Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi |
๗. นิพฺพานธาตุสุตฺตํ
7. Nibbānadhātusuttaṃ
๔๔. วุตฺตเญฺหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
44. Vuttañhetaṃ bhagavatā, vuttamarahatāti me sutaṃ –
‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, นิพฺพานธาตุโยฯ กตเม เทฺว? สอุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุ, อนุปาทิเสสา จ นิพฺพานธาตุฯ
‘‘Dvemā, bhikkhave, nibbānadhātuyo. Katame dve? Saupādisesā ca nibbānadhātu, anupādisesā ca nibbānadhātu.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺตฯ ตสฺส ติฎฺฐเนฺตว ปญฺจินฺทฺริยานิ เยสํ อวิฆาตตฺตา 1 มนาปามนาปํ ปจฺจนุโภติ, สุขทุกฺขํ ปฎิสํเวเทติ ฯ ตสฺส โย ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, saupādisesā nibbānadhātu? Idha, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ hoti khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto. Tassa tiṭṭhanteva pañcindriyāni yesaṃ avighātattā 2 manāpāmanāpaṃ paccanubhoti, sukhadukkhaṃ paṭisaṃvedeti . Tassa yo rāgakkhayo, dosakkhayo, mohakkhayo – ayaṃ vuccati, bhikkhave, saupādisesā nibbānadhātu.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหํ โหติ ขีณาสโว วุสิตวา กตกรณีโย โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทโตฺถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมทญฺญา วิมุโตฺตฯ ตสฺส อิเธว, ภิกฺขเว, สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีติ ภวิสฺสนฺติ 3ฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุฯ อิมา โข, ภิกฺขเว, เทฺว นิพฺพานธาตุโย’’ติฯ เอตมตฺถํ ภควา อโวจฯ ตเตฺถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘Katamā ca, bhikkhave, anupādisesā nibbānadhātu? Idha, bhikkhave, bhikkhu arahaṃ hoti khīṇāsavo vusitavā katakaraṇīyo ohitabhāro anuppattasadattho parikkhīṇabhavasaṃyojano sammadaññā vimutto. Tassa idheva, bhikkhave, sabbavedayitāni anabhinanditāni sīti bhavissanti 4. Ayaṃ vuccati, bhikkhave, anupādisesā nibbānadhātu. Imā kho, bhikkhave, dve nibbānadhātuyo’’ti. Etamatthaṃ bhagavā avoca. Tatthetaṃ iti vuccati –
‘‘ทุเว อิมา จกฺขุมตา ปกาสิตา, นิพฺพานธาตู อนิสฺสิเตน ตาทินา;
‘‘Duve imā cakkhumatā pakāsitā, nibbānadhātū anissitena tādinā;
เอกา หิ ธาตุ อิธ ทิฎฺฐธมฺมิกา, สอุปาทิเสสา ภวเนตฺติสงฺขยา;
Ekā hi dhātu idha diṭṭhadhammikā, saupādisesā bhavanettisaṅkhayā;
อนุปาทิเสสา ปน สมฺปรายิกา, ยมฺหิ นิรุชฺฌนฺติ ภวานิ สพฺพโสฯ
Anupādisesā pana samparāyikā, yamhi nirujjhanti bhavāni sabbaso.
‘‘เย เอตทญฺญาย ปทํ อสงฺขตํ, วิมุตฺตจิตฺตา ภวเนตฺติสงฺขยา;
‘‘Ye etadaññāya padaṃ asaṅkhataṃ, vimuttacittā bhavanettisaṅkhayā;
เต ธมฺมสาราธิคมา ขเย รตา, ปหํสุ เต สพฺพภวานิ ตาทิโน’’ติฯ
Te dhammasārādhigamā khaye ratā, pahaṃsu te sabbabhavāni tādino’’ti.
อยมฺปิ อโตฺถ วุโตฺต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติฯ สตฺตมํฯ
Ayampi attho vutto bhagavatā, iti me sutanti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā / ๗. นิพฺพานธาตุสุตฺตวณฺณนา • 7. Nibbānadhātusuttavaṇṇanā