิโต ถุลฺลานิ ผรุสวจนานิ วทติ, ตเตฺถว เต กุลสนฺตกํ ธนํ, เอวํ อหํ ตํ มญฺญามี’’ติ โพธิสโตฺต กุมารสฺส ธนคฺคหณูปายํ อาจิกฺขิฯ
Tattha maññeti evaṃ ahaṃ jānāmi. Sovaṇṇayoti sundaro vaṇṇo etesanti sovaṇṇāni. Kāni tāni? Rajatamaṇikañcanapavāḷādīni ratanāni. Imasmiñhi ṭhāne sabbānetāni ‘‘suvaṇṇānī’’ti adhippetāni, tesaṃ rāsi sovaṇṇayo rāsi. Sovaṇṇamālā cāti tuyhaṃ pitusantakā suvaṇṇamālā ca etthevāti maññāmi. Nandako yattha dāsoti yasmiṃ ṭhāne ṭhito nandako dāso. Āmajātoti ‘‘āma, ahaṃ vo dāsī’’ti evaṃ dāsabyaṃ upagatāya āmadāsisaṅkhātāya dāsiyā putto. Ṭhito thullāni gajjatīti ‘‘so yasmiṃ ṭhāne ṭhito thullāni pharusavacanāni vadati, tattheva te kulasantakaṃ dhanaṃ, evaṃ ahaṃ taṃ maññāmī’’ti bodhisatto kumārassa dhanaggahaṇūpāyaṃ ācikkhi.
กุมาโร โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา ฆรํ คนฺตฺวา นนฺทํ อาทาย นิธิฎฺฐานํ คนฺตฺวา ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชิตฺวา ตํ ธนํ อาหริตฺวา กุฎุมฺพํ สณฺฐเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ฐิโต ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา ชีวิตปริโยสาเน ยถากมฺมํ คโตฯ
Kumāro bodhisattaṃ vanditvā gharaṃ gantvā nandaṃ ādāya nidhiṭṭhānaṃ gantvā yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjitvā taṃ dhanaṃ āharitvā kuṭumbaṃ saṇṭhapetvā bodhisattassa ovāde ṭhito dānādīni puññāni katvā jīvitapariyosāne yathākammaṃ gato.
สตฺถา ‘‘ปุเพฺพเปส เอวํสีโลเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา นโนฺท สาริปุตฺตสฺส สทฺธิวิหาริโก อโหสิ, ปณฺฑิตกุฎุมฺพิโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā ‘‘pubbepesa evaṃsīloyevā’’ti vatvā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā nando sāriputtassa saddhivihāriko ahosi, paṇḍitakuṭumbiko pana ahameva ahosi’’nti.
นนฺทชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Nandajātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๙. นนฺทชาตกํ • 39. Nandajātakaṃ