| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๐. นนฺทกลิจฺฉวิสุตฺตํ
10. Nandakalicchavisuttaṃ
๑๐๒๖. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อถ โข นนฺทโก ลิจฺฉวิมหามโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นนฺทกํ ลิจฺฉวิมหามตฺตํ ภควา เอตทโวจ –
1026. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Atha kho nandako licchavimahāmatto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho nandakaṃ licchavimahāmattaṃ bhagavā etadavoca –
‘‘จตูหิ โข, นนฺทก, ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโณฯ กตเมหิ จตูหิ? อิธ, นนฺทก, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาติฯ ธเมฺม…เป.… สเงฺฆ…เป.… อริยกเนฺตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขเณฺฑหิ…เป.… สมาธิสํวตฺตนิเกหิฯ อิเมหิ โข, นนฺทก, จตูหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโณฯ
‘‘Catūhi kho, nandaka, dhammehi samannāgato ariyasāvako sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyaṇo. Katamehi catūhi? Idha, nandaka, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavāti. Dhamme…pe… saṅghe…pe… ariyakantehi sīlehi samannāgato hoti akhaṇḍehi…pe… samādhisaṃvattanikehi. Imehi kho, nandaka, catūhi dhammehi samannāgato ariyasāvako sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyaṇo.
‘‘อิเมหิ จ ปน, นนฺทก, จตูหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อายุนา สํยุโตฺต โหติ ทิเพฺพนปิ มานุเสนปิ; วเณฺณน สํยุโตฺต โหติ ทิเพฺพนปิ มานุเสนปิ; สุเขน สํยุโตฺต โหติ ทิเพฺพนปิ มานุเสนปิ; ยเสน สํยุโตฺต โหติ ทิเพฺพนปิ มานุเสนปิ; อาธิปเตเยฺยน สํยุโตฺต โหติ ทิเพฺพนปิ มานุเสนปิฯ ตํ โข ปนาหํ, นนฺทก , นาญฺญสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิฯ อปิ จ ยเทว มยา สามํ ญาตํ สามํ ทิฎฺฐํ สามํ วิทิตํ, ตเทวาหํ วทามี’’ติฯ
‘‘Imehi ca pana, nandaka, catūhi dhammehi samannāgato ariyasāvako āyunā saṃyutto hoti dibbenapi mānusenapi; vaṇṇena saṃyutto hoti dibbenapi mānusenapi; sukhena saṃyutto hoti dibbenapi mānusenapi; yasena saṃyutto hoti dibbenapi mānusenapi; ādhipateyyena saṃyutto hoti dibbenapi mānusenapi. Taṃ kho panāhaṃ, nandaka , nāññassa samaṇassa vā brāhmaṇassa vā sutvā vadāmi. Api ca yadeva mayā sāmaṃ ñātaṃ sāmaṃ diṭṭhaṃ sāmaṃ viditaṃ, tadevāhaṃ vadāmī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ปุริโส นนฺทกํ ลิจฺฉวิมหามตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นหานกาโล, ภเนฺต’’ติฯ ‘‘อลํ ทานิ, ภเณ, เอเตน พาหิเรน นหาเนนฯ อลมิทํ อชฺฌตฺตํ นหานํ ภวิสฺสติ, ยทิทํ – ภควติ ปสาโท’’ติฯ ทสมํฯ
Evaṃ vutte aññataro puriso nandakaṃ licchavimahāmattaṃ etadavoca – ‘‘nahānakālo, bhante’’ti. ‘‘Alaṃ dāni, bhaṇe, etena bāhirena nahānena. Alamidaṃ ajjhattaṃ nahānaṃ bhavissati, yadidaṃ – bhagavati pasādo’’ti. Dasamaṃ.
สรณานิวโคฺค ตติโยฯ
Saraṇānivaggo tatiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
มหานาเมน เทฺว วุตฺตา, โคธา จ สรณา ทุเว;
Mahānāmena dve vuttā, godhā ca saraṇā duve;
ทุเว อนาถปิณฺฑิกา, ทุเว เวรภเยน จ;
Duve anāthapiṇḍikā, duve verabhayena ca;
ลิจฺฉวี ทสโม วุโตฺต, วโคฺค เตน ปวุจฺจตีติฯ
Licchavī dasamo vutto, vaggo tena pavuccatīti.
