Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๘. นิสภเตฺถรคาถาวณฺณนา

    8. Nisabhattheragāthāvaṇṇanā

    ปญฺจ กามคุเณ หิตฺวาติ อายสฺมโต นิสภเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต กปิตฺถผลมทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท โกลิยชนปเท กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา นิสโภติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต สากิยโกลิยานํ สงฺคาเม พุทฺธานุภาวํ ทิสฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ตทเหว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๒.๗-๑๑) –

    Pañcakāmaguṇe hitvāti āyasmato nisabhattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto vipassissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ piṇḍāya carantaṃ disvā pasannacitto kapitthaphalamadāsi. So tena puññakammena sugatīsuyeva saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde koliyajanapade kulagehe nibbattitvā nisabhoti laddhanāmo vayappatto sākiyakoliyānaṃ saṅgāme buddhānubhāvaṃ disvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā tadaheva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.52.7-11) –

    ‘‘สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, อาหุตีนํ ปฎิคฺคหํ;

    ‘‘Suvaṇṇavaṇṇaṃ sambuddhaṃ, āhutīnaṃ paṭiggahaṃ;

    รถิยํ ปฎิปชฺชนฺตํ, กปิตฺถํ อททิํ ผลํฯ

    Rathiyaṃ paṭipajjantaṃ, kapitthaṃ adadiṃ phalaṃ.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ผลํ อททิํ ตทา;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ phalaṃ adadiṃ tadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    โส อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน สหายภิกฺขู ปมาทวิหาเรน กาลํ วีตินาเมเนฺต ทิสฺวา เต โอวทโนฺต –

    So arahattaṃ pana patvā attano sahāyabhikkhū pamādavihārena kālaṃ vītināmente disvā te ovadanto –

    ๑๙๕.

    195.

    ‘‘ปญฺจ กามคุเณ หิตฺวา, ปิยรูเป มโนรเม;

    ‘‘Pañca kāmaguṇe hitvā, piyarūpe manorame;

    สทฺธาย ฆรา นิกฺขมฺม, ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภเว’’ติฯ –

    Saddhāya gharā nikkhamma, dukkhassantakaro bhave’’ti. –

    ปฐมํ คาถํ อภาสิฯ

    Paṭhamaṃ gāthaṃ abhāsi.

    ตสฺสโตฺถ – พาลปุถุชฺชนสฺส ปิยายิตพฺพสภาวตาย ปิยรูเป มนุญฺญสภาวตาย มโนรเม รูปาทิเก ปญฺจ กามคุเณ กามโกฎฺฐาเส หิตฺวา ปหาย ปริจฺจชิตฺวา กมฺมผลสทฺธาย รตนตฺตยสทฺธาย จ วเสน ฆรา ฆรพนฺธนโต นิกฺขมฺม นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชฺชํ อุปคโต วิญฺญุชาติโก ปพฺพชิตกาลโต ปฎฺฐาย ฆเฎโนฺต วายมโนฺต วฎฺฎทุกฺขสฺส อนฺตกโร ภเว ภเวยฺยาติฯ เอวํ เต ภิกฺขู โอวทิตฺวา ‘‘อยํ ปเร เอว สญฺญาเปโนฺต วิหรติ, ‘‘สยํ ปน อการโก’ติ มา จินฺตยิตฺถา’’ติ เตสํ อตฺตโน ปฎิปนฺนภาวํ ปกาเสโนฺต –

    Tassattho – bālaputhujjanassa piyāyitabbasabhāvatāya piyarūpe manuññasabhāvatāya manorame rūpādike pañca kāmaguṇe kāmakoṭṭhāse hitvā pahāya pariccajitvā kammaphalasaddhāya ratanattayasaddhāya ca vasena gharā gharabandhanato nikkhamma nikkhamitvā pabbajjaṃ upagato viññujātiko pabbajitakālato paṭṭhāya ghaṭento vāyamanto vaṭṭadukkhassa antakaro bhave bhaveyyāti. Evaṃ te bhikkhū ovaditvā ‘‘ayaṃ pare eva saññāpento viharati, ‘‘sayaṃ pana akārako’ti mā cintayitthā’’ti tesaṃ attano paṭipannabhāvaṃ pakāsento –

    ๑๙๖.

    196.

    ‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;

    ‘‘Nābhinandāmi maraṇaṃ, nābhinandāmi jīvitaṃ;

    กาลญฺจ ปฎิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’ติฯ –

    Kālañca paṭikaṅkhāmi, sampajāno patissato’’ti. –

    ทุติยคาถาย อญฺญํ พฺยากาสิฯ ตตฺถ นาภินนฺทามิ มรณนฺติ มรณํ น อภิกงฺขามิฯ นาภินนฺทามิ ชีวิตนฺติ อิทํ ปน ตสฺส การณวจนํ, ยสฺมา นาภินนฺทามิ ชีวิตํ, ตสฺมา นาภินนฺทามิ มรณนฺติฯ โย หิ อายติํ ชาติชรามรณาย กิเลสาภิสงฺขาเร อาจิโนติ อุปจิโนติ, โส ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติํ อภินนฺทโนฺต นานฺตริยกตาย อตฺตโน มรณมฺปิ อภินนฺทติ นาม การณสฺส อปฺปหีนตฺตา, ขีณาสโว ปน สพฺพโส อาจยคามิธเมฺม ปหาย อปจยคามิธเมฺม ปติฎฺฐิโต ปริญฺญาตวตฺถุโก สพฺพโส ชีวิตํ อนภินนฺทโนฺต มรณมฺปิ อนภินนฺทติ นาม การณสฺส เอว สุปฺปหีนตฺตาฯ เตนาห – ‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิต’’นฺติฯ ยทิ เอวํ ขีณาสวสฺส ปรินิพฺพานาภิกงฺขา, ยาว ปรินิพฺพานา อวฎฺฐานญฺจ กถนฺติ อาห ‘‘กาลญฺจ ปฎิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’ติ, กิเลสปรินิพฺพาเน สิเทฺธ สติปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺติยา สโต สมฺปชาโน เกวลํ ขนฺธปรินิพฺพานกาลํ ปฎิกงฺขามิ, ตํ อุทิกฺขมาโน อาคมยมาโน วิหรามิ, น ปน เม มรเณ ชีวิเต วา อภินนฺทนา อตฺถิ อรหตฺตมเคฺคเนว ตสฺส สมุคฺฆาฎิตตฺตาติฯ

    Dutiyagāthāya aññaṃ byākāsi. Tattha nābhinandāmi maraṇanti maraṇaṃ na abhikaṅkhāmi. Nābhinandāmi jīvitanti idaṃ pana tassa kāraṇavacanaṃ, yasmā nābhinandāmi jīvitaṃ, tasmā nābhinandāmi maraṇanti. Yo hi āyatiṃ jātijarāmaraṇāya kilesābhisaṅkhāre ācinoti upacinoti, so punabbhavābhinibbattiṃ abhinandanto nāntariyakatāya attano maraṇampi abhinandati nāma kāraṇassa appahīnattā, khīṇāsavo pana sabbaso ācayagāmidhamme pahāya apacayagāmidhamme patiṭṭhito pariññātavatthuko sabbaso jīvitaṃ anabhinandanto maraṇampi anabhinandati nāma kāraṇassa eva suppahīnattā. Tenāha – ‘‘nābhinandāmi maraṇaṃ, nābhinandāmi jīvita’’nti. Yadi evaṃ khīṇāsavassa parinibbānābhikaṅkhā, yāva parinibbānā avaṭṭhānañca kathanti āha ‘‘kālañca paṭikaṅkhāmi, sampajāno patissato’’ti, kilesaparinibbāne siddhe satipaññāvepullappattiyā sato sampajāno kevalaṃ khandhaparinibbānakālaṃ paṭikaṅkhāmi, taṃ udikkhamāno āgamayamāno viharāmi, na pana me maraṇe jīvite vā abhinandanā atthi arahattamaggeneva tassa samugghāṭitattāti.

    นิสภเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nisabhattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๘. นิสภเตฺถรคาถา • 8. Nisabhattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact