Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    ๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา

    5. Nisīdanasanthatasikkhāpadavaṇṇanā

    ๕๖๕. เตน สมเยนาติ นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทํฯ ตตฺถ อิจฺฉามหํ ภิกฺขเวติ ภควา กิร ตํ เตมาสํ น กิญฺจิ โพธเนยฺยสตฺตํ อทฺทส, ตสฺมา เอวมาหฯ เอวํ สเนฺตปิ ตนฺติวเสน ธมฺมเทสนา กตฺตพฺพา สิยาฯ ยสฺมา ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยิ โอกาสํ กาเรตฺวา ปฎิสลฺลีเน ภิกฺขู อธมฺมิกํ กติกวตฺตํ กริสฺสนฺติ, ตํ อุปเสโน ภินฺทิสฺสติฯ อหํ ตสฺส ปสีทิตฺวา ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อนุชานิสฺสามิ, ตโต มํ ปสฺสิตุกามา พหู ภิกฺขู ธุตงฺคานิ สมาทิยิสฺสนฺติ, อหญฺจ เตหิ อุชฺฌิตสนฺถตปจฺจยา สิกฺขาปทํ ปญฺญเปสฺสามี’’ติ, ตสฺมา เอวมาหฯ เอวํ พหูนิ หิ เอตฺถ อานิสํสานีติฯ

    565.Tena samayenāti nisīdanasanthatasikkhāpadaṃ. Tattha icchāmahaṃ bhikkhaveti bhagavā kira taṃ temāsaṃ na kiñci bodhaneyyasattaṃ addasa, tasmā evamāha. Evaṃ santepi tantivasena dhammadesanā kattabbā siyā. Yasmā panassa etadahosi – ‘‘mayi okāsaṃ kāretvā paṭisallīne bhikkhū adhammikaṃ katikavattaṃ karissanti, taṃ upaseno bhindissati. Ahaṃ tassa pasīditvā bhikkhūnaṃ dassanaṃ anujānissāmi, tato maṃ passitukāmā bahū bhikkhū dhutaṅgāni samādiyissanti, ahañca tehi ujjhitasanthatapaccayā sikkhāpadaṃ paññapessāmī’’ti, tasmā evamāha. Evaṃ bahūni hi ettha ānisaṃsānīti.

    สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ เถโร กิร ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวเสฺสน อุปสมฺปาเทตโพฺพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕) อิมสฺมิํ ขนฺธกสิกฺขาปเท ‘‘กถญฺหิ นาม ตฺวํ โมฆปุริส อเญฺญหิ โอวทิโย อนุสาสิโย อญฺญํ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ มญฺญิสฺสสี’’ติ เอวมาทินา นเยน ครหํ ลภิตฺวา ‘‘สตฺถา มยฺหํ ปริสํ นิสฺสาย ครหํ อทาสิ, โส ทานาหํ ภควนฺตํ เตเนว ปุณฺณจนฺทสสฺสิรีเกน สพฺพาการปริปุเณฺณน มุเขน พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรตฺวา ปริสํเยว นิสฺสาย สาธุการํ ทาเปสฺสามี’’ติ สุหทโย กุลปุโตฺต อติเรกโยชนสตํ ปฎิกฺกมิตฺวา ปริสํ จินิตฺวา ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ ปริวุโต ปุน ภควนฺตํ อุปสงฺกมโนฺตฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติฯ น หิ สกฺกา พุทฺธานํ อญฺญถา อาราเธตุํ อญฺญตฺร วตฺตสมฺปตฺติยาฯ

    Sapariso yena bhagavā tenupasaṅkamīti thero kira ‘‘na, bhikkhave, ūnadasavassena upasampādetabbo, yo upasampādeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti (mahāva. 75) imasmiṃ khandhakasikkhāpade ‘‘kathañhi nāma tvaṃ moghapurisa aññehi ovadiyo anusāsiyo aññaṃ ovadituṃ anusāsituṃ maññissasī’’ti evamādinā nayena garahaṃ labhitvā ‘‘satthā mayhaṃ parisaṃ nissāya garahaṃ adāsi, so dānāhaṃ bhagavantaṃ teneva puṇṇacandasassirīkena sabbākāraparipuṇṇena mukhena brahmaghosaṃ nicchāretvā parisaṃyeva nissāya sādhukāraṃ dāpessāmī’’ti suhadayo kulaputto atirekayojanasataṃ paṭikkamitvā parisaṃ cinitvā pañcamattehi bhikkhusatehi parivuto puna bhagavantaṃ upasaṅkamanto. Tena vuttaṃ – ‘‘sapariso yena bhagavā tenupasaṅkamī’’ti. Na hi sakkā buddhānaṃ aññathā ārādhetuṃ aññatra vattasampattiyā.

    ภควโต อวิทูเร นิสิโนฺนติ วตฺตสมฺปตฺติยา ปริสุทฺธภาเวน นิราสโงฺก สีโห วิย กญฺจนปพฺพตสฺส ภควโต อวิทูเร นิสิโนฺนฯ เอตทโวจาติ กถาสมุฎฺฐาปนตฺถํ เอตํ อโวจฯ มนาปานิ เต ภิกฺขุ ปํสุกูลานีติ ภิกฺขุ ตว อิมานิ ปํสุกูลานิ มนาปานิ, อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา คหิตานีติ อโตฺถฯ น โข เม, ภเนฺต, มนาปานีติ, ภเนฺต น มยา อตฺตโน รุจิยา คหิตานิ, คลคฺคาเหน วิย มตฺถกตาฬเนน วิย จ คาหิโตมฺหีติ ทเสฺสติฯ

    Bhagavatoavidūre nisinnoti vattasampattiyā parisuddhabhāvena nirāsaṅko sīho viya kañcanapabbatassa bhagavato avidūre nisinno. Etadavocāti kathāsamuṭṭhāpanatthaṃ etaṃ avoca. Manāpāni te bhikkhu paṃsukūlānīti bhikkhu tava imāni paṃsukūlāni manāpāni, attano ruciyā khantiyā gahitānīti attho. Na kho me, bhante, manāpānīti, bhante na mayā attano ruciyā gahitāni, galaggāhena viya matthakatāḷanena viya ca gāhitomhīti dasseti.

    ปญฺญายิสฺสตีติ ปญฺญาโต อภิญฺญาโต ภวิสฺสติ, ตตฺถ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติฯ น มยํ อปญฺญตฺตํ ปญฺญเปสฺสามาติ มยํ สาวกา นาม อปญฺญตฺตํ น ปญฺญเปสฺสาม, พุทฺธวิสโย หิ เอโส ยทิทํ ‘‘ปาจิตฺติยํ ทุกฺกฎ’’นฺติอาทินา นเยน อปญฺญตฺตสิกฺขาปทปญฺญปนํ ปญฺญตฺตสมุจฺฉินฺทนํ วาฯ สมาทายาติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา, ‘‘สาธุ สุฎฺฐู’’ติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ยถาปญฺญเตฺตสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ สิกฺขิสฺสามาติ ทเสฺสติฯ ตสฺส อารทฺธจิโตฺต ปุนปิ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สาธุการมทาสิฯ

    Paññāyissatīti paññāto abhiññāto bhavissati, tattha sandississatīti vuttaṃ hoti. Na mayaṃ apaññattaṃ paññapessāmāti mayaṃ sāvakā nāma apaññattaṃ na paññapessāma, buddhavisayo hi eso yadidaṃ ‘‘pācittiyaṃ dukkaṭa’’ntiādinā nayena apaññattasikkhāpadapaññapanaṃ paññattasamucchindanaṃ vā. Samādāyāti taṃ taṃ sikkhāpadaṃ samādiyitvā, ‘‘sādhu suṭṭhū’’ti sampaṭicchitvā yathāpaññattesu sabbasikkhāpadesu sikkhissāmāti dasseti. Tassa āraddhacitto punapi ‘‘sādhu sādhū’’ti sādhukāramadāsi.

    ๕๖๖. อนุญฺญาตาวุโสติ อนุญฺญาตํ, อาวุโสฯ ปิเหนฺตาติ ปิหยนฺตาฯ สนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวาติ สนฺถเต จตุตฺถจีวรสญฺญิตาย สพฺพสนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวาฯ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสีติ ภควา สนฺถตานิ วิปฺปกิณฺณานิ ทิสฺวา ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตเน การณํ นตฺถิ, ปริโภคุปายํ เนสํ ทเสฺสสฺสามี’’ติ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิฯ

    566.Anuññātāvusoti anuññātaṃ, āvuso. Pihentāti pihayantā. Santhatāni ujjhitvāti santhate catutthacīvarasaññitāya sabbasanthatāni ujjhitvā. Dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesīti bhagavā santhatāni vippakiṇṇāni disvā ‘‘saddhādeyyavinipātane kāraṇaṃ natthi, paribhogupāyaṃ nesaṃ dassessāmī’’ti dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi.

    ๕๖๗. สกิํ นิวตฺถมฺปิ สกิํ ปารุตมฺปีติ สกิํ นิสินฺนเญฺจว นิปนฺนญฺจฯ สามนฺตาติ เอกปสฺสโต วฎฺฎํ วา จตุรสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา คหิตฎฺฐานํ ยถา วิทตฺถิมตฺตํ โหติ, เอวํ คเหตพฺพํ, สนฺถรเนฺตน ปน ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว เอกเทเส วา สนฺถริตพฺพํ, วิชเฎตฺวา วา มิสฺสกํ กตฺวา สนฺถริตพฺพํ, เอวํ ถิรตรํ โหตีติฯ เสสํ อุตฺตานตฺถเมวฯ

    567.Sakiṃ nivatthampi sakiṃ pārutampīti sakiṃ nisinnañceva nipannañca. Sāmantāti ekapassato vaṭṭaṃ vā caturassaṃ vā chinditvā gahitaṭṭhānaṃ yathā vidatthimattaṃ hoti, evaṃ gahetabbaṃ, santharantena pana pāḷiyaṃ vuttanayeneva ekadese vā santharitabbaṃ, vijaṭetvā vā missakaṃ katvā santharitabbaṃ, evaṃ thirataraṃ hotīti. Sesaṃ uttānatthameva.

    สมุฎฺฐานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส เทฺวภาคสิกฺขาปทสทิสานีติฯ

    Samuṭṭhānādīni kiriyākiriyattā imassa sikkhāpadassa dvebhāgasikkhāpadasadisānīti.

    อิเมสุ ปน ปญฺจสุ สนฺถเตสุ ปุริมานิ ตีณิ วินยกมฺมํ กตฺวา ปฎิลภิตฺวา ปริภุญฺชิตุํ น วฎฺฎนฺติ, ปจฺฉิมานิ เทฺว วฎฺฎนฺตีติ เวทิตพฺพานีติฯ

    Imesu pana pañcasu santhatesu purimāni tīṇi vinayakammaṃ katvā paṭilabhitvā paribhuñjituṃ na vaṭṭanti, pacchimāni dve vaṭṭantīti veditabbānīti.

    นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Nisīdanasanthatasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทํ • 5. Nisīdanasanthatasikkhāpadaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Nisīdanasanthatasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Nisīdanasanthatasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Nisīdanasanthatasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact