Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
นิคมนวณฺณนา
Nigamanavaṇṇanā
คิรคฺคสมชฺชาทีนิ ‘‘อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘นจฺจ’’นฺติ วา ‘‘คโนฺธ’’ติ วา อชานิตฺวาปิ ทสฺสเนน, วิลิมฺปเนน วา อาปชฺชนโต วตฺถุอชานนจิเตฺตน อจิตฺตกานิฯ ‘‘นจฺจ’’นฺติ วา ‘‘คโนฺธ’’ติ วา ชานิตฺวา ปสฺสนฺติยา, วิลิมฺปนฺติยา จ อกุสลตฺตา เอว โลกวชฺชานิฯ โจริวุฎฺฐาปนาทีนิ ‘‘โจรี’’ติอาทินา วตฺถุํ ชานิตฺวา กรเณ เอว อาปตฺติสพฺภาวโต สจิตฺตกานิฯ อุปสมฺปทาทีนํ เอกเนฺตน อกุสลจิเตฺตเนว อกตฺตพฺพตฺตา ปณฺณตฺติวชฺชานิฯ ‘‘อิธ สจิตฺตกาจิตฺตกตา ปณฺณตฺติชานนาชานนตาย อคฺคเหตฺวา วตฺถุชานนาชานนตาย คเหตพฺพา’’ติ ลิขิตํฯ อนุคณฺฐิปเท ปน ‘‘คิรคฺคสมชฺชาทีนิ ‘อจิตฺตกานิ โลกวชฺชานี’ติ วุตฺตตฺตา ‘นจฺจ’นฺติ วา ‘สงฺฆาณี’ติ วา ‘คโนฺธ’ติ วา ตสฺส นามวเสน อชานิตฺวา มายาการสฺส มายานิ สีสฎฺฐิอาทีนิ ปฎิสงฺขาย ปสฺสนฺติยา, อกฺขมาลาทิอตฺถาย สงฺฆาณิํ กฎิยา พนฺธนฺติยา, ‘เสทคนฺธํ อปเนตฺวา พุทฺธปูชํ กริสฺสามี’ติ อุปฺปเนฺนน จิเตฺตน คนฺธํ วิลิเมฺปตฺวา นหายนฺติยา จ อาปตฺติสพฺภาวโต นาเมน สทฺธิํ นามวเสน วา วตฺถุสฺส อชานนจิเตฺตน อจิตฺตกานิ นามฯ น อนฺธกาเร ‘กฎิสุตฺตมิท’นฺติ สญฺญาย สงฺฆาณิํ คเหตฺวา กฎิยํ ธารณกาเล, มตฺติกาสญฺญาย จ คนฺธํ คเหตฺวา วิลิมฺปนกาเล อาปตฺติสพฺภาวโต ‘อจิตฺตกานี’ติ วตฺตพฺพานิฯ ตสฺมิํ กาเล อนาปตฺติ, เตเนว สงฺฆาณิยา อสงฺฆาณิสญฺญาวาเรปิ ‘อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’ติ ปาฬิ น วุตฺตาฯ ยถา ‘เขตฺตอาพาธปจฺจยา, กฎิสุตฺตกํ ธาเรตี’ติ วจนโต วินาปิ อกุสเลน สงฺฆาณิอาทีนิ สกฺกา ธาเรตุนฺติ สิทฺธํ, เอวํ อาพาธปจฺจยา วินาปิ อกุสเลน น สกฺกา สุรํ ปาตุนฺติ สิทฺธํ ‘อนาปตฺติ อาพาธปจฺจยา มชฺชํ ปิวตี’ติ ปาฬิยา อภาวโตฯ อกุสเลน วินา มธุปุณฺณมุฎฺฐิยํ ปกฺขิตฺตมชฺชสฺส อโชฺฌหรณกาลาทีสุ สุราปานาปตฺติํ อาปชฺชตีติ จ สิทฺธํ ‘มเชฺช อมชฺชสญฺญี ปิวติ, อาปตฺติ ปาจิตฺติยสฺสา’ติ (ปาจิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตาฯ กิํพหุนา, กามโภคสญฺญาย สทฺธิํ ‘สงฺฆาณี’ติ จ ‘คโนฺธ’ติ จ ชานิตฺวา วินา อนาปตฺติการเณน ธาเรนฺติยา เอกนฺตากุสลตฺตา โลกวชฺชานิ นาม วุจฺจนฺติฯ อิมินา อุปาเยน เสเสสุปิ นโย เนตโพฺพฯ เอตฺถ สุราปานาธิกาเร อุปติสฺสเตฺถรวาโท’’ติ วุตฺตํฯ อสํกจฺจิกสิกฺขาปเท ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อุปจารํ โอกฺกมนฺติยาติ ปาโฐ’’ติ จ ‘‘ปณีตโภชนวิญฺญตฺติ, อเจลกสิกฺขาปทํ, นิมนฺติตสฺส จาริตฺตาปชฺชนํ, ทุฎฺฐุลฺลปฺปฎิจฺฉาทนํ, อูนวีสติวสฺสุปสมฺปทํ, มาตุคาเมน สทฺธิํ สํวิธาย อทฺธานคมนํ, ราชเนฺตปุรปฺปเวสนํ, สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา วิกาเล คามปฺปเวสนํ, นิสีทนํ, วสฺสิกสาฎิกนฺติ ปาโฐ’’ติ จ วุตฺตํฯ
Giraggasamajjādīni ‘‘acittakāni lokavajjānī’’ti vuttattā ‘‘nacca’’nti vā ‘‘gandho’’ti vā ajānitvāpi dassanena, vilimpanena vā āpajjanato vatthuajānanacittena acittakāni. ‘‘Nacca’’nti vā ‘‘gandho’’ti vā jānitvā passantiyā, vilimpantiyā ca akusalattā eva lokavajjāni. Corivuṭṭhāpanādīni ‘‘corī’’tiādinā vatthuṃ jānitvā karaṇe eva āpattisabbhāvato sacittakāni. Upasampadādīnaṃ ekantena akusalacitteneva akattabbattā paṇṇattivajjāni. ‘‘Idha sacittakācittakatā paṇṇattijānanājānanatāya aggahetvā vatthujānanājānanatāya gahetabbā’’ti likhitaṃ. Anugaṇṭhipade pana ‘‘giraggasamajjādīni ‘acittakāni lokavajjānī’ti vuttattā ‘nacca’nti vā ‘saṅghāṇī’ti vā ‘gandho’ti vā tassa nāmavasena ajānitvā māyākārassa māyāni sīsaṭṭhiādīni paṭisaṅkhāya passantiyā, akkhamālādiatthāya saṅghāṇiṃ kaṭiyā bandhantiyā, ‘sedagandhaṃ apanetvā buddhapūjaṃ karissāmī’ti uppannena cittena gandhaṃ vilimpetvā nahāyantiyā ca āpattisabbhāvato nāmena saddhiṃ nāmavasena vā vatthussa ajānanacittena acittakāni nāma. Na andhakāre ‘kaṭisuttamida’nti saññāya saṅghāṇiṃ gahetvā kaṭiyaṃ dhāraṇakāle, mattikāsaññāya ca gandhaṃ gahetvā vilimpanakāle āpattisabbhāvato ‘acittakānī’ti vattabbāni. Tasmiṃ kāle anāpatti, teneva saṅghāṇiyā asaṅghāṇisaññāvārepi ‘āpatti pācittiyassā’ti pāḷi na vuttā. Yathā ‘khettaābādhapaccayā, kaṭisuttakaṃ dhāretī’ti vacanato vināpi akusalena saṅghāṇiādīni sakkā dhāretunti siddhaṃ, evaṃ ābādhapaccayā vināpi akusalena na sakkā suraṃ pātunti siddhaṃ ‘anāpatti ābādhapaccayā majjaṃ pivatī’ti pāḷiyā abhāvato. Akusalena vinā madhupuṇṇamuṭṭhiyaṃ pakkhittamajjassa ajjhoharaṇakālādīsu surāpānāpattiṃ āpajjatīti ca siddhaṃ ‘majje amajjasaññī pivati, āpatti pācittiyassā’ti (pāci. 328) vuttattā. Kiṃbahunā, kāmabhogasaññāya saddhiṃ ‘saṅghāṇī’ti ca ‘gandho’ti ca jānitvā vinā anāpattikāraṇena dhārentiyā ekantākusalattā lokavajjāni nāma vuccanti. Iminā upāyena sesesupi nayo netabbo. Ettha surāpānādhikāre upatissattheravādo’’ti vuttaṃ. Asaṃkaccikasikkhāpade ‘‘aparikkhittassa gāmassa upacāraṃ okkamantiyāti pāṭho’’ti ca ‘‘paṇītabhojanaviññatti, acelakasikkhāpadaṃ, nimantitassa cārittāpajjanaṃ, duṭṭhullappaṭicchādanaṃ, ūnavīsativassupasampadaṃ, mātugāmena saddhiṃ saṃvidhāya addhānagamanaṃ, rājantepurappavesanaṃ, santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā vikāle gāmappavesanaṃ, nisīdanaṃ, vassikasāṭikanti pāṭho’’ti ca vuttaṃ.
นิคมนวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nigamanavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปาจิตฺติยกณฺฑวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pācittiyakaṇḍavaṇṇanā niṭṭhitā.
อุภโตวิภงฺคฎฺฐกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ubhatovibhaṅgaṭṭhakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.