Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๘. นิคณฺฐนาฎปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

    8. Nigaṇṭhanāṭaputtasuttavaṇṇanā

    ๓๕๐. อฎฺฐเม เตนุปสงฺกมีติ สยํ อาคตาคโม วิญฺญาตสาสโน อนาคามี อริยสาวโก สมาโน กสฺมา นคฺคโภคฺคํ นิสฺสิริกํ นิคณฺฐํ อุปสงฺกมีติ? อุปวาทโมจนตฺถเญฺจว วาทาโรปนตฺถญฺจฯ นิคณฺฐา กิร ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา ถทฺธขทิรขาณุกสทิสา, เกนจิ สทฺธิํ ปฎิสนฺถารมฺปิ น กโรนฺตี’’ติ อุปวทนฺติ, ตสฺส อุปวาทสฺส โมจนตฺถญฺจ, ‘‘วาทญฺจสฺส อาโรเปสฺสามี’’ติ อุปสงฺกมิฯ น ขฺวาหํ เอตฺถ ภเนฺต ภควโต สทฺธาย คจฺฉามีติ ยสฺส ญาเณน อสจฺฉิกตํ โหติฯ โส ‘‘เอวํ กิเรต’’นฺติ อญฺญสฺส สทฺธาย คเจฺฉยฺย, มยา ปน ญาเณเนตํ สจฺฉิกตํ, ตสฺมา นาหํ เอตฺถ ภควโต สทฺธาย คจฺฉามีติ ทีเปโนฺต เอวมาหฯ

    350. Aṭṭhame tenupasaṅkamīti sayaṃ āgatāgamo viññātasāsano anāgāmī ariyasāvako samāno kasmā naggabhoggaṃ nissirikaṃ nigaṇṭhaṃ upasaṅkamīti? Upavādamocanatthañceva vādāropanatthañca. Nigaṇṭhā kira ‘‘samaṇassa gotamassa sāvakā thaddhakhadirakhāṇukasadisā, kenaci saddhiṃ paṭisanthārampi na karontī’’ti upavadanti, tassa upavādassa mocanatthañca, ‘‘vādañcassa āropessāmī’’ti upasaṅkami. Na khvāhaṃ ettha bhante bhagavato saddhāya gacchāmīti yassa ñāṇena asacchikataṃ hoti. So ‘‘evaṃ kireta’’nti aññassa saddhāya gaccheyya, mayā pana ñāṇenetaṃ sacchikataṃ, tasmā nāhaṃ ettha bhagavato saddhāya gacchāmīti dīpento evamāha.

    อุโลฺลเกตฺวาติ กายํ อุนฺนาเมตฺวา กุจฺฉิํ นีหริตฺวา คีวํ ปคฺคยฺห สพฺพํ ทิสํ เปกฺขมาโน อุโลฺลเกตฺวาฯ พาเธตพฺพํ มเญฺญยฺยาติ ยถา วินิวิชฺฌิตฺวา น นิกฺขมติ, เอวํ ปฎิพาหิตพฺพํ มเญฺญยฺย พนฺธิตพฺพํ วาฯ สหธมฺมิกาติ สการณาฯ อถ มํ ปฎิหเรยฺยาสิ สทฺธิํ นิคณฺฐปริสายาติ เอเตสํ อเตฺถ ญาเต อถ เม นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํ อภิคเจฺฉยฺยาสิ, ปตีหารสฺส เม สนฺติกํ อาคนฺตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปยฺยาสีติ อโตฺถฯ เอโก ปโญฺหติ เอโก ปญฺหมโคฺค, เอกํ ปญฺหคเวสนนฺติ อโตฺถฯ เอโก อุเทฺทโสติ เอกํ นาม กินฺติ? อยํ เอโก อุเทฺทโสฯ เอกํ เวยฺยากรณนฺติ ‘‘สเพฺพ สตฺตา อาหารฎฺฐิติกา’’ติ (ขุ. ปา. ๔.๑; อ. นิ. ๑๐.๒๗) อิทํ เอกํ เวยฺยากรณํฯ เอวํ สพฺพตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    Ulloketvāti kāyaṃ unnāmetvā kucchiṃ nīharitvā gīvaṃ paggayha sabbaṃ disaṃ pekkhamāno ulloketvā. Bādhetabbaṃ maññeyyāti yathā vinivijjhitvā na nikkhamati, evaṃ paṭibāhitabbaṃ maññeyya bandhitabbaṃ vā. Sahadhammikāti sakāraṇā. Atha maṃ paṭihareyyāsi saddhiṃ nigaṇṭhaparisāyāti etesaṃ atthe ñāte atha me nigaṇṭhaparisāya saddhiṃ abhigaccheyyāsi, patīhārassa me santikaṃ āgantvā attano āgatabhāvaṃ jānāpeyyāsīti attho. Eko pañhoti eko pañhamaggo, ekaṃ pañhagavesananti attho. Eko uddesoti ekaṃ nāma kinti? Ayaṃ eko uddeso. Ekaṃ veyyākaraṇanti ‘‘sabbe sattā āhāraṭṭhitikā’’ti (khu. pā. 4.1; a. ni. 10.27) idaṃ ekaṃ veyyākaraṇaṃ. Evaṃ sabbattha attho veditabbo.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. นิคณฺฐนาฎปุตฺตสุตฺตํ • 8. Nigaṇṭhanāṭaputtasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. นิคณฺฐนาฎปุตฺตสุตฺตวณฺณนา • 8. Nigaṇṭhanāṭaputtasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact