Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
นิคมนวณฺณนา
Nigamanavaṇṇanā
๒๓๓. อิธาติ ภิกฺขุวิภเงฺคฯ อุทฺทิฎฺฐปาราชิกปริทีปนนฺติ สิกฺขาปเทสุ ปาติโมกฺขุเทฺทสวเสน อุทฺทิฎฺฐปาราชิกปริทีปนํ, น ปน สพฺพสฺมิํ ปาราชิกวิภเงฺค อาคตอาปตฺติปริทีปนํ ตตฺถ ถุลฺลจฺจยาทีนมฺปิ อาคตตฺตา เตเนว อุทฺทิฎฺฐ-สเทฺทน วุตฺตวิภงฺคสฺส นิเทฺทสตฺตาฯ ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อุพฺภชาณุมณฺฑลิกา (ปาจิ. ๖๕๘) วชฺชปฺปฎิจฺฉาทิกา (ปาจิ. ๖๖๕) อุกฺขิตฺตานุวตฺติกา (ปาจิ. ๖๖๙) อฎฺฐวตฺถุกาติ (ปาจิ. ๖๗๕) อิมานิ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ ภิกฺขุนีนํ เอว ปญฺญตฺตานิ ปาราชิกานีติ อโตฺถฯ วตฺถุวิปนฺนาติ ปพฺพชฺชุปสมฺปทานํ วตฺถุภาโว วตฺถุ นาม, เตน วตฺถุมเตฺตน วิปนฺนา, วิปนฺนวตฺถุกาติ อโตฺถฯ อเหตุกปฎิสนฺธิกาติ มคฺคานุปฺปตฺติการณมาหฯ กิญฺจาปิ ทุเหตุกานมฺปิ มโคฺค นุปฺปชฺชติ, เต ปน ปพฺพชฺชุปสมฺปทาสุ ฐตฺวา อายติํ มคฺคเหตุํ สมฺปาเทตุํ สโกฺกนฺติ, อเหตุกา ปน ปริสุเทฺธ จตุปาริสุทฺธิสีเล ฐตฺวา สมฺปาเทตุํ น สโกฺกนฺติ, ตสฺมา เต ตมฺปิ ปฎิจฺจ วตฺถุวิปนฺนาวาติ เวทิตพฺพาฯ ปาราชิกาติ กมฺมวิปตฺติยา ปฎิสนฺธิกฺขเณเยว ปราชยํ อาปนฺนาฯ เถยฺยสํวาสกาทีนํ คิหิภาเว ฐตฺวา วิปสฺสนาย วายมนฺตานมฺปิ ตสฺมิํ อตฺตภาเว มคฺคุปฺปตฺติอภาวโต ‘‘มโคฺค ปน วาริโต’’ติ วุตฺตํฯ ทีฆตาย ลมฺพมานํ องฺคชาตํ ลมฺพํ นาม, ตํ ยสฺส อตฺถิ โส ลมฺพีฯ โส เอตฺตาวตา น ปาราชิโก, ตํ ปน ทีฆํ องฺคชาตํ อตฺตโน มุเข วา วจฺจมเคฺค วา เสวนาธิปฺปาเยน ปเวเสโนฺตว ปาราชิโก, อิธ ปน วจฺจมเคฺค ปเวเสโนฺตว อธิเปฺปโต มุทุปิฎฺฐิเกเนว มุเข ปเวสนสฺส วุตฺตตฺตาฯ โสปิ หิ กตปริกมฺมตาย มุทุภูตาย ปิฎฺฐิยา โอนมิตฺวา อตฺตโน องฺคชาตํ มุเขน คณฺหโนฺตว ปาราชิโก โหติ, น เกวโลฯ โย ปน มุเขน อตฺตโน วจฺจมคฺคํ วา ปเรสํ วจฺจมคฺคมุขํ วา อิตฺถีนํ ปสฺสาวมคฺคํ วา คณฺหาติ, ตสฺส จ ปุริสนิมิเตฺตน ปุริสนิมิตฺตํ ฉุปนฺตสฺส จ มเคฺคน มคฺคปฎิปาทเนปิ ปาราชิกํ น โหติ ปุริสนิมิเตฺตน ตทิตรมคฺคสมฺปฎิปาทเนเนว เมถุนธมฺมโวหารโต ฯ ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ ปรสฺส อุตฺตานํ สยนฺตสฺส กมฺมนิเย องฺคชาเต อตฺตโน วจฺจมคฺคํ ปเวเสโนฺต ตสฺสูปริ นิสีทติ, อิทญฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ ปเรสํ องฺคชาตํ วจฺจมเคฺค ปเวเสโนฺต สาทิยโนฺตปิ ปาราชิโกว, พลกฺกาเรน ปน วจฺจมเคฺค วา มุเข วา ปเรน ปเวสิยมาโน ยทิ น สาทิยติ, อนาปตฺติโกวฯ เอตฺถ อสาทิยนํ นาม ทุกฺกรํ วิรชฺชิตพฺพโตฯ เอตฺถ จ อนุปสมฺปนฺนภาเว ฐตฺวา มาตุปิตุอรหเนฺตสุ อญฺญตรํ ฆาเตโนฺต ภิกฺขุนิํ ทูเสโนฺต จ สามเณรปพฺพชฺชมฺปิ น ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหิตตฺตา มาตุฆาตกาทีนํ จตุนฺนํ ตติยปฐมปาราชิเกสุ อโนฺตคธตา เวทิตพฺพาฯ ยถา เอตฺถ, เอวํ คิหิภาเว ฐตฺวา โลหิตุปฺปาทํ กโรโนฺต โลหิตุปฺปาทโกวาติ คเหตพฺพํฯ เอเตน ปริยาเยนาติ อุภินฺนํ ราคปริยุฎฺฐานสงฺขาเตน ปริยาเยนฯ ทุติยวิกเปฺป กจฺจิ อตฺถาติ ปทเจฺฉโท เวทิตโพฺพฯ
233.Idhāti bhikkhuvibhaṅge. Uddiṭṭhapārājikaparidīpananti sikkhāpadesu pātimokkhuddesavasena uddiṭṭhapārājikaparidīpanaṃ, na pana sabbasmiṃ pārājikavibhaṅge āgataāpattiparidīpanaṃ tattha thullaccayādīnampi āgatattā teneva uddiṭṭha-saddena vuttavibhaṅgassa niddesattā. Bhikkhunīnaṃ asādhāraṇāni cattārīti ubbhajāṇumaṇḍalikā (pāci. 658) vajjappaṭicchādikā (pāci. 665) ukkhittānuvattikā (pāci. 669) aṭṭhavatthukāti (pāci. 675) imāni bhikkhūhi asādhāraṇāni bhikkhunīnaṃ eva paññattāni pārājikānīti attho. Vatthuvipannāti pabbajjupasampadānaṃ vatthubhāvo vatthu nāma, tena vatthumattena vipannā, vipannavatthukāti attho. Ahetukapaṭisandhikāti maggānuppattikāraṇamāha. Kiñcāpi duhetukānampi maggo nuppajjati, te pana pabbajjupasampadāsu ṭhatvā āyatiṃ maggahetuṃ sampādetuṃ sakkonti, ahetukā pana parisuddhe catupārisuddhisīle ṭhatvā sampādetuṃ na sakkonti, tasmā te tampi paṭicca vatthuvipannāvāti veditabbā. Pārājikāti kammavipattiyā paṭisandhikkhaṇeyeva parājayaṃ āpannā. Theyyasaṃvāsakādīnaṃ gihibhāve ṭhatvā vipassanāya vāyamantānampi tasmiṃ attabhāve magguppattiabhāvato ‘‘maggo pana vārito’’ti vuttaṃ. Dīghatāya lambamānaṃ aṅgajātaṃ lambaṃ nāma, taṃ yassa atthi so lambī. So ettāvatā na pārājiko, taṃ pana dīghaṃ aṅgajātaṃ attano mukhe vā vaccamagge vā sevanādhippāyena pavesentova pārājiko, idha pana vaccamagge pavesentova adhippeto mudupiṭṭhikeneva mukhe pavesanassa vuttattā. Sopi hi kataparikammatāya mudubhūtāya piṭṭhiyā onamitvā attano aṅgajātaṃ mukhena gaṇhantova pārājiko hoti, na kevalo. Yo pana mukhena attano vaccamaggaṃ vā paresaṃ vaccamaggamukhaṃ vā itthīnaṃ passāvamaggaṃ vā gaṇhāti, tassa ca purisanimittena purisanimittaṃ chupantassa ca maggena maggapaṭipādanepi pārājikaṃ na hoti purisanimittena taditaramaggasampaṭipādaneneva methunadhammavohārato . Parassa aṅgajāte abhinisīdatīti parassa uttānaṃ sayantassa kammaniye aṅgajāte attano vaccamaggaṃ pavesento tassūpari nisīdati, idañca upalakkhaṇamattaṃ paresaṃ aṅgajātaṃ vaccamagge pavesento sādiyantopi pārājikova, balakkārena pana vaccamagge vā mukhe vā parena pavesiyamāno yadi na sādiyati, anāpattikova. Ettha asādiyanaṃ nāma dukkaraṃ virajjitabbato. Ettha ca anupasampannabhāve ṭhatvā mātupituarahantesu aññataraṃ ghātento bhikkhuniṃ dūsento ca sāmaṇerapabbajjampi na labhatīti dassanatthaṃ visuṃ gahitattā mātughātakādīnaṃ catunnaṃ tatiyapaṭhamapārājikesu antogadhatā veditabbā. Yathā ettha, evaṃ gihibhāve ṭhatvā lohituppādaṃ karonto lohituppādakovāti gahetabbaṃ. Etena pariyāyenāti ubhinnaṃ rāgapariyuṭṭhānasaṅkhātena pariyāyena. Dutiyavikappe kacci atthāti padacchedo veditabbo.
อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฎฺฐกถาย วิมติวิโนทนิยํ
Iti samantapāsādikāya vinayaṭṭhakathāya vimativinodaniyaṃ
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนานโย นิฎฺฐิโตฯ
Catutthapārājikavaṇṇanānayo niṭṭhito.
นิฎฺฐิโต จ ปาราชิกกณฺฑวณฺณนานโยฯ
Niṭṭhito ca pārājikakaṇḍavaṇṇanānayo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๔. จตุตฺถปาราชิกํ • 4. Catutthapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / นิคมนวณฺณนา • Nigamanavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / นิคมนวณฺณนา • Nigamanavaṇṇanā