Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๑. นฺหาตกมุนิเตฺถรคาถาวณฺณนา

    11. Nhātakamunittheragāthāvaṇṇanā

    วาตโรคาภินีโตติอาทิกา อายสฺมโต นฺหาตกมุนิสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต วิชฺชาฎฺฐานาทีสุ นิปฺผตฺติํ คโต นฺหาตกลกฺขณโยเคน นฺหาตโกติ ปญฺญายิตฺถฯ โส ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ราชคหสฺส ติโยชนปฺปมาเณ ฐาเน อรญฺญายตเน นีวาเรหิ ยาเปโนฺต อคฺคิํ ปริจารยมาโน วสติฯ ตสฺส สตฺถา ฆเฎ วิย ปทีปํ หทยพฺภนฺตเร ปชฺชลนฺตํ อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา อสฺสมปทํ อคมาสิฯ โส ภควนฺตํ ทิสฺวา หฎฺฐตุโฎฺฐ อตฺตโน อุปกปฺปนนิยาเมน อาหารํ อุปเนสิฯ ตํ ภควา ปริภุญฺชิฯ เอวํ ตโย ทิวเส ทตฺวา จตุตฺถทิวเส ‘‘ภควา ตุเมฺห ปรมสุขุมาลา, กถํ อิมินา อาหาเรน ยาเปถา’’ติ อาหฯ ตสฺส สตฺถา อริยสโนฺตสคุณํ ปกาเสโนฺต ธมฺมํ เทเสสิฯ ตาปโส ตํ สุตฺวา โสตาปโนฺน หุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ ภควา ตํ อรหเตฺต ปติฎฺฐเปตฺวา คโตฯ โส ปน ตเตฺถว วิหรโนฺต อปรภาเค วาตาพาเธน อุปทฺทุโต อโหสิฯ สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฎิสนฺถารมุเขน ตสฺส วิหารํ ปุจฺฉโนฺต –

    Vātarogābhinītotiādikā āyasmato nhātakamunissa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinitvā imasmiṃ buddhuppāde rājagahe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto vijjāṭṭhānādīsu nipphattiṃ gato nhātakalakkhaṇayogena nhātakoti paññāyittha. So tāpasapabbajjaṃ pabbajitvā rājagahassa tiyojanappamāṇe ṭhāne araññāyatane nīvārehi yāpento aggiṃ paricārayamāno vasati. Tassa satthā ghaṭe viya padīpaṃ hadayabbhantare pajjalantaṃ arahattūpanissayaṃ disvā assamapadaṃ agamāsi. So bhagavantaṃ disvā haṭṭhatuṭṭho attano upakappananiyāmena āhāraṃ upanesi. Taṃ bhagavā paribhuñji. Evaṃ tayo divase datvā catutthadivase ‘‘bhagavā tumhe paramasukhumālā, kathaṃ iminā āhārena yāpethā’’ti āha. Tassa satthā ariyasantosaguṇaṃ pakāsento dhammaṃ desesi. Tāpaso taṃ sutvā sotāpanno hutvā pabbajitvā arahattaṃ pāpuṇi. Bhagavā taṃ arahatte patiṭṭhapetvā gato. So pana tattheva viharanto aparabhāge vātābādhena upadduto ahosi. Satthā tattha gantvā paṭisanthāramukhena tassa vihāraṃ pucchanto –

    ๔๓๕.

    435.

    ‘‘วาตโรคาภินีโต ตฺวํ, วิหรํ กานเน วเน;

    ‘‘Vātarogābhinīto tvaṃ, viharaṃ kānane vane;

    ปวิทฺธโคจเร ลูเข, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติฯ – คาถมาห; อถ เถโร –

    Paviddhagocare lūkhe, kathaṃ bhikkhu karissasī’’ti. – gāthamāha; Atha thero –

    ๔๓๖.

    436.

    ‘‘ปีติสุเขน วิปุเลน, ผริตฺวาน สมุสฺสยํ;

    ‘‘Pītisukhena vipulena, pharitvāna samussayaṃ;

    ลูขมฺปิ อภิสโมฺภโนฺต, วิหริสฺสามิ กานเนฯ

    Lūkhampi abhisambhonto, viharissāmi kānane.

    ๔๓๗.

    437.

    ‘‘ภาเวโนฺต สตฺต โพชฺฌเงฺค, อินฺทฺริยานิ พลานิ จ;

    ‘‘Bhāvento satta bojjhaṅge, indriyāni balāni ca;

    ฌานโสขุมฺมสมฺปโนฺน, วิหริสฺสํ อนาสโวฯ

    Jhānasokhummasampanno, viharissaṃ anāsavo.

    ๔๓๘.

    438.

    ‘‘วิปฺปมุตฺตํ กิเลเสหิ, สุทฺธจิตฺตํ อนาวิลํ;

    ‘‘Vippamuttaṃ kilesehi, suddhacittaṃ anāvilaṃ;

    อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขโนฺต, วิหริสฺสํ อนาสโวฯ

    Abhiṇhaṃ paccavekkhanto, viharissaṃ anāsavo.

    ๔๓๙.

    439.

    ‘‘อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ, เย เม วิชฺชิํสุ อาสวา;

    ‘‘Ajjhattañca bahiddhā ca, ye me vijjiṃsu āsavā;

    สเพฺพ อเสสา อุจฺฉินฺนา, น จ อุปฺปชฺชเร ปุนฯ

    Sabbe asesā ucchinnā, na ca uppajjare puna.

    ๔๔๐.

    440.

    ‘‘ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา, ติฎฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกา;

    ‘‘Pañcakkhandhā pariññātā, tiṭṭhanti chinnamūlakā;

    ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปโตฺต, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติฯ –

    Dukkhakkhayo anuppatto, natthi dāni punabbhavo’’ti. –

    อิมาหิ เสสคาถาหิ อตฺตโน วิหารํ สตฺถุ ปเวเทสิฯ

    Imāhi sesagāthāhi attano vihāraṃ satthu pavedesi.

    ตตฺถ ฌานโสขุมฺมสมฺปโนฺนติ ฌานสุขุมภาเวน สมนฺนาคโตฯ ฌานสุขุมํ นาม อรูปชฺฌานํ, ตสฺมา อฎฺฐสมาปตฺติลาภิมฺหีติ วุตฺตํ โหติฯ เตน อตฺตโน อุภโตภาควิมุตฺติตํ ทเสฺสติฯ อปเร ปนาหุ – ‘‘โสขุมฺมนฺติ อคฺคมคฺคผเลสุ อธิปญฺญาสิกฺขา อธิเปฺปตา, ตโต ฌานคฺคหเณน อตฺตโน อุภโตภาควิมุตฺติตํ วิภาเวตี’’ติฯ วิปฺปมุตฺตํ กิเลเสหีติ ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติยา สพฺพกิเลเสหิ วิมุตฺตํ, ตโต เอว สุทฺธจิตฺตํ, อนาวิลสงฺกปฺปตาย อนาวิลํ, ตีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตผลจิตฺตเมว วทติฯ เสสํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวฯ อิมเมว จ เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณํ อโหสีติฯ

    Tattha jhānasokhummasampannoti jhānasukhumabhāvena samannāgato. Jhānasukhumaṃ nāma arūpajjhānaṃ, tasmā aṭṭhasamāpattilābhimhīti vuttaṃ hoti. Tena attano ubhatobhāgavimuttitaṃ dasseti. Apare panāhu – ‘‘sokhummanti aggamaggaphalesu adhipaññāsikkhā adhippetā, tato jhānaggahaṇena attano ubhatobhāgavimuttitaṃ vibhāvetī’’ti. Vippamuttaṃ kilesehīti paṭippassaddhivimuttiyā sabbakilesehi vimuttaṃ, tato eva suddhacittaṃ, anāvilasaṅkappatāya anāvilaṃ, tīhipi padehi arahattaphalacittameva vadati. Sesaṃ heṭṭhā vuttanayameva. Imameva ca therassa aññābyākaraṇaṃ ahosīti.

    นฺหาตกมุนิเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nhātakamunittheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๑. นฺหาตกมุนิเตฺถรคาถา • 11. Nhātakamunittheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact