Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
นิคมนวณฺณนา
Nigamanavaṇṇanā
๒๓๓. อิธาติ อิมสฺมิํ ภิกฺขุวิภเงฺคฯ อุทฺทิฎฺฐาติ อิธ ปาติโมกฺขวเสน อโนสาริตตฺตา จตฺตาโร ปาราชิกาว อุทฺทิฎฺฐา กถิตาติ อโตฺถ คเหตโพฺพฯ ยทิ เอวํ เหฎฺฐา ถุลฺลจฺจยทุกฺกฎานมฺปิ วุตฺตตฺตา ปาราชิกาว อุทฺทิฎฺฐาติ กสฺมา วุตฺตาติ? ปาราชิกาธิการตฺตา สเนฺตสุปิ ถุลฺลจฺจยทุกฺกเฎสุ อิธ ปาราชิกาว วุตฺตาฯ เยสํ…เป.… อสํวาโสติ อิมมตฺถํ วา ทีเปตุกาโม ตํสมฺพเนฺธน ‘‘อุทฺทิฎฺฐา จตฺตาโร ปาราชิกา’’ติ อาหฯ ตตฺถายสฺมเนฺตติอาทิกํ ปน อนุญฺญาตปาติโมกฺขุเทฺทสกฺกโมปิ อยเมว, นาโญฺญติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา วชฺชปฎิจฺฉาทิกา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา อฎฺฐวตฺถุกาติ อิมานิ จตฺตาริ ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ นามฯ เอเตสุ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา นาม ยา กายสํสคฺคราเคน อวสฺสุตา เตเนว ราเคน อวสฺสุตสฺส มนุสฺสปุริสสฺส อกฺขกานํ อโธ ชาณุมณฺฑลานํ กปฺปรานญฺจ อุปริ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อามสนาทิํ สาทิยติ, ตสฺสา อธิวจนํฯ ยา ปน ภิกฺขุนี อญฺญิสฺสา ภิกฺขุนิยา ปาราชิกสงฺขาตํ วชฺชํ ชานํ ปฎิจฺฉาเทติ, สา วชฺชปฎิจฺฉาทิกา นามฯ สมเคฺคน ปน สเงฺฆน อุกฺขิตฺตํ ภิกฺขุํ ยา ภิกฺขุนี ยํทิฎฺฐิโก โส โหติ, ตสฺสา ทิฎฺฐิยา คหณวเสน อนุวตฺตติ, สา อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา นามฯ ยา ปน กายสํสคฺคราเคน ตินฺตา ตถาวิธเสฺสว ปุริสสฺส หตฺถคฺคหณํ วา สงฺฆาฎิกณฺณคฺคหณํ วา สาทิยติ, กายสํสคฺคสงฺขาตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฎิเสวนตฺถาย ปุริสสฺส หตฺถปาเส สนฺติฎฺฐติ วา, ตตฺถ ฐตฺวา สลฺลปติ วา, สเงฺกตํ วา คจฺฉติ, ปุริสสฺส อาคมนํ วา สาทิยติ, เกนจิ วา ปฎิจฺฉโนฺนกาสํ ปวิสติ, หตฺถปาเส วา ฐตฺวา กายํ อุปสํหรติ, อยํ อฎฺฐวตฺถุกา นามาติ เวทิตพฺพํฯ
233.Idhāti imasmiṃ bhikkhuvibhaṅge. Uddiṭṭhāti idha pātimokkhavasena anosāritattā cattāro pārājikāva uddiṭṭhā kathitāti attho gahetabbo. Yadi evaṃ heṭṭhā thullaccayadukkaṭānampi vuttattā pārājikāva uddiṭṭhāti kasmā vuttāti? Pārājikādhikārattā santesupi thullaccayadukkaṭesu idha pārājikāva vuttā. Yesaṃ…pe… asaṃvāsoti imamatthaṃ vā dīpetukāmo taṃsambandhena ‘‘uddiṭṭhā cattāro pārājikā’’ti āha. Tatthāyasmantetiādikaṃ pana anuññātapātimokkhuddesakkamopi ayameva, nāññoti dassanatthaṃ vuttaṃ. Bhikkhunīnaṃ asādhāraṇāni cattārīti ubbhajāṇumaṇḍalikā vajjapaṭicchādikā ukkhittānuvattikā aṭṭhavatthukāti imāni cattāri bhikkhunīnaṃ bhikkhūhi asādhāraṇāni nāma. Etesu ubbhajāṇumaṇḍalikā nāma yā kāyasaṃsaggarāgena avassutā teneva rāgena avassutassa manussapurisassa akkhakānaṃ adho jāṇumaṇḍalānaṃ kapparānañca upari yena kenaci sarīrāvayavena āmasanādiṃ sādiyati, tassā adhivacanaṃ. Yā pana bhikkhunī aññissā bhikkhuniyā pārājikasaṅkhātaṃ vajjaṃ jānaṃ paṭicchādeti, sā vajjapaṭicchādikā nāma. Samaggena pana saṅghena ukkhittaṃ bhikkhuṃ yā bhikkhunī yaṃdiṭṭhiko so hoti, tassā diṭṭhiyā gahaṇavasena anuvattati, sā ukkhittānuvattikā nāma. Yā pana kāyasaṃsaggarāgena tintā tathāvidhasseva purisassa hatthaggahaṇaṃ vā saṅghāṭikaṇṇaggahaṇaṃ vā sādiyati, kāyasaṃsaggasaṅkhātassa asaddhammassa paṭisevanatthāya purisassa hatthapāse santiṭṭhati vā, tattha ṭhatvā sallapati vā, saṅketaṃ vā gacchati, purisassa āgamanaṃ vā sādiyati, kenaci vā paṭicchannokāsaṃ pavisati, hatthapāse vā ṭhatvā kāyaṃ upasaṃharati, ayaṃ aṭṭhavatthukā nāmāti veditabbaṃ.
วตฺถุวิปนฺนาติ ปพฺพชฺชุปสมฺปทาย อวตฺถุภาวโต วตฺถุวิปนฺนาฯ เนสญฺหิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปณฺฑโก ปพฺพาเชตโพฺพ, โย ปพฺพาเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทินา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ ปฎิกฺขิตฺตาฯ ตสฺมา เต ภิกฺขุภาวาย อภพฺพตฺตา ปาราชิกาปนฺนสทิสตาย ‘‘ปาราชิกา’’ติ วุตฺตาฯ ตพฺภาวภาวิตาย ภิกฺขุภาโว วสติ เอตฺถาติ วตฺถุ, ปุคฺคลานํ ภิกฺขุภาวารหตาฯ สา ปน ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาคตสพฺพโทสวิรหิตสมฺปตฺติยุตฺตตาฯ ตํ วิปนฺนํ ปณฺฑกภาวาทิโยเคน เยสํ เต วตฺถุวิปนฺนาฯ อเหตุกปฎิสนฺธิกาติ อิมินา เตสํ วิปากาวรเณน สมนฺนาคตภาวํ ทเสฺสโนฺต มคฺคาวรเณ การณมาหฯ ปาราชิกาปนฺนสทิสตฺตา ปาราชิกาฯ เถยฺยสํวาสกาทิกมฺมํ มาตุฆาตาทิกํ วิย อานนฺตริยํ น โหตีติ อาห ‘‘อิเมสํ ติณฺณํ สโคฺค อวาริโต’’ติฯ
Vatthuvipannāti pabbajjupasampadāya avatthubhāvato vatthuvipannā. Nesañhi ‘‘na, bhikkhave, paṇḍako pabbājetabbo, yo pabbājeyya, āpatti dukkaṭassā’’tiādinā pabbajjā upasampadā ca paṭikkhittā. Tasmā te bhikkhubhāvāya abhabbattā pārājikāpannasadisatāya ‘‘pārājikā’’ti vuttā. Tabbhāvabhāvitāya bhikkhubhāvo vasati etthāti vatthu, puggalānaṃ bhikkhubhāvārahatā. Sā pana pabbajjakkhandhakāgatasabbadosavirahitasampattiyuttatā. Taṃ vipannaṃ paṇḍakabhāvādiyogena yesaṃ te vatthuvipannā. Ahetukapaṭisandhikāti iminā tesaṃ vipākāvaraṇena samannāgatabhāvaṃ dassento maggāvaraṇe kāraṇamāha. Pārājikāpannasadisattā pārājikā. Theyyasaṃvāsakādikammaṃ mātughātādikaṃ viya ānantariyaṃ na hotīti āha ‘‘imesaṃ tiṇṇaṃ saggo avārito’’ti.
ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตเมตสฺสาติ ลมฺพีฯ โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, อถ โข ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ มุเข วา วจฺจมเคฺค วา ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติฯ มุทุ ปิฎฺฐิ เอตสฺสาติ มุทุปิฎฺฐิโก, กตปริกมฺมาย มุทุกาย ปิฎฺฐิยา สมนฺนาคโตฯ โสปิ ยทา อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ อตฺตโน มุขวจฺจมเคฺคสุ อญฺญตรํ ปเวเสติ, ตทา ปาราชิโก โหติฯ ปรสฺส องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส สุตฺตสฺส วา ปมตฺตสฺส วา องฺคชาตํ อตฺตโน มุเขน คณฺหาติฯ ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ โย อนภิรติยา ปีฬิโต ปรสฺส องฺคชาตํ กมฺมนิยํ ทิสฺวา อตฺตโน วจฺจมเคฺคน ตสฺสูปริ นิสีทติ, ตํ อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสตีติ อโตฺถฯ
Dīghatāya lambamānaṃ aṅgajātametassāti lambī. So ettāvatā na pārājiko, atha kho yadā anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ mukhe vā vaccamagge vā paveseti, tadā pārājiko hoti. Mudu piṭṭhi etassāti mudupiṭṭhiko, kataparikammāya mudukāya piṭṭhiyā samannāgato. Sopi yadā anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ attano mukhavaccamaggesu aññataraṃ paveseti, tadā pārājiko hoti. Parassa aṅgajātaṃ attano mukhena gaṇhātīti yo anabhiratiyā pīḷito parassa suttassa vā pamattassa vā aṅgajātaṃ attano mukhena gaṇhāti. Parassa aṅgajāte abhinisīdatīti yo anabhiratiyā pīḷito parassa aṅgajātaṃ kammaniyaṃ disvā attano vaccamaggena tassūpari nisīdati, taṃ attano vaccamaggaṃ pavesetīti attho.
เอตฺถาห – มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตกา ตติยปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนีทูสโก ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร ปฐมปาราชิกํ อาปนฺนา เอวาติ กถํ จตุวีสตีติ? วุจฺจเต – มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธ อนุปสมฺปนฺนา เอว อธิเปฺปตา, ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิญฺจาปิ ปฐมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน เอเตน ปริยาเยน เมถุนํ ธมฺมํ อปฺปฎิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาติฯ เอเตน ปริยาเยนาติ อุภินฺนํ ราคปริยุฎฺฐานสงฺขาเตน ปริยาเยนฯ ทุติยวิกเปฺป กจฺจิตฺถาติ เอตฺถ กจฺจิ อตฺถาติ ปทเจฺฉโท เวทิตโพฺพฯ
Etthāha – mātughātakapitughātakaarahantaghātakā tatiyapārājikaṃ āpannā, bhikkhunīdūsako lambīādayo cattāro paṭhamapārājikaṃ āpannā evāti kathaṃ catuvīsatīti? Vuccate – mātughātakādayo hi cattāro idha anupasampannā eva adhippetā, lambīādayo cattāro kiñcāpi paṭhamapārājikena saṅgahitā, yasmā pana etena pariyāyena methunaṃ dhammaṃ appaṭisevino honti, tasmā visuṃ vuttāti. Etena pariyāyenāti ubhinnaṃ rāgapariyuṭṭhānasaṅkhātena pariyāyena. Dutiyavikappe kaccitthāti ettha kacci atthāti padacchedo veditabbo.
นิคมนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nigamanavaṇṇanā niṭṭhitā.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยํ
Iti samantapāsādikāya vinayasaṃvaṇṇanāya sāratthadīpaniyaṃ
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Catutthapārājikavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / นิคมนวณฺณนา • Nigamanavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / นิคมนวณฺณนา • Nigamanavaṇṇanā