Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๒. นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา
2. Nimokkhasuttavaṇṇanā
๒. อิทานิ ทุติยสุตฺตโต ปฎฺฐาย ปฐมมาคตญฺจ อุตฺตานตฺถญฺจ ปหาย ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสามฯ ชานาสิ โนติ ชานาสิ นุฯ นิโมกฺขนฺติอาทีนิ มคฺคาทีนํ นามานิ ฯ มเคฺคน หิ สตฺตา กิเลสพนฺธนโต นิมุจฺจนฺติ, ตสฺมา มโคฺค สตฺตานํ นิโมโกฺขติ วุโตฺตฯ ผลกฺขเณ ปน เต กิเลสพนฺธนโต ปมุตฺตา, ตสฺมา ผลํ สตฺตานํ ปโมโกฺขติ วุตฺตํฯ นิพฺพานํ ปตฺวา สตฺตานํ สพฺพทุกฺขํ วิวิจฺจติ, ตสฺมา นิพฺพานํ วิเวโกติ วุตฺตํฯ สพฺพานิ วา เอตานิ นิพฺพานเสฺสว นามานิฯ นิพฺพานญฺหิ ปตฺวา สตฺตา สพฺพทุกฺขโต นิมุจฺจนฺติ ปมุจฺจนฺติ วิวิจฺจนฺติ, ตสฺมา ตเทว ‘‘นิโมโกฺข ปโมโกฺข วิเวโก’’ติ วุตฺตํฯ ชานามิ ขฺวาหนฺติ ชานามิ โข อหํฯ อวธารณโตฺถ โขกาโร ฯ อหํ ชานามิเยวฯ สตฺตานํ นิโมกฺขาทิชานนตฺถเมว หิ มยา สมติํส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ปฎิวิทฺธนฺติ สีหนาทํ นทติฯ พุทฺธสีหนาทํ นาม กิร เอตํ สุตฺตํฯ
2. Idāni dutiyasuttato paṭṭhāya paṭhamamāgatañca uttānatthañca pahāya yaṃ yaṃ anuttānaṃ, taṃ tadeva vaṇṇayissāma. Jānāsi noti jānāsi nu. Nimokkhantiādīni maggādīnaṃ nāmāni . Maggena hi sattā kilesabandhanato nimuccanti, tasmā maggo sattānaṃ nimokkhoti vutto. Phalakkhaṇe pana te kilesabandhanato pamuttā, tasmā phalaṃ sattānaṃ pamokkhoti vuttaṃ. Nibbānaṃ patvā sattānaṃ sabbadukkhaṃ viviccati, tasmā nibbānaṃ vivekoti vuttaṃ. Sabbāni vā etāni nibbānasseva nāmāni. Nibbānañhi patvā sattā sabbadukkhato nimuccanti pamuccanti viviccanti, tasmā tadeva ‘‘nimokkho pamokkho viveko’’ti vuttaṃ. Jānāmi khvāhanti jānāmi kho ahaṃ. Avadhāraṇattho khokāro . Ahaṃ jānāmiyeva. Sattānaṃ nimokkhādijānanatthameva hi mayā samatiṃsa pāramiyo pūretvā sabbaññutaññāṇaṃ paṭividdhanti sīhanādaṃ nadati. Buddhasīhanādaṃ nāma kira etaṃ suttaṃ.
นนฺทีภวปริกฺขยาติ นนฺทีมูลกสฺส กมฺมภวสฺส ปริกฺขเยนฯ นนฺทิยา จ ภวสฺส จาติปิ วฎฺฎติฯ ตตฺถ หิ ปุริมนเย นนฺทีภเวน ติวิธกมฺมาภิสงฺขารวเสน สงฺขารกฺขโนฺธ คหิโต, สญฺญาวิญฺญาเณหิ ตํสมฺปยุตฺตา จ เทฺว ขนฺธาฯ เตหิ ปน ตีหิ ขเนฺธหิ สมฺปยุตฺตา เวทนา เตสํ คหเณน คหิตาวาติ อนุปาทิณฺณกานํ จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน สอุปาทิเสสํ นิพฺพานํ กถิตํ โหติฯ เวทนานํ นิโรธา อุปสมาติ อุปาทิณฺณกเวทนานํ นิโรเธน จ อุปสเมน จฯ ตตฺถ เวทนาคหเณน ตํสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา คหิตาว โหนฺติ, เตสํ วตฺถารมฺมณวเสน รูปกฺขโนฺธปิฯ เอวํ อิเมสํ อุปาทิณฺณกานํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน อนุปาทิเสสํ นิพฺพานํ กถิตํ โหติฯ ทุติยนเย ปน นนฺทิคฺคหเณน สงฺขารกฺขโนฺธ คหิโต, ภวคฺคหเณน อุปปตฺติภวสงฺขาโต รูปกฺขโนฺธ, สญฺญาทีหิ สรูเปเนว ตโย ขนฺธาฯ เอวํ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ อปฺปวตฺติวเสน นิพฺพานํ กถิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํฯ อิมเมว จ นยํ จตุนิกายิกภณฺฑิกเตฺถโร โรเจติฯ อิติ นิพฺพานวเสเนว ภควา เทสนํ นิฎฺฐาเปสีติฯ
Nandībhavaparikkhayāti nandīmūlakassa kammabhavassa parikkhayena. Nandiyā ca bhavassa cātipi vaṭṭati. Tattha hi purimanaye nandībhavena tividhakammābhisaṅkhāravasena saṅkhārakkhandho gahito, saññāviññāṇehi taṃsampayuttā ca dve khandhā. Tehi pana tīhi khandhehi sampayuttā vedanā tesaṃ gahaṇena gahitāvāti anupādiṇṇakānaṃ catunnaṃ arūpakkhandhānaṃ appavattivasena saupādisesaṃ nibbānaṃ kathitaṃ hoti. Vedanānaṃ nirodhā upasamāti upādiṇṇakavedanānaṃ nirodhena ca upasamena ca. Tattha vedanāgahaṇena taṃsampayuttā tayo khandhā gahitāva honti, tesaṃ vatthārammaṇavasena rūpakkhandhopi. Evaṃ imesaṃ upādiṇṇakānaṃ pañcannaṃ khandhānaṃ appavattivasena anupādisesaṃ nibbānaṃ kathitaṃ hoti. Dutiyanaye pana nandiggahaṇena saṅkhārakkhandho gahito, bhavaggahaṇena upapattibhavasaṅkhāto rūpakkhandho, saññādīhi sarūpeneva tayo khandhā. Evaṃ imesaṃ pañcannaṃ khandhānaṃ appavattivasena nibbānaṃ kathitaṃ hotīti veditabbaṃ. Imameva ca nayaṃ catunikāyikabhaṇḍikatthero roceti. Iti nibbānavaseneva bhagavā desanaṃ niṭṭhāpesīti.
นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nimokkhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. นิโมกฺขสุตฺตํ • 2. Nimokkhasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. นิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา • 2. Nimokkhasuttavaṇṇanā