Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๔. นนฺทกเตฺถรคาถาวณฺณนา

    4. Nandakattheragāthāvaṇṇanā

    ธิรตฺถูติอาทิกา อายสฺมโต นนฺทกเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล หํสวตีนคเร มหาวิภโว เสฎฺฐิ หุตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณโนฺต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา ตํ ฐานนฺตรํ ปเตฺถตฺวา สตสหสฺสคฺฆนิเกน วเตฺถน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ปณิธานมกาสิ, สตฺถุ โพธิรุเกฺข ปทีปปูชญฺจ ปวเตฺตติฯ โส ตโต ปฎฺฐาย เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต กกุสนฺธสฺส ภควโต กาเล กรวิกสกุโณ หุตฺวา มธุรกูชิตํ กูชโนฺต สตฺถารํ ปทกฺขิณํ อกาสิฯ อปรภาเค มยูโร หุตฺวา อญฺญตรสฺส ปเจฺจกพุทฺธสฺส วสนคุหาย ทฺวาเร ปสนฺนมานโส ทิวเส ทิวเส ติกฺขตฺตุํ มธุรวสฺสิตํ วสฺสิ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ปุญฺญานิ กตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล สาวตฺถิยํ กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา นนฺทโกติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๖.๒๒-๒๖) –

    Dhiratthūtiādikā āyasmato nandakattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi kira padumuttarassa bhagavato kāle haṃsavatīnagare mahāvibhavo seṭṭhi hutvā satthu santike dhammaṃ suṇanto satthāraṃ ekaṃ bhikkhuṃ bhikkhunovādakānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapentaṃ disvā taṃ ṭhānantaraṃ patthetvā satasahassagghanikena vatthena bhagavantaṃ pūjetvā paṇidhānamakāsi, satthu bodhirukkhe padīpapūjañca pavatteti. So tato paṭṭhāya devamanussesu saṃsaranto kakusandhassa bhagavato kāle karavikasakuṇo hutvā madhurakūjitaṃ kūjanto satthāraṃ padakkhiṇaṃ akāsi. Aparabhāge mayūro hutvā aññatarassa paccekabuddhassa vasanaguhāya dvāre pasannamānaso divase divase tikkhattuṃ madhuravassitaṃ vassi, evaṃ tattha tattha puññāni katvā amhākaṃ bhagavato kāle sāvatthiyaṃ kulagehe nibbattitvā nandakoti laddhanāmo vayappatto satthu santike dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.46.22-26) –

    ‘‘ปทุมุตฺตรพุทฺธสฺส โพธิยา ปาทปุตฺตเม;

    ‘‘Padumuttarabuddhassa bodhiyā pādaputtame;

    ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, ตโย อุเกฺก อธารยิํฯ

    Pasannacitto sumano, tayo ukke adhārayiṃ.

    ‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โสหํ อุกฺกมธารยิํ;

    ‘‘Satasahassito kappe, sohaṃ ukkamadhārayiṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, อุกฺกทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, ukkadānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหา ปน หุตฺวา วิมุตฺติสุเขน วีตินาเมโนฺต สตฺถารา ภิกฺขุนีนํ โอวาเท อาณโตฺต เอกสฺมิํ อุโปสถทิวเส ปญฺจ ภิกฺขุนิสตานิ เอโกวาเทเนว อรหตฺตํ ปาเปสิฯ เตน นํ ภควา ภิกฺขุโนวาทกานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิฯ อเถกทิวสํ เถรํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ อญฺญตรา ปุราณทุติยิกา อิตฺถี กิเลสวเสน โอโลเกตฺวา หสิฯ เถโร ตสฺสา ตํ กิริยํ ทิสฺวา สรีรสฺส ปฎิกฺกูลวิภาวนมุเขน ธมฺมํ กเถโนฺต –

    Arahā pana hutvā vimuttisukhena vītināmento satthārā bhikkhunīnaṃ ovāde āṇatto ekasmiṃ uposathadivase pañca bhikkhunisatāni ekovādeneva arahattaṃ pāpesi. Tena naṃ bhagavā bhikkhunovādakānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapesi. Athekadivasaṃ theraṃ sāvatthiyaṃ piṇḍāya carantaṃ aññatarā purāṇadutiyikā itthī kilesavasena oloketvā hasi. Thero tassā taṃ kiriyaṃ disvā sarīrassa paṭikkūlavibhāvanamukhena dhammaṃ kathento –

    ๒๗๙.

    279.

    ‘‘ธิรตฺถุ ปูเร ทุคฺคเนฺธ, มารปเกฺข อวสฺสุเต;

    ‘‘Dhiratthu pūre duggandhe, mārapakkhe avassute;

    นวโสตานิ เต กาเย, ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทาฯ

    Navasotāni te kāye, yāni sandanti sabbadā.

    ๒๘๐.

    280.

    ‘‘มา ปุราณํ อมญฺญิโตฺถ, มาสาเทสิ ตถาคเต;

    ‘‘Mā purāṇaṃ amaññittho, māsādesi tathāgate;

    สเคฺคปิ เต น รชฺชนฺติ, กิมงฺคํ ปน มานุเสฯ

    Saggepi te na rajjanti, kimaṅgaṃ pana mānuse.

    ๒๘๑.

    281.

    ‘‘เย จ โข พาลา ทุเมฺมธา, ทุมฺมนฺตี โมหปารุตา;

    ‘‘Ye ca kho bālā dummedhā, dummantī mohapārutā;

    ตาทิสา ตตฺถ รชฺชนฺติ, มารขิตฺตมฺหิ พนฺธเนฯ

    Tādisā tattha rajjanti, mārakhittamhi bandhane.

    ๒๘๒.

    282.

    ‘‘เยสํ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;

    ‘‘Yesaṃ rāgo ca doso ca, avijjā ca virājitā;

    ตาที ตตฺถ น รชฺชนฺติ, ฉินฺนสุตฺตา อพนฺธนา’’ติฯ – คาถา อภาสิ;

    Tādī tattha na rajjanti, chinnasuttā abandhanā’’ti. – gāthā abhāsi;

    ตตฺถ ธีติ ชิคุจฺฉนเตฺถ นิปาโต, รตฺถูติ ร-กาโร ปทสนฺธิกโร, ธี อตฺถุ ตํ ชิคุจฺฉามิ ตว ธิกฺกาโร โหตูติ อโตฺถฯ ปูเรติอาทีนิ ตสฺสา ธิกฺกาตพฺพภาวทีปนานิ อามนฺตนวจนานิฯ ปูเรติ อติวิย เชคุเจฺฉหิ นานากุณเปหิ นานาวิธอสุจีหิ สมฺปุเณฺณฯ ทุคฺคเนฺธติ กุณปปูริตตฺตา เอว สภาวทุคฺคเนฺธฯ มารปเกฺขติ ยสฺมา วิสภาควตฺถุ อนฺธปุถุชฺชนานํ อโยนิโสมนสิการนิมิตฺตตาย กิเลสมารํ วเฑฺฒติ, เทวปุตฺตมารสฺส จ โอตารํ ปวิฎฺฐํ เทติฯ ตสฺมา มารสฺส ปโกฺข โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มารปเกฺข’’ติฯ อวสฺสุเตติ สพฺพกาลํ กิเลสาวสฺสวเนน ตหิํ ตหิํ อสุจินิสฺสนฺทเนน จ อวสฺสุเตฯ อิทานิสฺสา นวโสตานิ เต กาเย, ยานิ สนฺทนฺติ สพฺพทาติ ‘‘อกฺขิมฺหา อกฺขิคูถโก’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๙๙) วุตฺตํ อสุจิโน อวสฺสวนฎฺฐานํ ทเสฺสติฯ

    Tattha dhīti jigucchanatthe nipāto, ratthūti ra-kāro padasandhikaro, dhī atthu taṃ jigucchāmi tava dhikkāro hotūti attho. Pūretiādīni tassā dhikkātabbabhāvadīpanāni āmantanavacanāni. Pūreti ativiya jegucchehi nānākuṇapehi nānāvidhaasucīhi sampuṇṇe. Duggandheti kuṇapapūritattā eva sabhāvaduggandhe. Mārapakkheti yasmā visabhāgavatthu andhaputhujjanānaṃ ayonisomanasikāranimittatāya kilesamāraṃ vaḍḍheti, devaputtamārassa ca otāraṃ paviṭṭhaṃ deti. Tasmā mārassa pakkho hoti. Tena vuttaṃ ‘‘mārapakkhe’’ti. Avassuteti sabbakālaṃ kilesāvassavanena tahiṃ tahiṃ asucinissandanena ca avassute. Idānissā navasotāni te kāye, yāni sandanti sabbadāti ‘‘akkhimhā akkhigūthako’’tiādinā (su. ni. 199) vuttaṃ asucino avassavanaṭṭhānaṃ dasseti.

    เอวํ ปน นวฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ อสุจิภริตํ กายํ ยถาภูตํ ชานนฺตี มา ปุราณํ อมญฺญิโตฺถติ ปุราณํ อชานนกาเล ปวตฺตํ หสิตลปิตํ กีฬิตํ มา มญฺญิ, ‘‘อิทานิปิ เอวํ ปฎิปชฺชิสฺสตี’’ติ มา จิเนฺตหิฯ มาสาเทสิ ตถาคเตติ ยถา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ปุริมกา พุทฺธสาวกา อาคตา, ยถา วา เต สมฺมาปฎิปตฺติยา คตา ปฎิปนฺนา, ยถา จ รูปารูปธมฺมานํ ตถลกฺขณํ ตถธเมฺม จ อริยสจฺจานิ อาคตา อธิคตา อวพุทฺธา, ตถา อิเมปีติ เอวํ ตถา อาคมนาทิอเตฺถน ตถาคเต อริยสาวเก ปกติสเตฺต วิย อวญฺญาย กิเลสวเสน จ อุปสงฺกมมานา มาสาเทสิฯ อนาสาเทตพฺพตาย การณมาหฯ สเคฺคปิ เต น รชฺชนฺติ, กิมงฺคํ ปน มานุเสติ สพฺพญฺญุพุเทฺธนาปิ อกฺขาเนน ปริโยสาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยสุเข สเคฺคปิ เต สาวกพุทฺธา น รชฺชนฺติ, สงฺขาเรสุ อาทีนวสฺส สุปริทิฎฺฐตฺตา ราคํ น ชเนนฺติ, กิมงฺคํ ปน มีฬฺหราสิสทิเส มานุเส กามคุเณ, ตตฺถ น รชฺชนฺตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ

    Evaṃ pana navachiddaṃ dhuvassavaṃ asucibharitaṃ kāyaṃ yathābhūtaṃ jānantī mā purāṇaṃ amaññitthoti purāṇaṃ ajānanakāle pavattaṃ hasitalapitaṃ kīḷitaṃ mā maññi, ‘‘idānipi evaṃ paṭipajjissatī’’ti mā cintehi. Māsādesi tathāgateti yathā upanissayasampattiyā purimakā buddhasāvakā āgatā, yathā vā te sammāpaṭipattiyā gatā paṭipannā, yathā ca rūpārūpadhammānaṃ tathalakkhaṇaṃ tathadhamme ca ariyasaccāni āgatā adhigatā avabuddhā, tathā imepīti evaṃ tathā āgamanādiatthena tathāgate ariyasāvake pakatisatte viya avaññāya kilesavasena ca upasaṅkamamānā māsādesi. Anāsādetabbatāya kāraṇamāha. Saggepi te na rajjanti, kimaṅgaṃ pana mānuseti sabbaññubuddhenāpi akkhānena pariyosāpetuṃ asakkuṇeyyasukhe saggepi te sāvakabuddhā na rajjanti, saṅkhāresu ādīnavassa suparidiṭṭhattā rāgaṃ na janenti, kimaṅgaṃ pana mīḷharāsisadise mānuse kāmaguṇe, tattha na rajjantīti vattabbameva natthi.

    เย จ โขติ เย ปน พาลฺยปฺปโยคโต พาลา, ธโมฺมชปญฺญาย อภาวโต ทุเมฺมธา, อสุเภ สุภานุปสฺสเนน ทุจินฺติตจินฺติตาย ทุมฺมนฺตี, โมเหน อญฺญาเณน สพฺพโส ปฎิจฺฉาทิตจิตฺตตาย โมหปารุตา ตาทิสา ตถารูปา อนฺธปุถุชฺชนา, ตตฺถ ตสฺมิํ อิตฺถิสญฺญิเต, มารขิตฺตมฺหิ พนฺธเน มาเรน โอฑฺฑิเต มารปาเส, รชฺชนฺติ รตฺตา คิทฺธา คธิตา มุจฺฉิตา อโชฺฌปนฺนา ติฎฺฐนฺติฯ

    Ye ca khoti ye pana bālyappayogato bālā, dhammojapaññāya abhāvato dummedhā, asubhe subhānupassanena ducintitacintitāya dummantī, mohena aññāṇena sabbaso paṭicchāditacittatāya mohapārutātādisā tathārūpā andhaputhujjanā, tattha tasmiṃ itthisaññite, mārakhittamhi bandhane mārena oḍḍite mārapāse, rajjanti rattā giddhā gadhitā mucchitā ajjhopannā tiṭṭhanti.

    วิราชิตาติ เยสํ ปน ขีณาสวานํ เตลญฺชนราโค วิย ทุโมฺมจนียสภาโว ราโค สปโตฺต วิย ลโทฺธกาโส ทุสฺสนสภาโว โทโส อญฺญาณสภาวา อวิชฺชา จ อริยมคฺควิราเคน สพฺพโส วิราชิตา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา, ตาทิสา อคฺคมคฺคสเตฺถน ฉินฺนภวเนตฺติสุตฺตา ตโต เอว กตฺถจิปิ พนฺธนาภาวโต อพนฺธนา ตตฺถ ตสฺมิํ ยถาวุเตฺต มารปาเส น รชฺชนฺติฯ เอวํ เถโร ตสฺสา อิตฺถิยา ธมฺมํ กเถตฺวา คโตฯ

    Virājitāti yesaṃ pana khīṇāsavānaṃ telañjanarāgo viya dummocanīyasabhāvo rāgo sapatto viya laddhokāso dussanasabhāvo doso aññāṇasabhāvā avijjā ca ariyamaggavirāgena sabbaso virājitā pahīnā samucchinnā, tādisā aggamaggasatthena chinnabhavanettisuttā tato eva katthacipi bandhanābhāvato abandhanā tattha tasmiṃ yathāvutte mārapāse na rajjanti. Evaṃ thero tassā itthiyā dhammaṃ kathetvā gato.

    นนฺทกเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nandakattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๔. นนฺทกเตฺถรคาถา • 4. Nandakattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact