Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā

    นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา

    Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā

    ๗๙. เอวํ นานาสุตฺตวเสน เอกสุตฺตวเสน จ หารวิจารํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ นยวิจารํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ กสฺมา ปเนตฺถ ยถา ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร, อสฺสาทาทีนวตาติ คาถาฯ อยํ เทสนาหาโร กิํ เทสยตี’’ติอาทินา หารนิเทฺทโส อารโทฺธ, เอวํ ‘‘ตตฺถ กตโม นนฺทิยาวโฎฺฎ, ตณฺหญฺจ อวิชฺชมฺปิ จาติ คาถา, อยํ นนฺทิยาวโฎฺฎ กิํ นยตี’’ติอาทินา อนารภิตฺวา สมุฎฺฐานมุเขน อารทฺธนฺติ? วุจฺจเต – หารนยานํ วิสยเภทโตฯ ยถา หิ หารา พฺยญฺชนมุเขน สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนา, น เอวํ นยาฯ นยา ปน นานาสุตฺตโต นิทฺธาริเตหิ ตณฺหาวิชฺชาทีหิ มูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนาย นยโต อนุพุชฺฌิยมาโน ทุกฺขาทิอโตฺถฯ โส หิ มคฺคญาณํ นยติ สมฺปาเปตีติ นโยฯ ปฎิวิชฺฌนฺตานํ ปน อุคฺฆฎิตญฺญุอาทีนํ ติณฺณํ เวเนยฺยานํ วเสน มูลปทวิภาคโต ติธา วิภตฺตาฯ เอกเมโก เจตฺถ ยโต เนติ, ยญฺจ เนติ, เตสํ สํกิเลสโวทานานํ วิภาคโต ทฺวิสงฺคโห จตุฉอฎฺฐทิโส จาติ ภิโนฺน หารนยานํ วิสโยฯ ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘หารา พฺยญฺชนวิจโย, สุตฺตสฺส นยา ตโย จ สุตฺตโตฺถ’’ติ (เนตฺติ. สงฺคหวาร)ฯ เอวํ วิสิฎฺฐวิสยตฺตา หารนยานํ หาเรหิ อญฺญถา นเย นิทฺทิสโนฺต ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทิมาหฯ

    79. Evaṃ nānāsuttavasena ekasuttavasena ca hāravicāraṃ dassetvā idāni nayavicāraṃ dassetuṃ ‘‘tattha katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’ntiādi āraddhaṃ. Kasmā panettha yathā ‘‘tattha katamo desanāhāro, assādādīnavatāti gāthā. Ayaṃ desanāhāro kiṃ desayatī’’tiādinā hāraniddeso āraddho, evaṃ ‘‘tattha katamo nandiyāvaṭṭo, taṇhañca avijjampi cāti gāthā, ayaṃ nandiyāvaṭṭo kiṃ nayatī’’tiādinā anārabhitvā samuṭṭhānamukhena āraddhanti? Vuccate – hāranayānaṃ visayabhedato. Yathā hi hārā byañjanamukhena suttassa atthasaṃvaṇṇanā, na evaṃ nayā. Nayā pana nānāsuttato niddhāritehi taṇhāvijjādīhi mūlapadehi catusaccayojanāya nayato anubujjhiyamāno dukkhādiattho. So hi maggañāṇaṃ nayati sampāpetīti nayo. Paṭivijjhantānaṃ pana ugghaṭitaññuādīnaṃ tiṇṇaṃ veneyyānaṃ vasena mūlapadavibhāgato tidhā vibhattā. Ekameko cettha yato neti, yañca neti, tesaṃ saṃkilesavodānānaṃ vibhāgato dvisaṅgaho catuchaaṭṭhadiso cāti bhinno hāranayānaṃ visayo. Tathā hi vuttaṃ – ‘‘hārā byañjanavicayo, suttassa nayā tayo ca suttattho’’ti (netti. saṅgahavāra). Evaṃ visiṭṭhavisayattā hāranayānaṃ hārehi aññathā naye niddisanto ‘‘tattha katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’ntiādimāha.

    ตตฺถายํ วจนโตฺถ – สมุฎฺฐหนฺติ เอเตนาติ สมุฎฺฐานํฯ เก สมุฎฺฐหนฺติ? นยาฯ นยานํ สมุฎฺฐานํ นยสมุฎฺฐานํฯ กิํ ปน ตํ? ตํตํมูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนาฯ สา หิ นนฺทิยาวฎฺฎาทีนํ นยานํ อุปฺปตฺติฎฺฐานตาย สมุฎฺฐานํ ภูมีติ จ วุจฺจติฯ ตถา จ วกฺขติ – ‘‘อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมี’’ติ (เนตฺติ. ๘๑)ฯ ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จาติอาทิ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนํฯ ตตฺถ ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายตีติ อสุกสฺส นาม พุทฺธสฺส ภควโต, อสุกสฺส วา จกฺกวตฺติโน กาเล อวิชฺชา ภวตณฺหา จ อุปฺปนฺนาฯ ตโต ปุเพฺพ นาโหสีติ เอวํ อวิชฺชาภวตณฺหานํ น กาจิ ปุริมา มริยาทา อุปลพฺภติฯ กสฺมา? อนมตคฺคตฺตา สํสารสฺสฯ วุตฺตเญฺหตํ – ‘‘อนมตโคฺคยํ, ภิกฺขเว, สํสาโร, ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; กถา. ๗๕) วิตฺถาโรฯ ตตฺถาติ อวิชฺชาภวตณฺหาสุฯ ยทิปิ อวิชฺชาย สํโยชนภาโว, ตณฺหาย จ นีวรณภาโว ปาฬิยํ วุโตฺต, ตถาปิ อวิชฺชาย ปฎิจฺฉาทิตาทีนเวหิ ภเวหิ ตณฺหา สํโยเชตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานีวรณํ ตณฺหาสํโยชน’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Tatthāyaṃ vacanattho – samuṭṭhahanti etenāti samuṭṭhānaṃ. Ke samuṭṭhahanti? Nayā. Nayānaṃ samuṭṭhānaṃ nayasamuṭṭhānaṃ. Kiṃ pana taṃ? Taṃtaṃmūlapadehi catusaccayojanā. Sā hi nandiyāvaṭṭādīnaṃ nayānaṃ uppattiṭṭhānatāya samuṭṭhānaṃ bhūmīti ca vuccati. Tathā ca vakkhati – ‘‘ayaṃ vuccati nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmī’’ti (netti. 81). Pubbā koṭi na paññāyati avijjāya ca bhavataṇhāya cātiādi nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmidassanaṃ. Tattha pubbā koṭi na paññāyatīti asukassa nāma buddhassa bhagavato, asukassa vā cakkavattino kāle avijjā bhavataṇhā ca uppannā. Tato pubbe nāhosīti evaṃ avijjābhavataṇhānaṃ na kāci purimā mariyādā upalabbhati. Kasmā? Anamataggattā saṃsārassa. Vuttañhetaṃ – ‘‘anamataggoyaṃ, bhikkhave, saṃsāro, pubbā koṭi na paññāyatī’’ti (saṃ. ni. 2.124; kathā. 75) vitthāro. Tatthāti avijjābhavataṇhāsu. Yadipi avijjāya saṃyojanabhāvo, taṇhāya ca nīvaraṇabhāvo pāḷiyaṃ vutto, tathāpi avijjāya paṭicchāditādīnavehi bhavehi taṇhā saṃyojetīti imassa atthassa dassanatthaṃ ‘‘avijjānīvaraṇaṃ taṇhāsaṃyojana’’nti vuttaṃ.

    อวิชฺชาสํยุตฺตาติ อวิชฺชาย มิสฺสิตา, อวิชฺชาย วา อภินิเวสวตฺถูสุ พทฺธาฯ อวิชฺชาปเกฺขน วิจรนฺตีติ อวิชฺชาปเกฺขน อวิชฺชาสหาเยน ทฺวาทสวิเธน วิปลฺลาเสน อภินิเวสวตฺถุภูเต อารมฺมเณ ปวตฺตนฺติฯ เต วุจฺจนฺติ ทิฎฺฐิจริตาติ เต อวิชฺชาภิภูตา รูปาทีนิ นิจฺจาทิโต อภินิวิสนฺตา ทิฎฺฐิจริตาติ วุจฺจนฺติ, ทิฎฺฐิจริตา นามาติ อโตฺถฯ ตณฺหาปเกฺขนาติ อฎฺฐสตตณฺหาวิจริเตนฯ ทิฎฺฐิวิจริเต ตณฺหาวิจริเต จ ปฎิปตฺติยา วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ทิฎฺฐิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อตฺตกิลมถานุโยคนฺติ อตฺตโน กายสฺส กิลิสฺสนปโยคํ อตฺตปริตาปนปฎิปตฺติํฯ กามสุขลฺลิกานุโยคนฺติ กามสุขสฺส อลฺลียนปโยคํ กาเมสุ ปาตพฺยตํฯ

    Avijjāsaṃyuttāti avijjāya missitā, avijjāya vā abhinivesavatthūsu baddhā. Avijjāpakkhena vicarantīti avijjāpakkhena avijjāsahāyena dvādasavidhena vipallāsena abhinivesavatthubhūte ārammaṇe pavattanti. Te vuccanti diṭṭhicaritāti te avijjābhibhūtā rūpādīni niccādito abhinivisantā diṭṭhicaritāti vuccanti, diṭṭhicaritā nāmāti attho. Taṇhāpakkhenāti aṭṭhasatataṇhāvicaritena. Diṭṭhivicarite taṇhāvicarite ca paṭipattiyā vibhajitvā dassetuṃ ‘‘diṭṭhicaritā’’tiādi vuttaṃ. Tattha attakilamathānuyoganti attano kāyassa kilissanapayogaṃ attaparitāpanapaṭipattiṃ. Kāmasukhallikānuyoganti kāmasukhassa allīyanapayogaṃ kāmesu pātabyataṃ.

    ยทิปิ พาหิรกา ‘‘ทุกฺขํ ตณฺหา’’ติ จ ชานนฺติ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺข’’นฺติ, ‘‘อยํ ตณฺหา, อยํ ตสฺสา วิราโค’’ติ ปริเญฺญยฺยปหาตพฺพภาเวน ปน น ชานนฺติ, อิติ ปวตฺติปวตฺติเหตุมตฺตมฺปิ น ชานนฺติฯ กา ปน กถา นิวตฺตินิวตฺติเหตูสูติ อาห – ‘‘อิโต พหิทฺธา นตฺถิ สจฺจววตฺถาน’’นฺติอาทิฯ ตตฺถ สจฺจปฺปกาสนาติ สจฺจเทสนาฯ สมถวิปสฺสนาโกสลฺลนฺติ สมถวิปสฺสนาสุ ภาวนาโกสลฺลํ, ตาสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนมนสิการโกสลฺลํ วาฯ วิปสฺสนาธิฎฺฐานเญฺจตฺถ สมถํ อธิเปฺปตํฯ อุปสมสุขปฺปตฺตีติ กิเลสานํ วูปสมสุขาธิคโมฯ วิปรีตเจตาติ มิจฺฉาภินิวิฎฺฐเจตาฯ นตฺถิ สุเขน สุขนฺติ ยํ อนวชฺชปจฺจยปริโภคสุเขน กายํ จิตฺตญฺจ ปฎิปฺปสฺสทฺธทรถํ กตฺวา อริเยหิ ปตฺตพฺพํ อุปสมสุขํ, ตํ ปฎิกฺขิปติฯ ทุเกฺขนาติ กายเขทนทุเกฺขนฯ

    Yadipi bāhirakā ‘‘dukkhaṃ taṇhā’’ti ca jānanti ‘‘idaṃ dukkhaṃ, ettakaṃ dukkha’’nti, ‘‘ayaṃ taṇhā, ayaṃ tassā virāgo’’ti pariññeyyapahātabbabhāvena pana na jānanti, iti pavattipavattihetumattampi na jānanti. Kā pana kathā nivattinivattihetūsūti āha – ‘‘ito bahiddhā natthi saccavavatthāna’’ntiādi. Tattha saccappakāsanāti saccadesanā. Samathavipassanākosallanti samathavipassanāsu bhāvanākosallaṃ, tāsu uggahaparipucchāsavanamanasikārakosallaṃ vā. Vipassanādhiṭṭhānañcettha samathaṃ adhippetaṃ. Upasamasukhappattīti kilesānaṃ vūpasamasukhādhigamo. Viparītacetāti micchābhiniviṭṭhacetā. Natthi sukhena sukhanti yaṃ anavajjapaccayaparibhogasukhena kāyaṃ cittañca paṭippassaddhadarathaṃ katvā ariyehi pattabbaṃ upasamasukhaṃ, taṃ paṭikkhipati. Dukkhenāti kāyakhedanadukkhena.

    โส โลกํ วฑฺฒยตีติ โส กาเม ปฎิเสเวโนฺต อตฺตภาวสงฺขาตํ โลกํ วเฑฺฒติ ปีเนติฯ ปุตฺตนตฺตุปรมฺปราย วา สํสารสฺส อนุปเจฺฉทนโต สตฺตโลกํ วเฑฺฒติฯ พหุํ ปุญฺญํ ปสวตีติ อตฺตโน ปญฺจหิ กามคุเณหิ สนฺตปฺปเนน ปุตฺตมุขทสฺสเนน จ พหุํ ปุญฺญํ อุปฺปาเทติฯ อภินิเวสสฺส นาติทฬฺหตาย เอวํสญฺญีฯ ทฬฺหตาย เอวํทิฎฺฐี ทุเกฺขน สุขํ ปตฺถยมานา อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา กาเมสุ ปุญฺญสญฺญี กามสุขลฺลิกานุโยคมนุยุตฺตา จ วิหรนฺตีติ โยเชตพฺพํฯ

    So lokaṃ vaḍḍhayatīti so kāme paṭisevento attabhāvasaṅkhātaṃ lokaṃ vaḍḍheti pīneti. Puttanattuparamparāya vā saṃsārassa anupacchedanato sattalokaṃ vaḍḍheti. Bahuṃ puññaṃ pasavatīti attano pañcahi kāmaguṇehi santappanena puttamukhadassanena ca bahuṃ puññaṃ uppādeti. Abhinivesassa nātidaḷhatāya evaṃsaññī. Daḷhatāya evaṃdiṭṭhī dukkhena sukhaṃ patthayamānā attakilamathānuyogamanuyuttā kāmesu puññasaññī kāmasukhallikānuyogamanuyuttā ca viharantīti yojetabbaṃ.

    ตทภิญฺญา สนฺตาติ ตถาสญฺญิโน สมานาฯ โรคเมว วฑฺฒยนฺตีติ อตฺตภาวโรคเมว กิเลสโรคเมว วา อปราปรํ วเฑฺฒนฺติฯ คณฺฑสเลฺลสุปิ เอเสว นโยฯ โรคาภิตุนฺนาติ ยถาวุตฺตโรคพฺยาธิตาฯ คณฺฑปฎิปีฬิตาติ ยถาวุตฺตคณฺฑพาธิตาฯ สลฺลานุวิทฺธาติ ยถาวุตฺตสเลฺลน อนุปวิฎฺฐาฯ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชานีติ อุปปชฺชนจวนานิฯ อุคฺฆาตนิคฺฆาตนฺติ อุจฺจาวจภาวํฯ โรคคณฺฑสลฺลเภสชฺชนฺติ ยถาวุตฺตโรคาทิติกิจฺฉนํ, สมถวิปสฺสนํ สนฺธาย วทติฯ เตเนวาห – ‘‘สมถวิปสฺสนา โรคนิคฺฆาตกเภสชฺช’’นฺติฯ ตตฺถ โรคนิคฺฆาตกนฺติ โรควูปสมนํฯ ‘‘สํกิเลโส ทุกฺข’’นฺติอาทินา สจฺจานิ เตสํ ปริเญฺญยฺยาทิภาเวน กเถติฯ

    Tadabhiññā santāti tathāsaññino samānā. Rogameva vaḍḍhayantīti attabhāvarogameva kilesarogameva vā aparāparaṃ vaḍḍhenti. Gaṇḍasallesupi eseva nayo. Rogābhitunnāti yathāvuttarogabyādhitā. Gaṇḍapaṭipīḷitāti yathāvuttagaṇḍabādhitā. Sallānuviddhāti yathāvuttasallena anupaviṭṭhā. Ummujjanimujjānīti upapajjanacavanāni. Ugghātanigghātanti uccāvacabhāvaṃ. Rogagaṇḍasallabhesajjanti yathāvuttarogāditikicchanaṃ, samathavipassanaṃ sandhāya vadati. Tenevāha – ‘‘samathavipassanā roganigghātakabhesajja’’nti. Tattha roganigghātakanti rogavūpasamanaṃ. ‘‘Saṃkileso dukkha’’ntiādinā saccāni tesaṃ pariññeyyādibhāvena katheti.

    ตตฺถ สํกิเลโส ทุกฺขนฺติ อตฺตกิลมถานุโยคกามสุขลฺลิกานุโยคสํกิเลสวโนฺต, เตหิ วา สํกิลิสฺสมาโน รูปารูปกาโย ทุกฺขํ อริยสจฺจํฯ ตทภิสโงฺค ตณฺหาติ ตตฺถ อภิสโงฺค อาสโงฺคติ ลทฺธนามา ตณฺหาฯ

    Tattha saṃkileso dukkhanti attakilamathānuyogakāmasukhallikānuyogasaṃkilesavanto, tehi vā saṃkilissamāno rūpārūpakāyo dukkhaṃ ariyasaccaṃ. Tadabhisaṅgo taṇhāti tattha abhisaṅgo āsaṅgoti laddhanāmā taṇhā.

    ๘๐. อิทานิ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทิฎฺฐิทสฺสเน ปวตฺติเภทํ ทเสฺสตุํ ‘‘ทิฎฺฐิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ทิฎฺฐิจริตา รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตีติ ทิฎฺฐิจริตา ทิฎฺฐาภินิเวสสฺส พลวภาวโต รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติฯ เตสญฺหิ อตฺตาภินิเวโส พลวา, น ตถา อตฺตนิยาภินิเวโสฯ เอส นโย เวทนนฺติอาทีสุปิฯ ตณฺหาจริตา รูปวนฺตํ อตฺตานนฺติ ตณฺหาจริตา ตณฺหาภินิเวสสฺส พลวภาวโต รูปํ อตฺตโน กิญฺจนปลิโพธภาเว ฐเปตฺวา อวเสสํ เวทนาทิํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติฯ อตฺตนิ วา รูปนฺติ อตฺตาธารํ วา รูปํฯ รูปสฺมิํ วา อตฺตานนฺติ รูปาธารํ วา อตฺตานํฯ เวทนาวนฺตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ เอเตสญฺหิ อตฺตนิยาภินิเวโส พลวา, น ตถา อตฺตาภินิเวโสฯ ตสฺมา ยถาลทฺธํ อตฺตนิยนฺติ กเปฺปตฺวา ตทญฺญํ ‘‘อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติฯ อยํ วุจฺจติ วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฎฺฐีติ อยํ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ เอเกกสฺมิํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ คาหานํ วเสน วีสติวตฺถุกา สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปญฺจกสงฺขาเต กาเย, สตี วา วิชฺชมานา ตตฺถ ทิฎฺฐีติ สกฺกายทิฎฺฐิฯ

    80. Idāni diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadiṭṭhidassane pavattibhedaṃ dassetuṃ ‘‘diṭṭhicaritā’’tiādi vuttaṃ. Tattha diṭṭhicaritā rūpaṃ attato upagacchantīti diṭṭhicaritā diṭṭhābhinivesassa balavabhāvato rūpaṃ ‘‘attā’’ti gaṇhanti. Tesañhi attābhiniveso balavā, na tathā attaniyābhiniveso. Esa nayo vedanantiādīsupi. Taṇhācaritā rūpavantaṃ attānanti taṇhācaritā taṇhābhinivesassa balavabhāvato rūpaṃ attano kiñcanapalibodhabhāve ṭhapetvā avasesaṃ vedanādiṃ ‘‘attā’’ti gaṇhanti. Attani vā rūpanti attādhāraṃ vā rūpaṃ. Rūpasmiṃ vāattānanti rūpādhāraṃ vā attānaṃ. Vedanāvantantiādīsupi eseva nayo. Etesañhi attaniyābhiniveso balavā, na tathā attābhiniveso. Tasmā yathāladdhaṃ attaniyanti kappetvā tadaññaṃ ‘‘attā’’ti gaṇhanti. Ayaṃ vuccati vīsativatthukā sakkāyadiṭṭhīti ayaṃ pañcasu upādānakkhandhesu ekekasmiṃ catunnaṃ catunnaṃ gāhānaṃ vasena vīsativatthukā sati vijjamāne khandhapañcakasaṅkhāte kāye, satī vā vijjamānā tattha diṭṭhīti sakkāyadiṭṭhi.

    โลกุตฺตรา สมฺมาทิฎฺฐีติ ปฐมมคฺคสมฺมาทิฎฺฐิฯ อนฺวายิกาติ สมฺมาทิฎฺฐิยา อนุคามิโนฯ ยทา สมฺมาทิฎฺฐิ สกฺกายทิฎฺฐิยา ปชหนวเสน ปวตฺตา, ตทา ตสฺสา อนุคุณภาเวน ปวตฺตมานกาติ อโตฺถฯ เก ปน เตติ? อาห ‘‘สมฺมาสงฺกโปฺป’’ติอาทิฯ ‘‘เต ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา อริยมคฺคโต ขนฺธมุเขน สมถวิปสฺสนา นิทฺธาเรติฯ ‘‘ตตฺถ สกฺกาโย’’ติอาทิ จตุสจฺจนิทฺธารณํฯ ตํ สพฺพํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Lokuttarā sammādiṭṭhīti paṭhamamaggasammādiṭṭhi. Anvāyikāti sammādiṭṭhiyā anugāmino. Yadā sammādiṭṭhi sakkāyadiṭṭhiyā pajahanavasena pavattā, tadā tassā anuguṇabhāvena pavattamānakāti attho. Ke pana teti? Āha ‘‘sammāsaṅkappo’’tiādi. ‘‘Te tayo khandhā’’tiādinā ariyamaggato khandhamukhena samathavipassanā niddhāreti. ‘‘Tattha sakkāyo’’tiādi catusaccaniddhāraṇaṃ. Taṃ sabbaṃ suviññeyyameva.

    ปุน ‘‘ตตฺถ เย รูปํ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตี’’ติอาทินา สกฺกายทสฺสนมุเขน อุเจฺฉทาทิอนฺตทฺวยํ, มชฺฌิมญฺจ ปฎิปทํ นิทฺธาเรติฯ ตตฺถ อิเม วุจฺจนฺติ อุเจฺฉทวาทิโนติ อิเม รูปาทิเก ปญฺจกฺขเนฺธ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺตา รูปาทีนํ อนิจฺจภาวโต อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณาติ เอวํ อภินิวิสนโต ‘‘อุเจฺฉทวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติฯ อิเม วุจฺจนฺติ สสฺสตวาทิโนติ อิเม ‘‘รูปวนฺตํ วา อตฺตาน’’นฺติอาทินา รูปาทิวินิมุโตฺต อโญฺญ โกจิ อตฺตาติ อุปคจฺฉนฺตา ‘‘โส นิโจฺจ ธุโว สสฺสโต’’ติ อภินิวิสนโต ‘‘สสฺสตวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติฯ ‘‘อุเจฺฉทสสฺสตวาทา อุโภ อนฺตา, อยํ สํสารปวตฺตี’’ติอาทิ สจฺจนิทฺธารณํ, ตํ สุวิเญฺญยฺยํฯ

    Puna ‘‘tattha ye rūpaṃ attato upagacchantī’’tiādinā sakkāyadassanamukhena ucchedādiantadvayaṃ, majjhimañca paṭipadaṃ niddhāreti. Tattha ime vuccanti ucchedavādinoti ime rūpādike pañcakkhandhe attato upagacchantā rūpādīnaṃ aniccabhāvato ucchijjati attā vinassati na hoti paraṃ maraṇāti evaṃ abhinivisanato ‘‘ucchedavādino’’ti vuccanti. Ime vuccanti sassatavādinoti ime ‘‘rūpavantaṃ vā attāna’’ntiādinā rūpādivinimutto añño koci attāti upagacchantā ‘‘so nicco dhuvo sassato’’ti abhinivisanato ‘‘sassatavādino’’ti vuccanti. ‘‘Ucchedasassatavādā ubho antā, ayaṃ saṃsārapavattī’’tiādi saccaniddhāraṇaṃ, taṃ suviññeyyaṃ.

    อุเจฺฉทสสฺสตํ สมาสโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฎฺฐีติ อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ อตฺตา นิโจฺจติ จ อาทิปฺปวตฺตนโต อุเจฺฉทสสฺสตทสฺสนํ สเงฺขปโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฎฺฐิ เอว โหติฯ สโพฺพปิ หิ อตฺตวาโท สกฺกายทิฎฺฐิอโนฺตคโธ เอวาติฯ วิตฺถารโต ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานีติ อุเจฺฉทสสฺสตทสฺสนํ วิตฺถาเรน พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๒๘ อาทโย) อาคตานิ ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิฯ เตสนฺติ เอวํ สเงฺขปวิตฺถารวนฺตานํ อุเจฺฉทสสฺสตทสฺสนานํฯ ปฎิปโกฺขติ ปหายกปฎิปโกฺขฯ เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมาติ อนิจฺจสญฺญา ทุกฺขสญฺญา อนตฺตสญฺญา ปหานสญฺญา วิราคสญฺญา นิโรธสญฺญา จตฺตาโร สติปฎฺฐานา…เป.… อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺคติ เอเต เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมาฯ

    Ucchedasassataṃ samāsato vīsativatthukā sakkāyadiṭṭhīti attā ucchijjati attā niccoti ca ādippavattanato ucchedasassatadassanaṃ saṅkhepato vīsativatthukā sakkāyadiṭṭhi eva hoti. Sabbopi hi attavādo sakkāyadiṭṭhiantogadho evāti. Vitthārato dvāsaṭṭhi diṭṭhigatānīti ucchedasassatadassanaṃ vitthārena brahmajāle (dī. ni. 1.28 ādayo) āgatāni dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni. Tesanti evaṃ saṅkhepavitthāravantānaṃ ucchedasassatadassanānaṃ. Paṭipakkhoti pahāyakapaṭipakkho. Tecattālīsaṃ bodhipakkhiyā dhammāti aniccasaññā dukkhasaññā anattasaññā pahānasaññā virāgasaññā nirodhasaññā cattāro satipaṭṭhānā…pe… ariyo aṭṭhaṅgiko maggoti ete tecattālīsaṃ bodhipakkhiyā dhammā.

    เอวํ วิปสฺสนาวเสน ปฎิปกฺขํ ทเสฺสตฺวา ปุน สมถวเสน ทเสฺสตุํ ‘‘อฎฺฐ วิโมกฺขา ทส จ กสิณายตนานี’’ติ วุตฺตํฯ ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิ โมหชาลนฺติ ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิ โมหชาลเหตุกตฺตา โมหชาลญฺจฯ อนาทิอนิธนปฺปวตฺตนฺติ ปุริมาย โกฎิยา อภาวโต อนาทิฯ อสติ ปฎิปกฺขาธิคเม สนฺตานวเสน อนุปเจฺฉเทน ปวตฺตนโต อนิธนปฺปวตฺตํฯ ยสฺมา ปน โมหชาลเหตุกานิ ทิฎฺฐิคตานิ โมหชาเล ปทาลิเต ปทาลิตานิ โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา ญาณวชิรํ โมหชาลปฺปทาลน’’นฺติฯ

    Evaṃ vipassanāvasena paṭipakkhaṃ dassetvā puna samathavasena dassetuṃ ‘‘aṭṭha vimokkhā dasa ca kasiṇāyatanānī’’ti vuttaṃ. Dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni mohajālanti dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni mohajālahetukattā mohajālañca. Anādianidhanappavattanti purimāya koṭiyā abhāvato anādi. Asati paṭipakkhādhigame santānavasena anupacchedena pavattanato anidhanappavattaṃ. Yasmā pana mohajālahetukāni diṭṭhigatāni mohajāle padālite padālitāni honti, tasmā vuttaṃ – ‘‘tecattālīsaṃ bodhipakkhiyā dhammā ñāṇavajiraṃ mohajālappadālana’’nti.

    ตตฺถ ญาณวชิรนฺติ วชิรูปมญาณํฯ อฎฺฐ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา เตเชตฺวา ติกฺขสภาวํ อาปาทิตํ วิปสฺสนาญาณํ มคฺคญาณญฺจ ญาณวชิรํฯ อิทเมว หิ ญาณํ ภควโต ปวตฺตํ ‘‘มหาวชิรญาณ’’นฺติ วุจฺจติฯ ตํ ปน สสมฺภารํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยา ธมฺมา’’ติ อาหฯ โมหชาลปฺปทาลนนฺติ ปุพฺพภาเค วิกฺขมฺภนวเสน มคฺคกฺขเณ สมุเจฺฉทวเสน อวิชฺชาภวตณฺหานํ ปทาลนํฯ อตีตาทิเภทภิเนฺนสุ รูปาทีสุ สกอตฺตภาวาทีสุ จ สํสิพฺพนวเสน ปวตฺตนโต ชาลํ ภวตณฺหาฯ ตสฺสา หิ ตณฺหา ชาลินี สิพฺพินี ชาลนฺติ จ อธิวจนนฺติฯ เอวํ อตฺตกิลมถานุโยคกามสุขลฺลิกานุโยคทิฎฺฐิตณฺหาภินิเวสสสฺสตุเจฺฉทานํ นิทฺธารณวเสน โมหชาลปริยายวิเสสโต อวิชฺชาตณฺหา วิภชิตฺวา ยถานุสนฺธินา สํกิเลสปกฺขํ นิคเมโนฺต ‘‘เตน วุจฺจติ ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จา’’ติ อาหฯ

    Tattha ñāṇavajiranti vajirūpamañāṇaṃ. Aṭṭha samāpattiyo samāpajjitvā tejetvā tikkhasabhāvaṃ āpāditaṃ vipassanāñāṇaṃ maggañāṇañca ñāṇavajiraṃ. Idameva hi ñāṇaṃ bhagavato pavattaṃ ‘‘mahāvajirañāṇa’’nti vuccati. Taṃ pana sasambhāraṃ katvā dassento ‘‘tecattālīsaṃ bodhipakkhiyā dhammā’’ti āha. Mohajālappadālananti pubbabhāge vikkhambhanavasena maggakkhaṇe samucchedavasena avijjābhavataṇhānaṃ padālanaṃ. Atītādibhedabhinnesu rūpādīsu sakaattabhāvādīsu ca saṃsibbanavasena pavattanato jālaṃ bhavataṇhā. Tassā hi taṇhā jālinī sibbinī jālanti ca adhivacananti. Evaṃ attakilamathānuyogakāmasukhallikānuyogadiṭṭhitaṇhābhinivesasassatucchedānaṃ niddhāraṇavasena mohajālapariyāyavisesato avijjātaṇhā vibhajitvā yathānusandhinā saṃkilesapakkhaṃ nigamento ‘‘tena vuccati pubbā koṭi na paññāyati avijjāya ca bhavataṇhāya cā’’ti āha.

    ๘๑. ‘‘ตตฺถ ทิฎฺฐิจริโต’’ติอาทินา โวทานปกฺขํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ สเลฺลขานุสนฺตตวุตฺตีติ อนุปทฺทุตสเลฺลขวุตฺติฯ กสฺมา? ยสฺมา สเลฺลเข ติพฺพคารโวฯ ทิฎฺฐิจริโต หิ ตโปชิคุจฺฉาทินา อนุปาเยนปิ เยภุเยฺยน กิเลสานํ สเลฺลขนาธิปฺปาเยน จรติ, ตสฺมา โส สาสเน ปพฺพชิโต ธุตธมฺมวเสน สเลฺลขปฎิปทํ ปูเรติฯ สิกฺขานุสนฺตตวุตฺตีติ อจฺฉิทฺทจตุปาริสุทฺธิสีลวุตฺติฯ ทิฎฺฐิยา สวิสเย ปญฺญาสทิสี ปวตฺตีติ โส วิสุชฺฌมาโน ปญฺญาธิโก โหตีติ อาห – ‘‘ทิฎฺฐิจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมโนฺต ธมฺมานุสารี ภวตี’’ติฯ ตณฺหาวเสน มิจฺฉาวิโมโกฺข โหตีติ ตณฺหาจริโต วิสุชฺฌมาโน สทฺธาธิโกว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตณฺหาจริโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมโนฺต สทฺธานุสารี ภวตี’’ติฯ ทิฎฺฐิจริโต สุขาย ปฎิปทายาติอาทิ ปฎิปทานิเทฺทโส เหฎฺฐา เทสนาหารวิภเงฺค (เนตฺติ. ๕ อาทโย) อาคโต เอว, อโตฺถปิ ตตฺถ สพฺพปฺปการโต วุโตฺต เอวฯ

    81.‘‘Tatthadiṭṭhicarito’’tiādinā vodānapakkhaṃ dasseti. Tattha sallekhānusantatavuttīti anupaddutasallekhavutti. Kasmā? Yasmā sallekhe tibbagāravo. Diṭṭhicarito hi tapojigucchādinā anupāyenapi yebhuyyena kilesānaṃ sallekhanādhippāyena carati, tasmā so sāsane pabbajito dhutadhammavasena sallekhapaṭipadaṃ pūreti. Sikkhānusantatavuttīti acchiddacatupārisuddhisīlavutti. Diṭṭhiyā savisaye paññāsadisī pavattīti so visujjhamāno paññādhiko hotīti āha – ‘‘diṭṭhicarito sammattaniyāmaṃ okkamanto dhammānusārī bhavatī’’ti. Taṇhāvasena micchāvimokkho hotīti taṇhācarito visujjhamāno saddhādhikova hoti, tasmā vuttaṃ – ‘‘taṇhācarito sammattaniyāmaṃ okkamanto saddhānusārī bhavatī’’ti. Diṭṭhicarito sukhāya paṭipadāyātiādi paṭipadāniddeso heṭṭhā desanāhāravibhaṅge (netti. 5 ādayo) āgato eva, atthopi tattha sabbappakārato vutto eva.

    อปุพฺพปเทสุ ปน วิเวจิยมาโนติ วิโมจิยมาโนฯ ปฎินิสฺสรตีติ นิยฺยาติ วิมุจฺจตีติ อโตฺถฯ ทนฺธญฺจ ธมฺมํ อาชานาตีติ ตณฺหาจริตสฺส มนฺทปญฺญสฺส วเสน วุตฺตํฯ ติกฺขปโญฺญ ปน ขิปฺปํ ธมฺมํ อาชานาตีติฯ ‘‘สตฺตาปิ ทุวิธา’’ติอาทินา อินฺทฺริยวิภาเคน ปุน ปฎิปทาวิภาคํ ทเสฺสติ, ตํ สุวิเญฺญยฺยํฯ

    Apubbapadesu pana viveciyamānoti vimociyamāno. Paṭinissaratīti niyyāti vimuccatīti attho. Dandhañca dhammaṃ ājānātīti taṇhācaritassa mandapaññassa vasena vuttaṃ. Tikkhapañño pana khippaṃ dhammaṃ ājānātīti. ‘‘Sattāpi duvidhā’’tiādinā indriyavibhāgena puna paṭipadāvibhāgaṃ dasseti, taṃ suviññeyyaṃ.

    ‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทินา ตาสํ ปฎิปทานํ นิยฺยาเน ตีสุปิ กาเลสุ เอกนฺติกภาวํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ อิมาหิ เอว จตูหิ ปฎิปทาหีติ อิมาหิ เอว จตูหิ ปฎิปทาหิ, ตพฺพินิมุตฺตาย อญฺญาย ปฎิปทาย อภาวโตฯ จตุกฺกมคฺคนฺติ ปฎิปทาจตุกฺกํ, ปฎิปทา หิ มโคฺคติฯ อถ วา จตุกฺกมคฺคนฺติ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส จตุทฺทิสาสงฺขาตํ มคฺคํฯ ตา ปน จตโสฺส ทิสา ทิสาโลจนนเย อาคมิสฺสนฺติฯ กิมตฺถํ ปน จตุกฺกมคฺคํ ปญฺญเปนฺตีติ อาห ‘‘อพุธชนเสวิตายา’’ติอาทิฯ ตตฺถ อพุธชนเสวิตายาติ อปณฺฑิตชนเสวิตายฯ พาลกนฺตายาติ พาลชนกามิตายฯ รตฺตวาสินิยาติ รเตฺตสุ ราคาภิภูเตสุ วสตีติ รตฺตวาสินี, ตสฺสาฯ นนฺทิยาติ ตตฺร ตตฺราภินนฺทนเฎฺฐน นนฺทีสงฺขาตายฯ อวฎฺฎนตฺถนฺติ สมุจฺฉินฺทนตฺถํฯ อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมีติ อยํ ตณฺหาวิชฺชานํ วเสน สํกิเลสปเกฺข เทฺว ทิสา สมถวิปสฺสนานํ วเสน โวทานปเกฺขปิ เทฺว ทิสา จตุสจฺจโยชนา นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส สมุฎฺฐานตาย ภูมีติฯ

    ‘‘Ye hi kecī’’tiādinā tāsaṃ paṭipadānaṃ niyyāne tīsupi kālesu ekantikabhāvaṃ dasseti. Tattha imāhi eva catūhi paṭipadāhīti imāhi eva catūhi paṭipadāhi, tabbinimuttāya aññāya paṭipadāya abhāvato. Catukkamagganti paṭipadācatukkaṃ, paṭipadā hi maggoti. Atha vā catukkamagganti nandiyāvaṭṭassa catuddisāsaṅkhātaṃ maggaṃ. Tā pana catasso disā disālocananaye āgamissanti. Kimatthaṃ pana catukkamaggaṃ paññapentīti āha ‘‘abudhajanasevitāyā’’tiādi. Tattha abudhajanasevitāyāti apaṇḍitajanasevitāya. Bālakantāyāti bālajanakāmitāya. Rattavāsiniyāti rattesu rāgābhibhūtesu vasatīti rattavāsinī, tassā. Nandiyāti tatra tatrābhinandanaṭṭhena nandīsaṅkhātāya. Avaṭṭanatthanti samucchindanatthaṃ. Ayaṃ vuccati nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmīti ayaṃ taṇhāvijjānaṃ vasena saṃkilesapakkhe dve disā samathavipassanānaṃ vasena vodānapakkhepi dve disā catusaccayojanā nandiyāvaṭṭassa nayassa samuṭṭhānatāya bhūmīti.

    ๘๒. เอวํ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมิํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตสฺส ทิสาภูตธเมฺม นิทฺทิสเนฺตน ยสฺมา จสฺส ทิสาภูตธเมฺมสุ วุเตฺตสุ ทิสาโลจนนโย วุโตฺตเยว โหติ, ตสฺมา ‘‘เวยฺยากรเณสุ หิ เย กุสลากุสลา’’ติ ทิสาโลจนลกฺขณํ เอกเทเสน ปจฺจามสิตฺวา ‘‘เต ทุวิธา อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ เตติ ทิสาภูตธมฺมาฯ ทุวิธาติ ‘‘อิเม สํกิเลสธมฺมา, อิเม โวทานธมฺมา’’ติ เอวํ ทุวิเธนฯ อุปปริกฺขิตพฺพาติ อุปปตฺติโต ปริโต อิกฺขิตพฺพา, ธมฺมยุตฺติโต ตํตํทิสาภาเวน เปกฺขิตพฺพา อาโลจิตพฺพาติ อโตฺถฯ

    82. Evaṃ nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmiṃ niddisitvā idāni tassa disābhūtadhamme niddisantena yasmā cassa disābhūtadhammesu vuttesu disālocananayo vuttoyeva hoti, tasmā ‘‘veyyākaraṇesu hi ye kusalākusalā’’ti disālocanalakkhaṇaṃ ekadesena paccāmasitvā ‘‘te duvidhā upaparikkhitabbā’’tiādi āraddhaṃ. Tattha teti disābhūtadhammā. Duvidhāti ‘‘ime saṃkilesadhammā, ime vodānadhammā’’ti evaṃ duvidhena. Upaparikkhitabbāti upapattito parito ikkhitabbā, dhammayuttito taṃtaṃdisābhāvena pekkhitabbā ālocitabbāti attho.

    ยํ ปการํ สนฺธาย ‘‘ทุวิธา อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ทเสฺสติ ‘‘โลกวฎฺฎานุสารี จ โลกวิวฎฺฎานุสารี จา’’ติฯ ตสฺสโตฺถ – โลโก เอว วฎฺฎํ โลกวฎฺฎํฯ โลกวฎฺฎภาเวน อนุสรติ ปวตฺตตีติ โลกวฎฺฎานุสารี, สํกิเลสธโมฺมติ อโตฺถฯ โลกสฺส, โลกโต วา วิวฎฺฎํ โลกวิวฎฺฎํ, นิพฺพานํฯ ตํ อนุสรติ อนุโลมนวเสน คจฺฉตีติ โลกวิวฎฺฎานุสารี, โวทานธโมฺมติ อโตฺถฯ เตเนวาห – ‘‘วฎฺฎํ นาม สํสาโร, วิวฎฺฎํ นิพฺพาน’’นฺติฯ

    Yaṃ pakāraṃ sandhāya ‘‘duvidhā upaparikkhitabbā’’ti vuttaṃ, taṃ dasseti ‘‘lokavaṭṭānusārī ca lokavivaṭṭānusārī cā’’ti. Tassattho – loko eva vaṭṭaṃ lokavaṭṭaṃ. Lokavaṭṭabhāvena anusarati pavattatīti lokavaṭṭānusārī, saṃkilesadhammoti attho. Lokassa, lokato vā vivaṭṭaṃ lokavivaṭṭaṃ, nibbānaṃ. Taṃ anusarati anulomanavasena gacchatīti lokavivaṭṭānusārī, vodānadhammoti attho. Tenevāha – ‘‘vaṭṭaṃ nāma saṃsāro, vivaṭṭaṃ nibbāna’’nti.

    ตํ กถํ ทฎฺฐพฺพนฺติ ตํ กถํ เกน ปกาเรน ทฎฺฐพฺพนฺติ เจ? อุปจเยนฯ ยถา กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตนฺติ วุจฺจติฯ เอวํ อุปจิตภาเว กมฺมํ นาม โหติ, วิปากวฎฺฎสฺส การณํ โหตีติ อโตฺถฯ สเพฺพปิ กิเลสา จตูหิ วิปลฺลาเสหิ นิทฺทิสิตพฺพา, ทสนฺนมฺปิ กิเลสานํ วิปลฺลาสเหตุภาวโตฯ เต กตฺถ ทฎฺฐพฺพาติ เต ปน วิปลฺลาสา กตฺถ ปสฺสิตพฺพาติ อาห – ‘‘ทส วตฺถุเก กิเลสปุเญฺช’’ติฯ ทสวิธการเณ กิเลสสมูเหติ อโตฺถฯ ตตฺถ กิเลสาปิ กิเลสวตฺถุ, กิเลสานํ ปจฺจยธมฺมาปิ กิเลสวตฺถุฯ เตสุ การณภาเวน ปุริมสิทฺธา กิเลสา ปรโต ปเรสํ กิเลสานํ ปจฺจยภาวโต กิเลสาปิ กิเลสวตฺถุฯ อโยนิโสมนสิกาโร, อโยนิโสมนสิการปริกฺขตา จ ธมฺมา กิเลสุปฺปตฺติเหตุภาวโต กิเลสปฺปจฺจยาปิ กิเลสวตฺถูติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Taṃkathaṃ daṭṭhabbanti taṃ kathaṃ kena pakārena daṭṭhabbanti ce? Upacayena. Yathā kataṃ kammaṃ phaladānasamatthaṃ hoti, tathā kataṃ upacitanti vuccati. Evaṃ upacitabhāve kammaṃ nāma hoti, vipākavaṭṭassa kāraṇaṃ hotīti attho. Sabbepi kilesā catūhi vipallāsehi niddisitabbā, dasannampi kilesānaṃ vipallāsahetubhāvato. Te kattha daṭṭhabbāti te pana vipallāsā kattha passitabbāti āha – ‘‘dasa vatthuke kilesapuñje’’ti. Dasavidhakāraṇe kilesasamūheti attho. Tattha kilesāpi kilesavatthu, kilesānaṃ paccayadhammāpi kilesavatthu. Tesu kāraṇabhāvena purimasiddhā kilesā parato paresaṃ kilesānaṃ paccayabhāvato kilesāpi kilesavatthu. Ayonisomanasikāro, ayonisomanasikāraparikkhatā ca dhammā kilesuppattihetubhāvato kilesappaccayāpi kilesavatthūti daṭṭhabbaṃ.

    จตฺตาโร อาหาราติ เอตฺถ อาหารสีเสน ตพฺพิสยา กิเลสาปิ อธิเปฺปตาฯ จตโสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติโยติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ‘‘ปฐเม อาหาเร’’ติอาทินา ทสวตฺถุเก กิเลสปุเญฺช ปุริมํ ปุริมํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส การณนฺติ ทเสฺสติฯ ตตฺถ ปฐเม อาหาเรติ วิสยภูเต ปฐเม อาหาเร ปฐโม วิปลฺลาโส ปวตฺตตีติ อโตฺถฯ เสสาหาเรสุปิ เอเสว นโยฯ ปฐเม วิปลฺลาเสติ ปฐเม วิปลฺลาเส อปฺปหีเน สติ ปฐมํ อุปาทานํ ปวตฺตตีติ อโตฺถฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ นิเทฺทเสเยว กถยิสฺสามฯ

    Cattāroāhārāti ettha āhārasīsena tabbisayā kilesāpi adhippetā. Catasso viññāṇaṭṭhitiyoti etthāpi eseva nayo. ‘‘Paṭhame āhāre’’tiādinā dasavatthuke kilesapuñje purimaṃ purimaṃ pacchimassa pacchimassa kāraṇanti dasseti. Tattha paṭhame āhāreti visayabhūte paṭhame āhāre paṭhamo vipallāso pavattatīti attho. Sesāhāresupi eseva nayo. Paṭhame vipallāseti paṭhame vipallāse appahīne sati paṭhamaṃ upādānaṃ pavattatīti attho. Sesapadesupi eseva nayo. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ niddeseyeva kathayissāma.

    ๘๓. อิทานิ ทสวตฺถุกํ กิเลสปุญฺชํ ตณฺหาวิชฺชาวเสน เทฺว โกฎฺฐาเส กโรโนฺต ‘‘โย จ กพฬีกาโร อาหาโร’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ กพฬีการาหารํ ผสฺสาหารญฺจ อปริชานนฺตสฺส ตณฺหาจริตสฺส ยถากฺกมํ กายเวทนาสุ ติโพฺพ ฉนฺทราโค โหติ, อิติ อุปกฺกิเลสสฺส ฉนฺทราคสฺส เหตุภาวโต โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผโสฺส อาหาโร, อิเม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตาฯ ตถา มโนสเญฺจตนาหารํ วิญฺญาณาหารญฺจ อปริชานโนฺต ทิฎฺฐิจริโต เตสุ อตฺตสญฺญี นิจฺจสญฺญี จ โหตีติ วุตฺตนเยเนว เต ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตาฯ ตถา ปุริมกา เทฺว วิปลฺลาสา ปุริมกานิ เอว จ เทฺว เทฺวอุปาทานโยคคนฺถาสวโอฆสลฺลวิญฺญาณฎฺฐิติอคติคมนานิ ตณฺหาปธานตฺตา ตณฺหาสภาวตฺตา ตณฺหาวิสยตฺตา จ ตณฺหาจริตสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตาฯ ปจฺฉิมกานิ ปน ตานิ ทิฎฺฐิปธานตฺตา ทิฎฺฐิสภาวตฺตา ทิฎฺฐิวิสยตฺตา จ ทิฎฺฐิจริตสฺส อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตาติ ทฎฺฐพฺพาฯ

    83. Idāni dasavatthukaṃ kilesapuñjaṃ taṇhāvijjāvasena dve koṭṭhāse karonto ‘‘yo ca kabaḷīkāro āhāro’’tiādimāha. Tattha kabaḷīkārāhāraṃ phassāhārañca aparijānantassa taṇhācaritassa yathākkamaṃ kāyavedanāsu tibbo chandarāgo hoti, iti upakkilesassa chandarāgassa hetubhāvato yo ca kabaḷīkāro āhāro, yo ca phasso āhāro, ime taṇhācaritassa puggalassa upakkilesāti vuttā. Tathā manosañcetanāhāraṃ viññāṇāhārañca aparijānanto diṭṭhicarito tesu attasaññī niccasaññī ca hotīti vuttanayeneva te diṭṭhicaritassa puggalassa upakkilesāti vuttā. Tathā purimakā dve vipallāsā purimakāni eva ca dve dveupādānayogaganthāsavaoghasallaviññāṇaṭṭhitiagatigamanāni taṇhāpadhānattā taṇhāsabhāvattā taṇhāvisayattā ca taṇhācaritassa upakkilesāti vuttā. Pacchimakāni pana tāni diṭṭhipadhānattā diṭṭhisabhāvattā diṭṭhivisayattā ca diṭṭhicaritassa upakkilesāti vuttāti daṭṭhabbā.

    ๘๔. กพฬีกาเร อาหาเร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโสติ จตูสุ อาหาเรสุ กพฬีกาเร อาหาเร จตูสุ จ วิปลฺลาเสสุ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส ทฎฺฐโพฺพ กพฬีการาหารสฺส อสุภสภาวตฺตา อสุภสมุฎฺฐานตฺตา จฯ ตถา ผสฺสาหารสฺส ทุกฺขสภาวตฺตา ทุกฺขปจฺจยตฺตา จ วิเสสโต ตตฺถ ‘‘ทุเกฺข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโสฯ ตถา เยภุเยฺยน สตฺตา วิญฺญาเณ นิจฺจสญฺญิโน, สงฺขาเรสุ จ อตฺตสญฺญิโน, เจตนาปธานา จ สงฺขาราติ วุตฺตํ – ‘‘วิญฺญาเณ อาหาเร…เป.… อตฺตาติ วิปลฺลาโส’’ติฯ ปฐเม วิปลฺลาเส ฐิโต กาเม อุปาทิยตีติ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี กิเลสกาเมน วตฺถุกาเม ทฬฺหํ คณฺหาติ ฯ อิทํ วุจฺจติ กามุปาทานนฺติ ยํ ตถา กามานํ คหณํ, อิทํ วุจฺจติ กามุปาทานํฯ ‘‘ทุเกฺข สุข’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘สีลพฺพเตหิ อนาคเต ภววิสุทฺธีติ ตํ นิพฺพุติสุข’’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติฯ ‘‘อนิเจฺจ นิจฺจ’’นฺติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘สเพฺพ ภวา นิจฺจา ธุวา สสฺสตา อวิปริณามธมฺมา’’ติ สํสาราภินนฺทินิํ ภวทิฎฺฐิํ ทฬฺหํ คณฺหาติฯ ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปริเยสคฺคาหี ‘‘อสติ อตฺตนิ กสฺสิทํ กมฺมผลํ, ตสฺมา โส กโรติ, โส ปฎิสํเวเทตี’’ติ อตฺตทิฎฺฐิํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อิมมตฺถํ ทเสฺสติ ‘‘ทุติเย วิปลฺลาเส ฐิโต’’ติอาทินาฯ

    84.Kabaḷīkāre āhāre ‘‘asubhe subha’’nti vipallāsoti catūsu āhāresu kabaḷīkāre āhāre catūsu ca vipallāsesu ‘‘asubhe subha’’nti vipallāso daṭṭhabbo kabaḷīkārāhārassa asubhasabhāvattā asubhasamuṭṭhānattā ca. Tathā phassāhārassa dukkhasabhāvattā dukkhapaccayattā ca visesato tattha ‘‘dukkhe sukha’’nti vipallāso. Tathā yebhuyyena sattā viññāṇe niccasaññino, saṅkhāresu ca attasaññino, cetanāpadhānā ca saṅkhārāti vuttaṃ – ‘‘viññāṇe āhāre…pe… attāti vipallāso’’ti. Paṭhame vipallāse ṭhito kāme upādiyatīti ‘‘asubhe subha’’nti vipariyesaggāhī kilesakāmena vatthukāme daḷhaṃ gaṇhāti . Idaṃ vuccati kāmupādānanti yaṃ tathā kāmānaṃ gahaṇaṃ, idaṃ vuccati kāmupādānaṃ. ‘‘Dukkhe sukha’’nti vipariyesaggāhī ‘‘sīlabbatehi anāgate bhavavisuddhīti taṃ nibbutisukha’’nti daḷhaṃ gaṇhāti. ‘‘Anicce nicca’’nti vipariyesaggāhī ‘‘sabbe bhavā niccā dhuvā sassatā avipariṇāmadhammā’’ti saṃsārābhinandiniṃ bhavadiṭṭhiṃ daḷhaṃ gaṇhāti. ‘‘Anattani attā’’ti vipariyesaggāhī ‘‘asati attani kassidaṃ kammaphalaṃ, tasmā so karoti, so paṭisaṃvedetī’’ti attadiṭṭhiṃ daḷhaṃ gaṇhātīti imamatthaṃ dasseti ‘‘dutiye vipallāse ṭhito’’tiādinā.

    อยํ วุจฺจติ กามโยโคติ เยน กามราคสงฺขาเตน กามุปาทาเนน วตฺถุกาเมหิ สห สโตฺต สํโยชียติ, อยํ กามราโค ‘‘กามโยโค’’ติ วุจฺจติฯ อยํ วุจฺจติ ภวโยโคติ ยโต สีลพฺพตุปาทานสงฺขาเตน ภวุปาทาเนน ภเวน สห สโตฺต สํโยชียติ, อยํ ภวราโค ‘‘ภวโยโค’’ติ วุจฺจติฯ อยํ วุจฺจติ ทิฎฺฐิโยโคติ ยาย อเหตุกทิฎฺฐิอาทิสงฺขาตาย ปาปิกาย ทิฎฺฐิยา, สกฺกายทิฎฺฐิอาทิอวสิฎฺฐทิฎฺฐิยา จ สโตฺต ทุเกฺขน สห สํโยชียติ, อยํ ปาปิกา ทิฎฺฐิ ‘‘ทิฎฺฐิโยโค’’ติ วุจฺจติฯ อยํ วุจฺจติ อวิชฺชาโยโคติ ยาย อตฺตวาทุปาทาเนน สกลวฎฺฎทุเกฺขน จ สห สโตฺต สํโยชียติ, อยํ อวิชฺชา ‘‘อวิชฺชาโยโค’’ติ วุจฺจติฯ

    Ayaṃ vuccati kāmayogoti yena kāmarāgasaṅkhātena kāmupādānena vatthukāmehi saha satto saṃyojīyati, ayaṃ kāmarāgo ‘‘kāmayogo’’ti vuccati. Ayaṃ vuccati bhavayogoti yato sīlabbatupādānasaṅkhātena bhavupādānena bhavena saha satto saṃyojīyati, ayaṃ bhavarāgo ‘‘bhavayogo’’ti vuccati. Ayaṃ vuccati diṭṭhiyogoti yāya ahetukadiṭṭhiādisaṅkhātāya pāpikāya diṭṭhiyā, sakkāyadiṭṭhiādiavasiṭṭhadiṭṭhiyā ca satto dukkhena saha saṃyojīyati, ayaṃ pāpikā diṭṭhi ‘‘diṭṭhiyogo’’ti vuccati. Ayaṃ vuccati avijjāyogoti yāya attavādupādānena sakalavaṭṭadukkhena ca saha satto saṃyojīyati, ayaṃ avijjā ‘‘avijjāyogo’’ti vuccati.

    ยสฺมา ปน กามโยคาทโย อภิชฺฌากายคนฺถาทีนํ ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฐเม โยเค ฐิโต อภิชฺฌาย กายํ คนฺถตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อภิชฺฌาย กายํ คนฺถตีติ ปราภิชฺฌายนลกฺขณาย อภิชฺฌาย นามกายํ คนฺถติ ฆเฎฺฎตีติ อโตฺถฯ ตถา ภวปตฺถนาย อปฺปหีนตฺตา ภวทิฎฺฐิภวราควเสน อาฆาตวตฺถูสุ สตฺตา จิตฺตานิ ปทูเสนฺตีติ อาห – ‘‘ทุติเย โยเค ฐิโต พฺยาปาเทน กายํ คนฺถตี’’ติฯ ตถา ทิฎฺฐิวเสน อวิชฺชาวเสน จ สีลพฺพเตหิ สุชฺฌติ, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ จ อภินิวิสตีติ อาห – ‘‘ตติเย…เป.… อิทํสจฺจาภินิเวเสน กายํ คนฺถตี’’ติฯ

    Yasmā pana kāmayogādayo abhijjhākāyaganthādīnaṃ paccayā honti, tasmā ‘‘paṭhame yoge ṭhito abhijjhāya kāyaṃ ganthatī’’tiādi vuttaṃ. Tattha abhijjhāya kāyaṃ ganthatīti parābhijjhāyanalakkhaṇāya abhijjhāya nāmakāyaṃ ganthati ghaṭṭetīti attho. Tathā bhavapatthanāya appahīnattā bhavadiṭṭhibhavarāgavasena āghātavatthūsu sattā cittāni padūsentīti āha – ‘‘dutiye yoge ṭhito byāpādena kāyaṃ ganthatī’’ti. Tathā diṭṭhivasena avijjāvasena ca sīlabbatehi sujjhati, idameva saccaṃ moghamaññanti ca abhinivisatīti āha – ‘‘tatiye…pe… idaṃsaccābhinivesena kāyaṃ ganthatī’’ti.

    ตสฺสาติ ตสฺส อภิชฺฌาทีหิ สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺสฯ เอวํ คนฺถิตาติ เอวํ อภิชฺฌายนาทิวเสน นามกายํ คนฺถิตฺวา ฐิตาฯ อาสวนฺตีติ อาสวภาเวน ปวตฺตนฺติฯ กุโต จ วุจฺจติ อาสวนฺตีติ กุโต ปน เหตุโต เต กิเลสา อาสวนฺตีติ อาสวเหตุํ ปุจฺฉติฯ ยสฺมา ปน กิเลสา กุสลปฺปวตฺติํ นิวาเรตฺวา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐนฺตา, มเคฺคน อสมุจฺฉินฺนา เอว วา อาสวานํ อุปฺปตฺติเหตุ โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘อนุสยโต วา ปริยุฎฺฐานโต วา’’ติ วุตฺตํฯ อภิชฺฌากายคเนฺถน กามาสโวติ อภิชฺฌากายคเนฺถน สิเทฺธน กามราคสภาวตฺตา กามาสโว สิโทฺธ โหติฯ กตฺถจิเทว วิสเย โทมนสฺสิโต ตปฺปฎิปเกฺข วิสเย ตพฺพิสยพหุเล จ ภเว ปเตฺถตีติ อาห – ‘‘พฺยาปาทกายคเนฺถน ภวาสโว’’ติฯ ปรามาสกายคเนฺถน ทิฎฺฐาสโวติ สีลพฺพตปรามาสกายคเนฺถน สิเทฺธน ตํสภาวตฺตา อปราปรํ วา ทิฎฺฐิโย คเนฺถนฺตสฺส ทิฎฺฐาสโว สิโทฺธ โหติฯ อิทํสจฺจาภินิเวสกายคเนฺถน อวิชฺชาสโวติ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญ’’นฺติ อภินิวิสนฺตสฺส อโยนิโสมนสิการโต อเนเกหิ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สทฺธิํ อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชติ, สเพฺพสํ วา อกุสลธมฺมานํ อวิชฺชาปุพฺพงฺคมตฺตา อิทํสจฺจาภินิเวสกายคเนฺถน สิเทฺธน ตสฺส เหตุภูโต อวิชฺชาสโว สิโทฺธ โหติฯ

    Tassāti tassa abhijjhādīhi samannāgatassa puggalassa. Evaṃ ganthitāti evaṃ abhijjhāyanādivasena nāmakāyaṃ ganthitvā ṭhitā. Āsavantīti āsavabhāvena pavattanti. Kuto ca vuccati āsavantīti kuto pana hetuto te kilesā āsavantīti āsavahetuṃ pucchati. Yasmā pana kilesā kusalappavattiṃ nivāretvā cittaṃ pariyādāya tiṭṭhantā, maggena asamucchinnā eva vā āsavānaṃ uppattihetu honti, tasmā ‘‘anusayato vā pariyuṭṭhānato vā’’ti vuttaṃ. Abhijjhākāyaganthena kāmāsavoti abhijjhākāyaganthena siddhena kāmarāgasabhāvattā kāmāsavo siddho hoti. Katthacideva visaye domanassito tappaṭipakkhe visaye tabbisayabahule ca bhave patthetīti āha – ‘‘byāpādakāyaganthena bhavāsavo’’ti. Parāmāsakāyaganthena diṭṭhāsavoti sīlabbataparāmāsakāyaganthena siddhena taṃsabhāvattā aparāparaṃ vā diṭṭhiyo ganthentassa diṭṭhāsavo siddho hoti. Idaṃsaccābhinivesakāyaganthena avijjāsavoti ‘‘idameva saccaṃ moghamañña’’nti abhinivisantassa ayonisomanasikārato anekehi akusalehi dhammehi saddhiṃ avijjāsavo uppajjati, sabbesaṃ vā akusaladhammānaṃ avijjāpubbaṅgamattā idaṃsaccābhinivesakāyaganthena siddhena tassa hetubhūto avijjāsavo siddho hoti.

    ยสฺมา ปน อาสวา เอว ปริพุทฺธา วฎฺฎสฺมิํ โอหนนฺติ โอสาเทนฺตีติ ‘‘โอฆา’’ติ วุจฺจนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘ตสฺส อิเม จตฺตาโร อาสวา’’ติอาทิฯ

    Yasmā pana āsavā eva paribuddhā vaṭṭasmiṃ ohananti osādentīti ‘‘oghā’’ti vuccanti, tasmā vuttaṃ – ‘‘tassa ime cattāro āsavā’’tiādi.

    อนุสยสหคตาติ อนุสยภาวํ อปฺปฎิกฺขิปิตฺวา คตา ปวตฺตา, อนุสยภูตา วาฯ อชฺฌาสยนฺติ จิตฺตํฯ อนุปวิฎฺฐาติ โอคาฬฺหาฯ หทยํ อาหจฺจ ติฎฺฐนฺตีติ จิตฺตสฺส อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยํ อาหนฺตฺวา ติฎฺฐนฺติฯ ตถา หิ วุตฺตํ อฎฺฐสาลินิยํ (ธ. ส. อฎฺฐ. ๕) ‘‘อพฺภนฺตรเฎฺฐน หทย’’นฺติฯ เตน วุจฺจนฺติ สลฺลาติ ยสฺมา อชฺฌาสยํ อนุปวิฎฺฐา หทยํ อาหจฺจ ติฎฺฐนฺติ, เตน วุจฺจนฺติ ‘‘สลฺลา’’ติฯ ปีฬาชนนํ ทุรุทฺธรณตา จ สลฺลโฎฺฐฯ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ คหณมุเขน ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ คหณํ โหตีติ ทิฎฺฐิํ นิสฺสายปิ มานํ ชเปฺปนฺตีติ อาห ‘‘ทิโฎฺฐเฆน มานสโลฺล’’ติฯ

    Anusayasahagatāti anusayabhāvaṃ appaṭikkhipitvā gatā pavattā, anusayabhūtā vā. Ajjhāsayanti cittaṃ. Anupaviṭṭhāti ogāḷhā. Hadayaṃ āhacca tiṭṭhantīti cittassa abbhantarasaṅkhātaṃ hadayaṃ āhantvā tiṭṭhanti. Tathā hi vuttaṃ aṭṭhasāliniyaṃ (dha. sa. aṭṭha. 5) ‘‘abbhantaraṭṭhena hadaya’’nti. Tena vuccanti sallāti yasmā ajjhāsayaṃ anupaviṭṭhā hadayaṃ āhacca tiṭṭhanti, tena vuccanti ‘‘sallā’’ti. Pīḷājananaṃ duruddharaṇatā ca sallaṭṭho. ‘‘Eso me attā’’ti gahaṇamukhena ‘‘esohamasmī’’ti gahaṇaṃ hotīti diṭṭhiṃ nissāyapi mānaṃ jappentīti āha ‘‘diṭṭhoghena mānasallo’’ti.

    ปริยาทินฺนนฺติ อญฺญสฺส โอกาสํ อทตฺวา สมนฺตโต คหิตํฯ จตูสุ ธเมฺมสุ สณฺฐหตีติ อารมฺมณปจฺจยตาย อารมฺมณภูเตสุ จตูสุ ธเมฺมสุ ปติฎฺฐหติฯ ตานิ สรูปโต ทเสฺสติ ‘‘รูเป เวทนาย สญฺญาย สงฺขาเรสู’’ติฯ นนฺทูปเสจเนนาติ โลภสหคตสฺส สมฺปยุตฺตา นนฺที สหชาตโกฎิยา , อิตรสฺส อุปนิสฺสยโกฎิยา อุปเสจนนฺติ นนฺทูปเสจนํ, เตน นนฺทูปเสจเนนฯ เกน ปน ตํ นนฺทูปเสจนนฺติ อาห – ‘‘ราคสเลฺลน นนฺทูปเสจเนน วิญฺญาเณนา’’ติฯ

    Pariyādinnanti aññassa okāsaṃ adatvā samantato gahitaṃ. Catūsu dhammesu saṇṭhahatīti ārammaṇapaccayatāya ārammaṇabhūtesu catūsu dhammesu patiṭṭhahati. Tāni sarūpato dasseti ‘‘rūpe vedanāya saññāya saṅkhāresū’’ti. Nandūpasecanenāti lobhasahagatassa sampayuttā nandī sahajātakoṭiyā , itarassa upanissayakoṭiyā upasecananti nandūpasecanaṃ, tena nandūpasecanena. Kena pana taṃ nandūpasecananti āha – ‘‘rāgasallena nandūpasecanena viññāṇenā’’ti.

    ตตฺถ ราคสเลฺลนาติ ราคสเลฺลน เหตุภูเตน นนฺทูปเสจเนน วิญฺญาเณนาติ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ กรณวจนํฯ รูปูปคา วิญฺญาณฎฺฐิตีติ รูปเมว อารมฺมณกรณวเสน อุปคนฺตพฺพโต, วิญฺญาณสฺส ปติฎฺฐาภาวโต จ รูปูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติฯ ติฎฺฐติ เอตฺถาติ ฐิติฯ ปญฺจโวการภวสฺมิญฺหิ อภิสงฺขารวิญฺญาณํ รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฎฺฐติฯ โทสสเลฺลนาติ สหชาเตน โทสสเลฺลนฯ ยทา เวทนูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ วุจฺจติ, ตทา อุปนิสฺสยโกฎิยาว นนฺทิยา อุปสิตฺตํ วิญฺญาณํ ทฎฺฐพฺพํฯ เวทนาปิ โทมนสฺสเวทนาวฯ ยทา จ อุปนิสฺสยปจฺจยภูเตน โทสสเลฺลน เวทนูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ วุจฺจติ, ตทา สหชาตโกฎิยา, อุปนิสฺสยโกฎิยา วา นนฺทิยา อุปสิตฺตํ วิญฺญาณํ ทฎฺฐพฺพํฯ เวทนา ปน ติโสฺสปิ ติสฺสนฺนํ เวทนานํ อารมฺมณูปนิสฺสยภาวโตฯ ตตฺถ ปฐมนโย โทมนสฺสารมฺมณสฺส อภิสงฺขารวิญฺญาณสฺส วเสน วุโตฺตฯ ทุติโย สพฺพเวทนารมฺมณสฺส วเสนาปิ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Tattha rāgasallenāti rāgasallena hetubhūtena nandūpasecanena viññāṇenāti itthambhūtalakkhaṇe karaṇavacanaṃ. Rūpūpagā viññāṇaṭṭhitīti rūpameva ārammaṇakaraṇavasena upagantabbato, viññāṇassa patiṭṭhābhāvato ca rūpūpagā viññāṇaṭṭhiti. Tiṭṭhati etthāti ṭhiti. Pañcavokārabhavasmiñhi abhisaṅkhāraviññāṇaṃ rūpakkhandhaṃ nissāya tiṭṭhati. Dosasallenāti sahajātena dosasallena. Yadā vedanūpagā viññāṇaṭṭhiti vuccati, tadā upanissayakoṭiyāva nandiyā upasittaṃ viññāṇaṃ daṭṭhabbaṃ. Vedanāpi domanassavedanāva. Yadā ca upanissayapaccayabhūtena dosasallena vedanūpagā viññāṇaṭṭhiti vuccati, tadā sahajātakoṭiyā, upanissayakoṭiyā vā nandiyā upasittaṃ viññāṇaṃ daṭṭhabbaṃ. Vedanā pana tissopi tissannaṃ vedanānaṃ ārammaṇūpanissayabhāvato. Tattha paṭhamanayo domanassārammaṇassa abhisaṅkhāraviññāṇassa vasena vutto. Dutiyo sabbavedanārammaṇassa vasenāpi daṭṭhabbaṃ.

    มานสเลฺลนาติ มานสเลฺลน สหชาเตน, อุปนิสฺสยภูเตน วาฯ โมหสเลฺลนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ อนาทิมติสํสาเร อิตฺถิปุริสา รูปาภิรามาติ ราคสลฺลวเสน ปฐมา วิญฺญาณฎฺฐิติ โยชิตาฯ สพฺพายปิ เวทนาย ทุกฺขปริยายสพฺภาวโต ทุกฺขาย จ โทโส อนุเสตีติ โทสสลฺลวเสน ทุติยา, สญฺญาวเสน ‘‘เสโยฺยหมสฺมี’’ติ มญฺญนา โหตีติ มานสลฺลวเสน ตติยา, สงฺขาเรสุ สมูหฆนํ ทุพฺพินิโพฺภคนฺติ โมหสลฺลวเสน จตุตฺถี วิญฺญาณฎฺฐิติ โยชิตาติ ทฎฺฐพฺพาฯ

    Mānasallenāti mānasallena sahajātena, upanissayabhūtena vā. Mohasallenāti etthāpi eseva nayo. Ettha ca anādimatisaṃsāre itthipurisā rūpābhirāmāti rāgasallavasena paṭhamā viññāṇaṭṭhiti yojitā. Sabbāyapi vedanāya dukkhapariyāyasabbhāvato dukkhāya ca doso anusetīti dosasallavasena dutiyā, saññāvasena ‘‘seyyohamasmī’’ti maññanā hotīti mānasallavasena tatiyā, saṅkhāresu samūhaghanaṃ dubbinibbhoganti mohasallavasena catutthī viññāṇaṭṭhiti yojitāti daṭṭhabbā.

    อุปตฺถทฺธนฺติ โอลุพฺภารมฺมณภูตาหิ วิญฺญาณฎฺฐิตีหิ อุปตฺถมฺภิตํฯ ตญฺจ กมฺมนฺติ ยํ ‘‘เจตนา เจตสิก’’นฺติ ปุเพฺพ (เนตฺติ. ๘๒) วุตฺตํฯ อิเม จ กิเลสาติ อิเม จ ทสวตฺถุกา กิเลสาฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Upatthaddhanti olubbhārammaṇabhūtāhi viññāṇaṭṭhitīhi upatthambhitaṃ. Tañca kammanti yaṃ ‘‘cetanā cetasika’’nti pubbe (netti. 82) vuttaṃ. Ime ca kilesāti ime ca dasavatthukā kilesā. Sesaṃ suviññeyyameva.

    ๘๕. อิทานิ อาหาราทโย นยานํ สํกิเลสปเกฺข ทิสาภาเวน ววตฺถเปตุํ ‘‘อิมา จตโสฺส ทิสา’’ติอาทิ อารทฺธํ, ตํ อุตฺตานเมวฯ ปุน กพฬีกาโร อาหาโรติอาทิ อาหาราทีสุเยว ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา, ตํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ อารทฺธํฯ ตตฺถ ทสนฺนํ สุตฺตานนฺติ เอกเทเสสุ สมุทายโวหาเรน วุตฺตํฯ สมุทาเยสุ หิ ปวตฺตา สมญฺญา อวยเวสุปิ ทิสฺสติ , ‘‘ยถา ปโฎ ทโฑฺฒ, สมุโทฺท ทิโฎฺฐ’’ติ จฯ เอโก อโตฺถติ เอกสฺส อตฺถสฺส นิปฺผาทนโต วุตฺตํฯ พฺยญฺชนเมว นานนฺติ เอตฺถ พฺยญฺชนคฺคหเณน พฺยญฺชนโตฺถปิ คหิโตติ ทฎฺฐพฺพํฯ ทสหิปิ สุตฺตปเทหิ สวตฺถุกา ตณฺหา วุตฺตาฯ ตณฺหา จ ราคจริตํ ปุคฺคลํ ขิปฺปํ ทูเสตีติ อาห – ‘‘อิเม ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา’’ติฯ ยถา จ ปฐมทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา ราคจริตสฺส อุปกฺกิเลสา, เอวํ ทุติยทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา โทสจริตสฺสฯ ตติยจตุตฺถทิสาภาเวน วุตฺตธมฺมา ยถากฺกมํ ทิฎฺฐิจริตสฺส มนฺทสฺส ติกฺขสฺส จ อุปกฺกิเลสา วุตฺตาฯ เตสํ อุปกฺกิเลสภาโว วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตโพฺพฯ

    85. Idāni āhārādayo nayānaṃ saṃkilesapakkhe disābhāvena vavatthapetuṃ ‘‘imā catasso disā’’tiādi āraddhaṃ, taṃ uttānameva. Puna kabaḷīkāro āhārotiādi āhārādīsuyeva yassa puggalassa upakkilesā, taṃ vibhajitvā dassetuṃ āraddhaṃ. Tattha dasannaṃ suttānanti ekadesesu samudāyavohārena vuttaṃ. Samudāyesu hi pavattā samaññā avayavesupi dissati , ‘‘yathā paṭo daḍḍho, samuddo diṭṭho’’ti ca. Eko atthoti ekassa atthassa nipphādanato vuttaṃ. Byañjanameva nānanti ettha byañjanaggahaṇena byañjanatthopi gahitoti daṭṭhabbaṃ. Dasahipi suttapadehi savatthukā taṇhā vuttā. Taṇhā ca rāgacaritaṃ puggalaṃ khippaṃ dūsetīti āha – ‘‘ime rāgacaritassa puggalassa upakkilesā’’ti. Yathā ca paṭhamadisābhāvena vuttadhammā rāgacaritassa upakkilesā, evaṃ dutiyadisābhāvena vuttadhammā dosacaritassa. Tatiyacatutthadisābhāvena vuttadhammā yathākkamaṃ diṭṭhicaritassa mandassa tikkhassa ca upakkilesā vuttā. Tesaṃ upakkilesabhāvo vuttanayānusārena veditabbo.

    อาหารวิปลฺลาสาทโย ยทิปิ สเพฺพหิ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ปุพฺพภาเค ยถารหํ ปริเญฺญยฺยา ปหาตพฺพา จฯ ยสฺส ปน ทุกฺขานุปสฺสนา ปุริเม อาหารทฺวเย ทุกฺขากาเรน พหุลํ ปวตฺตติ, ตสฺส วเสน โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผโสฺส อาหาโร, อิเม อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน ปริญฺญํ คจฺฉนฺตีติ วุตฺตํฯ เอส นโย เสเสสุฯ เอวเญฺจตํ, น อญฺญถาฯ น หิ อริยมคฺคานํ วิย ปหาตเพฺพสุ วิโมกฺขมุขานํ ปริเญฺญยฺยปหาตเพฺพสุ โกจิ นิยโม สมฺภวติฯ อิติ สเพฺพ โลกวฎฺฎานุสาริโน ธมฺมา นิยฺยนฺติ, เต โลกา ตีหิ วิโมกฺขมุเขหีติ นิคมนํฯ ตสฺสโตฺถ – อิติ เอวํ วุตฺตปฺปการา สเพฺพ อาหาราทโย โลกสงฺขาตวฎฺฎานุสาริโน ธมฺมา เต โลกภูตา วฎฺฎโต นิยฺยนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหีติฯ

    Āhāravipallāsādayo yadipi sabbehi tīhi vimokkhamukhehi pubbabhāge yathārahaṃ pariññeyyā pahātabbā ca. Yassa pana dukkhānupassanā purime āhāradvaye dukkhākārena bahulaṃ pavattati, tassa vasena yo ca kabaḷīkāro āhāro, yo ca phasso āhāro, ime appaṇihitena vimokkhamukhena pariññaṃ gacchantīti vuttaṃ. Esa nayo sesesu. Evañcetaṃ, na aññathā. Na hi ariyamaggānaṃ viya pahātabbesu vimokkhamukhānaṃ pariññeyyapahātabbesu koci niyamo sambhavati. Iti sabbe lokavaṭṭānusārino dhammā niyyanti, te lokā tīhi vimokkhamukhehīti nigamanaṃ. Tassattho – iti evaṃ vuttappakārā sabbe āhārādayo lokasaṅkhātavaṭṭānusārino dhammā te lokabhūtā vaṭṭato niyyanti aniccānupassanādīhi tīhi vimokkhamukhehīti.

    ๘๖. เอวํ สํกิเลสปเกฺข ทิสาภูตธเมฺม นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ โวทานปเกฺข ทิสาภูตธเมฺม ทเสฺสตุํ ‘‘จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ทิพฺพพฺรหฺมอริยอาเนญฺชวิหาโรติ จตฺตาโร วิหาราฯ มานปฺปหานอาลยสมุคฺฆาตอวิชฺชาปหานภวูปสมา จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมาฯ สจฺจาธิฎฺฐานาทีนิ จตฺตาริ อธิฎฺฐานานิฯ ฉนฺทสมาธิภาวนาทโย จตโสฺส สมาธิภาวนาฯ อินฺทฺริยสํวโร ตปสงฺขาโต ปุญฺญธโมฺม โพชฺฌงฺคภาวนา สพฺพูปธิปฎินิสฺสคฺคสงฺขาตํ นิพฺพานญฺจาติ จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา เวทิตพฺพาติฯ

    86. Evaṃ saṃkilesapakkhe disābhūtadhamme niddisitvā idāni vodānapakkhe disābhūtadhamme dassetuṃ ‘‘catasso paṭipadā’’tiādi vuttaṃ. Tattha dibbabrahmaariyaāneñjavihāroti cattāro vihārā. Mānappahānaālayasamugghātaavijjāpahānabhavūpasamā cattāro acchariyā abbhutā dhammā. Saccādhiṭṭhānādīni cattāri adhiṭṭhānāni. Chandasamādhibhāvanādayo catasso samādhibhāvanā. Indriyasaṃvaro tapasaṅkhāto puññadhammo bojjhaṅgabhāvanā sabbūpadhipaṭinissaggasaṅkhātaṃ nibbānañcāti cattāro sukhabhāgiyā dhammā veditabbāti.

    ปฐมา ปฎิปทาติอาทิ ปฎิปทาสติปฎฺฐานาทีนํ อเภทสนฺทสฺสนํฯ ยทิ เอวํ กสฺมา วิสุํ คหณํ กตนฺติ? ทสวตฺถุกสฺส กิเลสปุญฺชสฺส ปฎิปกฺขภาวทสฺสนตฺถํ ปฎิปทาทิทสกนิเทฺทโสฯ ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฎิปโกฺข จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๘๗)ฯ กิญฺจาปิ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ ‘‘อิทํ นาม สติปฎฺฐานํ อิมาย เอว ปฎิปทาย อิชฺฌตี’’ติ นิยโม นตฺถิ, ตถาปิ ปฐมาย ปฎิปทาย ปฐมํ สติปฎฺฐานํ สมฺภวตีติ สมฺภววเสน เอวํ วุตฺตํ – ‘‘ปฐมา ปฎิปทา, ปฐมํ สติปฎฺฐาน’’นฺติฯ ยสฺมา ปน อาหารวิปลฺลาสาทีนํ วิย ปฎิปทาสติปฎฺฐานาทีนํ อตฺถโต นานตฺตํ นตฺถิฯ สติปฎฺฐานานิเยว หิ ตถา ตถา ปฎิปชฺชมานานิ ทุกฺขาปฎิปทาทนฺธาภิญฺญาทินามกานิ โหนฺติ, ตสฺมา ยถา สํกิเลสปเกฺข ‘‘ปฐเม อาหาเร ปฐโม วิปลฺลาโส’’ติอาทินา อธิกรณเภเทน วุตฺตํ, เอวํ อธิกรณเภทํ อกตฺวา ‘‘ปฐมา ปฎิปทา, ปฐมํ สติปฎฺฐาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ

    Paṭhamā paṭipadātiādi paṭipadāsatipaṭṭhānādīnaṃ abhedasandassanaṃ. Yadi evaṃ kasmā visuṃ gahaṇaṃ katanti? Dasavatthukassa kilesapuñjassa paṭipakkhabhāvadassanatthaṃ paṭipadādidasakaniddeso. Tathā hi vakkhati – ‘‘cattāro āhārā tesaṃ paṭipakkho catasso paṭipadā’’tiādi (netti. 87). Kiñcāpi catūsu satipaṭṭhānesu ‘‘idaṃ nāma satipaṭṭhānaṃ imāya eva paṭipadāya ijjhatī’’ti niyamo natthi, tathāpi paṭhamāya paṭipadāya paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ sambhavatīti sambhavavasena evaṃ vuttaṃ – ‘‘paṭhamā paṭipadā, paṭhamaṃ satipaṭṭhāna’’nti. Yasmā pana āhāravipallāsādīnaṃ viya paṭipadāsatipaṭṭhānādīnaṃ atthato nānattaṃ natthi. Satipaṭṭhānāniyeva hi tathā tathā paṭipajjamānāni dukkhāpaṭipadādandhābhiññādināmakāni honti, tasmā yathā saṃkilesapakkhe ‘‘paṭhame āhāre paṭhamo vipallāso’’tiādinā adhikaraṇabhedena vuttaṃ, evaṃ adhikaraṇabhedaṃ akatvā ‘‘paṭhamā paṭipadā, paṭhamaṃ satipaṭṭhāna’’ntiādi vuttaṃ. Sesesupi eseva nayo.

    อนฺธสฺส ปพฺพตาโรหนํ วิย กทาจิเทว อุปฺปชฺชนกํ อจฺฉริยํ, อจฺฉราโยคฺคํ อจฺฉริยนฺติ โปราณาฯ อภูตปุพฺพํ ภูตนฺติ อพฺภุตํฯ อุภยเมฺปตํ วิมฺหยาวหสฺส อธิวจนํฯ น หิ มานปฺปหานาทิโต อญฺญํ ทุรภิสมฺภวตรํ วิมฺหนียญฺจ อุปลพฺภตีติ อธิติฎฺฐติ เอเตน, เอตฺถ วา อธิฎฺฐานมตฺตเมว วา ตนฺติ อธิฎฺฐานํฯ สจฺจญฺจ ตํ อธิฎฺฐานญฺจ, สจฺจสฺส วา อธิฎฺฐานํ, สจฺจํ อธิฎฺฐานํ เอตสฺสาติ วา สจฺจาธิฎฺฐานํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ สมาธิ เอว ภาเวตพฺพตาย สมาธิภาวนาฯ สุขํ ภชตีติ สุขภาคิโย, สุขภาคสฺส วา สุขโกฎฺฐาสสฺส หิโตติ สุขภาคิโยฯ เอกสฺสปิ สตฺตสฺส อสุภภาวนาทโย วิย เอกเทเส อวตฺติตฺวา อนวเสสปริยาทานโต นตฺถิ เอติสฺสา ปมาณนฺติ อปฺปมญฺญา

    Andhassa pabbatārohanaṃ viya kadācideva uppajjanakaṃ acchariyaṃ, accharāyoggaṃ acchariyanti porāṇā. Abhūtapubbaṃ bhūtanti abbhutaṃ. Ubhayampetaṃ vimhayāvahassa adhivacanaṃ. Na hi mānappahānādito aññaṃ durabhisambhavataraṃ vimhanīyañca upalabbhatīti adhitiṭṭhati etena, ettha vā adhiṭṭhānamattameva vā tanti adhiṭṭhānaṃ. Saccañca taṃ adhiṭṭhānañca, saccassa vā adhiṭṭhānaṃ, saccaṃ adhiṭṭhānaṃ etassāti vā saccādhiṭṭhānaṃ. Sesesupi eseva nayo. Samādhi eva bhāvetabbatāya samādhibhāvanā. Sukhaṃ bhajatīti sukhabhāgiyo, sukhabhāgassa vā sukhakoṭṭhāsassa hitoti sukhabhāgiyo. Ekassapi sattassa asubhabhāvanādayo viya ekadese avattitvā anavasesapariyādānato natthi etissā pamāṇanti appamaññā.

    ปฐมา ปฎิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ปฐมํ สติปฎฺฐานํ ปริปูเรตีติ ปฐมาย ปฎิปทาย ภาวนาพหุลีกาโร ปฐมสฺส สติปฎฺฐานสฺส ภาวนาปาริปูรีติ อโตฺถฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ ยถา หิ อริยมเคฺค ภาวิเต สติปฎฺฐานาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา สเพฺพปิ ภาวิตา เอว โหนฺติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Paṭhamā paṭipadā bhāvitā bahulīkatā paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ paripūretīti paṭhamāya paṭipadāya bhāvanābahulīkāro paṭhamassa satipaṭṭhānassa bhāvanāpāripūrīti attho. Sesapadesupi eseva nayo. Yathā hi ariyamagge bhāvite satipaṭṭhānādayo bodhipakkhiyadhammā sabbepi bhāvitā eva honti, evaṃsampadamidaṃ daṭṭhabbaṃ.

    กายานุปสฺสนาย กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภาวโต ‘‘ปฐโม สติปฎฺฐาโน ภาวิโต พหุลีกโต กามปฎิปกฺขํ ปฐมํ ฌานํ ปริปูเรตี’’ติ วุตฺตํฯ ตถา ปีติปฎิสํเวทนาทิวเสน ปวตฺตมานํ ทุติยํ สติปฎฺฐานํ, สปฺปีติกสฺส ทุติยชฺฌานสฺส จิตฺตสฺส อภิปฺปโมทนวเสน ปวตฺตมานํ ตติยํ สติปฎฺฐานํ อุกฺกํสคตสุขสฺส ตติยชฺฌานสฺส อนิจฺจวิราคาทิวเสน ปวตฺติยา สงฺขาเรสุ อุเปกฺขกํ จตุตฺถํ สติปฎฺฐานํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาวโต จตุตฺถชฺฌานสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตติฯ

    Kāyānupassanāya kāmarāgassa ujuvipaccanīkabhāvato ‘‘paṭhamo satipaṭṭhāno bhāvito bahulīkato kāmapaṭipakkhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ paripūretī’’ti vuttaṃ. Tathā pītipaṭisaṃvedanādivasena pavattamānaṃ dutiyaṃ satipaṭṭhānaṃ, sappītikassa dutiyajjhānassa cittassa abhippamodanavasena pavattamānaṃ tatiyaṃ satipaṭṭhānaṃ ukkaṃsagatasukhassa tatiyajjhānassa aniccavirāgādivasena pavattiyā saṅkhāresu upekkhakaṃ catutthaṃ satipaṭṭhānaṃ upekkhāsatipārisuddhibhāvato catutthajjhānassa pāripūriyā saṃvattati.

    ยสฺมา ปน รูปาวจรปฐมชฺฌานํ รูปาวจรสมาปตฺตีนํ, ทุติยชฺฌานํ พฺยาปาทวิตกฺกาทิทูรีภาเวน พฺรหฺมวิหารานํ, ตติยชฺฌานํ ปีติวิราเคน สุเขน วิปสฺสนาย อธิฎฺฐานภูตํ อริยวิหารานํ, จตุตฺถชฺฌานํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิอาเนญฺชปฺปตฺตํ อาเนญฺชวิหารานํ วิเสสโต ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ‘‘ปฐมํ ฌานํ ภาวิตํ พหุลีกตํ ปฐมํ วิหารํ ปริปูเรตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิติ โย ยสฺส วิเสสปจฺจโย, โส ตํ ปริปูเรตีติ วุโตฺตติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Yasmā pana rūpāvacarapaṭhamajjhānaṃ rūpāvacarasamāpattīnaṃ, dutiyajjhānaṃ byāpādavitakkādidūrībhāvena brahmavihārānaṃ, tatiyajjhānaṃ pītivirāgena sukhena vipassanāya adhiṭṭhānabhūtaṃ ariyavihārānaṃ, catutthajjhānaṃ upekkhāsatipārisuddhiāneñjappattaṃ āneñjavihārānaṃ visesato paccayo hoti, tasmā ‘‘paṭhamaṃ jhānaṃ bhāvitaṃ bahulīkataṃ paṭhamaṃ vihāraṃ paripūretī’’tiādi vuttaṃ. Iti yo yassa visesapaccayo, so taṃ paripūretīti vuttoti daṭṭhabbaṃ.

    ๘๗. อิทานิ ปฎิปทาทโย โวทานปเกฺข ทิสาภาเวน ววตฺถเปตุํ ‘‘ตตฺถ อิมา จตโสฺส ทิสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ ปุน ‘‘ปฐมา ปฎิปทา’’ติอาทิ ปฎิปทาจตุกฺกาทีสุ เยน ยสฺส ปุคฺคลสฺส โวทานํ, ตํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ อารทฺธํฯ ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ ยทิปิ ตีสุ วิโมกฺขมุเขสุ ‘‘อิทํ นาม วิโมกฺขมุขํ อิมาย เอว ปฎิปทาย อิชฺฌตี’’ติ นิยโม นตฺถิฯ เยสํ ปน ปุคฺคลานํ ปุริมาหิ ทฺวีหิ ปฎิปทาหิ อปฺปณิหิเตน วิโมกฺขมุเขน อริยมคฺคาธิคโมฯ ตถา ยสฺส ตติยาย ปฎิปทาย สุญฺญตวิโมกฺขมุเขน, ยสฺส จ จตุตฺถาย ปฎิปทาย อนิมิตฺตวิโมกฺขมุเขน อริยมคฺคาธิคโม, เตสํ ปุคฺคลานํ วเสน อยํ ปฎิปทาวิโมกฺขมุขสํสนฺทนาฯ สติปฎฺฐานาทีหิ วิโมกฺขมุขสํสนฺทนายปิ เอเสว นโยฯ

    87. Idāni paṭipadādayo vodānapakkhe disābhāvena vavatthapetuṃ ‘‘tattha imā catasso disā’’tiādi vuttaṃ. Taṃ suviññeyyameva. Puna ‘‘paṭhamā paṭipadā’’tiādi paṭipadācatukkādīsu yena yassa puggalassa vodānaṃ, taṃ vibhajitvā dassetuṃ āraddhaṃ. Taṃ heṭṭhā vuttanayameva. Yadipi tīsu vimokkhamukhesu ‘‘idaṃ nāma vimokkhamukhaṃ imāya eva paṭipadāya ijjhatī’’ti niyamo natthi. Yesaṃ pana puggalānaṃ purimāhi dvīhi paṭipadāhi appaṇihitena vimokkhamukhena ariyamaggādhigamo. Tathā yassa tatiyāya paṭipadāya suññatavimokkhamukhena, yassa ca catutthāya paṭipadāya animittavimokkhamukhena ariyamaggādhigamo, tesaṃ puggalānaṃ vasena ayaṃ paṭipadāvimokkhamukhasaṃsandanā. Satipaṭṭhānādīhi vimokkhamukhasaṃsandanāyapi eseva nayo.

    เตสํ วิกฺกีฬิตนฺติ เตสํ อสนฺตาสนชวปรกฺกมาทิวิเสสโยเคน สีหานํ พุทฺธานํ ปเจฺจกพุทฺธานํ พุทฺธสาวกานญฺจ วิกฺกีฬิตํ วิหรณํฯ ยทิทํ อาหาราทิกิเลสวตฺถุสมติกฺกมนมุเขน สปรสนฺตาเน ปฎิปทาทิสมฺปาทนาฯ อิทานิ อาหาราทีนํ ปฎิปทาทีหิ เยน สมติกฺกมนํ, ตํ เนสํ ปฎิปกฺขภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘‘จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฎิปโกฺข จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เตสํ ปฎิปกฺขภาโว ปหาตพฺพภาโว ปหายกภาโว จ อาหารวิญฺญาณฎฺฐิตีนเญฺจตฺถ ปหาตพฺพภาโว ตปฺปฎิพนฺธฉนฺทราควเสน ทฎฺฐโพฺพฯ ตตฺถ ‘‘วิกฺกีฬิตํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา จา’’ติอาทิ ตสฺสายํ สเงฺขปโตฺถ – เตสํ วิกฺกีฬิตนฺติ เอตฺถ ยเทตํ วิกฺกีฬิตํ นาม ภาเวตพฺพานํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ภาวนา, สจฺฉิกาตพฺพานํ ผลนิพฺพานานํ สจฺฉิกิริยา จฯ ตถา ปหาตพฺพสฺส ทสวตฺถุกสฺส กิเลสปุญฺชสฺส ตทงฺคาทิวเสน ปหานํ พฺยนฺตีกิริยา อนวเสสนนฺติฯ อิทานิ ตํ สเงฺขเปน ทเสฺสโนฺต ‘‘อินฺทฺริยาธิฎฺฐานํ วิกฺกีฬิตํ วิปริยาสานธิฎฺฐาน’’นฺติ อาหฯ

    Tesaṃ vikkīḷitanti tesaṃ asantāsanajavaparakkamādivisesayogena sīhānaṃ buddhānaṃ paccekabuddhānaṃ buddhasāvakānañca vikkīḷitaṃ viharaṇaṃ. Yadidaṃ āhārādikilesavatthusamatikkamanamukhena saparasantāne paṭipadādisampādanā. Idāni āhārādīnaṃ paṭipadādīhi yena samatikkamanaṃ, taṃ nesaṃ paṭipakkhabhāvaṃ dassento ‘‘cattāro āhārā tesaṃ paṭipakkho catassopaṭipadā’’tiādimāha. Tattha tesaṃ paṭipakkhabhāvo pahātabbabhāvo pahāyakabhāvo ca āhāraviññāṇaṭṭhitīnañcettha pahātabbabhāvo tappaṭibandhachandarāgavasena daṭṭhabbo. Tattha ‘‘vikkīḷitaṃ bhāvanā sacchikiriyā cā’’tiādi tassāyaṃ saṅkhepattho – tesaṃ vikkīḷitanti ettha yadetaṃ vikkīḷitaṃ nāma bhāvetabbānaṃ bodhipakkhiyadhammānaṃ bhāvanā, sacchikātabbānaṃ phalanibbānānaṃ sacchikiriyā ca. Tathā pahātabbassa dasavatthukassa kilesapuñjassa tadaṅgādivasena pahānaṃ byantīkiriyā anavasesananti. Idāni taṃ saṅkhepena dassento ‘‘indriyādhiṭṭhānaṃ vikkīḷitaṃ vipariyāsānadhiṭṭhāna’’nti āha.

    อินฺทฺริยาธิฎฺฐานนฺติ อินฺทฺริยานํ ปวตฺตนํ ภาวนา สจฺฉิกิริยา จฯ วิปริยาสานธิฎฺฐานนฺติ วิปลฺลาสานํ อปวตฺตนํ ปหานํ อนุปฺปาทนํฯ อินฺทฺริยานิ สทฺธมฺมโคจโรติ อินฺทฺริยานิ เจตฺถ สทฺธมฺมสฺส โคจรภูตานิ ปวตฺติเหตูติ อธิเปฺปตานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนีติ อโตฺถฯ วิปริยาสา กิเลสโคจโรติ วิปลฺลาสา สํกิเลสปกฺขสฺส ปวตฺติฎฺฐานํ ปวตฺติเหตูติฯ อยํ วุจฺจติ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมีติ ยายํ ‘‘จตฺตาโร อาหารา’’ติอาทินา สํกิเลสปเกฺข ทสนฺนํ จตุกฺกานํ, ‘‘จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทินา โวทานปเกฺขปิ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ ตณฺหาจริตาทีนํ อุปกฺกิเลสโวทานวิภาวนามุเขน นิทฺธารณา, อยํ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิ นามฯ

    Indriyādhiṭṭhānanti indriyānaṃ pavattanaṃ bhāvanā sacchikiriyā ca. Vipariyāsānadhiṭṭhānanti vipallāsānaṃ apavattanaṃ pahānaṃ anuppādanaṃ. Indriyāni saddhammagocaroti indriyāni cettha saddhammassa gocarabhūtāni pavattihetūti adhippetāni saddhindriyādīnīti attho. Vipariyāsā kilesagocaroti vipallāsā saṃkilesapakkhassa pavattiṭṭhānaṃ pavattihetūti. Ayaṃ vuccati sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmīti yāyaṃ ‘‘cattāro āhārā’’tiādinā saṃkilesapakkhe dasannaṃ catukkānaṃ, ‘‘catasso paṭipadā’’tiādinā vodānapakkhepi dasannaṃ catukkānaṃ taṇhācaritādīnaṃ upakkilesavodānavibhāvanāmukhena niddhāraṇā, ayaṃ sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmi nāma.

    ๘๘. อิทานิ อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตยวเสน ติปุกฺขลนยสฺส ภูมิํ วิภาเวตุกาโม ยสฺมา ปน นยานํ อญฺญมญฺญานุปฺปเวสสฺส อิจฺฉิตตฺตา สีหวิกฺกีฬิตนยโต ติปุกฺขลนโย นิคฺคจฺฉติ, ตสฺมา ปฎิปทาวิภาคโต จตฺตาโร ปุคฺคเล สีหวิกฺกีฬิตนยสฺส ภูมิํ นิทฺทิสิตฺวา ตโต เอว อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตเย นิทฺธาเรตุํ ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อิเม เทฺว ปุคฺคลาติ อิเม ปุริมานํ ทฺวินฺนํ ปฎิปทานํ วเสน เทฺว ปุคฺคลาฯ เอส นโย อิตรตฺถาปิฯ ปุน ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิ ยถาวุตฺตปุคฺคลจตุกฺกโต อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตยํ นิทฺธาเรตุํ วุตฺตํฯ ตตฺถ โย สาธารณายาติ ทุกฺขาปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย, สุขาปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยาตีติ สมฺพโนฺธฯ กถํ ปน ปฎิปทาทฺวยํ เอกสฺส สมฺภวตีติ? นยิทเมวํ ทฎฺฐพฺพํฯ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส เอกสฺมิํ เทฺว ปฎิปทา สมฺภวนฺตีติฯ ยถาวุตฺตาสุ ปน ทฺวีสุ ปฎิปทาสุ โย ยาย กายจิ นิยฺยาติ, อยํ วิปญฺจิตญฺญูติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ ยสฺมา ปน อฎฺฐสาลินิยํ (ธ. ส. อฎฺฐ. ๓๕๐) ปฎิปทา จลติ น จลตีติ วิจารณายํ ‘‘จลตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา เอกสฺสปิ ปุคฺคลสฺส ฌานนฺตรมคฺคนฺตเรสุ ปฎิปทาเภโท อิจฺฉิโตวาติฯ

    88. Idāni ugghaṭitaññuādipuggalattayavasena tipukkhalanayassa bhūmiṃ vibhāvetukāmo yasmā pana nayānaṃ aññamaññānuppavesassa icchitattā sīhavikkīḷitanayato tipukkhalanayo niggacchati, tasmā paṭipadāvibhāgato cattāro puggale sīhavikkīḷitanayassa bhūmiṃ niddisitvā tato eva ugghaṭitaññuādipuggalattaye niddhāretuṃ ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādi āraddhaṃ. Tattha ime dve puggalāti ime purimānaṃ dvinnaṃ paṭipadānaṃ vasena dve puggalā. Esa nayo itaratthāpi. Puna ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādi yathāvuttapuggalacatukkato ugghaṭitaññuādipuggalattayaṃ niddhāretuṃ vuttaṃ. Tattha yo sādhāraṇāyāti dukkhāpaṭipadāya khippābhiññāya, sukhāpaṭipadāya dandhābhiññāya ca niyyātīti sambandho. Kathaṃ pana paṭipadādvayaṃ ekassa sambhavatīti? Nayidamevaṃ daṭṭhabbaṃ. Ekassa puggalassa ekasmiṃ dve paṭipadā sambhavantīti. Yathāvuttāsu pana dvīsu paṭipadāsu yo yāya kāyaci niyyāti, ayaṃ vipañcitaññūti ayamettha adhippāyo. Yasmā pana aṭṭhasāliniyaṃ (dha. sa. aṭṭha. 350) paṭipadā calati na calatīti vicāraṇāyaṃ ‘‘calatī’’ti vuttaṃ, tasmā ekassapi puggalassa jhānantaramaggantaresu paṭipadābhedo icchitovāti.

    ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทินา เทสนาวิภาเคหิปิ ตเมว ปุคฺคลวิภาคํ วิภาเวติฯ ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ ตตฺถ อธิจิตฺตนฺติ อธิจิตฺตสิกฺขญฺจาติ -สโทฺท ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐฯ เตน อธิจิตฺตสิกฺขญฺจ อธิปญฺญาสิกฺขญฺจ วิปญฺจิตญฺญุสฺส ปญฺญเปตีติ อโตฺถฯ อธิสีลนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อธิสีลสิกฺขํ อธิจิตฺตสิกฺขํ อธิปญฺญาสิกฺขญฺจาติ โยเชตพฺพํฯ

    ‘‘Tattha bhagavā’’tiādinā desanāvibhāgehipi tameva puggalavibhāgaṃ vibhāveti. Taṃ heṭṭhā vuttanayameva. Tattha adhicittanti adhicittasikkhañcāti ca-saddo luttaniddiṭṭho. Tena adhicittasikkhañca adhipaññāsikkhañca vipañcitaññussa paññapetīti attho. Adhisīlanti etthāpi eseva nayo. Adhisīlasikkhaṃ adhicittasikkhaṃ adhipaññāsikkhañcāti yojetabbaṃ.

    จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺตีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, จตฺตาโร ปุคฺคลา หุตฺวา ตโย ปุคฺคลา โหนฺตีติ อโตฺถฯ

    Cattāri hutvā tīṇi bhavantīti liṅgavipallāsena vuttaṃ, cattāro puggalā hutvā tayo puggalā hontīti attho.

    อยํ สํกิเลโสติ อยํ อกุสลมูลาทิทฺวาทสตฺติกสงฺคโห สํกิลิสฺสติ เอเตนาติ สํกิเลโสติ กตฺวาฯ อิทํ โวทานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ

    Ayaṃsaṃkilesoti ayaṃ akusalamūlādidvādasattikasaṅgaho saṃkilissati etenāti saṃkilesoti katvā. Idaṃ vodānanti etthāpi eseva nayo.

    ตีณิ หุตฺวา เทฺว ภวนฺตีติ นนฺทิยาวฎฺฎนยสฺส ทิสาภูตธมฺมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ เตเนวาห – ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’’ติอาทิ, ตํ สพฺพํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Tīṇi hutvā dve bhavantīti nandiyāvaṭṭanayassa disābhūtadhammadassanatthaṃ vuttaṃ. Tenevāha – ‘‘taṇhā ca avijjā cā’’tiādi, taṃ sabbaṃ suviññeyyameva.

    กสฺมา ปเนตฺถ นยานํ อุเทฺทสานุกฺกเมน นิเทฺทโส น กโตติ? นยานํ นเยหิ สมฺภวทสฺสนตฺถํฯ ปฐมนยโต หิ ปุคฺคลาธิฎฺฐานวเสน ตติยนยสฺส, ตติยนยโต จ ทุติยนยสฺส สมฺภโวติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ปฐมนยานนฺตรํ ตติยนโย, ตติยนยานนฺตรญฺจ ทุติยนโย นิทฺทิโฎฺฐฯ ธมฺมาธิฎฺฐานวเสน ปน ตติยนยโต ทุติยนโย, ทุติยนยโต ปฐมนโยปิ สมฺภวตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อเนฺต ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’’ติอาทินา ปฐมนยสฺส ภูมิ ทสฺสิตาฯ เตเนว หิ ‘‘จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ, ตีณิ หุตฺวา เทฺว ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ยทิ เอวํ ‘‘เทฺว หุตฺวา จตฺตาริ ภวนฺติ, เทฺว หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ, ตีณิ หุตฺวา จตฺตาริ ภวนฺตี’’ติ อยมฺปิ นโย วตฺตโพฺพ สิยาติ? สจฺจเมตํ, อยํ ปน นโย อตฺถโต ทสฺสิโต เอวาติ กตฺวา น วุโตฺตฯ ยสฺมา ติณฺณํ อตฺถนยานํ อญฺญมญฺญํ อนุปฺปเวโส อิจฺฉิโต, สติ จ อนุปฺปเวเส ตโต วินิคฺคโมปิ สมฺภวติ เอวาติฯ อยญฺจ อโตฺถ เปฎโกปเทเสน วิภาเวตโพฺพฯ

    Kasmā panettha nayānaṃ uddesānukkamena niddeso na katoti? Nayānaṃ nayehi sambhavadassanatthaṃ. Paṭhamanayato hi puggalādhiṭṭhānavasena tatiyanayassa, tatiyanayato ca dutiyanayassa sambhavoti imassa visesassa dassanatthaṃ paṭhamanayānantaraṃ tatiyanayo, tatiyanayānantarañca dutiyanayo niddiṭṭho. Dhammādhiṭṭhānavasena pana tatiyanayato dutiyanayo, dutiyanayato paṭhamanayopi sambhavatīti imassa visesassa dassanatthaṃ ante ‘‘taṇhā ca avijjā cā’’tiādinā paṭhamanayassa bhūmi dassitā. Teneva hi ‘‘cattāri hutvā tīṇi bhavanti, tīṇi hutvā dve bhavantī’’ti vuttaṃ. Yadi evaṃ ‘‘dve hutvā cattāri bhavanti, dve hutvā tīṇi bhavanti, tīṇi hutvā cattāri bhavantī’’ti ayampi nayo vattabbo siyāti? Saccametaṃ, ayaṃ pana nayo atthato dassito evāti katvā na vutto. Yasmā tiṇṇaṃ atthanayānaṃ aññamaññaṃ anuppaveso icchito, sati ca anuppavese tato viniggamopi sambhavati evāti. Ayañca attho peṭakopadesena vibhāvetabbo.

    ตตฺถายํ อาทิโต ปฎฺฐาย วิภาวนา – จตฺตาโร ปุคฺคลา ตณฺหาจริโต ทุวิโธ มุทินฺทฺริโย ติกฺขินฺทฺริโย จฯ ตถา ทิฎฺฐิจริโตติฯ ตตฺถ ตณฺหาจริโต มุทินฺทฺริโย ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยาติ, ติกฺขินฺทฺริโย ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาติ, ทิฎฺฐิจริโต ปน มุทินฺทฺริโย สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยาติ, ติกฺขินฺทฺริโย สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาติฯ อิติ อิมาสุ ปฎิปทาสุ ยถารหํ ฐิเตหิ ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริเตหิ จตฺตาโร อาหารา ตปฺปฎิพนฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน ปหาตพฺพาฯ จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน ภาเวตฺวา จตฺตาโร วิปลฺลาสา ทฎฺฐพฺพาติ สโพฺพ ยถาวุตฺตนโย อนุคนฺตโพฺพฯ

    Tatthāyaṃ ādito paṭṭhāya vibhāvanā – cattāro puggalā taṇhācarito duvidho mudindriyo tikkhindriyo ca. Tathā diṭṭhicaritoti. Tattha taṇhācarito mudindriyo dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyāti, tikkhindriyo dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyāti, diṭṭhicarito pana mudindriyo sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyāti, tikkhindriyo sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyāti. Iti imāsu paṭipadāsu yathārahaṃ ṭhitehi taṇhācaritadiṭṭhicaritehi cattāro āhārā tappaṭibandhachandarāgappahānena pahātabbā. Cattāro satipaṭṭhāne bhāvetvā cattāro vipallāsā daṭṭhabbāti sabbo yathāvuttanayo anugantabbo.

    ตตฺถายํ ปาฬิ – ตตฺถ เย ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา, เต กาเมสุ โทสทิฎฺฐี, น จ เย กาเมสุ อนุสยา สมูหตา, เต อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติฯ เตสํ สตฺถา วา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฎฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี ‘‘กาเมหิ นตฺถิ อโตฺถ’’ติ, เต จ ปุเพฺพเยว กาเมหิ อนตฺถิกา , อิติ กาเม อปฺปกสิเรน ปฎินิสฺสชฺชนฺติ, เต เจตสิเกน ทุเกฺขน อนโชฺฌสิตาฯ เตน วุจฺจติ ‘‘สุขา ปฎิปทา’’ติฯ เย ปน ตณฺหาจริตา สตฺตา, เต กาเมสุ อโชฺฌสิตา, เตสํ สตฺถา วา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ภิกฺขุ ‘‘กาเมหิ นตฺถิ อโตฺถ’’ติ, เต ปิยรูปํ ทุเกฺขน ปฎินิสฺสชฺชนฺติฯ เตน วุจฺจติ ‘‘ทุกฺขา ปฎิปทา’’ติฯ อิติ อิเม สเพฺพ สตฺตา ทฺวีสุ ปฎิปทาสุ สโมสรณํ คจฺฉนฺติ ทุกฺขายญฺจ สุขายญฺจฯ

    Tatthāyaṃ pāḷi – tattha ye diṭṭhicaritā sattā, te kāmesu dosadiṭṭhī, na ca ye kāmesu anusayā samūhatā, te attakilamathānuyogamanuyuttā viharanti. Tesaṃ satthā vā dhammaṃ deseti aññataro vā garuṭṭhāniyo sabrahmacārī ‘‘kāmehi natthi attho’’ti, te ca pubbeyeva kāmehi anatthikā , iti kāme appakasirena paṭinissajjanti, te cetasikena dukkhena anajjhositā. Tena vuccati ‘‘sukhā paṭipadā’’ti. Ye pana taṇhācaritā sattā, te kāmesu ajjhositā, tesaṃ satthā vā dhammaṃ deseti aññataro vā bhikkhu ‘‘kāmehi natthi attho’’ti, te piyarūpaṃ dukkhena paṭinissajjanti. Tena vuccati ‘‘dukkhā paṭipadā’’ti. Iti ime sabbe sattā dvīsu paṭipadāsu samosaraṇaṃ gacchanti dukkhāyañca sukhāyañca.

    ตตฺถ เย ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา, เต ทฺวิธา ติกฺขินฺทฺริยา จ มุทินฺทฺริยา จฯ ตตฺถ เย ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา ติกฺขินฺทฺริยา, เต สุเขน ปฎินิสฺสชฺชนฺติ, ขิปฺปญฺจ อภิสเมนฺติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สุขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา’’ติฯ ตตฺถ เย ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา มุทินฺทฺริยา ปฐมํ ติกฺขินฺทฺริยํ อุปาทาย ทนฺธตรํ อภิสเมนฺติ, เต สุเขน ปฎินิสฺสชฺชนฺติ, ทนฺธญฺจ อภิสเมนฺติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘สุขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา’’ติฯ ตตฺถ ตณฺหาจริตา สตฺตา ทุวิธา ติกฺขินฺทฺริยา จ มุทินฺทฺริยา จฯ ตตฺถ เย ตณฺหาจริตา สตฺตา ติกฺขินฺทฺริยา, เต ทุเกฺขน ปฎินิสฺสชฺชนฺติ, ขิปฺปญฺจ อภิสเมนฺติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ทุกฺขา ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา’’ติฯ ตตฺถ เย ตณฺหาจริตา สตฺตา มุทินฺทฺริยา ปฐมํ ติกฺขินฺทฺริยํ อุปาทาย ทนฺธตรํ อภิสเมนฺติ, เต ทุเกฺขน ปฎินิสฺสชฺชนฺติ, ทนฺธญฺจ อภิสเมนฺติฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘ทุกฺขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา’’ติฯ อิมา จตโสฺส ปฎิปทาโย อปญฺจมา อฉฎฺฐาฯ เย หิ เกจิ นิพฺพุตา นิพฺพายนฺติ นิพฺพายิสฺสนฺติ วา อิมาหิ จตูหิ ปฎิปทาหิ อนญฺญาหิ, อยํ ปฎิปทา จตุกฺกมเคฺคน กิเลเส นิทฺทิสติฯ ยา จตุกฺกมเคฺคน อริยธเมฺมสุ นิทฺทิสิตพฺพา, อยํ วุจฺจติ สีหวิกฺกีฬิโต นาม นโยฯ

    Tattha ye diṭṭhicaritā sattā, te dvidhā tikkhindriyā ca mudindriyā ca. Tattha ye diṭṭhicaritā sattā tikkhindriyā, te sukhena paṭinissajjanti, khippañca abhisamenti. Tena vuccati – ‘‘sukhā paṭipadā khippābhiññā’’ti. Tattha ye diṭṭhicaritā sattā mudindriyā paṭhamaṃ tikkhindriyaṃ upādāya dandhataraṃ abhisamenti, te sukhena paṭinissajjanti, dandhañca abhisamenti. Tena vuccati – ‘‘sukhā paṭipadā dandhābhiññā’’ti. Tattha taṇhācaritā sattā duvidhā tikkhindriyā ca mudindriyā ca. Tattha ye taṇhācaritā sattā tikkhindriyā, te dukkhena paṭinissajjanti, khippañca abhisamenti. Tena vuccati – ‘‘dukkhā paṭipadā khippābhiññā’’ti. Tattha ye taṇhācaritā sattā mudindriyā paṭhamaṃ tikkhindriyaṃ upādāya dandhataraṃ abhisamenti, te dukkhena paṭinissajjanti, dandhañca abhisamenti. Tena vuccati – ‘‘dukkhā paṭipadā dandhābhiññā’’ti. Imā catasso paṭipadāyo apañcamā achaṭṭhā. Ye hi keci nibbutā nibbāyanti nibbāyissanti vā imāhi catūhi paṭipadāhi anaññāhi, ayaṃ paṭipadā catukkamaggena kilese niddisati. Yā catukkamaggena ariyadhammesu niddisitabbā, ayaṃ vuccati sīhavikkīḷito nāma nayo.

    ตตฺริเม จตฺตาโร อาหารา, จตฺตาโร วิปลฺลาสา อุปาทานา โยคา คนฺถา อาสวา โอฆา สลฺลา วิญฺญาณฎฺฐิติโย อคติคมนานีติ เอวํ อิมานิ สพฺพานิ ทส ปทานิฯ อยํ สุตฺตสฺส สํสนฺทนาฯ

    Tatrime cattāro āhārā, cattāro vipallāsā upādānā yogā ganthā āsavā oghā sallā viññāṇaṭṭhitiyo agatigamanānīti evaṃ imāni sabbāni dasa padāni. Ayaṃ suttassa saṃsandanā.

    จตฺตาโร อาหารา, ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผโสฺส อาหาโร, อิเม ตณฺหาจริเตน ปหาตพฺพาฯ ตตฺถ โย จ มโนสเญฺจตนาหาโร, โย จ วิญฺญาณาหาโร, อิเม ทิฎฺฐิจริเตน ปหาตพฺพาฯ

    Cattāro āhārā, tattha yo ca kabaḷīkāro āhāro, yo ca phasso āhāro, ime taṇhācaritena pahātabbā. Tattha yo ca manosañcetanāhāro, yo ca viññāṇāhāro, ime diṭṭhicaritena pahātabbā.

    ตตฺถ ปฐโม อาหาโร ปฐโม วิปลฺลาโส, ทุติโย อาหาโร ทุติโย วิปลฺลาโส, ตติโย อาหาโร ตติโย วิปลฺลาโส, จตุโตฺถ อาหาโร จตุโตฺถ วิปลฺลาโส, อิเม จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปญฺจมา อฉฎฺฐาฯ อิทญฺจ ปมาณา จตฺตาโร อาหาราฯ

    Tattha paṭhamo āhāro paṭhamo vipallāso, dutiyo āhāro dutiyo vipallāso, tatiyo āhāro tatiyo vipallāso, catuttho āhāro catuttho vipallāso, ime cattāro vipallāsā apañcamā achaṭṭhā. Idañca pamāṇā cattāro āhārā.

    ตตฺถ ปฐเม วิปลฺลาเส ฐิโต กาเม อุปาทิยติ, อิทํ กามุปาทานํฯ ทุติเย วิปลฺลาเส ฐิโต อนาคตํ ภวํ อุปาทิยติ, อิทํ สีลพฺพตุปาทานํฯ ตติเย วิปลฺลาเส ฐิโต วิปรีตทิฎฺฐิํ อุปาทิยติ, อิทํ ทิฎฺฐุปาทานํฯ จตุเตฺถ วิปลฺลาเส ฐิโต ขเนฺธ อตฺตโต อุปาทิยติ, อิทํ อตฺตวาทุปาทานํฯ

    Tattha paṭhame vipallāse ṭhito kāme upādiyati, idaṃ kāmupādānaṃ. Dutiye vipallāse ṭhito anāgataṃ bhavaṃ upādiyati, idaṃ sīlabbatupādānaṃ. Tatiye vipallāse ṭhito viparītadiṭṭhiṃ upādiyati, idaṃ diṭṭhupādānaṃ. Catutthe vipallāse ṭhito khandhe attato upādiyati, idaṃ attavādupādānaṃ.

    ตตฺถ กามุปาทาเน ฐิโต กาเม อภิชฺฌาย คนฺถติ, อยํ อภิชฺฌากายคโนฺถฯ สีลพฺพตุปาทาเน ฐิโต พฺยาปาทํ คนฺถติ, อยํ พฺยาปาทกายคโนฺถฯ ทิฎฺฐุปาทาเน ฐิโต ปรามาสํ คนฺถติ, อยํ ปรามาสกายคโนฺถฯ อตฺตวาทุปาทาเน ฐิโต ปปเญฺจโนฺต คนฺถติ, อยํ อิทํสจฺจาภินิเวสกายคโนฺถฯ

    Tattha kāmupādāne ṭhito kāme abhijjhāya ganthati, ayaṃ abhijjhākāyagantho. Sīlabbatupādāne ṭhito byāpādaṃ ganthati, ayaṃ byāpādakāyagantho. Diṭṭhupādāne ṭhito parāmāsaṃ ganthati, ayaṃ parāmāsakāyagantho. Attavādupādāne ṭhito papañcento ganthati, ayaṃ idaṃsaccābhinivesakāyagantho.

    ตสฺส คนฺถคนฺถิตา กิเลสา อาสวนฺติฯ กิํ ปน วุจฺจติ อาสวนฺตีติ? วิปฺปฎิสาราฯ เย วิปฺปฎิสารา, เต อนุสยาฯ ตตฺถ อภิชฺฌากายคเนฺถน กามาสโว, พฺยาปาทกายคเนฺถน ภวาสโว, ปรามาสกายคเนฺถน ทิฎฺฐาสโว, อิทํสจฺจาภินิเวสกายคเนฺถน อวิชฺชาสโวฯ

    Tassa ganthaganthitā kilesā āsavanti. Kiṃ pana vuccati āsavantīti? Vippaṭisārā. Ye vippaṭisārā, te anusayā. Tattha abhijjhākāyaganthena kāmāsavo, byāpādakāyaganthena bhavāsavo, parāmāsakāyaganthena diṭṭhāsavo, idaṃsaccābhinivesakāyaganthena avijjāsavo.

    เต จตฺตาโร อาสวา เวปุลฺลํ คตา โอฆา โหนฺติ, เตน วุจฺจนฺติ ‘‘โอฆา’’ติฯ ตตฺถ กามาสโว กาโมโฆ, ภวาสโว ภโวโฆ, อวิชฺชาสโว อวิโชฺชโฆ, ทิฎฺฐาสโว ทิโฎฺฐโฆฯ

    Te cattāro āsavā vepullaṃ gatā oghā honti, tena vuccanti ‘‘oghā’’ti. Tattha kāmāsavo kāmogho, bhavāsavo bhavogho, avijjāsavo avijjogho, diṭṭhāsavo diṭṭhogho.

    เต จตฺตาโร โอฆา อาสยมนุปวิฎฺฐา อนุสยสหคตา วุจฺจนฺติ สลฺลาติ หทยมาหจฺจ ติฎฺฐนฺติฯ ตตฺถ กาโมโฆ ราคสลฺลํ, ภโวโฆ โทสสลฺลํ, อวิโชฺชโฆ โมหสลฺลํ, ทิโฎฺฐโฆ ทิฎฺฐิสลฺลํฯ

    Te cattāro oghā āsayamanupaviṭṭhā anusayasahagatā vuccanti sallāti hadayamāhacca tiṭṭhanti. Tattha kāmogho rāgasallaṃ, bhavogho dosasallaṃ, avijjogho mohasallaṃ, diṭṭhogho diṭṭhisallaṃ.

    อิเมหิ จตูหิ สเลฺลหิ ปริยาทินฺนํ วิญฺญาณํ จตูสุ ธเมฺมสุ ติฎฺฐติ รูเป เวทนาย สญฺญาย สงฺขาเรสุฯ อิมา จตโสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติโยฯ ตตฺถ ราคสเลฺลน นนฺทูปเสจนํ รูปูปคํ วิญฺญาณํ ติฎฺฐติฯ โทสสเลฺลน เวทนูปคํฯ โมหสเลฺลน สญฺญูปคํฯ ทิฎฺฐิสเลฺลน นนฺทูปเสจนํ สงฺขารูปคํ วิญฺญาณํ ติฎฺฐติฯ

    Imehi catūhi sallehi pariyādinnaṃ viññāṇaṃ catūsu dhammesu tiṭṭhati rūpe vedanāya saññāya saṅkhāresu. Imā catasso viññāṇaṭṭhitiyo. Tattha rāgasallena nandūpasecanaṃ rūpūpagaṃ viññāṇaṃ tiṭṭhati. Dosasallena vedanūpagaṃ. Mohasallena saññūpagaṃ. Diṭṭhisallena nandūpasecanaṃ saṅkhārūpagaṃ viññāṇaṃ tiṭṭhati.

    จตูหิ วิญฺญาณฎฺฐิตีหิ จตุพฺพิธํ อคติํ คจฺฉนฺติ ฉนฺทา โทสา ภยา โมหาฯ ราเคน ฉนฺทา อคติํ คจฺฉติ, โทเสน โทสา อคติํ คจฺฉติ, โมเหน โมหา อคติํ คจฺฉติ, ทิฎฺฐิยา ภยา อคติํ คจฺฉติ, อิติ อิมานิ จ กมฺมานิ อิเม จ กิเลสา อยํ สํสารเหตุฯ

    Catūhi viññāṇaṭṭhitīhi catubbidhaṃ agatiṃ gacchanti chandā dosā bhayā mohā. Rāgena chandā agatiṃ gacchati, dosena dosā agatiṃ gacchati, mohena mohā agatiṃ gacchati, diṭṭhiyā bhayā agatiṃ gacchati, iti imāni ca kammāni ime ca kilesā ayaṃ saṃsārahetu.

    ตตฺถิมา จตโสฺส ทิสา กพฬีกาโร อาหาโร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส กามุปาทานํ กามโยโค อภิชฺฌากายคโนฺถ กามาสโว กาโมโฆ ราคสลฺลํ รูปูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ ฉนฺทา อคติคมนํ, อยํ ปฐมา ทิสาฯ

    Tatthimā catasso disā kabaḷīkāro āhāro ‘‘asubhe subha’’nti vipallāso kāmupādānaṃ kāmayogo abhijjhākāyagantho kāmāsavo kāmogho rāgasallaṃ rūpūpagā viññāṇaṭṭhiti chandā agatigamanaṃ, ayaṃ paṭhamā disā.

    ผโสฺส อาหาโร ‘‘ทุเกฺข สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส สีลพฺพตุปาทานํ ภวโยโค พฺยาปาทกายคโนฺถ ภวาสโว ภโวโฆ โทสสลฺลํ เวทนูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ โทสา อคติคมนํ, อยํ ทุติยา ทิสาฯ

    Phasso āhāro ‘‘dukkhe sukha’’nti vipallāso sīlabbatupādānaṃ bhavayogo byāpādakāyagantho bhavāsavo bhavogho dosasallaṃ vedanūpagā viññāṇaṭṭhiti dosā agatigamanaṃ, ayaṃ dutiyā disā.

    มโนสเญฺจตนาหาโร ‘‘อนตฺตนิ อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส ทิฎฺฐุปาทานํ ทิฎฺฐิโยโค ปรามาสกายคโนฺถ ทิฎฺฐาสโว ทิโฎฺฐโฆ ทิฎฺฐิสลฺลํ สญฺญูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ ภยา อคติคมนํ, อยํ ตติยา ทิสาฯ

    Manosañcetanāhāro ‘‘anattani attā’’ti vipallāso diṭṭhupādānaṃ diṭṭhiyogo parāmāsakāyagantho diṭṭhāsavo diṭṭhogho diṭṭhisallaṃ saññūpagā viññāṇaṭṭhiti bhayā agatigamanaṃ, ayaṃ tatiyā disā.

    วิญฺญาณาหาโร ‘‘อนิเจฺจ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส อตฺตวาทุปาทานํ อวิชฺชาโยโค อิทํสจฺจาภินิเวโสกายคโนฺถ อวิชฺชาสโว อวิโชฺชโฆ โมหสลฺลํ สงฺขารูปคา วิญฺญาณฎฺฐิติ โมหา อคติคมนํ, อยํ จตุตฺถี ทิสาฯ อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ สุตฺตานํ ปฐเมน ปเทน ปฐมาย ทิสาย อาโลกนํ, ทุติเยน ปเทน ทุติยาย ทิสาย, ตติเยน ปเทน ตติยาย ทิสาย, จตุเตฺถน ปเทน จตุตฺถิยา ทิสาย อาโลกนํ, อยํ วุจฺจติ ทิสา อาโลกนาฯ อิมินา นเยน สเพฺพ กิเลสา จตูสุ ปเทสุ ปกฺขิปิตพฺพาฯ อยํ อกุสลปโกฺขฯ

    Viññāṇāhāro ‘‘anicce nicca’’nti vipallāso attavādupādānaṃ avijjāyogo idaṃsaccābhinivesokāyagantho avijjāsavo avijjogho mohasallaṃ saṅkhārūpagā viññāṇaṭṭhiti mohā agatigamanaṃ, ayaṃ catutthī disā. Iti imesaṃ dasannaṃ suttānaṃ paṭhamena padena paṭhamāya disāya ālokanaṃ, dutiyena padena dutiyāya disāya, tatiyena padena tatiyāya disāya, catutthena padena catutthiyā disāya ālokanaṃ, ayaṃ vuccati disā ālokanā. Iminā nayena sabbe kilesā catūsu padesu pakkhipitabbā. Ayaṃ akusalapakkho.

    จตโสฺส ปฎิปทา, จตฺตาริ ฌานานิ, จตฺตาโร สติปฎฺฐานา, จตฺตาโร วิหารา ทิโพฺพ พฺรหฺมา อริโย อาเนโญฺช, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, จตฺตาโร อธิฎฺฐานา, จตฺตาโร สมาธโย ฉนฺทสมาธิ วีริยสมาธิ จิตฺตสมาธิ วีมํสาสมาธิ, จตฺตาโร ธมฺมา สุขภาคิยา นาญฺญตฺร โพชฺฌงฺคา นาญฺญตฺร ตปสา นาญฺญตฺร อินฺทฺริยสํวรา นาญฺญตฺร สพฺพนิสฺสคฺคา, จตฺตาริ อปฺปมาณานิฯ

    Catasso paṭipadā, cattāri jhānāni, cattāro satipaṭṭhānā, cattāro vihārā dibbo brahmā ariyo āneñjo, cattāro sammappadhānā, cattāro acchariyā abbhutā dhammā, cattāro adhiṭṭhānā, cattāro samādhayo chandasamādhi vīriyasamādhi cittasamādhi vīmaṃsāsamādhi, cattāro dhammā sukhabhāgiyā nāññatra bojjhaṅgā nāññatra tapasā nāññatra indriyasaṃvarā nāññatra sabbanissaggā, cattāri appamāṇāni.

    ตตฺถ ทุกฺขา ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา ภาวิยมานา พหุลีกริยมานา ปฐมํ ฌานํ ปริปูเรติ, ปฐมํ ฌานํ ปริปุณฺณํ ปฐมํ สติปฎฺฐานํ ปริปูเรติ, ปฐมํ สติปฎฺฐานํ ปริปุณฺณํ ปฐมํ วิหารํ ปริปูเรติ, ปฐโม วิหาโร ปริปุโณฺณ ปฐมํ สมฺมปฺปธานํ ปริปูเรติ, ปฐมํ สมฺมปฺปธานํ ปริปุณฺณํ ปฐมํ อจฺฉริยํ อพฺภุตํ ธมฺมํ ปริปูเรติ, ปฐโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺม ปริปุโณฺณ ปฐมํ อธิฎฺฐานํ ปริปูเรติ, ปฐมํ อธิฎฺฐานํ ปริปุณฺณํ ฉนฺทสมาธิํ ปริปูเรติ, ฉนฺทสมาธิ ปริปุโณฺณ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปุโณฺณ ปฐมํ อปฺปมาณํ ปริปูเรติฯ เอวํ ยาว สพฺพนิสฺสคฺคา จตุตฺถํ อปฺปมาณํ ปริปูเรติฯ

    Tattha dukkhā paṭipadā dandhābhiññā bhāviyamānā bahulīkariyamānā paṭhamaṃ jhānaṃ paripūreti, paṭhamaṃ jhānaṃ paripuṇṇaṃ paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ paripūreti, paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ paripuṇṇaṃ paṭhamaṃ vihāraṃ paripūreti, paṭhamo vihāro paripuṇṇo paṭhamaṃ sammappadhānaṃ paripūreti, paṭhamaṃ sammappadhānaṃ paripuṇṇaṃ paṭhamaṃ acchariyaṃ abbhutaṃ dhammaṃ paripūreti, paṭhamo acchariyo abbhuto dhammo paripuṇṇo paṭhamaṃ adhiṭṭhānaṃ paripūreti, paṭhamaṃ adhiṭṭhānaṃ paripuṇṇaṃ chandasamādhiṃ paripūreti, chandasamādhi paripuṇṇo indriyasaṃvaraṃ paripūreti, indriyasaṃvaro paripuṇṇo paṭhamaṃ appamāṇaṃ paripūreti. Evaṃ yāva sabbanissaggā catutthaṃ appamāṇaṃ paripūreti.

    ตตฺถ ปฐมา จ ปฎิปทา ปฐมญฺจ ฌานํ ปฐมญฺจ สติปฎฺฐานํ ทิโพฺพ จ วิหาโร ปฐมญฺจ สมฺมปฺปธานํ ปฐโม จ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺม สจฺจาธิฎฺฐานญฺจ ฉนฺทสมาธิ จ อินฺทฺริยสํวโร จ เมตฺตา จ อปฺปมาณํฯ อยํ ปฐมา ทิสาฯ

    Tattha paṭhamā ca paṭipadā paṭhamañca jhānaṃ paṭhamañca satipaṭṭhānaṃ dibbo ca vihāro paṭhamañca sammappadhānaṃ paṭhamo ca acchariyo abbhuto dhammo saccādhiṭṭhānañca chandasamādhi ca indriyasaṃvaro ca mettā ca appamāṇaṃ. Ayaṃ paṭhamā disā.

    ทุติยา จ ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา ทุติยญฺจ ฌานํ ทุติยญฺจ สติปฎฺฐานํ พฺรหฺมา จ วิหาโร ทุติยญฺจ สมฺมปฺปธานํ ทุติโย จ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺม จาคาธิฎฺฐานญฺจ จิตฺตสมาธิ จ ตโป จ กรุณา จ อปฺปมาณํฯ อยํ ทุติยา ทิสาฯ

    Dutiyā ca paṭipadā khippābhiññā dutiyañca jhānaṃ dutiyañca satipaṭṭhānaṃ brahmā ca vihāro dutiyañca sammappadhānaṃ dutiyo ca acchariyo abbhuto dhammo cāgādhiṭṭhānañca cittasamādhi ca tapo ca karuṇā ca appamāṇaṃ. Ayaṃ dutiyā disā.

    ตติยา จ ปฎิปทา ทนฺธาภิญฺญา ตติยญฺจ ฌานํ ตติยญฺจ สติปฎฺฐานํ อริโย จ วิหาโร ตติยญฺจ สมฺมปฺปธานํ ตติโย จ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺม สจฺจาธิฎฺฐานญฺจ วีริยสมาธิ จ โพชฺฌงฺคา จ มุทิตา จ อปฺปมาณํฯ อยํ ตติยา ทิสาฯ

    Tatiyā ca paṭipadā dandhābhiññā tatiyañca jhānaṃ tatiyañca satipaṭṭhānaṃ ariyo ca vihāro tatiyañca sammappadhānaṃ tatiyo ca acchariyo abbhuto dhammo saccādhiṭṭhānañca vīriyasamādhi ca bojjhaṅgā ca muditā ca appamāṇaṃ. Ayaṃ tatiyā disā.

    จตุตฺถี จ ปฎิปทา ขิปฺปาภิญฺญา จตุตฺถญฺจ ฌานํ จตุตฺถญฺจ สติปฎฺฐานํ อาเนโญฺช จ วิหาโร จตุตฺถญฺจ สมฺมปฺปธานํ จตุโตฺถ จ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺม อุปสมาธิฎฺฐานญฺจ วีมํสาสมาธิ จ สพฺพนิสฺสโคฺค จ อุเปกฺขา จ อปฺปมาณํฯ อยํ จตุตฺถี ทิสาฯ อิมาสํ จตุนฺนํ ทิสานํ ยา อาโลกนา, อยํ วุจฺจติ ทิสาโลจโน นาม นโยฯ

    Catutthī ca paṭipadā khippābhiññā catutthañca jhānaṃ catutthañca satipaṭṭhānaṃ āneñjo ca vihāro catutthañca sammappadhānaṃ catuttho ca acchariyo abbhuto dhammo upasamādhiṭṭhānañca vīmaṃsāsamādhi ca sabbanissaggo ca upekkhā ca appamāṇaṃ. Ayaṃ catutthī disā. Imāsaṃ catunnaṃ disānaṃ yā ālokanā, ayaṃ vuccati disālocano nāma nayo.

    ตตฺถายํ โยชนา – จตฺตาโร จ อาหารา, จตโสฺส จ ปฎิปทา, จตฺตาโร จ วิปลฺลาสา, จตฺตาโร จ สติปฎฺฐานา, จตฺตาริ จ อุปาทานานิ, จตฺตาริ จ ฌานานิ, จตฺตาโร จ โยคา, จตฺตาโร จ วิหารา, จตฺตาโร จ คนฺถา, จตฺตาโร จ สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร จ อาสวา, จตฺตาโร จ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, จตฺตาโร จ โอฆา, จตฺตาริ จ อธิฎฺฐานานิ, จตฺตาริ จ สลฺลานิ, จตฺตาโร จ สมาธโย, จตโสฺส จ วิญฺญาณฎฺฐิติโย, จตฺตาโร จ สุขภาคิยา ธมฺมา, จตฺตาริ จ อคติคมนานิ จตฺตาริ จ อปฺปมาณานิฯ อิติ กุสลากุสลานํ ปกฺขปฎิปกฺขวเสน โยชนาฯ อยํ สีหวิกฺกีฬิเต ทิสาโลจโน นโยฯ

    Tatthāyaṃ yojanā – cattāro ca āhārā, catasso ca paṭipadā, cattāro ca vipallāsā, cattāro ca satipaṭṭhānā, cattāri ca upādānāni, cattāri ca jhānāni, cattāro ca yogā, cattāro ca vihārā, cattāro ca ganthā, cattāro ca sammappadhānā, cattāro ca āsavā, cattāro ca acchariyā abbhutā dhammā, cattāro ca oghā, cattāri ca adhiṭṭhānāni, cattāri ca sallāni, cattāro ca samādhayo, catasso ca viññāṇaṭṭhitiyo, cattāro ca sukhabhāgiyā dhammā, cattāri ca agatigamanāni cattāri ca appamāṇāni. Iti kusalākusalānaṃ pakkhapaṭipakkhavasena yojanā. Ayaṃ sīhavikkīḷite disālocano nayo.

    ตสฺส จตฺตาริ สามญฺญผลานิ ปริโยสานํ, ตตฺถ ปฐมาย ทิสาย โสตาปตฺติผลํ ปริโยสานํ, ทุติยาย สกทาคามิผลํ, ตติยาย อนาคามิผลํ, จตุตฺถิยา อรหตฺตผลํ ปริโยสานนฺติฯ

    Tassa cattāri sāmaññaphalāni pariyosānaṃ, tattha paṭhamāya disāya sotāpattiphalaṃ pariyosānaṃ, dutiyāya sakadāgāmiphalaṃ, tatiyāya anāgāmiphalaṃ, catutthiyā arahattaphalaṃ pariyosānanti.

    ตตฺถ กตโม ติปุกฺขลนโย? ปฎิปทาวิภาเคน จตูสุ ปุคฺคเลสุ โย สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาติ, อยํ อุคฺฆฎิตญฺญูฯ โย สุขาย วา ปฎิปทาย, ทนฺธาภิญฺญาย, ทุกฺขาย วา ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาติ, อยํ วิปญฺจิตญฺญูฯ โย ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยาติ, อยํ เนโยฺยฯ อิติ จตฺตาโร หุตฺวา ตโย โหนฺติฯ ตตฺถ อุคฺฆฎิตญฺญุสฺส สมถปุพฺพงฺคมา วิปสฺสนา สปฺปายา ฯ เนยฺยสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม สมโถ, วิปญฺจิตญฺญุสฺส สมถวิปสฺสนา ยุคนทฺธาฯ อุคฺฆฎิตญฺญุสฺส มุทุกา เทสนา, เนยฺยสฺส ติกฺขา เทสนา, วิปญฺจิตญฺญุสฺส ติกฺขมุทุกา เทสนาฯ

    Tattha katamo tipukkhalanayo? Paṭipadāvibhāgena catūsu puggalesu yo sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyāti, ayaṃ ugghaṭitaññū. Yo sukhāya vā paṭipadāya, dandhābhiññāya, dukkhāya vā paṭipadāya khippābhiññāya niyyāti, ayaṃ vipañcitaññū. Yo dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyāti, ayaṃ neyyo. Iti cattāro hutvā tayo honti. Tattha ugghaṭitaññussa samathapubbaṅgamā vipassanā sappāyā . Neyyassa vipassanāpubbaṅgamo samatho, vipañcitaññussa samathavipassanā yuganaddhā. Ugghaṭitaññussa mudukā desanā, neyyassa tikkhā desanā, vipañcitaññussa tikkhamudukā desanā.

    อุคฺฆฎิตญฺญุสฺส อธิปญฺญาสิกฺขา, วิปญฺจิตญฺญุสฺส อธิจิตฺตสิกฺขา จ อธิปญฺญาสิกฺขา จ, เนยฺยสฺส อธิสีลสิกฺขา จ อธิจิตฺตสิกฺขา จ อธิปญฺญาสิกฺขา จฯ อิติ อิเมสํ ปุคฺคลานํ จตูหิ ปฎิปทาหิ นิยฺยานํฯ

    Ugghaṭitaññussa adhipaññāsikkhā, vipañcitaññussa adhicittasikkhā ca adhipaññāsikkhā ca, neyyassa adhisīlasikkhā ca adhicittasikkhā ca adhipaññāsikkhā ca. Iti imesaṃ puggalānaṃ catūhi paṭipadāhi niyyānaṃ.

    ตตฺถายํ สํกิเลสปโกฺข, ตีณิ อกุสลมูลานิ, ตโย ผสฺสา, ติโสฺส เวทนา, ตโย อุปวิจารา, ตโย กิเลสา, ตโย วิตกฺกา, ตโย ปริฬาหา, ตีณิ สงฺขตลกฺขณานิ, ติโสฺส ทุกฺขตาฯ

    Tatthāyaṃ saṃkilesapakkho, tīṇi akusalamūlāni, tayo phassā, tisso vedanā, tayo upavicārā, tayo kilesā, tayo vitakkā, tayo pariḷāhā, tīṇi saṅkhatalakkhaṇāni, tisso dukkhatā.

    ตีณิ อกุสลมูลานีติ โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํฯ ตโย ผสฺสาติ สุขเวทนีโย ผโสฺส, ทุกฺขเวทนีโย ผโสฺส, อทุกฺขมสุขเวทนีโย ผโสฺสฯ ติโสฺส เวทนาติ สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนาฯ ตโย อุปวิจาราติ โสมนสฺสูปวิจาโร, โทมนสฺสูปวิจาโร, อุเปกฺขูปวิจาโรฯ ตโย กิเลสาติ โลโภ, โทโส, โมโหฯ ตโย วิตกฺกาติ กามวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตโกฺก, วิหิํสาวิตโกฺกฯ ตโย ปริฬาหาติ ราคโช, โทสโช, โมหโชฯ ตีณิ สงฺขตลกฺขณานีติ อุปฺปาโท, ฐิติ, วโยฯ ติโสฺส ทุกฺขตาติ ทุกฺขทุกฺขตา, วิปริณามทุกฺขตา, สงฺขารทุกฺขตาฯ

    Tīṇi akusalamūlānīti lobho akusalamūlaṃ, doso akusalamūlaṃ, moho akusalamūlaṃ. Tayo phassāti sukhavedanīyo phasso, dukkhavedanīyo phasso, adukkhamasukhavedanīyo phasso. Tisso vedanāti sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā. Tayo upavicārāti somanassūpavicāro, domanassūpavicāro, upekkhūpavicāro. Tayo kilesāti lobho, doso, moho. Tayo vitakkāti kāmavitakko, byāpādavitakko, vihiṃsāvitakko. Tayo pariḷāhāti rāgajo, dosajo, mohajo. Tīṇi saṅkhatalakkhaṇānīti uppādo, ṭhiti, vayo. Tisso dukkhatāti dukkhadukkhatā, vipariṇāmadukkhatā, saṅkhāradukkhatā.

    ตตฺถ โลโภ อกุสลมูลํ มนาปิเกน อารมฺมเณน สมุฎฺฐหติฯ ตเทว มนาปิการมฺมณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขเวทนีโย ผโสฺส, สุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา, สุขํ เวทนํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โสมนสฺสูปวิจาโร, โสมนสฺสูปวิจารํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ราโค, ราคํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ กามวิตโกฺก, กามวิตกฺกํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ราคโช ปริฬาโห, ราคชํ ปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อุปฺปาโท สงฺขตลกฺขณํ, อุปฺปาทํ สงฺขตลกฺขณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ วิปริณามทุกฺขตาฯ

    Tattha lobho akusalamūlaṃ manāpikena ārammaṇena samuṭṭhahati. Tadeva manāpikārammaṇaṃ paṭicca uppajjati sukhavedanīyo phasso, sukhavedanīyaṃ phassaṃ paṭicca uppajjati sukhā vedanā, sukhaṃ vedanaṃ paṭicca uppajjati somanassūpavicāro, somanassūpavicāraṃ paṭicca uppajjati rāgo, rāgaṃ paṭicca uppajjati kāmavitakko, kāmavitakkaṃ paṭicca uppajjati rāgajo pariḷāho, rāgajaṃ pariḷāhaṃ paṭicca uppajjati uppādo saṅkhatalakkhaṇaṃ, uppādaṃ saṅkhatalakkhaṇaṃ paṭicca uppajjati vipariṇāmadukkhatā.

    โทโส อกุสลมูลํ อมนาปิเกน อารมฺมเณน สมุฎฺฐหติฯ ตเทว อมนาปิการมฺมณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ทุกฺขเวทนีโย ผโสฺส, ทุกฺขเวทนียํ ผสฺสํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ทุกฺขา เวทนา, ทุกฺขํ เวทนํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสูปวิจาโร, โทมนสฺสูปวิจารํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โทโส, โทสํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ พฺยาปาทวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตกฺกํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โทสโช ปริฬาโห, โทสชํ ปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ สงฺขตลกฺขณํ, ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ สงฺขตลกฺขณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ ทุกฺขทุกฺขตาฯ

    Doso akusalamūlaṃ amanāpikena ārammaṇena samuṭṭhahati. Tadeva amanāpikārammaṇaṃ paṭicca uppajjati dukkhavedanīyo phasso, dukkhavedanīyaṃ phassaṃ paṭicca uppajjati dukkhā vedanā, dukkhaṃ vedanaṃ paṭicca uppajjati domanassūpavicāro, domanassūpavicāraṃ paṭicca uppajjati doso, dosaṃ paṭicca uppajjati byāpādavitakko, byāpādavitakkaṃ paṭicca uppajjati dosajo pariḷāho, dosajaṃ pariḷāhaṃ paṭicca uppajjati ṭhitassa aññathattaṃ saṅkhatalakkhaṇaṃ, ṭhitassa aññathattaṃ saṅkhatalakkhaṇaṃ paṭicca uppajjati dukkhadukkhatā.

    โมโห อกุสลมูลํ อุเปกฺขาฐานิยํ อารมฺมเณน สมุฎฺฐหติฯ ตเทว อุเปกฺขาฐานิยํ อารมฺมณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขเวทนีโย ผโสฺส, อทุกฺขมสุขเวทนียํ ผสฺสํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อทุกฺขมสุขา เวทนา, อทุกฺขมสุขํ เวทนํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ อุเปกฺขูปวิจาโร, อุเปกฺขูปวิจารํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โมโห, โมหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ วิหิํสาวิตโกฺก, วิหิํสาวิตกฺกํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ โมหโช ปริฬาโห, โมหชํ ปริฬาหํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ วโย สงฺขตลกฺขณํ, วยํ สงฺขตลกฺขณํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชติ สงฺขารทุกฺขตาฯ อิติ อยํ ตีหิ อากาเรหิ กิเลสานํ นิเทฺทโสฯ โย โกจิ อกุสลปโกฺข, สโพฺพ โส ตีสุ อกุสลมูเลสุ สโมสรตีติฯ

    Moho akusalamūlaṃ upekkhāṭhāniyaṃ ārammaṇena samuṭṭhahati. Tadeva upekkhāṭhāniyaṃ ārammaṇaṃ paṭicca uppajjati adukkhamasukhavedanīyo phasso, adukkhamasukhavedanīyaṃ phassaṃ paṭicca uppajjati adukkhamasukhā vedanā, adukkhamasukhaṃ vedanaṃ paṭicca uppajjati upekkhūpavicāro, upekkhūpavicāraṃ paṭicca uppajjati moho, mohaṃ paṭicca uppajjati vihiṃsāvitakko, vihiṃsāvitakkaṃ paṭicca uppajjati mohajo pariḷāho, mohajaṃ pariḷāhaṃ paṭicca uppajjati vayo saṅkhatalakkhaṇaṃ, vayaṃ saṅkhatalakkhaṇaṃ paṭicca uppajjati saṅkhāradukkhatā. Iti ayaṃ tīhi ākārehi kilesānaṃ niddeso. Yo koci akusalapakkho, sabbo so tīsu akusalamūlesu samosaratīti.

    ตตฺถ กตโม กุสลปโกฺข? ตีณิ กุสลมูลานิ อโลโภ, อโทโส, อโมโหฯ ติโสฺส ปญฺญา สุตมยี, จินฺตามยี, ภาวนามยีฯ ตโย สมาธี สวิตกฺกสวิจาโร, อวิตกฺกวิจารมโตฺต, อวิตกฺกอวิจาโรฯ ติโสฺส สิกฺขา อธิสีลสิกฺขา, อธิจิตฺตสิกฺขา , อธิปญฺญาสิกฺขาฯ ตีณิ นิมิตฺตานิ สมถนิมิตฺตํ, ปคฺคหนิมิตฺตํ, อุเปกฺขานิมิตฺตํฯ ตโย วิตกฺกา เนกฺขมฺมวิตโกฺก, อพฺยาปาทวิตโกฺก, อวิหิํสาวิตโกฺกฯ ตีณิ อินฺทฺริยานิ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ, อญฺญินฺทฺริยํ, อญฺญาตาวินฺทฺริยํฯ ตโย อุปวิจารา เนกฺขมฺมูปวิจาโร, อพฺยาปาทูปวิจาโร, อวิหิํสูปวิจาโร ติโสฺส เอสนา กาเมสนา, ภเวสนา, พฺรหฺมจริเยสนาฯ ตโย ขนฺธา สีลกฺขโนฺธ, สมาธิกฺขโนฺธ, ปญฺญากฺขโนฺธฯ

    Tattha katamo kusalapakkho? Tīṇi kusalamūlāni alobho, adoso, amoho. Tisso paññā sutamayī, cintāmayī, bhāvanāmayī. Tayo samādhī savitakkasavicāro, avitakkavicāramatto, avitakkaavicāro. Tisso sikkhā adhisīlasikkhā, adhicittasikkhā , adhipaññāsikkhā. Tīṇi nimittāni samathanimittaṃ, paggahanimittaṃ, upekkhānimittaṃ. Tayo vitakkā nekkhammavitakko, abyāpādavitakko, avihiṃsāvitakko. Tīṇi indriyāni anaññātaññassāmītindriyaṃ, aññindriyaṃ, aññātāvindriyaṃ. Tayo upavicārā nekkhammūpavicāro, abyāpādūpavicāro, avihiṃsūpavicāro tisso esanā kāmesanā, bhavesanā, brahmacariyesanā. Tayo khandhā sīlakkhandho, samādhikkhandho, paññākkhandho.

    ตตฺถ อโลโภ กุสลมูลํ สุตมยิปญฺญํ ปริปูเรติฯ สุตมยิ ปญฺญา ปริปุณฺณา สวิตกฺกสวิจารํ สมาธิํ ปริปูเรติ, สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ ปริปุโณฺณ อธิสีลสิกฺขํ ปริปูเรติ, อธิสีลสิกฺขา ปริปุณฺณา สมถนิมิตฺตํ ปริปูเรติ, สมถนิมิตฺตํ ปริปุณฺณํ เนกฺขมฺมวิตกฺกํ ปริปูเรติ, เนกฺขมฺมวิตโกฺก ปริปุโณฺณ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยํ ปริปุณฺณํ เนกฺขมฺมสิตูปวิจารํ ปริปูเรติ, เนกฺขมฺมูปวิจารํ ปริปุโณฺณ กาเมสนํ ปชหติฯ กาเมสนปฺปหานํ สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรติฯ

    Tattha alobho kusalamūlaṃ sutamayipaññaṃ paripūreti. Sutamayi paññā paripuṇṇā savitakkasavicāraṃ samādhiṃ paripūreti, savitakkasavicāro samādhi paripuṇṇo adhisīlasikkhaṃ paripūreti, adhisīlasikkhā paripuṇṇā samathanimittaṃ paripūreti, samathanimittaṃ paripuṇṇaṃ nekkhammavitakkaṃ paripūreti, nekkhammavitakko paripuṇṇo anaññātaññassāmītindriyaṃ paripūreti, anaññātaññassāmītindriyaṃ paripuṇṇaṃ nekkhammasitūpavicāraṃ paripūreti, nekkhammūpavicāraṃ paripuṇṇo kāmesanaṃ pajahati. Kāmesanappahānaṃ sīlakkhandhaṃ paripūreti.

    อโทโส กุสลมูลํ จินฺตามยิปญฺญํ ปริปูเรติ, จินฺตามยิปญฺญา ปริปุณฺณา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ สมาธิํ ปริปูเรติ, อวิตกฺกวิจารมโตฺต สมาธิ ปริปุโณฺณ อธิจิตฺตสิกฺขํ ปริปูเรติ, อธิจิตฺตสิกฺขา ปริปุณฺณา อุเปกฺขานิมิตฺตํ ปริปูเรติ, อุเปกฺขานิมิตฺตํ ปริปุณฺณํ อพฺยาปาทวิตกฺกํ ปริปูเรติ, อพฺยาปาทวิตโกฺก ปริปุโณฺณ อญฺญินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, อญฺญินฺทฺริยํ ปริปุณฺณํ อพฺยาปาทูปวิจารํ ปริปูเรติ, อพฺยาปาทูปวิจาโร ปริปุโณฺณ ภเวสนํ ปชหติ, ภเวสนปฺปหานํ สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรติฯ

    Adoso kusalamūlaṃ cintāmayipaññaṃ paripūreti, cintāmayipaññā paripuṇṇā avitakkavicāramattaṃ samādhiṃ paripūreti, avitakkavicāramatto samādhi paripuṇṇo adhicittasikkhaṃ paripūreti, adhicittasikkhā paripuṇṇā upekkhānimittaṃ paripūreti, upekkhānimittaṃ paripuṇṇaṃ abyāpādavitakkaṃ paripūreti, abyāpādavitakko paripuṇṇo aññindriyaṃ paripūreti, aññindriyaṃ paripuṇṇaṃ abyāpādūpavicāraṃ paripūreti, abyāpādūpavicāro paripuṇṇo bhavesanaṃ pajahati, bhavesanappahānaṃ samādhikkhandhaṃ paripūreti.

    อโมโห กุสลมูลํ ภาวนามยิปญฺญํ ปริปูเรติ, ภาวนามยิปญฺญา ปริปุณฺณา อวิตกฺกอวิจารํ สมาธิํ ปริปูเรติ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ ปริปุโณฺณ อธิปญฺญาสิกฺขํ ปริปูเรติ, อธิปญฺญาสิกฺขา ปริปุณฺณา ปคฺคหนิมิตฺตํ ปริปูเรติ, ปคฺคหนิมิตฺตํ ปริปุณฺณํ อวิหิํสาวิตกฺกํ ปริปูเรติ, อวิหิํสาวิตโกฺก ปริปุโณฺณ อญฺญาตาวินฺทฺริยํ ปริปูเรติ, อญฺญาตาวินฺทฺริยํ ปริปุณฺณํ อวิหิํสูปวิจารํ ปริปูเรติ, อวิหิํสูปวิจาโร ปริปุโณฺณ พฺรหฺมจริเยสนํ ปริปูเรติ, พฺรหฺมจริเยสนา ปริปุณฺณา ปญฺญากฺขนฺธํ ปริปูเรติฯ

    Amoho kusalamūlaṃ bhāvanāmayipaññaṃ paripūreti, bhāvanāmayipaññā paripuṇṇā avitakkaavicāraṃ samādhiṃ paripūreti, avitakkaavicāro samādhi paripuṇṇo adhipaññāsikkhaṃ paripūreti, adhipaññāsikkhā paripuṇṇā paggahanimittaṃ paripūreti, paggahanimittaṃ paripuṇṇaṃ avihiṃsāvitakkaṃ paripūreti, avihiṃsāvitakko paripuṇṇo aññātāvindriyaṃ paripūreti, aññātāvindriyaṃ paripuṇṇaṃ avihiṃsūpavicāraṃ paripūreti, avihiṃsūpavicāro paripuṇṇo brahmacariyesanaṃ paripūreti, brahmacariyesanā paripuṇṇā paññākkhandhaṃ paripūreti.

    อิติ อิเม ตโย ธมฺมา อกุสลปกฺขิกา กุสลปกฺขิกา จ ติกนิเทฺทเสหิ นิทฺทิฎฺฐา ติปุกฺขลนยสฺส ทิสา นามฯ ตสฺส ปริโยสานํ ตโย วิโมกฺขา อปฺปณิหิโต สุญฺญโต อนิมิโตฺต, อยํ ติปุกฺขโล นาม ทุติโย นโยฯ

    Iti ime tayo dhammā akusalapakkhikā kusalapakkhikā ca tikaniddesehi niddiṭṭhā tipukkhalanayassa disā nāma. Tassa pariyosānaṃ tayo vimokkhā appaṇihito suññato animitto, ayaṃ tipukkhalo nāma dutiyo nayo.

    ตตฺถ เย อิเม ตโย ปุคฺคลา อุคฺฆฎิตญฺญู วิปญฺจิตญฺญู เนโยฺยติ อิเมสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ เทฺว ปุคฺคลา สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย, สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยนฺติ, เทฺวเยว ปุคฺคลา ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย, ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยนฺติ, อิเม จตฺตาโรฯ เต วิเสเสน เทฺว โหนฺติ ทิฎฺฐิจริโต จ ตณฺหาจริโต จฯ อิเม จตฺตาโร หุตฺวา ตโย โหนฺติ, ตโย หุตฺวา เทฺว โหนฺติฯ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส – อวิชฺชา จ ตณฺหา จ อหิรีกญฺจ อโนตฺตปฺปญฺจ อสติ จ อสมฺปชญฺญญฺจ นีวรณานิ จ สํโยชนานิ จ อโชฺฌสานญฺจ อภินิเวโส จ อหํกาโร จ มมํกาโร จ อสฺสทฺธิยญฺจ โทวจสฺสตา จ โกสชฺชญฺจ อโยนิโสมนสิกาโร จ วิจิกิจฺฉา จ อวิชฺชา จ อสทฺธมฺมสฺสวนญฺจ อสมาปตฺติ จฯ

    Tattha ye ime tayo puggalā ugghaṭitaññū vipañcitaññū neyyoti imesaṃ tiṇṇaṃ puggalānaṃ dve puggalā sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya, sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya ca niyyanti, dveyeva puggalā dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya, dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya ca niyyanti, ime cattāro. Te visesena dve honti diṭṭhicarito ca taṇhācarito ca. Ime cattāro hutvā tayo honti, tayo hutvā dve honti. Imesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ ayaṃ saṃkileso – avijjā ca taṇhā ca ahirīkañca anottappañca asati ca asampajaññañca nīvaraṇāni ca saṃyojanāni ca ajjhosānañca abhiniveso ca ahaṃkāro ca mamaṃkāro ca assaddhiyañca dovacassatā ca kosajjañca ayonisomanasikāro ca vicikicchā ca avijjā ca asaddhammassavanañca asamāpatti ca.

    ตตฺถ อวิชฺชา จ อหิรีกญฺจ อสติ จ นีวรณานิ จ อโชฺฌสานญฺจ อหํกาโร จ อสฺสทฺธิยญฺจ โกสชฺชญฺจ วิจิกิจฺฉา จ อสทฺธมฺมสฺสวนญฺจ, อยํ เอกา ทิสาฯ

    Tattha avijjā ca ahirīkañca asati ca nīvaraṇāni ca ajjhosānañca ahaṃkāro ca assaddhiyañca kosajjañca vicikicchā ca asaddhammassavanañca, ayaṃ ekā disā.

    ตณฺหา จ อโนตฺตปฺปญฺจ อสมฺปชญฺญญฺจ สํโยชนานิ จ อภินิเวโส จ มมํกาโร จ โทวจสฺสตา จ อโยนิโสมนสิกาโร จ อวิชฺชา จ อสมาปตฺติ จ, อยํ ทุติยา ทิสาฯ ทสนฺนํ ทุกานํ ทส ปทานิ ปฐมา ทิสาติ กาตพฺพานิฯ สํขิเตฺตน อตฺถํ ญาเปนฺติ ปฎิปเกฺข กณฺหปกฺขสฺส ทสนฺนํ ทุกานํ ทส ปทานิ ทุติยกานิ, อยํ ทุติยา ทิสาฯ

    Taṇhā ca anottappañca asampajaññañca saṃyojanāni ca abhiniveso ca mamaṃkāro ca dovacassatā ca ayonisomanasikāro ca avijjā ca asamāpatti ca, ayaṃ dutiyā disā. Dasannaṃ dukānaṃ dasa padāni paṭhamā disāti kātabbāni. Saṃkhittena atthaṃ ñāpenti paṭipakkhe kaṇhapakkhassa dasannaṃ dukānaṃ dasa padāni dutiyakāni, ayaṃ dutiyā disā.

    ตตฺถ กตโม กุสลปโกฺข? สมโถ จ วิปสฺสนา จ วิชฺชา จ จรณญฺจ สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ หิรี จ โอตฺตปฺปญฺจ อหํการปฺปหานญฺจ มมํการปฺปหานญฺจ สมฺมาวายาโม จ โยนิโสมนสิกาโร จ สมฺมาสติ จ สมฺมาสมาธิ จ ปญฺญา จ นิพฺพิทา จ สมาปตฺติ จ สทฺธมฺมสฺสวนญฺจ โสมนสฺสญฺจ ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺติ จฯ

    Tattha katamo kusalapakkho? Samatho ca vipassanā ca vijjā ca caraṇañca sati ca sampajaññañca hirī ca ottappañca ahaṃkārappahānañca mamaṃkārappahānañca sammāvāyāmo ca yonisomanasikāro ca sammāsati ca sammāsamādhi ca paññā ca nibbidā ca samāpatti ca saddhammassavanañca somanassañca dhammānudhammapaṭipatti ca.

    ทสนฺนํ ทุกานํ สมถาทีนิ โสมนสฺสปริโยสานานิ ปฐมานิ ทส ปทานิ ปฐมา ทิสา, วิปสฺสนาทีนิ ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺติปริโยสานานิ ทุติยานิ ทส ปทานิ ทุติยา ทิสาฯ อิติ อกุสลปเกฺข กุสลปเกฺข จ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส จตโสฺส ทิสาฯ

    Dasannaṃ dukānaṃ samathādīni somanassapariyosānāni paṭhamāni dasa padāni paṭhamā disā, vipassanādīni dhammānudhammapaṭipattipariyosānāni dutiyāni dasa padāni dutiyā disā. Iti akusalapakkhe kusalapakkhe ca nandiyāvaṭṭassa nayassa catasso disā.

    ตาสุ กุสลปเกฺข สมถาทีหิ อกุสลปเกฺข ตณฺหาทโย ปหานํ คจฺฉนฺติ, เตสํ ปหานา ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ, กุสลปเกฺข วิปสฺสนาทีหิ อกุสลปเกฺข อวิชฺชาทโย ปหานํ คจฺฉนฺติ, เตสํ ปหานา อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติฯ อิติ อิมา เทฺว วิมุตฺติโย นนฺทิยาวฎฺฎนเย ปริโยสานํฯ

    Tāsu kusalapakkhe samathādīhi akusalapakkhe taṇhādayo pahānaṃ gacchanti, tesaṃ pahānā rāgavirāgā cetovimutti, kusalapakkhe vipassanādīhi akusalapakkhe avijjādayo pahānaṃ gacchanti, tesaṃ pahānā avijjāvirāgā paññāvimutti. Iti imā dve vimuttiyo nandiyāvaṭṭanaye pariyosānaṃ.

    ตตฺถ ตณฺหา อวิชฺชา สมโถ วิปสฺสนาติ จตฺตาริ ปทานิ, เตสุ อฎฺฐารส มูลปทานิ สโมสรนฺติฯ กถํ? สมโถ จ อโลโภ จ อโทโส จ อสุภสญฺญา จ ทุกฺขสญฺญา จาติ อิมานิ ปญฺจ ปทานิ สมถํ ภชนฺติ, วิปสฺสนา จ อโมโห จ อนิจฺจสญฺญา จ อนตฺตสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ วิปสฺสนํ ภชนฺติฯ เอวํ นว ปทานิ กุสลานิ ทฺวีสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ ตณฺหา จ โลโภ จ โทโส จ สุภสญฺญา จ สุขสญฺญา จาติ อิมานิ ปญฺจ ปทานิ ตณฺหํ ภชนฺติ, อวิชฺชา จ โมโห จ นิจฺจสญฺญา จ อตฺตสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อวิชฺชํ ภชนฺติฯ เอวํ นว ปทานิ อกุสลานิ ทฺวีสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ อิติ ติปุกฺขโล จ สีหวิกฺกีฬิโต จ นนฺทิยาวฎฺฎนยํ อนุปฺปวิสนฺติฯ

    Tattha taṇhā avijjā samatho vipassanāti cattāri padāni, tesu aṭṭhārasa mūlapadāni samosaranti. Kathaṃ? Samatho ca alobho ca adoso ca asubhasaññā ca dukkhasaññā cāti imāni pañca padāni samathaṃ bhajanti, vipassanā ca amoho ca aniccasaññā ca anattasaññā cāti imāni cattāri padāni vipassanaṃ bhajanti. Evaṃ nava padāni kusalāni dvīsu padesu samosaranti. Taṇhā ca lobho ca doso ca subhasaññā ca sukhasaññā cāti imāni pañca padāni taṇhaṃ bhajanti, avijjā ca moho ca niccasaññā ca attasaññā cāti imāni cattāri padāni avijjaṃ bhajanti. Evaṃ nava padāni akusalāni dvīsu padesu samosaranti. Iti tipukkhalo ca sīhavikkīḷito ca nandiyāvaṭṭanayaṃ anuppavisanti.

    กถํ ติปุกฺขเล นเย อิตเร เทฺว นยา อนุปฺปวิสนฺติ? วิปสฺสนา จ อโมโห จ อนิจฺจสญฺญา จ อนตฺตสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อโมโห, สมโถ จ อโลโภ จ อสุภสญฺญา จ ทุกฺขสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ อโลโภ, อโทโส อโทโส เอวฯ เอวํ นว ปทานิ กุสลานิ ตีสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ ตณฺหา จ โลโภ จ สุภสญฺญา จ สุขสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ โลโภ, อวิชฺชา จ โมโห จ นิจฺจสญฺญา จ อตฺตสญฺญา จาติ อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ โมโห, โทโส โทโส เอวฯ เอวํ นว ปทานิ อกุสลานิ ตีสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ อิติ ติปุกฺขเล นเย อิตเร เทฺว นยา อนุปฺปวิสนฺติฯ

    Kathaṃ tipukkhale naye itare dve nayā anuppavisanti? Vipassanā ca amoho ca aniccasaññā ca anattasaññā cāti imāni cattāri padāni amoho, samatho ca alobho ca asubhasaññā ca dukkhasaññā cāti imāni cattāri padāni alobho, adoso adoso eva. Evaṃ nava padāni kusalāni tīsu padesu samosaranti. Taṇhā ca lobho ca subhasaññā ca sukhasaññā cāti imāni cattāri padāni lobho, avijjā ca moho ca niccasaññā ca attasaññā cāti imāni cattāri padāni moho, doso doso eva. Evaṃ nava padāni akusalāni tīsu padesu samosaranti. Iti tipukkhale naye itare dve nayā anuppavisanti.

    กถํ จตูสุ ปเทสุ อฎฺฐารส มูลปทานิ สโมสรนฺติ? ตณฺหา จ สุภสญฺญา จ, อยํ ปฐโม วิปลฺลาโสฯ โลโภ จ สุขสญฺญา จ, อยํ ทุติโย วิปลฺลาโสฯ อวิชฺชา จ นิจฺจสญฺญา จ, อยํ ตติโย วิปลฺลาโสฯ โมโห จ อตฺตสญฺญา จ, อยํ จตุโตฺถ วิปลฺลาโสฯ อิติ นว ปทานิ อกุสลานิ จตูสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ สมโถ จ อสุภสญฺญา จ ปฐมํ สติปฎฺฐานํ, อโลโภ จ ทุกฺขสญฺญา จ ทุติยํ สติปฎฺฐานํ, วิปสฺสนา จ อนิจฺจสญฺญา จ ตติยํ สติปฎฺฐานํ, อโมโห จ อนตฺตสญฺญา จ จตุตฺถํ สติปฎฺฐานํฯ อิติ นว ปทานิ กุสลานิ จตูสุ ปเทสุ สโมสรนฺติฯ เอวํ สีหวิกฺกีฬิตนเย อิตเร เทฺว นยา อนุปฺปวิสนฺติฯ ติณฺณญฺหิ นยานํ ยา ภูมิโย โคจโร, โส เอเกกํ นยํ อนุปฺปวิสติฯ ตสฺมา เอเกกสฺส นยสฺส อกุสเล วา ธเมฺม วิญฺญาเต กุสเล วา ปฎิปโกฺข อเนฺวสิตโพฺพฯ ปฎิปกฺขํ อเนฺวสิตฺวา โส นโย นิทฺทิสิตโพฺพฯ ตมฺหิ นเย นิทฺทิเฎฺฐ ยถา เอกมฺหิ นเย อิตเรสํ นยานํ มูลปทานิ อนุปฺปวิฎฺฐานิ, ตโต ตโต นีหริตฺวา นิทฺทิสิตพฺพานิฯ เอเกกสฺมิญฺหิ นเย อฎฺฐารส มูลปทานิ อนุปฺปวิฎฺฐานิฯ

    Kathaṃ catūsu padesu aṭṭhārasa mūlapadāni samosaranti? Taṇhā ca subhasaññā ca, ayaṃ paṭhamo vipallāso. Lobho ca sukhasaññā ca, ayaṃ dutiyo vipallāso. Avijjā ca niccasaññā ca, ayaṃ tatiyo vipallāso. Moho ca attasaññā ca, ayaṃ catuttho vipallāso. Iti nava padāni akusalāni catūsu padesu samosaranti. Samatho ca asubhasaññā ca paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ, alobho ca dukkhasaññā ca dutiyaṃ satipaṭṭhānaṃ, vipassanā ca aniccasaññā ca tatiyaṃ satipaṭṭhānaṃ, amoho ca anattasaññā ca catutthaṃ satipaṭṭhānaṃ. Iti nava padāni kusalāni catūsu padesu samosaranti. Evaṃ sīhavikkīḷitanaye itare dve nayā anuppavisanti. Tiṇṇañhi nayānaṃ yā bhūmiyo gocaro, so ekekaṃ nayaṃ anuppavisati. Tasmā ekekassa nayassa akusale vā dhamme viññāte kusale vā paṭipakkho anvesitabbo. Paṭipakkhaṃ anvesitvā so nayo niddisitabbo. Tamhi naye niddiṭṭhe yathā ekamhi naye itaresaṃ nayānaṃ mūlapadāni anuppaviṭṭhāni, tato tato nīharitvā niddisitabbāni. Ekekasmiñhi naye aṭṭhārasa mūlapadāni anuppaviṭṭhāni.

    ตตฺถ เอเกกสฺมิํ ธเมฺม วิญฺญาเต สเพฺพ ธมฺมา วิญฺญาตา โหนฺติฯ อิเมสํ ติณฺณํ นยานํ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส จตฺตาริ ผลานิ ปริโยสานํ ปฐมาย ทิสาย ปฐมํ ผลํ, ทุติยาย ทิสาย ทุติยํ ผลํ, ตติยาย ทิสาย ตติยํ ผลํ, จตุตฺถาย ทิสาย จตุตฺถํ ผลํ ปริโยสานํฯ

    Tattha ekekasmiṃ dhamme viññāte sabbe dhammā viññātā honti. Imesaṃ tiṇṇaṃ nayānaṃ sīhavikkīḷitassa nayassa cattāri phalāni pariyosānaṃ paṭhamāya disāya paṭhamaṃ phalaṃ, dutiyāya disāya dutiyaṃ phalaṃ, tatiyāya disāya tatiyaṃ phalaṃ, catutthāya disāya catutthaṃ phalaṃ pariyosānaṃ.

    ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ตโย วิโมกฺขา ปริโยสานํ ปฐมาย ทิสาย อปฺปณิหิโต, ทุติยาย สุญฺญโต, ตติยาย อนิมิโตฺต วิโมโกฺข ปริโยสานํฯ

    Tipukkhalassa nayassa tayo vimokkhā pariyosānaṃ paṭhamāya disāya appaṇihito, dutiyāya suññato, tatiyāya animitto vimokkho pariyosānaṃ.

    นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส เทฺว วิมุตฺติโย ปริโยสานํ ปฐมาย ทิสาย ตณฺหาวิราคา เจโตวิมุตฺติ, ทุติยาย ทิสาย อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติ ปริโยสานํฯ อิเมสุ ตีสุ นเยสุ ยา อฎฺฐารสนฺนํ ปทานํ อาโลจนา, อยํ ทิสาโลจโน นโยฯ ยา อาโลเกตฺวา กุสลปเกฺข อกุสลปเกฺข จ ‘‘อยํ ธโมฺม อิมํ ธมฺมํ ภชตี’’ติ ชานเนฺตน สมฺมา โยชนา, อยํ องฺกุโส นโยติ อิเม ปญฺจ นยาฯ

    Nandiyāvaṭṭassa nayassa dve vimuttiyo pariyosānaṃ paṭhamāya disāya taṇhāvirāgā cetovimutti, dutiyāya disāya avijjāvirāgā paññāvimutti pariyosānaṃ. Imesu tīsu nayesu yā aṭṭhārasannaṃ padānaṃ ālocanā, ayaṃ disālocano nayo. Yā āloketvā kusalapakkhe akusalapakkhe ca ‘‘ayaṃ dhammo imaṃ dhammaṃ bhajatī’’ti jānantena sammā yojanā, ayaṃ aṅkuso nayoti ime pañca nayā.

    นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / นยสมุฎฺฐานํ • Nayasamuṭṭhānaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา • Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / นยสมุฎฺฐานวิภาวนา • Nayasamuṭṭhānavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact