Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๒๒๐. นิสีทนาทิอนุชานนา
220. Nisīdanādianujānanā
๓๕๓. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภุญฺชิตฺวา มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติฯ เตสํ มุฎฺฐสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินเนฺตน อสุจิ มุจฺจติ, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิยติฯ อถ โข ภควา อายสฺมตา อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต อทฺทส เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิตํ, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ เอตํ, อานนฺท, เสนาสนํ มกฺขิต’’นฺติ? ‘‘เอตรหิ, ภเนฺต, ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภุญฺชิตฺวา มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติฯ เตสํ มุฎฺฐสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินเนฺตน อสุจิ มุจฺจติ; ตยิทํ, ภควา, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิต’’นฺติฯ ‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺทฯ มุจฺจติ หิ, อานนฺท, มุฎฺฐสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินเนฺตน อสุจิฯ เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู อุปฎฺฐิตสฺสตี สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ, เตสํ อสุจิ น มุจฺจติฯ เยปิ เต, อานนฺท, ปุถุชฺชนา กาเมสุ วีตราคา, เตสมฺปิ อสุจิ น มุจฺจติฯ อฎฺฐานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ อรหโต อสุจิ มุเจฺจยฺยา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, อานเนฺทน ปจฺฉาสมเณน เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต อทฺทสํ เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิตํ, ทิสฺวาน อานนฺทํ อามเนฺตสิํ ‘กิํ เอตํ, อานนฺท, เสนาสนํ มกฺขิต’นฺติ? ‘เอตรหิ, ภเนฺต, ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภุญฺชิตฺวา มุฎฺฐสฺสตี อสมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติฯ เตสํ มุฎฺฐสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินเนฺตน อสุจิ มุจฺจติ; ตยิทํ, ภควา, เสนาสนํ อสุจินา มกฺขิต’นฺติฯ ‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท, มุจฺจติ หิ, อานนฺท, มุฎฺฐสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ สุปินเนฺตน อสุจิฯ เย เต, อานนฺท, ภิกฺขู อุปฎฺฐิตสฺสตี สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺติ, เตสํ อสุจิ น มุจฺจติฯ เยปิ เต, อานนฺท, ปุถุชฺชนา กาเมสุ วีตราคา เตสมฺปิ อสุจิ น มุจฺจติฯ อฎฺฐานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ อรหโต อสุจิ มุเจฺจยฺยา’’’ติฯ
353. Tena kho pana samayena bhikkhū paṇītāni bhojanāni bhuñjitvā muṭṭhassatī asampajānā niddaṃ okkamanti. Tesaṃ muṭṭhassatīnaṃ asampajānānaṃ niddaṃ okkamantānaṃ supinantena asuci muccati, senāsanaṃ asucinā makkhiyati. Atha kho bhagavā āyasmatā ānandena pacchāsamaṇena senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto addasa senāsanaṃ asucinā makkhitaṃ, disvāna āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘kiṃ etaṃ, ānanda, senāsanaṃ makkhita’’nti? ‘‘Etarahi, bhante, bhikkhū paṇītāni bhojanāni bhuñjitvā muṭṭhassatī asampajānā niddaṃ okkamanti. Tesaṃ muṭṭhassatīnaṃ asampajānānaṃ niddaṃ okkamantānaṃ supinantena asuci muccati; tayidaṃ, bhagavā, senāsanaṃ asucinā makkhita’’nti. ‘‘Evametaṃ, ānanda, evametaṃ, ānanda. Muccati hi, ānanda, muṭṭhassatīnaṃ asampajānānaṃ niddaṃ okkamantānaṃ supinantena asuci. Ye te, ānanda, bhikkhū upaṭṭhitassatī sampajānā niddaṃ okkamanti, tesaṃ asuci na muccati. Yepi te, ānanda, puthujjanā kāmesu vītarāgā, tesampi asuci na muccati. Aṭṭhānametaṃ, ānanda, anavakāso yaṃ arahato asuci mucceyyā’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘idhāhaṃ, bhikkhave, ānandena pacchāsamaṇena senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto addasaṃ senāsanaṃ asucinā makkhitaṃ, disvāna ānandaṃ āmantesiṃ ‘kiṃ etaṃ, ānanda, senāsanaṃ makkhita’nti? ‘Etarahi, bhante, bhikkhū paṇītāni bhojanāni bhuñjitvā muṭṭhassatī asampajānā niddaṃ okkamanti. Tesaṃ muṭṭhassatīnaṃ asampajānānaṃ niddaṃ okkamantānaṃ supinantena asuci muccati; tayidaṃ, bhagavā, senāsanaṃ asucinā makkhita’nti. ‘Evametaṃ, ānanda, evametaṃ, ānanda, muccati hi, ānanda, muṭṭhassatīnaṃ asampajānānaṃ niddaṃ okkamantānaṃ supinantena asuci. Ye te, ānanda, bhikkhū upaṭṭhitassatī sampajānā niddaṃ okkamanti, tesaṃ asuci na muccati. Yepi te, ānanda, puthujjanā kāmesu vītarāgā tesampi asuci na muccati. Aṭṭhānametaṃ, ānanda, anavakāso yaṃ arahato asuci mucceyyā’’’ti.
‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา มุฎฺฐสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต – ทุกฺขํ สุปติ, ทุกฺขํ ปฎิพุชฺฌติ, ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, เทวตา น รกฺขนฺติ, อสุจิ มุจฺจติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา มุฎฺฐสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโตฯ
‘‘Pañcime, bhikkhave, ādīnavā muṭṭhassatissa asampajānassa niddaṃ okkamato – dukkhaṃ supati, dukkhaṃ paṭibujjhati, pāpakaṃ supinaṃ passati, devatā na rakkhanti, asuci muccati. Ime kho, bhikkhave, pañca ādīnavā muṭṭhassatissa asampajānassa niddaṃ okkamato.
‘‘ปญฺจิเม , ภิกฺขเว, อานิสํสา อุปฎฺฐิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโต – สุขํ สุปติ, สุขํ ปฎิพุชฺฌติ, น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ, เทวตา รกฺขนฺติ, อสุจิ น มุจฺจติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา อุปฎฺฐิตสฺสติสฺส สมฺปชานสฺส นิทฺทํ โอกฺกมโตฯ
‘‘Pañcime , bhikkhave, ānisaṃsā upaṭṭhitassatissa sampajānassa niddaṃ okkamato – sukhaṃ supati, sukhaṃ paṭibujjhati, na pāpakaṃ supinaṃ passati, devatā rakkhanti, asuci na muccati. Ime kho, bhikkhave, pañca ānisaṃsā upaṭṭhitassatissa sampajānassa niddaṃ okkamato.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กายคุตฺติยา จีวรคุตฺติยา เสนาสนคุตฺติยา นิสีทน’’นฺติฯ
‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kāyaguttiyā cīvaraguttiyā senāsanaguttiyā nisīdana’’nti.
เตน โข ปน สมเยน อติขุทฺทกํ นิสีทนํ น สพฺพํ เสนาสนํ สํโคเปติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยาวมหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ อากงฺขติ ตาวมหนฺตํ ปจฺจตฺถรณํ กาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena atikhuddakaṃ nisīdanaṃ na sabbaṃ senāsanaṃ saṃgopeti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, yāvamahantaṃ paccattharaṇaṃ ākaṅkhati tāvamahantaṃ paccattharaṇaṃ kātunti.
๓๕๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปชฺฌายสฺส อายสฺมโต เพลฎฺฐสีสสฺส ถุลฺลกจฺฉาพาโธ โหติฯ ตสฺส ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติฯ ตานิ ภิกฺขู อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺติฯ อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต เต ภิกฺขู ตานิ จีวรานิ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒเนฺต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กิํ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภเนฺต, อายสฺมโต ถุลฺลกจฺฉาพาโธฯ ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติฯ ตานิ มยํ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒามา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กณฺฑุ วา ปิฬกา วา อสฺสาโว วา ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิ’’นฺติฯ
354. Tena kho pana samayena āyasmato ānandassa upajjhāyassa āyasmato belaṭṭhasīsassa thullakacchābādho hoti. Tassa lasikāya cīvarāni kāye lagganti. Tāni bhikkhū udakena temetvā temetvā apakaḍḍhanti. Addasā kho bhagavā senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto te bhikkhū tāni cīvarāni udakena temetvā temetvā apakaḍḍhante, disvāna yena te bhikkhū tenupasaṅkami, upaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘kiṃ imassa, bhikkhave, bhikkhuno ābādho’’ti? ‘‘Imassa, bhante, āyasmato thullakacchābādho. Lasikāya cīvarāni kāye lagganti. Tāni mayaṃ udakena temetvā temetvā apakaḍḍhāmā’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yassa kaṇḍu vā piḷakā vā assāvo vā thullakacchu vā ābādho kaṇḍuppaṭicchādi’’nti.
๓๕๕. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา มุขปุญฺฉนโจฬํ 1 อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฎิคฺคณฺหาตุ เม, ภเนฺต, ภควา มุขปุญฺฉนโจฬํ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา มุขปุญฺฉนโจฬํฯ อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุขปุญฺฉนโจฬก’’นฺติ 2ฯ
355. Atha kho visākhā migāramātā mukhapuñchanacoḷaṃ 3 ādāya yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnā kho visākhā migāramātā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘paṭiggaṇhātu me, bhante, bhagavā mukhapuñchanacoḷaṃ, yaṃ mamassa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā mukhapuñchanacoḷaṃ. Atha kho bhagavā visākhaṃ migāramātaraṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho visākhā migāramātā bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, mukhapuñchanacoḷaka’’nti 4.
๓๕๖. เตน โข ปน สมเยน โรโช มโลฺล อายสฺมโต อานนฺทสฺส สหาโย โหติฯ โรชสฺส มลฺลสฺส โขมปิโลติกา อายสฺมโต อานนฺทสฺส หเตฺถ นิกฺขิตฺตา โหติฯ อายสฺมโต จ อานนฺทสฺส โขมปิโลติกาย อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ – สนฺทิโฎฺฐ จ โหติ, สมฺภโตฺต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, ชานาติ จ, คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตีติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ปญฺจหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุนฺติฯ
356. Tena kho pana samayena rojo mallo āyasmato ānandassa sahāyo hoti. Rojassa mallassa khomapilotikā āyasmato ānandassa hatthe nikkhittā hoti. Āyasmato ca ānandassa khomapilotikāya attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, pañcahaṅgehi samannāgatassa vissāsaṃ gahetuṃ – sandiṭṭho ca hoti, sambhatto ca, ālapito ca, jīvati ca, jānāti ca, gahite me attamano bhavissatīti. Anujānāmi, bhikkhave, imehi pañcahaṅgehi samannāgatassa vissāsaṃ gahetunti.
๓๕๗. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ ปริปุณฺณํ โหติ ติจีวรํฯ อโตฺถ จ โหติ ปริสฺสาวเนหิปิ ถวิกาหิปิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขารโจฬกนฺติฯ
357. Tena kho pana samayena bhikkhūnaṃ paripuṇṇaṃ hoti ticīvaraṃ. Attho ca hoti parissāvanehipi thavikāhipi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, parikkhāracoḷakanti.
นิสีทนาทิอนุชานนา นิฎฺฐิตาฯ
Nisīdanādianujānanā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อติเรกจีวราทิกถา • Atirekacīvarādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / นิสีทนาทิอนุชานนกถาวณฺณนา • Nisīdanādianujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / นิสีทนาทิอนุชานนกถาวณฺณนา • Nisīdanādianujānanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๑๘. อติเรกจีวราทิกถา • 218. Atirekacīvarādikathā