Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๑๑. นิพฺพานสจฺฉิกรณปโญฺห
11. Nibbānasacchikaraṇapañho
๑๑. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ตุเมฺห ภณถ ‘นิพฺพานํ น อตีตํ, น อนาคตํ, น ปจฺจุปฺปนฺนํ, น อุปฺปนฺนํ น อนุปฺปนฺนํ น อุปฺปาทนีย’นฺติฯ อิธ, ภเนฺต นาคเสน, โย โกจิ สมฺมาปฎิปโนฺน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, อุทาหุ อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘โย โกจิ, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส น อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, น อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรติ, อปิ จ, มหาราช, อเตฺถสา นิพฺพานธาตุ, ยํ โส สมฺมาปฎิปโนฺน สจฺฉิกโรตี’’ติฯ
11. ‘‘Bhante nāgasena, tumhe bhaṇatha ‘nibbānaṃ na atītaṃ, na anāgataṃ, na paccuppannaṃ, na uppannaṃ na anuppannaṃ na uppādanīya’nti. Idha, bhante nāgasena, yo koci sammāpaṭipanno nibbānaṃ sacchikaroti, so uppannaṃ sacchikaroti, udāhu uppādetvā sacchikarotī’’ti? ‘‘Yo koci, mahārāja, sammāpaṭipanno nibbānaṃ sacchikaroti, so na uppannaṃ sacchikaroti, na uppādetvā sacchikaroti, api ca, mahārāja, atthesā nibbānadhātu, yaṃ so sammāpaṭipanno sacchikarotī’’ti.
‘‘มา, ภเนฺต นาคเสน, อิมํ ปญฺหํ ปฎิจฺฉนฺนํ กตฺวา ทีเปหิ, วิวฎํ ปากฎํ กตฺวา ทีเปหิ ฉนฺทชาโต อุสฺสาหชาโต, ยํ เต สิกฺขิตํ, ตํ สพฺพํ เอเตฺถวากิราหิ, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูโฬฺห วิมติชาโต สํสยปกฺขโนฺท, ภิเนฺทตํ อโนฺตโทสสลฺล’’นฺติฯ ‘‘อเตฺถสา, มหาราช, นิพฺพานธาตุ สนฺตา สุขา ปณีตา, ตํ สมฺมาปฎิปโนฺน ชินานุสิฎฺฐิยา สงฺขาเร สมฺมสโนฺต ปญฺญาย สจฺฉิกโรติฯ ยถา, มหาราช, อเนฺตวาสิโก อาจริยานุสิฎฺฐิยา วิชฺชํ ปญฺญาย สจฺฉิกโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน ชินานุสิฎฺฐิยา ปญฺญาย นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติฯ
‘‘Mā, bhante nāgasena, imaṃ pañhaṃ paṭicchannaṃ katvā dīpehi, vivaṭaṃ pākaṭaṃ katvā dīpehi chandajāto ussāhajāto, yaṃ te sikkhitaṃ, taṃ sabbaṃ etthevākirāhi, etthāyaṃ jano sammūḷho vimatijāto saṃsayapakkhando, bhindetaṃ antodosasalla’’nti. ‘‘Atthesā, mahārāja, nibbānadhātu santā sukhā paṇītā, taṃ sammāpaṭipanno jinānusiṭṭhiyā saṅkhāre sammasanto paññāya sacchikaroti. Yathā, mahārāja, antevāsiko ācariyānusiṭṭhiyā vijjaṃ paññāya sacchikaroti, evameva kho, mahārāja, sammāpaṭipanno jinānusiṭṭhiyā paññāya nibbānaṃ sacchikaroti.
‘‘กถํ ปน ตํ นิพฺพานํ ทฎฺฐพฺพนฺติ? อนีติโต นิรุปทฺทวโต อภยโต เขมโต สนฺตโต สุขโต สาตโต ปณีตโต สุจิโต สีตลโต ทฎฺฐพฺพํฯ
‘‘Kathaṃ pana taṃ nibbānaṃ daṭṭhabbanti? Anītito nirupaddavato abhayato khemato santato sukhato sātato paṇītato sucito sītalato daṭṭhabbaṃ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส พหุกฎฺฐปุเญฺชน ชลิตกฎฺฐิเตน อคฺคินา ทยฺหมาโน วายาเมน ตโต มุญฺจิตฺวา นิรคฺคิโกกาสํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฎิปโนฺน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตติวิธคฺคิสนฺตาปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติฯ ยถา, มหาราช, อคฺคิ, เอวํ ติวิธคฺคิ ทฎฺฐโพฺพ; ยถา อคฺคิคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฎิปโนฺน ทฎฺฐโพฺพ; ยถา นิรคฺคิโกกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฎฺฐพฺพํฯ
‘‘Yathā, mahārāja, puriso bahukaṭṭhapuñjena jalitakaṭṭhitena agginā dayhamāno vāyāmena tato muñcitvā niraggikokāsaṃ pavisitvā tattha paramasukhaṃ labheyya, evameva kho, mahārāja, yo sammāpaṭipanno, so yoniso manasikārena byapagatatividhaggisantāpaṃ paramasukhaṃ nibbānaṃ sacchikaroti. Yathā, mahārāja, aggi, evaṃ tividhaggi daṭṭhabbo; yathā aggigato puriso, evaṃ sammāpaṭipanno daṭṭhabbo; yathā niraggikokāso, evaṃ nibbānaṃ daṭṭhabbaṃ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อหิกุกฺกุรมนุสฺสกุณปสรีรวฬญฺชโกฎฺฐาสราสิคโต กุณปชฎาชฎิตนฺตรมนุปวิโฎฺฐ วายาเมน ตโต มุญฺจิตฺวา นิกฺกุณโปกาสํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฎิปโนฺน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสกุณปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติฯ ยถา, มหาราช, กุณปํ, เอวํ ปญฺจ กามคุณา ทฎฺฐพฺพา; ยถา กุณปคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฎิปโนฺน ทฎฺฐโพฺพ; ยถา นิกฺกุณโปกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฎฺฐพฺพํฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, puriso ahikukkuramanussakuṇapasarīravaḷañjakoṭṭhāsarāsigato kuṇapajaṭājaṭitantaramanupaviṭṭho vāyāmena tato muñcitvā nikkuṇapokāsaṃ pavisitvā tattha paramasukhaṃ labheyya, evameva kho, mahārāja, yo sammāpaṭipanno, so yoniso manasikārena byapagatakilesakuṇapaṃ paramasukhaṃ nibbānaṃ sacchikaroti. Yathā, mahārāja, kuṇapaṃ, evaṃ pañca kāmaguṇā daṭṭhabbā; yathā kuṇapagato puriso, evaṃ sammāpaṭipanno daṭṭhabbo; yathā nikkuṇapokāso, evaṃ nibbānaṃ daṭṭhabbaṃ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ภีโต ตสิโต กมฺปิโต วิปรีตวิพฺภนฺตจิโตฺต วายาเมน ตโต มุญฺจิตฺวา ทฬฺหํ ถิรํ อจลํ อภยฎฺฐานํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฎิปโนฺน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตภยสนฺตาสํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติฯ ยถา, มหาราช, ภยํ, เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ ปฎิจฺจ อปราปรํ ปวตฺตภยํ ทฎฺฐพฺพํ; ยถา ภีโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฎิปโนฺน ทฎฺฐโพฺพ; ยถา อภยฎฺฐานํ, เอวํ นิพฺพานํ ทฎฺฐพฺพํฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, puriso bhīto tasito kampito viparītavibbhantacitto vāyāmena tato muñcitvā daḷhaṃ thiraṃ acalaṃ abhayaṭṭhānaṃ pavisitvā tattha paramasukhaṃ labheyya, evameva kho, mahārāja, yo sammāpaṭipanno, so yoniso manasikārena byapagatabhayasantāsaṃ paramasukhaṃ nibbānaṃ sacchikaroti. Yathā, mahārāja, bhayaṃ, evaṃ jātijarābyādhimaraṇaṃ paṭicca aparāparaṃ pavattabhayaṃ daṭṭhabbaṃ; yathā bhīto puriso, evaṃ sammāpaṭipanno daṭṭhabbo; yathā abhayaṭṭhānaṃ, evaṃ nibbānaṃ daṭṭhabbaṃ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส กิลิฎฺฐมลินกลลกทฺทมเทเส ปติโต วายาเมน ตํ กลลกทฺทมํ อปวาเหตฺวา ปริสุทฺธวิมลเทสมุปคนฺตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฎิปโนฺน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสมลกทฺทมํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติฯ ยถา, มหาราช, กลลํ, เอวํ ลาภสกฺการสิโลโก ทฎฺฐโพฺพ; ยถา กลลคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฎิปโนฺน ทฎฺฐโพฺพ; ยถา ปริสุทฺธวิมลเทโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฎฺฐพฺพํฯ
‘‘Yathā vā pana, mahārāja, puriso kiliṭṭhamalinakalalakaddamadese patito vāyāmena taṃ kalalakaddamaṃ apavāhetvā parisuddhavimaladesamupagantvā tattha paramasukhaṃ labheyya, evameva kho, mahārāja, yo sammāpaṭipanno, so yoniso manasikārena byapagatakilesamalakaddamaṃ paramasukhaṃ nibbānaṃ sacchikaroti. Yathā, mahārāja, kalalaṃ, evaṃ lābhasakkārasiloko daṭṭhabbo; yathā kalalagato puriso, evaṃ sammāpaṭipanno daṭṭhabbo; yathā parisuddhavimaladeso, evaṃ nibbānaṃ daṭṭhabbaṃ.
‘‘ตญฺจ ปน นิพฺพานํ สมฺมาปฎิปโนฺน กินฺติ สจฺฉิกโรติ? โย โส, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน, โส สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติฯ ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาติํ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธิํ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิญฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิฯ โส ตตฺถ กิญฺจิ น คยฺหูปคํ ปสฺสติฯ ยถา, มหาราช, ปุริโส ทิวสสนฺตเตฺต อโยคุเฬ ชลิเต ตเตฺต กฐิเต อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ น กิญฺจิ คยฺหูปคํ ปเทสํ ปสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติ, โส ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาติํ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธิํ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิญฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิฯ โส ตตฺถ 1 น กิญฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺสติ, ตสฺส คยฺหูปคํ อปสฺสนฺตสฺส จิเตฺต อรติ สณฺฐาติ, กายสฺมิํ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติฯ
‘‘Tañca pana nibbānaṃ sammāpaṭipanno kinti sacchikaroti? Yo so, mahārāja, sammāpaṭipanno, so saṅkhārānaṃ pavattaṃ sammasati. Pavattaṃ sammasamāno tattha jātiṃ passati jaraṃ passati byādhiṃ passati maraṇaṃ passati, na tattha kiñci sukhaṃ sātaṃ passati āditopi majjhatopi pariyosānatopi. So tattha kiñci na gayhūpagaṃ passati. Yathā, mahārāja, puriso divasasantatte ayoguḷe jalite tatte kaṭhite āditopi majjhatopi pariyosānatopi na kiñci gayhūpagaṃ padesaṃ passati, evameva kho, mahārāja, yo saṅkhārānaṃ pavattaṃ sammasati, so pavattaṃ sammasamāno tattha jātiṃ passati jaraṃ passati byādhiṃ passati maraṇaṃ passati, na tattha kiñci sukhaṃ sātaṃ passati āditopi majjhatopi pariyosānatopi. So tattha 2 na kiñci gayhūpagaṃ passati, tassa gayhūpagaṃ apassantassa citte arati saṇṭhāti, kāyasmiṃ ḍāho okkamati, so atāṇo asaraṇo asaraṇībhūto bhavesu nibbindati.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส ชลิตชาลํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ ปวิเสยฺย, โส ตตฺถ อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต อคฺคิมฺหิ นิพฺพิเนฺทยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส คยฺหูปคํ อปสฺสนฺตสฺส จิเตฺต อรติ สณฺฐาติ, กายสฺมิํ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติฯ
‘‘Yathā, mahārāja, puriso jalitajālaṃ mahantaṃ aggikkhandhaṃ paviseyya, so tattha atāṇo asaraṇo asaraṇībhūto aggimhi nibbindeyya, evameva kho, mahārāja, tassa gayhūpagaṃ apassantassa citte arati saṇṭhāti, kāyasmiṃ ḍāho okkamati, so atāṇo asaraṇo asaraṇībhūto bhavesu nibbindati.
‘‘ตสฺส ปวเตฺต ภยทสฺสาวิสฺส เอวํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ‘สนฺตตฺตํ โข ปเนตํ ปวตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ พหุทุกฺขํ พหูปายาสํ, ยทิ โกจิ ลเภถ อปฺปวตฺตํ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฎินิสฺสโคฺค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติฯ อิติ เหตํ 3 ตสฺส อปฺปวเตฺต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ 4‘ปฎิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติฯ
‘‘Tassa pavatte bhayadassāvissa evaṃ cittaṃ uppajjati ‘santattaṃ kho panetaṃ pavattaṃ sampajjalitaṃ bahudukkhaṃ bahūpāyāsaṃ, yadi koci labhetha appavattaṃ etaṃ santaṃ etaṃ paṇītaṃ, yadidaṃ sabbasaṅkhārasamatho sabbūpadhipaṭinissaggo taṇhakkhayo virāgo nirodho nibbāna’nti. Iti hetaṃ 5 tassa appavatte cittaṃ pakkhandati pasīdati pahaṃsayati tusayati 6‘paṭiladdhaṃ kho me nissaraṇa’nti.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส วิปฺปนโฎฺฐ วิเทสปกฺขโนฺท นิพฺพาหนมคฺคํ ทิสฺวา ตตฺถ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ 7 ‘ปฎิลโทฺธ เม นิพฺพาหนมโคฺค’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปวเตฺต ภยทสฺสาวิสฺส อปฺปวเตฺต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ 8 ‘ปฎิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติฯ
‘‘Yathā, mahārāja, puriso vippanaṭṭho videsapakkhando nibbāhanamaggaṃ disvā tattha pakkhandati pasīdati pahaṃsayati tusayati 9 ‘paṭiladdho me nibbāhanamaggo’ti, evameva kho, mahārāja, pavatte bhayadassāvissa appavatte cittaṃ pakkhandati pasīdati pahaṃsayati tusayati 10 ‘paṭiladdhaṃ kho me nissaraṇa’nti.
‘‘โส อปฺปวตฺตตฺถาย มคฺคํ อายูหติ คเวสติ ภาเวติ พหุลีกโรติ, ตสฺส ตทตฺถํ สติ สนฺติฎฺฐติ, ตทตฺถํ วีริยํ สนฺติฎฺฐติ, ตทตฺถํ ปีติ สนฺติฎฺฐติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ อปราปรํ มนสิกโรโต ปวตฺตํ สมติกฺกมิตฺวา อปฺปวตฺตํ โอกฺกมติ, อปฺปวตฺตมนุปฺปโตฺต, มหาราช, สมฺมาปฎิปโนฺน ‘นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’ติ วุจฺจตี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ
‘‘So appavattatthāya maggaṃ āyūhati gavesati bhāveti bahulīkaroti, tassa tadatthaṃ sati santiṭṭhati, tadatthaṃ vīriyaṃ santiṭṭhati, tadatthaṃ pīti santiṭṭhati, tassa taṃ cittaṃ aparāparaṃ manasikaroto pavattaṃ samatikkamitvā appavattaṃ okkamati, appavattamanuppatto, mahārāja, sammāpaṭipanno ‘nibbānaṃ sacchikarotī’ti vuccatī’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.
นิพฺพานสจฺฉิกรณปโญฺห เอกาทสโมฯ
Nibbānasacchikaraṇapañho ekādasamo.
Footnotes: