Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๘๕] ๑๐. นนฺทิยมิคราชชาตกวณฺณนา

    [385] 10. Nandiyamigarājajātakavaṇṇanā

    สเจ พฺราหฺมณ คเจฺฉสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ คิหี โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘กิํ เต โหนฺตี’’ติ วุเตฺต ‘‘มาตาปิตโร เม, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘สาธุ สาธุ ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตานํ วํสํ ปาเลสิ, โปราณกปณฺฑิตา หิ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวาปิ มาตาปิตูนํ ชีวิตํ อทํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Sacebrāhmaṇa gacchesīti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ mātuposakabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi satthā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu gihī posesī’’ti pucchitvā ‘‘saccaṃ, bhante’’ti vutte ‘‘kiṃ te hontī’’ti vutte ‘‘mātāpitaro me, bhante’’ti vutte ‘‘sādhu sādhu bhikkhu porāṇakapaṇḍitānaṃ vaṃsaṃ pālesi, porāṇakapaṇḍitā hi tiracchānayoniyaṃ nibbattitvāpi mātāpitūnaṃ jīvitaṃ adaṃsū’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต โกสลรเฎฺฐ สาเกเต โกสลราเช รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต มิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต นนฺทิยมิโค นาม หุตฺวา สีลาจารสมฺปโนฺน มาตาปิตโร โปเสสิฯ ตทา โกสลราชา มิควิตฺตโกว อโหสิฯ โส ปน มนุสฺสานํ กสิกมฺมาทีนิ กาตุํ อทตฺวา มหาปริวาโร เทวสิกํ มิควํ คจฺฉติฯ มนุสฺสา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อยฺยา, อยํ ราชา อมฺหากํ กมฺมเจฺฉทํ กโรติ, ฆราวาโสปิ นสฺสติ, ยํนูน มยํ อชฺชุนวนํ อุยฺยานํ ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา โปรกฺขณิํ ขณิตฺวา ติณานิ อาโรเปตฺวา ทณฺฑมุคฺคราทิหตฺถา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา คุเมฺพ ปหรนฺตา มิเค นีหริตฺวา ปริวาเรตฺวา โครูปานิ วิย วชํ อุยฺยานํ ปเวเสตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รโญฺญ อาโรเจตฺวา อตฺตโน กมฺมํ กเรยฺยามา’’ติ มนฺตยิํสุฯ ‘‘อเตฺถโส อุปาโย’’ติ สเพฺพ เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา อุยฺยานํ สเชฺชตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา โยชนมตฺตฎฺฐานํ ปริกฺขิปิํสุฯ

    Atīte kosalaraṭṭhe sākete kosalarāje rajjaṃ kārente bodhisatto migayoniyaṃ nibbattitvā vayappatto nandiyamigo nāma hutvā sīlācārasampanno mātāpitaro posesi. Tadā kosalarājā migavittakova ahosi. So pana manussānaṃ kasikammādīni kātuṃ adatvā mahāparivāro devasikaṃ migavaṃ gacchati. Manussā sannipatitvā ‘‘ayyā, ayaṃ rājā amhākaṃ kammacchedaṃ karoti, gharāvāsopi nassati, yaṃnūna mayaṃ ajjunavanaṃ uyyānaṃ parikkhipitvā dvāraṃ yojetvā porakkhaṇiṃ khaṇitvā tiṇāni āropetvā daṇḍamuggarādihatthā araññaṃ pavisitvā gumbe paharantā mige nīharitvā parivāretvā gorūpāni viya vajaṃ uyyānaṃ pavesetvā dvāraṃ pidahitvā rañño ārocetvā attano kammaṃ kareyyāmā’’ti mantayiṃsu. ‘‘Attheso upāyo’’ti sabbe ekacchandā hutvā uyyānaṃ sajjetvā araññaṃ pavisitvā yojanamattaṭṭhānaṃ parikkhipiṃsu.

    ตสฺมิํ ขเณ นนฺทิโย เอกสฺมิํ ขุทฺทกคุเมฺพ มาตาปิตโร คเหตฺวา ภูมิยํ นิปโนฺน โหติฯ มนุสฺสา นานาผลกาวุธหตฺถา พาหุนา พาหุํ ปีเฬตฺวา ตํ คุมฺพํ ปริกฺขิปิํสุฯ อเถกเจฺจ มิเค โอโลเกนฺตา ตํ คุมฺพํ ปวิสิํสุฯ นนฺทิโย เต ทิสฺวา ‘‘อชฺช มยา ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา มาตาปิตูนํ ชีวิตํ ทาตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา อุฎฺฐาย มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ‘‘อมฺมตาต, อิเม มนุสฺสา อิมํ คุมฺพํ ปวิสิตฺวา อเมฺห ตโยปิ ปสฺสิสฺสนฺติ, ตุเมฺห เอเกน อุปาเยน ชีเวยฺยาถ, ชีวิตํ โว เสโยฺย, อหํ ตุมฺหากํ ชีวิตทานํ ทตฺวา มนุเสฺสหิ คุมฺพปริยเนฺต ฐตฺวา คุเมฺพ ปหฎมเตฺตเยว นิกฺขมิสฺสามิ, อถ เต ‘อิมสฺมิํ ขุทฺทกคุเมฺพ เอโกเยว มิโค ภวิสฺสตี’ติ มญฺญมานา คุมฺพํ น ปวิสิสฺสนฺติ, ตุเมฺห อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ มาตาปิตโร ขมาเปตฺวา คมนสโชฺช อฎฺฐาสิฯ โส มนุเสฺสหิ คุมฺพปริยเนฺต ฐตฺวา อุนฺนาเทตฺวา คุเมฺพ ปหฎมเตฺตเยว ตโต นิกฺขมิฯ เต ‘‘เอโกเวตฺถ มิโค ภวิสฺสตี’’ติ คุมฺพํ น ปวิสิํสุฯ อถ นนฺทิโย คนฺตฺวา มิคานํ อนฺตรํ ปาวิสิฯ มนุสฺสา ปริวาเรตฺวา สเพฺพ มิเค อุยฺยานํ ปเวเสตฺวา ทฺวารํ ถเกตฺวา รโญฺญ อาโรเจตฺวา สกสกฎฺฐานานิ อคมํสุฯ

    Tasmiṃ khaṇe nandiyo ekasmiṃ khuddakagumbe mātāpitaro gahetvā bhūmiyaṃ nipanno hoti. Manussā nānāphalakāvudhahatthā bāhunā bāhuṃ pīḷetvā taṃ gumbaṃ parikkhipiṃsu. Athekacce mige olokentā taṃ gumbaṃ pavisiṃsu. Nandiyo te disvā ‘‘ajja mayā jīvitaṃ pariccajitvā mātāpitūnaṃ jīvitaṃ dātuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā uṭṭhāya mātāpitaro vanditvā ‘‘ammatāta, ime manussā imaṃ gumbaṃ pavisitvā amhe tayopi passissanti, tumhe ekena upāyena jīveyyātha, jīvitaṃ vo seyyo, ahaṃ tumhākaṃ jīvitadānaṃ datvā manussehi gumbapariyante ṭhatvā gumbe pahaṭamatteyeva nikkhamissāmi, atha te ‘imasmiṃ khuddakagumbe ekoyeva migo bhavissatī’ti maññamānā gumbaṃ na pavisissanti, tumhe appamattā hothā’’ti mātāpitaro khamāpetvā gamanasajjo aṭṭhāsi. So manussehi gumbapariyante ṭhatvā unnādetvā gumbe pahaṭamatteyeva tato nikkhami. Te ‘‘ekovettha migo bhavissatī’’ti gumbaṃ na pavisiṃsu. Atha nandiyo gantvā migānaṃ antaraṃ pāvisi. Manussā parivāretvā sabbe mige uyyānaṃ pavesetvā dvāraṃ thaketvā rañño ārocetvā sakasakaṭṭhānāni agamaṃsu.

    ตโต ปฎฺฐาย ราชา สยเมว คนฺตฺวา เอกํ มิคํ วิชฺฌิตฺวา ตํ คเหตฺวา เอหีติ เอกํ เปเสตฺวา อาหราเปสิฯ มิคา วารํ ฐปยิํสุ, ปตฺตวาโร มิโค เอกมเนฺต ติฎฺฐติ, ตํ วิชฺฌิตฺวา คณฺหนฺติฯ นนฺทิโย โปกฺขรณิยํ ปานียํ ปิวติ, ติณานิ ขาทติ, วาโร ปนสฺส น ตาว ปาปุณาติฯ อถ พหูนํ ทิวสานํ อจฺจเยน ตสฺส มาตาปิตโร ตํ ทฎฺฐุกามา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปุโตฺต นนฺทิยมิคราชา นาคพโล ถามสมฺปโนฺน, สเจ ชีวติ, อวสฺสํ วติํ ลงฺฆิตฺวา อมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคมิสฺสติ, สาสนมสฺส เปเสสฺสามา’’ติ จิเนฺตตฺวา มคฺคสมีเป ฐตฺวา เอกํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา ‘‘อยฺย, กหํ คจฺฉสี’’ติ มานุสิกาย วาจาย ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สาเกต’’นฺติ วุเตฺต ปุตฺตสฺส สาสนํ ปหิณนฺตา ปฐมํ คาถมาหํสุ –

    Tato paṭṭhāya rājā sayameva gantvā ekaṃ migaṃ vijjhitvā taṃ gahetvā ehīti ekaṃ pesetvā āharāpesi. Migā vāraṃ ṭhapayiṃsu, pattavāro migo ekamante tiṭṭhati, taṃ vijjhitvā gaṇhanti. Nandiyo pokkharaṇiyaṃ pānīyaṃ pivati, tiṇāni khādati, vāro panassa na tāva pāpuṇāti. Atha bahūnaṃ divasānaṃ accayena tassa mātāpitaro taṃ daṭṭhukāmā hutvā ‘‘amhākaṃ putto nandiyamigarājā nāgabalo thāmasampanno, sace jīvati, avassaṃ vatiṃ laṅghitvā amhākaṃ dassanatthāya āgamissati, sāsanamassa pesessāmā’’ti cintetvā maggasamīpe ṭhatvā ekaṃ brāhmaṇaṃ disvā ‘‘ayya, kahaṃ gacchasī’’ti mānusikāya vācāya pucchitvā ‘‘sāketa’’nti vutte puttassa sāsanaṃ pahiṇantā paṭhamaṃ gāthamāhaṃsu –

    ๗๑.

    71.

    ‘‘สเจ พฺราหฺมณ คเจฺฉสิ, สาเกเต อชฺชุนํ วนํ;

    ‘‘Sace brāhmaṇa gacchesi, sākete ajjunaṃ vanaṃ;

    วชฺชาสิ นนฺทิยํ นาม, ปุตฺตํ อสฺมากโมรสํ;

    Vajjāsi nandiyaṃ nāma, puttaṃ asmākamorasaṃ;

    มาตา ปิตา จ เต วุทฺธา, เต ตํ อิจฺฉนฺติ ปสฺสิตุ’’นฺติฯ

    Mātā pitā ca te vuddhā, te taṃ icchanti passitu’’nti.

    ตสฺสโตฺถ – สเจ, ตฺวํ พฺราหฺมณ, สาเกตํ คจฺฉสิ, สาเกเต อชฺชุนวนํ นาม อุยฺยานํ อตฺถิ, ตตฺถ อมฺหากํ ปุโตฺต นนฺทิโย นาม มิโค อตฺถิ, ตํ วเทยฺยาสิ ‘‘มาตาปิตโร เต วุฑฺฒา ยาว น มรนฺติ, ตาว ตํ ปสฺสิตุํ อิจฺฉนฺตี’’ติฯ

    Tassattho – sace, tvaṃ brāhmaṇa, sāketaṃ gacchasi, sākete ajjunavanaṃ nāma uyyānaṃ atthi, tattha amhākaṃ putto nandiyo nāma migo atthi, taṃ vadeyyāsi ‘‘mātāpitaro te vuḍḍhā yāva na maranti, tāva taṃ passituṃ icchantī’’ti.

    โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา สาเกตํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ‘‘นนฺทิยมิโค นาม กตโร’’ติ ปุจฺฉิฯ มิโค อาคนฺตฺวา ตสฺส สมีเป ฐตฺวา ‘‘อห’’นฺติ อาหฯ พฺราหฺมโณ ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ นนฺทิโย ตํ สุตฺวา ‘‘คเจฺฉยฺยามหํ, พฺราหฺมณ, วติํ ลงฺฆิตฺวา โน น คเจฺฉยฺยํ, มยา ปน รโญฺญ สนฺตกํ นิวาปปานโภชนํ ภุตฺตํ, ตํ เม อิณฎฺฐาเน ฐิตํ, อิเมสญฺจ มิคานํ มเชฺฌ จิรวุโตฺถสฺมิ, ตสฺส เม รโญฺญ เจว เอเตสญฺจ โสตฺถิภาวํ อกตฺวา อตฺตโน พลํ อทเสฺสตฺวา คมนํ นาม น ยุตฺตํ, อตฺตโน วาเร ปน สมฺปเตฺต อหํ เอเตสํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา สุขิโต อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต เทฺว คาถา อภาสิ –

    So ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchitvā sāketaṃ gantvā punadivase uyyānaṃ pavisitvā ‘‘nandiyamigo nāma kataro’’ti pucchi. Migo āgantvā tassa samīpe ṭhatvā ‘‘aha’’nti āha. Brāhmaṇo tamatthaṃ ārocesi. Nandiyo taṃ sutvā ‘‘gaccheyyāmahaṃ, brāhmaṇa, vatiṃ laṅghitvā no na gaccheyyaṃ, mayā pana rañño santakaṃ nivāpapānabhojanaṃ bhuttaṃ, taṃ me iṇaṭṭhāne ṭhitaṃ, imesañca migānaṃ majjhe ciravutthosmi, tassa me rañño ceva etesañca sotthibhāvaṃ akatvā attano balaṃ adassetvā gamanaṃ nāma na yuttaṃ, attano vāre pana sampatte ahaṃ etesaṃ sotthibhāvaṃ katvā sukhito āgacchissāmī’’ti tamatthaṃ pakāsento dve gāthā abhāsi –

    ๗๒.

    72.

    ‘‘ภุตฺตา มยา นิวาปานิ, ราชิโน ปานโภชนํ;

    ‘‘Bhuttā mayā nivāpāni, rājino pānabhojanaṃ;

    ตํ ราชปิณฺฑํ อวโภตฺตุํ, นาหํ พฺราหฺมณ มุสฺสเหฯ

    Taṃ rājapiṇḍaṃ avabhottuṃ, nāhaṃ brāhmaṇa mussahe.

    ๗๓.

    73.

    ‘‘โอทหิสฺสามหํ ปสฺสํ, ขุรปฺปานิสฺส ราชิโน;

    ‘‘Odahissāmahaṃ passaṃ, khurappānissa rājino;

    ตทาหํ สุขิโต มุโตฺต, อปิ ปเสฺสยฺย มาตร’’นฺติฯ

    Tadāhaṃ sukhito mutto, api passeyya mātara’’nti.

    ตตฺถ นิวาปานีติ เตสุ เตสุ ฐาเนสุ นิวุตานิ นิวาปานิฯ ปานโภชนนฺติ ปานียญฺจ อวเสสติณญฺจฯ ตํ ราชปิณฺฑนฺติ ตํ รโญฺญ สนฺตกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา สโมธานกเฎฺฐน ปิณฺฑํฯ อวโภตฺตุนฺติ ทุพฺภุตฺตํ ภุญฺชิตุํ ฯ รโญฺญ หิ กิจฺจํ อนิปฺผาเทโนฺต ตํ อวภุตฺตํ ภุญฺชติ นาม, สฺวาหํ เอวํ อวโภตฺตุํ น อุสฺสหามีติ วทติฯ พฺราหฺมณ มุสฺสเหติ เจตฺถ พฺราหฺมณาติ อาลปนํ, ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุโตฺตฯ

    Tattha nivāpānīti tesu tesu ṭhānesu nivutāni nivāpāni. Pānabhojananti pānīyañca avasesatiṇañca. Taṃ rājapiṇḍanti taṃ rañño santakaṃ saṅkaḍḍhitvā samodhānakaṭṭhena piṇḍaṃ. Avabhottunti dubbhuttaṃ bhuñjituṃ . Rañño hi kiccaṃ anipphādento taṃ avabhuttaṃ bhuñjati nāma, svāhaṃ evaṃ avabhottuṃ na ussahāmīti vadati. Brāhmaṇa mussaheti cettha brāhmaṇāti ālapanaṃ, ma-kāro padasandhivasena vutto.

    โอทหิสฺสามหํ ปสฺสํ, ขุรปฺปานิสฺส ราชิโนติ อหํ, พฺราหฺมณ, อตฺตโน วาเร สมฺปเตฺต ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิตฺวา อาคตสฺส รโญฺญ มิคยูถโต นิกฺขมิตฺวา เอกมเนฺต ฐตฺวา ‘‘มํ วิชฺฌ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อตฺตโน มหาผาสุกปสฺสํ โอทหิสฺสามิ โอเฑฺฑสฺสามิฯ สุขิโต มุโตฺตติ ตทา อหํ มรณภยา มุโตฺต สุขิโต นิทฺทุโกฺข รญฺญา อนุญฺญาโต อปิ นาม มาตรํ ปเสฺสยฺยนฺติฯ

    Odahissāmahaṃ passaṃ, khurappānissa rājinoti ahaṃ, brāhmaṇa, attano vāre sampatte khurappaṃ sannayhitvā āgatassa rañño migayūthato nikkhamitvā ekamante ṭhatvā ‘‘maṃ vijjha, mahārājā’’ti vatvā attano mahāphāsukapassaṃ odahissāmi oḍḍessāmi. Sukhito muttoti tadā ahaṃ maraṇabhayā mutto sukhito niddukkho raññā anuññāto api nāma mātaraṃ passeyyanti.

    ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ปกฺกามิฯ อปรภาเค ตสฺส วารทิวเส ราชา มหเนฺตน ปริวาเรน อุยฺยานํ อาคจฺฉิฯ มหาสโตฺต เอกมเนฺต อฎฺฐาสิฯ ราชา ‘‘มิคํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิฯ มหาสโตฺต ยถา อเญฺญ มรณภยตชฺชิตา ปลายนฺติ, เอวํ อปลายิตฺวา นิพฺภโย หุตฺวา เมตฺตํ ปุเรจาริกํ กตฺวา มหาผาสุกปสฺสํ โอทหิตฺวา นิจฺจโลว อฎฺฐาสิฯ ราชา ตสฺส เมตฺตานุภาเวน สรํ วิสฺสเชฺชตุํ นาสกฺขิฯ มหาสโตฺต ‘‘กิํ, มหาราช, สรํ น มุเจฺจสิ, มุญฺจาหี’’ติ อาหฯ ‘‘น สโกฺกมิ, มิคราชา’’ติฯ ‘‘เตน หิ คุณวนฺตานํ คุณํ ชาน, มหาราชา’’ติฯ ตทา ราชา โพธิสเตฺต ปสีทิตฺวา ธนุํ ฉเฑฺฑตฺวา ‘‘อิมํ อจิตฺตกํ กลิงฺครกณฺฑมฺปิ ตาว ตว คุณํ ชานาติ, อหํ สจิตฺตโก มนุสฺสภูโตปิ ตว คุณํ น ชานามิ, มิคราช, มยฺหํ ขม, อภยํ เต ทมฺมี’’ติ อาหฯ ‘‘มหาราช, มยฺหํ ตาว อภยํ เทสิ, อยํ ปน อุยฺยาเน มิคคโณ กิํ กริสฺสตี’’ติ? ‘‘เอตสฺสปิ อภยํ ทมฺมี’’ติฯ เอวํ มหาสโตฺต นิโคฺรธชาตเก (ชา. ๑.๑.๑๒) วุตฺตนเยเนว สเพฺพสํ อรเญฺญ มิคานํ อากาสคตสกุณานํ ชลจรมจฺฉานญฺจ อภยํ ทาเปตฺวา ราชานํ ปญฺจสุ สีเลสุ ปติฎฺฐาเปตฺวา ‘‘มหาราช, รญฺญา นาม อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธเมฺม อโกเปเนฺตน ธเมฺมน สเมน รชฺชํ กาเรตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ

    Taṃ sutvā brāhmaṇo pakkāmi. Aparabhāge tassa vāradivase rājā mahantena parivārena uyyānaṃ āgacchi. Mahāsatto ekamante aṭṭhāsi. Rājā ‘‘migaṃ vijjhissāmī’’ti khurappaṃ sannayhi. Mahāsatto yathā aññe maraṇabhayatajjitā palāyanti, evaṃ apalāyitvā nibbhayo hutvā mettaṃ purecārikaṃ katvā mahāphāsukapassaṃ odahitvā niccalova aṭṭhāsi. Rājā tassa mettānubhāvena saraṃ vissajjetuṃ nāsakkhi. Mahāsatto ‘‘kiṃ, mahārāja, saraṃ na muccesi, muñcāhī’’ti āha. ‘‘Na sakkomi, migarājā’’ti. ‘‘Tena hi guṇavantānaṃ guṇaṃ jāna, mahārājā’’ti. Tadā rājā bodhisatte pasīditvā dhanuṃ chaḍḍetvā ‘‘imaṃ acittakaṃ kaliṅgarakaṇḍampi tāva tava guṇaṃ jānāti, ahaṃ sacittako manussabhūtopi tava guṇaṃ na jānāmi, migarāja, mayhaṃ khama, abhayaṃ te dammī’’ti āha. ‘‘Mahārāja, mayhaṃ tāva abhayaṃ desi, ayaṃ pana uyyāne migagaṇo kiṃ karissatī’’ti? ‘‘Etassapi abhayaṃ dammī’’ti. Evaṃ mahāsatto nigrodhajātake (jā. 1.1.12) vuttanayeneva sabbesaṃ araññe migānaṃ ākāsagatasakuṇānaṃ jalacaramacchānañca abhayaṃ dāpetvā rājānaṃ pañcasu sīlesu patiṭṭhāpetvā ‘‘mahārāja, raññā nāma agatigamanaṃ pahāya dasa rājadhamme akopentena dhammena samena rajjaṃ kāretuṃ vaṭṭatī’’ti.

    ‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;

    ‘‘Dānaṃ sīlaṃ pariccāgaṃ, ajjavaṃ maddavaṃ tapaṃ;

    อโกฺกธํ อวิหิํสญฺจ, ขนฺติญฺจ อวิโรธนํฯ

    Akkodhaṃ avihiṃsañca, khantiñca avirodhanaṃ.

    ‘‘อิเจฺจเต กุสเล ธเมฺม, ฐิเต ปสฺสามิ อตฺตนิ;

    ‘‘Iccete kusale dhamme, ṭhite passāmi attani;

    ตโต เม ชายเต ปีติ, โสมนสฺสญฺจนปฺปก’’นฺติฯ (ชา. ๒.๒๑.๑๗๖-๑๗๗) –

    Tato me jāyate pīti, somanassañcanappaka’’nti. (jā. 2.21.176-177) –

    เอวํ วุเตฺต ราชธเมฺม คาถาพเนฺธเนว เทเสตฺวา กติปาหํ รโญฺญ สนฺติเก วสิตฺวา นคเร สพฺพสตฺตานํ อภยทานปกาสนตฺถํ สุวณฺณเภริํ จราเปตฺวา ‘‘อปฺปมโตฺต โหหิ, มหาราชา’’ติ วตฺวา มาตาปิตูนํ ทสฺสนตฺถาย คโตฯ

    Evaṃ vutte rājadhamme gāthābandheneva desetvā katipāhaṃ rañño santike vasitvā nagare sabbasattānaṃ abhayadānapakāsanatthaṃ suvaṇṇabheriṃ carāpetvā ‘‘appamatto hohi, mahārājā’’ti vatvā mātāpitūnaṃ dassanatthāya gato.

    ๗๔.

    74.

    ‘‘มิคราชา ปุเร อาสิํ, โกสลสฺส นิเกตเน;

    ‘‘Migarājā pure āsiṃ, kosalassa niketane;

    นนฺทิโย นาม นาเมน, อภิรูโป จตุปฺปโทฯ

    Nandiyo nāma nāmena, abhirūpo catuppado.

    ๗๕.

    75.

    ‘‘ตํ มํ วธิตุมาคจฺฉิ, ทายสฺมิํ อชฺชุเน วเน;

    ‘‘Taṃ maṃ vadhitumāgacchi, dāyasmiṃ ajjune vane;

    ธนุํ อารชฺชํ กตฺวาน, อุสุํ สนฺนยฺห โกสโลฯ

    Dhanuṃ ārajjaṃ katvāna, usuṃ sannayha kosalo.

    ๗๖.

    76.

    ‘‘ตสฺสาหํ โอทหิํ ปสฺสํ, ขุรปฺปานิสฺส ราชิโน;

    ‘‘Tassāhaṃ odahiṃ passaṃ, khurappānissa rājino;

    ตทาหํ สุขิโต มุโตฺต, มาตรํ ทฎฺฐุมาคโต’’ติฯ –

    Tadāhaṃ sukhito mutto, mātaraṃ daṭṭhumāgato’’ti. –

    อิมา ติโสฺส อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติฯ

    Imā tisso abhisambuddhagāthā honti.

    ตตฺถ โกสลสฺส นิเกตเนติ โกสลสฺส รโญฺญ นิเกตเน วสนฎฺฐาเน, ตสฺส สนฺติเก อรญฺญสฺมินฺติ อโตฺถฯ ทายสฺมินฺติ มิคานํ วสนตฺถาย ทินฺนอุยฺยาเนฯ อารชฺชํ กตฺวานาติ ชิยาย สทฺธิํ เอกโต กตฺวา , อาโรเปตฺวาติ อโตฺถฯ สนฺนยฺหาติ สนฺนยฺหิตฺวา โยเชตฺวาฯ โอทหินฺติ โอเฑฺฑสิํฯ มาตรํ ทฎฺฐุมาคโตติ เทสนาสีสเมตํ, รโญฺญ ธมฺมํ เทเสตฺวา สพฺพสตฺตานํ อภยตฺถาย สุวณฺณเภริํ จราเปตฺวา มาตาปิตโร ทฎฺฐุํ อาคโตสฺมีติ อโตฺถฯ

    Tattha kosalassa niketaneti kosalassa rañño niketane vasanaṭṭhāne, tassa santike araññasminti attho. Dāyasminti migānaṃ vasanatthāya dinnauyyāne. Ārajjaṃ katvānāti jiyāya saddhiṃ ekato katvā , āropetvāti attho. Sannayhāti sannayhitvā yojetvā. Odahinti oḍḍesiṃ. Mātaraṃ daṭṭhumāgatoti desanāsīsametaṃ, rañño dhammaṃ desetvā sabbasattānaṃ abhayatthāya suvaṇṇabheriṃ carāpetvā mātāpitaro daṭṭhuṃ āgatosmīti attho.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, พฺราหฺมโณ สาริปุโตฺต, ราชา อานโนฺท, นนฺทิยมิคราชา ปน อหเมว อโหสินฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne mātuposakabhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi. Tadā mātāpitaro mahārājakulāni ahesuṃ, brāhmaṇo sāriputto, rājā ānando, nandiyamigarājā pana ahameva ahosinti.

    นนฺทิยมิคราชชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

    Nandiyamigarājajātakavaṇṇanā dasamā.

    อวาริยวโคฺค ปฐโมฯ

    Avāriyavaggo paṭhamo.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๘๕. นนฺทิยมิคราชชาตกํ • 385. Nandiyamigarājajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact