Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. นนฺทสุตฺตํ
9. Nandasuttaṃ
๙. ‘‘‘กุลปุโตฺต’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยฯ ‘พลวา’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยฯ ‘ปาสาทิโก’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยฯ ‘ติพฺพราโค’ติ, ภิกฺขเว, นนฺทํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยฯ กิมญฺญตฺร, ภิกฺขเว, นโนฺท อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตญฺญู, ชาคริยํ อนุยุโตฺต, สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโต, เยหิ 1 นโนฺท สโกฺกติ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ! ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โหติฯ สเจ , ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปุรตฺถิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นโนฺท ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลเกติ – ‘เอวํ เม ปุรตฺถิมํ ทิสํ อาโลกยโต นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติฯ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติฯ
9. ‘‘‘Kulaputto’ti, bhikkhave, nandaṃ sammā vadamāno vadeyya. ‘Balavā’ti, bhikkhave, nandaṃ sammā vadamāno vadeyya. ‘Pāsādiko’ti, bhikkhave, nandaṃ sammā vadamāno vadeyya. ‘Tibbarāgo’ti, bhikkhave, nandaṃ sammā vadamāno vadeyya. Kimaññatra, bhikkhave, nando indriyesu guttadvāro, bhojane mattaññū, jāgariyaṃ anuyutto, satisampajaññena samannāgato, yehi 2 nando sakkoti paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carituṃ! Tatridaṃ, bhikkhave, nandassa indriyesu guttadvāratāya hoti. Sace , bhikkhave, nandassa puratthimā disā āloketabbā hoti, sabbaṃ cetasā samannāharitvā nando puratthimaṃ disaṃ āloketi – ‘evaṃ me puratthimaṃ disaṃ ālokayato nābhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssavissantī’ti. Itiha tattha sampajāno hoti.
‘‘สเจ , ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ปจฺฉิมา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ…เป.… อุตฺตรา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ… ทกฺขิณา ทิสา อาโลเกตพฺพา โหติ… อุทฺธํ อุโลฺลเกตพฺพา โหติ… อโธ โอโลเกตพฺพา โหติ… อนุทิสา อนุวิโลเกตพฺพา โหติ, สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา นโนฺท อนุทิสํ อนุวิโลเกติ – ‘เอวํ เม อนุทิสํ อนุวิโลกยโต นาภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสวิสฺสนฺตี’ติฯ อิติห ตตฺถ สมฺปชาโน โหติฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โหติฯ
‘‘Sace , bhikkhave, nandassa pacchimā disā āloketabbā hoti…pe… uttarā disā āloketabbā hoti… dakkhiṇā disā āloketabbā hoti… uddhaṃ ulloketabbā hoti… adho oloketabbā hoti… anudisā anuviloketabbā hoti, sabbaṃ cetasā samannāharitvā nando anudisaṃ anuviloketi – ‘evaṃ me anudisaṃ anuvilokayato nābhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssavissantī’ti. Itiha tattha sampajāno hoti. Idaṃ kho, bhikkhave, nandassa indriyesu guttadvāratāya hoti.
‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส โภชเน มตฺตญฺญุตาย โหติฯ อิธ, ภิกฺขเว, นโนฺท ปฎิสงฺขา โยนิโส อาหารํ อาหาเรติ – ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย วิหิํสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฎิหงฺขามิ, นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส โภชเน มตฺตญฺญุตาย โหติฯ
‘‘Tatridaṃ, bhikkhave, nandassa bhojane mattaññutāya hoti. Idha, bhikkhave, nando paṭisaṅkhā yoniso āhāraṃ āhāreti – ‘neva davāya na madāya na maṇḍanāya na vibhūsanāya, yāvadeva imassa kāyassa ṭhitiyā yāpanāya vihiṃsūparatiyā brahmacariyānuggahāya iti purāṇañca vedanaṃ paṭihaṅkhāmi, navañca vedanaṃ na uppādessāmi, yātrā ca me bhavissati anavajjatā ca phāsuvihāro cā’ti. Idaṃ kho, bhikkhave, nandassa bhojane mattaññutāya hoti.
‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ชาคริยานุโยคสฺมิํ โหติฯ อิธ , ภิกฺขเว, นโนฺท ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธเมฺมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ; รตฺติยา ปฐมํ ยามํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธเมฺมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ ; รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ทกฺขิเณน ปเสฺสน สีหเสยฺยํ กเปฺปติ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฎฺฐานสญฺญํ มนสิ กริตฺวา; รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปจฺจุฎฺฐาย จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธเมฺมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส ชาคริยานุโยคสฺมิํ โหติฯ
‘‘Tatridaṃ, bhikkhave, nandassa jāgariyānuyogasmiṃ hoti. Idha , bhikkhave, nando divasaṃ caṅkamena nisajjāya āvaraṇīyehi dhammehi cittaṃ parisodheti; rattiyā paṭhamaṃ yāmaṃ caṅkamena nisajjāya āvaraṇīyehi dhammehi cittaṃ parisodheti ; rattiyā majjhimaṃ yāmaṃ dakkhiṇena passena sīhaseyyaṃ kappeti pāde pādaṃ accādhāya sato sampajāno uṭṭhānasaññaṃ manasi karitvā; rattiyā pacchimaṃ yāmaṃ paccuṭṭhāya caṅkamena nisajjāya āvaraṇīyehi dhammehi cittaṃ parisodheti. Idaṃ kho, bhikkhave, nandassa jāgariyānuyogasmiṃ hoti.
‘‘ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส สติสมฺปชญฺญสฺมิํ โหติฯ อิธ, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส วิทิตา เวทนา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฎฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติ; วิทิตา สญฺญา…เป.… วิทิตา วิตกฺกา…เป.… อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, นนฺทสฺส สติสมฺปชญฺญสฺมิํ โหติฯ
‘‘Tatridaṃ, bhikkhave, nandassa satisampajaññasmiṃ hoti. Idha, bhikkhave, nandassa viditā vedanā uppajjanti, viditā upaṭṭhahanti, viditā abbhatthaṃ gacchanti; viditā saññā…pe… viditā vitakkā…pe… abbhatthaṃ gacchanti. Idaṃ kho, bhikkhave, nandassa satisampajaññasmiṃ hoti.
‘‘กิมญฺญตฺร, ภิกฺขเว, นโนฺท อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร, โภชเน มตฺตญฺญู, ชาคริยํ อนุยุโตฺต , สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโต, เยหิ นโนฺท สโกฺกติ ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จริตุ’’นฺติ! นวมํฯ
‘‘Kimaññatra, bhikkhave, nando indriyesu guttadvāro, bhojane mattaññū, jāgariyaṃ anuyutto , satisampajaññena samannāgato, yehi nando sakkoti paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ caritu’’nti! Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. นนฺทสุตฺตวณฺณนา • 9. Nandasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. นนฺทสุตฺตวณฺณนา • 9. Nandasuttavaṇṇanā