Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๑๑. นิสฺสคฺคิยนิเทฺทสวณฺณนา
11. Nissaggiyaniddesavaṇṇanā
๑๑๖-๗. อิทานิ อโจฺจฬาริกานํ วเสน ทเสฺสตุํ ‘‘อรูปิย’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ อญฺญถาปิ ยุตฺติ ปริเยสิตพฺพาฯ ตตฺถายํ สเงฺขปโตฺถ (ปารา. ๕๙๑; ปารา. อฎฺฐ. ๒.๕๘๙; กงฺขา. อฎฺฐ. ชาตรุปสิกฺขาปทวณฺณนา) – โย รูปิเยน อรูปิยญฺจ ปริวเตฺตยฺย, โย จ อิตเรน จ อรูปิเยน รูปิยํ ปริวเตฺตยฺย, ตสฺส นิสฺสคฺคิยํ โหตีติฯ
116-7. Idāni accoḷārikānaṃ vasena dassetuṃ ‘‘arūpiya’’ntiādi āraddhaṃ. Aññathāpi yutti pariyesitabbā. Tatthāyaṃ saṅkhepattho (pārā. 591; pārā. aṭṭha. 2.589; kaṅkhā. aṭṭha. jātarupasikkhāpadavaṇṇanā) – yo rūpiyena arūpiyañca parivatteyya, yo ca itarena ca arūpiyena rūpiyaṃ parivatteyya, tassa nissaggiyaṃ hotīti.
อิทานิ รูปิยญฺจ อรูปิยญฺจ ทเสฺสตุํ ‘‘อิธ รูปิย’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ เอตฺถ (ปารา. ๕๘๙; กงฺขา. อฎฺฐ. ชาตรุปสิกฺขาปทวณฺณนา) สชฺฌุ สิงฺคีติ สชฺฌูติ รชตํฯ สิงฺคีติ สุวณฺณํฯ ตมฺพโลหาทีหิ วา ทารูหิ วา ปเณฺณหิ วา ลาขาย วา รูปํ สมุฎฺฐาเปตฺวา วา อสมุฎฺฐาเปตฺวา วา กตํ จมฺมพีชมยมฺปิยํ ยํ เทเส โวหารํ คจฺฉติ, อิทํ โวหารูปคมาสกํ นามฯ อิทมิธ รูปิยนฺติ อธิเปฺปตํฯ วตฺถาทิ จ มุตฺตาทิ จ วตฺถมุตฺตาทิฯ อิตรนฺติ อรูปิยํ กปฺปิยวตฺถุญฺจ ทุกฺกฎวตฺถุญฺจฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? วตฺถํ สุตฺตํ ผาโล ปฎโก กปฺปาโส อเนกปฺปการํ อปรณฺณํ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตาทิเภสชฺชญฺจาติ อิทํ กปฺปิยวตฺถุ นามฯ มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สโงฺขสิลา ปวาฬํ โลหิตโงฺค มสารคลฺลํ สตฺต ธญฺญานิ ทาสี ทาโส เขตฺตํ วตฺถุ ปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฎวตฺถุ นาม, ตทุภยํ อรูปิยํ นามาติ วุตฺตํ โหติฯ
Idāni rūpiyañca arūpiyañca dassetuṃ ‘‘idha rūpiya’’ntiādi āraddhaṃ. Ettha (pārā. 589; kaṅkhā. aṭṭha. jātarupasikkhāpadavaṇṇanā) sajjhu siṅgīti sajjhūti rajataṃ. Siṅgīti suvaṇṇaṃ. Tambalohādīhi vā dārūhi vā paṇṇehi vā lākhāya vā rūpaṃ samuṭṭhāpetvā vā asamuṭṭhāpetvā vā kataṃ cammabījamayampiyaṃ yaṃ dese vohāraṃ gacchati, idaṃ vohārūpagamāsakaṃ nāma. Idamidha rūpiyanti adhippetaṃ. Vatthādi ca muttādi ca vatthamuttādi. Itaranti arūpiyaṃ kappiyavatthuñca dukkaṭavatthuñca. Kiṃ vuttaṃ hoti? Vatthaṃ suttaṃ phālo paṭako kappāso anekappakāraṃ aparaṇṇaṃ sappi navanītaṃ telaṃ madhu phāṇitādibhesajjañcāti idaṃ kappiyavatthu nāma. Muttā maṇi veḷuriyo saṅkhosilā pavāḷaṃ lohitaṅgo masāragallaṃ satta dhaññāni dāsī dāso khettaṃ vatthu pupphārāmaphalārāmādayoti idaṃ dukkaṭavatthu nāma, tadubhayaṃ arūpiyaṃ nāmāti vuttaṃ hoti.
๑๑๘. เอตฺตาวตา รูปิยสํโวหารํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ กยวิกฺกยํ ทเสฺสตุํ ‘‘อิมํ คเหตฺวา’’ติอาทิมาห ฯ ตตฺถ อิมนฺติ ตณฺฑุลาทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา วา โอทนาทิํ ภุตฺวา วา ‘‘อิมํ วตฺถาทิกํ กปฺปิยภณฺฑํ เทหิ, อิมํ รชนปจนาทิกํ กร, รชนกฎฺฐาทิมา นย, อิมํ วา ตว เทมิ, ตฺวํ ปน อิมญฺจ อิมญฺจ อาหร, กร, เทหี’’ติ เอวํ กยวิกฺกเย สมาปเนฺน นิสฺสคฺคีติ สมฺพโนฺธฯ
118. Ettāvatā rūpiyasaṃvohāraṃ dassetvā idāni kayavikkayaṃ dassetuṃ ‘‘imaṃ gahetvā’’tiādimāha . Tattha imanti taṇḍulādikaṃ kappiyabhaṇḍaṃ gahetvā vā odanādiṃ bhutvā vā ‘‘imaṃ vatthādikaṃ kappiyabhaṇḍaṃ dehi, imaṃ rajanapacanādikaṃ kara, rajanakaṭṭhādimā naya, imaṃ vā tava demi, tvaṃ pana imañca imañca āhara, kara, dehī’’ti evaṃ kayavikkaye samāpanne nissaggīti sambandho.
๑๑๙. อิทานิ ปริณามวเสน อาปตฺติเภทํ ทเสฺสตุํ ‘‘อตฺตโน’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺรายํ ปิณฺฑโตฺถ (ปารา. ๖๕๙; ปารา. อฎฺฐ. ๒.๖๕๘; กงฺขา. อฎฺฐ. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา) – สงฺฆสฺส วา อญฺญสฺส วา นตํ ปริณตํ ลาภํ ลภิตพฺพํ จีวราทิปจฺจยํ อตฺตโน วา อญฺญสฺส วา ปริณาเมยฺย, นิสฺสคฺคิยอาทีนิ โหนฺตีติฯ กถํ? โย ปน มาตุสนฺตกมฺปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํฯ อญฺญสฺส ปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํฯ อญฺญสฺส สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ทุกฺกฎํฯ โย ปน อญฺญปุคฺคลสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณตํ อตฺตโน วา อญฺญปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา อญฺญเจติยสฺส วา ปริณาเมติ, ตสฺสาปิ ทุกฺกฎเมวาติฯ
119. Idāni pariṇāmavasena āpattibhedaṃ dassetuṃ ‘‘attano’’tiādi āraddhaṃ. Tatrāyaṃ piṇḍattho (pārā. 659; pārā. aṭṭha. 2.658; kaṅkhā. aṭṭha. pariṇatasikkhāpadavaṇṇanā) – saṅghassa vā aññassa vā nataṃ pariṇataṃ lābhaṃ labhitabbaṃ cīvarādipaccayaṃ attano vā aññassa vā pariṇāmeyya, nissaggiyaādīni hontīti. Kathaṃ? Yo pana mātusantakampi saṅghassa pariṇataṃ attano pariṇāmeti, nissaggiyaṃ. Aññassa puggalassa pariṇāmeti, suddhikapācittiyaṃ. Aññassa saṅghassa vā cetiyassa vā pariṇāmeti, dukkaṭaṃ. Yo pana aññapuggalassa vā cetiyassa vā pariṇataṃ attano vā aññapuggalassa vā saṅghassa vā aññacetiyassa vā pariṇāmeti, tassāpi dukkaṭamevāti.
๑๒๐. โย ปน นิสฺสคฺคิํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ อนิสฺสชฺชิตฺวา วินยกมฺมํ อกตฺวา ปริภุเญฺชยฺย, ตสฺส ทุกฺกฎํฯ โย วา ปเรน วินยกมฺมตฺถาย นิสฺสฎฺฐํ สกสญฺญาย น ทเทยฺย, ตสฺสาปิ ทุกฺกฎํฯ อญฺญเถตรนฺติ เอตฺถ อญฺญถาติ เถยฺยสญฺญาย สเจ น ทเทยฺย, อิตรํ ตสฺส อคฺฆวเสน ปาราชิกญฺจ ถุลฺลจฺจยญฺจ ทุกฺกฎญฺจ โหตีติ อโตฺถฯ นิสฺสคฺคิยวินิจฺฉโยฯ
120. Yo pana nissaggiṃ nissajjitabbaṃ anissajjitvā vinayakammaṃ akatvā paribhuñjeyya, tassa dukkaṭaṃ. Yo vā parena vinayakammatthāya nissaṭṭhaṃ sakasaññāya na dadeyya, tassāpi dukkaṭaṃ. Aññathetaranti ettha aññathāti theyyasaññāya sace na dadeyya, itaraṃ tassa agghavasena pārājikañca thullaccayañca dukkaṭañca hotīti attho. Nissaggiyavinicchayo.
นิสฺสคฺคิยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nissaggiyaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.