Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เทฺวมาติกาปาฬิ • Dvemātikāpāḷi |
นิสฺสคฺคิยกโณฺฑ
Nissaggiyakaṇḍo
๑. ปตฺตสนฺนิจยสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Pattasannicayasikkhāpadavaṇṇanā
นิสฺสคฺคิเยสุ อาทิวคฺคสฺส ตาว ปฐเม ปตฺตสนฺนิจยํ กเรยฺยาติ ปตฺตสนฺนิธิํ กเรยฺย, เอกาหํ อนธิฎฺฐหิตฺวา วา อวิกเปฺปตฺวา วา อธิฎฺฐานุปคํ ปตฺตํ ฐเปยฺยาติ อโตฺถฯ
Nissaggiyesu ādivaggassa tāva paṭhame pattasannicayaṃ kareyyāti pattasannidhiṃ kareyya, ekāhaṃ anadhiṭṭhahitvā vā avikappetvā vā adhiṭṭhānupagaṃ pattaṃ ṭhapeyyāti attho.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ ปตฺตสนฺนิจยวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, เสสกถามโคฺค ภิกฺขุปาติโมกฺขวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพ, ตตฺร หิ ทสาหาติกฺกเม อาปตฺติ, อิธ เอกาหาติกฺกเมติ เอตฺตกเมว ตสฺส จ อิมสฺส จ นานากรณํ, เสสํ ตาทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha pattasannicayavatthusmiṃ paññattaṃ, sesakathāmaggo bhikkhupātimokkhavaṇṇanāyaṃ vuttanayeneva veditabbo, tatra hi dasāhātikkame āpatti, idha ekāhātikkameti ettakameva tassa ca imassa ca nānākaraṇaṃ, sesaṃ tādisamevāti.
ปตฺตสนฺนิจยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pattasannicayasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Akālacīvarasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติเย อกาลจีวรนฺติ อตฺถเต กถิเน กถินมาเสหิ, อนตฺถเต จีวรมาสโต อญฺญสฺมิํ กาเล อุปฺปนฺนํ, ยํ วา ปน กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนํฯ อาทิสฺส ทินฺนํ นาม ‘‘สมฺปตฺตา ภาเชนฺตู’’ติ วตฺวา วา, ‘‘อิทํ คณสฺส, อิทํ ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา วา, ทาตุกามตาย ปาทมูเล ฐเปตฺวา วา ทินฺนํฯ อิเจฺจตํ อกาลจีวรํ ‘‘กาลจีวร’’นฺติ อธิฎฺฐหิตฺวา ภาชาเปนฺติยา ปโยเค ทุกฺกฎํ, ยํ อตฺตนา ลทฺธํ, ตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ นิสฺสฎฺฐํ ปฎิลภิตฺวาปิ ยถาทาเนเยว อุปเนตพฺพํ, อญฺญสฺมิมฺปิ เอวรูเป สิกฺขาปเท เอเสว นโยฯ
Dutiye akālacīvaranti atthate kathine kathinamāsehi, anatthate cīvaramāsato aññasmiṃ kāle uppannaṃ, yaṃ vā pana kālepi ādissa dinnaṃ. Ādissa dinnaṃ nāma ‘‘sampattā bhājentū’’ti vatvā vā, ‘‘idaṃ gaṇassa, idaṃ tumhākaṃ dammī’’ti vatvā vā, dātukāmatāya pādamūle ṭhapetvā vā dinnaṃ. Iccetaṃ akālacīvaraṃ ‘‘kālacīvara’’nti adhiṭṭhahitvā bhājāpentiyā payoge dukkaṭaṃ, yaṃ attanā laddhaṃ, taṃ nissaggiyaṃ hoti. Nissaṭṭhaṃ paṭilabhitvāpi yathādāneyeva upanetabbaṃ, aññasmimpi evarūpe sikkhāpade eseva nayo.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อกาลจีวรํ ‘‘กาลจีวร’’นฺติ อธิฎฺฐหิตฺวา ภาชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อกาลจีวเร เวมติกาย, กาลจีวเร อกาลจีวรสญฺญาย เจว เวมติกาย จ ทุกฺกฎํฯ อุโภสุ กาลจีวรสญฺญาย, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อกาลจีวรตา, ตถาสญฺญิตา, ‘‘กาลจีวร’’นฺติ อธิฎฺฐาย เลเสน ภาชาปนํ, ปฎิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha akālacīvaraṃ ‘‘kālacīvara’’nti adhiṭṭhahitvā bhājanavatthusmiṃ paññattaṃ, akālacīvare vematikāya, kālacīvare akālacīvarasaññāya ceva vematikāya ca dukkaṭaṃ. Ubhosu kālacīvarasaññāya, ummattikādīnañca anāpatti. Akālacīvaratā, tathāsaññitā, ‘‘kālacīvara’’nti adhiṭṭhāya lesena bhājāpanaṃ, paṭilābhoti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni adinnādānasadisānīti.
อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Akālacīvarasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๓. จีวรปริวตฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Cīvaraparivattanasikkhāpadavaṇṇanā
ตติเย หนฺทาติ คณฺหฯ อจฺฉิเนฺทยฺยาติ สยํ อจฺฉินฺทนฺติยา พนฺธิตฺวา ฐปิเตสุ พหูสุปิ เอกาปตฺติ, อิตเรสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโยฯ อจฺฉินฺทาปเน ปน เอกาย อาณตฺติยา พหูสุ อจฺฉิเนฺนสุปิ เอกาวาปตฺติฯ
Tatiye handāti gaṇha. Acchindeyyāti sayaṃ acchindantiyā bandhitvā ṭhapitesu bahūsupi ekāpatti, itaresu vatthugaṇanāya āpattiyo. Acchindāpane pana ekāya āṇattiyā bahūsu acchinnesupi ekāvāpatti.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ จีวรํ ปริวเตฺตตฺวา อจฺฉินฺทนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, อญฺญสฺมิํ ปริกฺขาเร ติกทุกฺกฎํ, อนุปสมฺปนฺนาย จีวเรปิ ติกทุกฺกฎเมวฯ ยา ปน ตาย วา ทิยฺยมานํ, ตสฺสา วา วิสฺสาสํ คณฺหาติ, ตสฺสา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อุปสมฺปนฺนตา, ปริวตฺติตจีวรสฺส วิกปฺปนุปคตา, สกสญฺญาย อจฺฉินฺทนํ วา อจฺฉินฺทาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ อทินฺนาทานสทิสานิ, อิทํ ปน ทุกฺขเวทนนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha cīvaraṃ parivattetvā acchindanavatthusmiṃ paññattaṃ, sāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, aññasmiṃ parikkhāre tikadukkaṭaṃ, anupasampannāya cīvarepi tikadukkaṭameva. Yā pana tāya vā diyyamānaṃ, tassā vā vissāsaṃ gaṇhāti, tassā, ummattikādīnañca anāpatti. Upasampannatā, parivattitacīvarassa vikappanupagatā, sakasaññāya acchindanaṃ vā acchindāpanaṃ vāti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni adinnādānasadisāni, idaṃ pana dukkhavedananti.
จีวรปริวตฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cīvaraparivattanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๔. อญฺญวิญฺญาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Aññaviññāpanasikkhāpadavaṇṇanā
จตุเตฺถ วิญฺญาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวา, ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ ยาจิตฺวา วาฯ อญฺญํ วิญฺญาเปยฺยาติ ยํ ปุเพฺพ ‘‘กิเนฺต, อเยฺย, อผาสุ, กิํ อาหริยตู’’ติ วุตฺตาย วิญฺญาปิตํ, ตํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ตเญฺจว อญฺญญฺจ คเหตุกามา ตโต อญฺญํ วิญฺญาเปยฺย, ตสฺสา วิญฺญตฺติยา ทุกฺกฎํ, ปฎิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ
Catutthe viññāpetvāti jānāpetvā, ‘‘idaṃ nāma āharā’’ti yācitvā vā. Aññaṃ viññāpeyyāti yaṃ pubbe ‘‘kinte, ayye, aphāsu, kiṃ āhariyatū’’ti vuttāya viññāpitaṃ, taṃ paṭikkhipitvā tañceva aññañca gahetukāmā tato aññaṃ viññāpeyya, tassā viññattiyā dukkaṭaṃ, paṭilābhena nissaggiyaṃ hoti.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อญฺญํ วิญฺญาเปตฺวา อญฺญํ วิญฺญาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนเญฺญ ทฺวิกทุกฺกฎํฯ อนเญฺญ อนญฺญสญฺญาย ปน, ตสฺมิํ อปฺปโหเนฺต ปุน ตเญฺญว, อเญฺญนปิ อเตฺถ สติ เตน สทฺธิํ อญฺญญฺจ, ยญฺจ วิญฺญตฺตํ, ตโต เจ อญฺญํ สมคฺฆตรํ โหติ, อิมํ อานิสํสํ ทเสฺสตฺวา สุทฺธํ อญฺญเมว จ วิญฺญาเปนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เลเสน คเหตุกามตา, อญฺญสฺส วิญฺญาปนํ, ปฎิลาโภติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ สญฺจริตฺตสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha aññaṃ viññāpetvā aññaṃ viññāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, anaññe dvikadukkaṭaṃ. Anaññe anaññasaññāya pana, tasmiṃ appahonte puna taññeva, aññenapi atthe sati tena saddhiṃ aññañca, yañca viññattaṃ, tato ce aññaṃ samagghataraṃ hoti, imaṃ ānisaṃsaṃ dassetvā suddhaṃ aññameva ca viññāpentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Lesena gahetukāmatā, aññassa viññāpanaṃ, paṭilābhoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni sañcarittasadisānīti.
อญฺญวิญฺญาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aññaviññāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๕. อญฺญเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Aññacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
ปญฺจเม อญฺญํ เจตาเปตฺวาติ อตฺตโน กปฺปิยภเณฺฑน ‘‘อิทํ นาม อาหรา’’ติ อญฺญํ ปริวตฺตาเปตฺวาฯ อญฺญํ เจตาเปยฺยาติ ‘‘เอวํ เม อิทํ ทตฺวา อญฺญมฺปิ อาหริสฺสตี’’ติ มญฺญมานา ‘‘น เม อิมินา อโตฺถ, อิทํ นาม เม อาหรา’’ติ ตโต อญฺญํ เจตาเปยฺยฯ ตสฺสา เจตาปนปฺปโยเค ทุกฺกฎํ, ปฎิลาเภน เตน วา อเญฺญน วา มูเลน อาหฎํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, เสสํ จตุตฺถสทิสเมวาติฯ
Pañcame aññaṃ cetāpetvāti attano kappiyabhaṇḍena ‘‘idaṃ nāma āharā’’ti aññaṃ parivattāpetvā. Aññaṃ cetāpeyyāti ‘‘evaṃ me idaṃ datvā aññampi āharissatī’’ti maññamānā ‘‘na me iminā attho, idaṃ nāma me āharā’’ti tato aññaṃ cetāpeyya. Tassā cetāpanappayoge dukkaṭaṃ, paṭilābhena tena vā aññena vā mūlena āhaṭaṃ nissaggiyaṃ hoti, sesaṃ catutthasadisamevāti.
อญฺญเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aññacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๖. ปฐมสงฺฆิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
6. Paṭhamasaṅghikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
ฉเฎฺฐ อญฺญทตฺถิเกนาติ อญฺญสฺสตฺถาย ทิเนฺนนฯ อญฺญุทฺทิสิเกนาติ อญฺญํ อุทฺทิสิตฺวา ทิเนฺนนฯ สงฺฆิเกนาติ สงฺฆสฺส ปริจฺจเตฺตนฯ ปริกฺขาเรนาติ กปฺปิยภเณฺฑนฯ อญฺญํ เจตาเปยฺยาติ ‘‘อิทํ นาม ปริภุเญฺชยฺยาถา’’ติ ยํ อุทฺทิสิตฺวา นิยเมตฺวา โย ปริกฺขาโร ทิโนฺน, ตโต อญฺญํ ปริวตฺตาเปยฺย, ตสฺสา ปโยเค ทุกฺกฎํ, ปฎิลาเภน นิสฺสคฺคิยํฯ
Chaṭṭhe aññadatthikenāti aññassatthāya dinnena. Aññuddisikenāti aññaṃ uddisitvā dinnena. Saṅghikenāti saṅghassa pariccattena. Parikkhārenāti kappiyabhaṇḍena. Aññaṃ cetāpeyyāti ‘‘idaṃ nāma paribhuñjeyyāthā’’ti yaṃ uddisitvā niyametvā yo parikkhāro dinno, tato aññaṃ parivattāpeyya, tassā payoge dukkaṭaṃ, paṭilābhena nissaggiyaṃ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ ตาทิเสน ปริกฺขาเรน อญฺญํ เจตาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อนญฺญทตฺถิเก ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน อนญฺญทตฺถิกสญฺญาย, เสสกํ อุปเนนฺติยา, ‘‘ตุเมฺหหิ เอตทตฺถาย ทิโนฺน, อมฺหากญฺจ อิมินา นาม อโตฺถ’’ติ สามิเก อปโลเกตฺวา อุปเนนฺติยา, ยทา ภิกฺขุนิโย วิหารมฺปิ ฉเฑฺฑตฺวา ปกฺกมนฺติ, เอวรูปาสุ อาปทาสุ อุปเนนฺตีนํ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เสสํ จตุตฺถสทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha tādisena parikkhārena aññaṃ cetāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, anaññadatthike dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana anaññadatthikasaññāya, sesakaṃ upanentiyā, ‘‘tumhehi etadatthāya dinno, amhākañca iminā nāma attho’’ti sāmike apaloketvā upanentiyā, yadā bhikkhuniyo vihārampi chaḍḍetvā pakkamanti, evarūpāsu āpadāsu upanentīnaṃ, ummattikādīnañca anāpatti. Sesaṃ catutthasadisamevāti.
ปฐมสงฺฆิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamasaṅghikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๗. ทุติยสงฺฆิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Dutiyasaṅghikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
สตฺตเม สญฺญาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกนาปิฯ เอตเทเวตฺถ นานากรณํ, เสสํ ฉฎฺฐสทิสเมวาติฯ
Sattame saññācikenāti sayaṃ yācitakenāpi. Etadevettha nānākaraṇaṃ, sesaṃ chaṭṭhasadisamevāti.
ทุติยสงฺฆิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyasaṅghikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๘. ปฐมคณิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Paṭhamagaṇikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
อฎฺฐเม มหาชนิเกนาติ คณสฺส ปริจฺจเตฺตน, อิทเมตฺถ ฉฎฺฐโต นานากรณํฯ
Aṭṭhame mahājanikenāti gaṇassa pariccattena, idamettha chaṭṭhato nānākaraṇaṃ.
ปฐมคณิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamagaṇikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๙. ทุติยคณิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Dutiyagaṇikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
นวเม สญฺญาจิเกนาติ อิทํ อฎฺฐมโต อติริตฺตํ, เสสํ ทฺวีสุปิ ฉฎฺฐสิกฺขาปทสทิสเมวาติฯ
Navame saññācikenāti idaṃ aṭṭhamato atirittaṃ, sesaṃ dvīsupi chaṭṭhasikkhāpadasadisamevāti.
ทุติยคณิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyagaṇikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๐. ปุคฺคลิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Puggalikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā
ทสเม ปุคฺคลิเกนาติ เอกภิกฺขุนิยา ปริจฺจเตฺตนฯ สญฺญาจิเกนาติ สยํ ยาจิตเกน จฯ อญฺญํ เจตาเปยฺยาติ ยํ อุทฺทิสิตฺวา ทินฺนํ, ตโต อญฺญํ เจตาเปนฺติยา ปโยเค ทุกฺกฎํ, ปฎิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ
Dasame puggalikenāti ekabhikkhuniyā pariccattena. Saññācikenāti sayaṃ yācitakena ca. Aññaṃ cetāpeyyāti yaṃ uddisitvā dinnaṃ, tato aññaṃ cetāpentiyā payoge dukkaṭaṃ, paṭilābhena nissaggiyaṃ hoti.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ ตาทิเสน ปริกฺขาเรน อญฺญํ เจตาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, เสสํ ฉฎฺฐสทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha tādisena parikkhārena aññaṃ cetāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, sesaṃ chaṭṭhasadisamevāti.
ปุคฺคลิกเจตาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Puggalikacetāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
ปตฺตวโคฺค ปฐโมฯ
Pattavaggo paṭhamo.
๑๑. ครุปาวุรณสิกฺขาปทวณฺณนา
11. Garupāvuraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติยสฺส ปฐเม ครุปาวุรณนฺติ สีตกาเล ปาวุรณํฯ จตุกฺกํสปรมนฺติ กํโส นาม จตุกฺกหาปณิโก โหติ, ตสฺมา โสฬสกหาปณคฺฆนกํฯ เจตาเปตพฺพนฺติ ฐเปตฺวา สหธมฺมิเก จ ญาตกปฺปวาริเต จ อเญฺญน กิสฺมิญฺจิเทว คุเณ ปริตุเฎฺฐน ‘‘วเทถาเยฺย, เยนโตฺถ’’ติ วุตฺตาย วิญฺญาเปตพฺพํฯ ตโต เจ อุตฺตรีติ ตตุตฺตริ วิญฺญาเปนฺติยา ทุกฺกฎํ, ปฎิลทฺธํ นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ
Dutiyassa paṭhame garupāvuraṇanti sītakāle pāvuraṇaṃ. Catukkaṃsaparamanti kaṃso nāma catukkahāpaṇiko hoti, tasmā soḷasakahāpaṇagghanakaṃ. Cetāpetabbanti ṭhapetvā sahadhammike ca ñātakappavārite ca aññena kismiñcideva guṇe parituṭṭhena ‘‘vadethāyye, yenattho’’ti vuttāya viññāpetabbaṃ. Tato ce uttarīti tatuttari viññāpentiyā dukkaṭaṃ, paṭiladdhaṃ nissaggiyaṃ hoti.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ ราชานํ กมฺพลํ วิญฺญาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกจตุกฺกํเส ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน อูนกสญฺญาย, จตุกฺกํสปรมํ เจตาเปนฺติยา, ญาตกปฺปวาริเต วา, อญฺญสฺส วา อตฺถาย, อตฺตโน วา ธเนน, มหคฺฆํ เจตาเปนฺตํ อปฺปคฺฆํ เจตาเปนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ครุปาวุรณตา, อติเรกจตุกฺกํสตา, อนนุญฺญาตฎฺฐาเน วิญฺญตฺติ, ปฎิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ สญฺจริตฺตสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha rājānaṃ kambalaṃ viññāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, ūnakacatukkaṃse dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana ūnakasaññāya, catukkaṃsaparamaṃ cetāpentiyā, ñātakappavārite vā, aññassa vā atthāya, attano vā dhanena, mahagghaṃ cetāpentaṃ appagghaṃ cetāpentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Garupāvuraṇatā, atirekacatukkaṃsatā, ananuññātaṭṭhāne viññatti, paṭilābhoti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni sañcarittasadisānīti.
ครุปาวุรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Garupāvuraṇasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๒. ลหุปาวุรณสิกฺขาปทวณฺณนา
12. Lahupāvuraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติเย ลหุปาวุรณนฺติ อุณฺหกาเล ปาวุรณํฯ อฑฺฒเตยฺยกํสปรมนฺติ ทสกหาปณคฺฆนกํ, เสสํ ปฐมสทิสเมวาติฯ
Dutiye lahupāvuraṇanti uṇhakāle pāvuraṇaṃ. Aḍḍhateyyakaṃsaparamanti dasakahāpaṇagghanakaṃ, sesaṃ paṭhamasadisamevāti.
ลหุปาวุรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Lahupāvuraṇasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
อิโต ปรานิ อิมสฺมิํ วเคฺค อฎฺฐ, ตติยวเคฺค ทสาติ อิมานิ อฎฺฐารส สิกฺขาปทานิ ภิกฺขุปาติโมกฺขวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานีติฯ
Ito parāni imasmiṃ vagge aṭṭha, tatiyavagge dasāti imāni aṭṭhārasa sikkhāpadāni bhikkhupātimokkhavaṇṇanāyaṃ vuttanayeneva veditabbānīti.
ชาตรูปวโคฺค ตติโยฯ
Jātarūpavaggo tatiyo.
อุทฺทิฎฺฐา โข อยฺยาโย ติํส นิสฺสคฺคิยา ปาจิตฺติยา ธมฺมาติ ภิกฺขู อารพฺภ ปญฺญตฺตา สาธารณา อฎฺฐารส, อสาธารณา ทฺวาทสาติ เอวํ ติํสฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Uddiṭṭhā kho ayyāyo tiṃsa nissaggiyā pācittiyā dhammāti bhikkhū ārabbha paññattā sādhāraṇā aṭṭhārasa, asādhāraṇā dvādasāti evaṃ tiṃsa. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย ภิกฺขุนิปาติโมเกฺข
Kaṅkhāvitaraṇiyā pātimokkhavaṇṇanāya bhikkhunipātimokkhe
นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nissaggiyapācittiyavaṇṇanā niṭṭhitā.