Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā

    นิทานกถาวณฺณนา

    Nidānakathāvaṇṇanā

    อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายีติ ปรินิพฺพานเมว ปรินิพฺพานสฺส ปรินิพฺพานนฺตรโต วิเสสนตฺถํ กรณภาเวน วุตฺตํฯ ยาย วา นิพฺพานธาตุยา อธิคตาย ปจฺฉิมจิตฺตํ อปฺปฎิสนฺธิกํ ชาตํ, สา ตสฺส อปฺปฎิสนฺธิวูปสมสฺส กรณภาเวน วุตฺตาติฯ ทุพฺพลปกฺขนฺติ น กาฬาโสกํ วิย พลวนฺตํ, อถ โข เอกมณฺฑลิกนฺติ วทนฺติฯ ธมฺมวาทีอธมฺมวาทีวิเสสชนนสมตฺถาย ปน ปญฺญาย อภาวโต ทุพฺพลตา วุตฺตาฯ เตสํเยวาติ พาหุลิยานเมว , พหุสฺสุติกาติปิ นามํฯ ภินฺนกาติ มูลสงฺคีติโต มูลนิกายโต วา ภินฺนา, ลทฺธิยา สุตฺตเนฺตหิ ลิงฺคากเปฺปหิ จ วิสทิสภาวํ คตาติ อโตฺถฯ

    Anupādisesāya nibbānadhātuyā parinibbāyīti parinibbānameva parinibbānassa parinibbānantarato visesanatthaṃ karaṇabhāvena vuttaṃ. Yāya vā nibbānadhātuyā adhigatāya pacchimacittaṃ appaṭisandhikaṃ jātaṃ, sā tassa appaṭisandhivūpasamassa karaṇabhāvena vuttāti. Dubbalapakkhanti na kāḷāsokaṃ viya balavantaṃ, atha kho ekamaṇḍalikanti vadanti. Dhammavādīadhammavādīvisesajananasamatthāya pana paññāya abhāvato dubbalatā vuttā. Tesaṃyevāti bāhuliyānameva , bahussutikātipi nāmaṃ. Bhinnakāti mūlasaṅgītito mūlanikāyato vā bhinnā, laddhiyā suttantehi liṅgākappehi ca visadisabhāvaṃ gatāti attho.

    มูลสงฺคหนฺติ ปญฺจสติกสงฺคีติํฯ อญฺญตฺร สงฺคหิตาติอาทีสุ ทีฆาทีสุ อญฺญตฺร สงฺคหิตโต สุตฺตนฺตราสิโต ตํ ตํ สุตฺตํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา อญฺญตฺร อกริํสูติ วุตฺตํ โหติฯ สงฺคหิตโต วา อญฺญตฺร อสงฺคหิตํ สุตฺตํ อญฺญตฺร กตฺถจิ อกริํสุ, อญฺญํ วา อกริํสูติ อโตฺถฯ อตฺถํ ธมฺมญฺจาติ ปาฬิยา อตฺถํ ปาฬิญฺจฯ วินเย นิกาเยสุ จ ปญฺจสูติ วินเย จ อวเสสปญฺจนิกาเยสุ จฯ

    Mūlasaṅgahanti pañcasatikasaṅgītiṃ. Aññatra saṅgahitātiādīsu dīghādīsu aññatra saṅgahitato suttantarāsito taṃ taṃ suttaṃ nikkaḍḍhitvā aññatra akariṃsūti vuttaṃ hoti. Saṅgahitato vā aññatra asaṅgahitaṃ suttaṃ aññatra katthaci akariṃsu, aññaṃ vā akariṃsūti attho. Atthaṃ dhammañcāti pāḷiyā atthaṃ pāḷiñca. Vinaye nikāyesu ca pañcasūti vinaye ca avasesapañcanikāyesu ca.

    ‘‘เทฺวปานนฺท , เวทนา วุตฺตา มยา ปริยาเยนา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๘๙) ปริยายเทสิตํฯ อุเปกฺขาเวทนา หิ สนฺตสฺมิํ ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตาติ อยเญฺหตฺถ ปริยาโยฯ ‘‘ติโสฺส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา อุเปกฺขา เวทนา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๔๙-๒๕๑) นิปฺปริยายเทสิตํฯ เวทนาสภาโว หิ ติวิโธติ อยเมตฺถ นิปฺปริยายตาฯ ‘‘สุขาปิ เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๒๓) นีตตฺถํฯ ‘‘ยํ กิญฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๓๒) เนยฺยตฺถํฯ ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ฐาเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุเสฺส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวติํเส’’ติอาทิกํ (อ. นิ. ๙.๒๑) อญฺญํ สนฺธาย ภณิตํ คเหตฺวา อญฺญํ อตฺถํ ฐปยิํสุฯ ‘‘นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติอาทิกํ (กถา. ๒๗๐) สุตฺตญฺจ อญฺญํ สนฺธาย ภณิตํ อตฺถญฺจ อญฺญํ ฐปยิํสูติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ‘‘อเตฺถกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน’’ติอาทิ (ปุ. ป. มาติกา ๔.๒๔) พฺยญฺชนจฺฉายาย สณฺหสุขุมํ สุญฺญตาทิอตฺถํ พหุํ วินาสยุํ

    ‘‘Dvepānanda , vedanā vuttā mayā pariyāyenā’’tiādi (ma. ni. 2.89) pariyāyadesitaṃ. Upekkhāvedanā hi santasmiṃ paṇīte sukhe vuttā bhagavatāti ayañhettha pariyāyo. ‘‘Tisso imā, bhikkhave, vedanā sukhā dukkhā upekkhā vedanā’’tiādi (saṃ. ni. 4.249-251) nippariyāyadesitaṃ. Vedanāsabhāvo hi tividhoti ayamettha nippariyāyatā. ‘‘Sukhāpi vedanā aniccā saṅkhatā’’tiādi (dī. ni. 2.123) nītatthaṃ. ‘‘Yaṃ kiñci vedayitaṃ, sabbaṃ taṃ dukkha’’ntiādi (saṃ. ni. 2.32) neyyatthaṃ. ‘‘Tīhi, bhikkhave, ṭhānehi jambudīpakā manussā uttarakuruke ca manusse adhiggaṇhanti deve ca tāvatiṃse’’tiādikaṃ (a. ni. 9.21) aññaṃ sandhāya bhaṇitaṃ gahetvā aññaṃ atthaṃ ṭhapayiṃsu. ‘‘Natthi devesu brahmacariyavāso’’tiādikaṃ (kathā. 270) suttañca aññaṃ sandhāya bhaṇitaṃ atthañca aññaṃ ṭhapayiṃsūti evamettha attho daṭṭhabbo. ‘‘Atthekacco puggalo attahitāya paṭipanno’’tiādi (pu. pa. mātikā 4.24) byañjanacchāyāya saṇhasukhumaṃ suññatādiatthaṃ bahuṃ vināsayuṃ.

    วินยคมฺภีรนฺติ วินเย คมฺภีรญฺจ เอกเทสํ ฉเฑฺฑตฺวาติ อโตฺถฯ กิเลสวินเยน วา คมฺภีรํ เอกเทสํ สุตฺตํ ฉเฑฺฑตฺวาติ อโตฺถฯ ปติรูปนฺติ อตฺตโน อธิปฺปายานุรูปํ สุตฺตํ, สุตฺตปติรูปกํ วา อสุตฺตํฯ เอกเจฺจ อฎฺฐกถากณฺฑเมว วิสฺสชฺชิํสุ, เอกเจฺจ สกลํ อภิธมฺมปิฎกนฺติ อาห ‘‘อตฺถุทฺธารํ อภิธมฺมํ ฉปฺปกรณ’’นฺติฯ กถาวตฺถุสฺส สวิวาทเตฺตปิ อวิวาทานิ ฉปฺปกรณานิ ปฐิตพฺพานิ สิยุํ, ตานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ หิ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ฉปฺปกรณ’’นฺติ วุตฺตนฺติฯ ตติยสงฺคีติโต วา ปุเพฺพ ปวตฺตมานานํ วเสน ‘‘ฉปฺปกรณ’’นฺติ วุตฺตํ ฯ อญฺญานีติ อญฺญานิ อภิธมฺมปกรณาทีนิฯ นามนฺติ ยํ พุทฺธาทิปฎิสํยุตฺตํ น โหติ มญฺชุสิรีติอาทิกํ, ตํ นิกายนามํฯ ลิงฺคนฺติ นิวาสนปารุปนาทิวิเสสกตํ สณฺฐานวิเสสํฯ สิกฺกาทิกํ ปริกฺขารํอากโปฺป ฐานาทีสุ องฺคฎฺฐปนวิเสโส ทฎฺฐโพฺพฯ กรณนฺติ จีวรสิพฺพนาทิกิจฺจวิเสโสฯ

    Vinayagambhīranti vinaye gambhīrañca ekadesaṃ chaḍḍetvāti attho. Kilesavinayena vā gambhīraṃ ekadesaṃ suttaṃ chaḍḍetvāti attho. Patirūpanti attano adhippāyānurūpaṃ suttaṃ, suttapatirūpakaṃ vā asuttaṃ. Ekacce aṭṭhakathākaṇḍameva vissajjiṃsu, ekacce sakalaṃ abhidhammapiṭakanti āha ‘‘atthuddhāraṃ abhidhammaṃ chappakaraṇa’’nti. Kathāvatthussa savivādattepi avivādāni chappakaraṇāni paṭhitabbāni siyuṃ, tāni nappavattantīti hi dassanatthaṃ ‘‘chappakaraṇa’’nti vuttanti. Tatiyasaṅgītito vā pubbe pavattamānānaṃ vasena ‘‘chappakaraṇa’’nti vuttaṃ . Aññānīti aññāni abhidhammapakaraṇādīni. Nāmanti yaṃ buddhādipaṭisaṃyuttaṃ na hoti mañjusirītiādikaṃ, taṃ nikāyanāmaṃ. Liṅganti nivāsanapārupanādivisesakataṃ saṇṭhānavisesaṃ. Sikkādikaṃ parikkhāraṃ. Ākappo ṭhānādīsu aṅgaṭṭhapanaviseso daṭṭhabbo. Karaṇanti cīvarasibbanādikiccaviseso.

    สงฺกนฺติกสฺสปิเกน นิกาเยน วาเทน วา ภินฺนา สงฺกนฺติกาติ อโตฺถฯ สงฺกนฺติกานํ เภทา สุตฺตวาที อนุปุเพฺพน ภิชฺชถ ภิชฺชิํสูติ อโตฺถฯ ภินฺนวาเทนาติ ภินฺนา วาทา เอตสฺมินฺติ ภินฺนวาโท, เตน อภิเนฺนน เถรวาเทน สห อฎฺฐารส โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติฯ ภินฺนวาเทนาติ วา ภินฺนาย ลทฺธิยา อฎฺฐารส โหนฺติ, เต สเพฺพปิ สหาติ อโตฺถฯ เถรวาทานมุตฺตโมติ เอตฺถ เถร-อิติ อวิภตฺติโก นิเทฺทโสฯ เถรานํ อยนฺติ เถโรฯ โก โส? วาโทฯ เถโร วาทานมุตฺตโมติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ

    Saṅkantikassapikena nikāyena vādena vā bhinnā saṅkantikāti attho. Saṅkantikānaṃ bhedā suttavādī anupubbena bhijjatha bhijjiṃsūti attho. Bhinnavādenāti bhinnā vādā etasminti bhinnavādo, tena abhinnena theravādena saha aṭṭhārasa hontīti vuttaṃ hoti. Bhinnavādenāti vā bhinnāya laddhiyā aṭṭhārasa honti, te sabbepi sahāti attho. Theravādānamuttamoti ettha thera-iti avibhattiko niddeso. Therānaṃ ayanti thero. Ko so? Vādo. Thero vādānamuttamoti ayamettha attho.

    อุปฺปเนฺน วาเท สนฺธาย ‘‘ปรปฺปวาทมถน’’นฺติ อาหฯ อายติํ อุปฺปชฺชนกวาทานํ ปฎิเสธนลกฺขณภาวโต ‘‘อายติลกฺขณ’’นฺติ วุตฺตํฯ

    Uppanne vāde sandhāya ‘‘parappavādamathana’’nti āha. Āyatiṃ uppajjanakavādānaṃ paṭisedhanalakkhaṇabhāvato ‘‘āyatilakkhaṇa’’nti vuttaṃ.

    นิทานกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nidānakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact