Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๙. นวมนโย สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา
9. Navamanayo sampayuttenasampayuttapadavaṇṇanā
๓๑๙. อิทานิ สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ เวทนากฺขเนฺธนาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ยํ ขนฺธาทิวเสน สมฺปยุตฺตํ, ปุน ตเสฺสว ขนฺธาทีหิ สมฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํฯ ตํ รูเปน วา รูปมิสฺสเกหิ วา สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ วา ปเทหิ สทฺธิํ น ยุชฺชติฯ รูเปน หิ รูปมิสฺสเกน วา อเญฺญสํ สมฺปโยโค นตฺถิฯ สพฺพรูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ สเพฺพสํ สมฺปโยคารหานํ ขนฺธาทีนํ คหิตตฺตา อญฺญํเยว นตฺถิ, ยํ เตน สห สมฺปโยคํ คเจฺฉยฺยฯ ตสฺมา ตถารูปานิ ปทานิ อิธ น คหิตานิฯ ยานิ ปน ปทานิ รูเปน อสมฺมิสฺสํ อรูเปกเทสํ ทีเปนฺติ, ตานิ อิธ คหิตานิฯ เตสํ อิทมุทฺทานํ –
319. Idāni sampayuttenasampayuttapadaṃ bhājetuṃ vedanākkhandhenātiādi āraddhaṃ. Tattha yaṃ khandhādivasena sampayuttaṃ, puna tasseva khandhādīhi sampayogaṃ pucchitvā vissajjanaṃ kataṃ. Taṃ rūpena vā rūpamissakehi vā sabbarūpakkhandhasaṅgāhakehi vā padehi saddhiṃ na yujjati. Rūpena hi rūpamissakena vā aññesaṃ sampayogo natthi. Sabbarūpakkhandhasaṅgāhakehi sabbesaṃ sampayogārahānaṃ khandhādīnaṃ gahitattā aññaṃyeva natthi, yaṃ tena saha sampayogaṃ gaccheyya. Tasmā tathārūpāni padāni idha na gahitāni. Yāni pana padāni rūpena asammissaṃ arūpekadesaṃ dīpenti, tāni idha gahitāni. Tesaṃ idamuddānaṃ –
‘‘อรูปกฺขนฺธา จตฺตาโร, มนายตนเมว จ;
‘‘Arūpakkhandhā cattāro, manāyatanameva ca;
วิญฺญาณธาตุโย สตฺต, เทฺว สจฺจา จุทฺทสินฺทฺริยาฯ
Viññāṇadhātuyo satta, dve saccā cuddasindriyā.
‘‘ปจฺจเย ทฺวาทส ปทา, ตโต อุปริ โสฬส;
‘‘Paccaye dvādasa padā, tato upari soḷasa;
ติเกสุ อฎฺฐ โคจฺฉเก, เตจตฺตาลีสเมว จฯ
Tikesu aṭṭha gocchake, tecattālīsameva ca.
‘‘มหนฺตรทุเก สตฺต, ปทา ปิฎฺฐิทุเกสุ ฉ;
‘‘Mahantaraduke satta, padā piṭṭhidukesu cha;
นวมสฺส ปทเสฺสเต, นิเทฺทเส สงฺคหํ คตา’’ติฯ
Navamassa padassete, niddese saṅgahaṃ gatā’’ti.
สพฺพปเญฺหสุ ปน เย ธมฺมา ปุจฺฉาย อุทฺธฎา, เต เยหิ สมฺปยุตฺตา โหนฺติ, เตสํ วเสน ขนฺธาทิเภโท เวทิตโพฺพ ฯ เวทนากฺขเนฺธน หิ อิตเร ตโย ขนฺธา สมฺปยุตฺตา, ปุน เตหิ เวทนากฺขโนฺธ สมฺปยุโตฺตฯ โส เตหิ สญฺญาทีหิ ตีหิ ขเนฺธหิ, เอเกน มนายตเนน, สตฺตหิ วิญฺญาณธาตูหิ, เอกสฺมิํ ธมฺมายตเน, ธมฺมธาตุยา จ, เกหิจิ สญฺญาสงฺขาเรเหว สมฺปยุโตฺตฯ เอเสว นโย สพฺพตฺถาติฯ
Sabbapañhesu pana ye dhammā pucchāya uddhaṭā, te yehi sampayuttā honti, tesaṃ vasena khandhādibhedo veditabbo . Vedanākkhandhena hi itare tayo khandhā sampayuttā, puna tehi vedanākkhandho sampayutto. So tehi saññādīhi tīhi khandhehi, ekena manāyatanena, sattahi viññāṇadhātūhi, ekasmiṃ dhammāyatane, dhammadhātuyā ca, kehici saññāsaṅkhāreheva sampayutto. Eseva nayo sabbatthāti.
สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนาฯ
Sampayuttenasampayuttapadavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๙. สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทนิเทฺทโส • 9. Sampayuttenasampayuttapadaniddeso
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๙. นวมนโย สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา • 9. Navamanayo sampayuttenasampayuttapadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๙. นวมนโย สมฺปยุเตฺตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา • 9. Navamanayo sampayuttenasampayuttapadavaṇṇanā