Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. นสนฺติสุตฺตํ
4. Nasantisuttaṃ
๓๔. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
34. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho sambahulā satullapakāyikā devatāyo abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇā kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhaṃsu. Ekamantaṃ ṭhitā kho ekā devatā bhagavato santike imaṃ gāthaṃ abhāsi –
‘‘น สนฺติ กามา มนุเชสุ นิจฺจา,
‘‘Na santi kāmā manujesu niccā,
เยสุ ปมโตฺต อปุนาคมนํ,
Yesu pamatto apunāgamanaṃ,
อนาคนฺตา ปุริโส มจฺจุเธยฺยา’’ติฯ
Anāgantā puriso maccudheyyā’’ti.
‘‘ฉนฺทชํ อฆํ ฉนฺทชํ ทุกฺขํ;
‘‘Chandajaṃ aghaṃ chandajaṃ dukkhaṃ;
ฉนฺทวินยา อฆวินโย;
Chandavinayā aghavinayo;
อฆวินยา ทุกฺขวินโย’’ติฯ
Aghavinayā dukkhavinayo’’ti.
‘‘น เต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก,
‘‘Na te kāmā yāni citrāni loke,
สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม;
Saṅkapparāgo purisassa kāmo;
ติฎฺฐนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก,
Tiṭṭhanti citrāni tatheva loke,
อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺทํฯ
Athettha dhīrā vinayanti chandaṃ.
‘‘โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ,
‘‘Kodhaṃ jahe vippajaheyya mānaṃ,
สํโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย;
Saṃyojanaṃ sabbamatikkameyya;
ตํ นามรูปสฺมิมสชฺชมานํ,
Taṃ nāmarūpasmimasajjamānaṃ,
อกิญฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขาฯ
Akiñcanaṃ nānupatanti dukkhā.
อเจฺฉจฺฉิ ตณฺหํ อิธ นามรูเป;
Acchecchi taṇhaṃ idha nāmarūpe;
ตํ ฉินฺนคนฺถํ อนิฆํ นิราสํ,
Taṃ chinnaganthaṃ anighaṃ nirāsaṃ,
ปริเยสมานา นาชฺฌคมุํ;
Pariyesamānā nājjhagamuṃ;
เทวา มนุสฺสา อิธ วา หุรํ วา,
Devā manussā idha vā huraṃ vā,
สเคฺคสุ วา สพฺพนิเวสเนสู’’ติฯ
Saggesu vā sabbanivesanesū’’ti.
‘‘ตํ เจ หิ นาทฺทกฺขุํ ตถาวิมุตฺตํ (อิจฺจายสฺมา โมฆราชา),
‘‘Taṃ ce hi nāddakkhuṃ tathāvimuttaṃ (iccāyasmā mogharājā),
เทวา มนุสฺสา อิธ วา หุรํ วา;
Devā manussā idha vā huraṃ vā;
นรุตฺตมํ อตฺถจรํ นรานํ,
Naruttamaṃ atthacaraṃ narānaṃ,
เย ตํ นมสฺสนฺติ ปสํสิยา เต’’ติฯ
Ye taṃ namassanti pasaṃsiyā te’’ti.
‘‘ปสํสิยา เตปิ ภวนฺติ ภิกฺขู (โมฆราชาติ ภควา),
‘‘Pasaṃsiyā tepi bhavanti bhikkhū (mogharājāti bhagavā),
เย ตํ นมสฺสนฺติ ตถาวิมุตฺตํ;
Ye taṃ namassanti tathāvimuttaṃ;
อญฺญาย ธมฺมํ วิจิกิจฺฉํ ปหาย,
Aññāya dhammaṃ vicikicchaṃ pahāya,
สงฺคาติคา เตปิ ภวนฺติ ภิกฺขู’’ติฯ
Saṅgātigā tepi bhavanti bhikkhū’’ti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Nasantisuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Nasantisuttavaṇṇanā