Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī |
นยสมุฎฺฐานวิภาวนา
Nayasamuṭṭhānavibhāvanā
๗๙. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เทสนาหารสมฺปาตาทินา หารสมฺปาเตน เอกสุตฺตปฺปเทสตฺถา นิทฺธาเรตฺวา วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต เทสนาหารสมฺปาตาทิหารสมฺปาโต ปริปุโณฺณ, ‘‘กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ อฎฺฐกถายํ ปน –‘‘เอวํ นานาสุตฺตวเสน, เอกสุตฺตวเสน จ หารวิจารํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ นยวิจารํ ทเสฺสตุํ ‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฎฺฐาน’นฺติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๙) วุตฺตํฯ ‘‘ตตฺถ กตโม นนฺทิยาวฎฺฎนโย’’ติอาทิํ อนารภิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติอาทิอารมฺภเน การณํ อฎฺฐกถายํ วุตฺตเมวฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ หาราทีสุ โย อตฺถนโย สํวณฺณนานเยน นิทฺทิโฎฺฐ, ตเสฺสว อตฺถนยสฺส สมุฎฺฐานํ ภูมิํ ปุจฺฉติ ‘‘กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติฯ
79. Yena yena saṃvaṇṇanāvisesabhūtena desanāhārasampātādinā hārasampātena ekasuttappadesatthā niddhāretvā vibhattā, so saṃvaṇṇanāvisesabhūto desanāhārasampātādihārasampāto paripuṇṇo, ‘‘katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’ntiādi āraddhaṃ. Aṭṭhakathāyaṃ pana –‘‘evaṃ nānāsuttavasena, ekasuttavasena ca hāravicāraṃ dassetvā idāni nayavicāraṃ dassetuṃ ‘tattha katamaṃ nayasamuṭṭhāna’ntiādi āraddha’’nti (netti. aṭṭha. 79) vuttaṃ. ‘‘Tattha katamo nandiyāvaṭṭanayo’’tiādiṃ anārabhitvā ‘‘tattha katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’ntiādiārambhane kāraṇaṃ aṭṭhakathāyaṃ vuttameva. Tattha tatthāti tesu hārādīsu yo atthanayo saṃvaṇṇanānayena niddiṭṭho, tasseva atthanayassa samuṭṭhānaṃ bhūmiṃ pucchati ‘‘katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’nti.
กิญฺจาปิ สํวณฺณนานยา นิทฺทิฎฺฐา, ตถาปิ อตฺถนยสํวณฺณนานยานํ วิเสสสฺส ปากฎํ กาตุํ ปุน กถยิสฺสามฯ ตณฺหาอวิชฺชาหิ สํกิเลสปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส เจว สมถวิปสฺสนาหิ โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส จ นนฺทิยาวโฎฺฎ นโย นามฯ ตีหิ อกุสลมูเลหิ โลภาทีหิ สํกิเลสปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส เจว ตีหิ กุสลมูเลหิ อโลภาทีหิ โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส จ ติปุกฺขโล นโย นามฯ จตูหิ สุภสญฺญาทีหิ วิปลฺลาเสหิ สกลสํกิเลสปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส เจว จตูหิ อสุภสญฺญาทีหิ อวิปลฺลาเสหิ สติปฎฺฐาเนหิ, สทฺธินฺทฺริเยหิ วา โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส จ สีหวิกฺกีฬิโต นโย นามาติ วุตฺตา นยา สํวณฺณนานยา นามฯ เตสํ สํวณฺณนานยานํ สมุฎฺฐานํ ปุจฺฉติ ‘‘กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติฯ
Kiñcāpi saṃvaṇṇanānayā niddiṭṭhā, tathāpi atthanayasaṃvaṇṇanānayānaṃ visesassa pākaṭaṃ kātuṃ puna kathayissāma. Taṇhāavijjāhi saṃkilesapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ceva samathavipassanāhi vodānapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ca nandiyāvaṭṭo nayo nāma. Tīhi akusalamūlehi lobhādīhi saṃkilesapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ceva tīhi kusalamūlehi alobhādīhi vodānapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ca tipukkhalo nayo nāma. Catūhi subhasaññādīhi vipallāsehi sakalasaṃkilesapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ceva catūhi asubhasaññādīhi avipallāsehi satipaṭṭhānehi, saddhindriyehi vā vodānapakkhassa suttatthassa catusaccayojanamukhena nayanalakkhaṇo saṃvaṇṇanāviseso ca sīhavikkīḷito nayo nāmāti vuttā nayā saṃvaṇṇanānayā nāma. Tesaṃ saṃvaṇṇanānayānaṃ samuṭṭhānaṃ pucchati ‘‘katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’nti.
นยา ปน นานาสุตฺตโต นิทฺธาริเตหิ ตณฺหาอวิชฺชาทีหิ มูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนาย นยโต อนุพุชฺฌิยมาโน ทุกฺขาทิอโตฺถฯ โส หิ มคฺคญาณํ นยติ สมฺปาเปตีติ ‘‘นโย’’ติ วุโตฺต, โส อตฺถนโย นามฯ ตเสฺสว อตฺถนยสฺส สมุฎฺฐานํ ปุจฺฉติ ‘‘กตมํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติ? ตสฺมา จตุสจฺจโยชนาย นยคฺคาหโต นียติ อนุปุจฺฉียตีติ นโย, โก โส? สุตฺตตฺถภูโต ทุกฺขาทิโก อโตฺถฯ นยติ มคฺคญาณํ ปาเปตีติ วา นโย, ทุกฺขาทิโก อโตฺถวฯ เตนาห – ‘‘อนุพุชฺฌิยมาโน ทุกฺขาทิอโตฺถฯ โส หิ มคฺคญาณํ นยติ สมฺปาเปตีติ นโย’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๙)ฯ สมุฎฺฐหนฺติ นยา เอเตนาติ สมุฎฺฐานํ, กิํ ตํ? อวิชฺชาตณฺหาทิการณํ, ตํทีปนา สํวณฺณนา จฯ อวิชฺชาตณฺหาทินา หิ ทุกฺขาทิอตฺถนยา สมฺภวนฺติฯ อถ วา อวิชฺชาตณฺหาทีหิ จตุสจฺจโยชนา สมุฎฺฐานํ นามฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘กิํ ปน ตํ? ตํตํมูลปเทหิ จตุสจฺจโยชนา’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๙)ฯ เอวํ อเตฺถ คยฺหมาเน สติ สํวณฺณนานยาปิ คหิตา โหนฺติ, นยานํ สมุฎฺฐานํ นยสมุฎฺฐานํ, ตสฺมิํ นยสมุฎฺฐาเนฯ
Nayā pana nānāsuttato niddhāritehi taṇhāavijjādīhi mūlapadehi catusaccayojanāya nayato anubujjhiyamāno dukkhādiattho. So hi maggañāṇaṃ nayati sampāpetīti ‘‘nayo’’ti vutto, so atthanayo nāma. Tasseva atthanayassa samuṭṭhānaṃ pucchati ‘‘katamaṃ nayasamuṭṭhāna’’nti? Tasmā catusaccayojanāya nayaggāhato nīyati anupucchīyatīti nayo, ko so? Suttatthabhūto dukkhādiko attho. Nayati maggañāṇaṃ pāpetīti vā nayo, dukkhādiko atthova. Tenāha – ‘‘anubujjhiyamāno dukkhādiattho. So hi maggañāṇaṃ nayati sampāpetīti nayo’’ti (netti. aṭṭha. 79). Samuṭṭhahanti nayā etenāti samuṭṭhānaṃ, kiṃ taṃ? Avijjātaṇhādikāraṇaṃ, taṃdīpanā saṃvaṇṇanā ca. Avijjātaṇhādinā hi dukkhādiatthanayā sambhavanti. Atha vā avijjātaṇhādīhi catusaccayojanā samuṭṭhānaṃ nāma. Tena vuttaṃ – ‘‘kiṃ pana taṃ? Taṃtaṃmūlapadehi catusaccayojanā’’ti (netti. aṭṭha. 79). Evaṃ atthe gayhamāne sati saṃvaṇṇanānayāpi gahitā honti, nayānaṃ samuṭṭhānaṃ nayasamuṭṭhānaṃ, tasmiṃ nayasamuṭṭhāne.
‘‘กตมํ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐาน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปฐมํ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานภูตาย อวิชฺชาย จ ตณฺหาย จ ปุพฺพา โกฎิ ‘‘อสุกสฺส พุทฺธสฺส ภควโต อุปฺปชฺชนกาเล อุปฺปนฺนา, อสุกสฺส จกฺกวตฺติโน อุปฺปชฺชนกาเล อุปฺปนฺนา’’ติ น ปญฺญายติ โกฎิยา อภาวโตติ โยชนาฯ ‘‘อวิชฺชาตณฺหาสุ กตมา นีวรณํ, กตมา สํโยชน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ อวิชฺชา นีวรณํ ตณฺหา สํโยชน’’นฺติ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ ตาสุ อวิชฺชาตณฺหาสุฯ อาทีนวปฎิจฺฉาทิกตฺตา อวิชฺชา นีวรณํฯ ภเวสุ สํโยชนโต ตณฺหา สํโยชนํฯ ‘‘อวิชฺชานีวรณา สตฺตา กถํ วิจรนฺติ, กถํ วุจฺจนฺติ, ตณฺหาสํโยชนา สตฺตา กถํ วิจรนฺติ กถํ วุจฺจนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อวิชฺชานีวรณา สตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อวิชฺชานีวรณเมเตสมตฺถีติ อวิชฺชานีวรณาฯ อวิชฺชาย สํยุตฺตา วิย ปวตฺตา อวิชฺชาย อภินิวิสวตฺถูสุ สํยุตฺตา วิย ปวตฺตา สตฺตา อวิชฺชาปเกฺขน วิปลฺลาเสน นิจฺจาทิอภินิเวสวตฺถุภูเต รูปาทิอารมฺมเณ วิจรนฺติ วิวิธา จรนฺติ ปวตฺตนฺติ, เต นิจฺจาทิอภินิวิสนฺตา วิจรนฺตา สตฺตา ‘‘ทิฎฺฐิจริตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ ตณฺหาสํโยชนเมเตสนฺติ ตณฺหาสํโยชนาฯ ตณฺหาย สํยุตฺตา วิย ปวตฺตา, ตณฺหาย วา อารมฺมณภูเต วตฺถุกาเม สํยุตฺตา วิย ปวตฺตา สตฺตา ตณฺหาปเกฺขน อฎฺฐสตตณฺหาวิจริเตน อารมฺมณภูเต วตฺถุสฺมิํ วิจรนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อโตฺถฯ
‘‘Katamaṃ nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhāna’’nti pucchitabbattā paṭhamaṃ nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānaṃ dassetuṃ ‘‘pubbā koṭi na paññāyatī’’tiādi vuttaṃ. Nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānabhūtāya avijjāya ca taṇhāya ca pubbā koṭi ‘‘asukassa buddhassa bhagavato uppajjanakāle uppannā, asukassa cakkavattino uppajjanakāle uppannā’’ti na paññāyati koṭiyā abhāvatoti yojanā. ‘‘Avijjātaṇhāsu katamā nīvaraṇaṃ, katamā saṃyojana’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha avijjā nīvaraṇaṃ taṇhā saṃyojana’’nti vuttaṃ. Tatthāti tāsu avijjātaṇhāsu. Ādīnavapaṭicchādikattā avijjā nīvaraṇaṃ. Bhavesu saṃyojanato taṇhā saṃyojanaṃ. ‘‘Avijjānīvaraṇā sattā kathaṃ vicaranti, kathaṃ vuccanti, taṇhāsaṃyojanā sattā kathaṃ vicaranti kathaṃ vuccantī’’ti pucchitabbattā ‘‘avijjānīvaraṇā sattā’’tiādi vuttaṃ. Avijjānīvaraṇametesamatthīti avijjānīvaraṇā. Avijjāya saṃyuttā viya pavattā avijjāya abhinivisavatthūsu saṃyuttā viya pavattā sattā avijjāpakkhena vipallāsena niccādiabhinivesavatthubhūte rūpādiārammaṇe vicaranti vividhā caranti pavattanti, te niccādiabhinivisantā vicarantā sattā ‘‘diṭṭhicaritā’’ti vuccanti. Taṇhāsaṃyojanametesanti taṇhāsaṃyojanā. Taṇhāya saṃyuttā viya pavattā, taṇhāya vā ārammaṇabhūte vatthukāme saṃyuttā viya pavattā sattā taṇhāpakkhena aṭṭhasatataṇhāvicaritena ārammaṇabhūte vatthusmiṃ vicaranti pavattantīti attho.
‘‘ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา กํ ปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, ตณฺหาจริตา สตฺตา กํ ปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทิฎฺฐิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทิฎฺฐิจริตา สตฺตา อิโต สาสนโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา โหนฺตาปิ ‘‘สุเขน อธิคนฺตพฺพํ สุขํ นตฺถิ, ทุเกฺขน อธิคนฺตพฺพํ สุขํ ปน อตฺถี’’ติ มนสิ กโรนฺตา อตฺตกิลมถานุโยคํ ปญฺจาตปาทิปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติฯ ตณฺหาจริตา สตฺตา อิโต สาสนโต พหิทฺธา ปพฺพชิตา โหนฺตาปิ ‘‘กาเม ปฎิเสวนฺตา โลกํ วฑฺฒาเปนฺตา พหุํ ปุญฺญํ วฑฺฒาเปนฺตี’’ติ มนสิ กโรนฺตา กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยคํ ปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติฯ
‘‘Diṭṭhicaritā sattā kaṃ paṭipattiṃ anuyuttā viharanti, taṇhācaritā sattā kaṃ paṭipattiṃ anuyuttā viharantī’’ti pucchitabbattā ‘‘diṭṭhicaritā’’tiādi vuttaṃ. Diṭṭhicaritā sattā ito sāsanato bahiddhā pabbajitā hontāpi ‘‘sukhena adhigantabbaṃ sukhaṃ natthi, dukkhena adhigantabbaṃ sukhaṃ pana atthī’’ti manasi karontā attakilamathānuyogaṃ pañcātapādipaṭipattiṃ anuyuttā viharanti. Taṇhācaritā sattā ito sāsanato bahiddhā pabbajitā hontāpi ‘‘kāme paṭisevantā lokaṃ vaḍḍhāpentā bahuṃ puññaṃ vaḍḍhāpentī’’ti manasi karontā kāmesu kāmasukhallikānuyogaṃ paṭipattiṃ anuyuttā viharanti.
‘‘กสฺมา ทิฎฺฐิจริตา ตถาวิธํ ปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, กสฺมา ตณฺหาจริตา ตถาวิธํ ปฎิปตฺติํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กิํ การณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ ตตฺถ เตสุ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริเตสุฯ ยํ ยสฺมา การณา วิหรนฺติ, ตํ การณํ กินฺติ ปุจฺฉติฯ อิโต สาสนโต พหิทฺธา เยสํ ปุคฺคลานํ สจฺจววตฺถานํ นตฺถิ, จตุสจฺจปฺปกาสนา กุโต จ อตฺถิ, สมถวิปสฺสนาโกสลฺลํ วา อุปสมสุขปฺปตฺติ วา กุโต อตฺถิ, เต ปุคฺคลา อุปสมสุขสฺส อนภิญฺญา วิปรีตเจตา หุตฺวา เอวํ อาหํสุ ‘‘สุเขน อธิคนฺตพฺพํ สุขํ นตฺถิ , ทุเกฺขน อธิคนฺตพฺพํ สุขํ นาม อตฺถี’’ติฯ เต เอวํสญฺญี เอวํทิฎฺฐี ทุเกฺขน สุขํ ปตฺถยมานา หุตฺวา อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติฯ อิโต สาสนโต พหิทฺธา เยสํ ปุคฺคลานํ สจฺจววตฺถานํ นตฺถิ, จตุสจฺจปฺปกาสนา กุโต จ อตฺถิ, สมถวิปสฺสนาโกสลฺลํ วา อุปสมสุขปฺปตฺติ วา กุโต อตฺถิ, เต ปุคฺคลา อุปสมสุขสฺส อนภิญฺญา วิปรีตเจตา หุตฺวา เอวมาหํสุ ‘‘โย กาเม ปฎิเสวติ, โส โลกํ วฑฺฒยติ, โย โลกํ วฑฺฒยติ, โส พหุํ ปุญฺญํ ปสวตี’’ติฯ เต เอวํสญฺญี เอวํทิฎฺฐี กาเมสุ สุขสญฺญี หุตฺวา กามสุขลฺลิกานุโยคํ อนุยุตฺตา จ วิหรนฺตีติ โยชนา กาตพฺพาฯ
‘‘Kasmā diṭṭhicaritā tathāvidhaṃ paṭipattiṃ anuyuttā viharanti, kasmā taṇhācaritā tathāvidhaṃ paṭipattiṃ anuyuttā viharantī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha kiṃ kāraṇa’’ntiādi vuttaṃ. Tatthāti tattha tesu diṭṭhicaritataṇhācaritesu. Yaṃ yasmā kāraṇā viharanti, taṃ kāraṇaṃ kinti pucchati. Ito sāsanato bahiddhā yesaṃ puggalānaṃ saccavavatthānaṃ natthi, catusaccappakāsanā kuto ca atthi, samathavipassanākosallaṃ vā upasamasukhappatti vā kuto atthi, te puggalā upasamasukhassa anabhiññā viparītacetā hutvā evaṃ āhaṃsu ‘‘sukhena adhigantabbaṃ sukhaṃ natthi , dukkhena adhigantabbaṃ sukhaṃ nāma atthī’’ti. Te evaṃsaññī evaṃdiṭṭhī dukkhena sukhaṃ patthayamānā hutvā attakilamathānuyogamanuyuttā viharanti. Ito sāsanato bahiddhā yesaṃ puggalānaṃ saccavavatthānaṃ natthi, catusaccappakāsanā kuto ca atthi, samathavipassanākosallaṃ vā upasamasukhappatti vā kuto atthi, te puggalā upasamasukhassa anabhiññā viparītacetā hutvā evamāhaṃsu ‘‘yo kāme paṭisevati, so lokaṃ vaḍḍhayati, yo lokaṃ vaḍḍhayati, so bahuṃ puññaṃ pasavatī’’ti. Te evaṃsaññī evaṃdiṭṭhī kāmesu sukhasaññī hutvā kāmasukhallikānuyogaṃ anuyuttā ca viharantīti yojanā kātabbā.
‘‘ตถา วิหรนฺตา กิํ วฑฺฒยนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เต ตทภิญฺญา สนฺตา โรคเมว วฑฺฒยนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘ตถา วฑฺฒยนฺตา โรคาทีนํ เภสชฺชํ สมถวิปสฺสนํ วฑฺฒยนฺติ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เต โรคาภิตุนฺนา คณฺฑปฎิปีฬิตา สลฺลานุวิทฺธา นิรยติรจฺฉานโยนิเปตาสุเรสุ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชานิ กโรนฺตา อุคฺฆาตนิคฺฆาตํ ปจฺจนุโภนฺตา โรคคณฺฑสลฺลเภสชฺชํ น วินฺทนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ อโตฺถ ปน อฎฺฐกถายํ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๙) วุโตฺตฯ ‘‘กตเม สํกิเลสโวทานา, กตเม โรคาทโย, กตมํ เภสชฺช’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ อตฺตกิลมถานุโยโค’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ สํกิเลสโวทานโรคเภสชฺชาทีสุฯ อตฺตกิลมถานุโยโค จ กามสุขลฺลิกานุโยโค จ สํกิเลโส โหติ, สมถวิปสฺสนา โวทานํ โหติ, อตฺตกิลมถานุโยโค จ โรโค โหติ, สมถวิปสฺสนา โรคนิคฺฆาตกเภสชฺชํ…เป... สมถวิปสฺสนา สลฺลุทฺธารณเภสชฺชํ โหติฯ
‘‘Tathā viharantā kiṃ vaḍḍhayantī’’ti pucchitabbattā ‘‘te tadabhiññā santā rogameva vaḍḍhayantī’’ti vuttaṃ. ‘‘Tathā vaḍḍhayantā rogādīnaṃ bhesajjaṃ samathavipassanaṃ vaḍḍhayanti ki’’nti pucchitabbattā ‘‘te rogābhitunnā gaṇḍapaṭipīḷitā sallānuviddhā nirayatiracchānayonipetāsuresu ummujjanimujjāni karontā ugghātanigghātaṃ paccanubhontā rogagaṇḍasallabhesajjaṃ navindantī’’ti vuttaṃ. Attho pana aṭṭhakathāyaṃ (netti. aṭṭha. 79) vutto. ‘‘Katame saṃkilesavodānā, katame rogādayo, katamaṃ bhesajja’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha attakilamathānuyogo’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu saṃkilesavodānarogabhesajjādīsu. Attakilamathānuyogo ca kāmasukhallikānuyogo ca saṃkileso hoti, samathavipassanā vodānaṃ hoti, attakilamathānuyogo ca rogo hoti, samathavipassanā roganigghātakabhesajjaṃ…pe... samathavipassanā salluddhāraṇabhesajjaṃ hoti.
‘‘กตโม กตมํ สจฺจ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สํกิเลโส ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ สํกิเลสาทีสุ สํกิเลโส เอกเทสวเสน ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจํ โหติฯ ตทภิสโงฺคติ ตสฺมิํ สํกิเลเส อภิสโงฺค วิย ปวโตฺต โลกิยธโมฺม นิรวเสสวเสน ทุกฺขสจฺจํ โหติฯ อถ วา ตสฺมิํ ทุเกฺข อภิสโงฺค วิย ปวตฺตา ตณฺหา ทุกฺขสมุทโย สมุทยสจฺจํ โหติฯ ตณฺหานิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นิโรธสจฺจํ โหติฯ สมถวิปสฺสนา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา มคฺคสจฺจํ โหติฯ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺพานิฯ ‘‘เตสุ จตูสุ สเจฺจสุ กตมํ ปริเญฺญยฺยํ, กตโม ปหาตโพฺพ, กตโม ภาเวตโพฺพ, กตโม สจฺฉิกาตโพฺพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทุกฺขํ ปริเญฺญยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Katamo katamaṃ sacca’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha saṃkileso dukkha’’ntiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu saṃkilesādīsu saṃkileso ekadesavasena dukkhaṃ dukkhasaccaṃ hoti. Tadabhisaṅgoti tasmiṃ saṃkilese abhisaṅgo viya pavatto lokiyadhammo niravasesavasena dukkhasaccaṃ hoti. Atha vā tasmiṃ dukkhe abhisaṅgo viya pavattā taṇhā dukkhasamudayo samudayasaccaṃ hoti. Taṇhānirodho dukkhanirodho nirodhasaccaṃ hoti. Samathavipassanā dukkhanirodhagāminī paṭipadā maggasaccaṃ hoti. Imāni cattāri saccāni niddhāretvā yojetabbāni. ‘‘Tesu catūsu saccesu katamaṃ pariññeyyaṃ, katamo pahātabbo, katamo bhāvetabbo, katamo sacchikātabbo’’ti pucchitabbattā ‘‘dukkhaṃ pariññeyya’’ntiādi vuttaṃ.
๘๐. ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ อตฺตกิลมถานุโยคาทิวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานิ, ‘‘กถํ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทสฺสเน ปวตฺติเภทวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ทิฎฺฐิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อถ วา ‘‘ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทสฺสเน กตโม ปวตฺติเภโท’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิเมสํ สกฺกายทสฺสเน อยํ ปวตฺติเภโทติ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ตตฺถ ทิฎฺฐิจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อิทานิ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทิฎฺฐิทสฺสเน ปวตฺติเภทํ ทเสฺสตุํ ‘ทิฎฺฐิจริตา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติฯ ตตฺถาติ เตสุ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริเตสุฯ ทิฎฺฐิจริตา ปุคฺคลา รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ…เป.… วิญฺญาณํ ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ ทิฎฺฐิจริตานํ อตฺตาภินิเวสสฺส พลวภาวโต, ตณฺหาจริตา ปน รูปํ วา ‘‘อตฺตา’’ติ รูปวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมิํ วา ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ…เป.… วิญฺญาณสฺมิํ วา ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ ตณฺหาจริตานํ อตฺตนิยาภินิเวสสฺส พลวภาวโตฯ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ เอเกกํ นิสฺสาย จตุพฺพิธตฺตา วีสติวตฺถุกา อยํ มิจฺฉาทิฎฺฐิ ‘‘สกฺกายทิฎฺฐี’’ติ วุจฺจติฯ เอวํ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทสฺสเน ปวตฺติเภโท วิญฺญาตโพฺพติ อโตฺถฯ
80. Diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ attakilamathānuyogādivasena cattāri saccāni niddhāritāni, ‘‘kathaṃ diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadassane pavattibhedavasena cattāri saccāni niddhāritānī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha diṭṭhicaritā’’tiādi vuttaṃ. Atha vā ‘‘diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadassane katamo pavattibhedo’’ti pucchitabbattā imesaṃ sakkāyadassane ayaṃ pavattibhedoti vibhajitvā dassetuṃ ‘‘tattha diṭṭhicaritā’’tiādi vuttaṃ. Tena vuttaṃ – ‘‘idāni diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadiṭṭhidassane pavattibhedaṃ dassetuṃ ‘diṭṭhicaritā’tiādi vutta’’nti. Tatthāti tesu diṭṭhicaritataṇhācaritesu. Diṭṭhicaritā puggalā rūpaṃ ‘‘attā’’ti attato upagacchanti…pe… viññāṇaṃ ‘‘attā’’ti attato upagacchanti diṭṭhicaritānaṃ attābhinivesassa balavabhāvato, taṇhācaritā pana rūpaṃ vā ‘‘attā’’ti rūpavantaṃ attānaṃ upagacchanti attani vā rūpaṃ, rūpasmiṃ vā ‘‘attā’’ti attānaṃ upagacchanti…pe… viññāṇasmiṃ vā ‘‘attā’’ti attānaṃ upagacchanti taṇhācaritānaṃ attaniyābhinivesassa balavabhāvato. Pañcasu upādānakkhandhesu ekekaṃ nissāya catubbidhattā vīsativatthukā ayaṃ micchādiṭṭhi ‘‘sakkāyadiṭṭhī’’ti vuccati. Evaṃ diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadassane pavattibhedo viññātabboti attho.
‘‘สกฺกายทิฎฺฐิยา กตโม ปฎิปโกฺข’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺสา ปฎิปโกฺข’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺสา สกฺกายทิฎฺฐิยา ปชหนวเสน โลกุตฺตรา สมฺมาทิฎฺฐิ ปฎิปโกฺข, ตสฺสา สมฺมาทิฎฺฐิยา อนฺวายิกา อนุคุณภาเวน ปวตฺตนกา ธมฺมา จ สกฺกายทิฎฺฐิยา ปชหนวเสน ปฎิปกฺขา ภวนฺติฯ ‘‘กตเม ธมฺมา อนฺวายิกา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สมฺมาสงฺกโปฺป’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สมฺมาสงฺกโปฺป…เป.… สมฺมาสมาธิ อิเม ธมฺมา อนฺวายิกา โหนฺติฯ อยํ สมฺมาทิฎฺฐิอาทิโก อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ตสฺสา สกฺกายทิฎฺฐิยา ปฎิปโกฺข โหติ ปหายกตฺตาฯ ‘‘เต สมฺมาทิฎฺฐิยาทโย ธมฺมา ขนฺธโต กิตฺตกา โหนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เต ตโย ขนฺธา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘กตโม ขโนฺธ สมโถ, กตโม ขโนฺธ วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สีลกฺขโนฺธ สมาธิกฺขโนฺธ จ สมโถ, ปญฺญากฺขโนฺธ วิปสฺสนา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘สกฺกายาทีสุ กตโม กตมํ สจฺจํ, กตโม กตมํ สจฺจ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สกฺกาโย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Sakkāyadiṭṭhiyā katamo paṭipakkho’’ti pucchitabbattā ‘‘tassā paṭipakkho’’tiādi vuttaṃ. Tassā sakkāyadiṭṭhiyā pajahanavasena lokuttarā sammādiṭṭhi paṭipakkho, tassā sammādiṭṭhiyā anvāyikā anuguṇabhāvena pavattanakā dhammā ca sakkāyadiṭṭhiyā pajahanavasena paṭipakkhā bhavanti. ‘‘Katame dhammā anvāyikā’’ti pucchitabbattā ‘‘sammāsaṅkappo’’tiādi vuttaṃ. Sammāsaṅkappo…pe… sammāsamādhi ime dhammā anvāyikā honti. Ayaṃ sammādiṭṭhiādiko ariyo aṭṭhaṅgiko maggo tassā sakkāyadiṭṭhiyā paṭipakkho hoti pahāyakattā. ‘‘Te sammādiṭṭhiyādayo dhammā khandhato kittakā hontī’’ti pucchitabbattā ‘‘te tayo khandhā’’tiādi vuttaṃ. ‘‘Katamo khandho samatho, katamo khandho vipassanā’’ti pucchitabbattā ‘‘sīlakkhandho samādhikkhandho ca samatho, paññākkhandho vipassanā’’ti vuttaṃ. ‘‘Sakkāyādīsu katamo katamaṃ saccaṃ, katamo katamaṃ sacca’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha sakkāyo’’tiādi vuttaṃ.
‘‘ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ สกฺกายทิฎฺฐิตปฺปฎิปกฺขวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานิ, กถํ อนฺตทฺวยมชฺฌิมปฎิปทา นิทฺธาริตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ เย รูปํ อตฺตโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริเตสุ เย ทิฎฺฐิจริตา ปุคฺคลา รูปํ ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติ…เป.… วิญฺญาณํ ‘‘อตฺตา’’ติ อตฺตโต อุปคจฺฉนฺติฯ อิเม ทิฎฺฐิจริตา ปุคฺคลา ‘‘รูปาทโย จ อตฺตา, รูปาทีนญฺจ อนิจฺจตฺตา, อตฺตสฺสาปิ อนิจฺจตฺตา อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ, อตฺตา วินสฺสติ, อตฺตา ปรํ มรณา น โหตี’’ติ อภินิวิสนโต ‘‘อุเจฺฉทวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติฯ เย ตณฺหาจริตา ปุคฺคลา รูปํ วา ‘‘อตฺตา’’ติ รูปวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติ…เป.… วิญฺญาณํ วา ‘‘อตฺตา’’ติ วิญฺญาณวนฺตํ อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติฯ อตฺตนิ วา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณสฺมิํ วา อตฺตานํ อุปคจฺฉนฺติฯ อิเม ตณฺหาจริตา ปุคฺคลา ‘‘รูปาทีหิ อตฺตา อโญฺญ อญฺญตฺตา อตฺตา นิโจฺจ สสฺสโต’’ติ อภินิวิสนโต ‘‘สสฺสตวาทิโน’’ติ วุจฺจนฺติฯ
‘‘Diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ sakkāyadiṭṭhitappaṭipakkhavasena cattāri saccāni niddhāritāni, kathaṃ antadvayamajjhimapaṭipadā niddhāritā’’ti vattabbattā ‘‘tattha ye rūpaṃ attato’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu diṭṭhicaritataṇhācaritesu ye diṭṭhicaritā puggalā rūpaṃ ‘‘attā’’ti attato upagacchanti…pe… viññāṇaṃ ‘‘attā’’ti attato upagacchanti. Ime diṭṭhicaritā puggalā ‘‘rūpādayo ca attā, rūpādīnañca aniccattā, attassāpi aniccattā attā ucchijjati, attā vinassati, attā paraṃ maraṇā na hotī’’ti abhinivisanato ‘‘ucchedavādino’’ti vuccanti. Ye taṇhācaritā puggalā rūpaṃ vā ‘‘attā’’ti rūpavantaṃ attānaṃ upagacchanti…pe… viññāṇaṃ vā ‘‘attā’’ti viññāṇavantaṃ attānaṃ upagacchanti. Attani vā viññāṇaṃ, viññāṇasmiṃ vā attānaṃ upagacchanti. Ime taṇhācaritā puggalā ‘‘rūpādīhi attā añño aññattā attā nicco sassato’’ti abhinivisanato ‘‘sassatavādino’’ti vuccanti.
ตตฺถ เตสุ อุเจฺฉทวาทีสสฺสตวาทีปุคฺคเลสุ ปวตฺตา อุเจฺฉทวาทสสฺสตวาทา อุโภ อนฺตา อนฺตทฺวยปฎิปทา โหนฺติฯ อยํ อนฺตทฺวยปฎิปทา สํสารปวตฺตนสฺส เหตุภาวโต สํสารปวตฺติ โหติ, ตสฺส อนฺตทฺวยสฺส ปฎิปชฺชนสฺส ปชหนวเสน มชฺฌิมปฎิปทาสงฺขาโตว อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ปฎิปโกฺข โหติ ปหายกตฺตาฯ อยํ มโคฺค สํสารนิวตฺตนสฺส เหตุภาวโต สํสารนิวตฺติ โหติฯ ตตฺถ สํสารปวตฺติสํสารนิวตฺตีสุ ปวตฺติ สํสารปวตฺติ ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจํ, ตทภิสโงฺค ตสฺมิํ ทุเกฺข อภิสโงฺค ตณฺหา สมุทโย สมุทยสจฺจํ, ตณฺหานิโรโธ ทุกฺขนิโรโธ นิโรธสจฺจํ, อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา มคฺคสจฺจํ, อิติ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานิฯ ‘‘ทุกฺขํ ปริเญฺญยฺย’’นฺติอาทิมฺหิ วุตฺตนโยว อโตฺถฯ
Tattha tesu ucchedavādīsassatavādīpuggalesu pavattā ucchedavādasassatavādā ubho antā antadvayapaṭipadā honti. Ayaṃ antadvayapaṭipadā saṃsārapavattanassa hetubhāvato saṃsārapavatti hoti, tassa antadvayassa paṭipajjanassa pajahanavasena majjhimapaṭipadāsaṅkhātova ariyo aṭṭhaṅgiko maggo paṭipakkho hoti pahāyakattā. Ayaṃ maggo saṃsāranivattanassa hetubhāvato saṃsāranivatti hoti. Tattha saṃsārapavattisaṃsāranivattīsu pavatti saṃsārapavatti dukkhaṃ dukkhasaccaṃ, tadabhisaṅgo tasmiṃ dukkhe abhisaṅgo taṇhā samudayo samudayasaccaṃ, taṇhānirodho dukkhanirodho nirodhasaccaṃ, ariyo aṭṭhaṅgiko maggo dukkhanirodhagāminī paṭipadā maggasaccaṃ, iti imāni cattāri saccāni niddhāritāni. ‘‘Dukkhaṃ pariññeyya’’ntiādimhi vuttanayova attho.
‘‘อุเจฺฉทสสฺสตสฺส กิตฺตโก ปเภโท, มคฺคสฺส กิตฺตโก’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ อุเจฺฉทสสฺสต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อุเจฺฉทสสฺสตอริยมเคฺคสุ อุเจฺฉทสสฺสตทสฺสนํ สมาสโต สเงฺขปโต วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฎฺฐิฯ อุเจฺฉโท ปญฺจุปาทานกฺขเนฺธ นิสฺสาย ปวตฺตตฺตา ปญฺจวิโธ, สสฺสตทสฺสนํ เอเกกสฺมิํ ติธา อุปฺปชฺชนโต ปนฺนรสวิธนฺติ วีสติวิธํ โหติฯ วิตฺถารโต ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิฯ กตมานิ? จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสตวาทา, จตฺตาโร อนฺตานนฺตวาทา, จตฺตาโร อมราวิเกฺขปวาทา, เทฺว อธิจฺจสมุปฺปนฺนวาทา, โสฬส สญฺญีวาทา, อฎฺฐ อสญฺญีวาทา, อฎฺฐ เนวสญฺญีนาสญฺญีวาทา, สตฺต อุเจฺฉทวาทา, ปญฺจ ทิฎฺฐธมฺมนิพฺพานวาทาติ ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานิ เวทิตพฺพานิฯ วิตฺถารโต ปน พฺรหฺมชาลสุเตฺต (ที. นิ. ๑.๓๐ อาทโย) อาคตานิฯ เตสํ อุเจฺฉทสสฺสตทสฺสนานํ เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยธมฺมา ปฎิปโกฺข มโคฺคฯ กตเม เตจตฺตาลีสํ? ‘‘อนิจฺจสญฺญา ทุกฺขสญฺญา อนตฺตสญฺญา’’ติ ติโสฺส สญฺญา จ ‘‘ปหานสญฺญา วิราคสญฺญา นิโรธสญฺญา’’ติ ติโสฺส สญฺญา จาติ ฉ สญฺญา จ ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปญฺจินฺทฺริยานิ, ปญฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อฎฺฐ มคฺคงฺคานี’’ติ เตจตฺตาลีสํ โพธิปกฺขิยธมฺมา วิปสฺสนาวเสน ปฎิปโกฺข มโคฺค นามฯ
‘‘Ucchedasassatassa kittako pabhedo, maggassa kittako’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha ucchedasassata’’ntiādi vuttaṃ. Tattha ucchedasassataariyamaggesu ucchedasassatadassanaṃ samāsato saṅkhepato vīsativatthukā sakkāyadiṭṭhi. Ucchedo pañcupādānakkhandhe nissāya pavattattā pañcavidho, sassatadassanaṃ ekekasmiṃ tidhā uppajjanato pannarasavidhanti vīsatividhaṃ hoti. Vitthārato dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni. Katamāni? Cattāro sassatavādā, cattāro ekaccasassatavādā, cattāro antānantavādā, cattāro amarāvikkhepavādā, dve adhiccasamuppannavādā, soḷasa saññīvādā, aṭṭha asaññīvādā, aṭṭha nevasaññīnāsaññīvādā, satta ucchedavādā, pañca diṭṭhadhammanibbānavādāti dvāsaṭṭhi diṭṭhigatāni veditabbāni. Vitthārato pana brahmajālasutte (dī. ni. 1.30 ādayo) āgatāni. Tesaṃ ucchedasassatadassanānaṃ tecattālīsaṃ bodhipakkhiyadhammā paṭipakkho maggo. Katame tecattālīsaṃ? ‘‘Aniccasaññā dukkhasaññā anattasaññā’’ti tisso saññā ca ‘‘pahānasaññā virāgasaññā nirodhasaññā’’ti tisso saññā cāti cha saññā ca ‘‘cattāro satipaṭṭhānā, cattāro sammappadhānā, cattāro iddhipādā, pañcindriyāni, pañca balāni, satta bojjhaṅgā, aṭṭha maggaṅgānī’’ti tecattālīsaṃ bodhipakkhiyadhammā vipassanāvasena paṭipakkho maggo nāma.
‘‘สมถวเสน กตโม ปฎิปโกฺข’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อฎฺฐ วิโมกฺขา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อฎฺฐ วิโมกฺขา ปากฎาฯ ทส กสิณายตนานิ สมถวเสน ปฎิปโกฺข มโคฺค นามฯ ‘‘กตมํ ญาณํ กตมสฺส ธมฺมสฺส ปทาลน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺวาสฎฺฐิ ทิฎฺฐิคตานี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ทิฎฺฐิจริเต ปวตฺตานิ ทิฎฺฐิคตานิ, โมโหฯ ตณฺหาจริเต ปวตฺตานิ ทิฎฺฐิคตานิ, ชาลํฯ อนาทิวเสน ปวโตฺต โมโหฯ อนิธนวเสน ปวตฺตํ ชาลํฯ อฎฺฐ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา เตเชตฺวา ติกฺขํ วิปสฺสนาญาณญฺจ อริยมคฺคญาณญฺจญาณวชิรํ นาม โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ญาณปทฎฺฐานตฺตาฯ โมโห จ ชาลญฺจ โมหชาลํฯ ปทาเลตีติ ปทาลนํ, กตฺตริ ยุปจฺจโย, โมหชาลสฺส ปทาลนนฺติ โมหชาลปทาลนํฯ ปทาลนญฺหิ ทุวิธํ วิกฺขมฺภนปทาลนํ สมุเจฺฉทปทาลนนฺติฯ ปุพฺพภาเค สมถวิปสฺสนาวเสน วิกฺขมฺภนปทาลนํ, มคฺคกฺขเณ สมุเจฺฉทปทาลนํ เอว ทฎฺฐพฺพํฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ โมหชาเล อวิชฺชา โมโห, ภวตณฺหา ชาลํฯ อตฺตโน อาธารํ ปุคฺคลํ ทุกฺขาทีสุ อฎฺฐสุ ฐาเนสุ โมเหตีติ โมโหฯ ปฐมํ ชาลํ ชฎํ ลายิตฺวา ชฎาวเสน ลาติ ปวตฺตตีติ ชาลํ, อตฺตนิ ชาตํ มจฺฉสกุณาทิกํ ลาติ คณฺหาติ, ลาเปติ คณฺหาเปตีติ วา ชาลํ, ชาลํ วิยาติ ชาลํฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อตีตาทิเภทภิเนฺนสุ รูปาทีสุ, สกอตฺตภาวาทีสุ จ สํสิพฺพนวเสน ปวตฺตนโต ชาลํ ภวตณฺหา’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๘๐)ฯ ‘‘อวิชฺชาตณฺหาหิ อตฺตกิลมถานุโยคาทีนํ กิเลสปกฺขานํ นิทฺธารณํ กตํ กถํ เกน สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตน วุจฺจติ ‘ปุพฺพา โกฎิ น ปญฺญายติ อวิชฺชาย จ ภวตณฺหาย จา’ติ’’ วุตฺตํฯ
‘‘Samathavasena katamo paṭipakkho’’ti vattabbattā ‘‘aṭṭha vimokkhā’’tiādi vuttaṃ. Aṭṭha vimokkhā pākaṭā. Dasa kasiṇāyatanāni samathavasena paṭipakkho maggo nāma. ‘‘Katamaṃ ñāṇaṃ katamassa dhammassa padālana’’nti pucchitabbattā ‘‘dvāsaṭṭhi diṭṭhigatānī’’tiādi vuttaṃ. Diṭṭhicarite pavattāni diṭṭhigatāni, moho. Taṇhācarite pavattāni diṭṭhigatāni, jālaṃ. Anādivasena pavatto moho. Anidhanavasena pavattaṃ jālaṃ. Aṭṭha samāpattiyo samāpajjitvā tejetvā tikkhaṃ vipassanāñāṇañca ariyamaggañāṇañcañāṇavajiraṃ nāma bodhipakkhiyadhammānaṃ ñāṇapadaṭṭhānattā. Moho ca jālañca mohajālaṃ. Padāletīti padālanaṃ, kattari yupaccayo, mohajālassa padālananti mohajālapadālanaṃ. Padālanañhi duvidhaṃ vikkhambhanapadālanaṃ samucchedapadālananti. Pubbabhāge samathavipassanāvasena vikkhambhanapadālanaṃ, maggakkhaṇe samucchedapadālanaṃ eva daṭṭhabbaṃ. Tatthāti tasmiṃ mohajāle avijjā moho, bhavataṇhā jālaṃ. Attano ādhāraṃ puggalaṃ dukkhādīsu aṭṭhasu ṭhānesu mohetīti moho. Paṭhamaṃ jālaṃ jaṭaṃ lāyitvā jaṭāvasena lāti pavattatīti jālaṃ, attani jātaṃ macchasakuṇādikaṃ lāti gaṇhāti, lāpeti gaṇhāpetīti vā jālaṃ, jālaṃ viyāti jālaṃ. Tena vuttaṃ – ‘‘atītādibhedabhinnesu rūpādīsu, sakaattabhāvādīsu ca saṃsibbanavasena pavattanato jālaṃ bhavataṇhā’’ti (netti. aṭṭha. 80). ‘‘Avijjātaṇhāhi attakilamathānuyogādīnaṃ kilesapakkhānaṃ niddhāraṇaṃ kataṃ kathaṃ kena saddahitabba’’nti vattabbattā ‘‘tena vuccati ‘pubbā koṭi na paññāyati avijjāya ca bhavataṇhāya cā’ti’’ vuttaṃ.
๘๑. ‘‘อิโต สาสนโต พหิทฺธา ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ ปฎิปทาทโย นิทฺธาริตา, สาสเน ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริตานํ ปฎิปทาทโย กถํ นิทฺธาริตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สํกิเลสปกฺขา สุตฺตตฺถา อาจริเยน ทสฺสิตา, โวทานปกฺขสุตฺตตฺถา กถํ ทสฺสิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา วา ‘‘ตตฺถ ทิฎฺฐิจริโต อสฺมิํ สาสเน’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ ทิฎฺฐิจริตตณฺหาจริเตสุฯ ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโล อสฺมิํ สาสเน ปพฺพชิโต หุตฺวา จตูสุ ปจฺจเยสุ สเลฺลขานุสนฺตตวุตฺติ ภวติฯ กสฺมา? ยสฺมา สเลฺลเข ติพฺพคารโว, ตสฺมา สเลฺลเข ติพฺพคารวตฺตาฯ ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล อสฺมิํ สาสเน ปพฺพชิโต หุตฺวา สิกฺขานุสนฺตตวุตฺติ ภวติ ฯ กสฺมา? ยสฺมา สิกฺขาย ติพฺพคารโว, ตสฺมา สิกฺขาย ติพฺพคารวตฺตาฯ ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโล สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมโนฺต หุตฺวา ธมฺมานุสารี ปุคฺคโล ภวติฯ กสฺมา? ทิฎฺฐิยา ทิฎฺฐิวิสเย ปญฺญาสทิสปวตฺตนโตฯ ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมโนฺต หุตฺวา สทฺธานุสารี ภวติฯ กสฺมา? ตณฺหาวเสน มิจฺฉาธิโมกฺขตฺตาฯ ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโล สุขาย ปฎิปทาย, ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยาติ, สุขาย ปฎิปทาย, ขิปฺปาภิญฺญาย จ นิยฺยาติ สุเขน กิเลเสหิ วิกฺขมฺภิตุํ สมตฺถตฺตาฯ ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล ทุกฺขาย ปฎิปทาย, ทนฺธาภิญฺญาย จ นิยฺยาติ, ทุกฺขาย ปฎิปทาย, ขิปฺปาภิญฺญาย จ นิยฺยาติ ทุเกฺขน กิเลเสหิ วิกฺขมฺภิตุํ สมตฺถตฺตาฯ
81. ‘‘Ito sāsanato bahiddhā diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ paṭipadādayo niddhāritā, sāsane diṭṭhicaritataṇhācaritānaṃ paṭipadādayo kathaṃ niddhāritabbā’’ti vattabbattā ‘‘saṃkilesapakkhā suttatthā ācariyena dassitā, vodānapakkhasuttatthā kathaṃ dassitabbā’’ti vattabbattā vā ‘‘tattha diṭṭhicarito asmiṃ sāsane’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu diṭṭhicaritataṇhācaritesu. Diṭṭhicarito puggalo asmiṃ sāsane pabbajito hutvā catūsu paccayesu sallekhānusantatavutti bhavati. Kasmā? Yasmā sallekhe tibbagāravo, tasmā sallekhe tibbagāravattā. Taṇhācarito puggalo asmiṃ sāsane pabbajito hutvā sikkhānusantatavutti bhavati . Kasmā? Yasmā sikkhāya tibbagāravo, tasmā sikkhāya tibbagāravattā. Diṭṭhicarito puggalo sammattaniyāmaṃ okkamanto hutvā dhammānusārī puggalo bhavati. Kasmā? Diṭṭhiyā diṭṭhivisaye paññāsadisapavattanato. Taṇhācarito puggalo sammattaniyāmaṃ okkamanto hutvā saddhānusārī bhavati. Kasmā? Taṇhāvasena micchādhimokkhattā. Diṭṭhicarito puggalo sukhāya paṭipadāya, dandhābhiññāya ca niyyāti, sukhāya paṭipadāya, khippābhiññāya ca niyyāti sukhena kilesehi vikkhambhituṃ samatthattā. Taṇhācarito puggalo dukkhāya paṭipadāya, dandhābhiññāya ca niyyāti, dukkhāya paṭipadāya, khippābhiññāya ca niyyāti dukkhena kilesehi vikkhambhituṃ samatthattā.
‘‘ตถา กสฺมา นิยฺยาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กิํ การณํ ย’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ยํ เยน การเณน นิยฺยาติ, ตํ การณํ กินฺติ ปุจฺฉติฯ ตสฺส ตณฺหาจริตสฺส กามา สุเขน อปริจฺจตฺตา หิ ยสฺมา ภวนฺติ, ตสฺมา กามานํ สุเขน อปริจฺจตฺตตฺตา ตถา นิยฺยาติฯ โส ตณฺหาจริโต กาเมหิ วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ วิเวจิยมาโน ทุเกฺขน ปฎินิสฺสรติ, ทนฺธญฺจ ธมฺมํ จตุสจฺจธมฺมํ อาชานาติฯ โย ปน อยํ ปุคฺคโล ทิฎฺฐิจริโต โหติ, โส อยํ ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโล อาทิโต อาทิมฺหิเยว กาเมหิ กิเลสกามวตฺถุกาเมหิ อนตฺถิโก ภวติฯ โส ทิฎฺฐิจริโต ตโต เตหิ กาเมหิ วิเวจิยมาโน ขิปฺปญฺจ สุเขน ปฎินิสฺสรติ, ขิปฺปญฺจ ธมฺมํ อาชานาติฯ
‘‘Tathā kasmā niyyātī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha kiṃ kāraṇaṃ ya’’ntiādi vuttaṃ. Yaṃ yena kāraṇena niyyāti, taṃ kāraṇaṃ kinti pucchati. Tassa taṇhācaritassa kāmā sukhena apariccattā hi yasmā bhavanti, tasmā kāmānaṃ sukhena apariccattattā tathā niyyāti. So taṇhācarito kāmehi vatthukāmakilesakāmehi viveciyamāno dukkhena paṭinissarati, dandhañca dhammaṃ catusaccadhammaṃ ājānāti. Yo pana ayaṃ puggalo diṭṭhicarito hoti, so ayaṃ diṭṭhicarito puggalo ādito ādimhiyeva kāmehi kilesakāmavatthukāmehi anatthiko bhavati. So diṭṭhicarito tato tehi kāmehi viveciyamāno khippañca sukhena paṭinissarati, khippañca dhammaṃ ājānāti.
‘‘ตณฺหาจริโต ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยาติ, ทิฎฺฐิจริโต สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาตีติ เอเกกาย ปฎิปทาย ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทุกฺขาปิ ปฎิปทา ทุวิธา ทนฺธาภิญฺญา จ ขิปฺปาภิญฺญา จ, สุขาปิ ปฎิปทา ทุวิธา ทนฺธาภิญฺญา จ ขิปฺปาภิญฺญา จา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘เอวํ สติ เอโกว ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปฎิปทาหิ นิยฺยาตีติ อาปชฺชตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สตฺตาปี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตณฺหาจริตา สตฺตาปิ ทุวิธา มุทินฺทฺริยาปิ ติกฺขินฺทฺริยาปิ, ทิฎฺฐิจริตา สตฺตาปิ ทุวิธา มุทินฺทฺริยาปิ ติกฺขินฺทฺริยาปีติ โยชนา กาตพฺพาฯ เย ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตา มุทินฺทฺริยา ภวนฺติ, เต ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตา ทนฺธญฺจ ปฎินิสฺสรนฺติ, ทนฺธญฺจ ธมฺมํ อาชานนฺติฯ เย ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตา ติกฺขินฺทฺริยา ภวนฺติ, เต ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตา ขิปฺปญฺจ ปฎินิสฺสรนฺติ, ขิปฺปญฺจ ธมฺมํ อาชานนฺติ, ตสฺมา เอเกกเสฺสว เอเกกา ปฎิปทา ยุตฺตาวาติฯ ‘‘อิมาหิ ปฎิปทาหิ นิยฺยนฺติเยว, น นิยฺยิํสุ นิยฺยิสฺสนฺตีติ อาปเชฺชยฺย วตฺตมานวิภตฺติยา นิทฺทิฎฺฐตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิมา จตโสฺส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อตีเตปิ อิมาหิ จตูหิ ปฎิปทาหิ นิยฺยิํสุ, ปจฺจุปฺปเนฺนสุปิ นิยฺยนฺติ, อนาคเตปิ นิยฺยิสฺสนฺตีติ อโตฺถ คเหตโพฺพ ยถา ‘‘ปพฺพโต ติฎฺฐตี’’ติฯ
‘‘Taṇhācarito dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyāti, diṭṭhicarito sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyātīti ekekāya paṭipadāya bhavitabba’’nti vattabbattā ‘‘dukkhāpi paṭipadā duvidhā dandhābhiññā ca khippābhiññā ca, sukhāpi paṭipadā duvidhā dandhābhiññā ca khippābhiññā cā’’ti vuttaṃ. ‘‘Evaṃ sati ekova dvīhi dvīhi paṭipadāhi niyyātīti āpajjatī’’ti vattabbattā ‘‘sattāpī’’tiādi vuttaṃ. Taṇhācaritā sattāpi duvidhā mudindriyāpi tikkhindriyāpi, diṭṭhicaritā sattāpi duvidhā mudindriyāpi tikkhindriyāpīti yojanā kātabbā. Ye taṇhācaritadiṭṭhicaritā mudindriyā bhavanti, te taṇhācaritadiṭṭhicaritā dandhañca paṭinissaranti, dandhañca dhammaṃ ājānanti. Ye taṇhācaritadiṭṭhicaritā tikkhindriyā bhavanti, te taṇhācaritadiṭṭhicaritā khippañca paṭinissaranti, khippañca dhammaṃ ājānanti, tasmā ekekasseva ekekā paṭipadā yuttāvāti. ‘‘Imāhi paṭipadāhi niyyantiyeva, na niyyiṃsu niyyissantīti āpajjeyya vattamānavibhattiyā niddiṭṭhattā’’ti vattabbattā ‘‘imā catasso’’tiādi vuttaṃ. Atītepi imāhi catūhi paṭipadāhi niyyiṃsu, paccuppannesupi niyyanti, anāgatepi niyyissantīti attho gahetabbo yathā ‘‘pabbato tiṭṭhatī’’ti.
เอวนฺติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรนฯ อริยปุคฺคลา จตุกฺกมคฺคํ ปฎิปทํ ปญฺญาเปนฺติฯ ‘‘กิมตฺถํ ปญฺญาเปนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อพุธชนเสวิตายา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อยํ วุจฺจติ นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมีติ ตณฺหาอวิชฺชานํ วเสน สํกิเลสปเกฺข ทฺวิทิสา จตุสจฺจโยชนาปิ สมถวิปสฺสนานํ วเสน โวทานปเกฺข ทฺวิทิสา จตุสจฺจโยชนาปิ ทสฺสิตาฯ อยํ จตุพฺพิธา จตุสจฺจโยชนา นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส สมุฎฺฐานํ ภูมิ สมุฎฺฐานภาวโตติฯ ‘‘ตถาวิธาย จตุสจฺจโยชนาย นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส สมุฎฺฐานภูมิภาโว เกน สทฺทหิตโพฺพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
Evanti evaṃ vuttappakārena. Ariyapuggalā catukkamaggaṃ paṭipadaṃ paññāpenti. ‘‘Kimatthaṃ paññāpentī’’ti vattabbattā ‘‘abudhajanasevitāyā’’tiādi vuttaṃ. Ayaṃ vuccati nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmīti taṇhāavijjānaṃ vasena saṃkilesapakkhe dvidisā catusaccayojanāpi samathavipassanānaṃ vasena vodānapakkhe dvidisā catusaccayojanāpi dassitā. Ayaṃ catubbidhā catusaccayojanā nandiyāvaṭṭassa nayassa samuṭṭhānaṃ bhūmi samuṭṭhānabhāvatoti. ‘‘Tathāvidhāya catusaccayojanāya nandiyāvaṭṭassa nayassa samuṭṭhānabhūmibhāvo kena saddahitabbo’’ti vattabbattā ‘‘tenāhā’’tiādi vuttaṃ.
๘๒. ‘‘นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส สมุฎฺฐานภูตา ภูมิ ทสฺสิตา, ตสฺส นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส กตฺถ กตมา ทิสา กิตฺตเกน อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เวยฺยากรเณสุ หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ หิ-สโทฺท ปกฺขนฺตรโตฺถฯ เย ทิสาภูตา อาหาราทโย ธมฺมา เวยฺยากรเณสุ ‘‘กุสลากุสลา’’ติ วุตฺตํ, เต ทิสาภูตา อาหาราทโย ธมฺมา ทุวิเธน ‘‘อิเม อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสธมฺมา, อิเม กุสลา โวทานธมฺมา’’ติ ทุวิเธน อุปปริกฺขิตพฺพา อาโลจิตพฺพาฯ ‘‘กตเมน ทุวิเธนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โลกวฎฺฎานุสารี จ โลกวิวฎฺฎานุสารี จา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘กตมํ วฎฺฎํ, กตมํ วิวฎฺฎ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘วฎฺฎํ นาม สํสาโร, วิวฎฺฎํ นิพฺพาน’’นฺติ วุตฺตํฯ ‘‘สํสารสฺส กตโม เหตู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กมฺมกิเลสา เหตุ สํสารสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘กตมํ กมฺมํ นาม, เจตนาเยว กมฺมํ นาม กิํ, อุทาหุ เจตสิกญฺจ ผลทานสมตฺถาสมตฺถมฺปิ กมฺมํ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ กมฺมกิเลเสสุฯ ‘‘ตํ กมฺมํ กถํ เกน ปกาเรน ทฎฺฐพฺพ’’นฺติ เจ วเทยฺย, ยถา เยน อุปจเยน กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตสฺมิํ อุปจเย ตํ กมฺมํ ทฎฺฐพฺพํฯ ‘‘เต กิเลสา กตเมหิ ธเมฺมหิ นิทฺทิสิตพฺพา’’ติ เจ ปุเจฺฉยฺย, สเพฺพปิ กิเลสา จตูหิ วิปลฺลาเสหิ นิทฺทิสิตพฺพาฯ ‘‘เต กิเลสา กตฺถ ทฎฺฐพฺพา’’ติ เจ ปุเจฺฉยฺย, ทสวตฺถุเก กิเลสปุเญฺช เต กิเลสา ทฎฺฐพฺพาฯ
82. ‘‘Nandiyāvaṭṭassa nayassa samuṭṭhānabhūtā bhūmi dassitā, tassa nandiyāvaṭṭassa nayassa kattha katamā disā kittakena upaparikkhitabbā’’ti vattabbattā ‘‘veyyākaraṇesu hī’’tiādi vuttaṃ. Hi-saddo pakkhantarattho. Ye disābhūtā āhārādayo dhammā veyyākaraṇesu ‘‘kusalākusalā’’ti vuttaṃ, te disābhūtā āhārādayo dhammā duvidhena ‘‘ime akusalā dhammā saṃkilesadhammā, ime kusalā vodānadhammā’’ti duvidhena upaparikkhitabbā ālocitabbā. ‘‘Katamena duvidhenā’’ti pucchitabbattā ‘‘lokavaṭṭānusārī ca lokavivaṭṭānusārī cā’’ti vuttaṃ. ‘‘Katamaṃ vaṭṭaṃ, katamaṃ vivaṭṭa’’nti pucchitabbattā ‘‘vaṭṭaṃ nāma saṃsāro, vivaṭṭaṃ nibbāna’’nti vuttaṃ. ‘‘Saṃsārassa katamo hetū’’ti pucchitabbattā ‘‘kammakilesā hetu saṃsārassā’’ti vuttaṃ. ‘‘Katamaṃ kammaṃ nāma, cetanāyeva kammaṃ nāma kiṃ, udāhu cetasikañca phaladānasamatthāsamatthampi kammaṃ ki’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha kamma’’ntiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu kammakilesesu. ‘‘Taṃ kammaṃ kathaṃ kena pakārena daṭṭhabba’’nti ce vadeyya, yathā yena upacayena kataṃ kammaṃ phaladānasamatthaṃ hoti, tasmiṃ upacaye taṃ kammaṃ daṭṭhabbaṃ. ‘‘Te kilesā katamehi dhammehi niddisitabbā’’ti ce puccheyya, sabbepi kilesā catūhi vipallāsehi niddisitabbā. ‘‘Te kilesā kattha daṭṭhabbā’’ti ce puccheyya, dasavatthuke kilesapuñje te kilesā daṭṭhabbā.
‘‘กตมานิ ทส วตฺถูนี’’ติ เจ ปุเจฺฉยฺย, จตฺตาโร อาหารา, จตฺตาโร วิปลฺลาสา, จตฺตาริ อุปาทานานิ, จตฺตาโร โยคา, จตฺตาโร คนฺถา, จตฺตาโร อาสวา, จตฺตาโร โอฆา, จตฺตาโร สลฺลา, จตโสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติโย, จตฺตาริ อคติคมนานีติ ทส วตฺถูนีติ เวทิตพฺพานิ จตุนฺนํ กิจฺจวเสน เอกตฺตาฯ เอตฺถ จ กิเลสานํ ปจฺจโย วตฺถุกาโมปิ กิเลโสปิ กิเลสวตฺถุ โหติ ปุริมานํ ปุริมานํ กิเลสานํ ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กิเลสานํ ปจฺจยภาวโตฯ
‘‘Katamāni dasa vatthūnī’’ti ce puccheyya, cattāro āhārā, cattāro vipallāsā, cattāri upādānāni, cattāro yogā, cattāro ganthā, cattāro āsavā, cattāro oghā, cattāro sallā, catasso viññāṇaṭṭhitiyo, cattāri agatigamanānīti dasa vatthūnīti veditabbāni catunnaṃ kiccavasena ekattā. Ettha ca kilesānaṃ paccayo vatthukāmopi kilesopi kilesavatthu hoti purimānaṃ purimānaṃ kilesānaṃ pacchimānaṃ pacchimānaṃ kilesānaṃ paccayabhāvato.
‘‘กตโม กตโม กตมสฺส กตมสฺส วตฺถู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปฐเม อาหาเร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อาลมฺพิตเพฺพ ปฐเม กพฬีการาหาเร ปฐโม ‘‘รูปํ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตติฯ อาลมฺพิตเพฺพ ทุติเย ผสฺสาหาเร ทุติโย ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา สุขา’’ติ วิปลฺลาโส ปวตฺตติฯ อาลมฺพิตเพฺพ ตติเย จิตฺตาหาเร ตติโย ‘‘จิตฺตํ นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส ปวตฺตติ, อาลมฺพิตเพฺพ จตุเตฺถ มโนสเญฺจตนาหาเร ‘‘ธโมฺม อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตติฯ อาลมฺพิตเพฺพ ปฐเม ‘‘รูปํ สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส ปฐมํ กามุปาทานํ อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตติฯ เสเสสุปิ ยถารหํ นยานุสาเรน โยเชตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
‘‘Katamo katamo katamassa katamassa vatthū’’ti pucchitabbattā ‘‘paṭhame āhāre’’tiādi vuttaṃ. Ālambitabbe paṭhame kabaḷīkārāhāre paṭhamo ‘‘rūpaṃ subha’’nti vipallāso ārammaṇakaraṇavasena pavattati. Ālambitabbe dutiye phassāhāre dutiyo ‘‘phassapaccayā vedanā sukhā’’ti vipallāso pavattati. Ālambitabbe tatiye cittāhāre tatiyo ‘‘cittaṃ nicca’’nti vipallāso pavattati, ālambitabbe catutthe manosañcetanāhāre ‘‘dhammo attā’’ti vipallāso ārammaṇakaraṇavasena pavattati. Ālambitabbe paṭhame ‘‘rūpaṃ subha’’nti vipallāso paṭhamaṃ kāmupādānaṃ ārammaṇakaraṇavasena pavattati. Sesesupi yathārahaṃ nayānusārena yojetvā attho veditabbo.
๘๓. ‘‘เตสุ อาหาราทีสุ กตโม กตมสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลโส’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ อาหาราทีสุ, ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริเตสุ วาฯ ตณฺหาจริตสฺส รูปเวทนาสุ ติพฺพจฺฉนฺทราคสฺส อุปฺปชฺชนโต โย จ กพฬีกาโร อาหาโร, โย จ ผสฺสาหาโร ปวตฺตติ, อิเม กพฬีการาหารผสฺสาหารา ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา ภวนฺติฯ ทิฎฺฐิจริตสฺส ธมฺมจิเตฺตสุ พลวอตฺตนิจฺจาภินิเวสสฺส อุปฺปชฺชนโต โย จ มโนสเญฺจตนาหาโร, โย จ วิญฺญาณาหาโร ปวตฺตติ, อิเม มโนสเญฺจตนาหารวิญฺญาณาหารา ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา ภวนฺติฯ ‘‘ตตฺถ โย จ อสุเภ สุภ’’นฺติอาทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน อโตฺถ คเหตโพฺพติฯ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ตณฺหาปธานตฺตา เจว ตณฺหาสภาวตฺตา จ, ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ ทิฎฺฐิปธานตฺตา เจว ทิฎฺฐิสภาวตฺตา จาติฯ
83. ‘‘Tesu āhārādīsu katamo katamassa puggalassa upakkileso’’ti vattabbattā ‘‘tattha yo cā’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu āhārādīsu, taṇhācaritadiṭṭhicaritesu vā. Taṇhācaritassa rūpavedanāsu tibbacchandarāgassa uppajjanato yo ca kabaḷīkāro āhāro, yo ca phassāhāro pavattati, ime kabaḷīkārāhāraphassāhārā taṇhācaritassa puggalassa upakkilesā bhavanti. Diṭṭhicaritassa dhammacittesu balavaattaniccābhinivesassa uppajjanato yo ca manosañcetanāhāro, yo ca viññāṇāhāro pavattati, ime manosañcetanāhāraviññāṇāhārā diṭṭhicaritassa puggalassa upakkilesā bhavanti. ‘‘Tattha yo ca asubhe subha’’ntiādīsupi vuttanayānusārena attho gahetabboti. Purimānaṃ dvinnaṃ dvinnaṃ taṇhāpadhānattā ceva taṇhāsabhāvattā ca, pacchimānaṃ dvinnaṃ dvinnaṃ diṭṭhipadhānattā ceva diṭṭhisabhāvattā cāti.
๘๔. ‘‘กตมสฺมิํ ปฐมาทิเก อาหาเร กตโม ปฐมาทิโก วิปลฺลาโส ปวตฺตตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กพฬีกาเร อาหาเร’’ติอาทินา นามวเสน นิยเมตฺวา ปุเพฺพ วุตฺตตฺถเมว ทเสฺสติฯ ‘‘กตมสฺมิํ วิปลฺลาเส ฐิโต กตมํ อุปาทิยตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปฐเม วิปลฺลาเส ฐิโต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ปฐเม วิปลฺลาเส ฐิโต ปุคฺคโล กาเม เยน อุปาทาเนน อุปาทิยติ, อิทํ อุปาทานํ ‘‘กามุปาทานํ นามา’’ติ วุจฺจติฯ เสเสสุ อิมินา นเยน โยชนา กาตพฺพาฯ
84. ‘‘Katamasmiṃ paṭhamādike āhāre katamo paṭhamādiko vipallāso pavattatī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha kabaḷīkāre āhāre’’tiādinā nāmavasena niyametvā pubbe vuttatthameva dasseti. ‘‘Katamasmiṃ vipallāse ṭhito katamaṃ upādiyatī’’ti pucchitabbattā ‘‘paṭhame vipallāse ṭhito’’tiādi vuttaṃ. Paṭhame vipallāse ṭhito puggalo kāme yena upādānena upādiyati, idaṃ upādānaṃ ‘‘kāmupādānaṃ nāmā’’ti vuccati. Sesesu iminā nayena yojanā kātabbā.
‘‘เยน กามุปาทาเนน กาเมหิ ปุคฺคโล สํยุชฺชติ, อยํ กามุปาทานธโมฺม ‘กามโยโค’ติ วุจฺจตี’’ติอาทินา โยชนา กาตพฺพาฯ เสสานํ โยชนตฺถาทโย ปาฬิโต, อฎฺฐกถาโต จ ปากฎาฯ
‘‘Yena kāmupādānena kāmehi puggalo saṃyujjati, ayaṃ kāmupādānadhammo ‘kāmayogo’ti vuccatī’’tiādinā yojanā kātabbā. Sesānaṃ yojanatthādayo pāḷito, aṭṭhakathāto ca pākaṭā.
๘๕. ‘‘อาหาราทีสุ กตเม กตมา ทิสา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ อิมา จตโสฺส ทิสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ เตสุ อาหารจตุกฺกาทีสุ ทสสุ จตุเกฺกสุ ปฐโม ปฐโม กพฬีการาหาราทิโก ปฐมา ทิสา, ทุติโย ทุติโย ผสฺสาหาราทิโก ทุติยา ทิสา, ตติโย ตติโย วิญฺญาณาหาราทิโก ตติยา ทิสา, จตุโตฺถ จตุโตฺถ มโนสเญฺจตนาหาราทิโก จตุตฺถา ทิสาติ เวทิตพฺพาฯ
85. ‘‘Āhārādīsu katame katamā disā’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha imā catasso disā’’tiādi vuttaṃ. Tattha tesu āhāracatukkādīsu dasasu catukkesu paṭhamo paṭhamo kabaḷīkārāhārādiko paṭhamā disā, dutiyo dutiyo phassāhārādiko dutiyā disā, tatiyo tatiyo viññāṇāhārādiko tatiyā disā, catuttho catuttho manosañcetanāhārādiko catutthā disāti veditabbā.
‘‘ตาสุ จตูสุ ทิสาสุ เตสุ กพฬีการาหาราทีสุ ธเมฺมสุ กตเม ธมฺมา กตมสฺส อุปกฺกิเลสา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิเม อาหาราทโย ธมฺมา อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสาติ วิภตฺตาติ ทเสฺสตุํ ‘‘ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร อาหาโร…เป.… อิเม ทิฎฺฐิจริตสฺส อุทตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตํฯ อฎฺฐกถายํ ปน – ‘‘กพฬีการาหาโร อาหาโรติอาทิ อาหาราทีสุ เย ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุปกฺกิเลสา, ตํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๘๕) วุตฺตํฯ ทสนฺนํ สุตฺตานนฺติ เอกเทสภูตานํ ทสนฺนํ สุตฺตานํฯ อโตฺถติ สภาวธโมฺมฯ สทฺทโตฺถ หิ อสมาโนติฯ ‘‘พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ เอเตน จ สทฺทตฺถสฺส นานตฺตํ ทเสฺสติฯ
‘‘Tāsu catūsu disāsu tesu kabaḷīkārāhārādīsu dhammesu katame dhammā katamassa upakkilesā’’ti pucchitabbattā ime āhārādayo dhammā imassa puggalassa upakkilesāti vibhattāti dassetuṃ ‘‘tattha yo ca kabaḷīkāro āhāro…pe… ime diṭṭhicaritassa udattassa upakkilesā’’ti vuttaṃ. Aṭṭhakathāyaṃ pana – ‘‘kabaḷīkārāhāro āhārotiādi āhārādīsu ye yassa puggalassa upakkilesā, taṃ vibhajitvā dassetuṃ āraddha’’nti (netti. aṭṭha. 85) vuttaṃ. Dasannaṃ suttānanti ekadesabhūtānaṃ dasannaṃ suttānaṃ. Atthoti sabhāvadhammo. Saddattho hi asamānoti. ‘‘Byañjanameva nāna’’nti etena ca saddatthassa nānattaṃ dasseti.
‘‘กพฬีการาหาราทีสุ กตเม อาหาราทโย กตเมน วิโมกฺขมุเขน ปริญฺญํ ปหานํ คจฺฉนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จ กพฬีกาโร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Kabaḷīkārāhārādīsu katame āhārādayo katamena vimokkhamukhena pariññaṃ pahānaṃ gacchantī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha yo ca kabaḷīkāro’’tiādi vuttaṃ.
อิตีติ เอวํ วุตฺตปฺปการาฯ สเพฺพติ สเพฺพ อาหาราทโย ธมฺมา โลกวฎฺฎานุสาริโน ภวนฺติฯ เตติ เต สเพฺพ อาหาราทโย ธมฺมาฯ โลกาติ โลกโต วฎฺฎโตฯ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิยฺยนฺติฯ
Itīti evaṃ vuttappakārā. Sabbeti sabbe āhārādayo dhammā lokavaṭṭānusārino bhavanti. Teti te sabbe āhārādayo dhammā. Lokāti lokato vaṭṭato. Tīhi vimokkhamukhehi aniccānupassanādīhi niyyanti.
๘๖. สํกิเลสปเกฺข ทิสาภูตา อาหารจตุกฺกาทโย ทส จตุกฺกา ธมฺมา อาจริเยน นิทฺธาเรตฺวา ทสฺสิตา, อเมฺหหิ จ ญาตา, ‘‘โวทานปเกฺข กตเม ทิสาภูตา ธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา โวทานปเกฺข ทิสาภูเต ธเมฺม ทเสฺสตุํ ‘‘จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ จตฺตาโร วิหาราติ ทิพฺพวิหารา พฺรหฺมวิหารา อริยวิหารา อาเนญฺชวิหาราติ จตฺตาโร วิหาราฯ เตสุ รูปาวจรสมาปตฺติโย ทิพฺพวิหารา, จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย พฺรหฺมวิหารา, จตโสฺส ผลสมาปตฺติโย อริยวิหารา, จตโสฺส อรูปสมาปตฺติโย อาเนญฺชวิหารา จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมาติ มานปหานํ อาลยสมุคฺฆาโต อวิชฺชาปหานํ ภวูปสโมติ จตฺตาโร อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมาฯ จตฺตาริ อธิฎฺฐานานีติ สจฺจาธิฎฺฐานํ จาคาธิฎฺฐานํ ปญฺญาธิฎฺฐานํ อุปสมาธิฎฺฐานนฺติ จตฺตาริ อธิฎฺฐานานิฯ จตโสฺส สมาธิภาวนาติ ฉนฺทสมาธิภาวนา วีริยสมาธิภาวนา จิตฺตสมาธิภาวนา วีมํสาสมาธิภาวนาติ จตโสฺส สมาธิภาวนาฯ จตฺตาโร สุขภาคิยาติ อินฺทฺริยสํวโร ตโป โพชฺฌโงฺค สพฺพูปธิปฎินิสฺสโคฺคติ จตฺตาโร สุขภาคิยาฯ อวเสสา ปากฎาฯ
86. Saṃkilesapakkhe disābhūtā āhāracatukkādayo dasa catukkā dhammā ācariyena niddhāretvā dassitā, amhehi ca ñātā, ‘‘vodānapakkhe katame disābhūtā dhammā’’ti pucchitabbattā vodānapakkhe disābhūte dhamme dassetuṃ ‘‘catasso paṭipadā’’tiādi vuttaṃ. Cattāro vihārāti dibbavihārā brahmavihārā ariyavihārā āneñjavihārāti cattāro vihārā. Tesu rūpāvacarasamāpattiyo dibbavihārā, catasso appamaññāyo brahmavihārā, catasso phalasamāpattiyo ariyavihārā, catasso arūpasamāpattiyo āneñjavihārācattāro acchariyā abbhutā dhammāti mānapahānaṃ ālayasamugghāto avijjāpahānaṃ bhavūpasamoti cattāro acchariyaabbhutadhammā. Cattāri adhiṭṭhānānīti saccādhiṭṭhānaṃ cāgādhiṭṭhānaṃ paññādhiṭṭhānaṃ upasamādhiṭṭhānanti cattāri adhiṭṭhānāni. Catasso samādhibhāvanāti chandasamādhibhāvanā vīriyasamādhibhāvanā cittasamādhibhāvanā vīmaṃsāsamādhibhāvanāti catasso samādhibhāvanā. Cattārosukhabhāgiyāti indriyasaṃvaro tapo bojjhaṅgo sabbūpadhipaṭinissaggoti cattāro sukhabhāgiyā. Avasesā pākaṭā.
‘‘จตูสุ จตูสุ ปฎิปทาทีสุ กตโม ปฎิปทาทิโก ปฐโม สติปฎฺฐานาทิโก ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปฐมา ปฎิปทา ปฐมํ สติปฎฺฐาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘ปฎิปทาทโย ปญฺญาปทฎฺฐานาทิกา, สติปฎฺฐานาทโย ปน สติปทฎฺฐานาทิกา, ตสฺมา ‘ปฐมา ปฎิปทา ปฐมํ สติปฎฺฐาน’นฺติอาทิโยชนา กาตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฐมา ปฎิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ปฐมํ สติปฎฺฐานํ ปูเรตี’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปูรกปูเรตพฺพภาวโต ตถา โยชนา กาตพฺพาติ อธิปฺปาโยฯ อถ วา ‘‘ภาวิตา พหุลีกตา กตเม ปฎิปทาทโย กตเม สติปฎฺฐานาทิเก ปูเรนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปฐมา ปฎิปทา ภาวิตา พหุลีกตา ปฐมํ สติปฎฺฐานํ ปูเรตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ
‘‘Catūsu catūsu paṭipadādīsu katamo paṭipadādiko paṭhamo satipaṭṭhānādiko bhavatī’’ti pucchitabbattā ‘‘paṭhamā paṭipadā paṭhamaṃ satipaṭṭhāna’’ntiādi vuttaṃ. ‘‘Paṭipadādayo paññāpadaṭṭhānādikā, satipaṭṭhānādayo pana satipadaṭṭhānādikā, tasmā ‘paṭhamā paṭipadā paṭhamaṃ satipaṭṭhāna’ntiādiyojanā kātabbā’’ti vattabbattā ‘‘paṭhamā paṭipadā bhāvitā bahulīkatā paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ pūretī’’tiādi vuttaṃ, pūrakapūretabbabhāvato tathā yojanā kātabbāti adhippāyo. Atha vā ‘‘bhāvitā bahulīkatā katame paṭipadādayo katame satipaṭṭhānādike pūrentī’’ti pucchitabbattā ‘‘paṭhamā paṭipadā bhāvitā bahulīkatā paṭhamaṃ satipaṭṭhānaṃ pūretī’’tiādi vuttaṃ.
๘๗. ‘‘เตสุ ทสสุ ปฎิปทาจตุกฺกาทีสุ กตเม ธมฺมา กตมา ทิสา, กตเม ธมฺมา กตมา ทิสา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ อิมา จตโสฺส ทิสา ปฐมา ปฎิปทา, ปฐโม สติปฎฺฐาโน’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ ทสสุ ปฎิปทาจตุกฺกาทีสุฯ อิมา มยา วุจฺจมานา ปฐมา ปฎิปทาทโย ทิสา จตโสฺส ทิสา ภวนฺติฯ
87. ‘‘Tesu dasasu paṭipadācatukkādīsu katame dhammā katamā disā, katame dhammā katamā disā’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha imā catasso disā paṭhamā paṭipadā, paṭhamo satipaṭṭhāno’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu dasasu paṭipadācatukkādīsu. Imā mayā vuccamānā paṭhamā paṭipadādayo disā catasso disā bhavanti.
‘‘เตสุ จตูสุ ทิสาภูเตสุ ปฎิปทาจตุกฺกาทีสุ กตโม ทิสาภูโต อโตฺถ กตมสฺส ปุคฺคลสฺส เภสชฺช’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ปฐมา ปฎิปทา…เป.… ทิฎฺฐิจริตสฺส อุทตฺตสฺส เภสชฺช’’นฺติ วุตฺตํฯ
‘‘Tesu catūsu disābhūtesu paṭipadācatukkādīsu katamo disābhūto attho katamassa puggalassa bhesajja’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha paṭhamā paṭipadā…pe… diṭṭhicaritassa udattassa bhesajja’’nti vuttaṃ.
‘‘เตสุ ทสสุ ปฎิปทาทิจตุเกฺกสุ ธเมฺมสุ กตโม กตโม กตมํ กตมํ วิโมกฺขมุข’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ทุกฺขา จ ปฎิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อโตฺถ ปน ฎีกายํ วิตฺถาเรน วุโตฺต ปากโฎฯ สํกิเลสปเกฺข ทิสาภูตา อาหารจตุกฺกาทโย ทส จตุกฺกา สมติกฺกมิตพฺพปหาตพฺพภาเวน นิทฺธาริตา, โวทานปเกฺข ปน ทิสาภูตา ปฎิปทาจตุกฺกาทโย ทส จตุกฺกา สมติกฺกมปหายกภาเวน นิทฺธาริตาฯ
‘‘Tesu dasasu paṭipadādicatukkesu dhammesu katamo katamo katamaṃ katamaṃ vimokkhamukha’’nti pucchitabbattā ‘‘tattha dukkhā ca paṭipadā’’tiādi vuttaṃ. Attho pana ṭīkāyaṃ vitthārena vutto pākaṭo. Saṃkilesapakkhe disābhūtā āhāracatukkādayo dasa catukkā samatikkamitabbapahātabbabhāvena niddhāritā, vodānapakkhe pana disābhūtā paṭipadācatukkādayo dasa catukkā samatikkamapahāyakabhāvena niddhāritā.
‘‘เตสํ อาหารจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ สมติกฺกมนปหานสงฺขาตํ ยํ วิกฺกีฬิตญฺจ เตสํ ปฎิปทาจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ ภาวนาสงฺขาตํ ยํ วิกฺกีฬิตญฺจ สจฺฉิกิริยาสงฺขาตํ ยํ วิกฺกีฬิตญฺจ อตฺถิ, ตํ ติวิธํ วิกฺกีฬิตํ กตเมสํ ปุคฺคลานํ วิกฺกีฬิตํ ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ วิกฺกีฬิต’’นฺติ วุตฺตํฯ อถ วา ‘‘ยถาวุตฺตปฺปกาเรหิ วิโมกฺขมุเขหิ เย พุทฺธปเจฺจกพุทฺธสาวกา วิมุจฺจิํสุ, เตสุ พุทฺธเสฺสว วิกฺกีฬิตํ ภวติ กิํ, ปเจฺจกพุทฺธเสฺสว วิกฺกีฬิตํ ภวติ กิํ, สาวกเสฺสว วิกฺกีฬิตํ ภวติ กิํ, อุทาหุ สเพฺพสํ พุทฺธปเจฺจกพุทฺธสาวกานํ วิกฺกีฬิตํ ภวติ กิ’’นฺติ วิจารณาย สมฺภวโต ‘‘เตสํ วิกฺกีฬิต’’นฺติ วุตฺตํฯ ยถาวุตฺตปฺปกาเรหิ วิโมกฺขมุเขหิ เย พุทฺธปเจฺจกพุทฺธสาวกา มุจฺจิํสุ, เตสํ พุทฺธปเจฺจกพุทฺธสาวกานํ วิกฺกีฬิตํฯ ยํ อาหารจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ สปรสนฺตาเน สมติกฺกมนปหานญฺจ ยา ปฎิปทาจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ สปรสนฺตาเน ภาวนาสมฺปาทนา, สจฺฉิกิริยาสมฺปาทนา จ อตฺถิ, อิทํ สพฺพํ วิกฺกีฬิตํ นาม ภวตีติ อโตฺถฯ
‘‘Tesaṃ āhāracatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ samatikkamanapahānasaṅkhātaṃ yaṃ vikkīḷitañca tesaṃ paṭipadācatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ bhāvanāsaṅkhātaṃ yaṃ vikkīḷitañca sacchikiriyāsaṅkhātaṃ yaṃ vikkīḷitañca atthi, taṃ tividhaṃ vikkīḷitaṃ katamesaṃ puggalānaṃ vikkīḷitaṃ bhavatī’’ti pucchitabbattā ‘‘tesaṃ vikkīḷita’’nti vuttaṃ. Atha vā ‘‘yathāvuttappakārehi vimokkhamukhehi ye buddhapaccekabuddhasāvakā vimucciṃsu, tesu buddhasseva vikkīḷitaṃ bhavati kiṃ, paccekabuddhasseva vikkīḷitaṃ bhavati kiṃ, sāvakasseva vikkīḷitaṃ bhavati kiṃ, udāhu sabbesaṃ buddhapaccekabuddhasāvakānaṃ vikkīḷitaṃ bhavati ki’’nti vicāraṇāya sambhavato ‘‘tesaṃ vikkīḷita’’nti vuttaṃ. Yathāvuttappakārehi vimokkhamukhehi ye buddhapaccekabuddhasāvakā mucciṃsu, tesaṃ buddhapaccekabuddhasāvakānaṃ vikkīḷitaṃ. Yaṃ āhāracatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ saparasantāne samatikkamanapahānañca yā paṭipadācatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ saparasantāne bhāvanāsampādanā, sacchikiriyāsampādanā ca atthi, idaṃ sabbaṃ vikkīḷitaṃ nāma bhavatīti attho.
‘‘สเพฺพสํ อาหารจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ สเพฺพ ปฎิปทาจตุกฺกาทโย ทส จตุกฺกา ปฎิปกฺขา โหนฺติ กิํ, อุทาหุ ยถากฺกมํ จตุกฺกานํ จตุกฺกา ปฎิปกฺขา โหนฺติ กิ’’นฺติ วิจารณาย สมฺภวโต ยถากฺกมํ จตุกฺกานํ จตุกฺกา ปฎิปกฺขา โหนฺติ ปหาตพฺพปหายกภาเวนาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฎิปโกฺข จตโสฺส ปฎิปทา’’ติอาทิมาหฯ อฎฺฐกถายํ ปน – ‘‘อิทานิ อาหาราทีนํ ปฎิปทาทีหิ เยน สมติกฺกมนํ, ตํ เนสํ ปฎิปกฺขภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘จตฺตาโร อาหารา เตสํ ปฎิปโกฺข จตโสฺส ปฎิปทา’ติอาทิมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๘๗) วุตฺตํฯ ตตฺถ สํกิเลสปเกฺข จตฺตาโร เย อาหารา นิทฺธาริตา, เตสํ จตุนฺนํ อาหารานํ โวทานปเกฺข ยา จตโสฺส ปฎิปทา นิทฺธาริตา, ตา จตโสฺส ปฎิปทา ปฎิปโกฺข อาหารานํ ปหาตพฺพตฺตา, ปฎิปทานํ ปน ปหายกตฺตาฯ สติปิ อาหารานํ อปฺปหาตพฺพภาเว วิปสฺสนารมฺมณตฺตา อาหารปฎิพทฺธฉนฺทราคปฺปหานวเสน ปหาตพฺพภาโว วุโตฺตติ เอวมาทิโยชนา กาตพฺพาฯ
‘‘Sabbesaṃ āhāracatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ sabbe paṭipadācatukkādayo dasa catukkā paṭipakkhā honti kiṃ, udāhu yathākkamaṃ catukkānaṃ catukkā paṭipakkhā honti ki’’nti vicāraṇāya sambhavato yathākkamaṃ catukkānaṃ catukkā paṭipakkhā honti pahātabbapahāyakabhāvenāti dassento ‘‘cattāro āhārā tesaṃ paṭipakkho catasso paṭipadā’’tiādimāha. Aṭṭhakathāyaṃ pana – ‘‘idāni āhārādīnaṃ paṭipadādīhi yena samatikkamanaṃ, taṃ nesaṃ paṭipakkhabhāvaṃ dassento ‘cattāro āhārā tesaṃ paṭipakkho catasso paṭipadā’tiādimāhā’’ti (netti. aṭṭha. 87) vuttaṃ. Tattha saṃkilesapakkhe cattāro ye āhārā niddhāritā, tesaṃ catunnaṃ āhārānaṃ vodānapakkhe yā catasso paṭipadā niddhāritā, tā catasso paṭipadā paṭipakkho āhārānaṃ pahātabbattā, paṭipadānaṃ pana pahāyakattā. Satipi āhārānaṃ appahātabbabhāve vipassanārammaṇattā āhārapaṭibaddhachandarāgappahānavasena pahātabbabhāvo vuttoti evamādiyojanā kātabbā.
สีหาติ สีหสทิสา พุทฺธา จ สีหสทิสา ปเจฺจกพุทฺธา จ สีหสทิสา สาวกา จาติ สีหสทิสา วิสุํ วิสุํ โยเชตพฺพาฯ สาวกา ปน อหตราคโทสโมหาปิ สนฺติ, เตปิ ‘‘สีหา’’ติ มเญฺญยฺยุนฺติ ตํ นิวตฺตาปนตฺถํ ‘‘หตราคโทสโมหา’’ติ วุตฺตํฯ หนิตพฺพาติ หตา, ราโค จ โทโส จ โมโห จ ราคโทสโมหา, หตา ราคโทสโมหา เอเตหิ สาวเกหีติ หตราคโทสโมหา, สาวกาติ โยชนา กาตพฺพา สาวกานํเยว พฺยภิจารสมฺภวโตติฯ เตสํ สีหานํ พุทฺธานํ, เตสํ สีหานํ ปเจฺจกพุทฺธานํ, เตสํ สีหานํ สาวกานํ ภาวนา โวทานปเกฺข ภาวิตพฺพานํ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ภาวนา วฑฺฒนา จ, สจฺฉิกิริยา โวทานปเกฺขเยว สจฺฉิกาตพฺพานํ ผลนิพฺพานานํ สจฺฉิกิริยา จ, พฺยนฺตีกิริยา สํกิเลสปเกฺข ปหาตพฺพานํ ปหานสงฺขาตา พฺยนฺตีกิริยา จ วิกฺกีฬิตํ นาม ภวติฯ
Sīhāti sīhasadisā buddhā ca sīhasadisā paccekabuddhā ca sīhasadisā sāvakā cāti sīhasadisā visuṃ visuṃ yojetabbā. Sāvakā pana ahatarāgadosamohāpi santi, tepi ‘‘sīhā’’ti maññeyyunti taṃ nivattāpanatthaṃ ‘‘hatarāgadosamohā’’ti vuttaṃ. Hanitabbāti hatā, rāgo ca doso ca moho ca rāgadosamohā, hatā rāgadosamohā etehi sāvakehīti hatarāgadosamohā, sāvakāti yojanā kātabbā sāvakānaṃyeva byabhicārasambhavatoti. Tesaṃ sīhānaṃ buddhānaṃ, tesaṃ sīhānaṃ paccekabuddhānaṃ, tesaṃ sīhānaṃ sāvakānaṃ bhāvanā vodānapakkhe bhāvitabbānaṃ bodhipakkhiyadhammānaṃ bhāvanā vaḍḍhanā ca, sacchikiriyā vodānapakkheyeva sacchikātabbānaṃ phalanibbānānaṃ sacchikiriyā ca, byantīkiriyā saṃkilesapakkhe pahātabbānaṃ pahānasaṅkhātā byantīkiriyā ca vikkīḷitaṃ nāma bhavati.
อินฺทฺริยาธิฎฺฐานนฺติ สทฺธินฺทฺริยาทีนํ อินฺทฺริยานํ อธิฎฺฐานํ ปวตฺตนํ ภาวนา, สจฺฉิกิริยา จฯ วิปริยาสานธิฎฺฐานนฺติ วิปลฺลาสานํ อธิฎฺฐานํ ปหานวเสน อปฺปวตฺตนํ, อนุปฺปาทนญฺจ สเงฺขปโต วิกฺกีฬิตํ นามาติ คหิตํฯ อินฺทฺริยานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ สทฺธมฺมโคจโร สทฺธมฺมสฺส โวทานปกฺขสฺส โคจโร ปวตฺตนเหตูติ อธิเปฺปตานิฯ วิปริยาสา วิปลฺลาสา กิเลสโคจโร สํกิเลสปกฺขสฺส โคจโร ปวตฺติเหตูติ อธิเปฺปตาฯ
Indriyādhiṭṭhānanti saddhindriyādīnaṃ indriyānaṃ adhiṭṭhānaṃ pavattanaṃ bhāvanā, sacchikiriyā ca. Vipariyāsānadhiṭṭhānanti vipallāsānaṃ adhiṭṭhānaṃ pahānavasena appavattanaṃ, anuppādanañca saṅkhepato vikkīḷitaṃ nāmāti gahitaṃ. Indriyāni saddhindriyādīni saddhammagocaro saddhammassa vodānapakkhassa gocaro pavattanahetūti adhippetāni. Vipariyāsā vipallāsā kilesagocaro saṃkilesapakkhassa gocaro pavattihetūti adhippetā.
‘‘จตฺตาโร อาหาราติอาทินา สํกิเลสปเกฺข อาหารจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ ตณฺหาจริตาทีนํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อุปกฺกิเลสวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา อาจริเยน กตา, ‘จตโสฺส ปฎิปทา’ติอาทินา จ โวทานปเกฺข ปฎิปทาจตุกฺกาทีนํ ทสนฺนํ จตุกฺกานํ ตณฺหาจริตาทีนํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ โวทานวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา อาจริเยน กตา, สา อยํ นิทฺธารณา กตมสฺส นยสฺส สมุฎฺฐานํ ภูมีติ วุจฺจตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อยํ วุจฺจติ สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อยนฺติ ยา อยํ วุตฺตนเยน ทฺวิปฺปการา นิทฺธารณา กตา, สา อยํ ทฺวิปฺปการา นิทฺธารณา สีหวิกฺกีฬิตสฺส นยสฺส ภูมิ ปวตฺติฎฺฐานํ สมุฎฺฐานนฺติ นยสมุฎฺฐานโกสเลฺลหิ ปุคฺคเลหิ วุจฺจตีติ โยชนา กาตพฺพาติฯ
‘‘Cattāro āhārātiādinā saṃkilesapakkhe āhāracatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ taṇhācaritādīnaṃ catunnaṃ puggalānaṃ upakkilesavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā ācariyena katā, ‘catasso paṭipadā’tiādinā ca vodānapakkhe paṭipadācatukkādīnaṃ dasannaṃ catukkānaṃ taṇhācaritādīnaṃ catunnaṃ puggalānaṃ vodānavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā ācariyena katā, sā ayaṃ niddhāraṇā katamassa nayassa samuṭṭhānaṃ bhūmīti vuccatī’’ti pucchitabbattā ‘‘ayaṃ vuccati sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmī’’ti vuttaṃ. Tattha ayanti yā ayaṃ vuttanayena dvippakārā niddhāraṇā katā, sā ayaṃ dvippakārā niddhāraṇā sīhavikkīḷitassa nayassa bhūmi pavattiṭṭhānaṃ samuṭṭhānanti nayasamuṭṭhānakosallehi puggalehi vuccatīti yojanā kātabbāti.
‘‘วุตฺตปฺปการาย นิทฺธาริตาย นยสฺส ภูมิภาโว กสฺมา วิญฺญายตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตน วุตฺตปฺปการาย นิทฺธารณาย นยภูมิภาเวน ‘‘โย เนติ…เป.… กุสลาติ จา’’ติ ยํ วจนํ อาจริโย อาห, เตน วจเนน วิญฺญายตีติฯ
‘‘Vuttappakārāya niddhāritāya nayassa bhūmibhāvo kasmā viññāyatī’’ti vattabbattā ‘‘tenāhā’’tiādi vuttaṃ. Tena vuttappakārāya niddhāraṇāya nayabhūmibhāvena ‘‘yo neti…pe… kusalāti cā’’ti yaṃ vacanaṃ ācariyo āha, tena vacanena viññāyatīti.
สีหวิกฺกีฬิตนยภูมิ อาจริเยน วิภาวิตา, อเมฺหหิ จ ญาตา, ‘‘กตมา ติปุกฺขลนยภูมี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ติปุกฺขลนยภูมิํ วิภาเวตุกาโม ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิมาหฯ เอวํ สติ ‘‘อยํ สํกิเลโส, ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติอาทิวจนเมว อาจริเยน วตฺตพฺพํ, กสฺมา ปน ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิวจนํ วตฺตพฺพนฺติ? สจฺจํ, ติปุกฺขลนยภูมิภาวนา ปน อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตยวเสน ปวตฺตา, ตสฺมา อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตยํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิวจนํ วุตฺตํฯ เอวมปิ ‘‘ตตฺถ โย สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยาติ, อยํ อุคฺฆฎิตญฺญู’’ติอาทิวจนเมว วตฺตพฺพํ , กสฺมา ปน ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิวจนํ วตฺตพฺพนฺติ? สจฺจํ, อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลตฺตยํ ปน สีหวิกฺกีฬิตนยโต ติปุกฺขลนยสฺส นิคฺคจฺฉนโต นิกฺขมนโต สีหวิกฺกีฬิตนยภูมิวิภาวนายํ ปฎิปทาวิภาคโต วิภาวิตปุคฺคลจตุกฺกโต นิทฺธาริตํ, สีหวิกฺกีฬิตนยภูมิวิภาวนายํ ปฎิปทาวิภาคโต วิภาวิตํ ปุคฺคลจตุกฺกํ ปฐมํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ เย ทุกฺขาย ปฎิปทายา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ โย ปฎิปทาจตุโกฺก สีหวิกฺกีฬิตนยภูมิวิภาวนายํ นิทฺธาริโต, ตสฺมิํ ปฎิปทาจตุเกฺกฯ เยติ เย ทนฺธอุทตฺตา ทิฎฺฐิจริตปุคฺคลา ยถากฺกมํ สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย จ สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย จ นิยฺยนฺติ, อิติ นิยฺยกา เทฺว ปุคฺคลา จ นิทฺธาริตาฯ ‘‘เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ กตโม สํกิเลโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส’’ติ วิสฺสเชฺชตุํ ‘‘เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ จตฺตาโร อาหารา นิทฺธาริตา…เป.… จตฺตาริ อคติคมนานิ นิทฺธาริตานิ, อิติ อยํ ทสวิโธ อาหารจตุกฺกาทิจตุโกฺก เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโส โหติฯ เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโส อาจริเยน นิทฺธาริโต, ‘‘กตมํ โวทาน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ จตโสฺส ปฎิปทา นิทฺธาริตา, จตโสฺส อปฺปมาณา นิทฺธาริตา, อิติ อิทํ ทสวิธํ ปฎิปทาจตุกฺกาทิจตุกฺกภูตํ ธมฺมชาตํ เตสํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ โวทานํ โหติฯ
Sīhavikkīḷitanayabhūmi ācariyena vibhāvitā, amhehi ca ñātā, ‘‘katamā tipukkhalanayabhūmī’’ti pucchitabbattā tipukkhalanayabhūmiṃ vibhāvetukāmo ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādimāha. Evaṃ sati ‘‘ayaṃ saṃkileso, tīṇi akusalamūlānī’’tiādivacanameva ācariyena vattabbaṃ, kasmā pana ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādivacanaṃ vattabbanti? Saccaṃ, tipukkhalanayabhūmibhāvanā pana ugghaṭitaññuādipuggalattayavasena pavattā, tasmā ugghaṭitaññuādipuggalattayaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādivacanaṃ vuttaṃ. Evamapi ‘‘tattha yo sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyāti, ayaṃ ugghaṭitaññū’’tiādivacanameva vattabbaṃ , kasmā pana ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādivacanaṃ vattabbanti? Saccaṃ, ugghaṭitaññuādipuggalattayaṃ pana sīhavikkīḷitanayato tipukkhalanayassa niggacchanato nikkhamanato sīhavikkīḷitanayabhūmivibhāvanāyaṃ paṭipadāvibhāgato vibhāvitapuggalacatukkato niddhāritaṃ, sīhavikkīḷitanayabhūmivibhāvanāyaṃ paṭipadāvibhāgato vibhāvitaṃ puggalacatukkaṃ paṭhamaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tattha ye dukkhāya paṭipadāyā’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti yo paṭipadācatukko sīhavikkīḷitanayabhūmivibhāvanāyaṃ niddhārito, tasmiṃ paṭipadācatukke. Yeti ye dandhaudattā diṭṭhicaritapuggalā yathākkamaṃ sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya ca sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya ca niyyanti, iti niyyakā dve puggalā ca niddhāritā. ‘‘Tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ katamo saṃkileso’’ti pucchitabbattā ‘‘tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ ayaṃ saṃkileso’’ti vissajjetuṃ ‘‘tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ ayaṃ saṃkileso’’tiādi vuttaṃ. Cattāro āhārā niddhāritā…pe… cattāri agatigamanāni niddhāritāni, iti ayaṃ dasavidho āhāracatukkādicatukko tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ saṃkileso hoti. Tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ saṃkileso ācariyena niddhārito, ‘‘katamaṃ vodāna’’nti pucchitabbattā ‘‘tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ idaṃ vodāna’’ntiādi vuttaṃ. Catasso paṭipadā niddhāritā, catasso appamāṇā niddhāritā, iti idaṃ dasavidhaṃ paṭipadācatukkādicatukkabhūtaṃ dhammajātaṃ tesaṃ catunnaṃ puggalānaṃ vodānaṃ hoti.
๘๘. ‘‘เตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ กตโม ปุคฺคโล อุคฺฆฎิตญฺญู, กตโม ปุคฺคโล วิปญฺจิตญฺญู, กตโม ปุคฺคโล เนโยฺย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ เย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘ปุเพฺพปิ ‘ตตฺถ เย’ติอาทินา จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺธาริตา, กสฺมา ปน ปุน ‘‘ตตฺถ เย’ติอาทินา จตฺตาโร ปุคฺคลา นิทฺธาริตา’’ติ เจ วเทยฺย? ปุเพฺพ สํกิเลสโวทานํ สามิภาเวน นิทฺธาริตา, ปจฺฉา ปน อุคฺฆฎิตญฺญุอาทีนํ อวยวานํ สมูหภาเวน นิทฺธาริตาติ วิเสสโตฺถ คเหตโพฺพฯ ตตฺถ เย…เป.… อิเม เทฺว ปุคฺคลาติ เอตฺถ โยชนโตฺถ เหฎฺฐา วุตฺตสทิโสวฯ ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุฯ โยติ อุทโตฺต ทิฎฺฐิจริโตฯ อยนฺติ อยํ นิยโต อุทโตฺต ทิฎฺฐิจริโตฯ ปุน โยติ อุทโตฺตว ตณฺหาจริโต จ มโนฺท ทิฎฺฐิจริโต จฯ สาธารณายาติ ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย จ สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย จฯ
88. ‘‘Tesu catūsu puggalesu katamo puggalo ugghaṭitaññū, katamo puggalo vipañcitaññū, katamo puggalo neyyo’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha ye’’tiādi vuttaṃ. ‘‘Pubbepi ‘tattha ye’tiādinā cattāro puggalā niddhāritā, kasmā pana puna ‘‘tattha ye’tiādinā cattāro puggalā niddhāritā’’ti ce vadeyya? Pubbe saṃkilesavodānaṃ sāmibhāvena niddhāritā, pacchā pana ugghaṭitaññuādīnaṃ avayavānaṃ samūhabhāvena niddhāritāti visesattho gahetabbo. Tattha ye…pe… ime dve puggalāti ettha yojanattho heṭṭhā vuttasadisova. Tatthāti tesu catūsu puggalesu. Yoti udatto diṭṭhicarito. Ayanti ayaṃ niyato udatto diṭṭhicarito. Puna yoti udattova taṇhācarito ca mando diṭṭhicarito ca. Sādhāraṇāyāti dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya ca sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya ca.
‘‘อุคฺฆฎิตญฺญุอาทโย ตโย ปุคฺคลา อาจริเยน นิทฺธาริตา, เตสุ ตีสุ ปุคฺคเลสุ กตมสฺส กตมสฺส กตมํ กตมํ ภควา อุปทิสตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อถ วา ‘‘ปฎิปทาเภเทน ปุคฺคลเภโท อาจริเยน วิภาวิโต, กถํ เทสนาเภเทน ปุคฺคลเภโท วิภาวิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา เทสนาเภเทนปิ ปุคฺคลเภทํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ อุคฺฆฎิตญฺญุอาทีสุ ปุคฺคเลสุฯ ‘‘สมถเทสนาวิปสฺสนาเทสนาเภเทเนว ปุคฺคลเภโท วิภาวิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา มุทุธมฺมเทสนาติกฺขธมฺมเทสนาเภเทนปิ ปุคฺคลเภทํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เสเสสุปิ เอวเมว อนุสนฺธฺยโตฺถ วตฺตโพฺพฯ
‘‘Ugghaṭitaññuādayo tayo puggalā ācariyena niddhāritā, tesu tīsu puggalesu katamassa katamassa katamaṃ katamaṃ bhagavā upadisatī’’ti pucchitabbattā ‘‘tattha bhagavā’’tiādi vuttaṃ. Atha vā ‘‘paṭipadābhedena puggalabhedo ācariyena vibhāvito, kathaṃ desanābhedena puggalabhedo vibhāvito’’ti vattabbattā desanābhedenapi puggalabhedaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tattha bhagavā’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti tesu tīsu ugghaṭitaññuādīsu puggalesu. ‘‘Samathadesanāvipassanādesanābhedeneva puggalabhedo vibhāvito’’ti vattabbattā mududhammadesanātikkhadhammadesanābhedenapi puggalabhedaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tattha bhagavā’’tiādi vuttaṃ. Sesesupi evameva anusandhyattho vattabbo.
วิสุํ วิสุํ ปฎิปทาเภเทน จตฺตาโร หุตฺวา วิสุํ จ สมฺปิณฺฑิตา จ ปฎิปทาเภเทน เจว เทสนาเภเทน จ ตโย โหนฺตีติ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ เย’’ติอาทิํ ปุน วตฺวา ‘‘อิติ โข จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ จตฺตาริ ตีณีติ ลิงฺควิปลฺลาสนิเทฺทโส, ‘‘จตฺตาโร ตโย’’ติ ปน ปกติลิงฺคนิเทฺทโส กาตโพฺพวฯ
Visuṃ visuṃ paṭipadābhedena cattāro hutvā visuṃ ca sampiṇḍitā ca paṭipadābhedena ceva desanābhedena ca tayo hontīti vibhāvetuṃ ‘‘tattha ye’’tiādiṃ puna vatvā ‘‘iti kho cattāri hutvā tīṇi bhavantī’’ti vuttaṃ. Tattha cattāri tīṇīti liṅgavipallāsaniddeso, ‘‘cattāro tayo’’ti pana pakatiliṅganiddeso kātabbova.
‘‘เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ กตโม สํกิเลโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อยํ สํกิเลโสติ ‘‘ตีณิ อกุสลมูลานิ…เป.… สีลวิปตฺติ ทิฎฺฐิวิปตฺติ อาจารวิปตฺตี’’ติ นิทฺธาริตานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อิติ อยํ สมูโห สํกิเลโส โหติฯ ‘‘เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโส อาจริเยน นิทฺธาริโต, กถํ โวทานํ นิทฺธาริตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อิทํ โวทานนฺติ ‘‘ตีณิ กุสลมูลานิ…เป.… ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ สุญฺญตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิต’’นฺติ นิทฺธาริตานํ กุสลธมฺมานํ สมูหภูตํ อิติ อิทํ ธมฺมชาตํ โวทานํ โหติฯ
‘‘Tesaṃ tiṇṇaṃ puggalānaṃ katamo saṃkileso’’ti pucchitabbattā ‘‘tesaṃ tiṇṇaṃ puggalānaṃ ayaṃ saṃkileso’’tiādi vuttaṃ. Tattha ayaṃ saṃkilesoti ‘‘tīṇi akusalamūlāni…pe… sīlavipatti diṭṭhivipatti ācāravipattī’’ti niddhāritānaṃ akusalānaṃ dhammānaṃ iti ayaṃ samūho saṃkileso hoti. ‘‘Tesaṃ tiṇṇaṃ puggalānaṃ saṃkileso ācariyena niddhārito, kathaṃ vodānaṃ niddhāritabba’’nti vattabbattā ‘‘tesaṃ tiṇṇaṃ puggalānaṃ idaṃ vodāna’’ntiādi vuttaṃ. Tattha idaṃ vodānanti ‘‘tīṇi kusalamūlāni…pe… tīṇi vimokkhamukhāni suññataṃ animittaṃ appaṇihita’’nti niddhāritānaṃ kusaladhammānaṃ samūhabhūtaṃ iti idaṃ dhammajātaṃ vodānaṃ hoti.
‘‘วุตฺตปฺปกาเรน จตฺตาโร หุตฺวา ตโย ปุคฺคลา ภวนฺตีติ อาจริเยน วิภาวิตา, ตโย หุตฺวา กิตฺตกา ปุคฺคลา ภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘อิติ โข จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ, ตีณิ หุตฺวา เทฺว ภวนฺติ ตณฺหาจริโต จ ทิฎฺฐิจริโต จา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิตีติ เหฎฺฐา วุตฺตปฺปกาเรน จตฺตาริ จตฺตาโร หุตฺวา ตีณิ ตโย ภวนฺติฯ ตีณิ ตโย หุตฺวา ตณฺหาจริโต จ ทิฎฺฐิจริโต จาติ เทฺว ปุคฺคลา ภวนฺติฯ
‘‘Vuttappakārena cattāro hutvā tayo puggalā bhavantīti ācariyena vibhāvitā, tayo hutvā kittakā puggalā bhavantī’’ti vattabbabhāvato ‘‘iti kho cattāri hutvā tīṇi bhavanti, tīṇi hutvā dve bhavanti taṇhācarito ca diṭṭhicarito cā’’tiādi vuttaṃ. Itīti heṭṭhā vuttappakārena cattāri cattāro hutvā tīṇi tayo bhavanti. Tīṇi tayo hutvā taṇhācarito ca diṭṭhicarito cāti dve puggalā bhavanti.
‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ กตโม สํกิเลโส’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อยํ สํกิเลโส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อยํ สํกิเลโสติ ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จ…เป.… สสฺสตทิฎฺฐิ จ อุเจฺฉททิฎฺฐิ จา’’ติ นิทฺธาริตานํ อกุสลธมฺมานํ อิติ อยํ สมูโห สํกิเลโส โหติฯ
‘‘Tesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ katamo saṃkileso’’ti vattabbabhāvato ‘‘tesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ ayaṃ saṃkileso’’tiādi vuttaṃ. Tattha ayaṃ saṃkilesoti ‘‘taṇhā ca avijjā ca…pe… sassatadiṭṭhi ca ucchedadiṭṭhi cā’’ti niddhāritānaṃ akusaladhammānaṃ iti ayaṃ samūho saṃkileso hoti.
‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโส อาจริเยน นิทฺธาริโต, กถํ โวทาน’’นฺติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ อิทํ โวทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อิทํ โวทานนฺติ ‘‘สมโถ จ วิปสฺสนา จ…เป.… สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ, อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตู’’ติ นิทฺธาริตานํ กุสลธมฺมานํ สมูหภูตํ อิติ อิทํ ธมฺมชาตํ โวทานํ โหติฯ
‘‘Tesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ saṃkileso ācariyena niddhārito, kathaṃ vodāna’’nti vattabbabhāvato ‘‘tesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ idaṃ vodāna’’ntiādi vuttaṃ. Idaṃ vodānanti ‘‘samatho ca vipassanā ca…pe… saupādisesā ca nibbānadhātu, anupādisesā ca nibbānadhātū’’ti niddhāritānaṃ kusaladhammānaṃ samūhabhūtaṃ iti idaṃ dhammajātaṃ vodānaṃ hoti.
‘‘ตีณิ อกุสลมูลานี’’ติอาทินา สํกิเลสปเกฺข อกุสลมูลติกาทีนํ ทฺวินฺนํ ทฺวาทสนฺนํ ติกานํ, ติณฺณํ อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลานํ สํกิเลสวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา กตา, ‘‘ตีณิ กุสลมูลานี’’ติอาทินา โวทานปเกฺข กุสลมูลติกาทีนํ ทฺวินฺนํ ทฺวาทสนฺนํ ติกานํ, ติณฺณํ อุคฺฆฎิตญฺญุอาทิปุคฺคลานํ โวทานวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา กตา, อยํ วุตฺตปฺปการนิทฺธารณา ติปุกฺขลสฺส จ นยสฺส, องฺกุสสฺส จ นยสฺส ภูมิ สมุฎฺฐานํ ปวตฺติเหตุ นามาติ โยเชตฺวา ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’’ติอาทินา สํกิเลสปเกฺข ตณฺหาอวิชฺชาทุกาทีนํ ปนฺนรสนฺนํ ทุกานํ, ทฺวินฺนํ ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตานํ ปุคฺคลานํ โวทานวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา กตา, ‘‘สมโถ จ วิปสฺสนา จา’’ติอาทินา โวทานปเกฺข สมถวิปสฺสนาทุกาทีนํ เอกูนวีสติทุกานํ, ทฺวินฺนํ ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตานํ ปุคฺคลานํ โวทานวิภาวนามุเขน ยา นิทฺธารณา กตา, อยํ วุตฺตปฺปการา นนฺทิยาวฎฺฎสฺส นยสฺส ภูมีติปิ นีหริตฺวา โยเชตพฺพาฯ ปุคฺคลาธิฎฺฐานวเสน หิ นนฺทิยาวฎฺฎนยโต สีหวิกฺกีฬิตนยสฺส สมฺภโว, สีหวิกฺกีฬิตนยโต จ ติปุกฺขลนยสฺส สมฺภโว โหติฯ ธมฺมาธิฎฺฐานวเสน ปน สีหวิกฺกีฬิตนยโต ติปุกฺขลนยสฺส สมฺภโว, ติปุกฺขลนยโต จ นนฺทิยาวฎฺฎนยสฺส สมฺภโว โหติฯ เตนาห อฎฺฐกถายํ ‘‘อเนฺต ‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’ติอาทินา สมถสฺส นยสฺส ภูมิ ทสฺสิตาฯ เตเนว หิ ‘จตฺตาริ หุตฺวา ตีณิ ภวนฺติ, ตีณิ หุตฺวา เทฺว ภวนฺตี’ติ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๘๘)ฯ
‘‘Tīṇi akusalamūlānī’’tiādinā saṃkilesapakkhe akusalamūlatikādīnaṃ dvinnaṃ dvādasannaṃ tikānaṃ, tiṇṇaṃ ugghaṭitaññuādipuggalānaṃ saṃkilesavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā katā, ‘‘tīṇi kusalamūlānī’’tiādinā vodānapakkhe kusalamūlatikādīnaṃ dvinnaṃ dvādasannaṃ tikānaṃ, tiṇṇaṃ ugghaṭitaññuādipuggalānaṃ vodānavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā katā, ayaṃ vuttappakāraniddhāraṇā tipukkhalassa ca nayassa, aṅkusassa ca nayassa bhūmi samuṭṭhānaṃ pavattihetu nāmāti yojetvā ‘‘taṇhā ca avijjā cā’’tiādinā saṃkilesapakkhe taṇhāavijjādukādīnaṃ pannarasannaṃ dukānaṃ, dvinnaṃ taṇhācaritadiṭṭhicaritānaṃ puggalānaṃ vodānavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā katā, ‘‘samatho ca vipassanā cā’’tiādinā vodānapakkhe samathavipassanādukādīnaṃ ekūnavīsatidukānaṃ, dvinnaṃ taṇhācaritadiṭṭhicaritānaṃ puggalānaṃ vodānavibhāvanāmukhena yā niddhāraṇā katā, ayaṃ vuttappakārā nandiyāvaṭṭassa nayassa bhūmītipi nīharitvā yojetabbā. Puggalādhiṭṭhānavasena hi nandiyāvaṭṭanayato sīhavikkīḷitanayassa sambhavo, sīhavikkīḷitanayato ca tipukkhalanayassa sambhavo hoti. Dhammādhiṭṭhānavasena pana sīhavikkīḷitanayato tipukkhalanayassa sambhavo, tipukkhalanayato ca nandiyāvaṭṭanayassa sambhavo hoti. Tenāha aṭṭhakathāyaṃ ‘‘ante ‘taṇhā ca avijjā cā’tiādinā samathassa nayassa bhūmi dassitā. Teneva hi ‘cattāri hutvā tīṇi bhavanti, tīṇi hutvā dve bhavantī’ti vutta’’nti (netti. aṭṭha. 88).
‘‘กสฺมา ปน อยํ วุตฺตปฺปการาย นิทฺธารณาย ติปุกฺขลสฺส จ นยสฺส, องฺกุสสฺส จ นยสฺส ภูมิภาโว วิญฺญายตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตน ยถาวุตฺตสฺส นิทฺธารณาย ภูมิภาเวน อาจริโย ‘‘โย อกุสเล…เป.… ทิสาโลจเนนาติ จา’’ติ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน วุตฺตปฺปการาย นิทฺธารณาย ติปุกฺขล…เป.… ยสฺส ภูมิภาโว วิญฺญายตีติ อโตฺถฯ
‘‘Kasmā pana ayaṃ vuttappakārāya niddhāraṇāya tipukkhalassa ca nayassa, aṅkusassa ca nayassa bhūmibhāvo viññāyatī’’ti vattabbabhāvato ‘‘tenāhā’’tiādi vuttaṃ. Tena yathāvuttassa niddhāraṇāya bhūmibhāvena ācariyo ‘‘yo akusale…pe… disālocanenāti cā’’ti yaṃ vacanaṃ āha, tena vacanena vuttappakārāya niddhāraṇāya tipukkhala…pe… yassa bhūmibhāvo viññāyatīti attho.
‘‘เอตฺตาวตา นยสมุฎฺฐานํ ปริปุณฺณํ โหติ, อญฺญํ นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺตํ นยสมุฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํฯ เยน เยน นยสมุฎฺฐาเนน สํกิเลสปเกฺข วา อกุสลา ธมฺมา นิทฺธาริตา , โวทานปเกฺข วา กุสลา ธมฺมา นิทฺธาริตา, ตํ ตํ นยสมุฎฺฐานํ นิยุตฺตํ ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺพนฺติ อโตฺถ คเหตโพฺพฯ
‘‘Ettāvatā nayasamuṭṭhānaṃ paripuṇṇaṃ hoti, aññaṃ natthī’’ti vattabbattā ‘‘niyuttaṃ nayasamuṭṭhāna’’nti vuttaṃ. Yena yena nayasamuṭṭhānena saṃkilesapakkhe vā akusalā dhammā niddhāritā , vodānapakkhe vā kusalā dhammā niddhāritā, taṃ taṃ nayasamuṭṭhānaṃ niyuttaṃ yathārahaṃ niddhāretvā yujjitabbanti attho gahetabbo.
นยกฺกเมน ปน สเงฺขปโต ทสฺสยิสฺสามิ – เทฺว ปุคฺคลา, ตโย ปุคฺคลา, จตฺตาโร ปุคฺคลาติ ปุคฺคลา ติโกฎฺฐาสา ภวนฺติ, จตุทิสา, ฉทิสา, อฎฺฐทิสาติ ทิสาปิ ติโกฎฺฐาสา ภวนฺติฯ ตตฺถ เทฺว ปุคฺคลาติ ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล, ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโลติ เทฺว ปุคฺคลา ภวนฺติฯ ตโย ปุคฺคลาติ อุคฺฆฎิตญฺญุปุคฺคโล, วิปญฺจิตญฺญุปุคฺคโล, เนยฺยปุคฺคโลติ ตโย ปุคฺคลา ภวนฺติฯ จตฺตาโร ปุคฺคลาติ ทุกฺขาปฎิปทาทนฺธาภิญฺญาทิเภเทน ภินฺนา มุทินฺทฺริโย ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล, มุทินฺทฺริโย ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโล, ติกฺขินฺทฺริโย ตณฺหาจริโต ปุคฺคโล, ติกฺขินฺทฺริโย ทิฎฺฐิจริโต ปุคฺคโลติ จตฺตาโร ปุคฺคลา ภวนฺติฯ จตุทิสาติ สํกิเลสปเกฺข เทฺว เทฺว ทิสา, โวทานปเกฺข เทฺว เทฺว ทิสาติ จตุทิสา ภวนฺติฯ ฉทิสาติ สํกิเลสปเกฺข ติโสฺส ติโสฺส ทิสา, โวทานปเกฺข ติโสฺส ติโสฺส ทิสาติ ฉทิสา ภวนฺติฯ อฎฺฐทิสาติ สํกิเลสปเกฺข จตโสฺส จตโสฺส ทิสา, โวทานปเกฺข จตโสฺส จตโสฺส ทิสาติ อฎฺฐทิสา ภวนฺติฯ เตสุ เทฺว เทฺว ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริเต ปุคฺคเล, จตุทิสา จ นิสฺสาย นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตโย อุคฺฆฎิตญฺญุวิปญฺจิตญฺญุเนยฺยปุคฺคเล จ ฉทิสา จ นิสฺสาย ติปุกฺขลนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ทุกฺขาปฎิปทาทนฺธาภิญฺญาทิเภเทน ภิเนฺน จตฺตาโร มุทินฺทฺริยตณฺหาจริตติกฺขินฺทฺริยตณฺหาจริตมุทินฺทฺริยทิฎฺฐิจริตติกฺขินฺทฺริยทิฎฺฐิจริเต ปุคฺคเล จ อฎฺฐทิสา จ นิสฺสาย สีหวิกฺกีฬิตนยสมุฎฺฐานํ ภวติ ฯ เอเกกสฺมิํ นยสมุฎฺฐาเน วิภชิเต ทิสาโลจนองฺกุสนยสมุฎฺฐานานิปิ วิภชิตานิ ภวนฺติฯ
Nayakkamena pana saṅkhepato dassayissāmi – dve puggalā, tayo puggalā, cattāro puggalāti puggalā tikoṭṭhāsā bhavanti, catudisā, chadisā, aṭṭhadisāti disāpi tikoṭṭhāsā bhavanti. Tattha dve puggalāti taṇhācarito puggalo, diṭṭhicarito puggaloti dve puggalā bhavanti. Tayo puggalāti ugghaṭitaññupuggalo, vipañcitaññupuggalo, neyyapuggaloti tayo puggalā bhavanti. Cattāro puggalāti dukkhāpaṭipadādandhābhiññādibhedena bhinnā mudindriyo taṇhācarito puggalo, mudindriyo diṭṭhicarito puggalo, tikkhindriyo taṇhācarito puggalo, tikkhindriyo diṭṭhicarito puggaloti cattāro puggalā bhavanti. Catudisāti saṃkilesapakkhe dve dve disā, vodānapakkhe dve dve disāti catudisā bhavanti. Chadisāti saṃkilesapakkhe tisso tisso disā, vodānapakkhe tisso tisso disāti chadisā bhavanti. Aṭṭhadisāti saṃkilesapakkhe catasso catasso disā, vodānapakkhe catasso catasso disāti aṭṭhadisā bhavanti. Tesu dve dve taṇhācaritadiṭṭhicarite puggale, catudisā ca nissāya nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tayo ugghaṭitaññuvipañcitaññuneyyapuggale ca chadisā ca nissāya tipukkhalanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Dukkhāpaṭipadādandhābhiññādibhedena bhinne cattāro mudindriyataṇhācaritatikkhindriyataṇhācaritamudindriyadiṭṭhicaritatikkhindriyadiṭṭhicarite puggale ca aṭṭhadisā ca nissāya sīhavikkīḷitanayasamuṭṭhānaṃ bhavati . Ekekasmiṃ nayasamuṭṭhāne vibhajite disālocanaaṅkusanayasamuṭṭhānānipi vibhajitāni bhavanti.
‘‘กถํ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานํ ภวตี’’ติ เจ วเทยฺย? ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จ อหิริกญฺจ อโนตฺตปฺปญฺจ อสฺสติ จ อสมฺปชญฺญญฺจ อโยนิโสมนสิกาโร จ โกสชฺชญฺจ โทวจสฺสญฺจ อหํกาโร จ มมํกาโร จ อสฺสทฺธา จ ปมาโท จ อสทฺธมฺมสฺสวนญฺจ อสํวโร จ อภิชฺฌา จ พฺยาปาโท จ นีวรณญฺจ สํโยชนญฺจ โกโธ จ อุปนาโห จ มโกฺข จ ปฬาโส จ อิสฺสา จ มเจฺฉรญฺจ มายา จ สาเฐยฺยญฺจ สสฺสตทิฎฺฐิ จ อุเจฺฉททิฎฺฐิ จา’’ติ (เนตฺติ. ๘๘) ทุกทุกวเสน เทสิโต อยํ ทิสาภูโต อกุสลธมฺมสมูโห ทฺวินฺนํ ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตานํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโส โหตีติ สํกิเลสปเกฺข สํกิเลสสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ ปนฺนรสสุ ทุกทุกวเสน เทสิเตสุ ทิสาภูเตสุ อกุสลธเมฺมสุ กตโม อกุสลธโมฺม กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อยํ ปฐโม ปฐโม อกุสลธโมฺม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส สํกิเลสปเกฺข ปฐมา ทิสา นาม, อยํ อยํ ทุติโย ทุติโย อกุสลธโมฺม ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส สํกิเลสปเกฺข ทุติยา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา สมุทยสจฺจทุกฺขสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา วิภชิตพฺพธมฺมสภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโต, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานํ ภวติ, ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติ, ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสภูตสฺส ธมฺมวิเสสสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ
‘‘Kathaṃ nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānaṃ bhavatī’’ti ce vadeyya? ‘‘Taṇhā ca avijjā ca ahirikañca anottappañca assati ca asampajaññañca ayonisomanasikāro ca kosajjañca dovacassañca ahaṃkāro ca mamaṃkāro ca assaddhā ca pamādo ca asaddhammassavanañca asaṃvaro ca abhijjhā ca byāpādo ca nīvaraṇañca saṃyojanañca kodho ca upanāho ca makkho ca paḷāso ca issā ca maccherañca māyā ca sāṭheyyañca sassatadiṭṭhi ca ucchedadiṭṭhi cā’’ti (netti. 88) dukadukavasena desito ayaṃ disābhūto akusaladhammasamūho dvinnaṃ taṇhācaritadiṭṭhicaritānaṃ puggalānaṃ saṃkileso hotīti saṃkilesapakkhe saṃkilesasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu pannarasasu dukadukavasena desitesu disābhūtesu akusaladhammesu katamo akusaladhammo katamassa puggalassa disā’’ti manasāva disādhammabhāvena oloketvā ‘‘ayaṃ ayaṃ paṭhamo paṭhamo akusaladhammo taṇhācaritassa puggalassa saṃkilesapakkhe paṭhamā disā nāma, ayaṃ ayaṃ dutiyo dutiyo akusaladhammo diṭṭhicaritassa puggalassa saṃkilesapakkhe dutiyā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ yojetvā samudayasaccadukkhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā vibhajitabbadhammasabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito, so saṃvaṇṇanāviseso ca nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānaṃ bhavati, tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā, so saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati, tathā oloketvā disāvisesabhūtassa dhammavisesassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso ca aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavati.
‘‘สมโถ จ วิปสฺสนา จ, หิรี จ โอตฺตปฺปญฺจ, สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ, โยนิโสมนสิกาโร จ วีริยารโมฺภ จ, โสวจสฺสญฺจ ธเมฺม ญาณญฺจ อนฺวเย ญาณญฺจ, ขเย ญาณญฺจ อนุปฺปาเท ญาณญฺจ, สทฺธา จ อปฺปมาโท จ, สทฺธมฺมสฺสวนญฺจ สํวโร จ, อนภิชฺฌา จ อพฺยาปาโท จ, ราควิราคา จ เจโตวิมุตฺติ, อวิชฺชาวิราคา จ ปญฺญาวิมุตฺติ, อภิสมโย จ อปฺปิจฺฉตา จ, สนฺตุฎฺฐิ จ อโกฺกโธ จ, อนุปนาโห จ อมโกฺข จ, อปฬาโส จ อิสฺสาปหานญฺจ มจฺฉริยปฺปหานญฺจ วิชฺชา จ, วิมุตฺติ จ สงฺขตารมฺมโณ จ วิโมโกฺข, อสงฺขตารมฺมโณ จ วิโมโกฺข, สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ, อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตู’’ติ (เนตฺติ. ๘๘) ติกทุกวเสน เทสิตํ อิทํ ทิสาภูตํ กุสลสมูหธมฺมชาตํ ทฺวินฺนํ ตณฺหาจริตทิฎฺฐิจริตานํ ปุคฺคลานํ โวทานํ โหตีติ โวทานปเกฺข โวทานสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ เอกูนวีสติยา ทุกทุกวเสน วา เทสิเตสุ ทิสาภูเตสุ ธเมฺมสุ กตโม กตโม กุสลธโมฺม กตมสฺส กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ปฐโม ปฐโม กุสลธโมฺม ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส โวทานปเกฺข ปฐมา ทิสา นาม, อยํ ทุติโย ทุติโย กุสลธโมฺม ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส โวทานปเกฺข ทุติยา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา มคฺคสจฺจนิโรธสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา วิภชิตพฺพธมฺมภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโต, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ นนฺทิยาวฎฺฎนยสมุฎฺฐานํ ภวติ, ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติ, ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสภูตสฺส ธมฺมวิเสสสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ
‘‘Samatho ca vipassanā ca, hirī ca ottappañca, sati ca sampajaññañca, yonisomanasikāro ca vīriyārambho ca, sovacassañca dhamme ñāṇañca anvaye ñāṇañca, khaye ñāṇañca anuppāde ñāṇañca, saddhā ca appamādo ca, saddhammassavanañca saṃvaro ca, anabhijjhā ca abyāpādo ca, rāgavirāgā ca cetovimutti, avijjāvirāgā ca paññāvimutti, abhisamayo ca appicchatā ca, santuṭṭhi ca akkodho ca, anupanāho ca amakkho ca, apaḷāso ca issāpahānañca macchariyappahānañca vijjā ca, vimutti ca saṅkhatārammaṇo ca vimokkho, asaṅkhatārammaṇo ca vimokkho, saupādisesā ca nibbānadhātu, anupādisesā ca nibbānadhātū’’ti (netti. 88) tikadukavasena desitaṃ idaṃ disābhūtaṃ kusalasamūhadhammajātaṃ dvinnaṃ taṇhācaritadiṭṭhicaritānaṃ puggalānaṃ vodānaṃ hotīti vodānapakkhe vodānasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu ekūnavīsatiyā dukadukavasena vā desitesu disābhūtesu dhammesu katamo katamo kusaladhammo katamassa katamassa puggalassa disā’’ti manasāva disādhammabhāvena oloketvā ‘‘ayaṃ paṭhamo paṭhamo kusaladhammo taṇhācaritassa puggalassa vodānapakkhe paṭhamā disā nāma, ayaṃ dutiyo dutiyo kusaladhammo diṭṭhicaritassa puggalassa vodānapakkhe dutiyā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ yojetvā maggasaccanirodhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā vibhajitabbadhammabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito, so saṃvaṇṇanāviseso ca nandiyāvaṭṭanayasamuṭṭhānaṃ bhavati, tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā, so saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati, tathā oloketvā disāvisesabhūtassa dhammavisesassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso ca aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavati.
‘‘กถํ ติปุกฺขลนยสมุฎฺฐานํ ภวตี’’ติ เจ ปุเจฺฉยฺย, ‘‘ตีณิ อกุสลมูลานิ – โลโภ อกุสลมูลํ, โทโส อกุสลมูลํ, โมโห อกุสลมูลํฯ ตีณิ ทุจฺจริตานิ – กายทุจฺจริตํ , วจีทุจฺจริตํ, มโนทุจฺจริตํฯ ตโย อกุสลวิตกฺกา – กามวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตโกฺก, วิหิํสาวิตโกฺกฯ ติโสฺส อกุสลสญฺญา – กามสญฺญา, พฺยาปาทสญฺญา, วิหิํสาสญฺญาฯ ติโสฺส วิปรีตสญฺญา – นิจฺจสญฺญา, สุขสญฺญา, อตฺตสญฺญาฯ ติโสฺส เวทนา – สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนาฯ ติโสฺส ทุกฺขตา – ทุกฺขทุกฺขตา, สงฺขารทุกฺขตา, วิปริณามทุกฺขตาฯ ตโย อคฺคี – ราคคฺคิ, โทสคฺคิ, โมหคฺคิฯ ตโย สลฺลา – ราคสโลฺล, โทสสโลฺล, โมหสโลฺลฯ ติโสฺส ชฎา – ราคชฎา, โทสชฎา, โมหชฎาฯ ติโสฺส อกุสลูปปริกฺขา – อกุสลํ กายกมฺมํ , อกุสลํ วจีกมฺมํ, อกุสลํ มโนกมฺมํฯ ติโสฺส วิปตฺติโย – สีลวิปตฺติ, ทิฎฺฐิวิปตฺติ, อาจารวิปตฺตี’’ติ (เนตฺติ. ๘๘) ติกวเสน เทสิโต อยํ ทิสาภูโต อกุสลธมฺมสมูโห ติณฺณํ อุคฺฆฎิตญฺญุวิปญฺจิตญฺญุเนยฺยปุคฺคลานํ สํกิเลโส โหตีติ สํกิเลสปเกฺข สํกิเลสสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ ทฺวาทสสุ ติกติกวเสน เทสิเตสุ ทิสาภูเตสุ อกุสลธเมฺมสุ กตโม กตโม อกุสโล ธโมฺม กตมสฺส กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อยํ ปฐโม ปฐโม อกุสลธโมฺม อุคฺฆฎิตญฺญุปุคฺคลสฺส สํกิเลสปเกฺข ปฐมา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ทุติโย ทุติโย อกุสลธโมฺม วิปญฺจิตญฺญุปุคฺคลสฺส สํกิเลสปเกฺข ทุติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ตติโย ตติโย อกุสลธโมฺม เนยฺยสฺส ปุคฺคลสฺส สํกิเลสปเกฺข ตติยา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา สมุทยสจฺจทุกฺขสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา วิภชิตพฺพธมฺมสภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโตฯ โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ติปุกฺขลนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติ ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสภูตสฺส ธมฺมวิเสสสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ
‘‘Kathaṃ tipukkhalanayasamuṭṭhānaṃ bhavatī’’ti ce puccheyya, ‘‘tīṇi akusalamūlāni – lobho akusalamūlaṃ, doso akusalamūlaṃ, moho akusalamūlaṃ. Tīṇi duccaritāni – kāyaduccaritaṃ , vacīduccaritaṃ, manoduccaritaṃ. Tayo akusalavitakkā – kāmavitakko, byāpādavitakko, vihiṃsāvitakko. Tisso akusalasaññā – kāmasaññā, byāpādasaññā, vihiṃsāsaññā. Tisso viparītasaññā – niccasaññā, sukhasaññā, attasaññā. Tisso vedanā – sukhā vedanā, dukkhā vedanā, adukkhamasukhā vedanā. Tisso dukkhatā – dukkhadukkhatā, saṅkhāradukkhatā, vipariṇāmadukkhatā. Tayo aggī – rāgaggi, dosaggi, mohaggi. Tayo sallā – rāgasallo, dosasallo, mohasallo. Tisso jaṭā – rāgajaṭā, dosajaṭā, mohajaṭā. Tisso akusalūpaparikkhā – akusalaṃ kāyakammaṃ , akusalaṃ vacīkammaṃ, akusalaṃ manokammaṃ. Tisso vipattiyo – sīlavipatti, diṭṭhivipatti, ācāravipattī’’ti (netti. 88) tikavasena desito ayaṃ disābhūto akusaladhammasamūho tiṇṇaṃ ugghaṭitaññuvipañcitaññuneyyapuggalānaṃ saṃkileso hotīti saṃkilesapakkhe saṃkilesasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu dvādasasu tikatikavasena desitesu disābhūtesu akusaladhammesu katamo katamo akusalo dhammo katamassa katamassa puggalassa disā’’ti manasāva disādhammabhāvena oloketvā ‘‘ayaṃ ayaṃ paṭhamo paṭhamo akusaladhammo ugghaṭitaññupuggalassa saṃkilesapakkhe paṭhamā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ dutiyo dutiyo akusaladhammo vipañcitaññupuggalassa saṃkilesapakkhe dutiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ tatiyo tatiyo akusaladhammo neyyassa puggalassa saṃkilesapakkhe tatiyā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ yojetvā samudayasaccadukkhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā vibhajitabbadhammasabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito. So saṃvaṇṇanāviseso ca tipukkhalanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā, so saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati tathā oloketvā disāvisesabhūtassa dhammavisesassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavati.
‘‘ตีณิ กุสลมูลานิ – อโลโภ กุสลมูลํ, อโทโส กุสลมูลํ, อโมโห กุสลมูลํฯ ตีณิ สุจริตานิ – กายสุจริตํ, วจีสุจริตํ, มโนสุจริตํฯ ตโย กุสลวิตกฺกา – เนกฺขมฺมวิตโกฺก, อพฺยาปาทวิตโกฺก, อวิหิํสาวิตโกฺกฯ ตโย สมาธี – สวิตโกฺก สวิจาโร สมาธิ, อวิตโกฺก วิจารมโตฺต สมาธิ, อวิตโกฺก อวิจาโร สมาธิฯ ติโสฺส กุสลสญฺญา – เนกฺขมฺมสญฺญา, อพฺยาปาทสญฺญา, อวิหิํสาสญฺญาฯ ติโสฺส อวิปรีตสญฺญา – อนิจฺจสญฺญา, ทุกฺขสญฺญา, อนตฺตสญฺญาฯ ติโสฺส กุสลูปปริกฺขา – กุสลํ กายกมฺมํ, กุสลํ วจีกมฺมํ, กุสลํ มโนกมฺมํฯ ตีณิ โสเจยฺยานิ – กายโสเจยฺยํ, วจีโสเจยฺยํ, มโนโสเจยฺยํฯ ติโสฺส สมฺปตฺติโย – สีลสมฺปตฺติ, สมาธิสมฺปตฺติ, ปญฺญาสมฺปตฺติ ฯ ติโสฺส สิกฺขา – อธิสีลสิกฺขา, อธิจิตฺตสิกฺขา , อธิปญฺญาสิกฺขาฯ ตโย ขนฺธา – สีลกฺขโนฺธ, สมาธิกฺขโนฺธ, ปญฺญากฺขโนฺธฯ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ – สุญฺญตํ, อนิมิตฺตํ, อปฺปณิหิต’’นฺติ (เนตฺติ. ๘๘) ติกติกวเสน เทสิตํ อิทํ ทิสาภูตํ กุสลสมูหธมฺมชาตํ ติณฺณํ อุคฺฆฎิตญฺญุวิปญฺจิตญฺญุเนยฺยปุคฺคลานํ โวทานํ โหตีติ โวทานปเกฺข โวทานสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ ทฺวีสุ ทฺวาทสสุ ติกติกวเสน เทสิเตสุ ทิสาภูเตสุ กุสลธเมฺมสุ กตโม กตโม กุสลธโมฺม กตมสฺส กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อยํ ปฐโม ปฐโม กุสลธโมฺม อุคฺฆฎิตญฺญุปุคฺคลสฺส โวทานปเกฺข ปฐมา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ทุติโย ทุติโย กุสโล ธโมฺม วิปญฺจิตญฺญุปุคฺคลสฺส โวทานปเกฺข ทุติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ตติโย ตติโย กุสลธโมฺม เนยฺยปุคฺคลสฺส โวทานปเกฺข ตติยา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ ทิสาภาเวน โยเชตฺวา มคฺคสจฺจนิโรธสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา วิภชิตพฺพธมฺมสภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโตฯ โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ติปุกฺขลนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสภูตสฺส ธมฺมสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ
‘‘Tīṇi kusalamūlāni – alobho kusalamūlaṃ, adoso kusalamūlaṃ, amoho kusalamūlaṃ. Tīṇi sucaritāni – kāyasucaritaṃ, vacīsucaritaṃ, manosucaritaṃ. Tayo kusalavitakkā – nekkhammavitakko, abyāpādavitakko, avihiṃsāvitakko. Tayo samādhī – savitakko savicāro samādhi, avitakko vicāramatto samādhi, avitakko avicāro samādhi. Tisso kusalasaññā – nekkhammasaññā, abyāpādasaññā, avihiṃsāsaññā. Tisso aviparītasaññā – aniccasaññā, dukkhasaññā, anattasaññā. Tisso kusalūpaparikkhā – kusalaṃ kāyakammaṃ, kusalaṃ vacīkammaṃ, kusalaṃ manokammaṃ. Tīṇi soceyyāni – kāyasoceyyaṃ, vacīsoceyyaṃ, manosoceyyaṃ. Tisso sampattiyo – sīlasampatti, samādhisampatti, paññāsampatti . Tisso sikkhā – adhisīlasikkhā, adhicittasikkhā , adhipaññāsikkhā. Tayo khandhā – sīlakkhandho, samādhikkhandho, paññākkhandho. Tīṇi vimokkhamukhāni – suññataṃ, animittaṃ, appaṇihita’’nti (netti. 88) tikatikavasena desitaṃ idaṃ disābhūtaṃ kusalasamūhadhammajātaṃ tiṇṇaṃ ugghaṭitaññuvipañcitaññuneyyapuggalānaṃ vodānaṃ hotīti vodānapakkhe vodānasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu dvīsu dvādasasu tikatikavasena desitesu disābhūtesu kusaladhammesu katamo katamo kusaladhammo katamassa katamassa puggalassa disā’’ti manasāva disādhammabhāvena oloketvā ‘‘ayaṃ ayaṃ paṭhamo paṭhamo kusaladhammo ugghaṭitaññupuggalassa vodānapakkhe paṭhamā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ dutiyo dutiyo kusalo dhammo vipañcitaññupuggalassa vodānapakkhe dutiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ tatiyo tatiyo kusaladhammo neyyapuggalassa vodānapakkhe tatiyā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ disābhāvena yojetvā maggasaccanirodhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā vibhajitabbadhammasabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito. So saṃvaṇṇanāviseso ca tipukkhalanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā, so saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tathā oloketvā disāvisesabhūtassa dhammassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso ca aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavati.
‘‘กถํ สีหวิกฺกีฬิตนยสมุฎฺฐาน’’นฺติ เจ ปุเจฺฉยฺย, ‘‘จตฺตาโร อาหารา, จตฺตาโร วิปลฺลาสา, จตฺตาริ อุปาทานานิ, จตฺตาโร โยคา, จตฺตาโร คนฺถา, จตฺตาโร อาสวา, จตฺตาโร โอฆา, จตฺตาโร สลฺลา, จตโสฺส วิญฺญาณฎฺฐิติโย, จตฺตาริ อคติคมนานี’’ติ (เนตฺติ. ๘๗) จตุกฺกจตุกฺกวเสน เทสิโต อยํ ทิสาภูโต จตุโกฺก จตุโกฺก อกุสลธโมฺม ‘‘ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส จ ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส จ สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส จ สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส จา’’ติ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ สํกิเลโสติ สํกิเลสปเกฺข สํกิเลสสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ จตุกฺกจตุกฺกวเสน เทสิเตสุ ทสสุ จตุเกฺกสุ ธเมฺมสุ กตโม กตโม อกุสลธโมฺม กตมสฺส กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว สํกิเลสปเกฺข ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อยํ ปฐโม ปฐโม อกุสลธโมฺม ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ปฐมา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ทุติโย ทุติโย อกุสลธโมฺม ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ทุติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ตติโย ตติโย อกุสลธโมฺม สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ตติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ จตุโตฺถ จตุโตฺถ อกุสลธโมฺม สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส จตุตฺถา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ ทิสาภาเวน โยเชตฺวา, สมุทยสจฺจทุกฺขสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา, วิภชิตพฺพธมฺมสภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโตฯ โส สํวณฺณนาวิเสโส จ สีหวิกฺกีฬิตนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสภูตสฺส ธมฺมสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ
‘‘Kathaṃ sīhavikkīḷitanayasamuṭṭhāna’’nti ce puccheyya, ‘‘cattāro āhārā, cattāro vipallāsā, cattāri upādānāni, cattāro yogā, cattāro ganthā, cattāro āsavā, cattāro oghā, cattāro sallā, catasso viññāṇaṭṭhitiyo, cattāri agatigamanānī’’ti (netti. 87) catukkacatukkavasena desito ayaṃ disābhūto catukko catukko akusaladhammo ‘‘dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa taṇhācaritassa ca dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa taṇhācaritassa ca sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa diṭṭhicaritassa ca sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa diṭṭhicaritassa cā’’ti catunnaṃ puggalānaṃ saṃkilesoti saṃkilesapakkhe saṃkilesasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu catukkacatukkavasena desitesu dasasu catukkesu dhammesu katamo katamo akusaladhammo katamassa katamassa puggalassa disā’’ti manasāva saṃkilesapakkhe disādhammabhāvena oloketvā ‘‘ayaṃ ayaṃ paṭhamo paṭhamo akusaladhammo dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa taṇhācaritassa puggalassa paṭhamā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ dutiyo dutiyo akusaladhammo dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa taṇhācaritassa puggalassa dutiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ tatiyo tatiyo akusaladhammo sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa diṭṭhicaritassa puggalassa tatiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ catuttho catuttho akusaladhammo sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa diṭṭhicaritassa puggalassa catutthā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ disābhāvena yojetvā, samudayasaccadukkhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā, vibhajitabbadhammasabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito. So saṃvaṇṇanāviseso ca sīhavikkīḷitanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā, so saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tathā oloketvā disāvisesabhūtassa dhammassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso ca aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavati.
‘‘จตโสฺส ปฎิปทา, จตฺตาโร สติปฎฺฐานา, จตฺตาริ ฌานานิ, จตฺตาโร วิหารา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, จตฺตาริ อธิฎฺฐานานิ, จตโสฺส สมาธิภาวนา, จตฺตาโร สุขภาคิยา ธมฺมา, จตโสฺส อปฺปมาณา’’ติ (เนตฺติ. ๘๖) จตุกฺกจตุกฺกวเสน เทสิตํ อิทํ ทิสาภูตํ กุสลสมูหธมฺมชาตํ ‘‘ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส จ ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส จ สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส ส สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส จา’’ติ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ โวทานํ โหตีติ โวทานปเกฺข โวทานสามญฺญภาเวน โยเชตฺวา ‘‘อิเมสุ จตุกฺกจตุกฺกวเสน เทสิเตสุ ทสสุ จตุเกฺกสุ กุสลธเมฺมสุ กตโม กตโม กุสลธโมฺม กตมสฺส กตมสฺส ปุคฺคลสฺส ทิสา’’ติ มนสาว ทิสาธมฺมภาเวน โอโลเกตฺวา, ‘‘อยํ อยํ ปฐโม ปฐโม กุสลธโมฺม ทุกฺขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ปฐมา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ทุติโย ทุติโย กุสลธโมฺม ทุกฺขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ตณฺหาจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ทุติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ ตติโย ตติโย กุสลธโมฺม สุขาย ปฎิปทาย ทนฺธาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส มุทินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ตติยา ทิสา นามฯ อยํ อยํ จตุโตฺถ จตุโตฺถ กุสลธโมฺม สุขาย ปฎิปทาย ขิปฺปาภิญฺญาย นิยฺยกสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส ทิฎฺฐิจริตสฺส ปุคฺคลสฺส จตุตฺถา ทิสา นามา’’ติ วิสุํ วิสุํ ทิสาภาเวน โยเชตฺวา, มคฺคสจฺจนิโรธสจฺจานิ ยถารหํ นีหริตฺวา, วิภชิตพฺพธมฺมสภาโว จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิโตฯ โส สํวณฺณนาวิเสโส จ สีหวิกฺกีฬิตนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตสฺส โอโลกนา จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ทสฺสิตาฯ โส สํวณฺณนาวิเสโส จ ทิสาโลจนนยสมุฎฺฐานํ ภวติฯ ตถา โอโลเกตฺวา ทิสาวิเสสสฺส ธมฺมสฺส ปุคฺคลานํ นยนญฺจ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นยติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส จ องฺกุสนยสมุฎฺฐานํ ภวตีติ นยกฺกเมน สเงฺขปโต นยสมุฎฺฐานํ ภวตีติ วิญฺญาตพฺพนฺติฯ
‘‘Catasso paṭipadā, cattāro satipaṭṭhānā, cattāri jhānāni, cattāro vihārā, cattāro sammappadhānā, cattāro acchariyā abbhutā dhammā, cattāri adhiṭṭhānāni, catasso samādhibhāvanā, cattāro sukhabhāgiyā dhammā, catasso appamāṇā’’ti (netti. 86) catukkacatukkavasena desitaṃ idaṃ disābhūtaṃ kusalasamūhadhammajātaṃ ‘‘dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa taṇhācaritassa ca dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa taṇhācaritassa ca sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa diṭṭhicaritassa sa sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa diṭṭhicaritassa cā’’ti catunnaṃ puggalānaṃ vodānaṃ hotīti vodānapakkhe vodānasāmaññabhāvena yojetvā ‘‘imesu catukkacatukkavasena desitesu dasasu catukkesu kusaladhammesu katamo katamo kusaladhammo katamassa katamassa puggalassa disā’’ti manasāva disādhammabhāvena oloketvā, ‘‘ayaṃ ayaṃ paṭhamo paṭhamo kusaladhammo dukkhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa taṇhācaritassa puggalassa paṭhamā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ dutiyo dutiyo kusaladhammo dukkhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa taṇhācaritassa puggalassa dutiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ tatiyo tatiyo kusaladhammo sukhāya paṭipadāya dandhābhiññāya niyyakassa mudindriyassa diṭṭhicaritassa puggalassa tatiyā disā nāma. Ayaṃ ayaṃ catuttho catuttho kusaladhammo sukhāya paṭipadāya khippābhiññāya niyyakassa tikkhindriyassa diṭṭhicaritassa puggalassa catutthā disā nāmā’’ti visuṃ visuṃ disābhāvena yojetvā, maggasaccanirodhasaccāni yathārahaṃ nīharitvā, vibhajitabbadhammasabhāvo ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassito. So saṃvaṇṇanāviseso ca sīhavikkīḷitanayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tassa olokanā ca yena saṃvaṇṇanāvisesena dassitā. So saṃvaṇṇanāviseso ca disālocananayasamuṭṭhānaṃ bhavati. Tathā oloketvā disāvisesassa dhammassa puggalānaṃ nayanañca yena saṃvaṇṇanāvisesena nayati, so saṃvaṇṇanāviseso ca aṅkusanayasamuṭṭhānaṃ bhavatīti nayakkamena saṅkhepato nayasamuṭṭhānaṃ bhavatīti viññātabbanti.
อิติ นยสมุฎฺฐาเน สตฺติพลานุรูปา รจิตา
Iti nayasamuṭṭhāne sattibalānurūpā racitā
วิภาวนา นิฎฺฐิตาฯ
Vibhāvanā niṭṭhitā.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฎฺฐกถาฎีกานุสาเรน คมฺภีรโตฺถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตโพฺพติฯ
Paṇḍitehi pana aṭṭhakathāṭīkānusārena gambhīrattho vitthārato vibhajitvā gahetabboti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi / นยสมุฎฺฐานํ • Nayasamuṭṭhānaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา • Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / นยสมุฎฺฐานวารวณฺณนา • Nayasamuṭṭhānavāravaṇṇanā