Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา
4. Nasantisuttavaṇṇanā
๓๔. กมนียานีติ กนฺตานิฯ ตโต เอว เอตานิ อิฎฺฐารมฺมณานิ สุขารมฺมณานิ รูปาทีนิ, เต ปน วตฺถุกามา, ตทารมฺมณกิเลสกามา วาฯ ‘‘น สนฺติ กามา มนุเชสู’’ติ เทสนาสีสเมตํ, นิจฺฉเยน กามา อนิจฺจาเยวฯ มจฺจุ ธียติ เอตฺถาติ มจฺจุเธยฺยํฯ น ปุน อาคจฺฉติ เอตฺถ ตํ อปุนาคมนํฯ อปุนาคมนสงฺขาตํ นิพฺพานํ อนุปคจฺฉนโตฯ นิพฺพานํ หีติอาทิ วุตฺตเสฺสวตฺถสฺส วิวรณํฯ พโทฺธติ ปฎิพทฺธจิโตฺตฯ ปมโตฺตติ โวสฺสคฺคปมาทํ อาปโนฺนฯ
34.Kamanīyānīti kantāni. Tato eva etāni iṭṭhārammaṇāni sukhārammaṇāni rūpādīni, te pana vatthukāmā, tadārammaṇakilesakāmā vā. ‘‘Na santi kāmā manujesū’’ti desanāsīsametaṃ, nicchayena kāmā aniccāyeva. Maccu dhīyati etthāti maccudheyyaṃ. Na puna āgacchati ettha taṃ apunāgamanaṃ. Apunāgamanasaṅkhātaṃ nibbānaṃ anupagacchanato. Nibbānaṃ hītiādi vuttassevatthassa vivaraṇaṃ. Baddhoti paṭibaddhacitto. Pamattoti vossaggapamādaṃ āpanno.
ตณฺหาฉนฺทโต ชาตํ ตสฺส วิเสสปจฺจยตฺตาฯ อิจฺฉิตํ หนตีติ อฆํ, ทุกฺขํฯ อิธ ปน อนวเสสปริยาทานวเสน ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขนฺติฯ ฉนฺทวินยา อฆวินโยติ เหตุนิโรเธน หิ ผลนิโรโธ, เอวํ สอุปาทิเสสนิพฺพานํ วตฺวา อฆวินยา ทุกฺขวินโยติ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ วทติฯ
Taṇhāchandatojātaṃ tassa visesapaccayattā. Icchitaṃ hanatīti aghaṃ, dukkhaṃ. Idha pana anavasesapariyādānavasena pañcupādānakkhandhā dukkhanti. Chandavinayā aghavinayoti hetunirodhena hi phalanirodho, evaṃ saupādisesanibbānaṃ vatvā aghavinayā dukkhavinayoti anupādisesanibbānaṃ vadati.
จิตฺรานีติ กิเลสกามาปิ เวทนาทิฎฺฐิสมฺปโยคเภเทน โหนฺติ, อาการเภเทน จ อตฺถิ สวิฆาตาวิฆาตาติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘อารมฺมณจิตฺตานี’’ติ วุตฺตํฯ สงฺกปฺปิตราโคติ สุภาทิวเสน สงฺกปฺปิตวตฺถุมฺหิ ราโคฯ กิเลสกาโม กาโมติ วุโตฺต ตเสฺสวิธ วิเสสโต กามภาวสิทฺธิโตฯ ปสูรสุเตฺตน วิภาเวตโพฺพ ‘‘น เต กามา’’ติอาทินา ตสฺส วตฺถุมฺหิ อาคตตฺตาฯ อิทานิ ตมตฺถํ สเงฺขเปเนว วิภาเวโนฺต ‘‘ปสูรปริพฺพาชโก หี’’ติอาทิมาหฯ น เต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเกติ เต เจ กามา น โหนฺติ, ยานิ โลเก จิตฺรานิ รูปาทิอารมฺมณานิฯ เวเทสีติ เกวลํ สงฺกปฺปราคญฺจ กามํ กตฺวา วเทสิ เจฯ เหหินฺตีติ ภเวยฺยุนฺติ อโตฺถฯ สุณโนฺต สทฺทานิ มโนรมานิ, สตฺถาปิ เต เหหิติ กามโภคีติ ปเจฺจกํ คาถา, อิธ ปน สํขิปิตฺวา ทสฺสิตาฯ ธีรา นาม ธิติสมฺปนฺนาติ อาห ‘‘ปณฺฑิตา’’ติฯ
Citrānīti kilesakāmāpi vedanādiṭṭhisampayogabhedena honti, ākārabhedena ca atthi savighātāvighātāti tato visesetuṃ ‘‘ārammaṇacittānī’’ti vuttaṃ. Saṅkappitarāgoti subhādivasena saṅkappitavatthumhi rāgo. Kilesakāmo kāmoti vutto tassevidha visesato kāmabhāvasiddhito. Pasūrasuttena vibhāvetabbo ‘‘na te kāmā’’tiādinā tassa vatthumhi āgatattā. Idāni tamatthaṃ saṅkhepeneva vibhāvento ‘‘pasūraparibbājako hī’’tiādimāha. Na te kāmā yāni citrāni loketi te ce kāmā na honti, yāni loke citrāni rūpādiārammaṇāni. Vedesīti kevalaṃ saṅkapparāgañca kāmaṃ katvā vadesi ce. Hehintīti bhaveyyunti attho. Suṇanto saddāni manoramāni, satthāpi te hehiti kāmabhogīti paccekaṃ gāthā, idha pana saṃkhipitvā dassitā. Dhīrā nāma dhitisampannāti āha ‘‘paṇḍitā’’ti.
ตสฺสาติ โย ปหีนโกธมาโน สพฺพโส สํโยชนาติโค นามรูปสฺมิํ อสชฺชโนฺต ราคาทิกิญฺจนรหิโต, ตสฺสฯ โมฆราชา นาม เถโร พาวรีพฺราหฺมณสฺส ปริจารกานํ โสฬสนฺนํ อญฺญตโรฯ ยถานุสนฺธิํ อปฺปโตฺต สาวเสส-อโตฺถ, กิญฺจิ วตฺตพฺพํ อตฺถีติ อธิปฺปาโย ฯ สพฺพโส วิมุตฺตตฺตาว เทวมนุสฺสา นมสฺสนฺติ, เย ตํ ปฎิปชฺชนฺติฯ เตสํ กิํ โหติ? กิญฺจิปิ น สิยาติ อยเมตฺถ อตฺถวิเสโส? ทสพลํ สนฺธาเยวมาห อุกฺกฎฺฐนิเทฺทเสนฯ อนุปฎิปตฺติยาติ ปฎิปตฺติํ อนุคนฺตฺวา ปฎิปชฺชเนนฯ นมสฺสนฺติ ตํ ปูเชนฺติฯ
Tassāti yo pahīnakodhamāno sabbaso saṃyojanātigo nāmarūpasmiṃ asajjanto rāgādikiñcanarahito, tassa. Mogharājā nāma thero bāvarībrāhmaṇassa paricārakānaṃ soḷasannaṃ aññataro. Yathānusandhiṃ appatto sāvasesa-attho, kiñci vattabbaṃ atthīti adhippāyo . Sabbaso vimuttattāva devamanussā namassanti, ye taṃ paṭipajjanti. Tesaṃ kiṃ hoti? Kiñcipi na siyāti ayamettha atthaviseso? Dasabalaṃ sandhāyevamāha ukkaṭṭhaniddesena. Anupaṭipattiyāti paṭipattiṃ anugantvā paṭipajjanena. Namassanti taṃ pūjenti.
จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวาติ เตน ปฎิวิทฺธํ จตุสจฺจธมฺมํ ปฎิวิชฺฌิตฺวาฯ ตถา จ พุทฺธสุพุทฺธตาย นิเพฺพมติกา โหนฺตีติ อาห ‘‘วิจิกิจฺฉํ ปหายา’’ติฯ ตโต ปรํ ปน อนุกฺกเมน อคฺคมคฺคาธิคเมน สงฺคาติคาปิ โหนฺติฯ อเสกฺขธมฺมปาริปูริยา ปสํสิยา วิญฺญูนํ ปสํสาปิ โหนฺตีติฯ
Catusaccadhammaṃ jānitvāti tena paṭividdhaṃ catusaccadhammaṃ paṭivijjhitvā. Tathā ca buddhasubuddhatāya nibbematikā hontīti āha ‘‘vicikicchaṃ pahāyā’’ti. Tato paraṃ pana anukkamena aggamaggādhigamena saṅgātigāpi honti. Asekkhadhammapāripūriyā pasaṃsiyā viññūnaṃ pasaṃsāpi hontīti.
นสนฺติสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nasantisuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. นสนฺติสุตฺตํ • 4. Nasantisuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. นสนฺติสุตฺตวณฺณนา • 4. Nasantisuttavaṇṇanā