Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๕. นนฺทิยเตฺถรคาถาวณฺณนา
5. Nandiyattheragāthāvaṇṇanā
โอภาสชาตนฺติ อายสฺมโต นนฺทิยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล สตฺถริ ปรินิพฺพุเต เจติเย จนฺทนสาเรน เวทิกํ กาเรตฺวา อุฬารํ ปูชาสกฺการํ ปวเตฺตสิฯ ตโต ปฎฺฐาย อชฺฌาสยสมฺปโนฺน หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ พหุํ ปุญฺญกมฺมํ อาจินิตฺวา เทเวสุ จ มนุเสฺสสุ จ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุสฺมิํ สกฺยราชกุเล นิพฺพตฺติฯ ตสฺส มาตาปิตโร นนฺทิํ ชเนโนฺต ชาโตติ นนฺทิโยติ นามํ อกํสุฯ โส วยปฺปโตฺต อนุรุทฺธาทีสุ สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชเนฺตสุ สยมฺปิ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต กตาธิการตาย นจิรเสฺสว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๕.๑๕-๒๐) –
Obhāsajātanti āyasmato nandiyattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira padumuttarassa bhagavato kāle satthari parinibbute cetiye candanasārena vedikaṃ kāretvā uḷāraṃ pūjāsakkāraṃ pavattesi. Tato paṭṭhāya ajjhāsayasampanno hutvā tattha tattha vivaṭṭūpanissayaṃ bahuṃ puññakammaṃ ācinitvā devesu ca manussesu ca saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde kapilavatthusmiṃ sakyarājakule nibbatti. Tassa mātāpitaro nandiṃ janento jātoti nandiyoti nāmaṃ akaṃsu. So vayappatto anuruddhādīsu satthu santike pabbajantesu sayampi pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karonto katādhikāratāya nacirasseva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.15.15-20) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, โลกเชโฎฺฐ นราสโภ;
‘‘Padumuttaro nāma jino, lokajeṭṭho narāsabho;
ชลิตฺวา อคฺคิขโนฺธว, สมฺพุโทฺธ ปรินิพฺพุโตฯ
Jalitvā aggikhandhova, sambuddho parinibbuto.
‘‘นิพฺพุเต จ มหาวีเร, ถูโป วิตฺถาริโก อหุ;
‘‘Nibbute ca mahāvīre, thūpo vitthāriko ahu;
ทูรโตว อุปเฎฺฐนฺติ, ธาตุเคหวรุตฺตเมฯ
Dūratova upaṭṭhenti, dhātugehavaruttame.
‘‘ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, อกํ จนฺทนเวทิกํ;
‘‘Pasannacitto sumano, akaṃ candanavedikaṃ;
ทิสฺสติ ถูปขโนฺธ จ, ถูปานุจฺฉวิโก ตทาฯ
Dissati thūpakhandho ca, thūpānucchaviko tadā.
‘‘ภเว นิพฺพตฺตมานมฺหิ, เทวเตฺต อถ มานุเสฯ
‘‘Bhave nibbattamānamhi, devatte atha mānuse.
โอมตฺตํ เม น ปสฺสามิ, ปุพฺพกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
Omattaṃ me na passāmi, pubbakammassidaṃ phalaṃ.
‘‘ปญฺจทสกปฺปสเต, อิโต อฎฺฐ ชนา อหุํ;
‘‘Pañcadasakappasate, ito aṭṭha janā ahuṃ;
สเพฺพ สมตฺตนามา เต จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ
Sabbe samattanāmā te cakkavattī mahabbalā.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อนุรุทฺธเตฺถราทีหิ สทฺธิํ ปาจีนวํสมิคทาเย วิหรเนฺต อิมสฺมิํ เถเร เอกทิวสํ มาโร ปาปิมา ภิํสาเปตุกาโม ตสฺส เภรวรูปํ ทเสฺสติฯ เถโร ตํ ‘‘มาโร อย’’นฺติ ญตฺวา ‘‘ปาปิม, เย มารเธยฺยํ วีติวตฺตา, เตสํ ตว กิริยา กิํ กริสฺสติ, ตโตนิทานํ ปน ตฺวํ เอว วิฆาตํ อนตฺถํ ปาปุณิสฺสสี’’ติ ทเสฺสโนฺต ‘‘โอภาสชาตํ ผลค’’นฺติ คาถํ อภาสิฯ
Arahattaṃ pana patvā anuruddhattherādīhi saddhiṃ pācīnavaṃsamigadāye viharante imasmiṃ there ekadivasaṃ māro pāpimā bhiṃsāpetukāmo tassa bheravarūpaṃ dasseti. Thero taṃ ‘‘māro aya’’nti ñatvā ‘‘pāpima, ye māradheyyaṃ vītivattā, tesaṃ tava kiriyā kiṃ karissati, tatonidānaṃ pana tvaṃ eva vighātaṃ anatthaṃ pāpuṇissasī’’ti dassento ‘‘obhāsajātaṃ phalaga’’nti gāthaṃ abhāsi.
๒๕. ตตฺถ โอภาสชาตนฺติ ญาโณภาเสน ชาโตภาสํ อคฺคมคฺคญาณสฺส อธิคตตฺตาฯ เตน อนวเสสโต กิเลสนฺธการสฺส วิหตวิทฺธํสิตภาวโต อติวิย ปภสฺสรนฺติ อโตฺถฯ ผลคนฺติ ผลํ คตํ อุปคตํ, อคฺคผลญาณสหิตนฺติ อธิปฺปาโยฯ จิตฺตนฺติ ขีณาสวสฺส จิตฺตํ สามเญฺญน วทติฯ เตนาห ‘‘อภิณฺหโส’’ติฯ ตญฺหิ นิโรธนินฺนตาย ขีณาสวานํ นิจฺจกปฺปํ อรหตฺตผลสมาปตฺติสมาปชฺชนโต ‘‘ผเลน สหิต’’นฺติ วตฺตพฺพตํ อรหติฯ ตาทิสนฺติ ตถารูปํ, อรหนฺตนฺติ อโตฺถฯ อาสชฺชาติ วิโสเธตฺวา ปริภุยฺยฯ กณฺหาติ มารํ อาลปติ, โส หิ กณฺหกมฺมตฺตา กณฺหาภิชาติตาย จ ‘‘กโณฺห’’ติ วุจฺจติฯ ทุกฺขํ นิคจฺฉสีติ อิธ กุจฺฉิอนุปฺปเวสาทินา นิรตฺถกํ กายปริสฺสมํ ทุกฺขํ, สมฺปราเย จ อปฺปติการํ อปายทุกฺขํ อุปคมิสฺสสิ ปาปุณิสฺสสิฯ ตํ สุตฺวา มาโร ‘‘ชานาติ มํ สมโณ’’ติ ตเตฺถวนฺตรธายีติฯ
25. Tattha obhāsajātanti ñāṇobhāsena jātobhāsaṃ aggamaggañāṇassa adhigatattā. Tena anavasesato kilesandhakārassa vihataviddhaṃsitabhāvato ativiya pabhassaranti attho. Phalaganti phalaṃ gataṃ upagataṃ, aggaphalañāṇasahitanti adhippāyo. Cittanti khīṇāsavassa cittaṃ sāmaññena vadati. Tenāha ‘‘abhiṇhaso’’ti. Tañhi nirodhaninnatāya khīṇāsavānaṃ niccakappaṃ arahattaphalasamāpattisamāpajjanato ‘‘phalena sahita’’nti vattabbataṃ arahati. Tādisanti tathārūpaṃ, arahantanti attho. Āsajjāti visodhetvā paribhuyya. Kaṇhāti māraṃ ālapati, so hi kaṇhakammattā kaṇhābhijātitāya ca ‘‘kaṇho’’ti vuccati. Dukkhaṃ nigacchasīti idha kucchianuppavesādinā niratthakaṃ kāyaparissamaṃ dukkhaṃ, samparāye ca appatikāraṃ apāyadukkhaṃ upagamissasi pāpuṇissasi. Taṃ sutvā māro ‘‘jānāti maṃ samaṇo’’ti tatthevantaradhāyīti.
นนฺทิยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nandiyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๕. นนฺทิยเตฺถรคาถา • 5. Nandiyattheragāthā