Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๑๐. นิทานสุตฺตํ
10. Nidānasuttaṃ
๖๐. เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโมฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, ภเนฺต, อพฺภุตํ, ภเนฺต! ยาว คมฺภีโร จายํ, ภเนฺต, ปฎิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จ, อถ จ ปน เม อุตฺตานกุตฺตานโก วิย ขายตี’’ติฯ
60. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kurūsu viharati kammāsadhammaṃ nāma kurūnaṃ nigamo. Atha kho āyasmā ānando yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘acchariyaṃ, bhante, abbhutaṃ, bhante! Yāva gambhīro cāyaṃ, bhante, paṭiccasamuppādo gambhīrāvabhāso ca, atha ca pana me uttānakuttānako viya khāyatī’’ti.
‘‘อุปาทานิเยสุ, อานนฺท, ธเมฺมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติฯ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ; อุปาทานปจฺจยา ภโว; ภวปจฺจยา ชาติ; ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติฯ เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ
‘‘Upādāniyesu, ānanda, dhammesu assādānupassino viharato taṇhā pavaḍḍhati. Taṇhāpaccayā upādānaṃ; upādānapaccayā bhavo; bhavapaccayā jāti; jātipaccayā jarāmaraṇaṃ sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā sambhavanti. Evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa samudayo hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มหารุโกฺขฯ ตสฺส ยานิ เจว มูลานิ อโธคมานิ, ยานิ จ ติริยงฺคมานิ, สพฺพานิ ตานิ อุทฺธํ โอชํ อภิหรนฺติฯ เอวญฺหิ โส, อานนฺท, มหารุโกฺข ตทาหาโร ตทุปาทาโน จิรํ ทีฆมทฺธานํ ติเฎฺฐยฺยฯ เอวเมว โข, อานนฺท, อุปาทานิเยสุ ธเมฺมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติฯ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ ; อุปาทานปจฺจยา ภโว…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ
‘‘Seyyathāpi, ānanda, mahārukkho. Tassa yāni ceva mūlāni adhogamāni, yāni ca tiriyaṅgamāni, sabbāni tāni uddhaṃ ojaṃ abhiharanti. Evañhi so, ānanda, mahārukkho tadāhāro tadupādāno ciraṃ dīghamaddhānaṃ tiṭṭheyya. Evameva kho, ānanda, upādāniyesu dhammesu assādānupassino viharato taṇhā pavaḍḍhati. Taṇhāpaccayā upādānaṃ ; upādānapaccayā bhavo…pe… evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa samudayo hoti.
‘‘อุปาทานิเยสุ, อานนฺท, ธเมฺมสุ อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา นิรุชฺฌติฯ ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ; อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติฯ
‘‘Upādāniyesu, ānanda, dhammesu ādīnavānupassino viharato taṇhā nirujjhati. Taṇhānirodhā upādānanirodho; upādānanirodhā bhavanirodho…pe… evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa nirodho hoti.
‘‘เสยฺยถาปิ , อานนฺท, มหารุโกฺขฯ อถ ปุริโส อาคเจฺฉยฺย กุทฺทาลปิฎกํ อาทายฯ โส ตํ รุกฺขํ มูเล ฉิเนฺทยฺย, มูเล เฉตฺวา ปลิขเณยฺย, ปลิขณิตฺวา มูลานิ อุทฺธเรยฺย อนฺตมโส อุสีรนาฬิมตฺตานิปิฯ โส ตํ รุกฺขํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉิเนฺทยฺยฯ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา ผาเลยฺย; ผาเลตฺวา สกลิกํ สกลิกํ กเรยฺย, สกลิกํ สกลิกํ กริตฺวา วาตาตเป วิโสเสยฺย, วาตาตเป วิโสเสตฺวา อคฺคินา ฑเหยฺย, อคฺคินา ฑเหตฺวา มสิํ กเรยฺย, มสิํ กริตฺวา มหาวาเต วา โอผุเณยฺย, นทิยา วา สีฆโสตาย ปวาเหยฺยฯ เอวญฺหิ โส, อานนฺท, มหารุโกฺข อุจฺฉินฺนมูโล อสฺส ตาลาวตฺถุกโต อนภาวงฺกโต อายติํ อนุปฺปาทธโมฺม ฯ เอวเมว โข, อานนฺท, อุปาทานิเยสุ ธเมฺมสุ อาทีนวานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา นิรุชฺฌติฯ ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ; อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ; ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ; ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติฯ เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติฯ ทสมํฯ
‘‘Seyyathāpi , ānanda, mahārukkho. Atha puriso āgaccheyya kuddālapiṭakaṃ ādāya. So taṃ rukkhaṃ mūle chindeyya, mūle chetvā palikhaṇeyya, palikhaṇitvā mūlāni uddhareyya antamaso usīranāḷimattānipi. So taṃ rukkhaṃ khaṇḍākhaṇḍikaṃ chindeyya. Khaṇḍākhaṇḍikaṃ chinditvā phāleyya; phāletvā sakalikaṃ sakalikaṃ kareyya, sakalikaṃ sakalikaṃ karitvā vātātape visoseyya, vātātape visosetvā agginā ḍaheyya, agginā ḍahetvā masiṃ kareyya, masiṃ karitvā mahāvāte vā ophuṇeyya, nadiyā vā sīghasotāya pavāheyya. Evañhi so, ānanda, mahārukkho ucchinnamūlo assa tālāvatthukato anabhāvaṅkato āyatiṃ anuppādadhammo . Evameva kho, ānanda, upādāniyesu dhammesu ādīnavānupassino viharato taṇhā nirujjhati. Taṇhānirodhā upādānanirodho; upādānanirodhā bhavanirodho; bhavanirodhā jātinirodho; jātinirodhā jarāmaraṇaṃ sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā nirujjhanti. Evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa nirodho hotī’’ti. Dasamaṃ.
ทุกฺขวโคฺค ฉโฎฺฐฯ
Dukkhavaggo chaṭṭho.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ปริวีมํสนุปาทานํ, เทฺว จ สํโยชนานิ จ;
Parivīmaṃsanupādānaṃ, dve ca saṃyojanāni ca;
มหารุเกฺขน เทฺว วุตฺตา, ตรุเณน จ สตฺตมํ;
Mahārukkhena dve vuttā, taruṇena ca sattamaṃ;
นามรูปญฺจ วิญฺญาณํ, นิทาเนน จ เต ทสาติฯ
Nāmarūpañca viññāṇaṃ, nidānena ca te dasāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. นิทานสุตฺตวณฺณนา • 10. Nidānasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. นิทานสุตฺตวณฺณนา • 10. Nidānasuttavaṇṇanā