Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
นิคมนกถาวณฺณนา
Nigamanakathāvaṇṇanā
เอวํ วินยสํวณฺณนํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิคเมโนฺต อาห ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ‘‘โย กปฺปโกฎีหิปิ อปฺปเมยฺย’’นฺติอาทิวจนโต (ปารา. อฎฺฐ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) ปฎฺฐาย ‘‘นวสงฺคหิตวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตา’’ติ วจนปริโยสานานํ อกฺขรปทพฺยญฺชนานํ สมุทายภูเตน วจนกฺกเมน, สมตฺตาติ สมฺพโนฺธฯ
Evaṃ vinayasaṃvaṇṇanaṃ katvā idāni taṃ nigamento āha ‘‘ettāvatā’’tiādi. Tattha ettāvatāti ettakena ‘‘yo kappakoṭīhipi appameyya’’ntiādivacanato (pārā. aṭṭha. 1.ganthārambhakathā) paṭṭhāya ‘‘navasaṅgahitavaggavaṇṇanā niṭṭhitā’’ti vacanapariyosānānaṃ akkharapadabyañjanānaṃ samudāyabhūtena vacanakkamena, samattāti sambandho.
อุภโตวิภงฺคขนฺธกปริวารวิภตฺติเทสนนฺติ อุภโตวิภเงฺคน จ ขนฺธเกน จ ปริวาเรน จ วิภชิตพฺพเทสนํ วินยปิฎกนฺติ สมฺพโนฺธฯ นาโถติ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ หิตปฎิปตฺติํ ยาจนเฎฺฐน จ กิเลสานํ อุปตาปนเฎฺฐน จ เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสนเฎฺฐน จ จิตฺติสฺสริยเฎฺฐน จ นาโถฯ เวเนยฺยนฺติ วิเนตพฺพเฎฺฐน เวเนยฺยํฯ ชิโนติ ปญฺจมารานํ ชิตเฎฺฐน ชิโนฯ อยํ ปเนตฺถ โยชนา – นาโถ เวเนยฺยํ วิเนโนฺต ชิโน อุภโตวิภงฺคขนฺธกปริวารวิภตฺติเทสนํ ยํ วินยปิฎกํ อาหาติฯ
Ubhatovibhaṅgakhandhakaparivāravibhattidesananti ubhatovibhaṅgena ca khandhakena ca parivārena ca vibhajitabbadesanaṃ vinayapiṭakanti sambandho. Nāthoti bhikkhubhikkhunīnaṃ hitapaṭipattiṃ yācanaṭṭhena ca kilesānaṃ upatāpanaṭṭhena ca veneyyānaṃ hitasukhaṃ āsīsanaṭṭhena ca cittissariyaṭṭhena ca nātho. Veneyyanti vinetabbaṭṭhena veneyyaṃ. Jinoti pañcamārānaṃ jitaṭṭhena jino. Ayaṃ panettha yojanā – nātho veneyyaṃ vinento jino ubhatovibhaṅgakhandhakaparivāravibhattidesanaṃ yaṃ vinayapiṭakaṃ āhāti.
สมธิกสตฺตวีสติสหสฺสมเตฺตนาติ สห อธิเกน สตฺตสหสฺสปฺปมาเณน จ วีสติสหสฺสปฺปมาเณน จ คเนฺถนาติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ วินยปิฎกสฺสฯ สมนฺตปาสาทิกาติ สมนฺตโต ปสาทํ วหิกา, ชนิกา วาฯ ตตฺรายํ โยชนา – ตสฺส สมธิกสตฺตวีสติสหสฺสมเตฺตน คเนฺถน สมนฺตปาสาทิกา นาม สํวณฺณนา สมตฺตาติฯ
Samadhikasattavīsatisahassamattenāti saha adhikena sattasahassappamāṇena ca vīsatisahassappamāṇena ca ganthenāti sambandho. Tassāti vinayapiṭakassa. Samantapāsādikāti samantato pasādaṃ vahikā, janikā vā. Tatrāyaṃ yojanā – tassa samadhikasattavīsatisahassamattena ganthena samantapāsādikā nāma saṃvaṇṇanā samattāti.
ตตฺริทนฺติ ตตฺร อิทํฯ ‘‘ตตฺรา’’ติ ปทํ ปุริมวจนาเปกฺขํฯ ตตฺร ‘‘สมนฺตปาสาทิกา นามา’’ติ วจเนติ หิ อโตฺถฯ สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมินฺติ ปจฺจตฺตเตฺถ เจตํ ภุมฺมวจนํ โหติ ‘‘อิทมฺปิ สีลสฺมิ’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๙๔ อาทโย) วิย, สมนฺตปาสาทิกตฺตนฺติ อโตฺถฯ อยํ ปเนตฺถ โยชนาตตฺร ‘‘สมนฺตปาสาทิกา นามา’’ติ วจเน สมนฺตปาสาทิกาย อิทํ สมนฺตปาสาทิกตฺตํ โหตีติ อยํ สมนฺตปาสาทิกภาโวติ อโตฺถฯ
Tatridanti tatra idaṃ. ‘‘Tatrā’’ti padaṃ purimavacanāpekkhaṃ. Tatra ‘‘samantapāsādikā nāmā’’ti vacaneti hi attho. Samantapāsādikattasminti paccattatthe cetaṃ bhummavacanaṃ hoti ‘‘idampi sīlasmi’’ntiādīsu (dī. ni. 1.194 ādayo) viya, samantapāsādikattanti attho. Ayaṃ panettha yojanātatra ‘‘samantapāsādikā nāmā’’ti vacane samantapāsādikāya idaṃ samantapāsādikattaṃ hotīti ayaṃ samantapāsādikabhāvoti attho.
อาจริยปรํปรโตติอาทีสุ คาถาสุ วุตฺตํ นววิธํ วิเสสนปทํ ‘‘น ทิสฺสตี’’ติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํฯ สมฺปสฺสตนฺติ สมฺมา ปสฺสนฺตานํ วิญฺญูนนฺติ สมฺพโนฺธฯ ยโตติ ยสฺมา, น ทิสฺสตีติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถาติ สํวณฺณนายํฯ สมนฺตปาสาทิกาเตฺววาติ สมนฺตปาสาทิกา อิติ เอว นามฯ วินยสฺสาติ วินยปิฎกสฺสฯ วิเนยฺยทมนกุสเลนาติ วิเนยฺยานํ ทมเน เฉเกนฯ โลกนาเถนาติ โลกานํ นาเถนฯ โลกมนุกมฺปมาเนนาติ โลกํ อนุกมฺปมาเนนฯ อยเญฺหตฺถ โยชนา – อาจริยปรํปรโต…เป.… วิภงฺคนยเภททสฺสนโต สมฺปสฺสตํ วิญฺญูนํ เอตฺถ กิญฺจิ อปาสาทิกํ ยโต น ทิสฺสติ, ตสฺมา วิเนยฺยทมนกุสเลน โลกนาเถน โลกมนุกมฺปมาเนน ภควตา วุตฺตสฺส วินยสฺส อยํ สมนฺตปาสาทิกาเตฺวว สํวณฺณนา ปวตฺตาติฯ
Ācariyaparaṃparatotiādīsu gāthāsu vuttaṃ navavidhaṃ visesanapadaṃ ‘‘na dissatī’’ti padena sambandhitabbaṃ. Sampassatanti sammā passantānaṃ viññūnanti sambandho. Yatoti yasmā, na dissatīti sambandho. Etthāti saṃvaṇṇanāyaṃ. Samantapāsādikātvevāti samantapāsādikā iti eva nāma. Vinayassāti vinayapiṭakassa. Vineyyadamanakusalenāti vineyyānaṃ damane chekena. Lokanāthenāti lokānaṃ nāthena. Lokamanukampamānenāti lokaṃ anukampamānena. Ayañhettha yojanā – ācariyaparaṃparato…pe… vibhaṅganayabhedadassanato sampassataṃ viññūnaṃ ettha kiñci apāsādikaṃ yato na dissati, tasmā vineyyadamanakusalena lokanāthena lokamanukampamānena bhagavatā vuttassa vinayassa ayaṃ samantapāsādikātveva saṃvaṇṇanā pavattāti.
ติโสฺสปิ อิมา สีหฬฎฺฐกถาโย สุตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ กสฺส สนฺติเก สุตนฺติ อาห ‘‘พุทฺธมิโตฺต…เป.… สนฺติเก’’ติฯ ‘‘พุทฺธมิโตฺต’’ติ นาเมน วิสฺสุตสฺส ยสสฺสิโน วินยญฺญุสฺส ธีรสฺส เถรสฺส สนฺติเก สุตฺวาติ โยชนาฯ ‘‘สุตฺวา’’ติ ปทํ ‘‘อารทฺธา’’ติ ปเท ปุพฺพกาลกิริยาวิเสสนํฯ
Tissopi imā sīhaḷaṭṭhakathāyo sutvāti sambandho. Kassa santike sutanti āha ‘‘buddhamitto…pe… santike’’ti. ‘‘Buddhamitto’’ti nāmena vissutassa yasassino vinayaññussa dhīrassa therassa santike sutvāti yojanā. ‘‘Sutvā’’ti padaṃ ‘‘āraddhā’’ti pade pubbakālakiriyāvisesanaṃ.
มหาเมฆวนุยฺยาเน ภูมิภาเค ปติฎฺฐิโต สตฺถุ มหาโพธิวิภูสิโต โย มหาวิหาโร อตฺถีติ โยชนาฯ
Mahāmeghavanuyyāne bhūmibhāge patiṭṭhito satthu mahābodhivibhūsito yo mahāvihāro atthīti yojanā.
ตสฺส มหาวิหารสฺส ทกฺขิเณ ทิสาภาเค ปธานฆรํ ปธานฆรนามกํ อุตฺตมํ สุจิจาริตฺตสีเลน ภิกฺขุสเงฺฆน เสวิตํ ยํ ปริเวณํ อตฺถิ, ตตฺถ การยีติ โยชนาฯ
Tassa mahāvihārassa dakkhiṇe disābhāge padhānagharaṃ padhānagharanāmakaṃ uttamaṃ sucicārittasīlena bhikkhusaṅghena sevitaṃ yaṃ pariveṇaṃ atthi, tattha kārayīti yojanā.
โกนาโม การยีติ อาห ‘‘อุฬารกุลสมฺภูโต…เป.… วิสฺสุโต’’ติฯ ตตฺถ อุฬารกุลสมฺภูโต สงฺฆุปฎฺฐายโก สทา อนากุลาย สทฺธาย รตนตฺตเย ปสโนฺน ‘‘มหานิคมสามี’’ติ วิสฺสุโต อุปาสโก การยีติ สมฺพโนฺธฯ
Konāmo kārayīti āha ‘‘uḷārakulasambhūto…pe… vissuto’’ti. Tattha uḷārakulasambhūto saṅghupaṭṭhāyako sadā anākulāya saddhāya ratanattaye pasanno ‘‘mahānigamasāmī’’ti vissuto upāsako kārayīti sambandho.
กํ การยีติ อาห ‘‘จารุ…เป.… สมฺปนฺนสลิลาสย’’นฺติฯ ตตฺถ จารุปาการสํจิตํ โสเภน ปากาเรน สุฎฺฐุ จิตํ จินิตํ มโนรมํ สีตจฺฉายตรูเปตํ สีตจฺฉาเยน รุเกฺขน อุเปตํ สมฺปนฺนสลิลาสยํ มธุรชลาธารํ ยํ ปาสาทํ การยีติ โยชนาฯ มหานิคมสามิโน ตตฺร ปาสาเท วสตามยาติ สมฺพโนฺธฯ
Kaṃ kārayīti āha ‘‘cāru…pe… sampannasalilāsaya’’nti. Tattha cārupākārasaṃcitaṃ sobhena pākārena suṭṭhu citaṃ cinitaṃ manoramaṃ sītacchāyatarūpetaṃ sītacchāyena rukkhena upetaṃ sampannasalilāsayaṃ madhurajalādhāraṃ yaṃ pāsādaṃ kārayīti yojanā. Mahānigamasāmino tatra pāsāde vasatāmayāti sambandho.
กํ อุทฺทิสิตฺวา กีทิสา กา อารทฺธาติ อาห ‘‘สุจิสีลสมาจารํ…เป.… วินยวณฺณนา’’ติฯ ตตฺถ สุจิสีลสมาจารํ พุทฺธสิริวฺหยํ เถรํ อุทฺทิสิตฺวา อิทฺธา อตฺถวินิจฺฉยาทีหิ ปริปุณฺณา ยา วินยวณฺณนา อารทฺธาติ โยชนาฯ
Kaṃ uddisitvā kīdisā kā āraddhāti āha ‘‘sucisīlasamācāraṃ…pe… vinayavaṇṇanā’’ti. Tattha sucisīlasamācāraṃ buddhasirivhayaṃ theraṃ uddisitvā iddhā atthavinicchayādīhi paripuṇṇā yā vinayavaṇṇanā āraddhāti yojanā.
กิํนามสฺส รโญฺญ กตเม สํวจฺฉเร อารทฺธา, กิสฺมิํ กาเล ปรินิฎฺฐิตาติ อาห ‘‘ปาลยนฺตสฺส…เป.… ปรินิฎฺฐิตา’’ติฯ ตตฺถ สกลํ ลงฺกาทีปํ นิรพฺพุทํ กตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ปาลยนฺตสฺส สิรินิวาสสฺส สิริปาลยสสฺสิโน รโญฺญ ชยสํวจฺฉเรติ สมฺพโนฺธฯ สมวีสติเม เขเม ชยสํวจฺฉเร อยํ วินยสํวณฺณนา อารทฺธา, เอกวีสมฺหิ รโญฺญ เอกวีสติเม สํวจฺฉเร สมฺปเตฺต สติ ปรินิฎฺฐิตาติ โยชนาฯ
Kiṃnāmassa rañño katame saṃvacchare āraddhā, kismiṃ kāle pariniṭṭhitāti āha ‘‘pālayantassa…pe… pariniṭṭhitā’’ti. Tattha sakalaṃ laṅkādīpaṃ nirabbudaṃ katvāti sambandho. Pālayantassa sirinivāsassa siripālayasassino rañño jayasaṃvacchareti sambandho. Samavīsatime kheme jayasaṃvacchare ayaṃ vinayasaṃvaṇṇanā āraddhā, ekavīsamhi rañño ekavīsatime saṃvacchare sampatte sati pariniṭṭhitāti yojanā.
ยถา อตฺตโน สํวณฺณนา นิรุปทฺทวา สีฆํ นิฎฺฐํ อุปคตา, เอวํ โลกสฺส ธมฺมูปสํหิตา สีฆํ คจฺฉนฺตูติ อาสีสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อุปทฺทวากุเล’’ติอาทิฯ ตตฺถ อุปทฺทวากุเล อุปทฺทเวหิ อากุเล โลเก สตฺตโลเก นิรุปทฺทวโต อุปทฺทววิรหโต ยถา อยํ วินยสํวณฺณนา เอกสํวจฺฉเรเนว นิฎฺฐํ อุปาคตา, เอวํ สพฺพสฺส โลกสฺส อารทฺธา สเพฺพปิ ธมฺมูปสํหิตา อตฺถา นิรุปทฺทวา สีฆํ นิฎฺฐํ คจฺฉนฺตูติ โยชนาฯ
Yathā attano saṃvaṇṇanā nirupaddavā sīghaṃ niṭṭhaṃ upagatā, evaṃ lokassa dhammūpasaṃhitā sīghaṃ gacchantūti āsīsaṃ dassento āha ‘‘upaddavākule’’tiādi. Tattha upaddavākule upaddavehi ākule loke sattaloke nirupaddavato upaddavavirahato yathā ayaṃ vinayasaṃvaṇṇanā ekasaṃvacchareneva niṭṭhaṃ upāgatā, evaṃ sabbassa lokassa āraddhā sabbepi dhammūpasaṃhitā atthā nirupaddavā sīghaṃ niṭṭhaṃ gacchantūti yojanā.
อตฺตนา สมาจิตสฺส ปุญฺญสฺส อิจฺฉิตเตฺถ ปริณามนํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘จิรฎฺฐิตตฺถํ ธมฺมสฺสา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ธมฺมสฺส จิรฎฺฐิตตฺถํ อิมํ วินยสํวณฺณนํ กโรเนฺตน สทฺธมฺมพหุมาเนน มยา ยญฺจ ปุญฺญํ สมาจิตํ, สพฺพสฺส ตสฺส ปุญฺญสฺส อานุภาเวน สเพฺพปิ ปาณิโน ธมฺมราชสฺส ภควโต สทฺธมฺมรสเสวิโน ภวนฺตุฯ
Attanā samācitassa puññassa icchitatthe pariṇāmanaṃ dassento āha ‘‘ciraṭṭhitatthaṃ dhammassā’’tiādi. Tattha dhammassa ciraṭṭhitatthaṃ imaṃ vinayasaṃvaṇṇanaṃ karontena saddhammabahumānena mayā yañca puññaṃ samācitaṃ, sabbassa tassa puññassa ānubhāvena sabbepi pāṇino dhammarājassa bhagavato saddhammarasasevino bhavantu.
สทฺธโมฺม จิรํ ติฎฺฐตุ, เทโว กาเล วสฺสํ วสฺสโนฺต จิรํ ปชํ สตฺตสมูหํ ตเปฺปตุฯ ราชา ธเมฺมน เมทนิํ รกฺขตูติ โยชนาฯ อิติสโทฺท ปริสมาปนโตฺถฯ อิติ ปรินิฎฺฐํ สุฎฺฐุ อาปนํ ทฎฺฐพฺพนฺตีติ อโตฺถฯ
Saddhammo ciraṃ tiṭṭhatu, devo kāle vassaṃ vassanto ciraṃ pajaṃ sattasamūhaṃ tappetu. Rājā dhammena medaniṃ rakkhatūti yojanā. Itisaddo parisamāpanattho. Iti pariniṭṭhaṃ suṭṭhu āpanaṃ daṭṭhabbantīti attho.
สทฺธา จ พุทฺธิ จ วีริยญฺจ สทฺธาพุทฺธิวีริยานิ, วิสุทฺธานิ จ ตานิ สทฺธาพุทฺธิวีริยานิ เจติ วิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยานิ, ปรมานิ จ ตานิ วิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยานิ เจติ ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยานิ, เตหิ ปริมณฺฑิโต ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฎิมณฺฑิโต, เตน, เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ สีลญฺจ อาจาโร จ อชฺชวญฺจ มทฺทวญฺจ สีลาจารชฺชวมทฺทวานิ, ตานิ อาทีนิ เยสํ เตติ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทโย, อาทิสเทฺทน ขนฺติโสรจฺจาทโย สงฺคณฺหาติ, เตเยว คุณาติ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณา, เตสํ สมุทโยติ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทโย, เตน สมุทิโต สุฎฺฐุ ปากโฎติ สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิโต, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ
Saddhā ca buddhi ca vīriyañca saddhābuddhivīriyāni, visuddhāni ca tāni saddhābuddhivīriyāni ceti visuddhasaddhābuddhivīriyāni, paramāni ca tāni visuddhasaddhābuddhivīriyāni ceti paramavisuddhasaddhābuddhivīriyāni, tehi parimaṇḍito paramavisuddhasaddhābuddhivīriyapaṭimaṇḍito, tena, therenāti sambandho. Sīlañca ācāro ca ajjavañca maddavañca sīlācārajjavamaddavāni, tāni ādīni yesaṃ teti sīlācārajjavamaddavādayo, ādisaddena khantisoraccādayo saṅgaṇhāti, teyeva guṇāti sīlācārajjavamaddavādiguṇā, tesaṃ samudayoti sīlācārajjavamaddavādiguṇasamudayo, tena samudito suṭṭhu pākaṭoti sīlācārajjavamaddavādiguṇasamudayasamudito, tena therenāti sambandho.
สกสมโย จ สมยนฺตโร จ สกสมยสมยนฺตรา, เตเยว ปน คหนสทิสตฺตา คหนนฺติ สกสมยสมยนฺตรคหนํ, ตสฺส อโชฺฌคาหณํ สกสมยสมยนฺตรคหนโชฺฌคาหณํ, ตสฺมิํ สมโตฺถ สกสมยสมยนฺตรคหนโชฺฌคาหณสมโตฺถฯ เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ วิเสเสน อญฺชติ ปากฎํ กโรตีติ วิยโตฺต, ปุคฺคโล, วิยตฺตสฺส อิทํ เวยฺยตฺติยํ, สติฯ ปญฺญา จ เวยฺยตฺติยญฺจ ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ, เตน สมนฺนาคเตนาติ สมฺพโนฺธฯ สมนฺนาคเตน เถเรนาติ โยชนาฯ
Sakasamayo ca samayantaro ca sakasamayasamayantarā, teyeva pana gahanasadisattā gahananti sakasamayasamayantaragahanaṃ, tassa ajjhogāhaṇaṃ sakasamayasamayantaragahanajjhogāhaṇaṃ, tasmiṃ samattho sakasamayasamayantaragahanajjhogāhaṇasamattho. Tena therenāti sambandho. Visesena añjati pākaṭaṃ karotīti viyatto, puggalo, viyattassa idaṃ veyyattiyaṃ, sati. Paññā ca veyyattiyañca paññāveyyattiyaṃ, tena samannāgatenāti sambandho. Samannāgatena therenāti yojanā.
ตีณิ ปิฎกานีติ ติปิฎกํ, ตเมว ปริยาปุณิตพฺพตฺตา ปริยตฺตีติ ติปิฎกปริยตฺติ, ตสฺส ปเภโท เอตฺถ สตฺถุสาสเนติ ติปิฎกปริยตฺติปเภทํ, ตสฺมิํฯ สห อฎฺฐกถายาติ สาฎฺฐกถํ, สตฺถุ สาสนํ, ตสฺมิํ สตฺถุสาสเนติ สมฺพโนฺธฯ สตฺถุโน ปริยตฺติปฎิปตฺติปฎิเวธวเสน ติวิธํ สาสนํ สตฺถุสาสนํ, พฺยาโสปิ ยุชฺชเตว, ตสฺมิํ สตฺถุสาสเน ‘‘อปฺปฎิหต’’อิติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํฯ อปฺปฎิหตํ ญาณํ อปฺปฎิหตญาณํ, อิทํ ตสฺมิํ วินยสํวณฺณนากาเล เถรสฺส ปฎิเวธญาณาภาวโต สุตมยจินฺตามยญาณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ อปฺปฎิหตญาณสฺส ปภาโว เอตสฺสาติ อปฺปฎิหตญาณปภาโว, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ มหนฺตํ เวยฺยากรณเมตสฺสาติ มหาเวยฺยากรโณ, อิมินา สิกฺขานิรุตฺติอาทีหิ ฉฬเงฺค มหนฺตเวยฺยากรเณ เถรสฺส อปฺปฎิหตญาณปภาวตํ ทเสฺสติ, เตน มหาเวยฺยากรเณน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ
Tīṇi piṭakānīti tipiṭakaṃ, tameva pariyāpuṇitabbattā pariyattīti tipiṭakapariyatti, tassa pabhedo ettha satthusāsaneti tipiṭakapariyattipabhedaṃ, tasmiṃ. Saha aṭṭhakathāyāti sāṭṭhakathaṃ, satthu sāsanaṃ, tasmiṃ satthusāsaneti sambandho. Satthuno pariyattipaṭipattipaṭivedhavasena tividhaṃ sāsanaṃ satthusāsanaṃ, byāsopi yujjateva, tasmiṃ satthusāsane ‘‘appaṭihata’’iti padena sambandhitabbaṃ. Appaṭihataṃ ñāṇaṃ appaṭihatañāṇaṃ, idaṃ tasmiṃ vinayasaṃvaṇṇanākāle therassa paṭivedhañāṇābhāvato sutamayacintāmayañāṇaṃ sandhāya vuttanti daṭṭhabbaṃ. Appaṭihatañāṇassa pabhāvo etassāti appaṭihatañāṇapabhāvo, tena therenāti sambandho. Mahantaṃ veyyākaraṇametassāti mahāveyyākaraṇo, iminā sikkhāniruttiādīhi chaḷaṅge mahantaveyyākaraṇe therassa appaṭihatañāṇapabhāvataṃ dasseti, tena mahāveyyākaraṇena therenāti sambandho.
กรณํ วุจฺจติ ฐานํ กริยติ อุจฺจาริยติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา วจนเตฺถน, กรณสฺส สมฺปตฺติ กรณสมฺปตฺติ, ตาย ชนิตํ กรณสมฺปตฺติชนิตํฯ สุเขน เถรมุขโต วินิคฺคตํ สุขวินิคฺคตํ, กรณสมฺปตฺติชนิเตน เหตุภูเตน สุขวินิคฺคตํ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตํฯ มธุรวจนญฺจ อุทารวจนญฺจ มธุโรทารวจนํ, ปุพฺพปเท อุตฺตรปทโลโป, อิมินา เกฎุภปกรเณ (สุโพธาลํกาเร ๑๒๗-๑๔๒ คาถาสุ) วุเตฺตสุ ทสสุ สทฺทคุเณสุ มธุรตาคุเณน จ อุทารตาคุเณน จ สมนฺนาคตภาวํ ทเสฺสติฯ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตญฺจ ตํ มธุโรทารวจนเญฺจติ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนํฯ อถ วา กรณสมฺปตฺติชนิตญฺจ ตํ สุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนเญฺจติ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนํฯ เอลํ วุจฺจติ ทุรุตฺตโทโส, นตฺถิ เอลเมตสฺสาติ เนลา, โสเยว วโณฺณ เนลวโณฺณ, เตน ยุตฺตํ เนลวณฺณยุตฺตํ, กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนํ เนลวณฺณยุตฺตเมตสฺสาติ กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนเนลวณฺณยุโตฺต, เถโรฯ วิเสสนปรปทสมาโส, เนลวณฺณยุตฺตกรณสมฺปตฺติ ชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจโนติ หิ อโตฺถ, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ ยุตฺตญฺจ ปริสาย โสเตน อนุรูปตฺตา, มุตฺตญฺจ ปริสาย วิสารทตฺตาติ ยุตฺตมุตฺตํ, วจนํ, ตํ วทติ สีเลนาติ ยุตฺตมุตฺตวาที, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ
Karaṇaṃ vuccati ṭhānaṃ kariyati uccāriyati ettha, etenāti vā vacanatthena, karaṇassa sampatti karaṇasampatti, tāya janitaṃ karaṇasampattijanitaṃ. Sukhena theramukhato viniggataṃ sukhaviniggataṃ, karaṇasampattijanitena hetubhūtena sukhaviniggataṃ karaṇasampattijanitasukhaviniggataṃ. Madhuravacanañca udāravacanañca madhurodāravacanaṃ, pubbapade uttarapadalopo, iminā keṭubhapakaraṇe (subodhālaṃkāre 127-142 gāthāsu) vuttesu dasasu saddaguṇesu madhuratāguṇena ca udāratāguṇena ca samannāgatabhāvaṃ dasseti. Karaṇasampattijanitasukhaviniggatañca taṃ madhurodāravacanañceti karaṇasampattijanitasukhaviniggatamadhurodāravacanaṃ. Atha vā karaṇasampattijanitañca taṃ sukhaviniggatamadhurodāravacanañceti karaṇasampattijanitasukhaviniggatamadhurodāravacanaṃ. Elaṃ vuccati duruttadoso, natthi elametassāti nelā, soyeva vaṇṇo nelavaṇṇo, tena yuttaṃ nelavaṇṇayuttaṃ, karaṇasampattijanitasukhaviniggatamadhurodāravacanaṃ nelavaṇṇayuttametassāti karaṇasampattijanitasukhaviniggatamadhurodāravacananelavaṇṇayutto, thero. Visesanaparapadasamāso, nelavaṇṇayuttakaraṇasampatti janitasukhaviniggatamadhurodāravacanoti hi attho, tena therenāti sambandho. Yuttañca parisāya sotena anurūpattā, muttañca parisāya visāradattāti yuttamuttaṃ, vacanaṃ, taṃ vadati sīlenāti yuttamuttavādī, tena therenāti sambandho.
กมฺมสสฺสตอุเจฺฉทอิสฺสรนิมฺมานาทิวเสน นานา วาทา เอเตสนฺติ วาทิโน, นานาวาทา ชนา, วาทีนํ, วาทีสุ วา วโร กมฺมกิริยวาทตฺตาติ วาทิวโร, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ ปาฬิยา อตฺถํ วเณฺณตุํ สมตฺถตฺตา มหโนฺต กวิ มหากวิ, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ
Kammasassataucchedaissaranimmānādivasena nānā vādā etesanti vādino, nānāvādā janā, vādīnaṃ, vādīsu vā varo kammakiriyavādattāti vādivaro, tena therenāti sambandho. Pāḷiyā atthaṃ vaṇṇetuṃ samatthattā mahanto kavi mahākavi, tena therenāti sambandho.
อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฎิภานวเสน ปภินฺนาย ปฎิสมฺภิทาย ปริวาริโตติ ปภินฺนปฎิสมฺภิทาปริวาโร, ตสฺมิํ อุตฺตริมนุสฺสธเมฺมติ สมฺพโนฺธฯ ฉ อภิญฺญา จ ปฎิสมฺภิทา จ ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทา, ตา อาทโย เยสํ เตติ ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทาทโย, อาทิสเทฺทน เตวิชฺชาทโย สงฺคณฺหาติฯ ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทาทโย ปเภทา เอตสฺสาติ ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทาทิปฺปเภโท, โสเยว คุโณ ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุโณ, เตน ปฎิมณฺฑิโต ฉฬภิญฺญาปฎิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุณปฎิมณฺฑิโต, ตสฺมิํ อุตฺตริมนุสฺสธเมฺมติ สมฺพโนฺธฯ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌานลาภิอาทีนํ ธโมฺม อุตฺตริมนุสฺสธโมฺม, อถ วา มนุสฺสานํ กุสลกมฺมปถสงฺขาตธมฺมโต อุตฺตรีติ อุตฺตริมนุสฺสธโมฺม, ฌานาทิธโมฺม, ตสฺมิํ, ‘‘สุปฺปติฎฺฐิต’’ อิติ ปเทน สมฺพนฺธิตพฺพํฯ สุปฺปติฎฺฐิตา พุทฺธิ เอเตสนฺติ สุปฺปติฎฺฐิตพุทฺธิโน, เตสํ เถรานนฺติ สมฺพโนฺธฯ เถรานํ วํเส ปกาเรน ทิปฺปนฺติ, ปทีโป วิยาติ วา เถรวํสปฺปทีปา, เตสํฯ ถิโร สีลสมาธิปญฺญาสงฺขาโต คุโณ เอเตสมตฺถีติ เถรา, เตสํ, วํสาลงฺการภูเตนาติ สมฺพโนฺธฯ มหาวิหาเร วสนสีลา วสนธมฺมา, วสเน สาธุการีติ วา มหาวิหารวาสิโน, เตสํ, เถรานนฺติ สมฺพโนฺธ ฯ วํเส อลงฺกาโร, วํสสฺส วาติ วํสาลงฺกาโร, โส หุตฺวา ภูโต, วํสาลงฺการภาวํ วา ปโตฺตติ วํสาลงฺการภูโต, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ
Atthadhammaniruttipaṭibhānavasena pabhinnāya paṭisambhidāya parivāritoti pabhinnapaṭisambhidāparivāro, tasmiṃ uttarimanussadhammeti sambandho. Cha abhiññā ca paṭisambhidā ca chaḷabhiññāpaṭisambhidā, tā ādayo yesaṃ teti chaḷabhiññāpaṭisambhidādayo, ādisaddena tevijjādayo saṅgaṇhāti. Chaḷabhiññāpaṭisambhidādayo pabhedā etassāti chaḷabhiññāpaṭisambhidādippabhedo, soyeva guṇo chaḷabhiññāpaṭisambhidādippabhedaguṇo, tena paṭimaṇḍito chaḷabhiññāpaṭisambhidādippabhedaguṇapaṭimaṇḍito, tasmiṃ uttarimanussadhammeti sambandho. Uttarimanussānaṃ jhānalābhiādīnaṃ dhammo uttarimanussadhammo, atha vā manussānaṃ kusalakammapathasaṅkhātadhammato uttarīti uttarimanussadhammo, jhānādidhammo, tasmiṃ, ‘‘suppatiṭṭhita’’ iti padena sambandhitabbaṃ. Suppatiṭṭhitā buddhi etesanti suppatiṭṭhitabuddhino, tesaṃ therānanti sambandho. Therānaṃ vaṃse pakārena dippanti, padīpo viyāti vā theravaṃsappadīpā, tesaṃ. Thiro sīlasamādhipaññāsaṅkhāto guṇo etesamatthīti therā, tesaṃ, vaṃsālaṅkārabhūtenāti sambandho. Mahāvihāre vasanasīlā vasanadhammā, vasane sādhukārīti vā mahāvihāravāsino, tesaṃ, therānanti sambandho . Vaṃse alaṅkāro, vaṃsassa vāti vaṃsālaṅkāro, so hutvā bhūto, vaṃsālaṅkārabhāvaṃ vā pattoti vaṃsālaṅkārabhūto, tena therenāti sambandho.
วิปุลา จ สา วิสุทฺธา เจติ วิปุลวิสุทฺธา, วิเสสโนภยปโท, วิปุลวิสุทฺธา พุทฺธิ เอตสฺสาติ วิปุลวิสุทฺธพุทฺธิ, เตน เถเรนาติ สมฺพโนฺธฯ นามเมว นามเธยฺยํ, คหิตํ นามเธยฺยเมตสฺสาติ คหิตนามเธโยฺย , เตน เถเรน กตา สมนฺตปาสาทิกา นาม อยํ วินยสํวณฺณนา ติฎฺฐตูติ สมฺพโนฺธฯ
Vipulā ca sā visuddhā ceti vipulavisuddhā, visesanobhayapado, vipulavisuddhā buddhi etassāti vipulavisuddhabuddhi, tena therenāti sambandho. Nāmameva nāmadheyyaṃ, gahitaṃ nāmadheyyametassāti gahitanāmadheyyo, tena therena katā samantapāsādikā nāma ayaṃ vinayasaṃvaṇṇanā tiṭṭhatūti sambandho.
สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน โลกเชฎฺฐสฺส มเหสิโน ‘‘พุโทฺธ’’ติ นามมฺปิ ยาว โลกมฺหิ ปวตฺตติ, ตาว โลกนิตฺถรเณสีนํ กุลปุตฺตานํ สีลวิสุทฺธาย นยํ ทเสฺสนฺตี โลกสฺมิํ ติฎฺฐตูติ โยชนาฯ
Suddhacittassa tādino lokajeṭṭhassa mahesino ‘‘buddho’’ti nāmampi yāva lokamhi pavattati, tāva lokanittharaṇesīnaṃ kulaputtānaṃ sīlavisuddhāya nayaṃ dassentī lokasmiṃ tiṭṭhatūti yojanā.
อิติ นิคมนสฺส อตฺถโยชนา สมตฺตาฯ
Iti nigamanassa atthayojanā samattā.