Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๓. นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา
3. Nissāraṇīyasuttavaṇṇanā
๑๓. ตติเย วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริพฺรูหิตาฯ ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรเณน อปราปรํ ปวตฺติตาฯ ยุตฺตยานสทิสา กตาติ ยถา ยุตฺตมาชญฺญยานํ เฉเกน สารถินา อธิฎฺฐิตํ ยถารุจิ ปวตฺตติ, เอวํ ยถารุจิ ปวตฺติรหํ คหิตาฯ วตฺถุกตาติ วา อธิฎฺฐานเฎฺฐน วตฺถุ วิย กตา, สพฺพโส อุปกฺกิเลสวิโสธเนน อิทฺธิวิเสสตาย ปวตฺติฎฺฐานภาวโต สุวิโสธิตปริสฺสยวตฺถุ วิย กตาติ วุตฺตํ โหติฯ อธิฎฺฐิตาติ ปฎิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน ตํตํอธิฎฺฐานโยคฺยตาย ฐปิตาฯ สมนฺตโต จิตาติ สพฺพภาเคน ภาวนูปจยํ คมิตาฯ เตนาห ‘‘อุปจิตา’ติฯ สุฎฺฐุ สมารทฺธาติ อิทฺธิภาวนาสิขาปฺปตฺติยา สมฺมเทว สมฺภาวิตาฯ อภูตพฺยากรณํ พฺยากโรตีติ ‘‘เมตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา’’ติอาทินา อตฺตนิ อวิชฺชมานคุณาภิพฺยาหารํ พฺยาหรติฯ เจโตวิมุตฺติสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘นิสฺสฎา’’ติ วุตฺตํฯ ปุน พฺยาปาโท นตฺถีติ อิทานิ มม พฺยาปาโท นาม สพฺพโส นตฺถีติ ญตฺวาฯ
13. Tatiye vaḍḍhitāti bhāvanāpāripūrivasena paribrūhitā. Punappunaṃ katāti bhāvanāya bahulīkaraṇena aparāparaṃ pavattitā. Yuttayānasadisā katāti yathā yuttamājaññayānaṃ chekena sārathinā adhiṭṭhitaṃ yathāruci pavattati, evaṃ yathāruci pavattirahaṃ gahitā. Vatthukatāti vā adhiṭṭhānaṭṭhena vatthu viya katā, sabbaso upakkilesavisodhanena iddhivisesatāya pavattiṭṭhānabhāvato suvisodhitaparissayavatthu viya katāti vuttaṃ hoti. Adhiṭṭhitāti paṭipakkhadūrībhāvato subhāvitabhāvena taṃtaṃadhiṭṭhānayogyatāya ṭhapitā. Samantato citāti sabbabhāgena bhāvanūpacayaṃ gamitā. Tenāha ‘‘upacitā’ti. Suṭṭhu samāraddhāti iddhibhāvanāsikhāppattiyā sammadeva sambhāvitā. Abhūtabyākaraṇaṃ byākarotīti ‘‘mettā hi kho me cetovimutti bhāvitā’’tiādinā attani avijjamānaguṇābhibyāhāraṃ byāharati. Cetovimuttisaddaṃ apekkhitvā ‘‘nissaṭā’’ti vuttaṃ. Puna byāpādo natthīti idāni mama byāpādo nāma sabbaso natthīti ñatvā.
พลววิปสฺสนาติ ภยตุปฎฺฐาเน ญาณํ, อาทีนวานุปสฺสเน ญาณํ มุจฺจิตุกมฺยตาญาณํ, ภงฺคญาณนฺติ จตุนฺนํ ญาณานํ อธิวจนํฯ เยสํ นิมิตฺตานํ อภาเวน อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อนิมิตฺตตา, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ราคสฺส นิมิตฺตํ, ราโค เอว วา นิมิตฺตํ ราคนิมิตฺตํฯ อาทิ-สเทฺทน โทสนิมิตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ รูปเวทนาทิสงฺขารนิมิตฺตํ รูปนิมิตฺตาทิฯ เตสํเยว นิจฺจาทิวเสน อุปฎฺฐานํ นิจฺจนิมิตฺตาทิฯ ตยิทํ นิมิตฺตํ ยสฺมา สเพฺพน สพฺพํ อรหตฺตผเล นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สา หิ…เป.… อนิมิตฺตา’’ติฯ นิมิตฺตํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉติ อารพฺภ ปวตฺตติ สีเลนาติ นิมิตฺตานุสารีฯ เตนาห ‘‘วุตฺตปฺปเภทํ นิมิตฺตํ อนุสรณสภาว’’นฺติฯ
Balavavipassanāti bhayatupaṭṭhāne ñāṇaṃ, ādīnavānupassane ñāṇaṃ muccitukamyatāñāṇaṃ, bhaṅgañāṇanti catunnaṃ ñāṇānaṃ adhivacanaṃ. Yesaṃ nimittānaṃ abhāvena arahattaphalasamāpattiyā animittatā, taṃ dassetuṃ ‘‘sā hī’’tiādi vuttaṃ. Tattha rāgassa nimittaṃ, rāgo eva vā nimittaṃ rāganimittaṃ. Ādi-saddena dosanimittādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo. Rūpavedanādisaṅkhāranimittaṃ rūpanimittādi. Tesaṃyeva niccādivasena upaṭṭhānaṃ niccanimittādi. Tayidaṃ nimittaṃ yasmā sabbena sabbaṃ arahattaphale natthi, tasmā vuttaṃ ‘‘sā hi…pe… animittā’’ti. Nimittaṃ anussarati anugacchati ārabbha pavattati sīlenāti nimittānusārī. Tenāha ‘‘vuttappabhedaṃ nimittaṃ anusaraṇasabhāva’’nti.
อสฺมิมาโนติ ‘‘อสฺมี’’ติ ปวโตฺต อตฺตวิสโย มาโนฯ อยํ นาม อหมสฺมีติ รูปลกฺขโณ เวทนาทีสุ วา อญฺญตรลกฺขโณ อยํ นาม อตฺตา อหํ อสฺมีติฯ อสฺมิมาโน สมุคฺฆาตียติ เอเตนาติ อสฺมิมานสมุคฺฆาโต, อรหตฺตมโคฺคฯ ปุน อสฺมิมาโน นตฺถีติ ตสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ กิเตฺตโนฺต สมุคฺฆาตตฺตเมว วิภาเวติฯ
Asmimānoti ‘‘asmī’’ti pavatto attavisayo māno. Ayaṃ nāma ahamasmīti rūpalakkhaṇo vedanādīsu vā aññataralakkhaṇo ayaṃ nāma attā ahaṃ asmīti. Asmimāno samugghātīyati etenāti asmimānasamugghāto, arahattamaggo. Puna asmimāno natthīti tassa anuppattidhammatāpādanaṃ kittento samugghātattameva vibhāveti.
นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Nissāraṇīyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. นิสฺสารณียสุตฺตํ • 3. Nissāraṇīyasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา • 3. Nissāraṇīyasuttavaṇṇanā