| Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi |
๒๐. วีสติมวโคฺค
20. Vīsatimavaggo
(๑๙๖) ๓. นิรยปาลกถา
(196) 3. Nirayapālakathā
๘๖๖. นตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ? อามนฺตาฯ นตฺถิ นิรเยสุ กมฺมการณาติ? น เหวํ วตฺตเพฺพ…เป.… อตฺถิ นิรเยสุ กมฺมการณาติ? อามนฺตาฯ อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ? น เหวํ วตฺตเพฺพ…เป.…ฯ
866. Natthi nirayesu nirayapālāti? Āmantā. Natthi nirayesu kammakāraṇāti? Na hevaṃ vattabbe…pe… atthi nirayesu kammakāraṇāti? Āmantā. Atthi nirayesu nirayapālāti? Na hevaṃ vattabbe…pe….
อตฺถิ มนุเสฺสสุ กมฺมการณา, อตฺถิ จ การณิกาติ? อามนฺตาฯ อตฺถิ นิรเยสุ กมฺมการณา, อตฺถิ จ การณิกาติ? น เหวํ วตฺตเพฺพ…เป.… อตฺถิ นิรเยสุ กมฺมการณา, นตฺถิ จ การณิกาติ? อามนฺตาฯ อตฺถิ มนุเสฺสสุ กมฺมการณา, นตฺถิ จ การณิกาติ? น เหวํ วตฺตเพฺพ…เป.…ฯ
Atthi manussesu kammakāraṇā, atthi ca kāraṇikāti? Āmantā. Atthi nirayesu kammakāraṇā, atthi ca kāraṇikāti? Na hevaṃ vattabbe…pe… atthi nirayesu kammakāraṇā, natthi ca kāraṇikāti? Āmantā. Atthi manussesu kammakāraṇā, natthi ca kāraṇikāti? Na hevaṃ vattabbe…pe….
๘๖๗. อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ? อามนฺตาฯ นนุ วุตฺตํ ภควตา –
867. Atthi nirayesu nirayapālāti? Āmantā. Nanu vuttaṃ bhagavatā –
‘‘น เวสฺสภู โนปิ จ เปตฺติราชา,
‘‘Na vessabhū nopi ca pettirājā,
โสโม ยโม เวสฺสวโณ จ ราชา;
Somo yamo vessavaṇo ca rājā;
สกานิ กมฺมานิ หนนฺติ ตตฺถ, อิโต ปณุนฺนํ 1 ปรโลกปตฺต’’นฺติฯ
Sakāni kammāni hananti tattha, ito paṇunnaṃ 2 paralokapatta’’nti.
อเตฺถว สุตฺตโนฺตติ? อามนฺตาฯ เตน หิ นตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติฯ
Attheva suttantoti? Āmantā. Tena hi natthi nirayesu nirayapālāti.
๘๖๘. นตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ? อามนฺตาฯ นนุ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว , นิรยปาลา ปญฺจวิธพนฺธนํ นาม การณํ กาเรนฺติ 3 – ตตฺตํ อโยขีลํ หเตฺถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขีลํ ทุติเย หเตฺถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขีลํ ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขีลํ ทุติเย ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขีลํ มเชฺฌอุรสฺมิํ คเมนฺติ; โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา กฎุกา เวทนา เวเทติ; น จ ตาว กาลํ กโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหตี’’ติ 4! อเตฺถว สุตฺตโนฺตติ? อามนฺตาฯ เตน หิ อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติฯ
868. Natthi nirayesu nirayapālāti? Āmantā. Nanu vuttaṃ bhagavatā – ‘‘tamenaṃ, bhikkhave , nirayapālā pañcavidhabandhanaṃ nāma kāraṇaṃ kārenti 5 – tattaṃ ayokhīlaṃ hatthe gamenti, tattaṃ ayokhīlaṃ dutiye hatthe gamenti, tattaṃ ayokhīlaṃ pāde gamenti, tattaṃ ayokhīlaṃ dutiye pāde gamenti, tattaṃ ayokhīlaṃ majjheurasmiṃ gamenti; so tattha dukkhā tibbā kaṭukā vedanā vedeti; na ca tāva kālaṃ karoti yāva na taṃ pāpakammaṃ byantīhotī’’ti 6! Attheva suttantoti? Āmantā. Tena hi atthi nirayesu nirayapālāti.
นตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติ? อามนฺตาฯ นนุ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา สํเวเสตฺวา กุฐารีหิ 7 ตจฺฉนฺติ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธมฺปาทํ อโธสิรํ ฐเปตฺวา วาสีหิ ตจฺฉนฺติ…เป.… ตเมนํ , ภิกฺขเว, นิรยปาลา รเถ โยเชตฺวา อาทิตฺตาย ปถวิยา สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย 8 สาเรนฺติปิ ปจฺจาสาเรนฺติปิ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา มหนฺตํ องฺคารปพฺพตํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาโรเปนฺติปิ โอโรเปนฺติปิ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธมฺปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา ตตฺตาย โลหกุมฺภิยา ปกฺขิปนฺติ อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตายฯ โส ตตฺถ เผณุเทฺทหกํ ปจฺจติ, โส ตตฺถ เผณุเทฺทหกํ ปจฺจมาโน สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺฉติ, สกิมฺปิ อโธ คจฺฉติ, สกิมฺปิ ติริยํ คจฺฉติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา กฎุกา เวทนา เวทยติ, น จ ตาว กาลํ กโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา มหานิรเย ปกฺขิปนฺติ! โส โข ปน, ภิกฺขเว, มหานิรโย –
Natthi nirayesu nirayapālāti? Āmantā. Nanu vuttaṃ bhagavatā – ‘‘tamenaṃ, bhikkhave, nirayapālā saṃvesetvā kuṭhārīhi 9 tacchanti…pe… tamenaṃ, bhikkhave, nirayapālā uddhampādaṃ adhosiraṃ ṭhapetvā vāsīhi tacchanti…pe… tamenaṃ , bhikkhave, nirayapālā rathe yojetvā ādittāya pathaviyā sampajjalitāya sajotibhūtāya 10 sārentipi paccāsārentipi…pe… tamenaṃ, bhikkhave, nirayapālā mahantaṃ aṅgārapabbataṃ ādittaṃ sampajjalitaṃ sajotibhūtaṃ āropentipi oropentipi…pe… tamenaṃ, bhikkhave, nirayapālā uddhampādaṃ adhosiraṃ gahetvā tattāya lohakumbhiyā pakkhipanti ādittāya sampajjalitāya sajotibhūtāya. So tattha pheṇuddehakaṃ paccati, so tattha pheṇuddehakaṃ paccamāno sakimpi uddhaṃ gacchati, sakimpi adho gacchati, sakimpi tiriyaṃ gacchati. So tattha dukkhā tibbā kaṭukā vedanā vedayati, na ca tāva kālaṃ karoti yāva na taṃ pāpakammaṃ byantīhoti. Tamenaṃ, bhikkhave, nirayapālā mahāniraye pakkhipanti! So kho pana, bhikkhave, mahānirayo –
‘‘จตุกฺกโณฺณ จตุทฺวาโร, วิภโตฺต ภาคโส มิโต;
‘‘Catukkaṇṇo catudvāro, vibhatto bhāgaso mito;
อโยปาการปริยโนฺต, อยสา ปฎิกุชฺชิโตฯ
Ayopākārapariyanto, ayasā paṭikujjito.
‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสา ยุตา;
‘‘Tassa ayomayā bhūmi, jalitā tejasā yutā;
สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฎฺฐติ สพฺพทา’’ติ 11ฯ
Samantā yojanasataṃ, pharitvā tiṭṭhati sabbadā’’ti 12.
อเตฺถว สุตฺตโนฺตติ? อามนฺตาฯ เตน หิ อตฺถิ นิรเยสุ นิรยปาลาติฯ
Attheva suttantoti? Āmantā. Tena hi atthi nirayesu nirayapālāti.
นิรยปาลกถา นิฎฺฐิตาฯ
Nirayapālakathā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา • 3. Nirayapālakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา • 3. Nirayapālakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา • 3. Nirayapālakathāvaṇṇanā
