Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā

    นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา

    Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā

    ๗๙. ‘‘วิสยเภทโต’’ติ สเงฺขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต วิวริตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ นยโตติ นยคฺคาหโตฯ หิ ปฎิเวธญาณํ วิย วิปสฺสนาญาณํ ปจฺจกฺขโต ปวตฺตตีติฯ อนุพุชฺฌิยมาโนติ อภิสมยญาณสฺส อนุรูปํ พุชฺฌิยมาโนฯ ยถา เอกปฎิเวเธเนว มคฺคญาณํ ปวตฺตติ, เอวํ ตทนุจฺฉวิกํ วิปสฺสนาญาเณน คยฺหมาโนติ อโตฺถฯ เอวญฺจ กตฺวา นนฺทิยาวฎฺฎาทีนํ ติณฺณํ อตฺถนยภาโว สมตฺถิโต โหตีติฯ ตถา หิ อตฺถวิเสสสรูปตาย ตโย นยา ‘‘สุตฺตโตฺถ’’ติ วุตฺตา, ปทตฺถวิจารภาเวปิ ปน หารา ‘‘พฺยญฺชนวิจโย’’ติฯ ยทิ เอวํ กถํ ตโยติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปฎิวิชฺฌนฺตานํ ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอกเมโก สํกิเลสโวทานานํ วิภาคโต ทฺวิสงฺคโหติ โยชนาฯ จตุฉอฎฺฐทิโส จาติ น ปเจฺจกํ เต นนฺทิยาวฎฺฎาทโย จตุฉอฎฺฐทิสา, อถ โข ยถากฺกมนฺติฯ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนํฯ

    79.‘‘Visayabhedato’’ti saṅkhepena vuttamatthaṃ vitthārato vivarituṃ ‘‘yathā hī’’tiādimāha. Tattha nayatoti nayaggāhato. Na hi paṭivedhañāṇaṃ viya vipassanāñāṇaṃ paccakkhato pavattatīti. Anubujjhiyamānoti abhisamayañāṇassa anurūpaṃ bujjhiyamāno. Yathā ekapaṭivedheneva maggañāṇaṃ pavattati, evaṃ tadanucchavikaṃ vipassanāñāṇena gayhamānoti attho. Evañca katvā nandiyāvaṭṭādīnaṃ tiṇṇaṃ atthanayabhāvo samatthito hotīti. Tathā hi atthavisesasarūpatāya tayo nayā ‘‘suttattho’’ti vuttā, padatthavicārabhāvepi pana hārā ‘‘byañjanavicayo’’ti. Yadi evaṃ kathaṃ tayoti codanaṃ sandhāyāha ‘‘paṭivijjhantānaṃ panā’’tiādi. Tattha ekameko saṃkilesavodānānaṃ vibhāgato dvisaṅgahoti yojanā. Catuchaaṭṭhadiso cāti na paccekaṃ te nandiyāvaṭṭādayo catuchaaṭṭhadisā, atha kho yathākkamanti. ‘‘Eva’’ntiādi yathāvuttassa atthassa nigamanaṃ.

    ตถา จาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อุปจเยน สมตฺถนาฯ ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายตีติ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต ปฎฺฐานกถายํ อาวิ ภวิสฺสติฯ ‘‘อนฺธํ ตมํ ตทา โหติ, ยํ โลโภ สหเต นร’’นฺติอาทิ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิเทฺทส ๑๒๘) วจนโต กามตณฺหาปิ ปฎิจฺฉาทนสภาวา, ยโต กามจฺฉนฺทํ ‘‘นีวรณ’’นฺติ วุตฺตํฯ อวิชฺชาย ปน ภเวสุ อาทีนวปฺปฎิจฺฉาทนํ สาติสยนฺติฯ ตถา อวิชฺชาปิ สํโยชนสภาวา, ยโต สา พหิทฺธา สํโยชนภาเวน วุตฺตาฯ เอวํ สเนฺตปิ ตณฺหาย พนฺธนโฎฺฐ สาติสโย อเปกฺขิตภาวโตติ อิมมตฺถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตถาปิ…เป.… วุตฺต’’นฺติ อาหฯ

    Tathā cāti yathāvuttassa atthassa upacayena samatthanā. Pubbā koṭi na paññāyatīti ettha yaṃ vattabbaṃ, taṃ parato paṭṭhānakathāyaṃ āvi bhavissati. ‘‘Andhaṃ tamaṃ tadā hoti, yaṃ lobho sahate nara’’ntiādi (cūḷani. khaggavisāṇasuttaniddesa 128) vacanato kāmataṇhāpi paṭicchādanasabhāvā, yato kāmacchandaṃ ‘‘nīvaraṇa’’nti vuttaṃ. Avijjāya pana bhavesu ādīnavappaṭicchādanaṃ sātisayanti. Tathā avijjāpi saṃyojanasabhāvā, yato sā bahiddhā saṃyojanabhāvena vuttā. Evaṃ santepi taṇhāya bandhanaṭṭho sātisayo apekkhitabhāvatoti imamatthaṃ dassento ‘‘tathāpi…pe… vutta’’nti āha.

    ‘‘สํยุตฺตา’’ติ ปทสฺส สมฺปยุตฺตาติ อโตฺถติ อาห ‘‘มิสฺสิตา’’ติฯ ‘‘อวิชฺชาภิภูตา…เป.… อภินิวิสนฺตา’’ติ เอเตน อวิชฺชาย อยาถาวคหณเหตุตํ ทเสฺสติ, ตโต โส อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชาติ วุจฺจติฯ กิลิสฺสนํ อุปตาปนนฺติ อาห ‘‘กิลิสฺสนปฺปโยคํ อตฺตปริตาปนปฎิปตฺติ’’นฺติฯ อลฺลียนํ เสวนํฯ

    ‘‘Saṃyuttā’’ti padassa sampayuttāti atthoti āha ‘‘missitā’’ti. ‘‘Avijjābhibhūtā…pe… abhinivisantā’’ti etena avijjāya ayāthāvagahaṇahetutaṃ dasseti, tato so avindiyaṃ vindatīti avijjāti vuccati. Kilissanaṃ upatāpananti āha ‘‘kilissanappayogaṃ attaparitāpanapaṭipatti’’nti. Allīyanaṃ sevanaṃ.

    ทุกฺขนฺติ …เป.… ชานนฺตีติ อตฺตนา อนุภูยมานํ ตถา ตถา อุปฎฺฐิตํ กายิกเจตสิกทุกฺขํ, อิตรมฺปิ วา เอกเทสํ ชานนฺติฯ ตณฺหายปิ เอเสว นโยฯ สภาควิสภาคปฎิปชฺชิตพฺพาการโต ตตฺถ เตสํ ญาณํ นเตฺถวาติทเสฺสโนฺต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทิมาหฯ ปวตฺติปวตฺติเหตุมตฺตมฺปีติ ‘‘ปวตฺติ ปวตฺติเหตู’’ติ เอตฺตกมฺปิฯ กา ปน กถาติ ปจุรชนสาธารเณ โลกิเยปิ นาม อเตฺถ เยสํ ญาณสฺส ปฎิฆาโต, ปรมคมฺภีเร อริยานํ เอว วิสยภูเต โลกุตฺตเร นิวตฺตินิวตฺติเหตุสงฺขาเต อเตฺถ กา นาม กถา, ฉินฺนา กถาติ อโตฺถฯ อฎฺฐสมาปตฺติปเภทสฺส เกวลสฺส สมถสฺส ตาทิเส กาเล พาหิรกานญฺจ อิชฺฌนโต ‘‘วิปสฺสนาธิฎฺฐาน’’นฺติ วิเสสิตํฯ วูปสโม สมุเจฺฉโท, ปฎิปฺปสฺสทฺธิ จฯ

    Dukkhanti…pe… jānantīti attanā anubhūyamānaṃ tathā tathā upaṭṭhitaṃ kāyikacetasikadukkhaṃ, itarampi vā ekadesaṃ jānanti. Taṇhāyapi eseva nayo. Sabhāgavisabhāgapaṭipajjitabbākārato tattha tesaṃ ñāṇaṃ natthevātidassento ‘‘idaṃ dukkha’’ntiādimāha. Pavattipavattihetumattampīti ‘‘pavatti pavattihetū’’ti ettakampi. Kā pana kathāti pacurajanasādhāraṇe lokiyepi nāma atthe yesaṃ ñāṇassa paṭighāto, paramagambhīre ariyānaṃ eva visayabhūte lokuttare nivattinivattihetusaṅkhāte atthe kā nāma kathā, chinnā kathāti attho. Aṭṭhasamāpattipabhedassa kevalassa samathassa tādise kāle bāhirakānañca ijjhanato ‘‘vipassanādhiṭṭhāna’’nti visesitaṃ. Vūpasamo samucchedo, paṭippassaddhi ca.

    ‘‘สํสารสฺส อนุปเจฺฉทนโต’’ติ อิทํ ทิฎฺฐิคตานํ ทิฎฺฐิคติกมตทสฺสนํฯ โส หิ ปุตฺตมุขทสฺสเน อสติ สํสาโร อุจฺฉิเชฺชยฺยาติ ภายติฯ ยโต วุตฺตํ –

    ‘‘Saṃsārassa anupacchedanato’’ti idaṃ diṭṭhigatānaṃ diṭṭhigatikamatadassanaṃ. So hi puttamukhadassane asati saṃsāro ucchijjeyyāti bhāyati. Yato vuttaṃ –

    ‘‘คณฺฑุปฺปาโท กิกี เจว, กุนฺตี พฺราหฺมณธมฺมิโก;

    ‘‘Gaṇḍuppādo kikī ceva, kuntī brāhmaṇadhammiko;

    เอเต อภยํ ภายนฺติ, สมฺมูฬฺหา จตุโร ชนา’’ติฯ (สุ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒๙๓; อ. นิ. ฎี. ๓.๕.๑๙๒);

    Ete abhayaṃ bhāyanti, sammūḷhā caturo janā’’ti. (su. ni. aṭṭha. 2.293; a. ni. ṭī. 3.5.192);

    ตทภิญฺญาติ ตํ ยถาวุตฺตอนฺตทฺวยํ อภิชานนฺติ คุณํ อาโรเปตฺวา ชานนฺตีติ ตทภิญฺญาฯ อตฺถภญฺชนโต, โรคคณฺฑสลฺลสทิสตาย อตฺตภาวสํกิเลสานญฺจ โรคคณฺฑสลฺลตา

    Tadabhiññāti taṃ yathāvuttaantadvayaṃ abhijānanti guṇaṃ āropetvā jānantīti tadabhiññā. Atthabhañjanato, rogagaṇḍasallasadisatāya attabhāvasaṃkilesānañca rogagaṇḍasallatā.

    สกฺกายทสฺสเนติ เอตฺถ ทิฎฺฐิทสฺสนํ, สกฺกาโยว ทสฺสนํ สกฺกายทสฺสนนฺติ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เตสนฺติ ทิฎฺฐิจริตานํฯ อตฺตาภินิเวโส พลวาฯ ตสฺมา ยถาอุปฎฺฐิตํ รูปํ ‘‘อตฺตา’’อิเจฺจว คณฺหนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ ตถา เวทนาทิํฯ ตณฺหาจริโต ปน ยถาอุปฎฺฐิตํ รูปํ ตณฺหาวตฺถุํ กตฺวา อตฺตนิยาภินิเวเสน อภินิวิสนฺตา ตทญฺญเมว อตฺตโต สมนุปสฺสนฺติฯ เอวํ เวทนาทีสุฯ เตนาห ‘‘ตณฺหาจริตา’’ติอาทิฯ วิชฺชมาเนติ ปรมตฺถโต อุปลพฺภมาเนฯ กาเยติ สมูเหฯ ทิฎฺฐิยา ปริกปฺปิโต อตฺตาทิ เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภติ, ทิฎฺฐิ ปน ลพฺภเตวาติ อาห ‘‘สตี วา วิชฺชมานา’’ติฯ

    Sakkāyadassaneti ettha diṭṭhidassanaṃ, sakkāyova dassanaṃ sakkāyadassananti attho veditabbo. Tesanti diṭṭhicaritānaṃ. Attābhiniveso balavā. Tasmā yathāupaṭṭhitaṃ rūpaṃ ‘‘attā’’icceva gaṇhantīti adhippāyo. Tathā vedanādiṃ. Taṇhācarito pana yathāupaṭṭhitaṃ rūpaṃ taṇhāvatthuṃ katvā attaniyābhinivesena abhinivisantā tadaññameva attato samanupassanti. Evaṃ vedanādīsu. Tenāha ‘‘taṇhācaritā’’tiādi. Vijjamāneti paramatthato upalabbhamāne. Kāyeti samūhe. Diṭṭhiyā parikappito attādi eva paramatthato nupalabbhati, diṭṭhi pana labbhatevāti āha ‘‘satī vā vijjamānā’’ti.

    สกฺกายทสฺสนมุเขนาติ สกฺกายทิฎฺฐิมุเขนฯ

    Sakkāyadassanamukhenāti sakkāyadiṭṭhimukhena.

    อุเจฺฉทสสฺสตนฺติ ตํสหจรณโต อุเจฺฉทสสฺสตทิฎฺฐิ วุตฺตาฯ ‘‘อุเจฺฉทสสฺสตวาทา’’ติปิ ปาโฐฯ

    Ucchedasassatanti taṃsahacaraṇato ucchedasassatadiṭṭhi vuttā. ‘‘Ucchedasassatavādā’’tipi pāṭho.

    กสิณายตนานีติ กสิณชฺฌานานิฯ

    Kasiṇāyatanānīti kasiṇajjhānāni.

    เตเชตฺวาติ นิสาเนตฺวาฯ

    Tejetvāti nisānetvā.

    ๘๑. เอตฺตาวตา นนฺทิยาวฎฺฎสฺส ภูมิรจนวเสน สํกิเลสปโกฺข ทสฺสิโตติ อาห ‘‘ตตฺถ ทิฎฺฐิจริโตติอาทินา โวทานปกฺขํ ทเสฺสตี’’ติฯ ‘‘ยสฺมา สเลฺลเข ติพฺพคารโว’’ติ อิมินา ตตฺถ ติพฺพคารวตฺตา สํเลขานุสนฺตตวุตฺตินา ภวตีติ ทเสฺสติฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ มิจฺฉาธิโมโกฺข สทฺธาปติรูปโก อวตฺถุสฺมิํ ปสาโทฯ

    81. Ettāvatā nandiyāvaṭṭassa bhūmiracanavasena saṃkilesapakkho dassitoti āha ‘‘tattha diṭṭhicaritotiādinā vodānapakkhaṃ dassetī’’ti. ‘‘Yasmā sallekhe tibbagāravo’’ti iminā tattha tibbagāravattā saṃlekhānusantatavuttinā bhavatīti dasseti. Sesesupi eseva nayo. Micchādhimokkho saddhāpatirūpako avatthusmiṃ pasādo.

    ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนน ธมฺมเมว วิภชตีติ อาห ‘‘สตฺตาปิ…เป.… ทเสฺสตี’’ติฯ

    Puggalādhiṭṭhānena dhammameva vibhajatīti āha ‘‘sattāpi…pe… dassetī’’ti.

    เย หิ เกจีติ เอตฺถ หิ-สโทฺท นิปาตมตฺตํฯ ‘‘อิมาหิ เอว จตูหิ ปฎิปทาหี’’ติปิ ปาฬิฯ ทุกฺขาปฎิปทาทิวิภาเคน มโคฺค เอว อิธ วุโตฺตติ อาห ‘‘ปฎิปทา หิ มโคฺค’’ติ จตุทฺทิสาสงฺขาตํ มคฺคนฺติ จตุทฺทิสาสงฺขาตํ ปวตฺตนุปายํฯ เทฺว ทิสา เอติสฺสาติ ทฺวิทิสาฯ นนฺทิยาวฎฺฎสฺสาติ นนฺทิยาวฎฺฎนยสฺสฯ

    Ye hi kecīti ettha hi-saddo nipātamattaṃ. ‘‘Imāhi eva catūhi paṭipadāhī’’tipi pāḷi. Dukkhāpaṭipadādivibhāgena maggo eva idha vuttoti āha ‘‘paṭipadā hi maggo’’ti catuddisāsaṅkhātaṃ magganti catuddisāsaṅkhātaṃ pavattanupāyaṃ. Dve disā etissāti dvidisā. Nandiyāvaṭṭassāti nandiyāvaṭṭanayassa.

    ๘๒. วิวตฺตติ วฎฺฎํ เอตฺถาติ วิวตฺตํ, วิวตฺตํ เอว วิวฎฺฎํ, อสงฺขตธาตุ, นิพฺพุติ เอว วาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘นิพฺพาน’’นฺติฯ

    82. Vivattati vaṭṭaṃ etthāti vivattaṃ, vivattaṃ eva vivaṭṭaṃ, asaṅkhatadhātu, nibbuti eva vā. Tena vuttaṃ ‘‘nibbāna’’nti.

    ‘‘กตฺถ ทฎฺฐพฺพ’’นฺติ วา ปาฬิฯ อุปจเยติ อุปจยาวตฺถายนฺติ อโตฺถฯ ทสนฺนนฺติ โลภาทิกิเลสวตฺถูนํฯ วิปลฺลาสเหตุภาวโตติ สุภสญฺญาทิวิปลฺลาสเหตุกภาวโตฯ วิปริเยสคฺคาหวเสน หิ อาทีนเวสุ เอว สํโยชนิเยสุ ธเมฺมสุ อสฺสาทานุปสฺสิตาฯ น หิ ยถาภูตญาเณ สติ ตถา สมฺภโวฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ทสนฺนํ…เป.… ภาวโต’’ติฯ ทสวิธการเณติ ทสวิเธ การเณ, ทสวิธสฺส วา การเณฯ อโยนิโสมนสิการปริกฺขตา ธมฺมา สุภารมฺมณาทโยฯ

    ‘‘Katthadaṭṭhabba’’nti vā pāḷi. Upacayeti upacayāvatthāyanti attho. Dasannanti lobhādikilesavatthūnaṃ. Vipallāsahetubhāvatoti subhasaññādivipallāsahetukabhāvato. Vipariyesaggāhavasena hi ādīnavesu eva saṃyojaniyesu dhammesu assādānupassitā. Na hi yathābhūtañāṇe sati tathā sambhavo. Tena vuttaṃ ‘‘dasannaṃ…pe… bhāvato’’ti. Dasavidhakāraṇeti dasavidhe kāraṇe, dasavidhassa vā kāraṇe. Ayonisomanasikāraparikkhatā dhammā subhārammaṇādayo.

    ตพฺพิสยา กิเลสาติ อาหารปริญฺญาปริพนฺธภูตา กิเลสาฯ วิญฺญาณฎฺฐิตีสุปิ เอเสว นโยฯ กาเย ปวตฺตมาโน ปฐโม วิปลฺลาโส กายสมุทาเย, กาเยกเทเส จ กพฬีกาเร อาหาเร ปวโตฺต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฐเม อาหาเร วิสยภูเต ปฐโม วิปลฺลาโส ปวตฺตตี’’ติฯ ตถา เวทนายํ ปวตฺตมาโน ทุติยวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย ผสฺสาหาเร, จิเตฺต ปวตฺตมาโน ตติยวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย มโนสเญฺจตนาหาเร, ธเมฺมสุ ปวตฺตมาโน จตุตฺถวิปลฺลาโส ตปฺปจฺจเย วิญฺญาณาหาเร ปวโตฺต เอว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘จตุเตฺถ อาหาเร จตุโตฺถ วิปลฺลาโส’’ติฯ เตนาห ‘‘เสสาหาเรสุปิ เอเสว นโย’’ติฯ อาหารสีเสน วา อาหารปฎิพโทฺธ ฉนฺทราโค คหิโตฯ วิญฺญาณฎฺฐิตีสุปิ เอเสว นโยฯ เตเนวาห ‘‘อาหารสีเสน ตพฺพิสยา กิเลสา อธิเปฺปตา’’ติฯ ปฐเม อาหาเร วิสยภูเตติ จ ปฐเม อาหาเร ฉนฺทราคสฺส วิสยภาวํ ปเตฺต, ตพฺภาวํ อนติกฺกเนฺตติ อโตฺถฯ อปฺปหีนจฺฉนฺทราคสฺส หิ ตตฺถ วิปลฺลาสา สมฺภวนฺติ, น อิตรสฺสฯ ตถา ทุติยวิปลฺลาสาทีสุ อปฺปหีเนสุฯ อิตเร อุปาทานานิ ปวตฺตเนฺตว อปฺปหีนตฺตาติ อาห ‘‘เสสปเทสุปิ เอเสว นโย’’ติฯ ยสฺมา จ อุปาทานาทีสุ อปฺปหีเนสุปิ โยคาทโย ปวตฺตเนฺตว ยถารหํ ตํสภาวตฺตา, ตเทกฎฺฐสภาวโต จ, ตสฺมา วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ปฐเม อุปาทาเน ปฐโม โยโค’’ติอาทิฯ เตนาห ‘‘เสสปเทสุปิ เอเสว นโย’’ติฯ

    Tabbisayā kilesāti āhārapariññāparibandhabhūtā kilesā. Viññāṇaṭṭhitīsupi eseva nayo. Kāye pavattamāno paṭhamo vipallāso kāyasamudāye, kāyekadese ca kabaḷīkāre āhāre pavatto eva hotīti vuttaṃ ‘‘paṭhame āhāre visayabhūte paṭhamo vipallāsopavattatī’’ti. Tathā vedanāyaṃ pavattamāno dutiyavipallāso tappaccaye phassāhāre, citte pavattamāno tatiyavipallāso tappaccaye manosañcetanāhāre, dhammesu pavattamāno catutthavipallāso tappaccaye viññāṇāhāre pavatto eva hotīti vuttaṃ ‘‘catutthe āhāre catuttho vipallāso’’ti. Tenāha ‘‘sesāhāresupi eseva nayo’’ti. Āhārasīsena vā āhārapaṭibaddho chandarāgo gahito. Viññāṇaṭṭhitīsupi eseva nayo. Tenevāha ‘‘āhārasīsena tabbisayā kilesā adhippetā’’ti. Paṭhame āhāre visayabhūteti ca paṭhame āhāre chandarāgassa visayabhāvaṃ patte, tabbhāvaṃ anatikkanteti attho. Appahīnacchandarāgassa hi tattha vipallāsā sambhavanti, na itarassa. Tathā dutiyavipallāsādīsu appahīnesu. Itare upādānāni pavattanteva appahīnattāti āha ‘‘sesapadesupi eseva nayo’’ti. Yasmā ca upādānādīsu appahīnesupi yogādayo pavattanteva yathārahaṃ taṃsabhāvattā, tadekaṭṭhasabhāvato ca, tasmā vuttaṃ pāḷiyaṃ ‘‘paṭhame upādāne paṭhamo yogo’’tiādi. Tenāha ‘‘sesapadesupi eseva nayo’’ti.

    ๘๓. อปริชานนฺตสฺสาติ ญาตปริญฺญาย, ตีรณปริญฺญาย, ปหานปริญฺญายาติ ตีหิ ปริญฺญาหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อชานนฺตสฺส, เตสํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ อนวพุชฺฌนฺตสฺสาติ อโตฺถฯ ติโพฺพ พหโล ฉนฺทราโค โหติ ตณฺหาจริตภาวโตติ อธิปฺปาโยฯ อิติ อุปกฺกิเลสสฺส ทิฎฺฐาภินิเวสสฺส เหตุภาวโตติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วุตฺตนเยเนวา’’ติฯ สุภสุขสญฺญากามุปาทานกามภวโยคอภิชฺฌากายคนฺถกามภวาสว- กามภโวฆราคสลฺลฉนฺทาคติคมนานิ ตณฺหาปกฺขิกตาย, ตณฺหาสภาวตาย จ ตณฺหาปธานานิฯ สีลพฺพตุปาทานพฺยาปาทกายคนฺถโทสสลฺลโทสาคติคมนานิ ปน ตณฺหาภาเว ภาวโต , วิญฺญาณฎฺฐิติโย ตณฺหาวิสยโต, สเพฺพสํ วา ตณฺหาวิสยโต ตณฺหาปธานตา ลพฺภเตวฯ ปจฺฉิมกานํ ทิฎฺฐิปธานตา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพาฯ

    83.Aparijānantassāti ñātapariññāya, tīraṇapariññāya, pahānapariññāyāti tīhi pariññāhi paricchinditvā ajānantassa, tesaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ anavabujjhantassāti attho. Tibbo bahalo chandarāgo hoti taṇhācaritabhāvatoti adhippāyo. Iti upakkilesassa diṭṭhābhinivesassa hetubhāvatoti imamatthaṃ sandhāyāha ‘‘vuttanayenevā’’ti. Subhasukhasaññākāmupādānakāmabhavayogaabhijjhākāyaganthakāmabhavāsava- kāmabhavogharāgasallachandāgatigamanāni taṇhāpakkhikatāya, taṇhāsabhāvatāya ca taṇhāpadhānāni. Sīlabbatupādānabyāpādakāyaganthadosasalladosāgatigamanāni pana taṇhābhāve bhāvato , viññāṇaṭṭhitiyo taṇhāvisayato, sabbesaṃ vā taṇhāvisayato taṇhāpadhānatā labbhateva. Pacchimakānaṃ diṭṭhipadhānatā vuttanayānusārena veditabbā.

    ๘๔. กพฬีกาเร อาหาเรติ กพฬีการาหารวิสเย ฉนฺทราเคฯ ‘‘อปฺปหีเน’’ติอาทิกํ ปริยายกถํ มุญฺจิตฺวา นิปฺปริยายเมว ทเสฺสโนฺต กพฬีการาหารสฺส ‘‘อสุภสภาวตฺตา, อสุภสมุฎฺฐานตฺตา จา’’ติ วุตฺตํฯ ลพฺภมาเน หิ อุชุเก อเตฺถ กิํ ปริยายกถายาติฯ ฉนฺทราโค วา ตตฺถ อตฺถสิโทฺธติ เอวเมฺปตฺถ อโตฺถ วุโตฺตฯ น หิ ตตฺถ อสติ ฉนฺทราเค วิปลฺลาโส สมฺภวติฯ ทุกฺขสภาวตฺตาติ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขสภาวตฺตาฯ ทุกฺขปจฺจยตฺตาติ ติวิธทุกฺขตาลกฺขณสฺส ทุกฺขสฺส การณโตฯ วิญฺญาเณ นิจฺจสญฺญิโนฯ ตถา หิ สาติ นาม ภิกฺขุ เกวฎฺฎปุโตฺต ‘‘ตํเยว วิญฺญาณํ สนฺธาวติ สํสรตี’’ติ ตตฺถ นิจฺจาภินิเวสํ สํเวเทสิฯ เยภุเยฺยน สงฺขาเรสุ อตฺตสญฺญิตา ทิฎฺฐิคติกานํ ‘‘เจตนา อตฺตา’’ติอาทิทิฎฺฐิปริทีปเนสุ เวทิตพฺพาฯ ‘‘ภววิสุทฺธี’’ติ ปทสฺส อตฺถวจนํ ‘‘นิพฺพุติสุข’’นฺติฯ ‘‘สีลพฺพเตหิ…เป.… สุขนฺติ ทฬฺหํ คณฺหาตี’’ติ อิมินา สีลพฺพตุปาทานํ อิธ ภวุปาทานนฺติ ทเสฺสติฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘สีลพฺพตุปาทานสงฺขาเตน ภวุปาทาเนนา’’ติฯ

    84.Kabaḷīkāre āhāreti kabaḷīkārāhāravisaye chandarāge. ‘‘Appahīne’’tiādikaṃ pariyāyakathaṃ muñcitvā nippariyāyameva dassento kabaḷīkārāhārassa ‘‘asubhasabhāvattā, asubhasamuṭṭhānattā cā’’ti vuttaṃ. Labbhamāne hi ujuke atthe kiṃ pariyāyakathāyāti. Chandarāgo vā tattha atthasiddhoti evampettha attho vutto. Na hi tattha asati chandarāge vipallāso sambhavati. Dukkhasabhāvattāti saṅkhāradukkhatāya dukkhasabhāvattā. Dukkhapaccayattāti tividhadukkhatālakkhaṇassa dukkhassa kāraṇato. Viññāṇe niccasaññino. Tathā hi sāti nāma bhikkhu kevaṭṭaputto ‘‘taṃyeva viññāṇaṃ sandhāvati saṃsaratī’’ti tattha niccābhinivesaṃ saṃvedesi. Yebhuyyena saṅkhāresu attasaññitā diṭṭhigatikānaṃ ‘‘cetanā attā’’tiādidiṭṭhiparidīpanesu veditabbā. ‘‘Bhavavisuddhī’’ti padassa atthavacanaṃ ‘‘nibbutisukha’’nti. ‘‘Sīlabbatehi…pe… sukhanti daḷhaṃ gaṇhātī’’ti iminā sīlabbatupādānaṃ idha bhavupādānanti dasseti. Tathā hi vakkhati ‘‘sīlabbatupādānasaṅkhātena bhavupādānenā’’ti.

    ปจฺจยา โหนฺติ อุปนิสฺสยปจฺจยาทินาฯ ปฐเม โยเค ฐิโตติ ปฐเม โยเค ปติฎฺฐิโตฯ อปฺปหีนา หิ กิเลสา กมฺมวฎฺฎาทีนํ การณภูตา ตํสมงฺคิโน สตฺตสฺส ปติฎฺฐาติ วุจฺจนฺติฯ ปรสฺส อภิชฺฌายนํ ปราภิชฺฌายนํฯ ภวปตฺถนาย ภวทิฎฺฐิภวราควเสน ปิยายิตสฺส วตฺถุโน วิปริณามญฺญถาภาเว โทมนสฺสุปฺปตฺติํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ภวราค…เป.… ปทูเสนฺตี’’ติฯ

    Paccayā honti upanissayapaccayādinā. Paṭhame yoge ṭhitoti paṭhame yoge patiṭṭhito. Appahīnā hi kilesā kammavaṭṭādīnaṃ kāraṇabhūtā taṃsamaṅgino sattassa patiṭṭhāti vuccanti. Parassa abhijjhāyanaṃ parābhijjhāyanaṃ. Bhavapatthanāya bhavadiṭṭhibhavarāgavasena piyāyitassa vatthuno vipariṇāmaññathābhāve domanassuppattiṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘bhavarāga…pe… padūsentī’’ti.

    คนฺถิตฺวาติ คนฺถิํ กตฺวาฯ ทฺวิธาภูตํ รชฺชุอาทิเก วิย คนฺถิกรณญฺหิ คนฺถนํฯ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฎฺฐนฺตา อาสวานํ อุปฺปตฺติเหตุ โหนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ปริยุฎฺฐานปฺปตฺตา เอกเจฺจ กิเลสา วิเสสโต อาสวุปฺปตฺติเหตุ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อฎฺฐกถายํ อุปฺปฎิปาฎิวจนํฯ ตปฺปฎิปเกฺข วิสเย ปเตฺถตีติ โยชนาฯ ตพฺพิสยพหุเล ภเว ปเตฺถตีติ ยถา มานุสเกหิ กาเมหิ นิพฺพินฺนรูปา เทวูปปตฺติฯ ตํสภาวตฺตาติ ทิฎฺฐิสภาวตฺตาฯ อปราปรนฺติ อญฺญมญฺญํฯ เอกจฺจา หิ ทิฎฺฐิ เอกจฺจสฺส ทิฎฺฐาภินิเวสสฺส การณํ โหติ, ยถา สกฺกายทิฎฺฐิ อิตราสํฯ อภินิวิสนฺตสฺสาติ อภินิเวสนเหตุฯ ‘‘อโยนิโสมนสิการโต…เป.… อวิชฺชาสโว อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทํ สจฺจาภินิเวสสฺส ผลภูตํ อวิชฺชาสวํ ทเสฺสติ เอกนฺตวสฺสิเมฆวุฎฺฐาเนน วิย มโหฆปฺปวตฺติฯ อวิชฺชาสโว สิโทฺธ โหติ วุฎฺฐิเหตุกมโหฆสิทฺธิยา อุปริเมฆวุฎฺฐานํ วิยฯ

    Ganthitvāti ganthiṃ katvā. Dvidhābhūtaṃ rajjuādike viya ganthikaraṇañhi ganthanaṃ. Cittaṃ pariyādāya tiṭṭhantā āsavānaṃ uppattihetu hontīti sambandho. Pariyuṭṭhānappattā ekacce kilesā visesato āsavuppattihetu hontīti dassanatthaṃ aṭṭhakathāyaṃ uppaṭipāṭivacanaṃ. Tappaṭipakkhe visaye patthetīti yojanā. Tabbisayabahule bhave patthetīti yathā mānusakehi kāmehi nibbinnarūpā devūpapatti. Taṃsabhāvattāti diṭṭhisabhāvattā. Aparāparanti aññamaññaṃ. Ekaccā hi diṭṭhi ekaccassa diṭṭhābhinivesassa kāraṇaṃ hoti, yathā sakkāyadiṭṭhi itarāsaṃ. Abhinivisantassāti abhinivesanahetu. ‘‘Ayonisomanasikārato…pe… avijjāsavo uppajjatī’’ti idaṃ saccābhinivesassa phalabhūtaṃ avijjāsavaṃ dasseti ekantavassimeghavuṭṭhānena viya mahoghappavatti. Avijjāsavo siddho hoti vuṭṭhihetukamahoghasiddhiyā uparimeghavuṭṭhānaṃ viya.

    ‘‘นนฺทีราคสหคตา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๔) วิย ตพฺภาวโตฺถ สหคตสโทฺทติ อาห ‘‘อนุสย…เป.… ภูตา วา’’ติฯ จิตฺตสฺส อพฺภนฺตรสงฺขาตํ หทยนฺติ วิปากจิตฺตปฺปวตฺติํ สนฺธาย วทติฯ วิปากวเฎฺฎปิ กิเลสวาสนาหิตา อตฺถิ กาจิ วิเสสมตฺตาฯ

    ‘‘Nandīrāgasahagatā’’tiādīsu (mahāva. 14) viya tabbhāvattho sahagatasaddoti āha ‘‘anusaya…pe… bhūtā vā’’ti. Cittassa abbhantarasaṅkhātaṃ hadayanti vipākacittappavattiṃ sandhāya vadati. Vipākavaṭṭepi kilesavāsanāhitā atthi kāci visesamattā.

    โลภสหคตสฺส วิญฺญาณสฺสฯ อิตรสฺส โทสสหคตาทิกสฺสฯ พฺยญฺชเนน วิย โภชนสฺส อารมฺมณสฺส อภิสงฺขรณํ วิเสสาปาทนํ อุปเสจนํ, นนฺที สปฺปีติกตณฺหา อุปเสจนํ เอตสฺสาติ นนฺทูปเสจนํ อุปเสจนภูตายปิ นนฺทิยา ราคสลฺลอุปนิสโตฯ อุปสิเตฺต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทเสฺสตุํ ปาฬิยา ‘‘ราคสเลฺลน นนฺทูปเสจเนน วิญฺญาเณนา’’ติ วุตฺตนฺติ ตมตฺถํ ปากฎํ กาตุํ ‘‘เกน ปน ตํ นนฺทูปเสจน’’นฺติ ปุจฺฉติฯ

    Lobhasahagatassa viññāṇassa. Itarassa dosasahagatādikassa. Byañjanena viya bhojanassa ārammaṇassa abhisaṅkharaṇaṃ visesāpādanaṃ upasecanaṃ, nandī sappītikataṇhā upasecanaṃ etassāti nandūpasecanaṃ upasecanabhūtāyapi nandiyā rāgasallaupanisato. Upasitte pana vattabbameva natthīti dassetuṃ pāḷiyā ‘‘rāgasallena nandūpasecanena viññāṇenā’’ti vuttanti tamatthaṃ pākaṭaṃ kātuṃ ‘‘kena pana taṃ nandūpasecana’’nti pucchati.

    ราคสเลฺลนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ราคสเลฺลน เหตุภูเตนา’’ติ อาหฯ อุปนิสฺสยปจฺจยโตฺถ เจตฺถ เหตฺวโตฺถฯ อุปคนฺตพฺพโต วิญฺญาเณนาติ วิภตฺติํ ปริณาเมตฺวา โยเชตพฺพํฯ ‘‘ปติฎฺฐาภาวโต’’ติ อิมินา วิญฺญาณสฺส นิสฺสยาทิปจฺจยตํ วทติฯ เตนาห ‘‘รูปกฺขนฺธํ นิสฺสาย ติฎฺฐตี’’ติฯ เอวํ ทุติยาทิวิญฺญาณฎฺฐิตีสุปิ นิสฺสยาทิปจฺจยตา วตฺตพฺพา ปติฎฺฐาวจนโตฯ

    Rāgasallenāti hetumhi karaṇavacananti dassento ‘‘rāgasallena hetubhūtenā’’ti āha. Upanissayapaccayattho cettha hetvattho. Upagantabbato viññāṇenāti vibhattiṃ pariṇāmetvā yojetabbaṃ. ‘‘Patiṭṭhābhāvato’’ti iminā viññāṇassa nissayādipaccayataṃ vadati. Tenāha ‘‘rūpakkhandhaṃ nissāya tiṭṭhatī’’ti. Evaṃ dutiyādiviññāṇaṭṭhitīsupi nissayādipaccayatā vattabbā patiṭṭhāvacanato.

    ๘๕. ยทิปิ อกุสลมูลาทิเก ติปุกฺขลสฺส, ตณฺหาทิเก นนฺทิยาวฎฺฎสฺส ทิสาภาเวน วกฺขติ, ตถาปิ อญฺญมญฺญานุปฺปเวสโต เอกสฺมิํ นเย สิเทฺธ อิตเรปิ สิทฺธา เอว โหนฺตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาหาราทโย…เป.… ววตฺถเปตุ’’นฺติ วุตฺตํฯ วกฺขมาเน วา อกุสลมูลตณฺหาทิเก อาทิสเทฺทน สงฺคเหตฺวา ‘‘อาหาราทโย’’ติ วทโนฺต ‘‘นยาน’’นฺติ พหุวจนมาหฯ เอกสฺส อตฺถสฺสาติ ราคจริตสฺส อุปกฺกิเลสตาสงฺขาตสฺส เอกสฺส ปโยชนสฺสฯ พฺยญฺชนโตฺถปิ คหิโต, น พฺยญฺชนเมว คหิตนฺติ สุตฺตปทานิ อญฺญมญฺญปริยายวจนานิ ยถารหํ ตณฺหาวตฺถูนํ ตตฺถ กถิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สวตฺถุกา ตณฺหา วุตฺตา’’ติฯ โทสวตฺถูนํ, ทิฎฺฐิวตฺถูนญฺจ ตตฺถ กถิตตฺตา ‘‘สวตฺถุโก โทโส, สวตฺถุกา ทิฎฺฐิ จ วุตฺตา’’ติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘วุตฺตนยานุสาเรนา’’ติฯ

    85. Yadipi akusalamūlādike tipukkhalassa, taṇhādike nandiyāvaṭṭassa disābhāvena vakkhati, tathāpi aññamaññānuppavesato ekasmiṃ naye siddhe itarepi siddhā eva hontīti imassa visesassa dassanatthaṃ ‘‘āhārādayo…pe… vavatthapetu’’nti vuttaṃ. Vakkhamāne vā akusalamūlataṇhādike ādisaddena saṅgahetvā ‘‘āhārādayo’’ti vadanto ‘‘nayāna’’nti bahuvacanamāha. Ekassa atthassāti rāgacaritassa upakkilesatāsaṅkhātassa ekassa payojanassa. Byañjanatthopi gahito, na byañjanameva gahitanti suttapadāni aññamaññapariyāyavacanāni yathārahaṃ taṇhāvatthūnaṃ tattha kathitattā vuttaṃ ‘‘savatthukā taṇhā vuttā’’ti. Dosavatthūnaṃ, diṭṭhivatthūnañca tattha kathitattā ‘‘savatthuko doso, savatthukā diṭṭhi ca vuttā’’ti imamatthaṃ sandhāyāha ‘‘vuttanayānusārenā’’ti.

    ทุกฺขากาเรน สห ทุกฺขาการํ คเหตฺวาติ อโตฺถฯ เอวเญฺจตนฺติ ยทิ ตํตํอนุปสฺสนาพหุลสฺส วเสน ปุริมาหารทฺวยาทีสุ วิโมกฺขมุขวิเสสนิทฺธารณํ กตํ, เอตํ เอวเมว เวทิตพฺพํ, น อญฺญถาฯ ตตฺถ การณํ วทโนฺต ‘‘น หี’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ – ยถา อริยมคฺคานํ โอธิโส กิเลสปฺปชหนโต ปหาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ นิยโม อตฺถิ, น เอวํ วิปสฺสนาย ปริญฺญาปหานานํ อนิจฺจนฺติกตฺตาติฯ

    Dukkhākārena saha dukkhākāraṃ gahetvāti attho. Evañcetanti yadi taṃtaṃanupassanābahulassa vasena purimāhāradvayādīsu vimokkhamukhavisesaniddhāraṇaṃ kataṃ, etaṃ evameva veditabbaṃ, na aññathā. Tattha kāraṇaṃ vadanto ‘‘na hī’’tiādimāha. Tassattho – yathā ariyamaggānaṃ odhiso kilesappajahanato pahātabbesu dhammesu niyamo atthi, na evaṃ vipassanāya pariññāpahānānaṃ aniccantikattāti.

    อปเร ปนาหุ – ปุริเม อาหารทฺวเย ปริกิเลสภาเวน, ทุกฺขปจฺจยตฺตา จ ทุกฺขลกฺขณํ สุปากฎํฯ ตตฺถ ปุริเม วิญฺญาณฎฺฐิติทฺวยวิญฺญาณาหาเร ตติยวิญฺญาณฎฺฐิติยํ อนิจฺจลกฺขณํ, มโนสเญฺจตนาหาเร จตุตฺถวิญฺญาณฎฺฐิติยํ อนตฺตลกฺขณํ สุปากฎนฺติ ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ ปวตฺติมุขตาย เตหิ อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุเขหิ ปริญฺญํ คจฺฉนฺตีติฯ ตถา วิปลฺลาสาทีสุ ปุริมทฺวยํ ทุกฺขานุปสฺสนาย อุชุวิปจฺจนีกํ, อิตรทฺวยํ อนิจฺจานตฺตานุปสฺสนานํฯ อิติ ปวตฺติมุขตาย จ อุชุวิปจฺจนีกตาย จ อิเม ธมฺมา ยถารหํ อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุเขหิ ปริเญฺญยฺยา, ปหาตพฺพา จ วุตฺตาฯ ตตฺถ สุภสุขสญฺญากามุปาทานสีลพฺพตุปาทานกามโยคภวโยคอภิชฺฌากาย คนฺถกามาสวกาโมฆ ภโวฆ ราคสลฺลฉนฺทอคติคมนานิ สุขสฺสาทวเสน ปวตฺตนโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ปฎิปกฺขภาวโต พฺยาปาทกายคนฺถโทสสลฺลโทสอคติคมนานิ ปวตฺติมุขตาย อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพานิฯ ตติยสญฺญาทโย นิจฺจาภินิเวสตนฺนิมิตฺตาหิ อนิจฺจานุปสฺสนาย ปฎิปกฺขภาวโต อนิมิตฺตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพาฯ จตุตฺถสญฺญาทโย อตฺตาภินิเวสตนฺนิตฺตาหิ อนตฺตานุปสฺสนาย ปฎิปกฺขภาวโต สุญฺญตวิโมกฺขมุเขน ปหาตพฺพาฯ ตตฺถ มานสลฺลภยอคติคมนานํ นิจฺจาภินิเวสนิมิตฺตตา เวทิตพฺพาฯ น หิ อนิจฺจโต ปสฺสโต มานชปฺปนํ, ภยํ วา สมฺภวติฯ อวิชฺชาโยคาทีนํ อตฺตาภินิเวสนิมิตฺตตา ปากฎา เอวาติฯ

    Apare panāhu – purime āhāradvaye parikilesabhāvena, dukkhapaccayattā ca dukkhalakkhaṇaṃ supākaṭaṃ. Tattha purime viññāṇaṭṭhitidvayaviññāṇāhāre tatiyaviññāṇaṭṭhitiyaṃ aniccalakkhaṇaṃ, manosañcetanāhāre catutthaviññāṇaṭṭhitiyaṃ anattalakkhaṇaṃ supākaṭanti tissannaṃ anupassanānaṃ pavattimukhatāya tehi appaṇihitādivimokkhamukhehi pariññaṃ gacchantīti. Tathā vipallāsādīsu purimadvayaṃ dukkhānupassanāya ujuvipaccanīkaṃ, itaradvayaṃ aniccānattānupassanānaṃ. Iti pavattimukhatāya ca ujuvipaccanīkatāya ca ime dhammā yathārahaṃ appaṇihitādivimokkhamukhehi pariññeyyā, pahātabbā ca vuttā. Tattha subhasukhasaññākāmupādānasīlabbatupādānakāmayogabhavayogaabhijjhākāya ganthakāmāsavakāmogha bhavogha rāgasallachandaagatigamanāni sukhassādavasena pavattanato dukkhānupassanāya paṭipakkhabhāvato byāpādakāyaganthadosasalladosaagatigamanāni pavattimukhatāya appaṇihitavimokkhamukhena pahātabbāni. Tatiyasaññādayo niccābhinivesatannimittāhi aniccānupassanāya paṭipakkhabhāvato animittavimokkhamukhena pahātabbā. Catutthasaññādayo attābhinivesatannittāhi anattānupassanāya paṭipakkhabhāvato suññatavimokkhamukhena pahātabbā. Tattha mānasallabhayaagatigamanānaṃ niccābhinivesanimittatā veditabbā. Na hi aniccato passato mānajappanaṃ, bhayaṃ vā sambhavati. Avijjāyogādīnaṃ attābhinivesanimittatā pākaṭā evāti.

    ๘๖. อปฺปมญฺญาวชฺชา รูปาวจรสมาปตฺติโย ทิพฺพวิหารา ‘‘เทวูปปตฺติสํวตฺตนิกกุสลสมาปตฺติโย จา’’ติ กตฺวา, สติปิ ตพฺภาเว ปรหิตปฎิปตฺติโต, นิโทฺทสตาย จ เสฎฺฐา วิหาราติ จตโสฺส อปฺปมญฺญา พฺรหฺมวิหารา, จตโสฺส ผลสมาปตฺติโย อริยวิหารา ‘‘อารกา กิเลเสหิ อริยานํ วิหารา’’ติฯ จตโสฺส อารุปฺปสมาปตฺติโย อาเนญฺชวิหารา , สติปิ เทวูปปตฺติสํวตฺตนิกกุสลสมาปตฺติภาเว อาเนญฺชสนฺตตาหิ โลกิเยสุ สิขาปฺปตฺติโตฯ

    86. Appamaññāvajjā rūpāvacarasamāpattiyo dibbavihārā ‘‘devūpapattisaṃvattanikakusalasamāpattiyo cā’’ti katvā, satipi tabbhāve parahitapaṭipattito, niddosatāya ca seṭṭhā vihārāti catasso appamaññā brahmavihārā, catasso phalasamāpattiyo ariyavihārā ‘‘ārakā kilesehi ariyānaṃ vihārā’’ti. Catasso āruppasamāpattiyo āneñjavihārā, satipi devūpapattisaṃvattanikakusalasamāpattibhāve āneñjasantatāhi lokiyesu sikhāppattito.

    อธิกรณเภเทนาติ วตฺถุเภเทนฯ

    Adhikaraṇabhedenāti vatthubhedena.

    ยํ อภิณฺหํ น ปวตฺตติ, ตํ อจฺฉริยนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘อนฺธสฺส…เป.… อุปฺปชฺชนก’’นฺติ วุตฺตํฯ อธิติฎฺฐติ สีลาทิ เอเตน สเจฺจน, เอตฺถ วา สเจฺจ นิมิตฺตภูเต, อธิฎฺฐานมตฺตเมว วา ตํ สจฺจนฺติ เอวํ กรณาธิกรณภาวตฺถา ปจฺจยวเสน เวทิตพฺพา สมานาธิกรณสมาสปเกฺขฯ ตถา อญฺญปทตฺถสมาสปเกฺขฯ อิตรสฺมิํ ปน สมาเส กรณาธิกรณตฺถา เอว, เต จ โข สีลาทิวเสน จ เวทิตพฺพาฯ สุขนฺติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานสุขํฯ โลกิยวิปากสุขมฺปิ ลพฺภเตวฯ ‘‘นาญฺญตฺร โพชฺฌา…เป.… ปาณิน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑. ๙๘) หิ อิมาย คาถาย สงฺคหิตา อนตฺตปริหารมุเขน สตฺตานํ อภยา นิพฺพานสมฺปตฺติสุขาวหา จตฺตาโร ธมฺมา อิธ ‘‘สุขภาคิยา’’ติ วุตฺตาติฯ อนวเสสปริยาทานโตติ ผรณวเสน อนวเสสคฺคหณโตฯ

    Yaṃ abhiṇhaṃ na pavattati, taṃ acchariyanti dassetuṃ ‘‘andhassa…pe… uppajjanaka’’nti vuttaṃ. Adhitiṭṭhati sīlādi etena saccena, ettha vā sacce nimittabhūte, adhiṭṭhānamattameva vā taṃ saccanti evaṃ karaṇādhikaraṇabhāvatthā paccayavasena veditabbā samānādhikaraṇasamāsapakkhe. Tathā aññapadatthasamāsapakkhe. Itarasmiṃ pana samāse karaṇādhikaraṇatthā eva, te ca kho sīlādivasena ca veditabbā. Sukhanti jhānavipassanāmaggaphalanibbānasukhaṃ. Lokiyavipākasukhampi labbhateva. ‘‘Nāññatra bojjhā…pe… pāṇina’’nti (saṃ. ni. 1. 98) hi imāya gāthāya saṅgahitā anattaparihāramukhena sattānaṃ abhayā nibbānasampattisukhāvahā cattāro dhammā idha ‘‘sukhabhāgiyā’’ti vuttāti. Anavasesapariyādānatoti pharaṇavasena anavasesaggahaṇato.

    ปฐมสฺส สติปฎฺฐานสฺส ปฐมปฎิปทาวเสน ปวตฺตสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ เอวํ เสเสสุปิฯ ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตปฎิปทาสติปฎฺฐานานํ นานนฺตริยกตํ อุปมาย วิภาเวติฯ สติปิ จ สพฺพาหิ ปฎิปทาหิ สเพฺพสํ สติปฎฺฐานานํ นิยมาภาเว นานนฺตริกภาเวน เทสนากฺกเมเนเวตฺถ เนสํ อยมนุกฺกโม กโตติ เวทิตโพฺพฯ อถ วา กายเวทนาสุ สุภสุขสญฺญานํ ทุพฺพินิเวฐิยตาย อสุภทุกฺขานุปสฺสนานํ กิจฺจสิทฺธิโต ปุริเมน ปฎิปทาทฺวเยน ปุริมํ สติปฎฺฐานทฺวยํ โยชิตํ ตทภาวโตฯ อิตเรน อิตรํฯ ตานิ หิ ปุริเมสุ สติปฎฺฐาเนสุ กตกมฺมสฺส อิจฺฉิตพฺพานิฯ อถ วา ยถา ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตานํ มนฺทติกฺขปญฺญานํ วเสน จตโสฺส ปฎิปทา โยชิตา, เอวํ จตฺตาริ สติปฎฺฐานานิ สมฺภวนฺตีติ ทเสฺสตุํ ปฎิปทาสติปฎฺฐานานํ อยมนุกฺกโม กโตฯ

    Paṭhamassa satipaṭṭhānassa paṭhamapaṭipadāvasena pavattassāti adhippāyo. Evaṃ sesesupi. ‘‘Yathā hī’’tiādinā yathāvuttapaṭipadāsatipaṭṭhānānaṃ nānantariyakataṃ upamāya vibhāveti. Satipi ca sabbāhi paṭipadāhi sabbesaṃ satipaṭṭhānānaṃ niyamābhāve nānantarikabhāvena desanākkamenevettha nesaṃ ayamanukkamo katoti veditabbo. Atha vā kāyavedanāsu subhasukhasaññānaṃ dubbiniveṭhiyatāya asubhadukkhānupassanānaṃ kiccasiddhito purimena paṭipadādvayena purimaṃ satipaṭṭhānadvayaṃ yojitaṃ tadabhāvato. Itarena itaraṃ. Tāni hi purimesu satipaṭṭhānesu katakammassa icchitabbāni. Atha vā yathā taṇhācaritadiṭṭhicaritānaṃ mandatikkhapaññānaṃ vasena catasso paṭipadā yojitā, evaṃ cattāri satipaṭṭhānāni sambhavantīti dassetuṃ paṭipadāsatipaṭṭhānānaṃ ayamanukkamo kato.

    ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ยถา สมานปฎิปกฺขตาย ปฐมสฺส สติปฎฺฐานสฺส ภาวนา ปฐมสฺส ฌานสฺส วิเสสาวหา, เอวํ ปีติสหคตาทิสมานตาย ทุติยสติปฎฺฐานาทิภาวนา ทุติยชฺฌานาทีนํ วิเสสาวหาติ อิมมตฺถํ อุปสํหรติฯ ปีติปฎิสํเวทนาทีติ อาทิสเทฺทน สุขปฎิสํเวทนํ, จิตฺตสงฺขารปฎิสํเวทนํ, ปสฺสมฺภนญฺจ สงฺคณฺหาติฯ จิตฺตสฺส อภิปฺปโมทนคฺคหณเญฺจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ ทฎฺฐพฺพํ ปฎิสํเวทนสมาทหนวิโมจนานมฺปิ วเสน ปวตฺติยา อิจฺฉิตพฺพตฺตาฯ อนิจฺจวิราคาทีติ อาทิสเทฺทน นิโรธปฎินิสฺสคฺคา สงฺคยฺหนฺติฯ

    ‘‘Tathā’’ti iminā yathā samānapaṭipakkhatāya paṭhamassa satipaṭṭhānassa bhāvanā paṭhamassa jhānassa visesāvahā, evaṃ pītisahagatādisamānatāya dutiyasatipaṭṭhānādibhāvanā dutiyajjhānādīnaṃ visesāvahāti imamatthaṃ upasaṃharati. Pītipaṭisaṃvedanādīti ādisaddena sukhapaṭisaṃvedanaṃ, cittasaṅkhārapaṭisaṃvedanaṃ, passambhanañca saṅgaṇhāti. Cittassa abhippamodanaggahaṇañcettha nidassanamattaṃ daṭṭhabbaṃ paṭisaṃvedanasamādahanavimocanānampi vasena pavattiyā icchitabbattā. Aniccavirāgādīti ādisaddena nirodhapaṭinissaggā saṅgayhanti.

    รูปาวจรสมาปตฺตีนนฺติ เอตฺถ ปฎิลทฺธมตฺตํ ปฐมชฺฌานํ ปฐมชฺฌานสมาปตฺติยา ปคุณวสีภาวาปาทนสฺส ปจฺจโย โหติ, น อิตราสํฯ อิตราสํ ปน อธิฎฺฐานภาเวน ปรมฺปราย ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํฯ พฺยาปาทวิหิํสาวิตกฺกอรติราคา พฺยาปาทวิตกฺกาทโยฯ สุเขนาติ อกิเจฺฉน, อกสิเรนาติ อโตฺถฯ

    Rūpāvacarasamāpattīnanti ettha paṭiladdhamattaṃ paṭhamajjhānaṃ paṭhamajjhānasamāpattiyā paguṇavasībhāvāpādanassa paccayo hoti, na itarāsaṃ. Itarāsaṃ pana adhiṭṭhānabhāvena paramparāya paccayo hotīti veditabbaṃ. Byāpādavihiṃsāvitakkaaratirāgā byāpādavitakkādayo. Sukhenāti akicchena, akasirenāti attho.

    ทิพฺพวิหาราทิเก จตฺตาโร วิหาเร ปทฎฺฐานํ กตฺวา นานาสนฺตาเนสุ อุปฺปนฺนาย วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนาย ยถากฺกมํ อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทิวเสน ปวตฺตวิสยํ สนฺธาย ปาฬิยํ ‘‘ปฐโม วิหาโร ภาวิโต พหุลีกโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สมฺมปฺปธานสทิสเญฺหตฺถ สมฺมปฺปธานํ วุตฺตํฯ อริยวิหาเร จ เหฎฺฐิเม นิสฺสาย อุปริมคฺคาธิคมาย วายมนฺตสฺส อยํ นโย ลพฺภติฯ มคฺคปริยาปนฺนเสฺสว วา สมฺมปฺปธานสฺส นานาสนฺตานิกสฺส ยถาวุตฺตวิปสฺสนาคมเนน ตํตํกิจฺจาทิกสฺส วเสเนตํ วุตฺตํฯ สกฺกา หิ วิปสฺสนาคมเนน สทฺธินฺทฺริยาทิติกฺขตาวิเสโส วิย วีริยสฺส กิจฺจวิเสสวิสโย มโคฺค วิญฺญาตุํฯ

    Dibbavihārādike cattāro vihāre padaṭṭhānaṃ katvā nānāsantānesu uppannāya vuṭṭhānagāminivipassanāya yathākkamaṃ anuppannākusalānuppādanādivasena pavattavisayaṃ sandhāya pāḷiyaṃ ‘‘paṭhamo vihāro bhāvito bahulīkato’’tiādi vuttaṃ. Sammappadhānasadisañhettha sammappadhānaṃ vuttaṃ. Ariyavihāre ca heṭṭhime nissāya uparimaggādhigamāya vāyamantassa ayaṃ nayo labbhati. Maggapariyāpannasseva vā sammappadhānassa nānāsantānikassa yathāvuttavipassanāgamanena taṃtaṃkiccādikassa vasenetaṃ vuttaṃ. Sakkā hi vipassanāgamanena saddhindriyāditikkhatāviseso viya vīriyassa kiccavisesavisayo maggo viññātuṃ.

    ตถา สิขาปฺปตฺตอุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิทิพฺพวิหารํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ปฐมํ สมฺมปฺปธานํ มานปฺปหานํ อุกฺกํเสติ, พฺรหฺมวิหารสนฺนิสฺสเย อุปฺปนฺนํ ทุติยํ สมฺมปฺปธานํ กามาลยสมุคฺฆาตํ, อริยวิหารสนฺนิสฺสเยน อุปฺปนฺนํ ตติยํ สมฺมปฺปธานํ อวิชฺชาปหานํ, สนฺตวิโมกฺขสนฺนิสฺสเยน อุปฺปนฺนํ จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ ภวูปสมํ อุกฺกํเสตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปฐมํ สมฺมปฺปธาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

    Tathā sikhāppattaupekkhāsatipārisuddhidibbavihāraṃ nissāya uppannaṃ paṭhamaṃ sammappadhānaṃ mānappahānaṃ ukkaṃseti, brahmavihārasannissaye uppannaṃ dutiyaṃ sammappadhānaṃ kāmālayasamugghātaṃ, ariyavihārasannissayena uppannaṃ tatiyaṃ sammappadhānaṃ avijjāpahānaṃ, santavimokkhasannissayena uppannaṃ catutthaṃ sammappadhānaṃ bhavūpasamaṃ ukkaṃsetīti dassetuṃ ‘‘paṭhamaṃ sammappadhāna’’ntiādi vuttaṃ.

    ปหีนมาโน น วิสํวาเทยฺยาติ มานปฺปหานํ สจฺจาธิฎฺฐานํ วเฑฺฒติ วิสํวาทนนิมิตฺตเสฺสว อภาวโตฯ อปฺปหีนมาโน หิ มานนิสฺสเยน กิญฺจิ วิสํวาเทยฺยฯ กามาลเย, ทิฎฺฐาลเย จ สมุคฺฆาฎิเต จาคปฎิปกฺขสฺส อวสโร เอว นตฺถีติ อาลยสมุคฺฆาโต จาคาธิฎฺฐานํ วเฑฺฒติฯ อวิชฺชาย สมุจฺฉินฺนาย ปญฺญาพุทฺธิยา ปริพโนฺธว นตฺถิ, ภวสงฺขาเรสุ โอสฺสเฎฺฐสุ อภวูปสมสฺส โอกาโสว นตฺถีติ มานปฺปหานาทโย สจฺจาธิฎฺฐานาทิเก สํวเฑฺฒนฺตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘มานปฺปหาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

    Pahīnamāno na visaṃvādeyyāti mānappahānaṃ saccādhiṭṭhānaṃ vaḍḍheti visaṃvādananimittasseva abhāvato. Appahīnamāno hi mānanissayena kiñci visaṃvādeyya. Kāmālaye, diṭṭhālaye ca samugghāṭite cāgapaṭipakkhassa avasaro eva natthīti ālayasamugghāto cāgādhiṭṭhānaṃ vaḍḍheti. Avijjāya samucchinnāya paññābuddhiyā paribandhova natthi, bhavasaṅkhāresu ossaṭṭhesu abhavūpasamassa okāsova natthīti mānappahānādayo saccādhiṭṭhānādike saṃvaḍḍhentīti dassetuṃ ‘‘mānappahāna’’ntiādi vuttaṃ.

    อวิสํวาทนสีโล ธมฺมจฺฉนฺทพหุโล ฉนฺทาธิปเตยฺยํ สมาธิํ นิพฺพเตฺตติฯ จาคาธิมุโตฺต เนกฺขมฺมชฺฌาสโย อโกสชฺชพหุลตาย วีริยาธิปเตยฺยํ, ญาณุตฺตโร จิตฺตํ อตฺตโน วเส วเตฺตโนฺต จิตฺตาธิปเตยฺยํ, วูปสนฺตสภาโว อุปสมเหตุภูตาย วีมํสาย วีมํสยโต วีมํสาธิปเตยฺยํ สมาธิํ นิพฺพเตฺตตีติ สจฺจาธิฎฺฐานาทิปาริสุทฺธิฉนฺทสมาธิอาทีนํ ปาริปูริยา สํวตฺตตีติ ทเสฺสตุํ ‘‘สจฺจาธิฎฺฐานํ ภาวิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

    Avisaṃvādanasīlo dhammacchandabahulo chandādhipateyyaṃ samādhiṃ nibbatteti. Cāgādhimutto nekkhammajjhāsayo akosajjabahulatāya vīriyādhipateyyaṃ, ñāṇuttaro cittaṃ attano vase vattento cittādhipateyyaṃ, vūpasantasabhāvo upasamahetubhūtāya vīmaṃsāya vīmaṃsayato vīmaṃsādhipateyyaṃ samādhiṃ nibbattetīti saccādhiṭṭhānādipārisuddhichandasamādhiādīnaṃ pāripūriyā saṃvattatīti dassetuṃ ‘‘saccādhiṭṭhānaṃ bhāvita’’ntiādi vuttaṃ.

    ธมฺมจฺฉนฺทพหุโล ฉนฺทสมาธิมฺหิ ฐิโต อิฎฺฐานิฎฺฐฉฬารมฺมณาปาเต อนวชฺชเสวี โหติฯ อารทฺธวีริโย วีริยสมาธิมฺหิ ฐิโต สํกิเลสปกฺขสฺส สนฺตปนวเสเนว ปุญฺญํ ปริปูเรติฯ จิตฺตํ อตฺตโน วเส วเตฺตโนฺต จิตฺตสมาธิมฺหิ ฐิโต ปญฺญาย อุปการานุปการเก ธเมฺม ปริคฺคณฺหโนฺต พุทฺธิํ ผาติํ คมิสฺสติฯ วีมํสาสมาธิมฺหิ ฐิโต ธมฺมวิจยพหุโล อุปธิปฎินิสฺสคฺคาวหเมว ปฎิปตฺติํ พฺรูเหตีติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘ฉนฺทสมาธิ ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    Dhammacchandabahulo chandasamādhimhi ṭhito iṭṭhāniṭṭhachaḷārammaṇāpāte anavajjasevī hoti. Āraddhavīriyo vīriyasamādhimhi ṭhito saṃkilesapakkhassa santapanavaseneva puññaṃ paripūreti. Cittaṃ attano vase vattento cittasamādhimhi ṭhito paññāya upakārānupakārake dhamme pariggaṇhanto buddhiṃ phātiṃ gamissati. Vīmaṃsāsamādhimhi ṭhito dhammavicayabahulo upadhipaṭinissaggāvahameva paṭipattiṃ brūhetīti imamatthaṃ dassetuṃ ‘‘chandasamādhi bhāvito’’tiādi vuttaṃ.

    ทูราทูรปจฺจตฺถิกนิวารเณ พหูปกาโร อินฺทฺริยสํวโร เมตฺตาย วิเสสุปฺปตฺติเหตุโต เมตฺตํ วเฑฺฒติฯ ตเปน สํกิเลสธเมฺม วิกฺขเมฺภโนฺต วีริยาธิโก ปรทุกฺขาปนยนกามตํ สาหตฺถิกํ กโรตีติ ตโป กรุณํ สํวเฑฺฒติฯ ปญฺญา ปริโยทาปิตา สาวชฺชานวชฺชธเมฺม ปริคฺคณฺหนฺตี ปหาสนิปาตโต มุทิตํ รกฺขนฺตี ปริพฺรูเหติฯ อุปธินิสฺสโคฺค ปกฺขโนฺท นินฺนโปณปพฺภาโรว สมฺมเทว สตฺตสงฺขาเรสุ อุทาสิโน โหตีติ โส อุเปกฺขาวิหารํ ปริวเฑฺฒตีติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘อินฺทฺริยสํวโร ภาวิโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘โย ยสฺส วิเสสปจฺจโย, โส ตํ ปริปูเรตีติ วุโตฺต’’ติฯ

    Dūrādūrapaccatthikanivāraṇe bahūpakāro indriyasaṃvaro mettāya visesuppattihetuto mettaṃ vaḍḍheti. Tapena saṃkilesadhamme vikkhambhento vīriyādhiko paradukkhāpanayanakāmataṃ sāhatthikaṃ karotīti tapo karuṇaṃ saṃvaḍḍheti. Paññā pariyodāpitā sāvajjānavajjadhamme pariggaṇhantī pahāsanipātato muditaṃ rakkhantī paribrūheti. Upadhinissaggo pakkhando ninnapoṇapabbhārova sammadeva sattasaṅkhāresu udāsino hotīti so upekkhāvihāraṃ parivaḍḍhetīti imamatthaṃ dassetuṃ ‘‘indriyasaṃvaro bhāvito’’tiādi vuttaṃ. Tenāha ‘‘yo yassa visesapaccayo, so taṃ paripūretīti vutto’’ti.

    ๘๗. ทิสาภาเวนาติ นยานํ ทิสาภาเวนาติ โยเชตพฺพํฯ อโตฺถปิสฺส ปุเพฺพ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ เยน จตุเกฺกน ยสฺส ราคจริตาทิปุคฺคลสฺส โวทานํ วิสุทฺธิฯ ยถา อปริญฺญาตา, อปฺปหีนา จ ปฐมาหารวิปลฺลาสาทโย ราคจริตาทีนํ ปุคฺคลานํ อุปกฺกิเลสา, เอวํ ปฐมปฎิปทาทโย ภาวิตา พหุลีกตา เนสํ วิสุทฺธิโย โหนฺตีติ วุตฺตนยานุสาเรน สกฺกา วิญฺญาตุนฺติ อาห ‘‘เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวา’’ติฯ

    87.Disābhāvenāti nayānaṃ disābhāvenāti yojetabbaṃ. Atthopissa pubbe vuttanayeneva veditabbo. Yena catukkena yassa rāgacaritādipuggalassa vodānaṃ visuddhi. Yathā apariññātā, appahīnā ca paṭhamāhāravipallāsādayo rāgacaritādīnaṃ puggalānaṃ upakkilesā, evaṃ paṭhamapaṭipadādayo bhāvitā bahulīkatā nesaṃ visuddhiyo hontīti vuttanayānusārena sakkā viññātunti āha ‘‘heṭṭhā vuttanayamevā’’ti.

    อถ วา ปุริมาหิ ทฺวีหิ ปฎิปทาหิ สิชฺฌมานา วิปสฺสนา อตฺตโน กิจฺจวุตฺติสงฺขาตํ ปวตฺติทุกฺขมฺปิ สงฺคณฺหนฺตี ทุกฺขานุปสฺสนาพาหุลฺลวิเสสโต ทุกฺขลกฺขณํ ปฎิวิชฺฌนฺตี ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ ตติยาย ปฎิปทาย สิชฺฌมานา สุขปฺปวตฺติกตาย สมฺมเทว สนฺตติฆนํ ภินฺทิตฺวา อนิจฺจลกฺขณํ วิภาเวนฺตี ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ จตุตฺถาย ปน ปฎิปทาย สิชฺฌมานา สุขปฺปวตฺติกตาย, วิสทญาณตาย จ สมูหกิจฺจารมฺมณฆนํ ภินฺทิตฺวา สมฺมเทว อนตฺตลกฺขณํ วิภาเวนฺตี ‘‘สุญฺญตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ

    Atha vā purimāhi dvīhi paṭipadāhi sijjhamānā vipassanā attano kiccavuttisaṅkhātaṃ pavattidukkhampi saṅgaṇhantī dukkhānupassanābāhullavisesato dukkhalakkhaṇaṃ paṭivijjhantī ‘‘appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti vuttā. Tatiyāya paṭipadāya sijjhamānā sukhappavattikatāya sammadeva santatighanaṃ bhinditvā aniccalakkhaṇaṃ vibhāventī ‘‘animittaṃ vimokkhamukha’’nti vuttā. Catutthāya pana paṭipadāya sijjhamānā sukhappavattikatāya, visadañāṇatāya ca samūhakiccārammaṇaghanaṃ bhinditvā sammadeva anattalakkhaṇaṃ vibhāventī ‘‘suññataṃ vimokkhamukha’’nti vuttā.

    ตถา กายเวทนานุปสฺสนา วิเสสโต ทุกฺขลกฺขณํ วิภาเวนฺตี, จิตฺตานุปสฺสนา อนิจฺจลกฺขณํ, ธมฺมานุปสฺสนา อนตฺตลกฺขณนฺติ ตา ยถากฺกมํ ‘‘อปฺปณิหิตาทิวิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ

    Tathā kāyavedanānupassanā visesato dukkhalakkhaṇaṃ vibhāventī, cittānupassanā aniccalakkhaṇaṃ, dhammānupassanā anattalakkhaṇanti tā yathākkamaṃ ‘‘appaṇihitādivimokkhamukha’’nti vuttā.

    สปฺปีติกตาย อสฺสาทานิ ปฐมทุติยชฺฌานานิ วิรชฺชนวเสน วิเสสโต ทุกฺขโต ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตานิฯ ตติยํ สนฺตสุขตาย พาหิรกานํ นิจฺจาภินิเวสวตฺถุภูตํ สภาวโต ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํฯ จตุตฺถํ อุปกฺกิเลสวิคมาทีหิ ปริสุทฺธํ สุสมาหิตํ ยถา ปเรสํ, เอวํ อตฺตโน จ ยถาภูตสภาวาวโพธเหตุตาย สมฺมเทว ‘‘สุญฺญ’’นฺติ ปสฺสนฺติยา วิปสฺสนาย วเสน ‘‘สุญฺญตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Sappītikatāya assādāni paṭhamadutiyajjhānāni virajjanavasena visesato dukkhato passantiyā vipassanāya vasena ‘‘appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti vuttāni. Tatiyaṃ santasukhatāya bāhirakānaṃ niccābhinivesavatthubhūtaṃ sabhāvato ‘‘anicca’’nti passantiyā vipassanāya vasena ‘‘animittaṃ vimokkhamukha’’nti vuttaṃ. Catutthaṃ upakkilesavigamādīhi parisuddhaṃ susamāhitaṃ yathā paresaṃ, evaṃ attano ca yathābhūtasabhāvāvabodhahetutāya sammadeva ‘‘suñña’’nti passantiyā vipassanāya vasena ‘‘suññataṃ vimokkhamukha’’nti vuttaṃ.

    เอวํ วิหารานํ วิปสฺสนาวเสเนว วิโมกฺขมุขตา, ตตฺถ ‘‘ทิพฺพพฺรหฺมวิหารานํ สนฺตสุขตาย อสฺสาทนียตา’’ติอาทินา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตา โยเชตพฺพาฯ อริยวิหารสฺส ปญฺญาธิกตฺตา วิเสสโต อนตฺตานุปสฺสนาสนฺนิสฺสยตาย สุญฺญตวิโมกฺขตาฯ อาเนญฺชวิหารสฺส สนฺตวิโมกฺขตาย อนิจฺจลกฺขณปฺปฎิเวธสฺส วิเสสปจฺจยสภาวโต อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา โยเชตพฺพาฯ

    Evaṃ vihārānaṃ vipassanāvaseneva vimokkhamukhatā, tattha ‘‘dibbabrahmavihārānaṃ santasukhatāya assādanīyatā’’tiādinā appaṇihitavimokkhamukhatā yojetabbā. Ariyavihārassa paññādhikattā visesato anattānupassanāsannissayatāya suññatavimokkhatā. Āneñjavihārassa santavimokkhatāya aniccalakkhaṇappaṭivedhassa visesapaccayasabhāvato animittavimokkhamukhatā yojetabbā.

    ตถา ปุริมานํ ทฺวินฺนํ สมฺมปฺปธานานํ สํกิเลสวิสยตฺตา กิเลสทุกฺขวีติกฺกมสฺส ทุกฺขานุปสฺสนาพาหุลฺลตฺตา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตาฯ ตติยสฺส อนุปฺปนฺนกุสลุปฺปาทเนน ธมฺมานํ อุทยวยวนฺตตาวิภาวนโต อนิจฺจลกฺขณํ ปากฎนฺติ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตาฯ จตุตฺถสฺส อุปฺปนฺนานํ ฐิตตฺตํ พฺยาปาราปชฺชเนน ธมฺมานํ อวสวตฺติตาทีปนโต อนตฺตลกฺขณํ สุปากฎนฺติ สุญฺญตวิโมกฺขมุขตาฯ

    Tathā purimānaṃ dvinnaṃ sammappadhānānaṃ saṃkilesavisayattā kilesadukkhavītikkamassa dukkhānupassanābāhullattā appaṇihitavimokkhamukhatā. Tatiyassa anuppannakusaluppādanena dhammānaṃ udayavayavantatāvibhāvanato aniccalakkhaṇaṃ pākaṭanti animittavimokkhamukhatā. Catutthassa uppannānaṃ ṭhitattaṃ byāpārāpajjanena dhammānaṃ avasavattitādīpanato anattalakkhaṇaṃ supākaṭanti suññatavimokkhamukhatā.

    มานปฺปหานาลยสมุคฺฆาตานํ สหายตณฺหาปหานตาย ตณฺหาปณิธิวิโสธนโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขตาฯ อวิชฺชาปหานสฺส ปญฺญากิจฺจาธิกตาย สุญฺญตวิโมกฺขมุขตาฯ ภวูปสมสฺส สงฺขารนิมิตฺตปฎิปกฺขตาย อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขตาฯ

    Mānappahānālayasamugghātānaṃ sahāyataṇhāpahānatāya taṇhāpaṇidhivisodhanato appaṇihitavimokkhamukhatā. Avijjāpahānassa paññākiccādhikatāya suññatavimokkhamukhatā. Bhavūpasamassa saṅkhāranimittapaṭipakkhatāya animittavimokkhamukhatā.

    ปกติยา ทุกฺขสภาเว สงฺขาเร ญาณสเจฺจน อวิสํวาเทโนฺต ทุกฺขโต เอว ปสฺสติ, จาคาธิวิมุตฺตตาย ตณฺหํ วิทูรีกโรโนฺต ราคปฺปณิธิํ วิโสเสตีติ ปุริมํ อธิฎฺฐานทฺวยํ ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตํฯ อิตรสฺส ปน อธิฎฺฐานทฺวยสฺส สุญฺญตานิมิตฺตวิโมกฺขมุขตา วุตฺตนยา เอวฯ

    Pakatiyā dukkhasabhāve saṅkhāre ñāṇasaccena avisaṃvādento dukkhato eva passati, cāgādhivimuttatāya taṇhaṃ vidūrīkaronto rāgappaṇidhiṃ visosetīti purimaṃ adhiṭṭhānadvayaṃ ‘‘appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti vuttaṃ. Itarassa pana adhiṭṭhānadvayassa suññatānimittavimokkhamukhatā vuttanayā eva.

    ฉนฺทาธิปเตยฺยา จิเตฺตกคฺคตา วิเสสโต ธมฺมจฺฉนฺทวโต เนกฺขมฺมวิตกฺกพหุลสฺส โหติ, วีริยาธิปเตยฺยา ปน กามวิตกฺกาทิเก วิโนเทนฺตสฺสาติ ตทุภยํ นิสฺสาย ปวตฺตา วิปสฺสนา วิเสสโต ราคาทิปฺปณิธีนํ วิโสสนโต ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ จิตฺตาธิปเตยฺยํ , วีมํสาธิปเตยฺยญฺจ นิสฺสาย ปวตฺตา ยถากฺกมํ อนิจฺจานตฺตานุปสฺสนาพาหุลฺลโต ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํ, อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ จ วุตฺตาฯ

    Chandādhipateyyā cittekaggatā visesato dhammacchandavato nekkhammavitakkabahulassa hoti, vīriyādhipateyyā pana kāmavitakkādike vinodentassāti tadubhayaṃ nissāya pavattā vipassanā visesato rāgādippaṇidhīnaṃ visosanato ‘‘appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti vuttā. Cittādhipateyyaṃ , vīmaṃsādhipateyyañca nissāya pavattā yathākkamaṃ aniccānattānupassanābāhullato ‘‘animittaṃ vimokkhamukhaṃ, appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti ca vuttā.

    อภิชฺฌาวินยโน อินฺทฺริยสํวโร, กามสงฺกปฺปาทิวิโนทโน ตโป จ วุตฺตนเยเนว ปณิธิปฎิปกฺขโต อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุขํ, พุทฺธิ อนตฺตานุปสฺสนานิมิตฺตํ, อุปธิปฎินิสฺสโคฺค นิมิตฺตคฺคาหปฎิปโกฺขติ ตทุภยสนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ยถากฺกมํ ‘‘สุญฺญตํ, อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ

    Abhijjhāvinayano indriyasaṃvaro, kāmasaṅkappādivinodano tapo ca vuttanayeneva paṇidhipaṭipakkhato appaṇihitaṃ vimokkhamukhaṃ, buddhi anattānupassanānimittaṃ, upadhipaṭinissaggo nimittaggāhapaṭipakkhoti tadubhayasannissayā vipassanā yathākkamaṃ ‘‘suññataṃ, animittaṃ vimokkhamukha’’nti vuttā.

    อาสนฺนปจฺจตฺถิกราคํ ปฎิพาหนฺตี เมตฺตา ราคปณิธิยา ปฎิปโกฺข, กรุณา ปรทุกฺขาปนยนาการวุตฺติกา ทุกฺขสหคตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตทุภยสนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ‘‘อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาฯ มุทิตา สตฺตานํ โมทคฺคหณพหุลา ตทนิจฺจตาทสฺสนโต อนิจฺจานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา อนิมิตฺตํ วิโมกฺขมุขํฯ อุเปกฺขา ญาณกิจฺจาธิกตาย อนตฺตานุปสฺสนาย วิเสสปจฺจโยติ ตนฺนิสฺสยา วิปสฺสนา ‘‘สุญฺญตํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ วุตฺตาติ เอวเมตฺถ ปวตฺติอาการโต วิปสฺสโต นิสฺสยโต, กิจฺจโต จ ภินฺทิตฺวา วิโมกฺขมุขานิ โยชิตานีติฯ

    Āsannapaccatthikarāgaṃ paṭibāhantī mettā rāgapaṇidhiyā paṭipakkho, karuṇā paradukkhāpanayanākāravuttikā dukkhasahagatāya dukkhānupassanāya visesapaccayoti tadubhayasannissayā vipassanā ‘‘appaṇihitaṃ vimokkhamukha’’nti vuttā. Muditā sattānaṃ modaggahaṇabahulā tadaniccatādassanato aniccānupassanāya visesapaccayoti tannissayā vipassanā animittaṃ vimokkhamukhaṃ. Upekkhā ñāṇakiccādhikatāya anattānupassanāya visesapaccayoti tannissayā vipassanā ‘‘suññataṃ vimokkhamukha’’nti vuttāti evamettha pavattiākārato vipassato nissayato, kiccato ca bhinditvā vimokkhamukhāni yojitānīti.

    สมติกฺกมนํ ปริญฺญาปหานญฺจฯ สปรสนฺตาเนติ อตฺตโน, ปเรสญฺจ สนฺตาเน, เตน กายิโก, วาจสิโก จ วิหาโร ‘‘วิกฺกีฬิต’’นฺติ วุโตฺตติ ทเสฺสติ ‘‘วิวิโธ หาโร’’ติ กตฺวาฯ ตสฺส ปน วิภาวนา อิธ อธิเปฺปตา นยสฺส ภูมิภาวโตฯ เยน ปฎิปกฺขภาเวนฯ เตสํ ปฎิปกฺขภาโวติ เตสํ อาหาราทีนํ ปฎิปกฺขภาโว ปหาตพฺพภาโว ปฎิปทาทีนํ ปฎิปกฺขภาโว ปหายกภาโวติ โยเชตพฺพํฯ ตตฺถ ปฎิปทาคฺคหเณน วิปสฺสนา กถิตาฯ วิปสฺสนา จ จตฺตาโร อาหาเร ปริชานนฺตี ตปฺปฎิพทฺธฉนฺทราคํ ปชหตีติ อุชุกเมว เตสํ ปฎิปกฺขตา, เอวํ ฌานาทีนมฺปิ อุปาทานาทิปฎิปกฺขตา เวทิตพฺพา ตทุปเทเสน วิปสฺสนาย กถิตตฺตาฯ วิปลฺลาสสติปฎฺฐานานํ ปฎิปกฺขภาโว ปากโฎ เอวฯ นฺติ สีหวิกฺกีฬิตํฯ วีสติยา จตุเกฺกหิ วิสภาคโต วิตฺถาเรน วิภตฺตนฺติ ตีหิ ปเทหิ สงฺคเหตฺวา กถิกตฺตา วุตฺตํ ‘‘สเงฺขเปน ทเสฺสโนฺต’’ติฯ

    Samatikkamanaṃ pariññāpahānañca. Saparasantāneti attano, paresañca santāne, tena kāyiko, vācasiko ca vihāro ‘‘vikkīḷita’’nti vuttoti dasseti ‘‘vividho hāro’’ti katvā. Tassa pana vibhāvanā idha adhippetā nayassa bhūmibhāvato. Yena paṭipakkhabhāvena. Tesaṃ paṭipakkhabhāvoti tesaṃ āhārādīnaṃ paṭipakkhabhāvo pahātabbabhāvo paṭipadādīnaṃ paṭipakkhabhāvo pahāyakabhāvoti yojetabbaṃ. Tattha paṭipadāggahaṇena vipassanā kathitā. Vipassanā ca cattāro āhāre parijānantī tappaṭibaddhachandarāgaṃ pajahatīti ujukameva tesaṃ paṭipakkhatā, evaṃ jhānādīnampi upādānādipaṭipakkhatā veditabbā tadupadesena vipassanāya kathitattā. Vipallāsasatipaṭṭhānānaṃ paṭipakkhabhāvo pākaṭo eva. Nti sīhavikkīḷitaṃ. Vīsatiyā catukkehi visabhāgato vitthārena vibhattanti tīhi padehi saṅgahetvā kathikattā vuttaṃ ‘‘saṅkhepena dassento’’ti.

    อินฺทฺริยานนฺติ สทฺธาทิอินฺทฺริยานํฯ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ นิทฺธารณาติ โยชนาฯ

    Indriyānanti saddhādiindriyānaṃ. Dasannaṃ catukkānaṃ niddhāraṇāti yojanā.

    ๘๘. นิคฺคจฺฉตีติ นิกฺขมติฯ ตโต นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมาโน หิ นิคฺคจฺฉโนฺต วิย โหตีติฯ จตฺตาโร ปุคฺคเลติ ‘‘ตณฺหาจริโต มโนฺท’’ติอาทินา (เนตฺติ. ๖) วุเตฺต จตฺตาโร ปุคฺคเลฯ ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนน เจตฺถ ธโมฺม วุโตฺตติ อาห ‘‘ภูมิํ นิทฺทิสิตฺวา’’ติฯ ตโต เอวาติ ยถาวุตฺตปุคฺคลจตุกฺกโต เอวฯ อิตรตฺถาปีติ ‘‘สุขาย…เป.… ปุคฺคลา’’ติ เอตฺถาปิฯ สาธารณายาติ ปฐมจตุตฺถาหิปิ วิมิสฺสายฯ ยถาวุตฺตาสูติ ทุติยตติยาสุฯ

    88.Niggacchatīti nikkhamati. Tato niddhāretvā vuccamāno hi niggacchanto viya hotīti. Cattāro puggaleti ‘‘taṇhācarito mando’’tiādinā (netti. 6) vutte cattāro puggale. Puggalādhiṭṭhānena cettha dhammo vuttoti āha ‘‘bhūmiṃ niddisitvā’’ti. Tato evāti yathāvuttapuggalacatukkato eva. Itaratthāpīti ‘‘sukhāya…pe… puggalā’’ti etthāpi. Sādhāraṇāyāti paṭhamacatutthāhipi vimissāya. Yathāvuttāsūti dutiyatatiyāsu.

    เหฎฺฐาติ เทสนาหารวิภงฺควิจยหารสมฺปาตวณฺณนาสุฯ

    Heṭṭhāti desanāhāravibhaṅgavicayahārasampātavaṇṇanāsu.

    เอเสว นโยติ กุสลมูลาทิทฺวาทสติกสงฺคโห อนวชฺชปโกฺขฯ ‘‘โวทายติ สุชฺฌติ เอเตนาติ โวทาน’’นฺติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๑๑) วํ เนตพฺพตํ สนฺธายาหฯ

    Eseva nayoti kusalamūlādidvādasatikasaṅgaho anavajjapakkho. ‘‘Vodāyati sujjhati etenāti vodāna’’nti (netti. aṭṭha. 11) vaṃ netabbataṃ sandhāyāha.

    ยถา หารอุเทฺทโส กโต, เอวํ นยานํ อกรเณ การณํ, ปโยชนญฺจ วิภาเวตุกาโม ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาหฯ นเยหิ นยนฺตเรหิฯ สมฺภวทสฺสนตฺถนฺติ อุปปตฺติทสฺสนตฺถํฯ ตตฺถ สมฺภโว อนุเทฺทสกฺกเมน นิทฺทิสเน กรณํ ทสฺสนํ ปโยชนํฯ ยทิ หิ อิเม นยา อุปฺปตฺติฎฺฐานวเสน อสํกิณฺณา ภเวยฺยุํ, หารา วิย อุเทฺทสานุกฺกเมเนว นิทฺทิสิตพฺพา สิยุํฯ ตถา หิ วุตฺตํ หารานํ อุเทฺทสาวสาเน ‘‘เอเต โสฬส หารา ปกิตฺติตา อตฺถโต อสํกิณฺณา’’ติ (เนตฺติ. ๑)ฯ

    Yathā hārauddeso kato, evaṃ nayānaṃ akaraṇe kāraṇaṃ, payojanañca vibhāvetukāmo ‘‘kasmā panā’’tiādimāha. Nayehi nayantarehi. Sambhavadassanatthanti upapattidassanatthaṃ. Tattha sambhavo anuddesakkamena niddisane karaṇaṃ dassanaṃ payojanaṃ. Yadi hi ime nayā uppattiṭṭhānavasena asaṃkiṇṇā bhaveyyuṃ, hārā viya uddesānukkameneva niddisitabbā siyuṃ. Tathā hi vuttaṃ hārānaṃ uddesāvasāne ‘‘ete soḷasa hārā pakittitā atthato asaṃkiṇṇā’’ti (netti. 1).

    ยสฺมา ปเนเต มูลปเทหิ มูลปทนฺตรนิทฺธารเณน อญฺญมญฺญํ เต นิคฺคจฺฉนฺติ, ตสฺมา เอกสฺมิํ นิทฺทิเฎฺฐ อิตโรปิ อตฺถโต นิทฺทิโฎฺฐเยว นาม โหตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อุเทฺทสานุกฺกเมน นิเทฺทโส น กโต’’ติฯ

    Yasmā panete mūlapadehi mūlapadantaraniddhāraṇena aññamaññaṃ te niggacchanti, tasmā ekasmiṃ niddiṭṭhe itaropi atthato niddiṭṭhoyeva nāma hotīti imassa atthassa dassanatthaṃ ‘‘uddesānukkamena niddeso na kato’’ti.

    อิทานิ ตเมว สเงฺขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทเสฺสตุํ ‘‘ปฐมนยโต หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตณฺหาทิฎฺฐิจริตวเสน ทฺวิธา ปุคฺคเล วิภชิตฺวา เตสํ วเสน นนฺทิยาวฎฺฎนยํ นีหริตฺวา ปุน เต เอว ตณฺหาทิฎฺฐิจริเต จตุปฺปฎิปทาวิภาเคน วิภชิตฺวา สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโต, เต เอว จตุปฺปฎิปทาเภทภิเนฺน ปุคฺคเล ปุน อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิวิภาเคน ติธา วิภชิตฺวา ติปุกฺขลสฺส นยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโตฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘ปฐมนยโต…เป.… นิทฺทิโฎฺฐ’’ติฯ

    Idāni tameva saṅkhepena vuttamatthaṃ vitthārena dassetuṃ ‘‘paṭhamanayato hī’’tiādi vuttaṃ. Tattha taṇhādiṭṭhicaritavasena dvidhā puggale vibhajitvā tesaṃ vasena nandiyāvaṭṭanayaṃ nīharitvā puna te eva taṇhādiṭṭhicarite catuppaṭipadāvibhāgena vibhajitvā sīhavikkīḷitassa nayassa sambhavo dassito, te eva catuppaṭipadābhedabhinne puggale puna ugghaṭitaññuādivibhāgena tidhā vibhajitvā tipukkhalassa nayassa sambhavo dassito. Taṃ sandhāyāha ‘‘paṭhamanayato…pe… niddiṭṭho’’ti.

    ยสฺมา สุภสุขสญฺญาหิ โลโภ, นิจฺจสญฺญาย โทโส ‘‘อิมินา เม อนโตฺถ กโต’’ติ อาฆาตุปฺปตฺติโต , อตฺตสญฺญาย โมโห คหิโต โหติฯ ตถา อสุภสญฺญาทีหิ อโลภาทโย, ตสฺมา ธมฺมาธิฎฺฐานวเสน ตติยนยโต ทุติยนยสฺส สมฺภโวฯ ยสฺมา ปน โลเภ สติ สมฺภวโต โลภคฺคหเณเนว โทโส คยฺหติฯ โลโภ จ ตณฺหา, โมโห อวิชฺชา, ตปฺปฎิปกฺขโต อโลภาโทเสหิ สมโถ คยฺหติ, อโมเหน วิปสฺสนา, ตสฺมา ธมฺมาธิฎฺฐานวเสเนว ทุติยนยโต ปฐมนยสฺส สมฺภโวติ อิมํ วิเสสํ ทีเปตุํ อุเทฺทสานุกฺกเมน นิเทฺทโส น กโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ธมฺมาธิฎฺฐานวเสน ปนา’’ติอาทิมาหฯ

    Yasmā subhasukhasaññāhi lobho, niccasaññāya doso ‘‘iminā me anattho kato’’ti āghātuppattito , attasaññāya moho gahito hoti. Tathā asubhasaññādīhi alobhādayo, tasmā dhammādhiṭṭhānavasena tatiyanayato dutiyanayassa sambhavo. Yasmā pana lobhe sati sambhavato lobhaggahaṇeneva doso gayhati. Lobho ca taṇhā, moho avijjā, tappaṭipakkhato alobhādosehi samatho gayhati, amohena vipassanā, tasmā dhammādhiṭṭhānavaseneva dutiyanayato paṭhamanayassa sambhavoti imaṃ visesaṃ dīpetuṃ uddesānukkamena niddeso na katoti dassento ‘‘dhammādhiṭṭhānavasena panā’’tiādimāha.

    เตเนวาติ ตติยนยโต ทุติยนยสฺส วิย ทุติยนยโต ปฐมนยสฺสปิ สมฺภวโตฯ เอวํ ปาฬิยํ ปุคฺคลาธิฎฺฐานวเสน อาคตํ นิสฺสาย อฎฺฐกถายํ ธมฺมาธิฎฺฐานวเสเนว นยนิคฺคโม นิทฺธาริโตติ อยเมว วิเสโสฯ ยทิ เอวนฺติ ปาฬิยํ อาคตปฺปการโต อเญฺญนปิ ปกาเรน นยา นิทฺธาเรตพฺพา, เอวํ สเนฺต ยถา ปุคฺคลาธิฎฺฐานวเสน ปฐมนยโต ตติยนยสฺส, ตติยนยโต ทุติยนยสฺส สมฺภโว ทสฺสิโต, เอวํ ธมฺมาธิฎฺฐานวเสเนว ปฐมนยโต ตติยนยทุติยนยานํ, ธมฺมาธิฎฺฐานวเสเนว ทุติยนยโต ตติยนยสฺส สมฺภโว ทีเปตโพฺพติ อิมมตฺถมาห ‘‘เทฺว หุตฺวา…เป.… สิยา’’ติฯ

    Tenevāti tatiyanayato dutiyanayassa viya dutiyanayato paṭhamanayassapi sambhavato. Evaṃ pāḷiyaṃ puggalādhiṭṭhānavasena āgataṃ nissāya aṭṭhakathāyaṃ dhammādhiṭṭhānavaseneva nayaniggamo niddhāritoti ayameva viseso. Yadi evanti pāḷiyaṃ āgatappakārato aññenapi pakārena nayā niddhāretabbā, evaṃ sante yathā puggalādhiṭṭhānavasena paṭhamanayato tatiyanayassa, tatiyanayato dutiyanayassa sambhavo dassito, evaṃ dhammādhiṭṭhānavaseneva paṭhamanayato tatiyanayadutiyanayānaṃ, dhammādhiṭṭhānavaseneva dutiyanayato tatiyanayassa sambhavo dīpetabboti imamatthamāha ‘‘dve hutvā…pe… siyā’’ti.

    ตตฺถ นโยติ ปจฺฉา วุตฺตทุติยนโยฯ อตฺถโตติ อตฺถาปตฺติโต, อตฺถโต ลพฺภมานตฺตา เอว สรูเปน น กถิโตติ อโตฺถฯ อิทานิ ตํ อตฺถาปตฺติํ เอกนฺติกํ กตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อนุปฺปเวโส อิจฺฉิโต ตํตํนยมูลปทานํ นยนฺตรมูลปเทสุ สมวรุชฺฌนโตฯ ตถา หิ ‘‘ยตฺถ สโพฺพ อกุสลปโกฺข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉติ, ยตฺถ สโพฺพ กุสลปโกฺข สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉตี’’ติ (เนตฺติ. ๓) จ วุตฺตํฯ อยญฺจ อโตฺถติ ‘‘นยานํ อญฺญมญฺญอนุปฺปเวโส นิคฺคโม’’ติ อยํ ทุวิโธ อโตฺถฯ ปิฎกานํ อตฺถกถนํ เปฎกํ, โส เอว อุปเทโสติ เปฎโกปเทโส, อุปเทสภูตา ปริยตฺติสํวณฺณนาติ อโตฺถฯ

    Tattha nayoti pacchā vuttadutiyanayo. Atthatoti atthāpattito, atthato labbhamānattā eva sarūpena na kathitoti attho. Idāni taṃ atthāpattiṃ ekantikaṃ katvā dassetuṃ ‘‘yasmā’’tiādi vuttaṃ. Anuppaveso icchito taṃtaṃnayamūlapadānaṃ nayantaramūlapadesu samavarujjhanato. Tathā hi ‘‘yattha sabbo akusalapakkho saṅgahaṃ samosaraṇaṃ gacchati, yattha sabbo kusalapakkho saṅgahaṃ samosaraṇaṃ gacchatī’’ti (netti. 3) ca vuttaṃ. Ayañca atthoti ‘‘nayānaṃ aññamaññaanuppaveso niggamo’’ti ayaṃ duvidho attho. Piṭakānaṃ atthakathanaṃ peṭakaṃ, so eva upadesoti peṭakopadeso, upadesabhūtā pariyattisaṃvaṇṇanāti attho.

    อาทิโต ปฎฺฐายาติ นยานํ อญฺญมญฺญอนุปฺปเวสนิคฺคมมตฺตเมว อวิภาเวตฺวา นยวิจารสฺส ปฐมาวยวโต ปภุติ วิภาวนา ทีปนา ปกาสนาฯ

    Ādito paṭṭhāyāti nayānaṃ aññamaññaanuppavesaniggamamattameva avibhāvetvā nayavicārassa paṭhamāvayavato pabhuti vibhāvanā dīpanā pakāsanā.

    โทสทิฎฺฐีติ อปฺปสฺสาทตาทิโทสคาหิกทิฎฺฐี, โทสทสฺสิโนติ อโตฺถฯ เต หิ อสมูหตานุสยา, กาเมสุ จ อาทีนวทสฺสิโนฯ อิทญฺหิ เนสํ องฺคทฺวยํ อตฺตกิลมถานุโยคสฺส การณํ วุตฺตํฯ นตฺถิ อโตฺถติ โย ราคาภิภูเตหิ อนฺธพาเลหิ ปริกปฺปิโต ทิฎฺฐธมฺมิโก กาเมหิ อโตฺถ, โส มธุพินฺทุคิทฺธสฺส มธุลิตฺตสตฺถธาราวเลหนสทิโส อปฺปสฺสาโท พหุทุโกฺข พหุปายาโส พหุอาทีนโว สวิฆาโต สปริฬาโห สมฺปรายิโก ตเถวาติ สพฺพทาปิ วิญฺญูชาติกสฺส กาเมหิ ปโยชนํ น วิชฺชติฯ อนโชฺฌสิตาติ อนภิภูตา วิหรนฺติฯ เตน วุจฺจติ สุขา ปฎิปทาติ เตน มนฺทกิเลสภาเวน เตสํ ปุคฺคลานํ อกิเจฺฉน สิชฺฌมานา วิปสฺสนา ปฎิปทา ‘‘สุขา ปฎิปทา’’ติ วุจฺจติฯ อโชฺฌสิตาติ อภินิวิฎฺฐาฯ อิเม สเพฺพ สตฺตาติ อิเม ตณฺหาทิฎฺฐิจริตภาเวน ทฺวิธา วุตฺตา อปริมาณปฺปเภทา สเพฺพปิ ปฎิปชฺชนฺตา สตฺตาฯ

    Dosadiṭṭhīti appassādatādidosagāhikadiṭṭhī, dosadassinoti attho. Te hi asamūhatānusayā, kāmesu ca ādīnavadassino. Idañhi nesaṃ aṅgadvayaṃ attakilamathānuyogassa kāraṇaṃ vuttaṃ. Natthi atthoti yo rāgābhibhūtehi andhabālehi parikappito diṭṭhadhammiko kāmehi attho, so madhubindugiddhassa madhulittasatthadhārāvalehanasadiso appassādo bahudukkho bahupāyāso bahuādīnavo savighāto sapariḷāho samparāyiko tathevāti sabbadāpi viññūjātikassa kāmehi payojanaṃ na vijjati. Anajjhositāti anabhibhūtā viharanti. Tena vuccati sukhā paṭipadāti tena mandakilesabhāvena tesaṃ puggalānaṃ akicchena sijjhamānā vipassanā paṭipadā ‘‘sukhā paṭipadā’’ti vuccati. Ajjhositāti abhiniviṭṭhā. Ime sabbe sattāti ime taṇhādiṭṭhicaritabhāvena dvidhā vuttā aparimāṇappabhedā sabbepi paṭipajjantā sattā.

    สุเขน ปฎินิสฺสชฺชนฺตีติ กิเลเส อกิเจฺฉน ปชหนฺติฯ ‘‘อิมา จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิ ปฎิปทานํ เอตฺตาวตายํ, วิสยภาวกิเจฺจสุ จ พฺยภิจาราภาวทสฺสนํฯ อยํ ปฎิปทาติ นิคมนํ, อยํ ปฎิปทา ยาย วเสน สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนตฺถํ จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺธาริตาติ อธิปฺปาโยฯ จตุกฺกมเคฺคน กิเลเส นิทฺทิสตีติ อนนฺตรํ วกฺขมาเนน อาหาราทิจตุกฺกมเคฺคน ทสวตฺถุเก กิเลสสมูเห นิทฺทิสติฯ จตุกฺกมเคฺคน อริยธเมฺมสุ นิทฺทิสิตพฺพาติ ตปฺปฎิปเกฺขน ปฎิปทาทิจตุกฺกมเคฺคน อริยธเมฺมสุ โพธิปกฺขิเยสุ วิสยภูเตสุ นิทฺธาเรตฺวา กเถตพฺพาฯ

    Sukhenapaṭinissajjantīti kilese akicchena pajahanti. ‘‘Imā catasso paṭipadā’’tiādi paṭipadānaṃ ettāvatāyaṃ, visayabhāvakiccesu ca byabhicārābhāvadassanaṃ. Ayaṃ paṭipadāti nigamanaṃ, ayaṃ paṭipadā yāya vasena sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmidassanatthaṃ cattāro puggalā niddhāritāti adhippāyo. Catukkamaggena kilese niddisatīti anantaraṃ vakkhamānena āhārādicatukkamaggena dasavatthuke kilesasamūhe niddisati. Catukkamaggena ariyadhammesu niddisitabbāti tappaṭipakkhena paṭipadādicatukkamaggena ariyadhammesu bodhipakkhiyesu visayabhūtesu niddhāretvā kathetabbā.

    อิทญฺจ ปมาณํ จตฺตาโร อาหาราติ อิเมสํ วิปลฺลาสานํ ปวตฺติยา ปมาณํ, ยทิทํ จตฺตาโร อาหาราฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวเทว จตฺตาโร อาหารา ปริญฺญํ น คจฺฉนฺติ, ตาวเทว จตฺตาโร วิปลฺลาเส วิภชนฺติฯ ยาวเทว จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตาวเทว จตฺตาริ อุปาทานานิ ปริพฺรูหนฺตีติฯ เอวํ สพฺพตฺถ ยถารหํ วตฺตพฺพํฯ เตนาห ‘‘เอวํ อิมานิ สพฺพานิ ทส ปทานี’’ติฯ ‘‘โยเชตพฺพานี’’ติ จ วจนเสโสฯ

    Idañca pamāṇaṃ cattāro āhārāti imesaṃ vipallāsānaṃ pavattiyā pamāṇaṃ, yadidaṃ cattāro āhārā. Idaṃ vuttaṃ hoti – yāvadeva cattāro āhārā pariññaṃ na gacchanti, tāvadeva cattāro vipallāse vibhajanti. Yāvadeva cattāro vipallāsā appahīnā, tāvadeva cattāri upādānāni paribrūhantīti. Evaṃ sabbattha yathārahaṃ vattabbaṃ. Tenāha ‘‘evaṃ imāni sabbāni dasa padānī’’ti. ‘‘Yojetabbānī’’ti ca vacanaseso.

    ‘‘อภิชฺฌาย คนฺถตี’’ติ อิมินา อภิชฺฌายนเมว คนฺถนนฺติ ทเสฺสติฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ ปปเญฺจโนฺตติ ทิฎฺฐาภินิเวสํ วิตฺถาเรโนฺตฯ

    ‘‘Abhijjhāya ganthatī’’ti iminā abhijjhāyanameva ganthananti dasseti. Esa nayo sesesupi. Papañcentoti diṭṭhābhinivesaṃ vitthārento.

    วิปฺปฎิสารุปฺปตฺติเหตุภาโว กิเลสานํ อาสวนนฺติ อาห ‘‘อาสวนฺตี’’ติฯ กิํ วิปฺปฎิสาราติ เตน กิเลสานํ วีติกฺกมวตฺถุํ วทติฯ ยสฺมา อปฺปหีนานุสยเสฺสว วิปฺปฎิสารา, น อิตรสฺส, ตสฺมา ‘‘เย วิปฺปฎิสารา, เต อนุสยา’’ติ วุตฺตํฯ ปททฺวเยนปิ ผลูปจาเรน การณํ วุตฺตํฯ

    Vippaṭisāruppattihetubhāvo kilesānaṃ āsavananti āha ‘‘āsavantī’’ti. Kiṃ vippaṭisārāti tena kilesānaṃ vītikkamavatthuṃ vadati. Yasmā appahīnānusayasseva vippaṭisārā, na itarassa, tasmā ‘‘ye vippaṭisārā, te anusayā’’ti vuttaṃ. Padadvayenapi phalūpacārena kāraṇaṃ vuttaṃ.

    ปฐเมน ปเทนาติ ยถาวุเตฺตสุ ทสสุ สุตฺตปเทสุ ปฐเมน ปเทนฯ ปฐมาย ทิสายาติ ตทตฺถสงฺขาตาย สีหวิกฺกีฬิตสฺส สํกิเลสปเกฺข ปฐมาย ทิสายฯ

    Paṭhamenapadenāti yathāvuttesu dasasu suttapadesu paṭhamena padena. Paṭhamāya disāyāti tadatthasaṅkhātāya sīhavikkīḷitassa saṃkilesapakkhe paṭhamāya disāya.

    อิตีติ เอวํ, วุตฺตนเยนาติ อโตฺถฯ กุสลากุสลานนฺติ ยถาวุตฺตอนวชฺชสาวชฺชธมฺมานํฯ ปกฺขปฎิปกฺขวเสนาติ โวทานปกฺขตปฺปฎิปกฺขวเสนฯ โยชนาติ ปฐมทิสาทิภาเวน ยุเตฺต กตฺวา มนสานุเปกฺขนาฯ ‘‘มนสา โวโลกยเต’’ติ (เนตฺติ. ๔) หิ วุตฺตํฯ

    Itīti evaṃ, vuttanayenāti attho. Kusalākusalānanti yathāvuttaanavajjasāvajjadhammānaṃ. Pakkhapaṭipakkhavasenāti vodānapakkhatappaṭipakkhavasena. Yojanāti paṭhamadisādibhāvena yutte katvā manasānupekkhanā. ‘‘Manasā volokayate’’ti (netti. 4) hi vuttaṃ.

    ตสฺสาติ ทิสาโลกนสฺสฯ โสตาปตฺติผลาทีนํ ปริโยสานตา อินฺทฺริยวเสน เวทิตพฺพาฯ เยสญฺหิ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ วเสน สติปฎฺฐานาทีนิ สิชฺฌนฺติ, เตสํ วเสน โสตาปตฺติผลาทีนํ ปริโยสานตาฯ ตตฺถ โสตาปตฺติผเล สทฺธินฺทฺริยํ ปาริปูริํ คจฺฉติฯ โสตาปโนฺน หิ สทฺธาย ปริปูริการีฯ สกทาคามิผเล วีริยินฺทฺริยํ ปาริปูริํ คจฺฉติฯ สกทาคามี หิ อารทฺธวีริโย อุปริมคฺคาธิคมายฯ อนาคามิผเล สมาธินฺทฺริยํ ปาริปูริํ คจฺฉติฯ อนาคามี สมาธิสฺมิํ ปริปูริการีฯ อคฺคผเล อรหเตฺต สตินฺทฺริยญฺจ ปญฺญินฺทฺริยญฺจ ปาริปูริํ คจฺฉติฯ อรหา หิ สติเวปุลฺลปฺปโตฺต, ปญฺญาเวปุลฺลปฺปโตฺต จาติฯ

    Tassāti disālokanassa. Sotāpattiphalādīnaṃ pariyosānatā indriyavasena veditabbā. Yesañhi saddhādīnaṃ indriyānaṃ vasena satipaṭṭhānādīni sijjhanti, tesaṃ vasena sotāpattiphalādīnaṃ pariyosānatā. Tattha sotāpattiphale saddhindriyaṃ pāripūriṃ gacchati. Sotāpanno hi saddhāya paripūrikārī. Sakadāgāmiphale vīriyindriyaṃ pāripūriṃ gacchati. Sakadāgāmī hi āraddhavīriyo uparimaggādhigamāya. Anāgāmiphale samādhindriyaṃ pāripūriṃ gacchati. Anāgāmī samādhismiṃ paripūrikārī. Aggaphale arahatte satindriyañca paññindriyañca pāripūriṃ gacchati. Arahā hi sativepullappatto, paññāvepullappatto cāti.

    อปเร ปนาหุ – สทฺธาพเลน สุภสญฺญาย ปหานํฯ สทฺทหโนฺต หิ ปฎิกฺกูลมนสิกาเร กมฺมํ กโรติฯ วีริยพเลน สุขสญฺญาย ปหานํฯ วีริยวา หิ สุขสฺสาทํ อภิภวิตฺวา โยนิโสมนสิการมนุยุญฺชติฯ สมาธิพเลน นิจฺจสญฺญาย ปหานํฯ สมาหิโต หิ สงฺขารานํ อุทยพฺพยํ ปริคฺคณฺหโนฺต อนิจฺจสญฺญํ ปฎิลภติฯ ปญฺญาพเลน อตฺตสญฺญาย ปหานํฯ ปญฺญวา หิ สงฺขารานํ อวสวตฺติตํ สลฺลเกฺขโนฺต อตฺตสุญฺญตํ ปฎิวิชฺฌติฯ สติ ปน สพฺพตฺถาปิ อิจฺฉิตพฺพาฯ เตนาห ‘‘สติํ จ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔; มิ. ป. ๒.๑.๑๓)ฯ เอวํ จตุวิปลฺลาสปฺปหายีนํ จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปาริปูริฎฺฐานํ จตฺตาริ สามญฺญผลานิ จตุวิปลฺลาสมุขานํ จตุนฺนํ ทิสานํ ปริโยสานานิ วุตฺตานีติฯ

    Apare panāhu – saddhābalena subhasaññāya pahānaṃ. Saddahanto hi paṭikkūlamanasikāre kammaṃ karoti. Vīriyabalena sukhasaññāya pahānaṃ. Vīriyavā hi sukhassādaṃ abhibhavitvā yonisomanasikāramanuyuñjati. Samādhibalena niccasaññāya pahānaṃ. Samāhito hi saṅkhārānaṃ udayabbayaṃ pariggaṇhanto aniccasaññaṃ paṭilabhati. Paññābalena attasaññāya pahānaṃ. Paññavā hi saṅkhārānaṃ avasavattitaṃ sallakkhento attasuññataṃ paṭivijjhati. Sati pana sabbatthāpi icchitabbā. Tenāha ‘‘satiṃ ca khvāhaṃ, bhikkhave, sabbatthikaṃ vadāmī’’ti (saṃ. ni. 5.234; mi. pa. 2.1.13). Evaṃ catuvipallāsappahāyīnaṃ catunnaṃ indriyānaṃ pāripūriṭṭhānaṃ cattāri sāmaññaphalāni catuvipallāsamukhānaṃ catunnaṃ disānaṃ pariyosānāni vuttānīti.

    ‘‘โลโภ อกุสลมูล’’นฺติอาทิ โลภาทีนํ เหตุผลภาเวน สมฺปยุตฺตตาย ทสฺสนํฯ

    ‘‘Lobho akusalamūla’’ntiādi lobhādīnaṃ hetuphalabhāvena sampayuttatāya dassanaṃ.

    ตตฺถ มนาปิเกนาติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํฯ อมนาปิเกนาปิ หิ อารมฺมเณน วิปริเยสวเสน โลโภ อุปฺปชฺชติฯ มนาปิเกนาติ วา มนาปิกากาเรนฯ ผสฺสเวทนูปวิจารราควิตกฺกปริฬาหา สหชาตาปิ ลพฺภนฺติ, อสหชาตาปิฯ ‘‘อุปฺปาโท’’ติ เอเตน อุปฺปชฺชมานสงฺขารคฺคหณนฺติ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ อุปฺปาทลกฺขณเสฺสว ปน คหเณ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยาฯ น หิ อุปฺปาโท อุปฺปชฺชติ, ราคชปริฬาหเหตุกตา จ เตสํ ราคสฺส ตณฺหาสภาวตฺตาฯ ตณฺหา หิ ทุกฺขสฺส สมุทโย, ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขนฺติฯ ตถา จ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาสหชาตเวทนาย ปน โลโภ สหชาตาทิปจฺจเยหิ จ ปจฺจโย’’ติฯ เอวํ อิฎฺฐารมฺมเณ อุปฺปนฺนโลภสหคตสุขเวทนาย อุทโย อิธ ‘‘อุปฺปาโท สงฺขตลกฺขณ’’นฺติ วุโตฺต, ตสฺสา วิปริณาโม ‘‘วิปริณามทุกฺขตา’’ติฯ วิปริณามาวตฺถา จ อุทยาวตฺถํ วินา น โหตีติ สา ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนฺตี วิย วุตฺตา ‘‘อุปฺปาทํ…เป.… ทุกฺขตา’’ติฯ

    Tattha manāpikenāti yebhuyyavasena vuttaṃ. Amanāpikenāpi hi ārammaṇena vipariyesavasena lobho uppajjati. Manāpikenāti vā manāpikākārena. Phassavedanūpavicārarāgavitakkapariḷāhā sahajātāpi labbhanti, asahajātāpi. ‘‘Uppādo’’ti etena uppajjamānasaṅkhāraggahaṇanti ‘‘uppajjatī’’ti vuttaṃ. Uppādalakkhaṇasseva pana gahaṇe ‘‘uppajjatī’’ti na vattabbaṃ siyā. Na hi uppādo uppajjati, rāgajapariḷāhahetukatā ca tesaṃ rāgassa taṇhāsabhāvattā. Taṇhā hi dukkhassa samudayo, yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ dukkhanti. Tathā ca vuttaṃ ‘‘taṇhāsahajātavedanāya pana lobho sahajātādipaccayehi ca paccayo’’ti. Evaṃ iṭṭhārammaṇe uppannalobhasahagatasukhavedanāya udayo idha ‘‘uppādo saṅkhatalakkhaṇa’’nti vutto, tassā vipariṇāmo ‘‘vipariṇāmadukkhatā’’ti. Vipariṇāmāvatthā ca udayāvatthaṃ vinā na hotīti sā taṃ nissāya uppajjantī viya vuttā ‘‘uppādaṃ…pe… dukkhatā’’ti.

    โทโส อกุสลมูลนฺติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อยํ ปน วิเสโส – ฐิตสฺส อญฺญถตฺตํ นาม ชรา, ตํ นิสฺสาย โทมนสฺสสฺส อุปฺปชฺชนโต วุตฺตํ ‘‘ฐิตสฺส…เป.… ทุกฺขทุกฺขตา’’ติฯ โทสชปริฬาหเหตุกตา ชราย โทสพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส นจิเรน ชีรณโต เวทิตพฺพาฯ

    Doso akusalamūlantiādīsupi vuttanayānusārena attho veditabbo. Ayaṃ pana viseso – ṭhitassa aññathattaṃ nāma jarā, taṃ nissāya domanassassa uppajjanato vuttaṃ ‘‘ṭhitassa…pe… dukkhadukkhatā’’ti. Dosajapariḷāhahetukatā jarāya dosabahulassa puggalassa nacirena jīraṇato veditabbā.

    วโยติ สงฺขารานํ นิโรโธฯ อนิจฺจตาวเสน จ สงฺขตธมฺมานํ สงฺขารทุกฺขตาติ วุตฺตํ ‘‘วย…เป.… สงฺขารทุกฺขตา’’ติฯ เตนาห ภควา ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕, ๗๖; ปฎิ. ม. ๒.๑๐)ฯ โมหชปริฬาหเหตุกตา วยลกฺขณสฺส เยภุเยฺยน สโมฺมหนิมิตฺตตฺตา, มรณสฺส อวิชฺชาปจฺจยตฺตา จ สํสารปฺปวตฺติยา เวทิตพฺพาฯ

    Vayoti saṅkhārānaṃ nirodho. Aniccatāvasena ca saṅkhatadhammānaṃ saṅkhāradukkhatāti vuttaṃ ‘‘vaya…pe… saṅkhāradukkhatā’’ti. Tenāha bhagavā ‘‘yadaniccaṃ taṃ dukkha’’nti (saṃ. ni. 3.15, 45, 76; paṭi. ma. 2.10). Mohajapariḷāhahetukatā vayalakkhaṇassa yebhuyyena sammohanimittattā, maraṇassa avijjāpaccayattā ca saṃsārappavattiyā veditabbā.

    อโลภาทีนํ ปญฺญาทิปาริปูริเหตุกตา ยถารหํ อุปนิสฺสยโกฎิสหชาตโกฎิยา จ ปจฺจยภาเวน เวทิตพฺพาฯ สเพฺพ หิ กุสลา ธมฺมา สเพฺพสํ กุสลานํ ธมฺมานํ ยถาสมฺภวํ ปจฺจยวิเสสา โหนฺติ เอวาติฯ อพฺยาปาทวิตกฺกสนฺนิสฺสโย อุปวิจาโร อพฺยาปาทูปวิจาโรฯ อวิหิํสูปจาเรปิ เอเสว นโยฯ

    Alobhādīnaṃ paññādipāripūrihetukatā yathārahaṃ upanissayakoṭisahajātakoṭiyā ca paccayabhāvena veditabbā. Sabbe hi kusalā dhammā sabbesaṃ kusalānaṃ dhammānaṃ yathāsambhavaṃ paccayavisesā honti evāti. Abyāpādavitakkasannissayo upavicāro abyāpādūpavicāro. Avihiṃsūpacārepi eseva nayo.

    อยํ ติปุกฺขโล นาม ทุติโย นโย สทฺธิํ ทิสาโลกนนเยน นิทฺทิโฎฺฐติ วจนเสโสฯ ‘‘อิเม จตฺตาโร’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนเนว นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสนตฺถํ อารทฺธํฯ อิเม ยถาวุตฺตปฎิปทาจตุกฺกสฺส วเสน จตุพฺพิธาฯ วิเสเสนาติ ทิฎฺฐิตณฺหาสนฺนิสฺสยตาวิเสเสนฯ ทิฎฺฐิจริโต หิ ติกฺขปโญฺญ, มนฺทปโญฺญ จ สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย จ ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยาตีติ ทฺวิธา วุโตฺตติฯ ตถา ตณฺหาจริโต ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย จ ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยาตีติ ทฺวิธา วุโตฺตติ ทสฺสิโต จายมโตฺถฯ เตนาห ‘‘เทฺว โหนฺติ ทิฎฺฐิจริโต จ ตณฺหาจริโต จา’’ติฯ

    Ayaṃ tipukkhalo nāma dutiyo nayo saddhiṃ disālokananayena niddiṭṭhoti vacanaseso. ‘‘Ime cattāro’’tiādi puggalādhiṭṭhāneneva nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmidassanatthaṃ āraddhaṃ. Ime yathāvuttapaṭipadācatukkassa vasena catubbidhā. Visesenāti diṭṭhitaṇhāsannissayatāvisesena. Diṭṭhicarito hi tikkhapañño, mandapañño ca sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya ca dandhābhiññāya ca niyyātīti dvidhā vuttoti. Tathā taṇhācarito dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya ca dandhābhiññāya ca niyyātīti dvidhā vuttoti dassito cāyamattho. Tenāha ‘‘dve honti diṭṭhicarito ca taṇhācarito cā’’ti.

    จตฺตาโร หุตฺวาติ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน จตฺตาโร หุตฺวา ฐิตา, จตุปฺปฎิปทาวเสน จตฺตาโร กตฺวา วุตฺตาติ อโตฺถฯ ตโย โหนฺตีติ ติปุกฺขลสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิวเสน ตโย ภวนฺติฯ ตโย หุตฺวาติ ตถา ตโย หุตฺวา ฐิตา ตโย กตฺวา กถิตาฯ เทฺว โหนฺตีติ อิทานิ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมิทสฺสเน เทฺว ภวนฺติฯ อโชฺฌสานนฺติ ทิฎฺฐิอโชฺฌสานํฯ อภินิเวโสติ ตณฺหาภินิเวโสฯ อหํกาโรติ อหํมาโน ‘‘อห’’นฺติ วา กรณํ อหํกาโรฯ ทิฎฺฐิมานมญฺญนานํ วเสน ‘‘อหมสฺมี’’ติ สมนุปสฺสนา มมํกาโร, มมายนํ ตณฺหาคฺคาโหฯ

    Cattārohutvāti sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmidassane cattāro hutvā ṭhitā, catuppaṭipadāvasena cattāro katvā vuttāti attho. Tayo hontīti tipukkhalassa nayassa bhūmidassane ugghaṭitaññuādivasena tayo bhavanti. Tayo hutvāti tathā tayo hutvā ṭhitā tayo katvā kathitā. Dve hontīti idāni nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmidassane dve bhavanti. Ajjhosānanti diṭṭhiajjhosānaṃ. Abhinivesoti taṇhābhiniveso. Ahaṃkāroti ahaṃmāno ‘‘aha’’nti vā karaṇaṃ ahaṃkāro. Diṭṭhimānamaññanānaṃ vasena ‘‘ahamasmī’’ti samanupassanā mamaṃkāro, mamāyanaṃ taṇhāggāho.

    ทสปทานิ ‘‘ปฐมา ทิสา’’ติ กาตพฺพานีติ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ‘‘ปฐมา ทิสา’’ติ กรณียานิ, ‘‘ปฐมา ทิสา’’ติ ววตฺถเปตพฺพานีติ อโตฺถฯ สํขิเตฺตน…เป.… ปกฺขสฺสาติ อเนกปฺปเภทสฺสปิ กณฺหปกฺขสฺส สํกิเลสปกฺขสฺส อตฺถํ สํขิเตฺตน สเงฺขเปน ปฎิปเกฺข วตฺตมาเน โวทานธเมฺม อุทฺทิสฺส ญาเปนฺติ ปกาเสนฺติ, ปฐมา กาตพฺพาติ โยชนาฯ ทส ปทานิ ทุติยกานีติ ตณฺหาทิกา ทส โกฎฺฐาสา ‘‘ทุติยา ทิสา’’ติ กาตพฺพาฯ ‘‘สํขิเตฺตน…เป.… กณฺหปกฺขสฺสา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ

    Dasapadāni ‘‘paṭhamā disā’’ti kātabbānīti nandiyāvaṭṭassa nayassa ‘‘paṭhamā disā’’ti karaṇīyāni, ‘‘paṭhamā disā’’ti vavatthapetabbānīti attho. Saṃkhittena…pe… pakkhassāti anekappabhedassapi kaṇhapakkhassa saṃkilesapakkhassa atthaṃ saṃkhittena saṅkhepena paṭipakkhe vattamāne vodānadhamme uddissa ñāpenti pakāsenti, paṭhamā kātabbāti yojanā. Dasa padāni dutiyakānīti taṇhādikā dasa koṭṭhāsā ‘‘dutiyā disā’’ti kātabbā. ‘‘Saṃkhittena…pe… kaṇhapakkhassā’’ti ānetvā yojetabbaṃ.

    โยนิโสติ อุปายโสฯ โยนิโส มนสิกาโร อนิจฺจาทิวเสน ปฐมมนสิกาโรฯ ปญฺญาติ สุตจินฺตามยี ปญฺญา, ฌานาภิญฺญา จฯ นิพฺพิทาติ นิเพฺพธญาณํฯ โสมนสฺสธมฺมูปสญฺหิตํ ปโมทาทิสหคตํ เจตสิกสุขํฯ

    Yonisoti upāyaso. Yoniso manasikāro aniccādivasena paṭhamamanasikāro. Paññāti sutacintāmayī paññā, jhānābhiññā ca. Nibbidāti nibbedhañāṇaṃ. Somanassadhammūpasañhitaṃ pamodādisahagataṃ cetasikasukhaṃ.

    กุสลปเกฺข จาติ -สโทฺท สมุจฺจยโตฺถ, เตน อุภยปกฺขโต สมุจฺจยวเสน จตโสฺส ทิสา, น ปเจฺจกนฺติ ทเสฺสติฯ

    Kusalapakkhe cāti ca-saddo samuccayattho, tena ubhayapakkhato samuccayavasena catasso disā, na paccekanti dasseti.

    เตสนฺติ ตณฺหาทีนํ, ตณฺหาย, ตณฺหาปกฺขิกานญฺจาติ อโตฺถฯ สติปิ อนวเสสโต ราเค ปหียมาเน อนวเสสโต อวิชฺชาปิ ปหียเตว, ราคสฺส ปน เจโตวิมุตฺติ อุชุปฎิปโกฺขติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ราควิราคา’’ติ วุตฺตํฯ อวิชฺชาวิราคาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ อยญฺจ อโตฺถ ‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๔๓๘) อาคตปาฬิยา อตฺถวณฺณนาวเสน วุตฺตา, อิธ ปน ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ, อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺติ อเสกฺขผล’’นฺติอาทินา (เนตฺติ. ๕๑) เววจนสมาโรปเน อาคตตฺตา ปุริมา อนาคามิผลํฯ ตญฺหิ กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกโต สมาธิปาริปูริยาว วิเสสโต ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ, ปจฺฉิมา อรหตฺตผลํ ตณฺหาย, อวิชฺชาย จ อนวเสสปฺปหานโต, ปญฺญาปาริปูริยา จ ‘‘อวิชฺชาวิราคา ปญฺญาวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติฯ

    Tesanti taṇhādīnaṃ, taṇhāya, taṇhāpakkhikānañcāti attho. Satipi anavasesato rāge pahīyamāne anavasesato avijjāpi pahīyateva, rāgassa pana cetovimutti ujupaṭipakkhoti dassanatthaṃ ‘‘rāgavirāgā’’ti vuttaṃ. Avijjāvirāgāti etthāpi eseva nayo. Ayañca attho ‘‘āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimutti’’ntiādinā (ma. ni. 1.438) āgatapāḷiyā atthavaṇṇanāvasena vuttā, idha pana ‘‘rāgavirāgā cetovimutti sekkhaphalaṃ, avijjāvirāgā paññāvimutti asekkhaphala’’ntiādinā (netti. 51) vevacanasamāropane āgatattā purimā anāgāmiphalaṃ. Tañhi kāmarāgassa ujuvipaccanīkato samādhipāripūriyāva visesato ‘‘rāgavirāgā cetovimuttī’’ti vuccati, pacchimā arahattaphalaṃ taṇhāya, avijjāya ca anavasesappahānato, paññāpāripūriyā ca ‘‘avijjāvirāgā paññāvimuttī’’ti vuccati.

    ตตฺถาติ นนฺทิยาวฎฺฎนเยฯ เตสูติ ‘‘จตฺตาริ ปทานี’’ติ วุเตฺตสุ ตณฺหาทีสุ จตูสุ มูลปเทสุฯ อิธ สโมสรณนฺติ สงฺคโห วุโตฺต, โส จ สภาวโต, สภาคโต จ โหตีติ ตณฺหาทีนิ จตฺตาริ ทเสฺสตฺวา ‘‘เตสุ อฎฺฐารส มูลปทานิ สโมสรนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ สมถํ ภชนฺติ สภาวโต, สภาคโต จาติ อธิปฺปาโยฯ วิปสฺสนํ ภชนฺตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ นยาธิฎฺฐานานํ นยาธิฎฺฐาเน อนุปฺปเวโส นยานํ นเยสุ อนุปฺปเวโส เอว นาม โหตีติ อาห ‘‘ติปุกฺขโล…เป.… อนุปฺปวิสนฺตี’’ติฯ

    Tatthāti nandiyāvaṭṭanaye. Tesūti ‘‘cattāri padānī’’ti vuttesu taṇhādīsu catūsu mūlapadesu. Idha samosaraṇanti saṅgaho vutto, so ca sabhāvato, sabhāgato ca hotīti taṇhādīni cattāri dassetvā ‘‘tesu aṭṭhārasa mūlapadāni samosarantī’’ti vuttaṃ. Samathaṃ bhajanti sabhāvato, sabhāgato cāti adhippāyo. Vipassanaṃ bhajantīti etthāpi eseva nayo. Nayādhiṭṭhānānaṃ nayādhiṭṭhāne anuppaveso nayānaṃ nayesu anuppaveso eva nāma hotīti āha ‘‘tipukkhalo…pe… anuppavisantī’’ti.

    อโลภาโมหปกฺขํ อภชาเปตฺวา อโทสปกฺขํ ภชาเปตพฺพสฺส นนฺทิยาวฎฺฎสีหวิกฺกีฬิตมูลปทสฺส อภาวโต อโทโส เอกสุตฺตโกฎิยา เอกโกว โหตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อโทโส อโทโส เอวา’’ติฯ โทโส โทโส เอวาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ สโมสรนฺติ สภาคโต จ สภาวโต จ สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อโตฺถฯ

    Alobhāmohapakkhaṃ abhajāpetvā adosapakkhaṃ bhajāpetabbassa nandiyāvaṭṭasīhavikkīḷitamūlapadassa abhāvato adoso ekasuttakoṭiyā ekakova hotīti dassento āha ‘‘adoso adoso evā’’ti. Doso doso evāti etthāpi eseva nayo. Samosaranti sabhāgato ca sabhāvato ca saṅgahaṃ gacchantīti attho.

    ภูมิ โคจโรติ จ มูลปทานิ เอว สนฺธาย วทติฯ เอเกกํ นยํ อนุปฺปวิสติ ตํตํมูลปทานุปฺปเวสโตฯ กุสเล วา วิญฺญาเต อกุสโล ปฎิปโกฺข, อกุสเล วา กุสโล ปฎิปโกฺข อเนฺวสิตโพฺพ สํวณฺณิยมานสุตฺตปทานุรูปโต อุปปริกฺขิตโพฺพฯ อเนฺวสนา อุปปริกฺขา ‘‘ทิสาโลกน’’นฺติ วุจฺจติฯ โส นโย นิทฺทิสิตโพฺพติ ตถา อเนฺวสิตฺวา เตหิ ธเมฺมหิ ทิสา ววตฺถเปตฺวา โส โส นโย นิทฺธาเรตฺวา โยเชตโพฺพฯ ยถา มูลปเทสุ มูลปทานํ อนุปฺปเวโส สํวณฺณิโต, อิมินาว นเยน มูลปทโต มูลปทานํ นิทฺธารณาติ เวทิตพฺพาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยถา เอกมฺหิ…เป.… นิทฺทิสิตพฺพานี’’ติ อาหฯ ‘‘เอเกกสฺมิญฺหี’’ติอาทิ การณวจนํฯ

    Bhūmi gocaroti ca mūlapadāni eva sandhāya vadati. Ekekaṃ nayaṃ anuppavisati taṃtaṃmūlapadānuppavesato. Kusale vā viññāte akusalo paṭipakkho, akusale vā kusalo paṭipakkho anvesitabbo saṃvaṇṇiyamānasuttapadānurūpato upaparikkhitabbo. Anvesanā upaparikkhā ‘‘disālokana’’nti vuccati. So nayo niddisitabboti tathā anvesitvā tehi dhammehi disā vavatthapetvā so so nayo niddhāretvā yojetabbo. Yathā mūlapadesu mūlapadānaṃ anuppaveso saṃvaṇṇito, imināva nayena mūlapadato mūlapadānaṃ niddhāraṇāti veditabbāti dassento ‘‘yathā ekamhi…pe… niddisitabbānī’’ti āha. ‘‘Ekekasmiñhī’’tiādi kāraṇavacanaṃ.

    ตตฺถ ตตฺถาติ เอเกกสฺมิํ นเยฯ เอกสฺมิํ ธเมฺม วิญฺญาเตติ ตณฺหาทิเก เอกสฺมิํ มูลปทธเมฺม สรูปโต, นิทฺธารณวเสน วา วิญฺญาเตฯ สเพฺพ ธมฺมา วิญฺญาตา โหนฺตีติ ตทญฺญมูลปทภูตา สเพฺพ โลภาทโย วิญฺญาตา นยสฺส ภูมิจรณาโยคฺยตาย ปกาสา ปากฎา โหนฺติ ฯ ‘‘อิเมส’’นฺติอาทิ นยตฺตยทิสาภูตธมฺมานํ มตฺถกปาปเนน ติณฺณํ นยานํ กูฎคฺคหณํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

    Tattha tatthāti ekekasmiṃ naye. Ekasmiṃ dhamme viññāteti taṇhādike ekasmiṃ mūlapadadhamme sarūpato, niddhāraṇavasena vā viññāte. Sabbedhammā viññātā hontīti tadaññamūlapadabhūtā sabbe lobhādayo viññātā nayassa bhūmicaraṇāyogyatāya pakāsā pākaṭā honti . ‘‘Imesa’’ntiādi nayattayadisābhūtadhammānaṃ matthakapāpanena tiṇṇaṃ nayānaṃ kūṭaggahaṇaṃ, taṃ heṭṭhā vuttanayameva.

    ปุน ‘‘อิเมสู’’ติอาทิ กมฺมนยทฺวยสฺส วิภาควิภาวนํ, ตํ วิเญฺญยฺยเมวฯ

    Puna ‘‘imesū’’tiādi kammanayadvayassa vibhāgavibhāvanaṃ, taṃ viññeyyameva.

    นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / นยสมุฎฺฐานํ • Nayasamuṭṭhānaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา • Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / นยสมุฎฺฐานวิภาวนา • Nayasamuṭṭhānavibhāvanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact